Advent of the Archmage - 579: ช่วยเหลือนากา 6
Chapter
เมอร์น่าอยู่ในชั้นใต้ดินของหอคอยเวทมนตร์เป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงแล้วจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงกริ้กเบาๆ แล้วออร่าของประตูเวทมนตร์ก็หายไป
พวกมันลดระดับการป้องกันลงแล้ว!เมอร์น่าดีใจมาก อย่างไรก็ตาม, เธอก็ไม่ได้รีบเคลื่อนไหว เธอยังคงอยู่ที่มุมเดิม ไม่สิ, มันน่าจะเป็นกับดักมากกว่านะ
นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเจอเธอแล้วแต่พวกเขายังหาเธอไม่เจอต่างหากหล่ะก็เลยอยากลดการป้องกันและทำให้เธอโผล่มาจากที่ซ่อน ดังนั้น, เธอจึงยังคงรอต่อไปอย่างเงียบๆ หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้น, ในที่สุดเธอก็แอบออกมาจากที่ซ่อน
มีรูนตรวจจับซ่อนอยู่ทั่วห้องเก็บของ,แต่รูปร่างของเมอร์น่านั้นคือข้อได้เปรียบของเธอ แล้วเธอก็มีสายตาที่ยอดเยี่ยมด้วย แม้กระทั่งรูนที่ซ่อนเอาไว้อย่างดีก็หนีไม่พ้นสายตาของเธอ
เธอเดินเข้าไปตรงจุดบอดของรูนทั้งหมดอย่างระมัดระวังสามนาทีต่อมา, เธอก็เข้ามาถึงใต้ดินชั้นสอง
ที่นี่,ต่างหูตรวจจับของเธอสั่นเล็กน้อย ซึ่งมันหมายความว่าเธอกำลังเข้าใกล้เป้าหมาย เธออยู่ห่างไม่ถึง 60 ฟุตแล้ว!
เมอร์น่ารู้สึกดีใจอีกแค่นิดเดียว ถ้าข้าหาตำแหน่งที่ถูกต้องได้, ข้าก็จะช่วยเธอได้!
ตอนนี้,มีอีกความคิดนึงปรากฎขึ้นในหัวของเธอ มันผ่านมานานกว่าสามชั่วโมงแล้ว พวกเราตกลงกันว่าข้าจะต้องติดต่อไอ้แก่นั่นในตอนที่เข้ามาข้างในแล้ว นี่ข้าควรส่งสัญญาณไปให้รึเปล่านะ?
ความคิดนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเธอก่อนที่เธอจะทิ้งมันไปหอคอยเวทมนตร์ที่นี่น่ากลัวเกินไป มันอาจจะมีวิธีตรวจจับอื่นๆอีกก็ได้ ข้าไม่ควรเสี่ยงในช่วงที่สำคัญที่สุดแบบนี้ ขั้นแรกหาสถานที่ซ่อนให้เจอก่อนดีกว่า ด้วยการสงบจิตใจของตัวเอง,เมอร์น่าก็เดินหน้าต่อ ครู่ต่อมา, เธอก็มาอยู่ที่ทางเข้าชั้นสาม ตอนนี้ต่างหูตรวจจับของเธอสั่นแรงขึ้นอีก คาทูช่าอยู่ข้างหน้าเธอ!
เมอร์น่าเก็บความตื่นเต้นของตัวเองเอาไว้แล้วเดินหน้าต่อหลังจากนั้นซักพัก, เธอก็เห็นประตูเวทมนตร์บานนึง
ประตูเวทมนตร์บานนี้แตกต่างจากบานที่ปรากฎขึ้นเพราะระบบเตือนภัยนี่คือประตูกึ่งโปร่งแสงที่มีรูนเวทมนตร์เคลือบพื้นผิวเอาไว้อยู่ ด้วยการมองผ่านช่องว่างเล็กๆระหว่างรูน, เมอร์น่าก็เห็นคาทูช่า
นากาคนนั้นนอนขดตัวอยู่ข้างในสระทรงกลม,และกำลังอาบแสงสีแดงอยู่ ซึ่งแสงสีแดงนี้มาจากหอกแห่งชัยชนะในมือของเธอแทนที่จะมาจากตัวเธอเอง มีรูนสีม่วงอ่อนมากมายอยู่ข้างนอกแสงนั้น พวกมันปะทะกับแสงสีแดงอย่างต่อเนื่อง, พยายามที่จะเข้าไปในร่างของคาทูช่า
ที่ระยะไกลออกไป,มีนักเวทย์สามคนยืนอยู่ด้วย พวกเขากำลังชี้นำรูนลึกลับอยู่ ภายใต้ความพยายามของพวกเขา, แสงสีแดงของหอกแห่งชัยชนะก็อ่อนลงไปมากและใกล้จะแพ้แล้ว
เมอร์น่าตกใจนั่นมันเวทย์ลึกลับนี่ เฟิร์ดอยากจะควบคุมคาทูช่าอย่างงั้นหรอ!
เธอไม่ใช่นักเวทย์,แต่เธอก็ยังต้องทำความคุ้นเคยกับเวทมนตร์ประเภทต่างๆเพื่อไม่ให้ถูกคนอื่นหลอก ยกตัวอย่างเช่น, เธอไม่ได้รีบตัดสินใจหลังจากที่ได้ข้อสรุปคร่าวๆของสถานการณ์ในตอนนี้ เธอเริ่มสังเกตุรูนอย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไปห้าหรือหกนาที, ในที่สุดเธอก็สรุปได้ว่ามันเป็นความจริง
คาทูช่าทนได้อีกไม่นานแล้วข้าต้องรีบเตือนไอ้แก่นั่นเดี๋ยวนี้เลย!
เมอร์น่าออกมาจากประตูเวทมนตร์และถอยมายังมุมปลอดภัยที่ใต้ดินชั้นสองเธอเอาแหวนเงินวงเล็กๆออกมาแล้วเริ่มใส่พลังเข้าไป
พ่อของเธอได้มอบแหวนวงนี้ให้เธอมันไม่ได้แข็งแกร่งนัก, แต่มันมีเทคโนโลยีเฉพาะสำหรับการส่งข้อความ มันแนบเนียนมากๆ
เมอร์น่าส่งรายละเอียดทั้งหมดที่เธอเห็นออกไปด้วยความที่มันต้องแนบเนียน, เธอจึงส่งข้อความอย่างช้าๆ อย่างไรก็ตาม, สิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือว่ามีดวงตาห้าคู่ในหอคอยเวทมนตร์กำลังจับตาดูเธออยู่ทุกฝีก้าว—ซึ่งมันก็เป็นของใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ลิงค์, เอเลียร์ด, แล้วก็ไฮเอลฟ์นักเวทย์ระดับตำนานทั้งสามคน
“มันกำลังติดต่อเจ้านาย,แต่วิธีนี้แนบเนียนมาก ฉันสะกดรอยไม่ได้เลย มันเป็นใครกันนะ?” เอเลียร์ดกระซิบ
ลิงค์มีคนอยู่ในใจแล้ว—ไบรอันท์อย่างไรก็ตาม, เขาก็ไม่ได้มั่นใจอย่างเต็มที่, ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไร
“วิธีนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งนะ”เอวิเลน่าพูด “ข้าไม่สามารถตรวจจับสัญญาณได้เลย”
“ถ้าดูจากที่มันทำ,ข้าคิดว่ามันน่าจะมาจากนรกนะ” อีโลแวนจ้องแหวนที่อยู่ในอุ้งมือหน้าเล็กๆของเจ้าหนูขนฟู ในตอนนั้นเอง,เสียงของเซลีนก็ดังขึ้นในหัวของลิงค์ “ไบรอันท์เคลื่อนไหวแล้ว เขากำลังมาที่หอคอยเวทมนตร์
ลิงค์ตอบกลับอย่างรีบร้อน“ยิงได้เลย, ไม่ต้องลังเล!”
ตอนนี้,ทั่วทั้งเทือกเขามอดไหม้ยังอยู่ในสภาพเตือนภัยระดับสูง, และการที่ไบรอันท์เดินมาทางหอคอยเวทมนตร์นั้นก็ไม่ใช่เรื่องปกติ ต่อให้เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง, การกระทำของเขาในตอนนี้ก็กำลังจะทำให้เขาถูกฆ่า!
ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง,ลิงค์ก็เริ่มควบคุมมาตรการลงโทษศักดิ์สิทธิ์ของหอคอยเวทมนตร์ เขาตั้งเป้าหมาย, ปรับแต่งมานา, และรวบรวมพลังด้วยการลงมืออย่างนุ่มนวล, แล้วลำแสงศักดิ์สิทธิ์เลเวล 19 ก็ทำงาน
ปัง!มีเสียงที่แผ่วเบาดังมาจากระเบียงชั้นบนสุด เซลีนยิงไบรอันท์แล้ว ลิงค์เห็นริ้วแสงพุ่งผ่านไปจากหางตาของเขา
แทบจะในจังหวะเดียวกันนั้นเอง,ลำแสงลงโทษศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฎขึ้นเหมือนกัน ซู่ววว! ลำแสงที่แทบจะมองไม่เห็นยิงออกมาจากหอคอยและพุ่งไปทางไบรอันท์
ถ้าไบรอันท์ไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้,เขาก็คงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าเขาจะหนีจากตรงนี้ได้, เขาก็คงจะตายภายใต้การโจมตีที่จะตามมาอีกจากทั้งเซลีนและหอคอยเวทมนตร์ แต่ในจังหวะนั้นเอง, จู่ๆลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ, พร้อมกับความรู้สึกถึงอันตรายที่ไม่สามารถอธิบายได้
สมาธิของเขาคมกริบจนถึงระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน;หัวของเขากำลังแล่น ในสายตาของเขา, เวลาช้าลงจนแทบจะหยุดนิ่ง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง,ลิงค์ก็รู้สึกว่าโลกเปลี่ยนไปอย่างแปลกประหลาด แสงข้างนอกหน้าต่างและในห้องค่อยๆมืดลง
เกิดอะไรขึ้น?เวทมนตร์แห่งความมืดกำลังกลืนแสงอยู่หรอ?…ไม่สิ, มันไม่ใช่เวทย์แห่งความมืด นี่มันเวทย์กาลเวลา แม้กระทั่งความเร็วแสงก็ช้าลง, และกำลังจะหยุดลง มีแสงมาถึงตาของฉันน้อยลงเรื่อยๆ, นี่โลกกำลังจะเข้าสู่ความมืดสินะ! ไอลีนโนเวล
เวทย์มิติสามารถยับยั้งสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ในโลกได้,แต่นอกจากเอกพจน์แล้ว, มันไม่สามารถส่งผลกับแสงได้เลย ดังนั้นต่อให้ลิงค์ใช้เวทย์มิติผนึกคาทูช่า, เธอก็ไม่ได้เปลี่ยนเป็นเงามืด ทุกคนยังคงเห็นเธอได้อย่างชัดเจนเพราะแสงยังสามารถเดินทางได้อย่างเป็นอิสระภายใต้มิติที่ถูกแช่แข็งนี้
แต่ไม่ใช่แค่แสงเท่านั้นที่ไม่สามารถหนีจากผลของเวลาในภพนี้ได้ในตอนที่มีคนหยุดเวลา, ทุกๆสิ่งจะดูมืดสนิท
แสงอ่อนลงอย่างรวดเร็ว,แต่ความคิดของลิงค์ก็ยังคงลุกไหม้อย่างเจิดจ้า ใช้หินรูนศักดิ์สิทธิ์หยุดเวลานี่เอง เป็นแผนที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
ในขณะที่ความคิดนี้แวบผ่านไป,เขาก็เพ่งสมาธิไปที่คอ ที่นั่น, มีของที่เหมือนกับนาฬิกาพกพาห้อยอยู่จากโซ่มิธริล มีหินรูนก้อนนึงซ่อนอยู่ข้างในนาฬิกานั้น มันคือเข็มทิศภาคีที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อต่อกรกับการโจมตีด้วยเวลา
พลังแก่นภพไหลตามความคิดของเขาและเข้าไปในเข็มทิศภาคีทันใดนั้นเอง, ทั่วทั้งร่างและวิญญาณของลิงค์ก็สั่น จากนั้นด้ายสีทองก็ปรากฎขึ้นจากหน้าอกของเขา
ด้ายนี้เคลื่อนไหวด้วยตัวเอง,และก่อตัวเป็นนาฬิกาพกสีทองในทันที มันเป็นนาฬิกาที่มีเข็มเดียว ซึ่งเข็มของมันใช้วัดเป็นมิลลิวินาที (0.001ของหน่วยวินาที) โดยหนึ่งรอบเท่ากับหนึ่งมิลลิวินาที
ก่อนหน้านี้,เข็มหมุนด้วยความเร็วที่สูงมาก แต่ตอนนี้, ลิงค์เห็นว่ามันค่อยๆเดินช้าลงเรื่อยๆ มันช้ามากแล้วแต่ก็ยังคงช้าลงอีก
เวลากำลังถูกหยุด!หัวใจของลิงค์สั่น โลกในดวงตาของเขามืดมากแล้ว ในความมืดนี้, เขาเห็นเอเลียร์ด, เอวิเลน่า, อีโลแวน, แล้วก็มิโรส
ทั้งสี่คนนี้เป็นระดับตำนานหรือใกล้เคียงในการเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้, พวกเขาทุกคนจึงตอบสนองได้ ความตกใจถูกเขียนอยู่บนใบหน้าของพวกเขา, และสายตาของพวกเขาก็เบนมาทางลิงค์
ภายใต้สายตาของพวกเขา,ความคิดของลิงค์ได้จดจ่อไปที่เข็มมิลลิวินาทีในเข็มทิศภาคี มันยังคงช้าลงอยู่เรื่อยๆ ลิงค์ต้องเร่งความเร็วขึ้น
เขาฝืนใช้พลังแก่นภพใส่มันจงขยับซะ!
ติ้กเข็มเดินเร็วขึ้นเล็กน้อย, แต่ลิงค์เองก็ใช้พลังไปมากแล้ว พลังแก่นภพของเขาได้ถูกผลาญไปหนึ่งในห้า
มันยังไม่พอพลังของหินรูนศักดิ์สิทธิ์นี้แข็งแกร่งเกินไป แค่พลังของเขาคนเดียวมันไม่พอ
เขามองนักเวทย์ทั้งสี่คนพวกเขาเองก็มองมาที่เขาเหมือนกัน สำหรับคนระดับพวกเขา, พวกเขาสามารถเข้าใจความคิดของอีกฝ่ายได้ด้วยการใช้สายตาอ่านสถานการณ์
นักเวทย์ทั้งสี่ไม่สามารถขยับตัวได้,แต่พวกเขายังสามารถขยายพลังออกมาจากร่างของพวกเขาได้ พวกเขาส่งพลังมาที่เข็มบนเข็มทิศภาคีแล้วฝืนขยับมัน
ลิงค์ก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน
ณเวลานี้, นักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเฟิร์ดทั้งห้าคนกำลังรวมพลังกัน
ติ้ก,ติ้ก, ติ้ก เข็มขยับเร็วขึ้นมาก มันเหมือนกับเสียงน้ำแข็งแตกในหูของทุกคน
ทั้งห้าคนยังคงใช้พลังของตัวเองต่อไปติ้ก, ติ้ก, ติ้ก เวลาหยุดช้าลงและกำลังกลับมาเร็วขึ้นเรื่อยๆ, มันกำลังจะกลับเป็นปกติแล้ว จากนั้นห้องก็สว่างขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม,นี่ไม่ได้หมายความว่าเข็มทิศภาคีแข็งแกร่งกว่าหินรูนศักดิ์สิทธิ์ แต่มันเป็นเพราะว่านักเวทย์ระดับตำนานทั้งห้าคนนั้นได้ร่วมมือกันจนก้าวข้ามระดับของรูนศักดิ์สิทธิ์นี้ไปได้
ถ้าพลังไม่พอ,พวกเขาก็คงจะล้มเหลว นี่คือกฏพื้นฐาน ไม่ว่าคนๆนึงจะมีเทคนิคมากมายแค่ไหน,ถ้าพวกเขามีพลังไม่พอ, มันก็คงจะไม่มีประโยชน์ พวกเขาก็ยังคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้อยู่ดี
พลังศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างในหินรูนนั้นยังไม่มากพอแถมวัตถุศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ยังโดนฟิรุแมนขับไล่อีก, ดังนั้นกลุ่มของลิงค์จึงชนะการต่อสู้นี้มาได้
สิ่งที่ถูกหยุดได้กลับมาเป็นปกติอีกครั้งแล้วสิ่งที่ตามมาก็คือกริ่งเตือนภัยอันน่าขนลุกที่ดังไปทั่วหอคอยเวทมนตร์
“เตือนภัย!เตือนภัย! พบตัวผู้บุกรุกแล้ว! พบตัวผู้บุกรุกแล้ว!”
ไบรอันท์อยู่ข้างในหอคอยเวทมนตร์!