Advent of the Archmage - 583: ชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์
Chapter
ในตอนที่ลอร์ดพายุยังมีชีวิตอยู่ต้นไม้โลกก็มีตัวตนอยู่แล้ว ในตอนนั้นมันมีผู้ปกครองด้วย และพวกเราทุกคนก็เรียกเขาว่าไฮม์ ซึ่งมีความหมายว่า ราชันย์สูงสุด ในตอนแรกพวกลอร์ดทั้งหลายกับไฮม์นั้นใช้วีวิตอยู่อย่างสงบสุข จากนั้นในวันหนึ่ง ก็มีลอร์ดคนนึงทำพลาดในตอนที่ทดลองเวทย์บทใหม่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางมิติที่รุนแรง ไฮม์ได้ใช้เวลาถึง 3 ปีในการพยายามจะรักษาการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยในระหว่างช่วง 3 ปีที่ว่านั้น มีผู้คนตายไปนับไม่ถ้วน และในที่สุด ไฮม์ก็ได้รู้ถึงความอันตรายของเวทมนตร์ และตัดสินใจที่จะห้ามไม่ให้ทุกคนใช้มัน จากนั้น สงครามยึดอำนาจก็ปะทุขึ้น
ลิงค์นั่งเงียบๆในห้องสมุดของหอคอยเวทมนตร์และฟังวิญญาณดาบเล่าเรื่องสงครามยึดอำนาจเมื่อหลายพันปีก่อน เรื่องราวมันเกิดขึ้นนานมากแล้วและวิญญาณดาบก็ต้องหยุดอยู่บ่อยครั้ง แต่ว่าความทรงจำของเขานั้นยังค่อนข้างชัดเจนอยู่ แล้วไงต่อ? ลิงค์ถาม
แล้วไงต่อหรอ?ขอข้าคิดแปบนึงนะ
เสียงของวิญญาณดาบนั้นใกล้เคียงกับคำว่าพึมพำมากเขาไม่ได้พูดต่อเป็นเวลาพักใหญ่ๆ ไฮม์แข็งแกร่งเกินไป พวกลอร์ดเทียบกับเขาไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยการใช้พลังจากต้นไม้โลก เขาสามารถจัดการกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย แต่แล้วในวันหนึ่ง ก็มีคนค้นพบความลับของเขา
พอมาถึงจุดนี้วิญญาณดาบก็หยุดลงอีกครั้ง ลิงค์ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเร่งเขา แล้วจากนั้นหล่ะ?
อย่าเร่งสิเรื่องมันนานแล้วนะ อ้อ ใช่ มีโจรนิรนามคนนึงแอบปีนขึ้นไปบนต้นไม้โลกของไฮม์ด้วยวิธีการบางอย่าง เขาค้นพบความลับของหนังสือแห่งการรังสรรค์ ซึ่งไฮม์ก็ได้กำจัดโจรคนนั้นในทันที แต่ว่าความลับก็ยังคงแพร่กระจายออกไป และด้วยเหตุนั้นเอง, ลอร์ดพายุจึงเล็งเห็นโอกาส เขาใช้สายฟ้าแห่งความยุ่งเหยิงทำลายหนังสือแห่งการรังสรรค์เป็นชิ้นๆ อา ในตอนนั้นข้าแข็งแกร่งมากเลยหล่ะ ข้าทำลายแผ่นหินด้วยการโจมตีเดียว มันแตกกระจายเป็นชิ้นๆร่วงลงไปที่พื้น และจากนั้นข้าก็โด่งดังขึ้นมา
โอเคๆลิงค์รีบตัดบทของวิญญาณดาบเพื่อที่เขาจะได้ไม่หมกมุ่นอยู่กับความรุ่งโรจน์ในอดีต
แล้วเรื่องชิ้นส่วนหล่ะ?มันแตกเป็น 3 ส่วนโดยที่ส่วนนึงอยู่ที่หุบเขามังกร อีกส่วนนึงอยู่ที่เกาะรุ่งอรุณ และส่วนสุดท้ายอยู่ทางตอนเหนือจริงๆใช่ไหม?
ขอข้าคิดก่อน
วิญญาณดาบตกลงสู่ห้วงความคิดอีกครั้งลิงค์ได้แต่รออย่างอดทน ในครั้งนี้ เขาใช้เวลาในการคิดนานมาก ในตอนที่ลิงค์กำลังที่จะตัดใจ เขาก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนนั้นมันวุ่นวายมากข้าจำไม่ได้ว่ามันแตกเป็นกี่ส่วนกันแน่ แต่ว่ามีส่วนนึงที่ใหญ่มากๆ มันเป็นชิ้นส่วนหลัก ในตอนที่มันแตก ลอร์ดพายุก็หยิบมันขึ้นมาและตรวจสอบอย่างละเอียด หลังจากนั้นเขาก็บอกว่ามันไม่มีประโยชน์ เขากำลังจะโยนมันทิ้ง แต่ว่ามีคนมาหยุดเขาเอาไว้
แล้วจากนั้นล่ะ?การฟังความทรงจำของวิญญาณดาบนั้นทำให้ลิงค์รู้สึกเหมือนกับท้องผูก เขาต้องค่อยๆเบ่งทีละนิด ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกปวดท้อง
ในครั้งนี้วิญญาณดาบไม่ได้ตอบ หลังจากผ่านไปกว่า 10 นาที มันก็พูดออกมาด้วยความสับสน ด้วยเหตุผลบางอย่าง ข้าจำเรื่องต่อจากนั้นไม่ได้เลย
ลิงค์ถอนหายใจยาวออกมาและเขาก็สงบจิตใจของตัวเองถ้างั้นบอกสิ่งที่นายจำได้มา เขาพูด
โอเคข้าขอโทษนะ เรื่องมันนานเกินไป ข้าจำไม่ได้แล้ว น้ำเสียงของดาบเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ลิงค์ทำอะไรไม่ได้นอกจากปลอบมันไม่เป็นไร อะไรก็ตามที่นายพูดออกมาจะกลายเป็นข้อได้เปรียบของเรา ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง ฉันแค่ต้องรู้มากกว่าคนอื่นก็พอแล้ว วิญญาณดาบดูรู้สึกดีขึ้น และมันก็พูดต่อ
ข้ามีความรู้สึกฝังใจบางอย่างเกี่ยวกับชิ้นส่วนอันใหญ่ข้าคิดว่าลอร์ดพายุโยนมันไปทางเหนือ เขาโยนมันไปไกลมากๆ แถมเขายังใช้เวทย์ลมส่งกำลังไปด้วย บางทีมันน่าจะเป็นอันที่อยู่ทางเหนือนะ
หรอแสดงว่านายกำลังบอกว่าชิ้นที่อยู่ไกลที่สุดทางเหนือนั้นคือชิ้นที่ใหญ่ที่สุดและเป็นชิ้นส่วนหลักของมันใช่ไหม? ลิงค์รู้สึกอยากจะขึ้นเหนือเดี๋ยวนี้เลยเพื่อออกตามหาชิ้นส่วน
ยังไงก็ตามเขาก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว หลังจากสงครามนั้นมันก็ผ่านมาหลายพันปีแล้ว ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ จะต้องมีคนทะเยอทะยานหลายคนออกตามหามันแน่ๆ พวกไฮเอลฟ์จะต้องมีข้อมูลบางอย่างอย่างแน่นอน พวกเขาไม่มีทางปล่อยโอกาสในการควบคุมต้นไม้โลกไปหรอก
หลังจากผ่านมาหลายปีอาจจะมีคนพบมันอย่างลับๆหรือไม่มันก็อาจหาเจอยากมากๆก็ได้ แต่ถึงยังไง รีบร้อนไปก็ไม่ได้อะไรหรอก การที่จะหามันเจอนั้นขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ
อาจจะนะข้าจำได้ว่าชิ้นส่วนหลักของมันมีเนื้อหาเยอะกว่าชิ้นส่วนอื่นเยอะเลย
ลิงค์ตกตะลึงเขาถามต่อ มีข้อมูลอะไรอีกมั้ย?
ขอข้าคิดก่อน
วิญญาณดาบเงียบลงไปหลังจากนั้น มันก็พูดออกมาอีกนิดหน่อย แต่ว่าส่วนใหญ่นั้นจะเป็นข่าวลือที่ไม่น่าเชื่อถือ ลิงค์ทำได้แค่จดจำเอาไว้เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิง
ในขณะที่เขาคุยอยู่กับวิญญาณดาบเซลีนก็เข้ามา “ลิงค์ หนูตัวนั้นยอมแล้ว”
นับตั้งแต่วันนั้นหนูก็ติดอยู่ที่ชั้นใต้ดิน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อหอคอยเวทมนตร์ พวกนักเวทย์จึงใช้ผนึกเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดในการทำให้มันอยู่ตรงมุมห้องแทนที่จะจับกุมมัน
มันผ่านมานานกว่า1 สัปดาห์แล้ว ‘เจ้าสิ่งนั้น’ ไม่ได้กินน้ำหรืออาหารเลยและขยับตัวได้ไม่ถึง 30 ฟุตด้วยซ้ำ บางทีมันน่าจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อวิญญาณดาบไม่สามารถนึกอะไรที่สำคัญได้อีกแล้วลิงค์ก็ยืนขึ้น “ไปดูกันเถอะ”
ทั้งสองคนไปที่ชั้นใต้ดินเอเลียร์ดกับเอวิเลน่าก็อยู่ด้วย พวกเขากำลังดูกรงขังอยู่
เอเลียร์ดมองเหมือนกับว่าเขาได้เห็นสิ่งที่ดูแปลกใหม่และพิเศษ“ลิงค์ นายมาได้จังหวะพอดีเลย มาดูเจ้านี่สิ พวกเราคิดว่ามันคือสัตว์เลี้ยงเวทมนตร์ แต่จริงๆแล้วมันเป็นปีศาจ มันมีทักษะการแปลงกายที่สุดยอดมากเลย!”
แปลงกายหรอ?ลิงค์ค่อนข้างสนใจ ภายในเกมนั้นมีการแปลงกายอยู่ ยกตัวอย่างเช่น การแปลงเป็นมังกรที่ดูธรรมดาที่สุด ยังไงก็ตาม มังกรนั้นไม่สามารถซ่อนพลังของพวกเขาหลังจากการแปลงร่างได้ พวกเขายังคงเป็นมังกรอยู่
แต่ว่าปีศาจตัวนี้ไม่มีออร่าปีศาจหลังจากที่มันแปลงร่างเลยมันดูเหมือนกับหนูจริงๆ นี่มันน่าสนใจมากๆ
เขาเดินเข้าไปในผนึกแต่ไม่เห็นหนูอยู่ที่ไหนเลยที่นั่นมีแค่เด็กสาวปีศาจที่อายุประมาณ 13-14 ปีเท่านั้น
เธอสูงไม่ถึง4 ฟุตด้วยซ้ำ เธอสวมชุดเดรสขนสัตว์สีขาวบริสุทธิ์และไม่สวมรองเท้า ใบหน้าของเธอเหมือนกับมนุษย์เลยด้วยแก้มอมชมพูของเธอ มีลักษณะเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้นที่ดูไม่เหมือนกับมนุษย์ อย่างแรกคือดวงตาสีดำของเธอที่มีเส้นเลือดสีม่วงอ่อนๆ และอย่างที่สองก็คือเขาม้วนๆที่อยู่ข้างหูทั้งสองข้างของเธอ เขานั้นมีสีดำและมีเส้นเลือดสีม่วงเหมือนกัน พวกมันดูสวยงามและไม่เป็นอันตรายเลย
บางทีอาจเป็นเพราะทุกคนมองอยู่“เด็กสาว” คนนี้เลยดูเขินๆ เธอนั่งกอดเข่าอยู่ที่มุมห้อง และแอบมองข้างนอกอย่างระมัดระวัง สีหน้ารวมกับรูปร่างอันน่ารักของเธอนั้น ทำให้เธอดูน่าสงสาร มันไม่มีจิตสังหารอันแสนวุ่นวายแบบที่ปีศาจควรจะมีเลย
พอเห็นว่าลิงค์มาเธอก็กอดเข่าแน่นกว่าเดิม และซุกใบหน้าเข้าไปในเข่า มีเพียงแค่ดวงตาเท่านั้นที่โผล่ออกมาเพื่อมองรอบๆ Aileen-novel
“ท่านจะฆ่าข้าหรอ?”เธอพูดออกมาในที่สุด เสียงของเธอนั้นสดใสและดูเด็กเหมือนกับเด็กสาว ยังไงก็ตาม นี่มันก็แค่ภายนอก สำหรับลิงค์ เขามองเธอเป็นปีศาจเลเวล 10 ที่ตอนนี้เธอดูน่าสงสารก็เพราะว่านักเวทย์ทุกคนที่อยู่ที่นี่แข็งแกร่งกว่าเธอ ถ้าเกิดว่าเธอเจอกับคนธรรมดา เธอก็คงจะเป็นปีศาจที่น่ากลัว วิญญาณที่สูญเสียไปในการระเบิดที่นอกเมืองนั้นยังไม่สามารถพักผ่อนได้เลย
ลิงค์ไม่ได้ตอบคำถามของปีศาจเขาถามออกมาแทน “เธอคือลูกสาวของโนโซม่าสินะ บอกชื่อมา” “ข้ามีชื่อว่าเมอร์น่า”‘เด็กสาว’ยังคงดูน่าสงสารอยู่
“เมอร์น่าหรอ?”ลิงค์นึกย้อนกลับไป ชื่อนี้ไม่คุ้นหูเลย ไม่สิ ฉันน่าจะเคยเห็นผู้หญิงคนนี้มาก่อน อ้อ ใช่ เธอจะต้องอยู่ที่ป้อมปราการปีศาจภายในเกมแน่ๆเลย
ด้วยเบาะแสนี้ความทรงจำของลิงค์ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ใช่แล้ว หลังจากที่อวาตาร์ใช้ชีวิตของเขาในการทำให้โนโซม่าบาดเจ็บ เขาก็กลับไปที่ป้อมปราการปีศาจ ภายในเกม, มันเป็นส่วนเนื้อเรื่อง ผู้เล่นส่วนใหญ่ได้แห่มาดูมัน แน่นอนว่าลิงค์เองก็ไปด้วย
ในขณะที่พวกเขาฆ่าบอสไปเรื่อยๆพวกเขาก็จะเจอกับ NPC คนนึงที่จะไม่โจมตีเข้ามาด้วยความตั้งใจของตัวเอง เธอมีชื่อว่าเมอร์น่า และเธอก็ไม่มีความโดดเด่นอะไร เธอไม่ใช่คนกล้าหาญและจะหนีในทันทีถ้าผู้เล่นเข้ามา หลังจากนั้นพวกเขาก็จะหาตัวเธอไม่เจออีกเลย
พอมานึกดูดีๆเธอคงเจอกัยผู้เล่นมากมายที่อยู่ตำนานระดับกลางและจะต้องรู้สึกกลัวมากแน่ๆ เธอหนีไปโดยที่ไม่สนพ่อที่น่าสงสารของเธอเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ก็แน่นอนว่านี่ไม่ได้หมายความว่าเมอร์น่าไม่อันตราย มันก็แค่หมายความว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกต่อโนโซม่าเลย พวกเขาแค่ใช้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็พูดขึ้น “ฉันอยากรู้เรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับโนโซม่า ถ้าเกิดว่าเธอบอกฉัน ฉันก็จะปล่อยเธอไป”
เมอร์น่าส่ายหัว“ไม่ได้หรอก มันไม่เกี่ยวว่าท่านจะยกโทษให้ข้ารึเปล่า ถ้าเกิดว่าข้าทรยศท่านพ่อ เขาก็สามารถฆ่าข้าได้อย่างง่ายดายด้วยคำสาปแห่งความมืด ข้าทำไม่ได้”
“หรอถ้างั้น ฉันคงต้องพาเธอไปเข้าพิธีล้างบาปที่โบสถ์สินะ” ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม เขาสังเกตุดูการตอบสนองของเมอร์น่าด้วยในตอนที่พูด
ในตอนที่เขาพูดถึงพิธีล้างบาปเขาก็เห็นเมอร์น่าตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับปีศาจ การล้างบาปนั้นเหมือนกับการถูกผ่าด้วยมีดเป็นพันๆเล่ม มันเป็นการทรมานที่น่ากลัวที่สุด วิญญาณของพวกเขาจะหายไปอย่างสมบูรณ์หลังจากจบพิธี
เมอร์น่ากลืนน้ำลายแทนที่จะขอร้องเขา เธอหันไปหาเซลีนและเริ่มบีบน้ำตา “พี่สาว พี่คือพี่สาวของข้า พ่อพูดถึงพี่ให้ข้าฟังบ่อยมาก ช่วยข้าด้วย พี่สาว ข้าไม่อยากตาย” น้ำตาของเธอไหลลงมาเหมือนกับไข่มุก และเสียงของเธอก็เศร้ามาก เธอดูน่าสงสารมากๆ เซลีนอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา เธอมองมาที่ลิงค์ เห็นได้ชัดจากดวงตาของเธอว่าเธอใจอ่อนเล็กน้อย
มันไม่ใช่เพราะการแสดงดราม่าของเมอร์น่าแต่มันเป็นเพราะพวกเธอมีอดีตที่คล้ายกัน ถ้าไม่ใช่เพราะลิงค์ เซลีนก็คงมีชะตากรรมเดียวกับเมอร์น่าและกลายเป็นหุ่นเชิดเหมือนกัน เมอร์น่าเป็นแค่เด็กสาวตัวคนเดียว เธอเข้ามาในหอคอยเวทมนตร์ของศัตรูและพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะเอาชีวิตรอด
เซลีนไม่สามารถทำมันได้
ลิงค์เข้าใจเซลีนดีและรู้สิ่งที่เธอคิดจากการสังเกตเขาถอนหายใจออกมาและพูดกับเธอ “เมอร์น่ายังใช้ประโยชน์ได้อยู่ ในอนาคต, เธอสามารถช่วยพวกเราล้มโนโซม่าได้ ดังนั้นเธอจะต้องเป็นคนดูแลนะ แต่จำเอาไว้ด้วย ถ้าเมอร์น่าก่อปัญหา เธอจะต้องเป็นคนรับผิดชอบ”
ความอ่อนโยนปรากฏขึ้นในดวงตาของเซลีนเธอรู้ว่าลิงค์มักจะเคารพในกฎของตัวเองและเข้มงวดกับตัวเองมาก วันนี้ เขายอมแหกกฎเพื่อเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นสำคัญกับเขามาก
“ลอร์ด,ฉันจะคอยดูแลเธออย่างระมัดระวังค่ะ” เธอพูดอย่างจริงจัง
“โอเค”ลิงค์พยักหน้าและหันไปหาเอเลียร์ดกับเอวิเลน่า “สิทธิการให้อภัยปีละครั้งของลอร์ดได้หมดไปแล้ว” สิทธิการให้อภัยของลอร์ดนั้นเป็นสิทธิพิเศษเดียวที่ลิงค์กำหนดให้ตัวเอง
เอเลียร์ดกับเอวิเลน่าพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้จดจำเอาไว้แล้วนี่เป็นระบบการควบคุมดูแลในหมู่นักเวทย์คนสำคัญ แม้กระทั่งลอร์ดก็ไม่ได้รับการยกเว้น ลิงค์สามารถแหกมันได้ถ้าเกิดว่าเขาต้องการจริงๆ ยังไงก็ตาม ภาพลักษณ์ที่เขาสร้างมาก็จะพังลงในทันที เขาต้องเลือก ระหว่าง 2 ทางเลือกนี้
เมอร์น่านั้นมีพลังระดับตำนานในขณะที่เซลีนอยู่แค่ระดับสูงสุดของเลเวล8 ดังนั้น ลิงค์จึงแตะผนึกเวทมนตร์ รูนมากมายปรากฏขึ้นในอากาศและมันก็ผ่านผนึกเข้าไปอย่างง่ายดายและฝังลงไปในร่างของเมอร์น่า
ในเวลาเดียวกันนั้นเองรูนอีกชุดนึงก็ลอยเข้าไปในร่างเซลีน
3วินาทีต่อมา ลิงค์ก็แตะผนึกเวทมนตร์อีกครั้งเพื่อคลายมัน เมอร์น่าเบ้ปาก แต่เธอก็ยืนขึ้นและเดินไปหาเซลีนอย่างเชื่อฟัง เธอไม่มีทางเลือกไม่เพียงแค่ลิงค์จะผนึกพลังส่วนใหญ่ของเธอเอาไว้ แต่เธอยังถูกสาปด้วย เซลีนสามารถทรมานเธอได้โดยใช้แค่ความคิด เธอไม่มีทางโต้กลับได้เลย
เซลีนลูบหัวของเธอและพูดออกมา“เถอะหน่า เมอร์น่า มันยังดีกว่าพิธีล้างบาปเยอะเลยนะ”
เรื่องของเมอร์น่าจบลงชั่วคราวณ จุดนี้ “ฉันอยากจะเดินทางขึ้นเหนือ ฉันต้องการผู้ช่วย” ลิงค์พูดกับเอเลียร์ด
ทางเหนือมีชิ้นส่วนหลักของหนังสือแห่งการรังสรรค์อยู่อย่างน้อยเขาต้องทดสอบดวงของเขาดู ถ้าเกิดว่าเขาได้มันมาจริงๆ ภัยคุกคามจากไฮเอลฟ์ก็จะหมดไป