Advent of the Archmage - 584: ลมสงครามจากทุกภาคส่วน
Chapter
หมู่บ้านมังกร,ข้างนอกวงกตหมอก
“ไม่,ฮาลิโน่, หุบเขามังกรจะไม่มีส่วนร่วมใดๆในสงครามของทวีป” ภาพลวงตาของราชินีมังกรแดงพูด ในภาพลวงตานี้, เธออยู่ในร่างมังกรกำลังขดตัวอยู่บนพื้น เธอจ้องนักเวทย์แสงด้วยดวงตาสีทองเป็นประกายที่ลืมอยู่ครึ่งนึง
แต่,ฮาลิโนก็ยังไม่ยอมแพ้ “องค์ราชินี, ท่านดูไม่ค่อยดีเลยนะ มีเรื่องเกิดขึ้นในหุบเขามังกรใช่ไหม?”
“จะเป็นเหตุการณ์อะไรได้หล่ะนอกจากการปรากฎตัวของรอยแตกพวกเราใส่ใจกับมันอย่างเต็มที่ มันเป็นความผิดของพวกเราตั้งแต่แรกแล้ว, ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่มังกรอย่างพวกเราต้องทำหน้าที่ปิดรอยแตกนี้ ข้าขอโทษนะ, แต่ตอนนี้การเข้าไปแทรกแซงเรื่องอื่นมันเกินกำลังของข้าจริงๆ”
น้ำเสียงของราชินีมังกรแดงฟังดูเฉยเมยราวกับว่าเธอไม่สนใจเหตุการณ์อื่นๆในโลกแล้วในตอนที่เธอพูดจบ, สายตาของเธอก็หันไปทางยูจินแล้วพูด “ฮาลิโน่, เจ้าตั้งใจจะตามหาชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์กับยูจินจริงๆหรอ? เจ้าไม่ห่วงว่าเขาจะมีแผนการอื่นซ่อนอยู่รึไง?”
“ก็จริงอยู่ที่ข้ากังวล,แต่มันเป็นความเสี่ยงที่ข้าเต็มใจยอมรับ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเจ้าสามารถเข้าร่วมกับพวกเราในการค้นหาได้ ข้ารู้สึกเสียดายจริงๆนะ…” ฮาลิโน่ยักไหล่, และแสดงความผิดหวังกับการที่ถูกราชินีปฏิเสธอย่างเห็นได้ชัด
“ข้าขอโทษจริงๆ”ราชินีมังกรแดงพูดอีกครั้ง, พร้อมกับถอนหายใจ
พอเห็นเธออยู่ในสภาพนี้,นักเวทย์แห่งความมืดยูจินก็พูดขึ้น “ตัดใจซะเถอะ, ฮาลิโน่ คำพูดของเจ้าเปลี่ยนใจเธอไม่ได้หรอก ตอนนี้ดูสภาพเธอสิ, เธอก็แค่คนที่ถูกคนอื่นเค้าทิ้งมา เจ้าไปขอความช่วยจากหมาน่าจะยังดีกว่าเธอนะ” “ยูจิน!”ฮาลิโน่รู้เรื่องฝีปากที่คมกริบของยูจินดี, แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่ามันจะหนักขนาดนี้!
ในตอนที่ยูจินพูดจบ,ภาพลวงตาของราชินีมังกรแดงก็สั่นอย่างรุนแรง มันน่าจะเป็นเพราะคลื่นอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างกระทันหันทางฝั่งเธอ หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที, ภาพลวงตานั้นก็หายไป
ยูจินยักไหล่แล้วหัวเราะคิกคัก“เห็นไหม, ข้าบอกแล้ว, ข้าไม่รู้รายละเอียดจริงๆหรอกนะ, แต่ความจริงที่ว่าลอร์ดเฟิร์ดทิ้งพลังมังกรอย่างไม่ใยดี, และเผ่ามังกรในเฟิร์ดถอนตัวกลับไปหมดก็ชัดเจนแล้วว่าจุดจบระหว่างพวกเค้าทั้งคู่คงไม่สวยเท่าไหร่ แต่เจ้าก็น่าจะรู้นี่หน่า, ลิงค์เคยเป็นดยุคมาก่อน ดังนั้นมันก็ฟังดูมีเหตุผลไม่ใช่หรอถ้าจะคิดว่าเขาเป็นคนทิ้งราชินีมังกรแดง?”
แม้ว่านิสัยจะต่างกัน,แต่ฮาลิโน่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่าคำพูดของยูจินนั้นฟังดูมีเหตุผล เขาถอนหายใจ “ช่างเถอะ, ดูเหมือนว่าสมาชิกสภามรกตที่พวกเราไปหาได้ในตอนนี้จะมีแค่ปราชญ์แห่งขุนเขานะ”
เขาหันหลังกลับเตรียมตัวที่จะออกไปแต่ทันใดนั้นเอง, ก็มีวงวนในหมอก หลังจากนั้นสักพัก, ร่างมหึมาก็พุ่งออกมาจากวงกต มันคือราชินีมังกรแดงเกรเทล
เธอบินลงมาที่พื้นด้วยเสียงครืน,แล้วพื้นดินก็สั่นสะเทือน ยูจินตั้งท่าป้องกันในทันที ถ้ามีเรื่องนึงที่เขาได้บทเรียนจากชีวิตที่ยืนยาวของเขา, มันก็คือ ‘ไม่มีใครฉุนเฉียวกว่าผู้หญิงที่พึ่งถูกปฏิเสธเรื่องความรัก’
แต่ว่าเขาคิดผิดถนัด
เกรเทลก้มหน้าลงแล้วลืมตากว้างมองยูจินน้ำเสียงของเธอยังคงราบเรียบในตอนที่เธอพูด “แม้ว่าคำพูดของเจ้ามันจะฟังดูน่าโมโหจริงๆ, แต่เจ้าพูดถูกนักเวทย์แห่งความมืด ข้าจมปรักกับอดีตมานานเกินไปแล้ว ทุกคนล้วนเคยประสบกับคความล้มเหลวและความพ่ายแพ้ แล้วลิงค์ก็ไม่ได้เป็นอะไรไปมากกว่าเด็กในตระกลูขุนนางคนนึง ถ้าเขาสามารถมูฟออนได้, ข้าก็ทำได้เหมือนกัน!”
พอได้ยินแบบนี้,ยูจินก็ยักคิ้ว “องค์ราชินี, ท่านยังไม่ได้ตัดใจเรื่องดยุคน้อยสินะ? แต่ไม่ว่ายังไง, พวกเราทุกคนล้วนมีสิ่งที่ตัวเองยึดติด ตราบใดที่ท่านไม่ขัดขวางแผนการของเรา, ข้าก็ไม่มีปัญหาอะไรถ้าท่านจะติดไปด้วย”
เกรเทลส่งเสียงฮึดฮัด“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่เคยบอกเลยนะว่าจะทำงานกับเจ้า ข้าตั้งใจจะเป็นมิตรด้วยแค่กับฮาลิโน่เท่านั้น ส่วนเจ้า, จะเป็นตายร้ายดียังไงข้าก็ไม่สนหรอก”
ยูจินยักไหล่,แต่เขาก็พึมพำเบาๆ “เป็นมังกรที่เจ้าคิดเจ้าแค้นจริงๆนะ!”
ฮาลิโน่คิดไม่ถึงเลยว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้เขาดีใจมาก ระดับพลังของราชินีมังกรแดงนั้นอาจจะไม่สูงเท่าพวกเขา, แต่ขอบเขตพลังของเธอนั้นกว้างขวาง, แล้วเธอก็สามารถเดินทางผ่านสถานที่อันตรายอย่างทะเลแห่งความว่างเปล่าได้ด้วย เธอจะต้องเป็นพันธมิตรที่มีประโยชน์อย่างแน่นอน ด้วยการมองโลกในแง่ดีมากขึ้น,ฮาลิโน่ก็พูด “เยี่ยมเลย, ถ้างั้นไปหาปราชญ์แห่งขุนเขาฮีโรโตะกันเถอะ ข้ามั่นใจว่าเขาจะเข้าร่วมกับพวกเราอย่างแน่นอน”
“หวังว่างั้นนะ”ยูจินไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนพรรคพวกของเขา
…
ทางเหนือของป่าทมิฬ,ป้อมโครงกระดูก
ในส่วนที่ลึกที่สุดของป้อมโครงกระดูก,มีห้องลับอยู่ห้องนึง ที่ใจกลางห้องมีแท่นบูชาที่ทำมาจากออบซิเดียนอยู่, และแสงสีแดงแสบตาก็แผ่ออกมาจากมัน ข้างในนั้น, นักบวชโมลิน่ากำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างไร้อารมณ์
นี่ก็ผ่านมาหนึ่งชั่วโมงแล้วทันใดนั้นเอง, ก็มีเสียงดังขึ้นจากแสงสีแดง
“วิญญาณของคาทูช่าได้จากพวกเราไปแล้วพวกเราไม่สามารถนำเธอกลับมาได้อีกต่อไป แต่ว่า, เรื่องสำคัญที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่คาทูช่า, มันคือพวกหูยาวต่างหากหล่ะ การกระทำของพวกเอลฟ์จะนำพาการทำลายล้างมาให้ภพฟิรุแมน ไปช่วยพวกมันซะ, แล้วทำให้มั่นใจว่าแผนของพวกมันจะไม่ล้มเหลว หึหึหึ…”
“แต่นายท่านคะ,คาทูช่าเป็น…” โมลิน่ายังไม่สามารถยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับน้องสาวของเธอได้
“คาทูช่าอ่อนแอเธอทำให้ข้าผิดหวังมาสองครั้งแล้ว และมันจะไม่มีครั้งที่สาม! โมลิน่า, เธอจากไปตลอดกาลแล้ว เจ้าเข้าใจใช่ไหม?” น้ำเสียงที่เย็นชาดังมาจากแสงสีแดง
โมลิน่ารู้สึกเย็นวาบขึ้นมากระทันหัน“เข้าใจแล้วค่ะนายท่าน”
“ดีตอนนี้ไปได้แล้ว ไปทำให้พวกสิ่งมีชีวิตน่าสงสารในภพนี้ได้เห็นกับตาว่าพวกเอลฟ์จะทำลายโลกของตัวเองยังไง 555, ช่างโง่กันจริงๆ”
เสียงนั้นค่อยๆเลือนหายไปและในที่สุด, ห้องก็กลับมาเงียบอีกครั้ง โมลิน่ายังคุกเข่าอยู่ห้านาทีต่อมา, เธอก็เช็ดน้ำตาแล้วพึมพำออกมา “ลาก่อน, คาทูช่า”
เธอลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไปมีนาการะดับตำนานสามคนได้มารอเธออยู่ข้างนอกห้องแล้ว
โมลิน่าฟื้นท่าทีของผู้นำในฐานะนากานักบวชกลับมาเธอพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เอาหล่ะ, นายท่านมอบคำสั่งให้พวกเรามา…”
…
ไฮเอลฟ์ที่อยู่ในเกาะรุ่งอรุณเองก็ไม่ได้ใช้เวลาอย่างสูญเปล่าเลยพวกเขาอยู่ในระหว่างการเตรียมรวมภพแล้ว
…
พระราชวังหลวงไฮเอลฟ์,อันวาร์
ราชินีไฮเอลฟ์กำลังฟังรายงานความคืบหน้าจากลูกน้องของเธอ
“องค์ราชินี,พวกเราได้เริ่มสร้างหินรูนรวมภพแล้วครับ ด้วยอัตราความคืบหน้าของพวกเราในตอนนี้, พวกเราจะแล้วเสร็จภายใน 14 สัปดาห์โดยประมาณ”
“ดีมากแล้วได้ทำการติดต่อเจ้าหญิงมิลด้าที่อีกฝั่งนึงรึยัง?” ราชินีถาม
คนที่ตอบคำถามของเธอก็คือราชามอร์เดอน่าเขาเดินมาข้างหน้าพร้อมกับขมวดคิ้ว “พวกเราทำการติดต่อแล้ว, แต่มิลด้าไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเราทำอยู่ ไม่ว่าข้าจะพยายามอธิบายแค่ไหน, เธอก็ยังคัดค้านอย่างเต็มที่”
“หา?”ราชินีสับสน “เจ้าได้อธิบายสถานการณ์ของฟิรุแมนในตอนนี้ให้เธอฟังรึเปล่า?”
“ข้าอธิบายแล้ว,แต่เธอบอกว่าความเสี่ยงของการรวมสองภพนั้นใหญ่มากและปัญหาของพวกเราน่าจะมีวิธีแก้ไขที่ดีกว่านี้ นอกจากนี้เธอยังเสนอทางเลือกอื่นมาให้ด้วย”
“ทางเลือกอะไร?”ราชินีรู้สึกขัดใจ เธอคงจะไม่หงุดหงิดเลยถ้าผู้อาวุโสเป็นคนคัดค้านความต้องการของเธอ แต่ที่กำลังพูดถึงอยู่นั้นเป็นลูกสาวแท้ๆของเธอ ในอดีต, มิลด้ามักจะเป็นลูกสาวที่น่าเคารพและเชื่อฟัง แต่ตอนนี้, ดูเหมือนว่าเธอจะคิดว่าเธอกำลังยืนอยู่ในระดับเดียวกับแม่ของเธอ นี่เธอยังเป็นมิลด้าที่ว่าง่ายคนเดิมที่เธอเลี้ยงดูมาใช่ไหม? ไอรีนโนเวล
“เธอบอกว่าพลังของเธอในตอนนี้ไปถึงเลเวล16 แล้ว และตอนนี้เธอก็เป็นนักบวชของลัทธิไฟ หากเจ้ายินยอม, เธอก็จะสามารถส่งนักรบเพลิงผลาญมาช่วยพวกเราได้”
อันที่จริง,ราชามอร์เดอน่าคิดว่าแผนการของลูกสาวยอดเยี่ยม ลึกๆในใจนั้น, เขารู้สึกว่าการรวมภพมันเสี่ยงเกินไป ความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวก็มากพอที่จะสร้างภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่รุนแรนยิ่งกว่าภัยพิบัติมานาได้
แต่ในตอนที่เขาพูดจบ,ราชินีก็สบัดมืออย่างไม่ไยดี “การรวมภพจะดำเนินต่อไปตามแผน ตอนนี้หันหลังกลับไม่ได้แล้ว สิ่งที่พวกเราควรพูดคุยกันในตอนนี้ก็คือวิธีที่ลดความเสี่ยงได้มากที่สุด, ไม่ใช่การเปลี่ยนแผนกลางคันแบบนี้!”
พอเห็นว่าสามีของเธอยังลังเล,เธอก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น “ราชามอร์เดอน่า, นักรบเลเวล 14 สองคนนั้นแข็งแกร่งจริงๆ, แต่ว่าพวกเขาสามารถยึดหอคอยเฟิร์ดได้หรอ? พลังของหอคอยไม่ได้กระจอกเลยนะ ต่อให้มีนักรบเพลิงผลาญเป็นพันคนก็คงจะต้านทานการโจมตีของมันไม่ไหว, ไม่ต้องพูดถึงสองคนหรอก แล้วก็พวกเราจะสามารถฆ่าลิงค์ได้รึเปล่า? มนุษย์มีอยู่เป็นจำนวนมาก ใครจะยืนยันได้ว่าจะไม่มีคนแบบลิงค์เกิดขึ้นมาต่อต้านเราอีกในอนาคต? หลังจากการรวมภพนั้น, กองกำลังของเราจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน และเมื่อถึงจุดนั้น, พวกเราจะมีทั้งพลังจากต้นไม้โลกที่สามารถต่อกรได้แม้กระทั่งพระเจ้าและความรู้ด้านเวทมนตร์เป็นหมื่นปีอยู่ฝั่งเรา ต่อให้มนุษย์สามารถหาพรรคพวกของตัวเองในอารากู่ได้, พวกเขาก็ไม่มีโอกาสต่อต้านเราอยู่ดี!”
แล้วเธอก็พูดออกมาในที่สุด“นี่เจ้าลืมแอเรียลไปแล้วหรอ!? เธอเป็นลูกสาวของเรานะ, และเธอก็เป็นสมาชิกราชวงศ์คนแรกที่ถูกมนุษย์ฆ่าด้วย ความอัปยศนี้มีแต่ต้องเอาเลือดมนุษย์มาล้างเท่านั้นถึงจะหายได้!”
พอมาถึงจุดนี้,ราชามอร์เดอน่าก็ไม่สามารถพูดอะไรเพื่อเปลี่ยนใจราชินีได้อีก
แม้ว่ามิลด้าจะคัดค้านในเรื่องนี้,แต่ความจริงก็คือเธอยังอยู่ที่อีกภพนึงและยังไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของฟิรุแมนอย่างเต็มที่ แผนของเธอสามารถแก้ปัญหาของไฮเอลฟ์ได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น ในอีกด้านนึง, แผนของราชินีจะพลิกสถานการณ์ทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างสมบูรณ์ พวกเขาจะสามารถล้างแค้นให้กับความตายของแอเรียลได้ในที่สุด ราชามอร์เดอน่าพยักหน้าแล้วพูด “ข้าจะติดต่อกับมิลด้าแล้วทำให้เธอสนับสนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่”
“ถ้างั้นก็ไปซะบอกเธอว่าน้องสาวถูกพวกมนุษย์ฆ่า!”
ราชามอร์เดอน่าพยักหน้า“ตามประสงค์ครับ”
แล้วเขาก็จากไปทันใดนั้นเอง, ไฮเอลฟ์อาวุโสคนนึงก็เข้ามาแล้วพูด “องค์ราชินี, พวกเราได้รับสารจากหนึ่งในหน่วยสอดแนมของพวกเราว่าสภามรกตจะไม่สนับสนุนแผนการของพวกเราและพวกนั้นตั้งใจจะหยุดพวกเราย แถมมีความเป็นไปได้ที่พวกนั้นจะรู้ถึงตัวตนของหนังสือแห่งการรังสรรค์ด้วยครับ”
เขาส่งจดหมายให้ราชินี
ราชินีอ่านจดหมาย,แล้วจากนั้นก็เงียบไปซักพัก และเธอก็พูดออกมาในที่สุด “นำจดหมายนี้ไปให้ราชามอร์เดอน่า บอกเขาให้ขอนักรบเพลิงผลาญสองคนจากเจ้าหญิงมิลด้าด้วย”
ณตอนนี้, ไฮเอลฟ์กำลังขาดนักรบที่แข็งแกร่ง ไม่มีวิธีไหนที่พวกเขาจะสามารถต่อกรกับนักเวทย์ของสภาพมรกตด้วยตัวเองได้เลย พวกเขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากภายนอกเดี๋ยวนี้
“รับทราบครับ,องค์ราชินี” ผู้อาวุโสออกจากพระราชวังเพื่อไปส่งคำสั่งในทันที
จากนั้นไฮเอลฟ์ที่เหลือก็รายงานความคืบหน้าของพวกเขาในด้านต่างๆของแผนรวมภพให้กับราชินีในฐานะเผ่าพันธุ์โบราณ, พวกเขาไม่เคยทำเรื่องแบบนี้มาก่อน, แต่ว่าพวกเขามีนักวิชาการในอดีตหลายคนที่เสาะหาความเป็นไปได้ในการรวมสองภพและยังมีการทดลองขนาดใหญ่ในหัวข้อนี้ด้วย ตอนนี้, ด้วยความช่วยเหลือจากความรู้ของนักวิชาการเหล่านี้, ไฮเอลฟ์ก็ดำเนินแผนการทุกขั้นตอนอย่างมั่นคงโดยไม่มีความวุ่นวายเลย
ในขณะที่ลมสงครามเริ่มพัดไปทั่วทั้งทวีป,นักเวทย์เฟิร์ดเองก็เริ่มเตรียมการของตัวเอง