Advent of the Archmage - 585: สัตว์ประหลาด
Chapter
กุบกับ,กุบกับ, กุบกับ
เสียงกีบม้าดังมาจากสนามฝึกทางตอนเหนือของเฟิร์ดที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของนักรบรุ่งอรุณ
ที่นี่มีทหารอยู่มากมาย—มีจำนวนมากกว่า150,000 คน ถ้ามองลงมาจากสแตนด์สูงข้างสนาม, จะมองเห็นทะเลผู้คน มันแทบจะไร้ที่สิ้นสุด ด้วยการที่คนและม้าจำนวนมากมารวมกัน, มันก็ทำให้มีเสียงดังมากๆ ถ้าสังเกตดูดีๆจะเห็นว่าทหารทุกคนนั้นเปล่งแสงออกมาราวกับว่าพวกเขาถูกปกคลุมด้วยชั้นแสงอาทิตย์
พลังชีวิตที่ไม่สามารถอธิบายได้แผ่ออกมาจากพวกเขาแต่ละคนมันกระจายไปทุกทิศทาง, และจากที่ไกลๆ, มันดูเหมือนกับว่าดินแดนนี้เป็นที่รักของดวงอาทิตย์เลย มันอบอุ่นมากและเจิดจ้าจนผิดปกติ
ในวันนี้ทหารเหล่านี้ได้มารวมตัวกันเพื่อช่วยเป็นกำลังเสริมให้กับป้อมโอริด้าทางตอนเหนือ
จากระยะไม่ไกลมาก,ลิงค์กับเพื่อนนักเวทย์ของเขากำลังดูภาพนี้อยู่ นายพลแจ็คเกอร์เองก็อยู่ด้วย ตอนนี้เขาเป็นนักรบแสงอรุณที่อยู่จุดสูงสุดของเลเวล 9, อีกก้าวเดียวก็เข้าสู่ระดับตำนานแล้ว แถมเขายังเป็นนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม,มีดาวรุ่งอีกหลายคนที่ตามหลังเขามาติดๆ อย่างเช่น, นักรบทอโรมีเลเวลเพิ่มขึ้นมาสองเลเวลแล้ว ตอนนี้เขามีเลเวล 8 มีนักรบกว่า 700 คนที่อยู่เลเวล 8 แล้วก็มีอีกหลายคนที่ไปถึงเลเวล 9—ประมาณ 90 คนได้ พวกเขาทุกคนนั้นกำลังไล่ตามแจ็คเกอร์ไปติดๆ
แม้ว่ามือใหม่พวกนี้จะไม่ได้แทนที่เขาในฐานะนายพลต่อให้พลังของพวกเขาก้าวข้ามเขาไปแล้วก็ตาม,แต่แจ็คเกอร์ก็ยังรู้สึกกดดัน เขาฝึกเหมือนกับคนบ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขามีเวลาว่าง, เขาไม่กล้าผ่อนคลายตัวเองเลยซักนิดเดียว
“ลอร์ด,ด้วยความเร็วของพวกเรา, พวกเราน่าจะเตรียมตัวเสร็จในวันพรุ่งนี้และสามารถออกเดินทางได้ในวันต่อไปครับ” แจ็คเกอร์รายงานความคืบหน้าอย่างละเอียด
ลิงค์พยักหน้า“การเดินทางขึ้นเหนือในครั้งนี้ก็เพื่อจัดการกับกองทัพแห่งการทำลายถ้าพวกมันลงใต้มาและสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งได้ พวกเราก็จะต้องสร้างป้อมปราการป้องกันตลอดทางเพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับการกระทำของพวกเราในยามจำเป็น กลับไปดูพวกทหารต่อเถอะ และเลือกพวกที่มีฝีมือมาทำภารกิจนี้”
“รับทราบครับ,ลอร์ด” แจ็คเกอร์พยักหน้า
หลังจากนั้น,ลิงค์ก็ให้คำแนะนำละเอียดขึ้นแล้วแจ็คเกอร์ก็บันทึกเอาไว้ แล้วเขาก็ออกไปทำงานของตัวเองต่อ
หลังจากที่แจ็คเกอร์ไปแล้ว,เอเลียร์ดก็พูดขึ้น “ลิงค์, ครั้งนี้ฉันขอไปด้วยนะ ฉันรู้สึกว่าอีกนิดเดียวก็จะเข้าสู่ระดับตำนานแล้ว, แต่ว่าฉันยังขาดอะไรบางอย่าง ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องรับโอกาสนี้”
ลิงค์เหลือบมองเอวิเลน่าแล้วเธอก็พูดออกมา“ลอร์ด, อย่ามองข้าแบบนั้น ข้าไม่สนใจหรอก…ขอแค่ไอ้หมอนี่ไม่ไปตายที่ภาคเหนือก็พอแล้ว”
เอเลียร์ดส่งเสียงฮึดฮัด“ฉันจะไปตายที่นั่นได้ยังไง? เธอกำลังแช่งฉันอยู่นะ!”
“ก็ได้,ก็ได้, ฉันให้นายไปด้วย” ลิงค์ตกลงอย่างรวดเร็ว
ข้างๆเขา,เซลีนมีความคิดอะไรบางอย่าง, แต่ลิงค์สัมผัสได้และพูดก่อนที่เธอจะได้พูด
“เซลีน,เธออยู่ที่เลเวล 9, แต่ยังอีกไกลกว่าจะข้ามจุดนี้ได้ ศัตรูที่พวกเราจะได้พบทางภาคเหนือน่าจะอยู่ระดับตำนานทั้งหมด อยู่ที่เฟิร์ดแล้วตั้งใจฝึกจะดีกว่านะ”
“ก็ได้”เซลีนไม่มีทางเลือก
ข้างๆเธอ,เมอร์น่าหัวเราะคิกคักกับเรื่องนี้“พี่สาว, ภาคเหนือไม่สนุกเลยซักนิด มันเต็มไปด้วยลูกน้องของคุณพ่อ, แถมยังอันตรายมากเลยด้วย ข้าว่าเฟิร์ดสนุกกว่าตั้งเยอะ”
เด็กสาวคนนี้เป็นปีศาจ,แต่เธอแทบจะไม่ชั่วร้ายเลย นิสัยของเธอนั้นเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กผู้หญิงทั่วไปแค่เล็กน้อย หลังจากที่อยู่ที่เฟิร์ดกับเซลีนตลอดสองสามวันมานี้, เธอก็เริ่มติดใจกับโลกที่มีสีสรรค์ ตอนนี้การไล่เธอออกไปคงจะเป็นเรื่องยาก
เซลีนหัวเราะแห้งเธอรู้ว่าเมอร์น่าไม่เข้าใจความกังวลของเธอในตอนนี้, ดังนั้นเธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เธอแค่ยิ้มและลูบหัวน้องสาวของเธอ
ในอีกด้านนึง,ลิงค์กำลังพูดคุยกับเอวิเลน่า, แวนซ์, อัลโลว่า, แล้วก็เอเลนอร์เกี่ยวกับภาระหน้าที่หลังจากที่เขาไม่อยู่
หอคอยเวทมนตร์กำลังใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆและมีหอคอยรองเพิ่มขึ้นในระแวกใกล้เคียงแล้วก็มีโรงงานอักขระทองคำ, กับร้านยาที่กำลังถูกสร้างขึ้นอีก ยังมีงานที่ต้องทำอีกมากมาย, แม้ว่าจะมีวามช่วยเหลือของลิลลี่ก็ตาม ลิงค์พูดคุยกับพวกเขาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ทุกอย่างจะลงตัว
ในที่สุด,มันก็ตัดสินใจได้ว่ามีสามคนที่จะไปป้อมโอริด้านั่นก็คือลิงค์, เอเลียร์ด, แล้วก็มิโรส อีโลแวนอยากไปด้วย, แต่เขาโชคไม่ดีที่ตอนนี้เป็นหุ่นเชิดเวทมนตร์มีเลือดเนื้อ เขาไม่สามารถเดินทางอย่างรวดเร็วได้และมีแต่จะถ่วงพวกเขา, ดังนั้นเขาเลยตัดสินใจที่จะไม่ไป
ในบรรดาทั้งสามคนนี้,เอเลียร์ดเกือบจะเข้าสู่ระดับตำนานแล้ว, ลิงค์ไปถึงเลเวล 12 ได้สำเร็จ, และมิโรสก็อยู่ที่ขั้นกลางของเลเวล 10 ด้วยความที่พวกเขาได้รับการสนับสนุนจากดินแดนที่ร่ำรวย, ทั้งสามคนจึงสวมอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ดีที่สุด, และมียากับรูนทุกรูปแบบ
ด้วยสภาพนี้,ต่อให้พวกเขาเจอกับขุมพลังที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา, พวกเขาก็ยังต่อสู้ได้ ตอนนี้ทั้งสามคือขุมพลังชั้นแนวหน้าในฟิรุแมน
กองทัพแสงอรุณจะออกเดินทางในวันมะรืนนี้เห็นได้ชัดว่ากลุ่มของลิงค์คงไม่รอจนถึงตอนนั้น หลังจากที่เรื่องทุกอย่างลงตัว, ลิงค์ก็พาเอเลียร์ดกับมิโรสไปโดยใช้เวทย์เทเลพอร์ท
หลังจากแสงวาบ,ทั้งสามก็ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าห่างออกมาหลายไมล์ ระยะที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่ลิงค์เลเวลเพิ่ม หลังจากนั้น, เขาก็ใช้เดินอากาศและเร่งความเร็วขึ้นเหนือ
หลังจากนั้นสักพัก,เอเลียร์ดก็รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง เขามองกลุ่มรูนที่เบ่งบานเหมือนกับดอกไม้แล้วอุทาน “ลิงค์, ฉันรู้สึกว่านายใช้เทคนิคใหม่นะ มันแตกต่างจากเมื่อก่อน, แถมยังเร็วขึ้นตั้ง 50% แหน่ะ!” ไอลีนโนเวล
มิโรสไม่ได้พูดอะไร,แต่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ ความเร็วของลิงค์สูงมากจริงๆ เขาเร็วกว่าเมื่อก่อนอย่างน้อยสองเท่า แต่ทั้งๆที่บินด้วยความเร็วสูงขนาดนี้, มิโรสกลับไม่รู้สึกถึงแรงลมเลย รอบตัวเขายังคงสงบราวกับว่าพวกเขาอยู่ในภาพลวงตาที่ไม่มีตัวตนอยู่และบินผ่านอากาศไปทั้งอย่างนั้น
ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือลิงค์ไม่ได้อยู่คนเดียวเขากำลังบินไปพร้อมกับอีกสองคน เวทย์นี้มันน่าเหลือเชื่อเกินไป
ลิงค์หัวเราะคิกคักเขาไม่ได้ปกปิดเป็นความลับเลย “ใช่แล้ว, ฉันเปลี่ยนเทคนิค, แต่ไม่ได้เปลี่ยนทฤษฎีทั่วไปนะ ฉันยังใช้พลังจากการบิดเบือนมิติในการทำให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอยู่ ฉันแค่เพิ่มความโค้งของบิดเบือนมิติอย่างมหาศาลและเพิ่มพลังสนับสนุนไปอีกเล็กน้อย, ถ้านึกภาพไม่ออก, ตอนนี้กระแสพลังทั้งหมดอยู่ข้างหลังพวกเรา ลองหันไปดูสิ อากาศบิดเบือนอยู่ใช่ไหมหล่ะ?”
เอเลียร์ดกับมิโรสหันไปดูและพบว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆอากาศข้างหน้าและข้างหลังของพวกเขาเงียบสงบ, แต่อากาศข้างหลังนั้นกำลังสั่นอยู่ ทุกสิ่งที่พวกเขาเห็นบิดเบี้ยวไปหมด
ในทางเทคนิคนั้น,ระลอกมิติที่รุนแรงขนาดนี้จะสร้างเสียงรบกวนที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม, พวกเขากำลังเดินทางด้วยความเร็วที่เสียงไม่สามารถตามทันได้ ดังนั้น, พวกเขาก็เลยไม่ได้ยินอะไรเลย
เอเลียร์ดศึกษาอย่างละเอียดเป็นเวลาห้าหรือหกนาทีจากนั้นเขาก็ส่ายหัว “เห้อ, เทคนิคของนายดีขึ้นเรื่อยๆเลยนะ…นี่มันต้องใช้ทักษะการควบคุมเวทมนตร์ที่สูงมาก ฉันยังอยู่อีกไกลกว่าจะถึงจุดนี้”
พอได้ยินแบบนี้,มิโรสก็ยิ้มแหยๆ มันไม่ใช่แค่ไกล—มันเป็นไปไม่ได้ต่างหากหล่ะ
เอเลียร์ดยังไม่ได้เข้าสู่ระดับตำนาน,ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถสัมผัสได้ว่าเทคนิคของลิงค์นั้นน่ากลัวขนาดไหน อย่างไรก็ตาม, มิโรสรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความแม่นยำในการควบคุมของลิงค์ มันอยู่ระดับเหนือมนุษย์ไปแล้ว
พลังของลิงค์ดูเหมือนจะมาจากจิตวิญญาณของเขาเขาสามารถใช้พลังได้ตามที่ใจปราถนาโดยไม่มีความล่าช้าเลย มันเป็นเวทมนตร์, แต่เขาทำให้มันดูเหมือนการโจมตีด้วยศิลปะการต่อสู้ นักเวทย์แบบนี้น่ากลัวเกินไป ต่อให้มิโรสยืนอยู่ข้างหลังเขา, เขาก็ไม่กล้าจะลอบโจมตีเลย
ลิงค์ไม่รู้สิ่งที่มิโรสกำลังคิดอยู่ในใจและแน่นอนว่า, หลังจากนั้น, เขาก็ช่วยพาทั้งสองคนบินไปในขณะที่พูดคุยเรื่องเวทย์เดินอากาศกับเอเลียร์ด เอเลียร์ดทำความเข้าใจได้ไวมากและสามารถเข้าใจทุกอย่างได้ก่อนที่มิโรสจะเข้าใจ แถมหลังจากนั้นเขายังอนุมานด้วยตัวเองได้ด้วยซ้ำ
ทั้งลิงค์และเอเลียร์ดได้แสดงกระบวนการคิดที่เหนือมนุษย์ในการเดินทางครั้งนี้ในความคิดเห็นของมิโรส, ลิงค์นั้นเป็นสัตว์ประหลาด และเอเลียร์ดก็เช่นกัน
ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ภายในเกมส์, เอเลียร์ดเป็นอัจฉริยะของแท้ เขาเป็นดาวรุ่งในหมู่ดาวรุ่งและผู้เล่นทุกคนก็เรียกเขาว่าเจ้าชายแห่งภพ ความจริงที่ลิงค์สามารถนำหน้าเข้าได้ตลอดเวลานั้นส่วนใหญ่เป็นเพราะวิญญาณที่แข็งแกร่งของเขา
ตอนนี้,ในขณะที่เอเลียร์ดกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ, วิญญาณของเขาก็กำลังตื่นขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน เขากำลังไล่ตามลิงค์มาเรื่อยๆ มีหลายครั้ง, ที่ลิงค์รู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากเอเลียร์ด, ดังนั้นเขาจึงไม่ยอมผ่อนคลายตัวเอง
ในส่วนของมิโรสนั้น,เขาเป็นแค่อัจฉริยะทั่วๆไป ที่เขาสามารถมาถึงระดับตำนานได้ต้องขอบคุณพรสวรรค์ของเขา, แต่มันก็เพราะเขาได้รับการฝึกอย่างเพียบพร้อมในเกาะรุ่งอรุณตั้งแต่ยังเด็กด้วย ถ้าเขาใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์ที่ไม่ค่อยมีสถาบันเวทมนตร์, ตอนนี้อย่างมากเขาคงจะอยู่ที่เลเวล 6
นี่เป็นความห่างชั้นอย่างมหาศาลจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่เขาจะสับสน
ลิงค์เร็วมากจริงๆครึ่งชั่วโมงต่อมา, ป้อมโอริด้าก็มาอยู่เบื้องหน้าพวกเขาแล้ว ที่นี่, ลิงค์วางแผนเอาไว้ว่าจะข้ามไปเลยและมุ่งหน้าขึ้นเหนือต่อ
อย่างไรก็ตาม,หลังจากที่มองไปทางป้อม เขาก็เปลี่ยนใจ ข้างในป้อมโอริด้านั้น…ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ, มันคือป่านอกป้อมต่างหากที่เขาสัมผัสได้ถึงออร่าแปลกๆ มันเป็นออร่าที่คุ้นเคย, แต่เขาก็บอกไม่ได้ว่าใคร