Advent of the Archmage - 595: ความโหดร้ายที่แท้จริงเริ่มต้นขึ้นแล้ว
Chapter
ในตอนที่แสงสีขาวห่อหุ้มทุกคน,ไม่มีใครสามารถเคลื่อนไหวได้เลย พวกเขาทำได้แค่ยืนอย่างสับสนอยู่กับที่
มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ขัดขืนอันที่จริง, ทุกคนพยายามหนีจากการยับยั้งนี้ อย่างไรก็ตาม, พลังนี้มันไร้รูปร่างและไม่เป็นรูปธรรม มันดูเหมือนกับแสงสีขาวอ่อน, แต่ไม่ว่าทุกคนจะพยายามแค่ไหน, พวกเขาก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้—ไม่แม้กระทั่งลิงค์
พลังอันน่าหวาดกลัวนี้มันอยู่เหนือกว่าความสามารถของพวกเขา!
ในตอนที่ผู้พิทักษ์มองลิงค์,ราชินีมังกรแดง, นักเวทย์แห่งแสงนักเวทย์แห่งความมืด, ปราชญ์แห่งขุนเขา, และแม้กระทั่งเอเลียร์ดก็มองมาที่ลิงค์เช่นกัน เขามีความสามารถด้านการต่อสู้แข็งแกร่งที่สุดแต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้เลย การเผชิญหน้ากับสิ่งที่สามารถช่วยให้คนปกครองฟิรุแมนได้อย่างรวดเร็วนั้น, ความคิดเห็นของเขาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
ลิงค์ได้ทำการยืนยันแล้วว่าเขาไม่สามารถหนีจากแสงสีขาวนี้ได้มันน่าจะอยู่เลเวล 19 ภายในเกมส์, เขาเองก็ไปถึงระดับนี้เหมือนกัน นักเวทย์เลเวล 19 นั้นสามารถยับยั้งนักเวทย์ที่เลเวลไม่เกิน 13 ได้สี่ห้าคน นี่ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ในการเผชิญหน้ากับพลังที่เด็ดขาดนี้,การดิ้นรนทั้งหมดล้วนเปล่าประโยชน์ ลิงค์หยุดเคลื่อนไหว แล้วเขาก็เผชิญหน้ากับคำถามของผู้พิทักษ์ด้วยการตอบอย่างเยือกเย็น “ผมคิดว่าความคิดของคุณไม่มีความหมายอะไรหรอก ความคิดก็เป็นแค่แผนการหนึ่งในหัวของผม มันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นแบบนั้นจริงๆซะหน่อย”
“งั้นหรอ,แสดงว่าเจ้าจะไม่ยอมบอกสินะ?” ผู้พิทักษ์ประหลาดใจเล็กน้อย “วิสัยทัศน์ของเจ้าเน้นยึดความจริงเป็นหลัก แต่ว่า, พวกที่ได้รับพรอย่างพวกเจ้านั้น, ความคิดก็นับว่าเป็นความจริงได้เช่นกัน ดังนั้น, ความคิดแรกของเจ้าจึงยังสำคัญมากๆ”
เขาหันไปหาเกรเทลแล้วยิ้มให้“อย่างเช่นเจ้า, ราชินีมังกรแดง เจ้ามักจะทำตามธรรมเนียมที่พวกมังกรพึงปฏิบัติมานานนับพันปี มันอาจจะทำให้เจ้าเจ็บปวด, แต่เจ้าก็ยังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง ชิ้นส่วนนี้สามารถทำลายธรรมเนียมแห่งสมดุลย์ของมังกรได้จริงๆ เจ้าคิดไม่ผิดหรอก ตราบใดที่มันยังมีตัวตนอยู่, ก็จะมีคนที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อครอบครองมัน ชีวิตนับไม่ถ้วนในฟิรุแมนเองก็จะได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลเช่นกัน ถ้าเป็นคนที่ไม่สนใจคนอื่นได้ครอบครองมัน, ชีวิตนับไม่ถ้วนก็จะต้อบดับสิ้น”
ราชินีมังกรแดงบินออกมาจากทะเลแห่งความว่างเปล่าแล้วสายตาของเธอจับจ้องไปที่ชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์บนยอดเขา “ท่านพูดถูก” เธอพูดอย่างเย็นชา “นั่นคือสิ่งที่ข้าคิด ข้าสามารถยอมตายเพื่อมันได้”
“ช่างน่านับถือจริงๆ,แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้า” ผู้พิทักษ์ไม่สะทกสะท้าน เขาหันไปหายูจิน “แล้วก็เจ้า, นักเวทย์แห่งความมืด, เจ้าเป็นคนที่ต้องการมันมากที่สุด เสียงในใจเจ้ากำลังสั่งให้เจ้าชิงมันมาและควบคุมขุมพลังที่ไม่สามารถเอาชนะได้ในเฟิร์ด จากนั้นเจ้าก็จะเปลี่ยนเฟิร์ดให้เป็นไปตามที่เจ้าต้องการ และสิ่งที่เจ้าชอบก็คือโลกแห่งความมืดที่มีแค่เวทย์แห่งความมืดเท่านั้นที่คงอยู่…ข้าพูดถูกไหม?”
ยูจินหัวเราะอย่างชั่วร้าย“เจ้าพูดถึง, แต่เจ้าไม่ต้องมาคาดเดาแผนการของข้าหรอก เพราะพวกที่รู้จักข้าต่างก็รู้อยู่แล้วว่าข้าจะทำแบบนั้น ถ้าข้าได้ชิ้นส่วนนั้นมาและได้ควบคุมต้นไม้โลก, ความยุติธรรมและคุณธรรมก็จะไม่มีข้ออ้างมาขับไล่ข้าอีก ข้าอยากจะเห็นสีหน้าของพวกเสแสร้งในตอนนั้นจริงๆ”
“เหอะ!”ฮาลิโน่มองเขาด้วยสีหน้าดูถูกอย่างเต็มที่
แต่สีหน้าของผู้พิทักษ์นั้นยังคงเหมือนเดิมมันไม่มีความรังเกียจอยู่เลย “ไม่ว่ายังไง,เจ้าก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์ นี่ถือเป็นข้อดีไม่กี่อย่างของเจ้านะ” ไอลีนโนเวล
“ขอบคุณสำหรับคำชมเจ้าทำข้าเหลิงเลยนะเนี่ย” ยูจินมองด้วยหางตา
ผู้พิทักษ์ไม่สนใจเขาแล้วหันมาทางฮาลิโน่“ส่วนเจ้า, นักเวทย์แห่งแสง, เจ้าบอกว่าเจ้าอยากเอาชิ้นส่วนนี้ไปใช้แล้วทำลายมันหลังจากที่หยุดไฮเอลฟ์และรับรองความปลอดภัยของฟิรุแมนได้ แต่ว่าข้าเห็นความลังเลในใจเจ้านะ เจ้าไม่มั่นใจว่าเจ้าจะเลือกอะไรหลังจากที่ได้มันไป ลึกๆในใจ, เจ้าคิดว่าเจ้าอาจจะเอามันไว้ใช้เอง…การกระทำของเจ้าแตกต่างจากสิ่งที่อยู่ในใจ ถ้าตัดสินจากจุดนี้, มันก็เหมาะกับที่นักเวทย์แห่งความมืดจะเรียกเจ้าว่าพวกเสแสร้งนะ”
“555,นั่นแหล่ะ! พูดถูกใจข้าเลย!” ยูจินตบมือแล้วหัวเราะลั่น
ฮาลิโน่รู้สึกหงุดหงิด“ผู้พิทักษ์ของหนังสือแห่งการรังสรรค์” เขาพูดอย่างเย็นชา “ท่านคงว่างมากสินะ นี่ท่านมาจองจำพวกข้าแล้ววิเคราะห์พวกข้าไปทำไมกัน?”
ผู้พิทักษ์นิ่งไปพักนึงจากนั้นก็ตบหน้าผากของตัวเองเบาๆเขาพูดด้วยรอยยิ้ม “นั่นสินะ เจ้าหนุ่ม, ขอบใจที่เตือนข้า พอดีข้าไม่ได้คุยกับใครมานานมากแล้วหน่ะ แล้ววันนี้จู่ๆก็มีแขกมาเยอะขนาดนี้ ข้าก็เลยเกือบลืมไปซะสนิท”
เขาหันมาหาลิงค์อีกครั้ง“หนุ่มน้อย, เหตุผลที่ข้าสงสัยเจ้านั้นช่างง่ายยิ่งนัก ความคิดของเจ้าเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด บางครั้ง, เจ้าก็อยากทำลายชิ้นส่วนนี้ แต่ในบางครั้ง, เจ้าก็อยากได้มัน หลังจากที่ได้มายืนในจุดนี้เจ้ายังไม่มีจุดยืนที่ชัดเจนอีกหรอ?”
ลิงค์ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปยังไงดีอย่างไรก็ตาม, เขารู้สึกว่าผู้พิทักษ์ที่น่ารำคาญคนนี้คงจะไม่ปล่อยพวกเขาไปถ้าเขาไม่ยอมอธิบาย หลังจากที่คิดซักพัก, เขาก็พูดออกมา “ในตอนแรกที่ผมเห็นมันโดยเฉพาะหลังจากที่ผมได้ฟังสรรพคุณของมัน ความคิดแรกของผมก็คือการทำลายชิ้นส่วนนี้เพราะความกลัวของผม…แต่จากนั้นผมก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าสรรพคุณของมันที่คุณโอ้อวดนั้นดูเกินจริงไปหน่อย มันอาจจะทำให้คนควบคุมต้นไม้โลกได้จริงๆ, แต่คนๆนั้นคงจะมีสิ่งที่ต้องจ่ายอย่างแน่นอน…ดังนั้นสรุปง่ายๆก็คือ, ผมยังไม่เข้าใจพลังของชิ้นส่วนนี้จริงๆ ผมคิดว่ามันจะดีที่สุดถ้าไม่รีบตัดสินใจเรื่องบางอย่างที่ผมยังไม่เข้าใจจริงๆ”
พอได้ฟังแบบนี้,ผู้พิทักษ์ก็เงียบไปพักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “ข้าคิดว่าข้าอธิบายการทำงานทุกอย่างของมันชัดเจนมากแล้วนะ”
ลิงค์ยักไหล่“ก็ใช่อยู่หรอก, แต่มันเป็นการแนะนำจากคุณคนเดียว, แล้วพวกเราก็เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกด้วย”
ผู้พิทักษ์คนนี้เป็นคนแปลกหน้าทำไมลิงค์ควรจะต้องเชื่อใจเขาหล่ะ? ต่อให้เขามีพื้นเพที่ทรงอำนาจและเป็นคนที่แข็งแกร่งแล้วยังไง? นี่มันก็ไม่สามารถยืนยันได้อยู่ดีว่าเขากำลังโกหกหรือเปล่า
ผู้พิทักษ์หัวเราะ“เจ้าเป็นคนกล้าหาญ,แต่ท้ายที่สุดแล้ว, เจ้าก็อยากได้ชิ้นส่วนนี้อยู่ดี, ถูกไหม?”
ลิงค์พยักหน้า“ถ้าตัดสินจากสถานการณ์ในตอนนี้ก็คงใช่”
“ดีมาก”ผู้พิทักษ์มองฮีโรโตะ “แล้วเจ้าหล่ะ, ปราชญ์แห่งขุนเขา? เจ้าอยากได้มันไหม?”
“ข้าไม่สนใจแต่ว่า—”
ผู้พิทักษ์ตัดบทสนทนาของฮีโรโตะก่อนที่เขาจะพูดจบ“โอเค, ข้าเข้าใจแล้ว”
จากนั้นเขาก็มองเอเลียร์ดกับนานะ“พวกเจ้าสองคนมีความคิดที่เข้าใจได้ง่ายมาก พวกเจ้าไม่อะไรทั้งนั้น, หรือไม่พวกเจ้าก็ไม่มีความมั่นใจ ซึ่งคนอย่างพวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติที่จะครอบครองมัน ดังนั้นในกรณีนี้, เจ้า, เจ้า, แล้วก็เจ้าจะถูกกำจัดออกไป”
ในตอนที่เขาพูดจบ,ก็มีเสียงพรึบสามครั้ง, แล้วนานะ, เอเลียร์ดกับฮีโรโตะก็หายไปจากมิติแปลกประหลาดนี้ “ตอนนี้,เหลืออยู่แค่สี่คนเท่านั้น ในบรรดาพวกเจ้าทั้งสี่คนมีทั้งคนที่อยากได้หนังสือแห่งการรังสรรค์และคนที่อยากทำลายมัน ซึ่งมันจะยังคงมีตัวตนอยู่ได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับคนที่ชนะในตอนสุดท้าย”
ในขณะที่เขาพูด,แสงที่ห่อหุ้มพวกเขาทั้งสี่เอาไว้ก็สั่นไหวเล็กน้อย แล้วพวกเขาก็ถูกเทเลพอร์ทไปยังที่ไหนสักแห่งที่ห่างออกไปสิบไมล์จากยอดเขา ถ้ามองจากตรงนี้, จะเห็นว่ายอดเขาที่เคยสูงหลายพันฟุตนั้นตอนนี้เป็นแค่แท่งน้ำแข็งเล็กๆ และชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์ก็เป็นแค่จุดแสงเล็กๆจุดนึงที่ยอดเขา, ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นเลย
ลิงค์หันไปดูรอบๆและเห็นว่าไม่มีใครอยู่ข้างเขา; เขาสัมผัสออร่าไม่ได้ด้วยซ้ำ ดูเหมือนว่าอีกสามคนก็หายไปสินะ
เสียงของผู้พิทักษ์มาจากไหนก็ไม่รู้และดังเข้ามาในหูของเขา“พวกเจ้าทุกคนอยู่ห่างจากชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์สิบไมล์ เจ้าไม่สามารถใช้เวทย์เทเลพอร์ทหรือเวทย์บินที่นี่ได้ และการยับยั้งร่างกายของพวกเจ้าก็จะหายไปในเวลาเดียวกัน และภาพลวงตาบนเกาะนี้ก็จะหายไปด้วย ถ้าเจ้าอยากได้ชิ้นส่วน, ก็จงใช้พลังทั้งหมดของตัวเองซะ จำเอาไว้ว่า, ในครั้งนี้ข้าจะไม่เข้ามาแทรกแซงแล้ว”
ในตอนที่เสียงนั้นหายไป,ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่าชั้นแสงได้เลือนหายไปจากทุ่งน้ำแข็งไร้สิ้นสุด มันเหมือนกับมีคนกำลังยกม่านขนาดยักษ์ขึ้นจากแผ่นดิน พอไม่มีมันแล้ว, รูปร่างเดิมของเกาะก็เผยออกมา
ลิงค์พบว่าพื้นเบื้องหน้าเขานั้นเปลี่ยนไปอย่างมหาศาลมีภูเขาสูงชันมากมายขึ้นมาจากพื้น แต่ละลูกนั้นสูงหลักไมล์ เมื่อเปรียบเทียบกับพวกมัน, ลูกที่มีหนังสือแห่งการรังสรรค์อยู่นั้นก็เหมือนกับโพเดียมทรงกลมขนาดเล็ก ภูเขาพวกนี้บดบังเส้นทางไปสู่หนังสือแห่งการรังสรรค์จนแทบมิดเลย
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว,เสียงของผู้พิทักษ์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง “เอาหล่ะ, เริ่มได้!” ในตอนที่เขาพูดจบ,ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่าแสงสีขาวรอบตัวเขาหายไป เขากำลังยืนอยู่เบื้องหน้ากำแพงสูงสิบไมล์
เขาถอนหายใจอยู่ลึกๆความโหดร้ายที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มสินะ
ผู้พิทักษ์จะไม่เข้ามาแทรกแซง,และทั้งสี่คนจะไล่ล่ากันกลางหุบเขาที่เหมือนกับเขาวงกตนี้ ไม่มีใครรู้ว่าผู้ที่ทำสำเร็จจะเป็นใคร, ใครจะต้องตาย, และใครจะได้หนังสือแห่งการรังสรรค์ไปในตอนสุดท้าย