Advent of the Archmage - 597: การต่อสู้เกี่ยวพันธ์ถึงชีวิต
Chapter
ตุบตุบ ตุบ ลิงค์เดินลงมาในอุโมงค์ที่อยู่ภายในภูเขาน้ำแข็ง เสียงก้าวเท้าเบาๆอันมั่งคงนั้นได้ไปกระทบกับกำแพงอีกฝั่งและสะท้อนกลับมา ทำให้เกิดเป็นเสียงสะท้อนก้องในหูของเขา
นี่เป็นเสียงเดียวที่ดังในอุโมงค์น้ำแข็ง
หลังจากเดินไปประมาณ50 ก้าว เขาก็เจอกับทางแยก สถานที่นี้ค่อนข้างกว้าง มันเป็นพื้นที่เปิดกว้างหลายร้อยฟุต มีหินงอกหินย้อยที่คล้ายกับดาบมากมายแทงขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกมันทั้งหมดซ้อนทับกันและตัดกันจนดูเหมือนกับดอกไม้น้ำแข็งขนาดยักษ์
ทันใดนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงออร่าแปลกประหลาดจากดอกไม้น้ำแข็งขนาดยักษ์ที่ด้านซ้ายของเขา
ในตอนนี้เองประสาทสัมผัสของลิงค์ก็รวดเร็วขึ้นอย่างมาก เขารู้สึกว่าเวลาไหลช้าลง และ ข้อมูลเกี่ยวกับออร่าแปลกประหลาดนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์อย่างกระทันหัน
240ฟุตทางด้านซ้าย พลังแห่งความมืดเลเวล 13 กำลังรวมตัวและกำลังจะปะทุขึ้น อันตรายแล้ว!
แต่ละข้อความนั้นรวบรัดจริงๆแต่ว่ามันคือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการต่อสู้ ส่วนเรื่องอื่นๆอย่างเช่นตัวตนของผู้โจมตี วิธีการ และวิธีการที่ต้องใช้หลบนั้น ลิงค์ไม่ได้คิดเอาไว้ในหัวเลยเพราะว่ามันจะต้องใช้เวลาตอบสนองเพิ่มขึ้น
ในการต่อสู้ระดับนี้ยิ่งเขาตอบสนองได้ไวเท่าไหร่ เขาก็จะยิ่งได้เปรียบเท่านั้น!
หลังจากผ่านไปอีกเสี้ยววินาทีประมาณ 1 ในพันวินาทีต่อมา คำตอบก็ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์
ยกเลิกการป้องกันและโจมตีในทันที!
อีกฝ่ายนั้นมีเลเวล13 แต่ว่าลิงค์มีอุปกรณ์เวทมนตร์มากมาย การป้องกันการโจมระดับนี้ไม่ยากเกินความสามารถของเขา ยังไงก็ตาม ถ้าเกิดว่าเขาใช้กลยุทธ์ป้องกัน เขาก็จะอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ
เขาจะต้องใช้แก่นภพอย่างมากในการป้องกันเวทย์เลเวล13 และเขาก็ไม่สามารถฟื้นฟูมันกลับมาได้ด้วย ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะชนะได้ แต่เขาก็จะต้องสูญเสียอย่างหนักหน่วง และมันจะทำให้เสียเปรียบในการต่อสู้หลังจากนี้
และในตอนที่เขาเริ่มทำการป้องกันเขาก็จะต้องถูกต้อนให้จนมุม ดังนั้นต่อให้เขากันได้สำเร็จ เขาก็จะยิ่งต้องใช้พลังมากกว่าเดิมอยู่ดี และด้วยเหตุนี้เองถ้าเกิดว่าเขาอยากจะชนะและได้ชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์มา สุดท้ายแล้ว, เขาก็มีตัวเลือกแค่อย่างเดียว: เปิดก่อนได้เปรียบ!
ระหว่างการตัดสินใจในชั่วพริบตาดาบลำนำจันทร์เต็มดวงก็ถูกดึงออกมาในเวลาเดียวกัน ในตอนที่ดาบเปล่งแสง แก่นภพก็มารวมตัวกันก็เหมือนกับกระแสน้ำ มันดูสงบนิ่ง แต่ก็มีคลื่นใต้น้ำไหลเข้าสู่ดาบ
ดาบทั้งเล่มส่องสว่างแสงนี้ไม่ได้มาจากพื้นผิวของมัน มันส่องมาจากส่วนลึกภายใน ทำให้ตัวดาบนั้นเหมือนกับคริสตัลโปร่งแสง
แสงสว่างนี้เหมือนกับแสงจันทร์มันส่องไปทุกทิศทาง และทำให้ทั่วทั้งอุโมงค์กลายเป็นสีขาวหิมะ
ในเวลาเดียวกันนั้นเองวงแหวนรูนก็ปรากฏขึ้นที่บริเวณปลายดาบ มีวงแหวนเล็กๆอยู่ในวงแหวนนี้อีกทีนึง ซึ่งวงแหวนเล็กนับไม่ถ้วนนี้กำลังสั่นพร้อมกัน ซึ่งมันถี่มากจนไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ในเวลาต่อมากระแสน้ำวนสีดำก็ปรากฏขึ้นที่วงแหวนของดาบลำนำจันทร์เต็มดวง ปลายดาบได้ฝังเข้าไปข้างในและปรากฏขึ้นอีกครั้งที่ 240 ฟุตทางฝั่งซ้ายของลิงค์ ในตอนนั้นเอง รูนจำนวนมหาศาลก็ลอยไปที่ปลายดาบ แสงจันทร์สีเงินนั้นเย็นเหมือนกับน้ำแข็ง นี่เป็นเวทย์โจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของลิงค์: ดาบเวลา
เมื่อเวลาผ่านไปทะเลก็สามารถกลายเป็นผืนดินได้ ดาบพุ่งไปประมาณ1/1000 วินาทีและขยับไปได้ 30 เซนติเมตรก่อนที่จะโดนกับอะไรนิ่มๆ
มันนิ่งอยู่เป็นเวลา1/300 วินาที
ในช่วง1/100 วินาทีแรก ลิงค์สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามีแรงผลักอันมหาศาลจากวัตถุนิ่มๆนี้ มันต้านดาบลำนำจันทร์เต็มดวงเอาไว้ และพยายามผลักดาบออกไป พลังนี้แข็งแกร่งมากและเกินกว่าขีดจำกัดของลิงค์อย่างสมบูรณ์ เขาเกือบจะเสียการควบคุมดาบไปด้วยซ้ำ
แต่สิ่งนี้ก็อยู่แค่1/100 วินาทีเท่านั้น หลังจากนั้นพลังแห่งกาลเวลาก็ทำงาน
ภายใต้การไหลผ่านอย่างรวดเร็วของเวลาวัตถุนิ่มๆนี้ก็พลังลดลงอย่างรวดเร็ว มันกำลังจนมุม ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วง 1/100 วินาที
ศัตรูยังคงอ่อนแอขึ้นเรื่อยๆดาบลำนำจันทร์เต็มดวงเริ่มจะได้เปรียบ ในช่วงเวลา 1/100 วินาทีนี้ พลังของอีกฝ่ายลดลงอย่างสมบูรณ์ และดาบก็แทงเข้าไป ไอรีนโนเวล
ฉึกมันคือเสียงและความรู้สึกอันคุ้นเคยจากการแทงเนื้อสดๆ
ในป้อมโอริด้าลิงค์เคยใช้วิชาดาบของเขาฆ่าคนไปมากกว่า 5,000 คน เขาคุ้นเคยกับสัมผัสในตอนที่ดาบแทงเข้าไปในเนื้อเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงรู้สึกถึงมันได้ในทันที แก่นภพไหล่ผ่านดาบของเขาและไหลเข้าไปในร่างกายของคู่ต่อสู้
ซึ่งมันไม่ได้เข้าไปเฉยๆในตอนที่มันไหลผ่านดาบ มันก็เริ่มสร้างโครงสร้างมานาขึ้น ด้วยความที่เขาควบคุมแก่นภพได้อย่างสมบูรณ์ ความเร็วของมันจึงสูงมาก ในชั่วพริบตา มันก็ก่อตัวขึ้นเป็นเวทย์: ลูกบอลแห่งการทำลายล้าง
มันเข้าไปในร่างกายของคู่ต่อสู้หลังจากนั้นลิงค์ก็ดึงดาบของเขากลับมา และในระหว่างกระบวนการนี้เอง เขาก็ได้เริ่มทำการถอยอย่างเต็มกำลัง ร่างของเขาส่องแสงและจากนั้นเขาก็ไปหลบหลังหินย้อยขนาดใหญ่การกระทำแค่นี้อาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันการโจมตีของศัตรู แต่มันก็สามารถซ่อนตัวเขาได้ และทำให้ศัตรูคลาดกับเป้าหมายไปชั่วคราว ซึ่งมันเป็นการกระทำที่เผื่อเอาไว้ป้องกันการโจมตีสุดท้ายก่อนตาย
ในกระบวนการที่ลิงค์ทำทั้งหมดนี้เวลายังผ่านไปไม่ถึง 1/10 วินาทีเลยด้วยซ้ำ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ลิงค์คงทำไม่ได้ เขาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2/10 วินาทีถึงจะทำมันได้อย่างสมบูรณ์
แต่นี่ก็ต้องยกความดีความชอบให้กับเทคนิคการต่อส้ในตำนานของมนุษย์สัตว์เตาหลอมวิญญาณ
ในตอนที่ลิงค์เข้าไปหลบที่แท่งน้ำแข็งเสียงร้องโหยหวนก็ดังมาจากระยะไม่ไกล และตามมาด้วยเสียงระเบิด จากนั้นออร่าพลังของไฟและความมืดก็พวยพุ่งออกมา
ลิงค์หันไปดูและเขาก็เห็นเปลวเพลิงสีม่วงเข้มจากด้านหลังหินงอก รอบๆเปลวเพลิงนั้นมีรอยเลือดกับชิ้นเนื้อด้วย ภายในนั้น ลิงค์เห็นหัวกะโหลกโชกเลือด เมื่อดูจากสีผมแล้ว เขาคือนักเวทย์แห่งความมืดยูจิน
ตอนนี้ลิงค์รู้แล้วว่าคนที่จ้องจะลอบโจมตีเขาก็คือนักเวทย์แห่งความมืด เขาจัดการมันในครั้งเดียว ยูจินอ่อนแอกว่าที่เขาคิดเอาไว้ซะอีก
จากนั้นเงากึ่งเรืองแสงก็ลอยขึ้นมาจากซากปรักหักพังด้วยความเร็วสูงและพุ่งขึ้นไปบนฟ้า มันน่าจะเป็นวิญญาณของยูจิน ถ้าเกิดว่าเขาบินช้ากว่านี้อีกเล็กน้อย ลิงค์ก็คงจะเสริมการโจมตีที่ทำลายวิญญาณของเขาไปด้วย แต่ว่าในตอนนี้เขาไม่สามารถทำมันได้แล้ว
ยูจินเก่งเรื่องเวทย์วิญญาณหลังจากที่หนีไปได้ในครั้งนี้ เขาจะต้องหาวิธีการอะไรซักอย่างเพื่อคืนชีพกลับมาแน่ๆ และเมื่อถึงตอนนั้น ฉันก็จะมีคู่แค้นคนใหม่ ฉันจะต้องคอยระวังเรื่องนี้ให้ดี
แน่นอนว่าลิงค์ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยก่อนหน้านี้ มันเป็นสถานการณ์ที่เกี่ยวพันธ์ถึงชีวิตในเมื่อเขาสามารถฆ่ายูจินไปได้ครั้งนึงแล้ว เขาก็สามารถฆ่าได้อีกในครั้งที่สอง! เขาจะไม่ดูถูกพลังทำลายล้างของยูจินเพราะเรื่องนี้ ยูจินเป็นนักเวทย์ระดับตำนานอย่างแท้จริง การต่อสู้ตรงๆไม่ใช่จุดเด่นของเขา ถ้าเกิดยูจินเลือกที่จะอยู่ในเงามืดและคอยวางแผน มันคงจะเป็นปัญหาจริงๆ
หลังจากปรับท่าทางของเขาอยู่หลังหินย้อยลิงค์ก็เดินไปที่ศพของยูจีน หลังจากมองไปรอบๆ เขาก็เห็นคทาที่มืดสนิทและอุปกรณ์เวทมนตร์จำนวนหนึ่ง รวมไปถึงแหวนมิติด้วย
หลังจากเปิดแหวนออกดูลิงค์ก็ทำได้แค่อ้าปากค้าง
มีของดีเพียบเลยสมแล้วที่เป็นนักเวทย์ระดับตำนานรุ่นเก๋า
หลังจากเก็บมาทั้งหมดลิงค์ก็เช็คสถานะของเขา การโจมตีนั้นรวดเร็ว แต่มันก็เสียพลังไปมากเช่นกัน ในชั่วพริบตา เขาได้ใช้พลังแก่นภพไปมากกว่า 5,000 แต้ม ซึ่งเกือบเท่ากับ 30% ของพลังทั้งหมด
ฉันยังเหลือพลังมากกว่า70% และศัตรูน่าจะเหลือแค่จอมเวทย์แห่งแสงเท่านั้น ฉันสามารถจัดการกับเขาได้อยู่นะ!
ลิงค์เดินต่อไปโดยที่มีเรื่องนี้อยู่ในใจ
เขาเดินเข้าไปในอุโมงค์ต่อเป็นเวลานานกว่า10 นาที หลังจากนั้นเขาก็เห็นใครบางคนกำลังยืนพิงหินย้อยขนาดใหญ่ที่ด้านหน้า เขามองไปแล้วก็ตกใจ เธอไม่ใช่ใครอื่นนอกจากราชินีมังกรแดง!
เธอกลับมาอยู่ร่างมนุษย์และเต็มไปด้วยเลือดมีหอกคริสตัลที่ส่องประกายสายฟ้าสีทองอยู่ที่เอวของเธอ เธอเอาศรีษะพิงหินย้อยเอาไว้อย่างอ่อนแรง ผมสีแดงเพลิงของเธอกระเซอะกระเซิง ที่ด้านหลังเธอ มีบ่อเลือดขนาดกว้างกว่า 3 ฟุต มันเป็นภาพที่น่ากลัวมาก
บางทีอาจเป็นเพราะพลังชีวิตที่แข็งแกร่งของมังกรเกรเทลเลยยังไม่ตาย หน้าอกของเธอยังคงขยับขึ้นลงอย่างรุนแรงในตอนที่ได้ยินเสียงฝีเท้าเธอก็ลืมตาและมองมาที่ลิงค์ ในตอนนั้นเอง เธอก็ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น เธออ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบ้างอย่างแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เธอแค่ถอนหายใจและหลับตาลงอีกครั้ง
เธอรู้ว่าคนๆนี้ไม่ใช่คนอย่างที่เธอจินตนาการไว้เขาเป็นลอร์ด บางทีเขาอาจจะดูอบอุ่นที่ภายนอก แต่ภายในนั้น เขาทั้งอำมหิต เลือดเย็นและโหดร้าย พวกเขาอาจจะเคยเป็นเพื่อนกัน แต่พวกเขาก็มีเส้นทางที่ต่างกัน เขาไม่สามารถช่วยเธอได้
แม้ว่าจิตใจส่วนเหตุผลจะบอกกับเธอแบบนั้นแต่เกรเทลก็ยังคงมีความหวังเล็กๆอยู่ในใจ
ตุบตุบ ตุบ เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา เขากำลังจะมาถึงเธอแล้ว เกรเทลทำได้แค่ลืมตาขึ้น และสิ่งที่เธอเห็นก็ทำให้ความหวังของเธอหมดไป
ดูเหมือนว่าลิงค์จะไม่ได้มองมาที่เธอเลยเขาทำเหมือนกับว่าเธอเป็นศพเย็นๆและเดินผ่านไปโดยไม่หันมามองด้วยซ้ำ
ข้าคิดถูกแล้วสินะแต่ช่างมันเถอะ ข้าไม่มีอะไรให้คิดถึงในชีวิตนี้อีกแล้ว เกรเทลตัดใจยอมแพ้ไปแล้ว หอกสายฟ้าได้ทำลายร่างกายของเธอ สิ่งเดียวที่เธอทำได้ก็คือรอคอยความตาย
ตุบตุบ ตุบ เสียงฝีเท้าของลิงค์ค่อยๆไกลออกไป…น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเกรเทล เธอหลับตาลง นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เธอเสียน้ำตาให้ลิงค์ และมันก็น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายด้วย
แต่หลังจากนั้นก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
อยู่ๆเสียงของลิงค์ก็ดังขึ้น“ฮาลิโน่ ฉันเห็นนายแล้ว ออกมาเถอะ”