Advent of the Archmage - 599: หนุ่มน้อย, ข้าขอให้เจ้ามีชีวิตที่สวยงาม
Chapter
คำพูดของผู้พิทักษ์ทำให้ลิงค์หยุดชะงักเขามองไปที่เกรเทล เธอ “ตัวแข็ง” อยู่ในผนึกมิติ มีรูเลือดเปิดอยู่กลางตัวเธอ ทั่วทั้งร่างของเธอเต็มไปด้วยเลือด มีชิ้นเนื้อกองอยู่รอบตัวเธอเต็มไปหมด ดวงตาอันแน่นิ่งของเธอลืมออกอย่างเซื่องซึม ม่านตาของเธอเริ่มขยายใหญ่ขึ้น และศรีษะของเธอก็เงยขึ้นมาเล็กน้อย สายตาของเธอกำลังมองมายังจุดที่ลิงค์อยู่ในตอนนี้
สีหน้าของเธอซับซ้อนมากมันมีทั้งความสุขและความขมขื่น ไม่มีใครสามารถรู้ความคิดของเธอได้
แต่มีเรื่องนึงที่แน่นอนถ้าเกิดลิงค์ยกเลิกผนึกมิติและเธอไม่ได้รับการช่วยเหลือ เธอก็จะตายภายในไม่กี่นาที
“เธอไม่มีพลังที่จะต่อสู้กลับแล้ว”ลิงค์ไม่อยากจัดการเธอ “ตอนนี้เธอไม่มีพลัง,แต่เจ้าก็จะไม่ปล่อยให้เธอตาย เจ้ามีพลังมากพอที่จะช่วยเธอ ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอก็จะพยายามทำลายชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์ และเธอจะกลายเป็นศัตรูของเจ้า…ดังนั้น ถ้าเจ้าปล่อยให้เธอมีชีวิตรอด เจ้าก็จะไม่มีวันได้ชิ้นส่วนนี้ไป”
คำพูดของผู้พิทักษ์ไร้ซึ่งหัวใจเขาให้ตัวเลือกอันโหดร้ายกับลิงค์ เขาต้องเลือกระหว่างหนังสือแห่งการรังสรรค์หรือช่วยเกรเทล ซึ่งเขาสามารถเลือกได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น
ดูจากการกระทำก่อนหน้านี้ผู้พิทักษ์นั้นแข็งแกร่งมาก เขามีเลเวล 19 ลิงค์ไม่มีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคที่คนๆนี้สร้างขึ้นมาได้รึเปล่า
“ผู้คนสามารถเปลี่ยนแปลงได้เธออาจจะเปลี่ยนใจก็ได้” ลิงค์พยายามโน้มน้าวผู้พิทักษ์
ผู้พิทักษ์ส่ายหัว“ดูเหมือนว่าเจ้าจะยังรู้จักเธอไม่ดีพอนะ เจ้าสามารถโน้มน้าวราชินีมังกรที่มีชีวิตอยู่มานานกว่า 2,000 ปีและเคยเห็นความรุ่งโรจน์ของชีวิตทั้งหมดมาแล้วได้ง่ายๆอย่างงั้นหรอ? ไม่เจ้าทำไม่ได้หรอก ไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เธอตัดสินใจไปแล้วได้ แม้แต่เจ้าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น….หนุ่มน้อย!”
เขาเน้นที่2 คำสุดท้าย ซึ่งบ่งชี้ถึงอายุของลิงค์
เขาพูดไม่ผิดลิงค์อาจจะมีพลังมากมายและมีประสบการณ์มากกว่ามนุษย์คนอื่นๆ แต่เขาก็ยังอยู่ในช่วงอายุ 20 ปี ต่อให้เขารวมอายุของทั้งสองภพเข้าด้วยกันเขาก็ยังอายุไม่เกิน 50 ปีอยู่ดี ประสบการณ์และความรู้นั้นไม่ได้ช่วยให้เขาเข้าใจคนที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปีได้
มันเหมือนกับการที่เด็กที่ไร้เดียงสาไม่สามารถเข้าใจผู้ใหญ่ได้พวกเขาอาจจะสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันได้แต่ว่าพวกเขาก็อยู่คนละระดับกันอย่างสิ้นเชิง
นี่เป็นความจริงลิงค์ไม่สามารถปฏิเสธมันได้ พอเห็นว่าลิงค์ยอมรับในจุดนี้ผู้พิทักษ์ก็พูดต่อ”หนังสือแห่งการรังสรรค์มีพลังไร้ขีดจำกัด ถ้าเจ้าได้มันไป เจ้าก็จะได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฟิรุแมนและกลายเป็นราชันย์สูงสุด ที่จุดสูงสุดนั้นมีแต่ลมหนาว ผู้คนมากมายจะมองมาที่พลังของเจ้า พยายามขโมยความรุ่งโรจน์ของเจ้า เพื่อนที่สนิทที่สุดของเจ้าจะแทงมีดเข้าไปในหัวใจของเจ้า คนที่เจ้าเชื่อใจที่สุดจะเป็นหนามพิษของเจ้า คนรักของเจ้าจะเป็นคนที่จบชีวิตของเจ้า ถ้าราชันย์ต้องการจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์ เจ้าก็จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว…ดังนั้น ปลิดชีวิตเธอซะ!”
คำพูดของผู้พิทักษ์นั้นเสมือนกับเวทมนตร์ในตอนที่เขาพูด ภาพที่แตกต่างกันก็ปรากฏขึ้นในจิตใจของลิงค์อย่างไม่สามารถควบคุมได้
ในภาพนั้นเอเลียร์ดกำลังจ้องมองเขาจากมุมมืดด้วยความเกลียดชัง ในตอนที่เขาหลับอยู่ มือของเซลีนก็จับไปที่มีดอาบยาพิษ รายงานทั้งหมดที่ลูซี่ให้เขานั้นเป็นข้อมูลเท็จทั้งหมด…ทุกภาพนั้นล้วนเป็นภาพเพื่อนๆกำลังทรยศเขา
และภาพอื่นๆเองก็ปรากฏขึ้นเหมือนกันพวกมันไม่ได้เกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว มันกลับเป็นประวัติศาสตร์ของฟิรุแมนและโลกที่เขาเคยอ่านมาก่อน ในภาพพวกนี้ทั้งราชาและจักรพรรดิต่างก็โดดเดี่ยว เพื่อที่จะได้บัลลังก์ พ่อฆ่าลูก พี่น้องฆ่ากันเอง และแม่ฆ่าลูก มีโศกนาฏกรรมและความมืดที่ไม่อาจพูดออกมาได้อยู่มากมาย
ฟิ้วฟิ้ว เสียงลมหนาวดังเข้ามาในหูของลิงค์ เขานึกย้อนไปถึงคำพูดของผู้พิทักษ์ ถ้าราชันย์ต้องการจะอยู่ชั่วนิรันดร์ เขาจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ที่จุดสูงสุดนั้น มีแต่ลมหนาว!
ใช่ลมมันหนาวจนถึงกระดูก ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นแค่ภาพหลอน แต่ลิงค์ที่มีจิตใจที่เข้มแข็งก็ยังตัวสั่นอย่างไม่สามารถควบคุมได้
เงาของผู้พิทักษ์นั้นมีดวงตาที่เปล่งประกายพวกมันดูเหมือนกับสามารถมองทุกสิ่งได้อย่างทะลุปลุโปร่ง เขามองมาที่ลิงค์ เขาสามารถเห็นวิญญาณของลิงค์ได้ “หนุ่มน้อย เจ้าจะเลือกอะไรหล่ะ? ความรุ่งโรจน์อันโดดเดี่ยวหรือว่าความสุขในฐานะมนุษย์?”
ลิงค์มองเกรเทลที่ตัวโชคเลือดและกำลังจะตายอีกครั้งหลังจากนิ่งไปพักนึง เขาก็พูด “ผมเลือก…”
พูดตามตรงเขาไม่รู้ว่าควรเลือกอะไร นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกสับสนขนาดนี้ตั้งแต่มาถึงโลกนี้
ก่อนที่เขาจะพูดจบทัศนวิสัยของเขาก็สว่างขึ้นอย่างรวดเร็ว เขามองดูมันและเห็นภารกิจก่อนหน้านี้—ชิ้นส่วนนี้ไม่ควรมีตัวตนอยู่ ภารกิจเด้งขึ้นมาพร้อมกับแสงสว่างสีแดง มันไม่ได้แค่แสดงตัวตนให้ลิงค์เห็นเท่านั้นแต่ยังเตือนเขาอีกด้วยว่าเทพแห่งแสงต้องการทำลายมัน
ในเวลาเดียวกันนั้นเองวิญญาณดาบก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง มีอีกเสียงนึงบอกข้ามา มันพูดขึ้นมาประโยคนึง: ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีหัวใจ ถ้าเกิดว่าหัวใจของคนๆนั้นมืดบอด โลกก็จะไม่มีแสงสว่าง
ประโยคนี้เต็มไปด้วยปริศนาหลังจากที่ได้ยินมัน หัวใจของลิงค์ก็กระตุก มีบางอย่างพุ่งผ่านจิตใจของเขา มันกำลังหนีไป, เหมือนกับกระต่ายที่หนีเข้าพงหญ้า แต่ว่าเขาสามารถเห็นมันได้ลางๆ ประสบการณ์บอกลิงค์ว่าถ้าเกิดเขาตัดสินใจไม่ได้ เขาก็ไม่ควรได้รับผลกระทบจากภายนอกและตัดสินใจอย่างสิ้นคิด เขาควรจะไตร่ตรองให้ละเอียดเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ดังนั้นเขาจึงปิดปากและเงียบไปอีกครั้ง
“หนุ่มน้อยสรุปแล้วเจ้าเลือกอะไรหล่ะ?” ผู้พิทักษ์เร่ง
ลิงค์ส่ายหัว“ผมยังตัดสินใจไม่ได้ คุณรอคอยมาเป็นเวลานานมากแล้วไม่ใช่หรอ รออีกนิดนึงไม่ได้รึไง?”
“ได้สิ…ข้าจะรอฟังการตัดสินใจของเจ้า”
ลิงค์นึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของวิญญาณดาบเขาตั้งท่าและสัมผัสสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างละเอียด หลังจากผ่านไปนานกว่า 10 นาที ก็มีแสงเข้ามาในความคิดของเขา เขามีสมมุติฐานขึ้นมา ไม่มีอะไรยับยั้งการฟื้นฟูพลังของฉันได้ มิตินี้ไม่ได้ถูกผนึก ฉันสามารถใช้เวทย์มิติได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่าข้อจำกัดเรื่องห้ามเทเลพอร์ทและห้ามบินนั้นไม่ใช่เรื่องจริงสินะ?
พอคิดได้ลิงค์ก็ไม่สนใจผู้พิทักษ์และชักดาบลำนำจันทร์เต็มดวงออกมา เขาเริ่มทำการฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้ เตาหลอมวิญญาณ
เขาทำท่าแต่ละท่าอย่างเชื่องช้าและจมดิ่งเข้าไปในห้วงความคิดด้วย หลังจากผ่านไปพักใหญ่ๆ หัวใจของลิงค์ก็เต้นแรง มีบางอย่างผิดปกติ มันไม่ได้ผิดที่วิญญาณของเขาหรือสิ่งแวดล้อม
ด้วยความช่วยเหลือของเตาหลอมวิญญาณลิงค์สามารถตั้งสมาธิได้อย่างสมบูรณ์ วิญญาณของเขาเข้าสู่สถานะที่สงบมาก มันเรียบและแบนเหมือนกับพื้นผิวของกระจก ตอนนี้หัวใจของลิงค์ไม่มีสิ่งรบกวนแล้ว เขาไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งนั้น เขาอยู่ในสภาพสงบอย่างสมบูรณ์
มีเหตุผลมากมายที่ทำไมเขาถึงเข้าสู่สถานะนี้ได้อย่างแรก มันเป็นเพราะเทคนิคการต่อสู้ระดับตำนาน เตาหลอมวิญญาณ อย่างที่สอง ลิงค์มีแก่นภพที่บริสุทธ์ มันสมบูรณ์แบบมากและทำให้ลิงค์ไม่มีสิ่งรบกวน และที่สำคัญกว่าสิ่งใดเลยก็คือ ลิงค์มีอัตราการควบคุมวิญญาณของตัวเองอยู่ในระดับที่สูงมาก
ด้วยสถานะนี้ลิงค์สามารถสัมผัสเศษเสี้ยวความผิดปกติที่เบาบางมากๆได้ ตอนนี้เขารู้สึกถึงความคิดแปลกๆมากมายในวิญญาณของเขา หลังจากที่สัมผัสอย่างละเอียด เขาพบ 3 อย่าง โดยที่ 2 อย่างนั้นชัดเจน อย่างแรกคือเขาไม่สามารถใช้เวทย์เทเลพอร์ทได้ในขณะที่เขามาเอาชิ้นส่วนหนังสือ อย่างที่สองคือเขาไม่สามารถบินได้ในหุบเขานี้ สิ่งเหล่านี้คือข้อจำกัดที่ได้รับมาจากผู้พิทักษ์
ความคิดอีกอย่างนั้นไม่ชัดเจนลิงค์สัมผัสมันอย่างละเอียดและพบว่ามันเต็มไปด้วยเจตนาอันชั่วร้ายที่คลุมเครือ มันมาจากผู้พิทักษ์ มันยากที่จะอธิบาย แต่มันเปิดใช้งานกลไกความเครียดของลิงค์ หลังจากที่มันทำงาน ความเปลี่ยนแปลงในวิญญาณของเขาก็ส่งผลกับทั้งร่างกายซึ่งมันได้ส่งผลต่อพลังของเขาตามมา หลังจากเกิดผลต่อเนื่องที่เหมือนกับหิมะถล่มนี้ ร่างกายของลิงค์ก็คิดว่าทุกอย่างที่อยู่รอบตัวอันตรายและปฏิเสธที่จะดูดซับพลังโดยไม่ได้ตั้งใจ
ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนมีหัวใจถ้าเกิดว่าหัวใจของคนๆนั้นมืดบอด โลกก็จะไม่มีแสงสว่าง
เสียงของวิญญาณดาบดังขึ้นมาในหัวของลิงค์อีกครั้งนึงในครั้งนี้ มันส่องแสงมาที่เขา ริ้วแสงอาทิตย์ได้ปรากฏขึ้นที่วิญญาณอันเต็มไปด้วยปุยเมฆของเขา
ในตอนที่แสงปรากฏขึ้นมันก็ผ่าก้อนเมฆออกเหมือนกับดาบอันคมกริบ และโลกที่อยู่ในสายตาของลิงค์ก็สว่างขึ้นเช่นกัน ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็พบว่ากำแพงน้ำแข็งที่อยู่รอบตัวเขาเปลี่ยนไปด้วย มันดูเลือนลางเหมือนกับหมอกสีขาว Aileen-novel
และมันก็ส่องแสงมาที่เขาอย่างกระทันหัน
ภาพลวงตาของผู้พิทักษ์นั้นจริงๆแล้วไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลยกลอุบายส่วนใหญ่ของเขาเป็นรูปแบบหนึ่งของวิญญาณ สิ่งแวดล้อมรอบตัวเขาส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่ความจริง นอกจากกำแพงหุบเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างนอก ทุกอย่างนั้นเป็นของปลอมทั้งหมดเลย
เขาถอนหายใจและมองกลับไปที่ผู้พิทักษ์ เขารู้สึกตัวแล้วว่านั่นก็เป็นภาพลวงตาเหมือนกัน พอสังเกตดูดีๆ เขาก็เห็นว่าอากาศรอบตัวเขากำลังระส่ำระส่าย จริงๆแล้วพลังของมันค่อนข้างอ่อนแอ มันเป็นแค่อากาศจริงๆ
“คุณเป็นแค่เศษเสี้ยวสติปัญญาที่หลงเหลืออยู่ของลอร์ดในอดีตตอนนี้ คุณไม่สามารถหยุดผมได้อีกแล้ว”
หลังจากนั้นลิงค์ก็เดินไปหาชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์และหยิบมันขึ้นมา ในระหว่างนี้ ผู้พิทักษ์ก็ถอยหลังไปโดยอัตโนมัติพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ ในตอนที่ลิงค์หยิบชิ้นส่วนขึ้นมาเขาก็โค้งให้ผู้พิทักษ์ “หนุ่มน้อย เจ้าผ่านการทดสอบสุดท้ายแล้ว”
ลิงค์ไม่มีความสงสัยอะไรอีกต่อไปแล้วเขามองดูชิ้นส่วนที่อยู่ในมือแล้วพูดออกมา “มันเปลี่ยนให้ผมเป็นผู้ปกครองหรือว่าให้พลังอะไรกับผมไม่ได้สินะ?”
“ถูกต้องมันก็แค่ชิ้นส่วนที่พังไปแล้ว ถ้าเกิดว่ามันสามารถเปลี่ยนใครบางคนให้เป็นราชันย์ได้จริงๆ มันก็คงไม่ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่นานขนาดนี้หรอก”
“แล้วทำไมมันถึงถูกส่งต่อมาเป็นพันๆปีหล่ะ?”ลิงค์ถาม
“มันคือกุญแจ”แสงปรากฏขึ้นที่มือของผู้พิทักษ์ ในตอนที่มันหายไป ภาพลวงตาทั้งหมดในหุบเขาน้ำแข็งก็หายไปด้วย
ลมหนาวหิมะ และความเย็นสุดขั้วค่อยๆกลับมาทีละอย่าง และเผยให้เห็นรูปร่างที่แท้จริงของขั้วโลกเหนือ
ฟิ้วฟิ้ว ลมหนาวพัดอย่างไม่รู้จบ มันบาดใบหน้าของลิงค์เหมือนกับใบมีด เขาถูกบังคับให้ต้องร่ายเวทย์เลเวล 5 เพื่อสู้กับความหนาว
ภาพลวงตาของผู้พิทักษ์ลอยไปตามลมและหิมะเขาชี้ไปที่ภูเขาสูงข้างหลังเขา “เจ้าเห็นทางเดินบนภูเขาที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาตรงนั้นมั้ย?”
ลิงค์มองตามแม้ว่าหิมะจะตกหนัก แต่เขาก็เห็นภูเขาข้างหลังของผู้พิทักษ์ มันมีทางเดินข้ามไปจริงๆ แต่ว่ามันถูกปกคลุมด้วยหิมะ ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่ากองหิมะนั้นเรียบมาก เขาก็คงจะดูไม่ออกเลยว่ามีทางเดินอยู่ตรงนั้น
“จงเดินไปตามเส้นทางนั้นที่ยอดของมันมีถ้ำที่มีผนึกนิรันดร์เลเวล 19 อยู่ กุญแจอยู่ในมือของเจ้าแล้ว….หนุ่มน้อย ข้าขออวยพรให้เจ้ามีชีวิตที่สวยงามนะ”
หลังจากที่พูดจบลมก็พัดมาและผู้พิทักษ์ก็กลายเป็นหิมะและหายไปในทุ่งน้ำแข็ง ลิงค์เหลือบมองไปที่มุมนึง, ภารกิจของเกมยังคงอยู่ แต่ว่ามันไม่ได้กระพริบอีกต่อไปแล้ว และแสงสีแดงของมันก็กลายเป็นสีเทาด้วย ที่ด้านข้าง มันเขียนเอาไว้ว่า “ละทิ้ง”
มันทำให้ลิงค์ตกใจอย่างมากเทพแห่งแสง….ก็สามารถผิดพลาดได้เหมือนกันสินะ?
เขาคิดมาโดยตลอดว่าเทพแห่งแสงแข็งแกร่งมากและรู้แทบทุกอย่างเกี่ยวกับฟิรุแมนแต่ดูเหมือนว่า เขาจะคิดผิด
พอนึกย้อนดูดีๆนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เทพแห่งแสงพลาด ย้อนกลับไปตอนเมืองยับบ้า เขาก็ถูกเทพแห่งการทำลายล้างหลอก
ดูเหมือนว่าเทพแห่งแสงจะไม่ได้ทรงพลังอย่างที่ฉันคิดเอาไว้สินะเขาไม่สามารถควบคุมพลังเลเวล 19 ที่อยู่ในโลกมนุษย์ได้
รายละเอียดนี้ช่วยให้ลิงค์เห็นความสามารถทั้งหมดของเทพแห่งแสงเขาทรงพลังแต่ก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน เขายังคงมีข้อบกพร่องอีกมากมายในการควบคุมฟิรุแมน
แต่ก็แน่นอนว่าตอนนี้ลิงค์อ่อนแอเกินไปมันยังเร็วไปที่จะคิดถึงเรื่องนี้ เขาส่ายหัว และโยนความคิดนั้นกลับไปที่ส่วนลึกในหัวของเขา จากนั้นเขาก็เปิดใช้เวทย์ลอยกับเดินอากาศและมุ่งหน้าไปตามทางที่ทอดยาวไปถึงยอดเขา
วินาทีต่อมาลิงค์ก็มาอยู่ที่ด้านหน้าคริสตัลน้ำแข็งสูง 10 ฟุต ถ้ามองผ่านๆ มันดูเหมือนกับก้อนน้ำแข็งธรรมดา แต่พอสังเกตดูดีๆแล้ว ลิงค์ก็เห็นว่ามันปกคลุมไปด้วยรูน มันไม่สามารถนับได้และซับซ้อนมาก ในตอนที่ตรวจสอบมัน, เขารู้สึกเหมือนกับว่าหัวของตัวเองจะระเบิดได้เลย ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้ไป
ในตอนที่เขาเดินไปหามันชิ้นส่วนที่อยู่ในมือของเขาก็เปล่งแสงและส่งเสียงดัง มันเริ่มสั่น และเกือบจะหลุดออกจากมือของเขา
ลิงค์ปล่อยมันไปและมันก็ลอยไปที่ประตูคริสตัลในทันที หลังจากนั้น มันก็เหมือนกับน้ำที่หยดลงไปในแม่น้ำ มันหายไป และไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูคริสตัลก็เปล่งแสง 5 วินาทีต่อมา ก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆ จากนั้นประตูก็หายไป และห้องลับขนาดเล็กก็ปรากฏขึ้น
มีแสงสีน้ำเงินอ่อนส่องมาจากห้องรวมถึงเสียงแปลกๆด้วย ลิงค์เดินเข้าไป และดวงตาของเขาก็เบิกกว้าง
เขาเห็นคนสองคนอยู่ข้างในห้องไม่สิ พูดให้ถูกคือ ศพแห้งๆสองศพต่างหากหล่ะ