Advent of the Archmage - 603: กุหลาบแสงดาวของดาร์คเอลฟ์ 1
Chapter
ป่าทมิฬ,ท่าเรือธาราทมิฬ
“ฮามิลตัน,รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทุ่งน้ำแข็งมาซะ พวกเราจะได้เตรียมตัวได้”
มีปราสาทอยู่ใกล้ๆท่าเรือและมีคนกลุ่มนึงกำลังประชุมกันอยู่ข้างในห้องโถงหลักของปราสาท และประโยคข้างต้นนี้ก็มาจากราชาโมเดอร์น่าที่พูดกับนักรบเพลิงนรก
ฮามิลตันรู้สึกขัดใจกับโทนเสียงบังคับของโมเดอร์น่าอย่างไรก็ตาม, เขาได้สัมผัสกับพลังของบุคคลชั้นแนวหน้าของเฟิร์ดมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่กล้าลำพองตนมากเกินไป เขายักไหล่และเริ่มด้วยการพบกับกลุ่มของราชินีมังกรแดง และเขาก็เล่าต่อไปถึงทางเหนือสุด, การพบเจอผู้พิทักษ์, และเรื่องอื่นๆที่เหลือ
ในท้ายที่สุดนั้น,เขาก็พูดออกมา “ข้าออกมาจากภูเขา มีศัตรูอยู่เยอะเกินไป, และพวกนั้นก็เป็นนักเวทย์ทั้งหมด ข้าคนเดียวไม่สามารถสู้กับไอ้พวกนั้นได้ หลังจากที่ออกมาแล้ว, ข้าก็เฝ้าอยู่ข้างนอกเพื่อคอยสังเกตการณ์ ซึ่งท้ายที่สุด, ข้าก็เห็นแค่คนเดียวที่เดินออกมาได้อย่างปลอดภัย นั่นก็คือลอร์ดเฟิร์ด”
พอได้ยินแบบนี้,ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบ
ในบรรดานักเวทย์ที่ฮามิลตันพูดถึงนั้น,มีแค่ลอร์ดเฟิร์ดกับราชินีมังกรแดงที่มีชื่อเสียง ส่วนคนอื่นๆอย่างคนแคระ, นักเวทย์แห่งแสงและความมืด, ต่างก็เป็นชื่อที่ไม่ค่อยคุ้นหูสำหรับคนส่วนใหญ่
คนๆเดียวที่รู้จักทุกคนในที่นี้ก็คือราชาไฮเอลฟ์โมเดอร์น่าแล้วเขาก็ตัวสั่นอย่างมาก ทุกครั้งที่ฮามิลตันพูดถึงหนึ่งในพวกเขา, เขาก็จะเผลอเคาะโต๊ะและขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว
“ฝ่าบาท,ท่านรู้จักพวกเขาหรอ?” ลอนเดล, หัวหน้าดาร์คเอลฟ์นักเวทย์ถาม
หลังจากการต่อสู้ที่ป้อมโอริด้าเมื่อสองปีก่อน,ดาร์คเอลฟ์ก็เสียพวกระดับสูงไปและได้รับความสูญเสียอย่างมหาศาล พวกเขากลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสอง, และแทบจะกลายเป็นทาสของอกาธาร์ นากา ลอนเดลเป็นนักเวทย์เลเวล 9, แต่เขาก็ไม่ค่อยมีความมั่นใจซักเท่าไหร่ในตอนที่พูด เขาเงียบมากๆและถึงกับโค้งให้โมเดอร์น่าเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ
โมลิน่ากับคนอื่นๆเองก็มองโมเดอร์น่า,และรอฟังคำอธิบายจากเขา
โมเดอร์น่าพยักหน้า“ข้ารู้จักพวกนั้นจริงๆ พวกเจ้าอาจจะรู้จักแค่ราชินีมังกรแดงกับลอร์ดเฟิร์ดที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ข้าคิดว่านักเวทย์อีกสามคนที่เหลือก็แข็งแกร่งจนไร้ผู้เทียบเคียงเหมือนกัน โดยเฉพาะนักเวทย์แห่งแสงและนักเวทย์แห่งความมืด พวกเขาเป็นบุคคลที่ลึกลับที่สุด พวกเขาอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากมายตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา”
พอได้ยินแบบนี้,ทุกคนก็มองหน้ากัน จากนั้นพวกเขาก็คิดต่อ ทุกคนต่างก็เป็นบุคคลที่แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ, แต่มีแค่ลอร์ดเฟิร์ดเท่านั้นที่รอดกลับมาได้อย่างปลอดภัยในตอนสุดท้าย แล้วคนที่เหลือไปไหนหล่ะ?
พอมาถึงจุดนี้,โมเดอร์น่าก็ฉุกคิดขึ้นได้เรื่องนึงแล้วถาม “ฮามิลตัน, เจ้าบอกว่าเจ้าเห็นลอร์ดเฟิร์ดเดินออกมาคนเดียวในตอนสุดท้ายแต่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่ก็แสดงว่าเขาน่าจะได้กุญแจหนังสือแห่งการรังสรรค์แล้วใช่ไหม?”
“ข้าก็ไม่มั่นใจ,แต่เป็นไปได้สูงครับ”
นี่แสดงว่ามันยังไม่แน่นอนโมเดอร์น่ารู้สึกผ่อนคลายเล็กน้อย พูดตามตรง, ถ้าลอร์ดเฟิร์ดได้สิ่งที่เรียกว่าชิ้นส่วนหนังสือแห่งการรังสรรค์ไปจริงๆ, เขาก็คงไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี
ในเมื่อมันยังไม่แน่นอน,เขาก็ต้องสืบหาความจริงและตัดสินใจอีกทีว่าเกาะรุ่งอรุณควรทำยังไง แต่ก็แน่นอนว่า, เขาไม่สามารถพูดสิ่งที่คิดอยู่ออกมาได้ เขาตัดสินใจที่จะพักเรื่องพวกนี้เอาไว้ก่อน
“ไม่ว่ายังไง,ลอร์ดเฟิร์ดก็เป็นภัยคุกคามอย่างเห็นได้ชัด” เขาพูด “ข้าคิดว่ามันถึงเวลาที่พวกเราควรจะร่วมมือกันจัดการเขาแล้วหล่ะ พวกเรามาพูดกันถึงเงื่อนไขการเป็นพันธมิตรของพวกเรากันดีไหม?”
โมลิน่ากับคนที่เหลือเห็นด้วยอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนั้น, พวกเขาก็เริ่มพูดคุยกันถึงรายละเอียดการร่วมมือ ทั้งสองฝ่ายต่างก็สู้กันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองและทะเลาะกันทุกรายละเอียด ราชาโมเดอร์น่าเป็นคนที่เรื่องมากที่สุด
หลังจากเถียงกันตั้งแต่เช้าจรดเย็น,ข้อตกลงก็ผ่านไปได้แค่ไม่กี่เงื่อนไข บางเรื่องสำคัญมากจนเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถตกลงกันได้ในหนึ่งวัน แต่พวกเขาก็ไม่ได้รีบร้อนเช่นกัน หลังจากที่ตกลงกันว่าจะคุยต่อในวันพรุ่งนี้, พวกเขาทุกคนก็แยกย้ายไปพักผ่อน
โมเดอร์น่ากับนักรบเพลิงนรกสองคนดูเหมือนว่าจะไปทางเดียวกัน
บนถนน,โมเดอร์น่าร่ายบาเรียกันเสียงแล้วถามอย่างเป็นห่วง “ข้าได้ยินมาว่าพวกเจ้าสองคนบาดเจ็บ ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง?”
นักรบทั้งสองไม่ได้โง่พวกเขามองหน้ากันแล้วฮามิลตันก็ถามขึ้น “ฝ่าบาท, ต้องการอะไรก็พูดมาตรงๆเถอะ ท่านนักบุญบอกให้พวกข้าช่วยเหลือท่านทุกเรื่อง”
“เข้าใจหล่ะ”โมเดอร์น่าหัวเราะแห้ง “ข้าอยากให้พวกเจ้าไปเก็บข้อมูลที่เฟิร์ด ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าเขาได้ชิ้นส่วนไปจริงรึเปล่า นี่เกี่ยวข้องกับแผนการของเผ่าข้า ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
โนอาไม่พอใจกับเรื่องนี้“พวกข้าได้ฟังเรื่องที่เกิดขึ้นในภารกิจช่วยเหลือคาทูช่ามาแล้ว เฟิร์ดเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก ฝ่าบาท, นี่ท่านจะส่งพวกข้าไปตายหรอ?”
โมเดอร์น่ารีบส่ายหัว“ไม่, ไม่ใช่อยู่แล้ว ภารกิจนี้ค่อนข้างอันตรายก็จริง, แต่พวกข้าจะเตรียมการให้พวกเจ้าเป็นอย่างดี”
ในขณะที่พูด,เขาก็เอาคำภีร์ออกมาแผ่นนึง พอกางออกมา, มันก็เผยให้เห็นแผนที่ “ดูนะ,นี่คือแผนที่ระบบป้องกันของเฟิร์ด หน่วยสอดแนมของพวกเราสูญเสียไปมากเพื่อวาดมันขึ้นมา, แต่ถึงยังไงมันก็มีความแม่นยำสูง ถ้าเจ้ายึดตามแผนที่, เจ้าก็จะไม่ไปกระตุ้นระบบแจ้งเตือนของเฟิร์ด….แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ข้าจะให้รูนเทเลพอร์ทไปด้วยสองชิ้น ถ้าพวกเจ้าจำเป็นต้องหนี, ก็เชิญใช้สิ่งนี้ได้เลย เกาะรุ่งอรุณจะเปิดเวทย์เทเลพอร์ทระยะไกลเพื่อพาพวกเจ้ากลับมา เจ้าคิดว่ายังไงหล่ะ?”
การเตรียมการพวกนี้ดูจริงใจอยู่ในระดับนึงแล้วเขาก็เป็นพ่อของนักบุญและค่อนข้างมีคุณธรรม หลังจากพิจารณาอยู่ครึ่งนาที, ฮามิลตันก็รับคำภีร์ “ข้าไปก็ได้, แต่ไม่รับประกันความสำเร็จนะ เอาเป็นว่าข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ก็แล้วกัน”
“ไม่มีปัญหาแค่นั้นก็พอแล้ว” โมเดอร์น่ายิ้ม, แต่เขาก็ยังรู้สึกกังวลอยู่ในใจ นักรบเพลิงนรกไม่ใช่พวกที่ชักจูงได้ง่ายเลย หลังจากที่รวมภพแล้วเกาะรุ่งอรุณจะสามารถควบคุมพวกเขาได้จริงๆหรอ? เขาไม่มั่นใจเลยซักนิด
แต่สภาอาวุโสได้ผ่านเรื่องนี้ไปแล้ว,และมันก็เริ่มไปแล้วด้วย ตอนนี้ไม่มีพื้นที่ให้นึกเสียใจแล้ว โมเดอร์น่าค่อนข้างเป็นกังวล, แต่เขาก็ทำได้แค่เดินหน้าต่อไปและพยายามทำให้มันสำเร็จ
พอยกเลิกบาเรียป้องกันเสียง,ฮามิลตันกับโนอาก็รับคำภีร์กับหินรูน และโดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา, พวกเขาก็รีบเดินทางลงใต้ ไอรีนโนเวล
จากนั้นโมเดอร์น่าก็กลับไปยังสถานที่ที่ดาร์คเอลฟ์จัดเตรียมไว้ให้เพื่อวางแผนขั้นต่อไป
ในอีกด้านนึง,หัวหน้าดาร์คเอลฟ์นักเวทย์ลอนเดลเองก็กำลังเดินไปที่ห้องของเขา ท่าเรือธาราทมิฬนั้นถูกก่อตั้งขึ้นโดยดาร์คเอลฟ์, แต่มันไม่ได้เป็นของพวกเขาอีกแล้ว กองทัพแห่งการทำลายและพวกปีศาจนั้นเป็นผู้ปกครองคนใหม่ ดาร์คเอลฟ์เป็นชนชั้นที่ต่ำกว่า, จึงไม่ได้รับการปฏิบัติในสิ่งที่พวกเขาต้องการ ลอนเดลมีสถานะสูง,แต่เขาก็ยังต้องระมัดระวัง แล้วเขาก็ต้องพยายามช่วยดาร์คเอลฟ์ไม่ให้กลายเป็นชนเผ่าที่ถูกใช้แล้วทิ้งด้วย ซึ่งการพยายามหาจุดสมดุลย์ที่ว่านี้ได้ผลาญแรงกายแรงใจของเขาไปมาก เขายังไม่ทันจะ 30 เลย, แต่ผมของเขาก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว
เขาเดินอย่างระมัดระวัง,และป้องกันไม่ให้การเคลื่อนไหวของเขาไปกระตุ้นความสนใจของการ์ด หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงเต็ม, เขาก็กลับมาถึงบ้านของเขา
ในตอนที่เขาเปิดประตู,เขาก็รู้สึกได้ว่าห้องนั่งเล่นผิดปกติ เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไป, แต่มันมีออร่าที่ไม่คุ้นเคยอยู่ เข้าจับคทาของตัวเองและร่ายเวทย์ป้องกันในทันที จากนั้นเขาก็ค่อยๆตามออร่าเข้าไปในห้อง
ที่นี่ไม่มีอะไร,แต่ออร่าก็ยังคงอยู่ มันมีกลิ่นอ่อนๆของดอกไม้ แล้วมันก็ชี้นำเขาไปที่ระเบียงชั้นสอง ที่นั่น, เขาเห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญอยู่ในบ้านของเขา เธอหันหลังให้เขาในขณะที่เหม่อมองกุหลาบแสงดาว
เธอเป็นดาร์คเอลฟ์หญิงรูปลักษณ์ด้านข้างของเธองดงามมากๆ แล้วเธอก็มีออร่าที่แข็งแกร่งอย่างบอกไม่ถูก แม้ว่าลอนเดลจะเคยเห็นผู้หญิงสวยมานับไม่ถ้วนแล้ว, แต่ลมหายใจของเขาก็ยังถี่ขึ้นและหัวใจของเขาก็ยังเต้นไม่เป็นจังหวะในตอนที่ได้เห็นเธอ เขาไม่รู้เลยว่ามีคนที่สวยขนาดนี้อยู่ในเผ่าของเขาด้วย
เขารู้สึกสงสัยว่าทำไมผู้หญิงที่โดดเด่นขนาดนี้ถึงไม่เป็นที่รู้จักด้วยหน้าตาของเธอเพียงอย่างเดียวก็น่าจะทำให้เธอเป็นที่รู้จักไปทั่วป่าทมิฬแล้ว
ด้วยความที่พวกเขาเป็นเผ่าเดียวกัน,เธอสวยและไม่ได้แสดงความเป็นศัตรูออกมาเลย, ลอนเดลที่รู้สึกตกใจในตอนแรกรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย “ขอโทษนะครับ, ว่าแต่ท่านเป็นใครหรอ?” เขาถาม
ผู้หญิงคนนี้อ่อนแอกว่าเขา,แต่ออร่าของเธอกดดันเกินไป เขาจึงเผลอพูดอย่างเคารพโดยไม่รู้ตัว
ดาร์คเอลฟ์หญิงหันกลับมาผมสีทองเข้มของเธอทอประกายเหมือนกับแสงดาว ดวงตาสีดำบริสุทธิ์เปล่งประกาย, ลอนเดลตัวสั่นกับประกายนี้ รูปด้านข้างของเธอว่าสมบูรณ์แบบแล้ว พอตอนนี้ได้เห็นใบหน้าเธอเต็มๆ, เธอก็ดูงดงามเหมือนกับนางฟ้า ลอนเดลหลงไหลเธอในทันที
“เอลลี่ดานาส” ยูจินคิดชื่อเอาไว้แล้ว
ลอนเดลตัวแข็งทื่อเขาทวนชื่อซ้ำและจากนั้นก็อุทานขึ้นมา “เจ้าหญิงที่หายตัวไปหรอ? ได้ยังไงกัน? ท่านหายตัวไปตั้ง 300 ปีแล้วนะ!”
“มันผ่านมา300 ปีแล้วหรอ?” ความสับสนแสดงอยู่ในดวงตาของดาร์คเอลฟ์หญิง คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย ลอนเดลหวังว่าเขาจะสามารถผ่อนคลายดวงตาคู่นั้นให้เธอได้
“องค์หญิง,เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?” ลอนเดลยอมรับตัวตนของเธอด้วยไม่รู้ตัว ซึ่งเหตุผลนั้นก็เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความจริงที่ว่าหน้าตาและออร่าของเธอนั้นมาจากราชวงศ์ไฮเอลฟ์อย่างแท้จริง มันเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ตัวตนของเธอ
“ข้าหลงเข้าไปในวังวนมิติและพึ่งหลุดออกมาได้เมื่อไม่นานนี้ข้าไม่รู้เลยว่าเวลาได้ล่วงเลยไปนานขนาดนี้แล้ว ข้าคิดว่ามันพึ่งจะผ่านไป 100 ปีเอง” ยูจินพูด
“หรอครับ,ข้าเข้าใจแล้ว แต่โชคดีจริงๆที่ท่านกลับมา อา, เด็กสาวผู้ที่ได้รับผลจากพระเจ้ากลับมาแล้ว นี่มันยอดเยี่ยมจริงๆ! ลอนเดลรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 8 และเพิ่งจะมีอายุแค่ 24 ปีเท่านั้น แล้วนี่มันหมายความว่ายังไงหล่ะ? มันก็หมายความว่าเธอมีศักยภาพศูงมากและสามารถกลายเป็นบุคคลระดับตำนานได้
การที่ราชวงศ์ผู้มีพรสวรรค์แพรวพราวขนาดนี้กลับมาสู่เผ่าที่กำลังอ่อนแอนั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก!
ในอีกด้านนึง,ยูจินรู้ความคิดทุกอย่างของลอนเดลดี เธอรอให้เขาใจเย็นลง, แล้วยิ้มออกมา “ลอนเดล, ข้าเห็นนกกระจอกวายุงินด้วย พวกเราฟื้นฟูความสัมพันธ์กับไฮเอลฟ์แล้วหรอ?”
“คือว่า,องค์หญิงครับ, ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปอย่างมาก เชิญนักลงก่อนเถอะ ข้าจะเล่าให้ท่านฟังเองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วง 300 ปีมานี้ ขอให้ท่านตั้งใจฟังดีๆนะครับ”
ยูจินยิ้มอีกครั้งร่างกายของเขายอดเยี่ยมจริงๆ ไม่เพียงแค่จะมีพรสวรรค์เท่านั้น, แต่มันยังสวยมาก ไม่แปลกใจเลยที่ดาร์คเอลฟ์คนนี้จะลนลานและเรียกมันว่า ‘เด็กสาวผู้ได้รับพรจากพระเจ้า’ เขาสั่นคลอนลอนเดลที่มักจะเป็นคนใจเย็นได้อย่างง่ายดาย
กลับไปตอนที่ลอนเดลอยู่ทางใต้,เขาสามารถทำเรื่องโหดร้ายกับผู้หญิงสวยๆเผ่ามนุษย์ได้ นี่เป็นการปฏิบัติที่แตกต่างกันจริงๆ อีกฝ่ายเป็นองค์หญิงของเผ่าเขา เธอเป็นกุหลาบไร้ตำหนิที่ส่องประกายอ่อนๆใต้แสงดาว และเขาก็กำลังเมามายเพราะมัน ดังนั้น,เขาจึงพยายามอย่างเต็มที่และกระตุ้นสมองให้พูดทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับแผ่นดินใหญ่ ยูจินเองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ
ในตอนที่ลอนเดลพูดจบ,ยูจินก็ตกอยู่ในความเงียบราวกับว่ากำลังคิดหนัก ไม่กี่นาทีต่อมา, เขาก็หัวเราะเบาๆ “ข้าว่าการจัดการลอร์ดเฟิร์ดไม่น่าจะเป็นเรื่องยากขนาดนั้นนะ”