Advent of the Archmage - 604: กุหลาบแสงดาวของดาร์คเอลฟ์ 2
Chapter
พอได้ยินสิ่งที่เอลลี่พูดลอนเดลก็ส่ายหัวอย่างรุนแรง “องค์หญิง ท่านไม่เข้าใจ ลอร์ดเฟิร์ดน่ากลัวว่าที่ท่านจินตนาการอีกนะครับ ท่านไม่รู้หรอกว่ามีคนอยากให้เขาตายเยอะแค่ไหน และคนแบบนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะจบลงด้วยความตาย”
จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเขาคาดหวังถึงโอกาสในอนาคตของเจ้าหญิงน้อยลง เธอยังวัยรุ่นอยู่และยังต้องเรียนรู้เรื่องทิศทางของโลกอีกมาก ดูเหมือนว่าเธอยังต้องได้รับฝึกฝน
ยูจินมองเขาอย่างเงียบๆเขาเคยยืนอยู่บนจุดสูงสุดของฟิรุแมนมา 400 ปี เทียบกับเขาแล้ว ลอนเดลนั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกน้อยมาก ความคิดของเขาสามารถอ่านได้ง่ายมาก
“เจ้าหมายความว่าข้ากำลังดูถูกลอร์ดเฟิร์ดอย่างงั้นสินะ?”ยูจินถามอย่างอ่อนโยน โดยพยายามที่จะไม่หัวเราะออกมา
“ไม่ใช่ครับองค์หญิง ข้าแค่คิดว่าท่านรักษาระดับความเคารพได้ดีแล้วในตอนที่พูดถึงคนที่ประสบความสำเร็จอย่างลอร์ดเฟิร์ด” ลอนเดลเลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ไปทำร้ายความภูมิใจของเจ้าหญิง แต่ก็แน่นอนว่า ความพยายามที่จะใช้คำศัพท์สละสลวยของดาร์คเอลฟ์นั้นไม่ค่อยได้ผลกับยูจิน
ยูจินยิ่งรู้สึกดูถูกดาร์คเอลฟ์หนุ่มคนนี้เข้าไปอีกยังไงก็ตาม เขารู้ว่าถ้าเกิดเขาอยากจะไต่ระดับขึ้นไปในสังคมของดาร์คเอลฟ์ เขาจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากลอนเดล
นอกจากนี้ปฏิกิริยาของลอนเดลก็ทำให้ยูจินตระหนักได้ว่าลิงค์นั้นได้รับความเคารพจากทุกชนเผ่าในทวีปนี้ ถึงแม้ว่าเขาจะยังหนุ่มมากเมื่อเทียบกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์คนอื่นๆในโลกและเพิ่งสร้างชื่อขึ้นมาได้ไม่นานนัก แต่ลิงค์ก็ได้ทอดเงาของตัวเองยาวออกไปทั่วโลก แม้แต่ศัตรูของเขาก็ยังรู้สึกได้ถึงอิทธิพลของเขาที่มีอยู่ทั่วฟิรุแมน ลิงค์จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของภพนี้ได้จริงๆรึเปล่านะ?แล้วทำไมเขาถึงเติบโตได้ไวขนาดนี้? แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ, ดูเหมือนว่าเขาจะยังขาดอะไรบางอย่างไปในการที่จะทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของภพนี้ น่าสงสัย ช่างน่าสงสัยจริงๆ
“ข้าว่าเจ้าพูดถูกแล้วหล่ะลอนเดลแต่ก่อนอื่น เจ้าไม่อยากฟังสิ่งที่ข้าจะพูดก่อนหรอ?” ยูจินพูด เขายอมรับอย่างถ่อมตัวว่าเขาผิด แม้ว่าเขาจะไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยก็ตาม
“นั่นสินะครับองค์หญิง เชิญพูดมาได้เลยครับ” ลอนเดลพยักหน้าในทันที ยังไงซะ มันก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะฟังคำพูดจากเจ้าหญิง
ยูจินพูด“เจ้าเคยพูดถึงรอยแตกบางอย่างที่หุบเขามังกรนี่ ถึงแม้ว่ารอยแตกนั้นจะถูกผนึกไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่ได้ถูกแก้ปัญหาอย่างสมบูรณ์ ถูกมั้ย?”
ลอนเดลพยักหน้า
ยูจินพูดต่อ“ตอนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเฟิร์ดกับหุบเขามังกรนั้นค่อนข้างจะไปกันได้ดี รอยแตกนั้นเป็นภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของภพฟิรุแมน ถ้าเกิดว่าพวกเราไปทำลายผนึกที่อยู่รอบรอยแตกด้วยกัน ลอร์ดเฟิร์ดก็จะต้องรีบพุ่งไปที่นั่นเพื่อซ่อมมันทันที ถูกมั้ย?”
ลอนเดลพยักหน้าอีกครั้งเขาไม่มีอะไรจะโต้แย้ง
“ในตอนที่ลอร์ดเฟิร์ดออกจากเฟิร์ดพวกเราก็จะมีวิธีต่างๆให้เลือกมากมาย พวกเราสามารถลอบโจมตีเขาในตอนที่กำลังเดินทางมาได้, หรือไม่ก็โจมตีเฟิร์ด, แม้กระทั่งปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวายทั่วเมืองมนุษย์นอกเหนือจากป้อมโอริด้าก็ยังได้ การปลุกระดมจะทำให้กองกำลังของเฟิร์ดต้องจะกระจายไปทั่วทั้งทวีปเพื่อรักษาความสงบ และพวกเราก็จะสามารถลดการป้องกันของพวกมันลงได้ทีละน้อย”
“แต่ว่าเขาจะต้องโต้ตอบอย่างไม่ต้องสงสัยเลยนะครับ…”ลอนเดลพูด มันอาจจะดูเหมือนแผนการที่ดี แต่ว่าความคิดของเขาซึมเซาลงมากในช่วงนี้ เขาพยายามจะปฏิเสธทุกอย่างโดยที่ไม่ได้คิดถึงข้อโต้แย้งอย่างจริงจังเลย
ยูจินอธิบาย“แน่นอนว่าเขาจะต้องตอบโต้ แต่ว่าอย่าลืมสิ พวกเราอยู่ในป่าทมิฬ พวกเราสามารถถอยกลับมาสู่ความมืดได้ถ้าพวกเราต้องการ ในขณะที่ไฮเอลฟ์อาจจะมีต้นไม้โลกคอยคุ้มครองอยู่ พวกเราเองก็ถูกคุ้มครองด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เราอาศัยอยู่เหมือนกัน พวกเราแค่ต้องระวังตัวให้มากๆ ในตอนที่พวกเราส่งกองกำลังไปก่อกวนเมืองมนุษย์ ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าโดยหลักแล้วพวกมนุษย์จะอาศัยอยู่บนแผ่นดินเรียบ ในตอนที่พวกมันกระจัดกระจาย พวกมันก็จะอ่อนแอต่อการโจมตีของพวกเรา การแลกเปลี่ยนของมนุษย์จะแย่ลงอย่างมากเพราะความวุ่นวาย และแหล่งรายได้ของเฟิร์ดก็จะลดลงเช่นกัน ทำตามแผนของข้าไปเรื่อยๆจนถึงขั้นตอนสุดท้าย และพวกมนุษย์ก็จะอ่อนแอลงมากจนพวกเราแค่ออกแรงผลักเพียงเล็กน้อยความเจริญของพวกมนุษย์ก็จะพังทลายลงทั้งหมดแล้ว” ไอลีนโนเวล
“แผนของท่านฟังดูมีเหตุผลดีนะครับ”ลอนเดลพูด เขาคิดเกี่ยวกับแผนของยูจิน เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจแผนนี้
มันก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้วสิ!ตอนนี้ยูจินยิ่งดูถูกดาร์กเอลฟ์คนนี้ขึ้นไปอีก ดูเหมือนว่าเขาจะจมลงไปในก้นบึ้งแห่งความผิดพลาดและหมดหวังที่จะดึงกลับมาแล้ว แต่ก็แน่นอนว่าเธอสามารถซ่อนความรู้สึกดูถูกของตัวเองเอาไว้ได้ในตอนที่พูดต่อ “นี่เป็นแค่ขั้นแรก แผนของข้ายังมีขั้นที่สองด้วย”
“อืมมเชิญพูดต่อเลยครับ องค์หญิง” ลอนเดลพูด
ยูจินพูดต่อ“มีสมาคมอยู่ที่ทางใต้ของดินแดนพวกมนุษย์ และมอเฟียสที่เป็นหัวหน้าสมาคมก็วางแผนจะก้าวเข้าสู่ระดับพระเจ้าอยู่ไม่ใช่หรอ? นี่ก็แสดงว่าเขาเป็นพวกเดียวกับเราไม่ใช่รึไง? ทำไมพวกเราถึงไม่ไปขอความร่วมมือกับเขาหล่ะ? จากนั้นเราก็ให้สมาคมโจมตีเฟิร์ดจากทางใต้ ถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขา แต่พวกเขาก็น่าจะยังสามารถปิดกันเส้นทางการค้าของเฟิร์ดและปั่นป่วนธุรกิจของพวกมันได้ ถูกไหม?”
“ใช่แล้วท่านพูดถูกที่สุดเลยครับ” สายตาของลอนเดลเป็นกระกายขึ้นมาแวบนึงหลังจากนั้นเขาก็ส่ายหัว และหัวเราะอย่างขมขื่น “มันเป็นแผนที่ดีนะครับ แต่ข้ากลัวว่ามันอาจจะเป็นไปไม่ได้”
ยูจินขมวดคิ้ว
ออร่าอันน่าอึดอัดเริ่มเดือดขึ้นมาในส่วนลึกของวิญญาณยูจินแต่ความเปล่งประกายอันไร้ที่ติของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ก็ปกปิดมันเอาไว้ข้างในจนหมดและแทนที่ด้วยความสุขุมเยือกเย็นแทน
ในตอนนั้นเองลอนเดลก็สัมผัสได้ว่าอากาศเริ่มจะหายใจยากขึ้น เหงื่อไหลผ่านกระดูกสันหลังของเขาในตอนที่เขามองเจ้าหญิง เขารีบก้มหัวลง ไม่กล้าที่จะสบตากับเธอความสับสนในหัวของเขาละลายหายไปราวกับหิมะที่โดนแสงอาทิตย์ส่อง
เหมือนกับถูกคนที่ได้รับพรจากพระเจ้ามองเลยข้าไม่ควรเปิดปากพูดโดยไม่ระมัดระวังสินะ เธอเป็นเจ้าหญิงของดาร์คเอลฟ์จริงๆด้วย! ความไม่เชื่อใจของลอนเดลที่มีต่อยูจินได้ถูกเปลี่ยนไปเป็นความชื่นชมในพริบตา
“ทำไมมันถึงเป็นไปไม่ได้หล่ะ?”ยูจินถาม
ลอนเดลยิ้มเจื่อนๆ“องค์หญิง ก่อนหน้านี้ข้าเคยคิดแผนที่คล้ายๆกับของท่านขึ้นมาอยู่ แต่ว่ามันก็พังลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ป่าทมิฬเป็นของนากา อย่าให้รูปร่างสวยๆของผู้หญิงนั่นหลอกท่านนะครับ อันที่จริง พวกเธอแข็งเหมือนกับเหล็กและเตรียมพร้อมที่จะเข้าปะทะกับเฟิร์ดตลอดเวลา พวกเธอไม่เคยมีแผนการที่ซับซ้อนแบบของท่านเลย เจ้าหญิง สิ่งที่พวกเธอทำนั้นหยาบกระด้าง วิธีเดียวที่พวกเธอมีก็คือต่อสู้กับพวกมนุษย์โดยตรงที่ป้อมโอริด้า อ้างอิงจากพวกเธอ ถ้าพวกเธอทำให้เทพแห่งการทำลายล้างประทับใจได้ พวกเธอก็จะได้รับการประทานพรที่มากกว่านี้”
“แต่ว่าพวกเธอเอาชนะในการต่อสู้ซึ่งๆหน้าไม่ได้ไม่ใช่หรอ?”ยูจินกุมขมับ เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอปัญหาแบบนี้ที่นี่
“นั่นจึงเป็นเหตุที่พวกเธอตัดสินใจจะลงมือหลังจากที่พวกไฮเอลฟ์ทำการรวมสองภพสำเร็จแล้วครับ….”
“บ้าบอที่สุด!”ยูจินสบถออกมาก่อนที่ลอนเดลจะพูดจบ หลังจากนั้นเขาก็สูดหายใจเข้าลึกๆ สงบสติอารมณ์ของตัวเอง “การรวมภพจะทำลายฟิรุแมน พวกไฮเอลฟ์นั่นบ้าไปแล้ว นี่แหละคือสิ่งที่เทพแห่งการทำลายล้างต้องการ! ไอ้พวกโง่….ลอนเดล ดาร์คเอลฟ์จะต้องเป็นคนนำกองกำลังพันธมิตรนี้ ไม่มีทางที่ข้าจะฝากฝังโชคชะตาของเผ่าเอาไว้กับพวกคนบ้าและทาสของเทพแห่งการทำลายหรอกนะ!”
คำพูดของยูจินดังก้องอยู่ในหัวของลอนเดลลึกๆในใจ เขาไม่สามารถเห็นด้วยกับพวกนั้นได้อีกแล้ว แต่ว่ามันไม่มีอะไรที่เขาหรือคนอื่นๆจะทำได้ในจุดนี้ เขาถอนหายใจ “องค์หญิงครับ ตั้งแต่จบสงครามระหว่างแสงสว่างและความมืดเมื่อ 2 ปีที่แล้วพวกเราก็ไม่เหลืออะไรแล้วครับ พวกเราทำได้แค่ฝากทุกอย่างเอาไว้กับภพแห่งจินตนาการนี้”
ยูจินเงียบไปเป็นเวลาพักใหญ่ๆหลังจากนั้นเขาก็พูดออกมา “ข้าเคยเจอกับคนที่อยู่ระหว่างการบิดเบือนของมิติเวลา คนๆนั้นสอนเทคนิคบูชายัญที่สามารถทำให้ข้าเพิ่มพลังของตัวเองได้อย่างมหาศาล ข้าเคยลองมันมาแล้วครั้งนึง มันได้ผลดีมาก แต่ว่าข้าต้องการให้เจ้าช่วยร่วมมือด้วย”
ลอนเดลตกใจ“ท่านสามารถเพิ่มพลังไปได้ถึงระดับไหนหรอครับ?”
ยูจินหรี่ตาของเขา“ข้าสามารถขึ้นไปถึงเลเวล 14 ได้ภายใน 3 วัน ถ้าเกิดว่าพวกเราสามารถบูชายัญได้มากกว่า 30,000 คน”
ก่อนหน้านี้เขาขึ้นไปได้แค่เลเวล 13 ด้วยเทคนิคนี้ แต่หลังจากการปะทะกับลิงค์ ตอนนี้เขาสามารถแก้ปัญหาที่เคยสร้างความรบกวนใจให้กับเขาในอดีตได้แล้ว ตอนนี้เขามั่นใจมากว่าเขาสามารถขึ้นถึงเลเวล 14 ได้ในครั้งนี้
“30,000หรอครับ? ท่านสามารถขึ้นเลเวล 14 ได้ด้วยการบูชายัญ 30,000 ชีวิตอย่างงั้นหรอครับ?” ลอนเดลตาถลน เขารู้สึกว่าตัวเองหัวใจเต้นแรงมากถ้าเกิดว่าเจ้าหญิงสามารถมีพลังขนาดนั้นได้ ดาร์กเอลฟ์ก็จะเป็นอิสระจากชะตากรรมที่ถูกคนอื่นใช้ประโยชน์
เขากลับมาสงบและพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ“องค์หญิงครับ ท่านมั่นใจในเรื่องนี้แค่ไหนหรอ?”
“ข้ามั่นใจว่าข้าจะทำสำเร็จประมาณ90% แต่ว่าข้าต้องการให้เจ้าช่วยด้วยนะลอนเดล” ยูจินยื่นแขนออกมาลูบไล้ใบหน้าของลอนเดล และมองไปที่ดวงตาของเขาด้วยความรัก เขามองเห็นว่าลอนเดลนั้นตกตะลึงกับท่าทางของเขาในทันที “ไม่ต้องห่วงนะครับองค์หญิงข้าจะเตรียมคน 30,000 คนให้ท่านภายใน 1 วัน พวกเขาจะยอมตายเพื่อความถูกต้อง!” ลอนเดลกัดฟันพูด