Advent of the Archmage - 607: พันธมิตรมังกร
Chapter
โฮกก!เสียงร้องของมังกรตัวนึงดังมาจากก้อนเมฆ หลังจากนั้น, คนของเฟิร์ดก็เห็นมังกรแดงหลายขนาดอยู่กลุ่มนึง พวกเขาบินวนอยู่บนฟ้าและจากนั้นก็ร่อนลงมาที่หอคอยเวทมนตร์หลักของเทือกเขามอดไหม้
มังกรบินช้ามากๆและไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการคุกคามเลยผู้พักอาศัยในดินแดนนี้เจอมาหลายอย่างแล้ว, ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร การมาถึงของมังกรนั้นแค่ทำให้ผู้คนตามท้องถนนมีเรื่องพูดคุยกันมากขึ้นเท่านั้น
กลับไปที่ดาดฟ้าหอคอยเวทมนตร์
มีมังกรประมาณ20 ตัว หัวหน้าก็คือผู้อาวุโสเพทตาลองกับมังกรสาวเฟลิน่า—ทั้งคู่รู้จักกับลิงค์ดี ส่วนคนอื่นๆก็มีผู้อาวุโสสามคนกับกลุ่มอัจฉริยะที่มีเลเวล 8 ขึ้นไป
หลังจากที่ลงมาบนดาดฟ้าพวกเขาก็แปลงร่างกลับเป็นมนุษย์ มีหลายคนมาคอยต้อนรับพวกเขารวมทั้งลิงค์ เซลีน เอเลียร์ด เอวิเลน่า นานะ และคนอื่นๆ นักเวทย์คนสำคัญทุกคนต่างก็มากันหมด พวกเขามีบุคคลระดับตำนานทั้งหมด 6 คน รวมไปถึงเอเลียร์ดที่พึ่งเลื่อนขั้นเมื่อไม่นานนี้
ในส่วนของเอเลียร์ดนั้นตอนอยู่ทางเหนือสุดเขาไม่ได้เจอกับนักเวทย์ระดับตำนานโดยตรงแต่เขาก็ผ่านบททดสอบของผู้พิทักษ์มาได้ ซึ่งนี่คือส่วนที่ช่วยให้เขาผ่านคอขวดมาได้และเข้าสู่โลกใบใหม่
ผู้อาวุโสเพทตาลองมาถึงเป็นคนแรกหลังจากกลับร่างมนุษย์ เขาก็หันไปมองราชินีมังกรแดงเกรเทล พอเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวและการเดินที่ไม่มั่นคงของเธอ เขาก็พูดออกมาในทันที “องค์ราชินี ข้าได้ยินมาว่าท่านบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้างครับ?”
ในขณะที่พูดเพทตาลองไม่ได้หลบเลี่ยงนักเวทย์ของเฟิร์ดเลยเขาหยิบคริสตัลสีแดงที่มีขนาดเท่ากำปั้นออกมา “องค์ราชินี ข้านำคริสตัลพลังมังกรบริสุทธิ์มาด้วย สิ่งนี้อัดแน่นไปด้วยพลังมังกร มันน่าจะช่วยท่านได้”
นี่คือสิ่งที่เกรเทลต้องการมันจะช่วยเพิ่มความเร็วในการรักษาของเธอได้อย่างมาก เธอรับคริสตัลและยิ้มให้เพทตาลองอย่างอ่อนโยน
“เจ้ามาได้ถูกเวลาพอดีเลยบาดแผลของข้ารุนแรงมากก็จริงแต่ตอนนี้ข้าฟื้นตัวขึ้นเยอะแล้ว ไม่เป็นอะไรแล้วหล่ะ”
พวกมังกรต่างก็โล่งใจราชินีมังกรแดงนั้นมีสายเลือดเฉพาะและเป็นผู้สืบเชื้อสายมากจากตำนานอย่างแท้จริง ถ้าเกิดว่าเธอเป็นอะไรขึ้นมา สายเลือดของเธอก็จะไร้ผู้ปกป้อง และถ้าเกิดว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น เผ่ามังกรก็จะอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่สามารถทนรับความสูญเสียระดับนั้นได้
พอเห็นว่าทุกคนโล่งใจแล้วลิงค์ก็ยิ้ม “เอาหล่ะ, ทุกคนอุตส่าเดินทางมาตั้งไกล คงจะเหนื่อยกันแล้วสินะ มาสิ พวกเราเตรียมงานเลี้ยงผ่อนคลายความเหนื่อยล้าให้กับทุกคนเอาไว้แล้ว” “ขอบคุณมากครับท่านดยุค” เพทตาลองคำนับให้ลิงค์ พวกเขารู้แล้วว่าราชินียอมคืนยศดยุคมังกรแดงให้ลิงค์อีกครั้งนึง ซึ่งก็มีมังกรบางส่วนที่คัดค้าน แต่นี่ก็ยังเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นอยู่ดี
โดยเฉพาะเพทตาลองที่ได้เห็นพัฒนาการอันรวดเร็วของเฟิร์ดและพลังของลิงค์เขาสนับสนุนลิงค์จนหมดใจ
มังกรคนอื่นๆเองก็ขอบคุณเขาและหาที่นั่งของตัวเอง
ในตอนที่เฟลิน่ากำลังหันลิงค์ก็มองเธออีกครั้ง แล้วถามด้วยความประหลาดใจ “เธออยู่จุดสูงสุดของเลเวล 9 แล้วหรอเนี่ย?”
เธอกำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับตำนานแล้ว
เฟลิน่ายิ้มอย่างภาคภูมิใจแต่ก็มีความเสียใจปนอยู่ด้วย“ใช่แล้ว แต่ช่างน่าเศร้าจริงๆที่ข้ายังข้ามไปไม่ได้ซักที”
“ไม่ต้องห่วงหน่าเธอจะต้องข้ามไปได้อย่างแน่นอน” ลิงค์ให้กำลังใจเธอ เขาสัมผัสได้ว่าเฟลิน่าจะต้องผ่านมันไปได้ในอีกไม่นานนี้
เฟลิน่าพยักหน้าอย่างจริงจังเธอได้รับแรงกระตุ้น การพูดให้กำลังใจจากคนอื่นอาจจะเป็นการให้กำลังใจธรรมดา แต่สำหรับคนที่ประสบความสำเร็จอย่างลิงค์นั้น คำพูดของเขาก็เหมือนกับคำทำนาย ถ้าเกิดเขาบอกว่าเธอสามารถผ่านไปได้ เธอก็จะต้องผ่านได้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้นทุกคนก็นั่งลง แล้วหุ่นเชิดเวทมนตร์หน้าตาสละสลวยก็เดินออกมาพร้อมกับจานที่ครอบด้วยฝาสีเงิน ทันใดนั้นเอง กลิ่นหอมหวลก็ฟุ้งออกมา ไม่เพียงแค่กลิ่นของอาหารในจานจะยั่วยวนเท่านั้น แต่มันยังดูดีด้วย มีหลายจานที่สวยงามมากจนพวกเขาไม่อยากจะทำให้มันเละ
ลิงค์นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ“อาหารเหล่านี้มาจากฝีมือของพ่อครัวประจำเฟิร์ดที่มาจากทั่วทุกสารทิศ” เขาอธิบาย “ทุกจานนั้นล้วนมีเรื่องราวในตัวมันเอง ถ้าเกิดพวกคุณสนใจ พวกคุณสามารถถามจากหุ่นเชิดเวทมนตร์ได้เลยนะ”
พวกมังกรต่างก็พากันตกตะลึงพวกเขาเริ่มชี้ไปที่จานอาหารและถามคำถาม พวกเขาไม่สามารถหักห้ามตัวเองได้ แต่ละจานนั้นดูน่าสนใจมากจริงๆ
มีหม้อน้ำซุปอยู่ตรงหน้าเฟลิน่าน้ำซุปนั้นข้นมาก มันมีลักษณะกึ่งโปร่งแสง และมีฟองเดือดปุดๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจของอาหารจานนี้ก็คือปลาสีเงินขนาดเท่านิ้วโป้งจำนวนมากที่แหวกว่ายอยู่ในนั้น มันดูเหมือนกับว่ายังมีชีวิตอยู่เลย แต่ว่าน้ำซุปสีนมนั้นเปล่งประกายไปด้วยกลิ่นหอมน่าอร่อยและไม่มีคลื่นมานาออกมาจากปลาด้วย ซึ่งนี่ก็หมายความว่ามันไม่ได้ทำขึ้นมาจากเวทมนตร์ ดังนั้นมันจึงชวนให้สับสนมากยิ่งกว่าเดิม
หลังจากที่ถามหุ่นเชิดเวทมนตร์ก็อธิบายอย่างนุ่มนวล “อาหารจานนี้เรียกว่า “ตกเงิน’ ค่ะ ปลานี้มาจากบ่อภูเขาไฟ ปลาชนิดนี้สามารถทนต่อความร้อนสูงได้ หลังจากที่ถูกจับ พวกมันก็ถูกนำมาทำอาหารผ่านกระบวนการพิเศษ เนื้อของพวกมันหวานและกรอบมาก ก่อนที่จะถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะนั้น พ่อครัวเพียงแค่นำปลาชนิดนี้มาใส่ในน้ำซุปที่เตรียมไว้ทั้งๆที่ยังมีชีวิตอยู่เท่านั้นค่ะ”
“งั้นหรอแล้วทำไมมันถึงเรียกว่าตกเงินหล่ะ?” เฟลิน่าสนใจ
“คุณผู้หญิงดูจานที่สองสิคะ มันมีผักชื่อมันสำปะหลังเขียวถูกหั่นบางๆจัดเอาไว้อยู่ มันมีความอร่อยในตัวของมันเองอยู่แล้ว และยังเป็นของโปรดของปลาภูเขาไฟเงินด้วย ลองเอามันสำปะหลังใส่ลงไปในน้ำซุปดูสิคะ” Aileen-novel
เฟลิน่าหยิบแผ่นมันสำปะหลังเขียวขึ้นมาและหย่อนมันลงไปในน้ำซุปและก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ปลาที่อยู่ข้างๆได้ว่ายเข้ามากัดมันสำปะหลัง และมันก็ไม่ยอมปล่อยเลย
หลังจากที่ตกมันขึ้นมาเฟลิน่าก็เห็นว่าปลายังกัดมันสำปะหลังอยู่ แต่ว่ามันไม่ขยับแล้ว มันดูเหมือนกับว่ากำลังหลับอยู่ “เกิดอะไรขึ้น?” เธอถามต่อ “มันสำปะหลังนั้นเต็มไปด้วยเครื่องปรุงพิเศษมันทำให้ปลาเงินอร่อยยิ่งกว่าเดิมและยังทำหน้าที่เป็นยากล่อมประสาทด้วยค่ะ มันจะช่วยทำให้ปลาไม่ดิ้นในปากของคุณ เพราะมันจะส่งผลต่อรสชาติ”
“งั้นหรอเป็นจานอาหารที่สุดยอดไปเลยนะ” เฟลิน่าลองกัดดู รสชาติอันน่าสนใจได้เข้าไปในปากเธอ มันกรอบ, บาง, และสดใหม่ นอกจากนี้มันยังมีความละมุนเหมือนกับมีมือเล็กๆมานวดลิ้นของเธอด้วย รสชาติของมันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ
สิ่งนี้ทำให้เธออารมณ์ดี“น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ” เธอชื่นชมอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่กินปลาตัวแรกไปแล้วเธอก็หยิบชิ้นมันสำปะหลังเขียวขึ้นมาอีกและเริ่มทำการตกปลาต่อในทันที เธอกินมันอีกอย่างมีความสุข
มังกรคนอื่นๆต่างก็อยู่ในสภาพนี้ถูกสะกดด้วยอาหารที่อยู่ตรงหน้า แต่ละคนต่างก็กินอย่างมีความสุข และบรรยากาศนั้นก็ดูกลมกลืน
ผู้อาวุโสบางคนที่ไม่รู้ความจริงต่างก็รู้สึกไม่ชอบลิงค์เพราะสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่หลังจากที่ได้รับการปฏิบัติที่ดีขนาดนี้นี้ ความรู้สึกแข็งกระด้างของพวกเขาก็อ่อนลง
หลังจากนั้นหุ่นเชิดเวทมนตร์ก็ทำความสะอาดทุกอย่างและเสิร์ฟของหวานอย่างรวดเร็ว ณ ตอนนี้ พวกนักเวทย์และผู้อาวุโสมังกรแดงเริ่มที่จะพูดถึงเรื่องการร่วมมือกันแล้ว
กลุ่มของเพทตาลองนั้นมาเพื่อดูอาการของเกรเทลและยังรวมถึงการต่อรองเรื่องพันธมิตรด้วยซึ่งหัวข้อหลักของการเป็นพันธมิตรก็คือ การกระจายพลังมังกร
สำหรับลิงค์การที่ได้รู้ความลับของพลังมังกรนั้นไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นักเพราะเขามีเมล็ดแสงอรุณแล้ว แต่ก็แน่นอนว่าถ้าเขาได้มาจะดีกว่า เพราะมันอาจจะใช้เพิ่มพลังแสงอรุณของเฟิร์ดได้ อย่างไรก็ตาม, ถ้าเขาไม่ได้มันมาก็ไม่เป็นปัญหา ในเมื่อมันเป็นแค่ของประดับบนหน้าเค้กเขาจึงไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก ดังนั้นเขาจึงยกสิทธิให้เอเลียร์ด แวนซ์และคนอื่นๆคอยจัดการเรื่องรายละเอียดยิบย่อยอย่างเต็มที่
ในระหว่างที่พวกเขากำลังหารือกันอยู่นั้นเองลิงค์ก็นั่งรอประจำที่เพื่อฟังผลสรุปสุดท้าย และในเมื่อเขาว่างอยู่ เขาจึงถามราชินีมังกรแดง “องค์ราชินี ฉันสัมผัสได้ว่าพลังของเธอเริ่มฟื้นฟูกลับมาแล้ว เป็นแบบนั้นจริงๆใช่ไหม?”
เกรเทลนั้นอยู่ทางด้านซ้ายของลิงค์เธอมองเซลีนที่กำลังมองมาทางเธอและพยักหน้า
“ใช่และตอนนี้ข้าก็มีคริสตัลแล้วด้วย ข้าน่าจะฟื้นตัวกลับมาเหมือนเดิมได้ภายใน 1 เดือน เจ้าไม่จำเป็นต้องให้พลังกับข้าอีกแล้วหล่ะ”
“ถ้าได้แบบนั้นก็ดีเลย”ลิงค์โล่งใจ และถอนหายใจอย่างเงียบๆ
ในช่วง10 วันที่ผ่านมานี้ เขาต้องให้พลังเกรเทลทุกๆชั่วโมงและรู้สึกเหนื่อยมากเหมือนกัน ถ้าแค่นิดเดียวคงไม่เป็นปัญหาอะไร แต่หลังจากที่ไปหาบ่อยขึ้น เซลีนก็เริ่มสงสัยเขา และเธอก็รู้สึกหึงขึ้นมาหลายครั้งด้วย ถ้าเกิดว่าสถานการณ์เช่นนี้ยังดำเนินต่อไป มันอาจจะกลายเป็นสงครามเย็นได้ ซึ่งลิงค์ไม่ได้ต้องการให้มันเกิดขึ้น
เกรเทลเองก็เข้าใจสถานการณ์ของลิงค์ดีเธอรู้สึกเศร้าอยู่ลึกๆ แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา จากนั้นเธอก็หยิบเอากำไลข้อมือสีแดงเข้มออกมา แล้วยื่นให้กับเซลีนที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของลิงค์
“คุณผู้หญิงในระหว่างที่ข้ามาพักในช่วงหลายวันมานี้ข้ารบกวนท่านเอาไว้มากจริงๆ กำไลนี้เรียกว่าหัวใจแห่งเพลิง มันคือของขวัญสำหรับท่าน”
เซลีนตกใจและมองไปทางลิงค์ซึ่งเขาพยักหน้าเล็กน้อย แล้วเธอก็รับกำไลมา
“ขอบคุณค่ะ”
เจตคติที่เธอมีต่อเกรเทลดีขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ค่อยเป็นมิตรอยู่ดีผู้หญิงคนนี้สวยและแข็งแกร่งเกินไป ทั่วทั้งเฟิร์ด มีแค่ลิงค์คนเดียวเท่านั้นที่สามารถทำตัวปกติเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอได้ ในตอนที่เธออยู่ข้างลิงค์ เซลีนรู้สึกว่าทั้งคู่นั้นดูเหมาะสมกันมาก ซึ่งนี่ทำให้เธอไม่พอใจมากๆ
ในอีกด้านนึงเหล่านักเวทย์และมังกรแดงต่างก็ตกลงกันอย่างรวดเร็ว พวกเขามาถึงข้อตกลงร่วมกันแล้วและกำลังร่างเงื่อนไขการเป็นพันธมิตร
จากนั้นเอเลียร์ดก็ส่งร่างมาให้ลิงค์เขารู้สึกพึงพอใจหลังจากที่อ่านมันและประทับตรา จากนั้นเขาก็ส่งให้กับราชินีมังกรแดง เธอเองก็พยักหน้าและประทับตราราชวงศ์มังกรลงไป
และด้วยเหตุนี้เองเฟิร์ดกับหุบเขามังกรก็กลายเป็นพันธมิตรกันอีกครั้ง
หลังจากนั้นลิงค์ก็จัดการเรื่องสถานที่พักสำหรับมังกร ส่วนพวกนักเวทย์ก็กลับไปที่หอคอยเวทมนตร์และทำงานของตัวเองต่อ ในตอนที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ลิงค์ก็กลับไปที่หอคอยของเขาเพื่ออ่านหนังสือแห่งการเปิดเผยที่ผู้ปกครองวิญญาณเหลือทิ้งเอาไว้ แต่ว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว เซลีนเองก็อยู่ที่นั่นด้วย
บางทีอาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ทางสายเลือดเซลีนจึงรู้สึกหวั่นไหวในตอนที่อ่านมัน ความรู้ที่อยู่ภายในหนังสือนั้นกำกวมมาก และเธอก็อ่านมันอย่างยากลำบากมาก แต่เธอก็มักจะหาวิธีทำความเข้าใจได้ในที่สุด มันไม่มีตรงไหนเลยที่เข้าใจยาก ราวกับว่ามีคนคอยบอกเธออยู่ตลอด
ส่วนเอเลนอร์แวนซ์และคนอื่นๆนั้นไม่สามารถทำความเข้าใจได้เลย และด้วยเหตุนี้เอง ลิงค์จึงศึกษามันร่วมกับเซลีน
ในระหว่างที่อ่านมันอยู่ที่ห้องสมุดระฆังเวทมนตร์ก็ดังขึ้น เซลีนมองมาที่ลิงค์ “นั่นมันสัญญาณข้อความด่วนนี่”
ลิงค์ไปที่ระฆังแล้วหัวหน้าหน่วยสอดแนมกิลเดิร์นก็พูดกับเขา “ลอร์ดครับ ทางป้อมโอริด้าได้ส่งข้อความสำคัญมา 2 เรื่อง ข้าคิดว่าท่านฟังด้วยตัวเองจะดีกว่านะครับ” น้ำเสียงของเขาจริงจังมากและเขาก็พูดเร็วด้วย ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!