Advent of the Archmage - 609: การแบ่งฝ่ายของเผ่ามังกร
Chapter
อะไรนะ?พวกมันอยากจะทำลายผนึกของรอยแยกหรอ!?
ผู้อาวุโสเพทตาลองไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้เขายืนขึ้นพร้อมกับขมวดคิ้วและเคราสีเทาของเขาก็สั่น สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ใจเย็นก่อนครับใจเย็นก่อน ลิงค์กดมือของเขา มันยังไม่ถึงจุดที่ทำอะไรไม่ได้แล้ว การทำลายผนึกที่อยู่รอบๆรอยแยกมันไม่ใช่งานง่ายๆหรอก แต่ก็แน่นอนว่าเราจะต้องรีบตอบสนองโดยเร็ว คุณพอมีความคิดอะไรรึเปล่า?
เพทตาลองพิงเก้าอี้ครึ่งนาทีต่อมา เขาก็ยังตกใจไม่หาย ความกังวลและความเป็นห่วงปั่นป่วนอยู่ในตัวเขาไม่ยอมหยุด เขาพยายามทำใจให้เย็นลงแล้ว แต่ความคิดพวกนี้ก็ยังคงส่งผลกับจิตใจของเขาอยู่
ถ้าเกิดว่ามันเป็นเมื่อ5 ปีก่อน เขาก็คงจะไม่ได้รับผลกระทบง่ายขนาดนี้ แต่ในช่วงนี้ มีหลายอย่างเกิดขึ้นกับหุบเขามังกร ซึ่งแต่ละเหตุการณ์นั้นร้ายงแรงทั้งนั้น และเขาก็รู้สึกไร้พลังทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น
ทั่วทั้งโลกกำลังแข็งแกร่งขึ้นในขณะที่หุบเขามังกรกำลังอ่อนแอลงเรื่อยๆนี่เป็นยุคสมัยที่ย่ำแย่ที่สุดของมังกรก็ว่าได้
ตอนนี้เขารู้สึกจนมุม มีปัญหาเกิดขึ้นที่รอยแยกอีกแล้ว และเขาก็กลัวว่าเหตุการณ์นี้จะลุกลามไปจนถึงจุดที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้
ไม่กี่น่าทีต่อมาเขาก็ถอนหายใจ ท่านดยุค เขาพูดกับลิงค์ ตอนนี้ความคิดของข้ายุ่งเหยิงไปหมด ข้าเกรงว่าข้าคงไม่สามารถให้คำแนะนำอะไรได้ แต่ว่าข้ามีเรื่องขอร้องเพียงอย่างเดียว อย่าให้องค์ราชินีรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด เธอบาดเจ็บหนักและต้องการการพักผ่อน เฮ้อ
ตอนนี้ผู้อาวุโสหดหู่และรู้สึกเศร้ามากลิงค์สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ได้อย่างชัดเจนจากออร่าแห่งความสิ้นหวังที่แผ่ออกมาจากตัวเขา คนที่พยายามแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรหรือแสวงหาความหวังได้นั้นมักจะเป็นแบบนี้
ลิงค์ขมวดคิ้วและรู้สึกสับสนกับสภาพของเพทตาลอง เขาเคยเป็นคนที่มีชีวิตชีวามาก่อน ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้นะ?
ยังไงก็ตามนี่เป็นเรื่องเร่งด่วน และเขาก็ไม่มีเวลาคิดซักเท่าไหร่ แถมเขายังไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากมังกรผู้อาวุโสได้อีก เขาคิดอยู่พักนึง และพูดออกมา ถ้างั้น ช่วยแนะนำคนที่ช่วยได้มาให้หน่อย
เพทตาลองเงียบไปและจากนั้นเขาก็พูด ถ้างั้นลองไปหาเฟลิน่าดูสิ เธอเป็นเด็กสาวแข็งแรงที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญ เธอเป็นดาวเด่นของพวกหนุ่มสาว และพวกท่านสองคนก็สนิทกันด้วย ท่านดยุค เธอช่วยท่านได้แน่นอนครับ
ลิงค์ยิ่งสับสนขึ้นไปอีก แต่เท่าที่จำได้ ที่นี่มีผู้อาวุโสอยู่ 10 คนไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงไม่แนะนำผู้อาวุโสคนอื่นหล่ะ?
เพทตาลองส่ายหัว ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ท่านดยุค พวกเราก็แก่ๆกันแล้ว ไม่มีแรงทำเรื่องอย่างสงครามได้หรอก ข้าว่าให้พวกคนหนุ่มสาวจัดการจะดีกว่า
โอเคเอางั้นก็ได้ ลิงค์รู้จักเฟลิน่า ในเมื่อเพทตาลองยืนกราน เขาก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
ถ้างั้นฉันขอตัวก่อนนะ
เดี๋ยวก่อนครับ เพทตาลองตะโกนเรียก
หืม?
ท่านดยุคช่วงนี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย และมังกรระดับสูงก็เสียชีวิตไปเยอะ พวกเราเหลือกันอยู่ไม่มาก ตอนนี้ มีไม่ถึง 1,000 คนที่เป็นมังกรเต็มตัว พวกเราไม่สามารถสูญเสียไปได้มากกว่านี้แล้วครับ
พอมาถึงจุดนี้เพทตาลองก็ก้มหัวลงและหลบสายตาของลิงค์ เขาหวังว่าลิงค์จะช่วยลดความสูญเสียของมังกรให้ แต่ในเมื่อปีศาจต้องการจะทำลายรอยแยก มันก็จะต้องเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงอย่างแน่นอน ถ้าพวกเขาต้องการจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตของมังกร พวกเขาก็ต้องใช้มนุษย์แทน
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เรื่องนี้คงจะไม่ใช่ปัญหา แต่ตอนนี้ เฟิร์ดยิ่งใหญ่และเหนือกว่าหุบเขามังกรในทุกๆแง่มุม ด้วยตัวตนของเฟิร์ด ตอนนี้มนุษย์จึงเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่ง เพทตาลองไม่มีความมั่นใจที่จะพูดเรื่องนี้ออกมา
ลิงค์รู้ว่าเขาต้องการจะสื่ออะไรเขาพูดพลางหัวเราะ ผู้อาวุโส ฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถก็แล้วกันนะ
หลังจากนั้นแสงสีขาวก็สว่างวาบขึ้นมา ในตอนที่เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง เขาก็อยู่ที่ประตูหน้าห้องของเฟลิน่าแล้ว เขาเคาะประตู หลังจากนั้นไม่นาน เฟลิน่าก็เปิดประตู
ท่านดยุคมีเรื่องอะไรหรอคะ? เฟลิน่าแต่งกายด้วยชุดเกราะ เกล็ดมังกรสีแดงเข้มเปล่งประกายไปทั่วร่างของเธอ มือของเธอกลายเป็นกรงเล็บมังกร เธอหอบอย่างรุนแรง แก้มของเธอมีสีแดง และหน้าผากของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ดูเหมือนว่าเธอกำลังทำการฝึกอยู่ในห้อง
สภาพของเธอนั้นตรงข้ามกับผู้อาวุโสโดยสิ้นเชิง
ลิงค์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่หุบเขามังกรให้ฟังหลังจากที่ได้ฟัง เฟลิน่าเองก็ถามขึ้นมาอย่างแปลกใจ ท่านดยุค ทำไมท่านถึงมาถามหาความเห็นจากข้าหล่ะ? ท่านควรไปถามจากพวกผู้อาวุโสสิ
ผู้อาวุโสเพทตาลองบอกให้ฉันมาหาเธอหน่ะ ลิงค์ก็คิดว่าแปลกเหมือนกัน เขาไม่เข้าใจเพทตาลองเลย
เฟลิน่าไม่เข้าใจและยักไหล่ ท่านไม่จำเป็นต้องถามข้าหรอก ท่านเป็นดยุค ไม่ว่าท่านจะอยากให้ข้าทำอะไร ท่านแค่สั่งมาก็พอ
สำหรับเฟลิน่าลิงค์เป็นดยุคมังกร ในเมื่อราชินีบาดเจ็บอยู่ ลิงค์จึงเป็นหัวหน้าไปโดยปริยาย ดังนั้นในตอนนี้ คำพูดของเขาก็คือกฏ
ลิงค์ยิ้มแหยงๆเขาเป็นดยุคแค่ชื่อ แต่ว่าตอนนี้มันก็ดูมีเหตุผลเหมือนกัน ซึ่งในตอนนี้เขาไม่สามารถอธิบายให้เฟลิน่าฟังโดยละเอียดได้
แต่แล้วก็ต้องคาดไม่ถึงเฟลิน่าพูดต่อ ท่านดยุค อันที่จริงข้าว่าข้ารู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้อาวุโสบางคนคิดว่าท่านเป็นคนนอกหรือไม่ก็เป็นพรรคพวกแต่ก็ยังไม่ใช่มังกร แต่ข้าคิดว่าพวกเขาคิดผิดนะ ท่านผ่านเขาวงกตหมอกมาได้ด้วยตัวคนเดียวและเป็นที่รู้จักของบรรพบุรุษ แถมท่านยังได้รับร่างมังกรมาแล้วด้วย มันไม่ใช่เรื่องที่เอามาเป็นข้อกังขาเลย! ที่พวกผู้อาวุโสไม่ยอมรับก็เพราะอคติและความเห็นแก่ตัวของพวกเขาเท่านั้นแหล่ะ!
สายตาของเธอมุ่งมั่นมากในตอนที่พูดมันไม่มีความลังเลอยู่เลย เธอตัดสินเรื่องนี้ได้มาตั้งนานแล้ว
ลิงค์ตกใจและคิดอย่างถี่ถ้วน ที่เฟลิน่าพูดมาก็ไม่ผิด แต่ว่าเขายังไม่ได้เป็นดยุคมังกรอย่างถูกต้องตามกฎ มังกรบางคนอาจเข้าใจ แต่มันก็ยังมีส่วนที่คัดค้าน ถ้าเกิดว่าเขาทำตัวเหมือนดยุคด้วยสถานะในตอนนี้ มันจะต้องทำให้เกิดพายุขึ้นภายในเผ่ามังกรอย่างแน่นอน
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็พูดอย่างจริงจัง เฟลิน่า เธอก็น่าจะรู้นะว่าถ้าเกิดฉันทำอย่างที่เธอพูด มันจะทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในหุบเขามังกรอย่างแน่นอน!
แล้วยังไงหล่ะ? เฟลิน่าขยับไปด้านข้างเพื่อให้ลิงค์เข้ามาได้ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เธอก็พูดขึ้นมา ทั้งท่านราชินีและผู้อาวุโสต่างก็ยึดติดกับประเพณีมากเกินไป ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรอก แต่ตอนนี้เผ่ามังกรกำลังย่ำแย่ ถ้าเกิดว่าพวกเราไม่เปลี่ยนแปลง พวกเราอาจจะต้องศูนย์พันธุ์เลยด้วยซ้ำ!
ในอดีตมังกรมีพละกำลังอันน่าหวาดกลัว แต่ว่ายุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว แต่มังกรก็ไม่ได้อ่อนแอลง พวกเขากำลังพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ยังไงก็ตาม เผ่าอื่นๆพัฒนาได้ไวกว่า ยกตัวอย่างเช่น ขุนศึกของมนุษย์สัตว์นั้นสามารถฆ่ามังกรได้ด้วยการโจมตีเดียว เฟิร์ด พวกปีศาจและไฮเอลฟ์ ขุมพลังทั้งหมดนี้ล้วนแข็งแกร่งกว่ามังกร และยังมีอารากู่อีก ถ้าเกิดมีการรวมภพขึ้นจริงๆ เผ่ามังกรคงจะมีสถานะต่ำต้อยกว่านี้อีก
โดยพื้นฐานแล้วอนาคตของเผ่ามังกรนั้นมืดมน พวกเขาจะต้องทำการเปลี่ยนแปลง!
สายตาของเฟลิน่ามักจะเป็นประกายอยู่ตลอดเวลาแต่ว่าตอนนี้พวกมันกำลังลุกโชติช่วง พวกมันดูเหมือนกับบอลเพลิง 2 ลูกที่เปล่งประกายเป็นสีแดงเพลิง เธอพูดด้วยความตื่นเต้น ท่านดยุค พวกมังกรหนุ่มสาวหลายคนรู้สึกเคารพเทิดทูนท่านจริงๆนะ ตราบใดที่เฟิร์ดยอมรับพวกเรา พวกเราก็พร้อมออกมาได้ทันทีเลย
โอเคพอแล้วหล่ะ! หยุดพูดก่อนเถอะ ฉันเข้าใจแล้ว ลิงค์ขัดจังหวะ เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหุบเขามังกรจะมีการแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายอย่างลับๆแบบนี้ด้วย หลังจากที่เงียบไปลิงค์ก็ถาม พวกผู้อาวุโสรู้รึเปล่า?
ตอนนี้เขาลองนึกถึงท่าทีของเพทตาลองดู และหัวใจของเขาก็เต้นแรง พวกผู้อาวุโสจะต้องรู้แน่ๆ แต่ว่าเขาไม่ได้ปฏิเสธหรือเห็นด้วยกับมัน เขาแค่เลือกที่จะอยู่เฉยๆ
เฟลิน่าส่ายหัว พวกเขาไม่รู้ค่ะ แต่ว่ามันไม่สำคัญหรอก มังกรหนุ่มสาวอย่างพวกเราแข็งแกร่งกว่าพวกผู้อาวุโสอยู่แล้ว พวกเขาหยุดพวกเราไม่ได้หรอก
เธอคิดถึงราชินีบ้างรึเปล่า? ลิงค์ถาม
แน่นอนสิคะ เฟลิน่าสงบลงเล็กน้อยและถอนหายใจ เอาจริงๆ มันเป็นเพราะองค์ราชินีนั่นแหละที่ทำให้พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลย โดยเฉพาะในตอนที่พวกท่าน 2 คนทะเลาะกัน แต่ตอนนี้ ปัญหานั้นได้หมดไปแล้ว และพวกเราก็คิดมาดีแล้ว ท่านเป็นดยุคของพวกเรา และพวกเราทุกคนก็เป็นอิสระ พวกเราสามารถเลือกที่จะจงรักภักดีต่อมังกรที่แข็งแกร่งกว่า พวกเราสามารถติดตามท่านและเป็นผู้ติดตามของท่านได้ ไม่มีใครสามารถหยุดพวก แม้แต่องค์ราชินีก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
กลายเป็นผู้ติดตามหรอ?ไม่เลวเลยนี่ แม้ว่ามันจะดูค่อนข้างล้ำเส้นเกินไปหน่อย แต่พวกเขาก็ไม่ได้แตกแยกกันอย่างสมบูรณ์ มันยังพอมีช่องว่างให้แก้ไขได้อยู่
ตอนนี้เหลือแค่ปัญหาเดียวแล้ว นั่นก็คือ เขาควรจะยอมรับความภักดีจากเหล่ามังกรหนุ่มสาวหรือเปล่า? ในระหว่างที่คิด เขาก็ถาม เฟลิน่า มีคนคิดแบบเธออยู่กี่คนหรอ?
เยอะเลยค่ะมังกรหนุ่มสาวส่วนใหญ่คิดแบบนี้กันทั้งนั้น พวกเขามีอยู่อย่างน้อย 300 คน และทุกคนก็มีเลเวลมากกว่า 8 คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือเอโอนิส เขาเกือบจะไปถึงเลเวล 10 แล้ว ถ้าไม่ติดขัดอะไร เขาน่าจะกลายเป็นมังกรระดับตำนานคนใหม่ในอีกครึ่งปีข้างหน้านี้
มีนักรบมังกรเลเวล8 มากกว่า 300 คน ไม่เหมือนกับมนุษย์ มังกรพวกนี้มีความเป็นไปได้ซ่อนเร้นอยู่มากมาย พวกเขามีแนวโน้มที่จะเข้าสู่ระดับตำนานได้และสามารถแข็งแกร่งขึ้นจนถึงเลเวล 16 ได้
มังกรนั้นเป็นชนเผ่าตำนานหลังจากที่ความหนาแน่นของมานาเพิ่มขึ้น ความสามารถพื้นฐานของทุกเผ่าก็เพิ่มขึ้น และมันก็เป็นแบบเดียวกันสำหรับเผ่ามังกร
แต่ว่าปัญหาของพวกเขาก็คือมังกรนั้นมีชีวิตที่ยืนยาวการพัฒนาของพวกเขาจึงค่อนข้างช้ากว่าเผ่าอื่น และด้วยเหตุนั้นเองพวกเขาจึงอ่อนแอกว่าเผ่าอื่นๆในช่วงแรก แต่สำหรับช่วง 10,000 ปีที่ผ่านมานี้ เผ่ามังกรนั้นยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแผ่นดินใหญ่ ซึ่งตอนนี้พวกเขาร่วงลงมาแล้ว มันจึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่พวกมังกรหนุ่มสาวจะรับไม่ได้
แต่ว่านี่มันก็แค่ชั่วคราวในอีก 10 ปีข้างหน้า มังกรหนุ่มสาวพวกนี้น่าจะกลายเป็นระดับตำนานจนหมด ราชินีมังกรแดงเองก็จะไปถึงเลเวล 19 ด้วย ชนเผ่าในตำนานจะกลับไปยืนบนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารอีกครั้ง ตัวเกมได้พิสูจน์เรื่องนี้แล้ว
หรือพูดอีกนัยนึงก็คือสภาพของมังกรในตอนนี้ได้สร้างโอกาสให้ลิงค์มีกลุ่มผู้มีศักยภาพขนาดใหญ่ที่จะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งในอนาคต และโอกาสนี้ก็จะหายไปอย่างรวดเร็วด้วย ดังนั้นแค่บุคคลระดับตำนาน 300 คนก็เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดลิงค์
แต่ถึงแม้ว่าจะโดนดึงดูดสีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไป หลังจากที่เงียบไป เขาก็ทำสีหน้าเจ็บปวด เฟลิน่า เธอน่าจะเห็นแล้วนี่ว่าเฟิร์ดเองก็มีคนที่แข็งแกร่งเหมือนกัน มีคนอย่างน้อย 1,000 คนที่มีเลเวลมากกว่า 8 และ 6 คนที่เป็นระดับตำนาน และในอนาคตมันจะยังเพิ่มขึ้นไปอีก ถ้าเกิดว่าฉันรับพวกเธอทั้งหมดเข้ามา ราชินีจะต้องโกรธแน่ๆ และการตั้งพันธมิตรใหม่ก็จะล้มเหลวตามไปด้วย
ลิงค์เองก็พูดความจริงเหมือนกันก่อนหน้านี้เฟลิน่าได้บินดูรอบๆดินแดนเพื่อดูพละกำลังของเฟิร์ดอย่างคร่าวๆ เธอรู้ศึกเศร้า นี่มังกรมาถึงจุดที่โดนดูถูกและต้องการจะติดตามใครซักคนแล้วหรอ?
แต่ว่าพลังของเฟิร์ดที่พัฒนาขึ้นมาในช่วงเวลาอันสั้นนี้ทั้งหมดล้วนมาจากภาวะผู้นำของลิงค์ในฐานะลอร์ดและลิงค์เองก็ยังถูกจดจำในฐานะนักเวทย์สายต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดในแผ่นดินใหญ่ด้วย มีผู้คนมากมายที่พ่ายแพ้เขา และเฟิร์ดก็ยังเป็นที่รู้จักในชื่อสุสานของผู้แข็งแกร่ง แม้กระทั่งไบรอันผู้โด่งดังก็ยังพ่ายแพ้ที่นี่
มันเป็นสถานที่ที่ผู้คนอยากจะมา
การติดตามบุรุษไร้พ่ายนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเหล่ามังกรหนุ่มสาว
เฟลิน่าเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเธอหัวแข็งและไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
หลังจากที่คิดเธอก็พูดออกมา ท่านดยุค พวกเราจะไม่ทำให้ท่านลำบาก แค่คอยดูเฉยๆก็พอแล้วค่ะ
ลิงค์เป็นห่วงเรื่องพันธมิตรและความรู้สึกของราชินีแต่เฟลิน่าไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหาถ้าเกิดมีเรื่องอะไร เธอสามารถคุยกับราชินีได้
ลิงค์ไม่ได้พูดอะไรณ ตอนนี้ เรื่องมันถูกตัดสินใจไปแล้ว เขาแค่ต้องคอยและปล่อยให้เรื่องไปของมันเอง ถ้าเกิดว่าราชินีมังกรแดงให้ความยินยอม เขาก็จะยอมรับมังกรหนุ่มสาวเหล่านี้มาที่เฟิร์ด แต่ถ้าเกิดว่าเธอปฏิเสธอย่างแข็งขัน เขาก็แค่ต้องใช้กลยุทธ์ที่นุ่มนวลกว่า
แต่ก็แน่นอนว่านี่มันเป็นเรื่องของอนาคตตอนนี้ เรื่องรอยแยกที่เทือกเขาโคโรราโด้สำคัญที่สุด
เขาส่งรายงานให้กับเฟลิน่า พักเรื่องของเธอเอาไว้ก่อนนะ ตอนนี้อ่านเนื้อหาในรายงานแล้วเกณฑ์นักรบที่จะไปเทือกเขาโคโรราโด้ซะ
เฟลิน่ารับคัมภีร์ไปและอ่านอย่างรวดเร็วไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็พูด ไม่มีปัญหาค่ะ ที่นี่มีนักรบหนุ่มสาวอยู่ 8 คน คนที่อ่อนแอที่สุดอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 8 ข้าจะไปเรียกพวกเขามาเดี๋ยวนี้เลย ลิงค์พยักหน้า จำเอาไว้นะอย่าให้องค์ราชินีรู้เรื่องนี้ สภาพร่างกายของเธอยังไม่พร้อม
รับทราบค่ะ เฟลิน่าหันหลังกลับและเดินจากไป ไม่เหมือนกับเพทตาลองที่หมดสภาพ เธอเต็มไปด้วยพลังและทำทุกอย่างด้วยความว่องไว เธอจะทำตามสิ่งที่ตัวเองพูดโดยไม่รอช้า
พอเห็นเธอออกไปลิงค์ก็เริ่มเตรียมตัวเหมือนกัน ไอลีนโนเวล
ขั้นแรกเขาไปหาเอวิเลน่าและเล่าสถานการณ์ให้เธอฟัง จากนั้น เขาก็ฝากให้เธอไปคุยกับราชินีมังกรแดงเพื่อเบี่ยงความสนใจเธอ ต่อมา เขาก็ไปพบผู้บัญชาการเรือเหาะของยับบ้าที่เทือกเขามอดไหม้และใช้สิทธิ์ในการใช้เรือบิน และขั้นสุดท้าย เขาก็รวบรวมคนที่มีเลเวลมากกว่า 8 ในดินแดน พวกเขามีทั้งหมด 300 คน โดยมี 236 คนเป็นนักรบแสงอรุณ และอีก 64 คนเป็นนักเวทย์ในหอคอยเวทมนตร์ที่เพิ่งอัพเลเวลมาใหม่ๆ เขาหามากกว่านี้ไม่ได้แล้วเพราะพวกระดับสูงส่วนใหญ่ถูกส่งไปที่ป้อมโอริด้าตอนก่อนหน้านี้ มีเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่ในดินแดน
คนพวกนี้ไม่ได้มีงานสำคัญหลังจากที่ได้รับคำสั่งจากลิงค์ พวกเขาก็รีบไปที่ชานเมืองฝั่งตะวันตกของเทือกเขามอดไหม้อย่างเงียบๆ
ประมาณ20 นาทีต่อมา นานะ เหล่านักเวทย์ นักรบแสงอรุณ และนักรบมังกรทั้ง 8 คนก็มารวมตัวกันครบ ในครั้งนี้ เซลีนได้ขอเข้าร่วมกับกองกำลังชั่วคราวนี้ด้วยและลิงค์ก็อนุญาต
หลังจากนั้นไม่นานก็เกิดเสียงดังขึ้นในอากาศ ทุกคนหันไปดูและเห็นเรือเหาะของยับบ้ากำลังบินมาอย่างช้าๆ
เรือเหาะนี้มีชื่อว่า เมืองลอยฟ้า มันเป็นสุดยอดเรือที่พึ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในปีนี้ มันมีความยาว 100 ฟุต และจุคนได้กว่า 500 คน มันสามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วกว่า3,000 ไมล์ต่อชั่วโมง มันเร็วยิ่งกว่ามังกรเสียอีก ด้วยความเร็วระดับนี้ พวกเขาจะไปถึงเทือกเขาโคโรราโด้ได้ภายในเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
คนขับเรือก็คือเมอร์ลินคนที่ลิงค์รู้จักดี หลังจากที่เห็นลิงค์เขาก็ทำความเคารพในทันที ลอร์ด ทุกอย่างเรียบร้อยครับ พวกเราพร้อมออกเดินทางได้ทุกเมื่อ!
ลิงค์พยักหน้า หลังจากที่ทุกคนขึ้นกันครบก็ออกเดินทางกันได้เลย ขั้นแรก ให้ค่อยๆบินไปทางใต้ หลังจากผ่านไป 60 ไมล์ค่อยเปลี่ยนทิศทางไปที่รอยแยกมิติที่เทือกเขาโคโรราโด้นะ
ในตอนที่เขาพูดอยู่ๆเขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง พอหันไปทางเทือกเขามอดไหม้ สายตาผิดมนุษย์มนาของเขาก็ทำให้เขาเห็นเพทตาลองที่กำลังยืนอยู่ข้างหน้าต่างและมองมาทางเขา บางทีอาจเป็นเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาของลิงค์ เขาจึงหันหนีไปและดึงผ้าม่านมาปิด ลิงค์มีความคิดนึงผุดขึ้นมาบางทีการติดตามเฟิร์ดอาจจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ภายในเผ่ามังกร บางทีการคัดค้านของมังกรหนุ่มสาวอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่าที่ฉันคิดก็ได้นะ
นี่เป็นข่าวที่ดีแต่ว่าลิงค์ต้องใจเย็นเข้าไว้ เขามองดูและรอต่อไปอย่างใจเย็น
ผู้เข้าร่วมทุกคนนั้นทั้งแข็งแกร่งและรวดเร็วภายในเวลา 5 นาที ทุกคนก็ประจำที่แล้ว
กริ๊งกริ๊ง ภายใต้เสียงกระดิ่งอันสดใส เมืองลอยฟ้าก็ลอยขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นมันก็เร่งความเร็วขึ้นและทำตามคำสั่งของลิงค์ มันไปทางใต้ก่อน 5 นาทีต่อมา มันก็บินไปได้ 60 ไมล์ หลังจากนั้นลิงค์ก็ใส่พลังของเขาและเรือเหอะก็เร็วขึ้น มันเข้าโค้งอย่างสวยงามกลางอากาศและมุ่งไปทางเทือกเขาโคโรราโด้
ในตอนที่มันออกเดินทางชายหญิงคู่หนึ่งที่สวมชุดนักพเนจรก็มองมันอยู่ที่ชานเมือง
พวกเขาคือฮามิลตันกับโนอาพวกเขาได้เดินทางลงใต้และมาถึงเมื่อ 5 วันก่อน มอร์เดน่าได้บอกให้พวกเขาสืบเรื่องหนังสือแห่งการรังสรรค์แต่ว่าพวกเขาไม่อยากเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงเพื่อไฮเอลฟ์ ดังนั้นในช่วง 5 วันมานี้พวกเขาจึงแค่เรร่อนไปมาที่เขตนอกเมือง
แต่โดยที่ไม่ได้คาดคิดความเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็เกิดขึ้น
เธอเห็นเขารึเปล่า? ฮามิลตันถาม
โนอาพยักหน้า เห็น เขาคือลอร์ดเฟิร์ด และเขาก็ไปทางใต้กับคนจำนวนมาก พวกเขาน่าจะไปกันหลายวัน ใช่มั้ย?
ฮามิลตันหัวเราะ นี่เป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจะเข้าไปตรวจสอบเฟิร์ด ใช่ ข้าคิดว่าท่านนักบุญจะต้องสนใจโครงสร้างพลังงานภายในแน่ๆ ถ้าเกิดว่าพวกเราโชคดี พวกเราอาจจะได้ชิ้นส่วนของมันมาด้วย และนั่นก็จะต้องเป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน ฮี่ฮี่
พวกเขาไม่ได้มาฟิรุแมนเพื่อช่วยไฮเอลฟ์กลับกัน พวกเขาคือทหารรับจ้าง ในเมื่อพวกเขาไม่สามารถหยุดการรวมภพได้ นักบุญก็ต้องการให้ฟิรุแมนเป็นดินแดนใหม่ของลัทธิเพลิง และถ้าพวกเขาอยากจะทำอย่างนั้น พวกเขาก็ต้องทำความคุ้นเคยกับเฟิร์ดที่ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของฟิรุแมนก่อน
อย่าดูถูกพวกมันหล่ะ โนอาเตือน ยังมีบุคคลที่แข็งแกร่งอีกหลายคนคอยปกป้องเมืองนี้อยู่
ข้ารู้ไม่ต้องห่วงหน่า แค่บทเรียนที่ป่าทมิฬก็มากพอแล้ว ฮามิลตันส่ายหัวของเขาด้วยความรำคาญ เขาไม่ได้โง่
ในตอนที่พวกเขาพูดพวกเขาก็เดินไปทางเทือกเขามอดไหม้
ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่หุบเขาหญ้า 100 ไมล์จากเทือกเขาโคโรราโด้ เจ้าคิดว่าพวกมันจะมาถึงเมื่อไหร่? คนพูดคือนักเวทย์ มีแสงสีดำที่หนาแน่นมากปกคลุมตัวเขาอยู่ คทาของเขาเปล่งแสงสีม่วงเข้มออกมาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาเผาไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงสีแดงเข้ม
เขาคือกลินปีศาจโลหิตทมิฬ เขาคือผู้บัญชาการปีศาจของภารกิจนี้ ในนรก เขาเป็นลูกน้องคนสำคัญของโนโซม่า ด้วยความที่เป็นนักเวทย์ปีศาจหายาก เขาจึงแข็งแกร่งมาก แม้ว่าจะถูกฟิรุแมนจำกัดพลังเอาไว้ แต่เขาก็ยังคงมีเลเวล 13
มือของเขาไม่ได้หยุดในตอนที่พูดพวกมันกำลังสร้างผนึกเวทมนตร์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นากาที่ยืนอยู่ข้างเขาคือนักบวชโมลิน่า
โมลิน่าเงียบไปพักนึงจากนั้นเธอก็พูด คงใช้เวลาไม่นานหรอก นายท่านเห็นพวกมันแล้ว
เธอเร่งเสียงของเธอขึ้น เร็วเข้า พวกเราไม่ค่อยมีเวลาแล้วนะ!
เสียงของเธอได้กระตุ้นนักเวทย์ที่อยู่ข้างๆพวกเขาเพิ่มความเร็วขึ้นมาก ที่พื้น ผนึกเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่ลากผ่านภูเขานั้นกำลังถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว