Advent of the Archmage - 623: จอมลวงโลก
Chapter
ในตอนที่พาพิอาสเซ่กลับมาถึงบ้านของเขา,เซลีนก็เดินมาเปิดประตูให้ในทันที ในระหว่างทาง, ลิงค์ได้ใช้เวทย์โทรจิตรอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ฟังแล้ว, ดังนั้นเธอจึงเก็บปืนของตัวเองและรีบเปลี่ยนเป็นชุดลำลอง แถมเธอยังเอาผลไม้กับเครื่องดื่มมาเตรียมไว้ให้แขกบนโต๊ะกลมที่อยู่ในห้องนั่งเล่นด้วย
ยินดีต้อนรับค่ะ,คุณพิอาสเซ่ เธอพูดเชื้อเชิญเขาด้วยรอยยิ้ม
พิอาสเซ่รู้ถึงตัวตนของเซลีนดีและรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนที่จัดการได้ง่ายๆเหมือนหน้าตาสัมผัสถึงอันตรายอย่างรุนแรงเมื่อก่อนหน้านี้น่าจะมาจากเธอ
ด้วยการยิ้มแหยๆ,พิอาสเซ่ก็ตามลิงค์เข้าไปในห้องนั่งเล่น
บ้านของลิงค์นั้นใหญ่โตนักเวทย์มังกรแดงออกแบบบ้านหลังนี้เพื่อเขาโดยเฉพาะ ในห้องนั่งเล่นนั้นเปิดกว้างและมีแสงส่องเข้ามาอย่างทั่วถึงพร้อมกับมีโต๊ะกลมแนววินเทจตั้งอยู่ตรงกลาง
ลิงค์นั่งลงแล้วส่งสัญญาณบอกให้พิอาสเซ่นั่ง
หลังจากที่พิอาสเซ่นั่งลงเรียบร้อยแล้ว,นานะก็มานั่งข้างๆเขา เธอดูผ่อนคลาย, แต่มือของเธอก็ไม่เคยผละออกมาจากด้ามดาบเลย เซลีนเข้ามานั่งข้างๆลิงค์, และจ้องมองสิ่งมีชีวิตผิวสีน้ำเงินด้วยความสนใจ
ลิงค์ไม่ปล่อยให้เสียเวลาเขายื่นมือออกมา, แล้วเลื่อนน้ำมะม่วงอุ่นๆไปทางพิอาสเซ่โดยไม่มีเสียง มาเริ่มกันที่พื้นเพของนายกันเถอะ
พิอาสเซ่รับเครื่องดื่มแล้วซดเข้าไปหนึ่งจิบจากนั้น, เขาก็สงบสติอารมณ์ของตัวเองแล้วเริ่มนึกย้อนกลับไป
ครึ่งนาทีต่อมา,เขาก็พูด ข้ามาจากภพโอเมียร์ จริงๆแล้วมันอยู่ไม่ไกลจากฟิรุแมนหรอก มีภพเล็กๆคั่นกลางอยู่ไม่กี่ภพ ด้วยเหตุผลบางอย่าง, ตอนนี้เผ่าของข้ามองข้าเป็นคนทรยศและอยากจะประหารข้า ในช่วงเวลาสุดท้ายนั้น, มีหนึ่งในนักเรียนของข้าแอบบุกเข้ามาในคุกและปลดปล่อยข้า ซึ่งข้าก็ได้แอบมาขึ้นเรือที่ข้าสร้างขึ้นมาอย่างลับๆและหนีออกมาจากโอเมียร์ ในตอนที่ข้ากำลังจะหนีอยู่นั้น, ข้าเห็นนักเรียนของข้าถูกจับกับตาตัวเอง ข้ายังจับเสียงร้องด้วยความสิ้นหวังของเขาได้อยู่เลย…เห้อ…
ด้วยการถอนหายใจ,พิอาสเซ่ก็กระดกน้ำผลไม้เข้าไปเสมือนกับเป็นเหล้า เขาดื่มจนหมดแก้วและลิงค์ก็ส่งให้เขาอีกแก้วนึง
พิอาสเซ่พูดต่อ พอหนีออกมาจากโอเมียร์แล้ว, ข้าก็เหมือนกับหมาจรจัดไร้บ้าน ข้าซ่อนตัวและหนีไปทั่วความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุด คนของข้าไม่เคยยอมตัดใจและยังคงตามล่าข้าอยู่ ข้าถูกบังคับให้เร่ร่อนไปเรื่อยๆ ซึ่งเวลาในความว่างเปล่านั้นไม่มีการไหลเวียน, ดังนั้นข้าจึงไม่รู้เลยว่ามันผ่านมานานเท่าไหร่แล้วจนข้าบังเอิญเข้ามาถึงฟิรุแมนเมื่อหนึ่งปีก่อน พอเล่ามาถึงจุดนี้,เขาก็มองลิงค์แล้วหัวเราะอย่างขมขื่น ข้าแค่อยากอยู่ที่นี่ซักพักนึงเพื่อฟื้นพลังให้เรือท่องความว่างเปล่าของข้าก่อนที่จะออกเดินทางต่อ, แต่ข้ากลับถูกโลกใบนี้ดึงดูด ที่นี่เหมือนกับโอเมียร์มาก ครั้งแรกที่ข้าเห็นที่นี่, ข้ารู้สึกเหมือนตัวเองได้กลับบ้านเลย ภูเขา, ต้นไม้, ใบหญ้า, และสายน้ำทุกอย่างนั้นล้วนให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกประหลาด, ดังนั้นข้าก็เลยยังไม่ไปไหน ข้าวางแผนที่จะอยู่ที่นี่สักสองสามปีก่อนที่จะจากไป
เขาดื่มน้ำมะม่วงเข้าไปอีกครั้งนี้, เขาค่อยๆลิ้มรสชาติของมัน หลังจากที่ซดไปอีกหนึ่งจิบ, เขาก็ยิ้มให้ลิงค์ มีเครื่องดื่มที่คล้ายๆแบบนี้ในบ้านเกิดของข้าด้วยนะ มันเรียกว่าไวน์โอฟลาวเวอร์ ข้าเคยเกลียดไวน์แบบนี้ ข้าจิบมันแค่นิดเดียวในตอนที่เข้างานสังคม, แต่ตอนนี้…หึหึ, ข้ารู้สึกว่ามันอร่อยยังไงไม่รู้สิ
พอดื่มเข้าไปอีกหนึ่งจิบ,เขาก็พูดกับลิงค์ ลอร์ด, เรื่องราวของข้าไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นหรอก ข้าใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆเหมือนกับหนู ถ้าอยากรู้อะไรอีกก็ถามมาได้เลย ข้าจะพยายามตอบอย่างเต็มที่
เรื่องราวของพิอาสเซ่นั้นไม่มีอะไรพิเศษเขาก็เป็นแค่อาชญากรหลบหนี แต่ว่าเรื่องมันคงจะไม่ได้ง่ายแบบนั้นจริงๆหรอก
ลิงค์เคาะโต๊ะในขณะที่พูด นายเคยเดินทางไปกี่ภพแล้ว?
ไม่เยอะนะ,แค่สามภพเอง และพวกมันก็เป็นแค่ภพเล็กๆ แต่มีที่นึงที่ข้าพอใช้ชีวิตอยู่ได้, ข้าก็เลยอยู่ที่นั่นเป็นเวลาประมาณครึ่งปีก่อนที่จะจากมา
นายบอกว่าคนของนายกำลังไล่ล่านายอยู่,นายก็เลยจำใจต้องเร่ร่อนไปทั่ว ลิงค์พูดต่อ แต่นายก็หนีมาได้ไกลระดับนึงและมันก็ผ่านมานานพักนึงแล้วนะ ค่าใช้จ่ายในการตามล่านายในทะเลแห่งความว่างเปล่ามันไม่สูงเกินไปหน่อยหรอ?
ค่าใช้จ่ายในการไล่ล่าคนๆนึงนั้นเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากรางวัลหลังจากที่ฆ่าเขาได้ถ้าคนของโอเมียร์ยังคงไล่ล่าอยู่, มันก็หมายความว่าตัวตนของพิอาสเซ่นั้นไม่ใช่ธรรมดา ในภพโอเมียร์, เขาต้องเป็นพวกระดับสูงอย่างแน่นอน
พอได้ยินคำถามนี้,พิอาสเซ่ก็ตกอยู่ในความเงียบ เขาจับแก้วคริสตัลด้วยความกังวล หลังจากที่ผ่านไปพักใหญ่ๆ, เขาก็พูดออกมา โอเมียร์เป็นภพที่มีความก้าวหน้าทางด้านการเดินทางระหว่างภพ ในตอนที่ข้าหนีมา, อีกฝ่ายตามหลังเรือของข้ามาติดๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้, ข้าได้พัฒนาเรือท่องความว่างเปล่าของข้าอยู่เรื่อยๆ, แต่โอเมียร์ก็กำลังพัฒนาเหมือนกัน ความสำเร็จของพวกเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย…แต่ก็แน่นอนว่า, ค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นยังคงสูงอยู่ดี, และพวกเขาก็ต้องจ่ายอย่างมหาศาล ที่พวกเขาไล่ล่าข้าอย่างไม่ยอมลดละนั้นก็เพราะ…เพราะว่าเอ่อ…ลอร์ดครับ, ข้าคิดว่าข้าคงต้องอธิบายสถานการณ์ของโอเมียร์ให้ฟังก่อน ไอรีนโนเวล
ว่ามา ลิงค์ตั้งใจฟัง สายตาของพิอาสเซ่เต็มไปด้วยความคิดถึง ภพที่ข้าจากมานั้นเคยสงบสุข ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุข; และดินแดนก็อุดมสมบูรณ์ โลกเต็มไปด้วยมานาสะอาด, เหมือนกับฟิรุแมน, แต่ก็ไม่เหมือนกับฟิรุแมน, พวกเราไม่ได้พัฒนาเวทย์ทำลายล้างที่มีผลเป็นวงกว้าง ส่วนใหญ่พวกเราสนใจแค่การฝึกฝนวิญญาณ พวกที่มีความรู้ในเวทย์วิญญาณจะรู้จักกันในชื่อผู้ท่องวิญญาณ
ผู้ท่องวิญญาณหรอ?ฟังดูน่าสนใจนะ
พิอาสเซ่พยักหน้า ในหมู่ผู้ท่องวิญญาณ, จะมีคนที่ประสบความสำเร็จมากๆจนได้รับความเคารพยกย่องจากคนอื่น พวกเขาสามารถกลายเป็นครูสอนวิญญาณได้ ในตอนที่ข้าอยู่โอเมียร์, มีครูสอนวิญญาณอยู่สามคน หนึ่งในนั้นก็คือข้า
หืม ลิงค์รู้สึกสนใจ พูดอีกนัยนึงก็คือ, นายเป็นหนึ่งในผู้นำทั้งสามคนของโอเมียร์สินะ
ไม่ใช่ผู้นำ…เอาเถอะจะว่างั้นก็ได้ถ้าข้าคิดจะทำอะไร, ก็จะมีหลายคนที่ติดตามข้า พิอาสเซ่พยักหน้า
ในอีกด้านนึง,เซลีนไม่สามารถเก็บความสงสัยของตัวเองเอาไว้ได้ ฉันอยากรู้จังเลยว่าอะไรที่ทำให้นายถูกคิดว่าเป็นคนทรยศและโดนไล่ล่ามาจนถึงทุกวันนี้
ขะข้า… พิอาสเซ่มีสีหน้าที่เจ็บปวด เขากำหมัด, คลายออก, และจากนั้นก็กำหมัดอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่า, คำพูดของเซลีนจี้ใจดำเขา
ถ้ารู้สึกลำบากใจที่จะพูด,เขียนเอาก็ได้นะ ลิงค์พูด ฉันรู้ว่าคำถามนี้มันค่อนข้างลึกเกินไปหน่อย, แต่พวกเราต้องเข้าใจทุกอย่างเพราะนายโดนตามล่าอยู่ ก่อนหน้านี้นายพูดเอาไว้นี่ว่าพวกเขาอันตรายมาก ถ้านายถูกจับได้, จะไม่ได้มีแค่นายคนเดียวหรอกนะที่ได้รับผลกระทบ ฟิรุแมนเองก็จะโดนไปด้วย
พิอาสเซ่ถอนหายใจ ท่านพูดถูก, ลอร์ด ข้าอาจจะนำภัยพิบัติมาให้ฟิรุแมนจริงๆ เผ่าของข้าไม่ได้สงบสุขเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พวกเขาต่างก็กลายเป็นหุ่นเชิดของความมืด, และทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของข้าเอง!
ตอนนี้,พิอาสเซ่ดื่มแก้วที่สองหมดแล้ว เหมือนกับกำลังดื่มเพื่อระบายปัญหาของเขา, ตอนนี้เขาพูดออกมาหมดเลย ในระหว่างการฝึกวิญญาณ, สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการทำสมาธิ ในฐานะครูสอนวิญญาณ, ข้าทำสมาธิแทนการหลับในตอนกลางคืน ในห้วงสมาธิ, วิญญาณของพวกเราจะเป็นอิสระ, และสายตาของพวกเราก็จะเปิดกว้างด้วย, ซึ่งนี่จะทำให้พวกเราสามารถเดินทางในทะเลแห่งความว่างเปล่าได้อย่างอิสระ แต่ถึงจะเป็นอิสระ, มันก็ยังอันตรายมากนะ ทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นไร้ที่สิ้นสุด, ถ้าไปไกลเกินไป, วิญญาณก็อาจจะหลงทางได้ มันมีกฏห้ามเอาไว้อยู่ว่าอย่าจมดิ่งเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่ามากเกินไป, แต่ถึงอย่างนั้นมันก็คือสิ่งที่ข้าทำ ในระหว่างการเดินทางของข้า, ข้าบังเอิญพบตัวตนที่แข็งแกร่งมากๆคนนึง, ตัวตนนั้นมีชื่อว่าโนโซม่า…
โนโซม่าหรอ? ลิงค์ตัวแข็งทื่อ เซลีนเองก็ประหลาดใจ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินชื่อของพ่อตัวเองจากนักเดินทางข้ามภพคนนี้
พิอาสเซ่ยิ้มอย่างขมขื่น ใช่แล้ว, เจ้านรกโนโซม่านั่นแหล่ะ ตอนนั้นข้าไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของเขา สิ่งที่เห็นได้ด้วยดวงตาวิญญาณนั้นมีจำกัด ในการทำสมาธิ, ข้าเห็นโนโซม่าเป็นสุภาพบุรุษคนนึง เสียงของเขานุ่มนวลและชัดเจน คำพูดของเขามีเหตุผลและเป็นระบบ หลายความเห็นของเขาตรงกับของข้า ซึ่งนั่นจึงทำให้พวกเรากลายเป็นเพื่อนกัน
พอมาถึงจุดนี้,เส้นเลือดเวทมนตร์บนใบหน้าสีฟ้าของเขาก็ปูดขึ้นมา เขากัดฟัน, และแก้วคริสตัลในมือก็สั่น
ขะข้า… เขาอ้าปากพยายามจะพูดอีกครั้ง, แต่เสียงของเขาก็หายไป เขากระแอมเบาๆและควบคุมสติอารมณ์ของตัวเองก่อนที่จะพูดต่อ ข้าไม่คิดเลยว่าการกระทำของข้าจะนำพาภัยพิบัติมาสู่เผ่าพันธุ์ของตัวเอง เขาโกหกข้า, ข้าเป็นคนพาเขาเข้าไปในโลกด้วยตัวเอง, และภัยพิบัติก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันนั้น…ในตอนที่ข้าหนีออกมาได้, มีชาวโอเมียร์เกินครึ่งตกอยู่ใต้การควบคุมของโนโซม่าแล้ว
พอได้ยินแบบนี้,ลิงค์กับเซลีนก็มองหน้ากัน พ่อของฉะ… เซลีนพึมพำ ไอ้ปีศาจนั่นปลอมตัวได้เก่งขนาดนั้นเลยหรอ?
ลิงค์นึกย้อนกลับไปถึงครั้งแรกที่เขาเห็นโนโซม่าตอนที่อยู่ในเกมส์ตอนนั้นเขาอยู่ในที่ราบข้างนอกป้อมปีศาจ พันธมิตรได้รวมพลังกันในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับกองทัพแห่งความมืดในตอนที่โนโซม่าปรากฎตัวขึ้น
ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาจะมีหน้าตาแบบนั้นเขามีผมสีดำ, ผ้าคลุมสีดำ, และใบหน้าอันหล่อเหลาที่ดูอบอุ่นนิดๆ น้ำเสียงของเขานุ่มนวลและน่าฟัง ถ้าเขาไม่ได้ยืนอยู่ฝั่งกองทัพแห่งความมืดและควบคุมพวกปีศาจ, ก็คงจะไม่มีใครคิดว่าเขาเป็นคนที่น่ากลัวมากๆคนนึง
หลังจากนั้น,ลิงค์ก็จำได้ว่ามันคือคราบของโนโซม่า เขาไม่ได้เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงจนกว่าจะถึงตอนที่ได้สู้กันจริงๆ สรุปเลยก็คือ,ถ้าโนโซม่าพยายามจะหลอกใครซักคน, มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก การที่พิอาสเซ่ถูกหลอกนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลย
พอมาถึงจุดนี้,ลิงค์ก็มองพิอาสเซ่ ในอนาคตนายคิดจะทำยังไงต่อ?