Advent of the Archmage - 632 เข้าสู่ทะเลแห่งความว่างเปล่า
Chapter
อ้ากก!!!มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น
มันดังมาจากหอคอยสีครามหน้าตาแปลกประหลาดมีปีศาจสองตัวยืนอยู่ที่ทางเข้าหอคอยพวกมันหัวเราะอยู่ด้วยกัน และมีหนึ่งในพวกมันที่เลียปากของตัวเองด้วย
“มาสเตอร์ไอลอทกำลังเล่นสนุกอีกแล้วดูเหมือนว่าของเล่นของเขาเองก็ดูจะเพลิดเพลินกับมันนะ”
มันเป็นแบบนี้มานานกว่า3 เดือนแล้ว ในทุกๆวัน ครูสอนแห่งความมืด ไอลอทจะนำเอาชาวโอเมียร์มาทรมานเป็นเวลา 10 ชั่วโมง
นักโทษชาวโอเมียร์นั้นจะเข้าหอคอยมาแบบครบ32 และไม่มีบาดแผลบนตัวเลย
บางคนเป็นคนอวบหรือคนขาวด้วยยังไงก็ตามหลังจากผ่านการทรมานไป 10 ชั่วโมง ชาวโอเมียร์ทุกคนก็จะกลายเป็นกองเนื้อบด
ตอนนี้หอคอยเต็มไปด้วยกองเนื้อชาวโอเมียร์บดและดูเหมือนว่าพวกปีศาจจะชอบมันซะด้วย
อ้าก!!!เสียงร้องดังมาจากหลังกำแพงอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงอ้อนวอนอย่างอ่อนแรง “ข้าจะพูด ข้าจะพูดแล้ว ไอลอท หยุดเถอะ ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างแล้ว!”
ชั้นแรกของหอคอยเป็นห้องโถงวงกลมซึ่งเป็นจุดที่เสียงร้องดังออกมาชาวโอเมียร์ที่มีผิวสีน้ำเงินเข้มสบัดมือของเขา และเพชฌฆาตปีศาจที่กำลังทำร้ายเหยื่อก็ออกไปจากห้องโถงในทันที
ชาวโอเมียร์ที่ว่านี้ก็คือไอลอท3 เดือนที่แล้ว เขาเป็นครูสอนวิญญาณที่ได้รับความเคารพจากชาวโอเมียร์ทุกคน แต่ตอนนี้ เขาเป็นครูสอนแห่งความมืดของโนโซม่า
ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำที่มุมนึงของห้องโถงกลมมีแท่นทรมานที่มีชาวโอเมียร์เพศหญิงถูกห้อยให้เลือดไหลอยู่ เลือดได้ไหลทะลักออกมาจากปากแผลของเธอก่อนที่จะหยดลงมาถึงพื้น เสียงเลือดหยดนั้นน่ากลัวพอที่จะทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกขนลุกซู่ได้เลย
และที่อีกฝั่งของห้องก็มีกรงขังอยู่มีชาวโอเมียร์ที่สวมชุดธรรมดา 10 คนถูกขังอยู่ในนั้น มีชายหนุ่มคนนึงกำลังคุกเข่าอยู่ เขาจ้องไปที่ชาวโอเมียร์หญิงที่อยู่บนแท่น ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยน้ำตา “ปล่อยเธอไปเถอะ ไอลอท แล้วข้าจะบอกทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้!”
สีหน้าของไอลอทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง“เจ้าไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต่อรองอะไรได้หรอกนะ”
หลังจากที่พูดจบเขาก็กำมือ และก็มีแส้สีน้ำเงินเข้มโผล่ขึ้นมาในมือของเขาในทันที ด้วยการเหวี่ยงอย่างรุนแรง เขาก็ฟาดแส้ใส่ผู้หญิงที่ถูกห้อยอยู่ตรงแท่นที่ห่างจากไอลอทไป 10 ฟุต หลังจากที่โดนฟาด หญิงสาวที่แทบจะหมดสติไปแล้วก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างทรมาน
เพี้ยะ!แส้กลับมาหาไอลอท มีซี่เหล็กเรียงกันอยู่ตามแนวยาวของแส้ ทุกครั้งที่ฟาด ซี่เหล็กพวกนี้ก็จะฝังลงไปในผิวหนังของเหยื่อ และมันจะดึงชิ้นเนื้อออกมาด้วยทุกครั้งที่มันกลับมาที่มือของผู้ใช้
หญิงสาวที่อยู่บนแท่นร้องออกมาอีกครั้งแต่ในครั้งนี้ เสียงของเธออ่อนแอและไร้ซึ่งความมีชีวิต นักโทษที่อยู่ในคุกต่างก็พากันตัวสั่น น้ำตาของชายหนุ่มไหลออกมามากกว่าเดิมเนื่องจากเขาทำได้แค่ทนมองภาพอันน่าหวาดกลัวนี้
ในตอนที่เห็นความร้ายแรงของบาดแผลและปริมาณเลือดที่เธอเสียไปชายหนุ่มก็รู้แล้วว่าหญิงสาวคนนี้หมดปัญญาช่วยแล้ว
“ไม่นะ!ไม่! ไอลอท หยุดเถอะ!” ชายหนุ่มตะโกนจากในกรง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธแค้นที่กำลังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ไอลอทมองมาที่เขาและพูด“เดลิน ข้ากำลังจะฆ่าน้องสาวของเจ้า และคนต่อไปที่จะโดนแขวนบนแท่นนี้ก็คือพ่อของเจ้า ข้าจะเก็บแม่ของเจ้าเอาไว้เป็นคนสุดท้าย พิอาสเซ่เป็นอาจารย์ของเจ้า แต่ตอนนี้เขาคือคนที่ถูกหมายจับ แถมเขายังหนีไปแล้วอีก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเจ้าก็ยังยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องเขาอย่างงั้นหรอ?”
เดลินได้รับการฝึกเวทย์วิญญาณมาอย่างเข้มงวดการบังคับดึงข้อมูลมาจากวิญญาณของเขานั้นจะทำให้จิตใจของเขาพังทลาย และไอลอทก็จะไม่ได้อะไรจากเขาเลย
เขาคงจะไม่ต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากขนาดนี้ถ้าเกิดว่ามันมีวิธีที่ทำให้เดลินพูดได้ง่ายกว่านี้
ตอนนี้เดลินคุกเข่าอยู่กับพื้นจิตใจของเขาห่อเหี่ยวมาก เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง ขอแค่อย่างเดียว, ช่วยทำให้พวกเราตายจากไปอย่างสบายๆทีเถอะ ได้โปรดอย่าทรมานพวกเราอีกเลย”
“เอางั้นก็ได้”ไอลอทพูดพร้อมพยักหน้า ยังไงซะเขาก็คิดว่าการที่ต้องมาทรมานคนอื่นทุกวันมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออยู่แล้ว
หนึ่งชั่วโมงต่อมาศพของชาวโอเมียร์10คนก็ถูกแบกออกมาจากหอคอยสีครามและถูกโยนไปตรงทางเดินที่ทอดยาวมายังทางเข้าของหอคอย จากนั้นพวกปีศาจก็รีบวิ่งเข้ามาฉีกศพออก พวกเขาฉีกเนื้อออกจากกระดูกจนสะอาดเกลี้ยง
ในหอคอยไอลอทยังคงนั่งอยู่ที่บัลลังก์ของเขาโดยไม่ขยับไปไหน เขากำลังหลับตาอยู่ ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้หลับจริงๆ แต่เขากำลังทำสมาธิในแบบที่ชาวโอเมียร์ฝึกฝนกัน
ตามปกติร่างกายภาพของเขายังคงอยู่ในภพนี้ แต่ว่าวิญญาณของเขาได้เข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าแล้ว
ทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยพลังงานการที่วิญญาณเปล่าๆเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก ซึ่งคนที่จะทำแบบนั้นได้จะต้องมีทักษะพิเศษเพื่อให้ท่องเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้มีเพียงแค่ 3….ไม่สิ 2คนเท่านั้นในภพโอเมียร์ที่สามารถทำเรื่องแบบนั้นได้ เส้นวิญญาณสีทองของไอลอทหนาแน่นไปด้วยหมอกมานาสีขาวข้างในเงามืดของทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นมีวังวนพลังงาน, หลุมพลังงานเชิงลบ และสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าหลบซ่อนอยู่ แต่ว่าไอลอทก็สามารถหลบมันได้หมด ครึ่งชั่วโมงต่อมา โลกสีแดงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
จากระยะไกลสิ่งนั้นดูเหมือนกับฟองเล็กๆที่อยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทร ยังไงก็ตาม ในตอนที่เขาเข้าไปใกล้ โลกสีแดงนั้นก็มีขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากที่ว่ายไปหามันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ฟองเล็กๆก็ขยายออกเป็นโลกใบใหญ่ มันบดบังทัศนวิสัยของไอลอทไปจนหมด
ไอลอทเดินทางผ่านฟองอากาศอย่างเชี่ยวชาญเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงและหลังจากนั้นไม่นานก็มีน้ำวนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา โดยที่ไม่ลังเล เขาพุ่งเข้าไปที่ใจกลางของน้ำวน
ภายในใจกลางของน้ำวนนั้นเป็นอุโมงค์ยาวแสงสีแดงอ่อนส่องออกมาจากกำแพงของน้ำวน ไอลอทว่ายไปข้างหน้าต่อเรื่อยๆ และแสงรอบๆกำแพงนั้นก็สร้างภาพหลอนขึ้นมามากมาย ในบางครั้งมันก็เป็นรูปหัวกะโหลกหัวเราะ ในบางครั้งมันก็เป็นรูปสัตว์ที่กำลังคำราม และมีแม้กระทั่งรูปยักษ์ที่กำลังฉีกคนแคระออกเป็นชิ้นๆด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ดูแปลกตาสำหรับไอลอท
20นาทีผ่านไป ในที่สุดไอลอทก็มาถึงปลายอุโมงค์ มีลูกบอลแสงสีแดงเข้มอยู่ข้างหน้า ไอลอทเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งผ่านแสงนั้นไป
หลังจากนั้นสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปไม่กี่วินาทีต่อมา ภาพหลอกแปลกๆก็หายไปด้วย และเหลืออยู่แค่ห้องโถงโล่งๆ
ห้องโถงถูกสร้างขึ้นจากพื้นเรียบๆไร้สิ้นสุดมันไม่มีกำแพงอยู่เลย มันมีแค่เสาทรงกลมที่คอยประคองมันเข้าด้วยกัน มีทรายถูกพัดมาตามลม ทองฟ้าเป็นสีแดงฉาน และมีดวงอาทิตย์ลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว มันส่องแสงสีแดงอ่อนลงมาที่พื้น และมีเงาของปีศาจที่สูงตระหง่านกำลังเดินเอื่อยเฉื่อยอย่างไร้จุดหมายอยู่ที่เส้นขอบฟ้า นอกจากนี้สายลมยังนำพาเสียงกรีดร้องที่ไม่เหมือนกับมนุษย์มายังดินแดนรกร้างแห่งนี้ด้วย
ภายในความมืดมีเสียงที่นุ่มนวลและสุขุมดังออกมาจากความว่างเปล่า “ไอลอท ที่เจ้าถ่อมาถึงที่นี่แสดงว่ามีข่าวดีมาให้ข้าสินะ?”
ไอลอทมองหาที่มาของเสียงจากนั้นสายตาของเขาก็ไปหยุดที่กองกระดูกที่มีรูปร่างคล้ายกับบัลลังก์ที่อยู่ตรงปลายสุดของห้องโถงโล่งๆ กระดูกนั้นมีสีดำสนิทและส่วนใหญ่ก็เป็นหัวกระโหลก แถมที่เบ้าตาของพวกมันยังส่องแสงสีแดงน่ากลัวออกมา
คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นเป็นชายวัยกลางคนผมของเขามีสีเงิน และมีเส้นผมสีขาวแซมอยู่เหนือหน้าผากของเขา จากมุมมองของชาวโอเมียร์ ชายคนนี้งดงามอย่างไร้ที่ติ ดวงตาของเขาเป็นสีดำเหมือนกับเวลากลางคืน ยังไงก็ตาม พวกมันเปล่งประกายด้วยความกระหายเลือดที่ทำให้ผู้สบตารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมองดูแม่น้ำลาวาที่กำลังเดือดอยู่ในนรก
ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมที่งดงามพร้อมกับลายปักสีทองเขามองมาที่ไอลอท มือข้างนึงของเขากำลังประคองใบหน้าส่วนนึงอยู่ มีรอยยิ้มอ่อนๆเผยออกมาที่มุมปากของเขา
เขาคือจ้าวนรกโนโซม่า!
ในพื้นที่รกร้างนี้เขาดูแปลกประหลาดโดยสิ้นเชิงถ้าตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก เขาดูเหมือนกับมาสเตอร์ชาวมนุษย์ที่ถูกขับไล่ออกมายังส่วนลึกของนรกแต่ว่ายังไม่ถึงส่วนที่ลึกที่สุด
ในตอนแรกคงไม่มีใครคิดหรอกว่าเขาเป็นจ้าวนรกที่มีชื่อเสียงอันฉาวโฉ่
ยังไงก็ตามไอลอทรู้ว่าเขากำลังคุยกับใครอยู่ เขาทำความเคารพให้ชายวัยกลางคนในทันทีและพูดออกมา “มาสเตอร์ครับ ข้าได้สอบปากคำลูกศิษย์ของพิอาสเซ่ทุกคนแล้ว แม้ว่าข้าจะได้ข้อมูลจากพวกมันมาแค่น้อยนิด แต่ข้าก็สามารถระบุพิกัดของคนที่ท่านกำลังตามหาอยู่ได้ นี่คือคำบอกเล่าของพวกมันครับ เชิญดูได้เลย”
จากนั้นเขาก็ส่งลูกบอลแสงสีดำให้กับโนโซม่า
โนโซม่ารับมันไปหลังจากที่สัมผัสมันอยู่พักนึง ใบหน้าอันไร้ที่ติของเขาก็ฉีกยิ้มออกมา “ทำได้ดีมาก ไอลอท”
จากนั้นเขาก็แบมืออกซึ่งมันเกิดหมอกแสงที่หนาทึบขึ้นมา หมอกนั้นแข็งตัวขึ้นเป็นเส้นความมืดและก็ลอยออกไปจากห้องโถงผ่านทางมุมที่อยู่ห่างไกลของพื้นที่รกร้าง
ไม่กี่นาทีต่อมาฝุ่นก็ลอยขึ้นมาที่เส้นขอบฟ้า ปีศาจทุกรูปแบบและทุกขนาดมารวมตัวกันที่ห้องโถงจากทุกสารทิศด้วยความเร็วสูงสุด
จำนวนของปีศาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วครึ่งชั่วโมงต่อมา ปีศาจประมาน 3,000 ตัวก็มารวมตัวกันที่ห้องโถง ไอลอทสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าปีศาจนั้นทรงพลังแค่ไหน พวกมันทุกตัวอยู่ระดับตำนานทั้งหมด พวกที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันนั้นมีเลเวล 15
การที่เห็นปีศาจระดับตำนาน3,000 ตัวมารวมกันในที่ที่เดียวคงจะทำให้ใครก็ตามที่เห็นรู้สึกสิ้นหวังได้ ไอลอทรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขากำลังสั่นไหวในตอนที่เห็นภาพนี้
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าทุกคนตอบสนองการเรียกตัวของเขาโนโซม่าก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและสุขุม
“ไอลอทกลับไปที่โอเมียร์และให้ไมซินเตรียมเรือท่องความว่างเปล่าซะ กองทัพปีศาจของข้าจะไปไล่ล่าพวกมันเอง”
“ครับมาสเตอร์” ไอลอทตอบอย่างถ่อมตัว ไมซินคือหนึ่งในสามครูสอนวิญญาณของโอเมียร์ ทักษะในการสร้างเรือท่องความว่างเปล่าของเขาเป็นรองแค่พิอาสเซ่เท่านั้น
จิตใจของโนโซม่ามุ่งหวังที่จะได้รับของรางวัลปีศาจของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ปีศาจทั้งสามพันตัวก็ขึ้นไปบนเรือท่องความว่างเปล่าที่มีลักษณะเหมือนแผ่นดิสก์ขนาดใหญ่ มานาไหลเข้าไปในวงจรของเรือท่องความว่างเปล่าและเรือทั้งลำก็ส่งเสียงออกมาอย่างมีชีวิตชีวา
“ออกเดินทางได้!”โนโซม่าสั่ง
เรือท่องความว่างเปล่าพุ่งเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าเหมือนกับปลาวาฬตัวใหญ่ที่กำลังดำลงไปในส่วนลึกของมหาสมุทร
ในตอนนั้นเองที่ภพฟิรุแมนลิงค์ก็ได้แปลงร่างเป็นมังกรดำ ร่างมังกรของเขานั้นตัวใหญ่มาก ปีกของเขามีขนาดกว่า 100 ฟุต เกล็ดมังกรสีดำเงินของเขาสะท้อนแสงอาทิตย์ไปทั้งลำตัว
ตัวเขานั้นแทบจะบดบังดวงอาทิตย์ได้เลยในตอนที่เขากางปีกออก
มังกรแดงทุกตัวในเฟิร์ดต่างก็มองราชามังกรดำของพวกเขาอย่างตกตะลึงในสังคมของมังกร ขนาดนั้นเท่ากับพลัง มันผ่านมานานกว่า 30,000 ปีแล้วที่มังกรที่แข็งแกร่งแบบลิงค์ปรากฏตัวขึ้นในหมู่พวกเขา หลังจากทำการดัดแปลงที่จำเป็นกับร่างมังกรแล้วเขาก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า 5,000 ฟุตด้วยการกระพือปีกอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว ร่างของเขาก็ค่อยๆหายลับฟ้าไปจนในที่สุดมันก็หายไปจากสายตา
เขาเองก็เข้าไปที่ทะเลแห่งความว่างเปล่าเหมือนกัน
อ้ากก!!!มีเสียงกรีดร้องดังขึ้น
มันดังมาจากหอคอยสีครามหน้าตาแปลกประหลาดมีปีศาจสองตัวยืนอยู่ที่ทางเข้าหอคอยพวกมันหัวเราะอยู่ด้วยกัน และมีหนึ่งในพวกมันที่เลียปากของตัวเองด้วย
“มาสเตอร์ไอลอทกำลังเล่นสนุกอีกแล้วดูเหมือนว่าของเล่นของเขาเองก็ดูจะเพลิดเพลินกับมันนะ”
มันเป็นแบบนี้มานานกว่า3 เดือนแล้ว ในทุกๆวัน ครูสอนแห่งความมืด ไอลอทจะนำเอาชาวโอเมียร์มาทรมานเป็นเวลา 10 ชั่วโมง
นักโทษชาวโอเมียร์นั้นจะเข้าหอคอยมาแบบครบ32 และไม่มีบาดแผลบนตัวเลย
บางคนเป็นคนอวบหรือคนขาวด้วยยังไงก็ตามหลังจากผ่านการทรมานไป 10 ชั่วโมง ชาวโอเมียร์ทุกคนก็จะกลายเป็นกองเนื้อบด
ตอนนี้หอคอยเต็มไปด้วยกองเนื้อชาวโอเมียร์บดและดูเหมือนว่าพวกปีศาจจะชอบมันซะด้วย
อ้าก!!!เสียงร้องดังมาจากหลังกำแพงอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงอ้อนวอนอย่างอ่อนแรง “ข้าจะพูด ข้าจะพูดแล้ว ไอลอท หยุดเถอะ ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่างแล้ว!”
ชั้นแรกของหอคอยเป็นห้องโถงวงกลมซึ่งเป็นจุดที่เสียงร้องดังออกมาชาวโอเมียร์ที่มีผิวสีน้ำเงินเข้มสบัดมือของเขา และเพชฌฆาตปีศาจที่กำลังทำร้ายเหยื่อก็ออกไปจากห้องโถงในทันที
ชาวโอเมียร์ที่ว่านี้ก็คือไอลอท3 เดือนที่แล้ว เขาเป็นครูสอนวิญญาณที่ได้รับความเคารพจากชาวโอเมียร์ทุกคน แต่ตอนนี้ เขาเป็นครูสอนแห่งความมืดของโนโซม่า
ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์สีดำที่มุมนึงของห้องโถงกลมมีแท่นทรมานที่มีชาวโอเมียร์เพศหญิงถูกห้อยให้เลือดไหลอยู่ เลือดได้ไหลทะลักออกมาจากปากแผลของเธอก่อนที่จะหยดลงมาถึงพื้น เสียงเลือดหยดนั้นน่ากลัวพอที่จะทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกขนลุกซู่ได้เลย
และที่อีกฝั่งของห้องก็มีกรงขังอยู่มีชาวโอเมียร์ที่สวมชุดธรรมดา 10 คนถูกขังอยู่ในนั้น มีชายหนุ่มคนนึงกำลังคุกเข่าอยู่ เขาจ้องไปที่ชาวโอเมียร์หญิงที่อยู่บนแท่น ดวงตาของเขาแดงก่ำไปด้วยน้ำตา “ปล่อยเธอไปเถอะ ไอลอท แล้วข้าจะบอกทุกอย่างที่เจ้าอยากรู้!”
สีหน้าของไอลอทยังคงไม่เปลี่ยนแปลง“เจ้าไม่ได้อยู่ในจุดที่จะต่อรองอะไรได้หรอกนะ”
หลังจากที่พูดจบเขาก็กำมือ และก็มีแส้สีน้ำเงินเข้มโผล่ขึ้นมาในมือของเขาในทันที ด้วยการเหวี่ยงอย่างรุนแรง เขาก็ฟาดแส้ใส่ผู้หญิงที่ถูกห้อยอยู่ตรงแท่นที่ห่างจากไอลอทไป 10 ฟุต หลังจากที่โดนฟาด หญิงสาวที่แทบจะหมดสติไปแล้วก็ส่งเสียงร้องออกมาอย่างทรมาน
เพี้ยะ!แส้กลับมาหาไอลอท มีซี่เหล็กเรียงกันอยู่ตามแนวยาวของแส้ ทุกครั้งที่ฟาด ซี่เหล็กพวกนี้ก็จะฝังลงไปในผิวหนังของเหยื่อ และมันจะดึงชิ้นเนื้อออกมาด้วยทุกครั้งที่มันกลับมาที่มือของผู้ใช้
หญิงสาวที่อยู่บนแท่นร้องออกมาอีกครั้งแต่ในครั้งนี้ เสียงของเธออ่อนแอและไร้ซึ่งความมีชีวิต นักโทษที่อยู่ในคุกต่างก็พากันตัวสั่น น้ำตาของชายหนุ่มไหลออกมามากกว่าเดิมเนื่องจากเขาทำได้แค่ทนมองภาพอันน่าหวาดกลัวนี้
ในตอนที่เห็นความร้ายแรงของบาดแผลและปริมาณเลือดที่เธอเสียไปชายหนุ่มก็รู้แล้วว่าหญิงสาวคนนี้หมดปัญญาช่วยแล้ว
“ไม่นะ!ไม่! ไอลอท หยุดเถอะ!” ชายหนุ่มตะโกนจากในกรง ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความโกรธแค้นที่กำลังเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ
ไอลอทมองมาที่เขาและพูด“เดลิน ข้ากำลังจะฆ่าน้องสาวของเจ้า และคนต่อไปที่จะโดนแขวนบนแท่นนี้ก็คือพ่อของเจ้า ข้าจะเก็บแม่ของเจ้าเอาไว้เป็นคนสุดท้าย พิอาสเซ่เป็นอาจารย์ของเจ้า แต่ตอนนี้เขาคือคนที่ถูกหมายจับ แถมเขายังหนีไปแล้วอีก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเจ้าก็ยังยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องเขาอย่างงั้นหรอ?”
เดลินได้รับการฝึกเวทย์วิญญาณมาอย่างเข้มงวดการบังคับดึงข้อมูลมาจากวิญญาณของเขานั้นจะทำให้จิตใจของเขาพังทลาย และไอลอทก็จะไม่ได้อะไรจากเขาเลย
เขาคงจะไม่ต้องทำให้เรื่องมันยุ่งยากขนาดนี้ถ้าเกิดว่ามันมีวิธีที่ทำให้เดลินพูดได้ง่ายกว่านี้
ตอนนี้เดลินคุกเข่าอยู่กับพื้นจิตใจของเขาห่อเหี่ยวมาก เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบา “ข้าจะบอกเจ้าทุกอย่าง ขอแค่อย่างเดียว, ช่วยทำให้พวกเราตายจากไปอย่างสบายๆทีเถอะ ได้โปรดอย่าทรมานพวกเราอีกเลย”
“เอางั้นก็ได้”ไอลอทพูดพร้อมพยักหน้า ยังไงซะเขาก็คิดว่าการที่ต้องมาทรมานคนอื่นทุกวันมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออยู่แล้ว
หนึ่งชั่วโมงต่อมาศพของชาวโอเมียร์10คนก็ถูกแบกออกมาจากหอคอยสีครามและถูกโยนไปตรงทางเดินที่ทอดยาวมายังทางเข้าของหอคอย จากนั้นพวกปีศาจก็รีบวิ่งเข้ามาฉีกศพออก พวกเขาฉีกเนื้อออกจากกระดูกจนสะอาดเกลี้ยง
ในหอคอยไอลอทยังคงนั่งอยู่ที่บัลลังก์ของเขาโดยไม่ขยับไปไหน เขากำลังหลับตาอยู่ ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้หลับจริงๆ แต่เขากำลังทำสมาธิในแบบที่ชาวโอเมียร์ฝึกฝนกัน
ตามปกติร่างกายภาพของเขายังคงอยู่ในภพนี้ แต่ว่าวิญญาณของเขาได้เข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าแล้ว
ทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นเต็มไปด้วยพลังงานการที่วิญญาณเปล่าๆเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก ซึ่งคนที่จะทำแบบนั้นได้จะต้องมีทักษะพิเศษเพื่อให้ท่องเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้มีเพียงแค่ 3….ไม่สิ 2คนเท่านั้นในภพโอเมียร์ที่สามารถทำเรื่องแบบนั้นได้ เส้นวิญญาณสีทองของไอลอทหนาแน่นไปด้วยหมอกมานาสีขาวข้างในเงามืดของทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นมีวังวนพลังงาน, หลุมพลังงานเชิงลบ และสัตว์ประหลาดแห่งความว่างเปล่าหลบซ่อนอยู่ แต่ว่าไอลอทก็สามารถหลบมันได้หมด ครึ่งชั่วโมงต่อมา โลกสีแดงก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา
จากระยะไกลสิ่งนั้นดูเหมือนกับฟองเล็กๆที่อยู่ในส่วนลึกของมหาสมุทร ยังไงก็ตาม ในตอนที่เขาเข้าไปใกล้ โลกสีแดงนั้นก็มีขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากที่ว่ายไปหามันเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง ฟองเล็กๆก็ขยายออกเป็นโลกใบใหญ่ มันบดบังทัศนวิสัยของไอลอทไปจนหมด
ไอลอทเดินทางผ่านฟองอากาศอย่างเชี่ยวชาญเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงและหลังจากนั้นไม่นานก็มีน้ำวนปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา โดยที่ไม่ลังเล เขาพุ่งเข้าไปที่ใจกลางของน้ำวน
ภายในใจกลางของน้ำวนนั้นเป็นอุโมงค์ยาวแสงสีแดงอ่อนส่องออกมาจากกำแพงของน้ำวน ไอลอทว่ายไปข้างหน้าต่อเรื่อยๆ และแสงรอบๆกำแพงนั้นก็สร้างภาพหลอนขึ้นมามากมาย ในบางครั้งมันก็เป็นรูปหัวกะโหลกหัวเราะ ในบางครั้งมันก็เป็นรูปสัตว์ที่กำลังคำราม และมีแม้กระทั่งรูปยักษ์ที่กำลังฉีกคนแคระออกเป็นชิ้นๆด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ดูแปลกตาสำหรับไอลอท
20นาทีผ่านไป ในที่สุดไอลอทก็มาถึงปลายอุโมงค์ มีลูกบอลแสงสีแดงเข้มอยู่ข้างหน้า ไอลอทเร่งความเร็วขึ้นและพุ่งผ่านแสงนั้นไป
หลังจากนั้นสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาก็เปลี่ยนไปไม่กี่วินาทีต่อมา ภาพหลอกแปลกๆก็หายไปด้วย และเหลืออยู่แค่ห้องโถงโล่งๆ
ห้องโถงถูกสร้างขึ้นจากพื้นเรียบๆไร้สิ้นสุดมันไม่มีกำแพงอยู่เลย มันมีแค่เสาทรงกลมที่คอยประคองมันเข้าด้วยกัน มีทรายถูกพัดมาตามลม ทองฟ้าเป็นสีแดงฉาน และมีดวงอาทิตย์ลอยอยู่อย่างโดดเดี่ยว มันส่องแสงสีแดงอ่อนลงมาที่พื้น และมีเงาของปีศาจที่สูงตระหง่านกำลังเดินเอื่อยเฉื่อยอย่างไร้จุดหมายอยู่ที่เส้นขอบฟ้า นอกจากนี้สายลมยังนำพาเสียงกรีดร้องที่ไม่เหมือนกับมนุษย์มายังดินแดนรกร้างแห่งนี้ด้วย
ภายในความมืดมีเสียงที่นุ่มนวลและสุขุมดังออกมาจากความว่างเปล่า “ไอลอท ที่เจ้าถ่อมาถึงที่นี่แสดงว่ามีข่าวดีมาให้ข้าสินะ?”
ไอลอทมองหาที่มาของเสียงจากนั้นสายตาของเขาก็ไปหยุดที่กองกระดูกที่มีรูปร่างคล้ายกับบัลลังก์ที่อยู่ตรงปลายสุดของห้องโถงโล่งๆ กระดูกนั้นมีสีดำสนิทและส่วนใหญ่ก็เป็นหัวกระโหลก แถมที่เบ้าตาของพวกมันยังส่องแสงสีแดงน่ากลัวออกมา
คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์นั้นเป็นชายวัยกลางคนผมของเขามีสีเงิน และมีเส้นผมสีขาวแซมอยู่เหนือหน้าผากของเขา จากมุมมองของชาวโอเมียร์ ชายคนนี้งดงามอย่างไร้ที่ติ ดวงตาของเขาเป็นสีดำเหมือนกับเวลากลางคืน ยังไงก็ตาม พวกมันเปล่งประกายด้วยความกระหายเลือดที่ทำให้ผู้สบตารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังมองดูแม่น้ำลาวาที่กำลังเดือดอยู่ในนรก
ชายคนนั้นสวมเสื้อคลุมที่งดงามพร้อมกับลายปักสีทองเขามองมาที่ไอลอท มือข้างนึงของเขากำลังประคองใบหน้าส่วนนึงอยู่ มีรอยยิ้มอ่อนๆเผยออกมาที่มุมปากของเขา
เขาคือจ้าวนรกโนโซม่า!
ในพื้นที่รกร้างนี้เขาดูแปลกประหลาดโดยสิ้นเชิงถ้าตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก เขาดูเหมือนกับมาสเตอร์ชาวมนุษย์ที่ถูกขับไล่ออกมายังส่วนลึกของนรกแต่ว่ายังไม่ถึงส่วนที่ลึกที่สุด
ในตอนแรกคงไม่มีใครคิดหรอกว่าเขาเป็นจ้าวนรกที่มีชื่อเสียงอันฉาวโฉ่
ยังไงก็ตามไอลอทรู้ว่าเขากำลังคุยกับใครอยู่ เขาทำความเคารพให้ชายวัยกลางคนในทันทีและพูดออกมา “มาสเตอร์ครับ ข้าได้สอบปากคำลูกศิษย์ของพิอาสเซ่ทุกคนแล้ว แม้ว่าข้าจะได้ข้อมูลจากพวกมันมาแค่น้อยนิด แต่ข้าก็สามารถระบุพิกัดของคนที่ท่านกำลังตามหาอยู่ได้ นี่คือคำบอกเล่าของพวกมันครับ เชิญดูได้เลย”
จากนั้นเขาก็ส่งลูกบอลแสงสีดำให้กับโนโซม่า
โนโซม่ารับมันไปหลังจากที่สัมผัสมันอยู่พักนึง ใบหน้าอันไร้ที่ติของเขาก็ฉีกยิ้มออกมา “ทำได้ดีมาก ไอลอท”
จากนั้นเขาก็แบมืออกซึ่งมันเกิดหมอกแสงที่หนาทึบขึ้นมา หมอกนั้นแข็งตัวขึ้นเป็นเส้นความมืดและก็ลอยออกไปจากห้องโถงผ่านทางมุมที่อยู่ห่างไกลของพื้นที่รกร้าง
ไม่กี่นาทีต่อมาฝุ่นก็ลอยขึ้นมาที่เส้นขอบฟ้า ปีศาจทุกรูปแบบและทุกขนาดมารวมตัวกันที่ห้องโถงจากทุกสารทิศด้วยความเร็วสูงสุด
จำนวนของปีศาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วครึ่งชั่วโมงต่อมา ปีศาจประมาน 3,000 ตัวก็มารวมตัวกันที่ห้องโถง ไอลอทสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าปีศาจนั้นทรงพลังแค่ไหน พวกมันทุกตัวอยู่ระดับตำนานทั้งหมด พวกที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันนั้นมีเลเวล 15
การที่เห็นปีศาจระดับตำนาน3,000 ตัวมารวมกันในที่ที่เดียวคงจะทำให้ใครก็ตามที่เห็นรู้สึกสิ้นหวังได้ ไอลอทรู้สึกได้ว่าวิญญาณของเขากำลังสั่นไหวในตอนที่เห็นภาพนี้
หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าทุกคนตอบสนองการเรียกตัวของเขาโนโซม่าก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนและสุขุม
“ไอลอทกลับไปที่โอเมียร์และให้ไมซินเตรียมเรือท่องความว่างเปล่าซะ กองทัพปีศาจของข้าจะไปไล่ล่าพวกมันเอง”
“ครับมาสเตอร์” ไอลอทตอบอย่างถ่อมตัว ไมซินคือหนึ่งในสามครูสอนวิญญาณของโอเมียร์ ทักษะในการสร้างเรือท่องความว่างเปล่าของเขาเป็นรองแค่พิอาสเซ่เท่านั้น
จิตใจของโนโซม่ามุ่งหวังที่จะได้รับของรางวัลปีศาจของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ไม่นานนัก ปีศาจทั้งสามพันตัวก็ขึ้นไปบนเรือท่องความว่างเปล่าที่มีลักษณะเหมือนแผ่นดิสก์ขนาดใหญ่ มานาไหลเข้าไปในวงจรของเรือท่องความว่างเปล่าและเรือทั้งลำก็ส่งเสียงออกมาอย่างมีชีวิตชีวา
“ออกเดินทางได้!”โนโซม่าสั่ง
เรือท่องความว่างเปล่าพุ่งเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าเหมือนกับปลาวาฬตัวใหญ่ที่กำลังดำลงไปในส่วนลึกของมหาสมุทร
ในตอนนั้นเองที่ภพฟิรุแมนลิงค์ก็ได้แปลงร่างเป็นมังกรดำ ร่างมังกรของเขานั้นตัวใหญ่มาก ปีกของเขามีขนาดกว่า 100 ฟุต เกล็ดมังกรสีดำเงินของเขาสะท้อนแสงอาทิตย์ไปทั้งลำตัว
ตัวเขานั้นแทบจะบดบังดวงอาทิตย์ได้เลยในตอนที่เขากางปีกออก
มังกรแดงทุกตัวในเฟิร์ดต่างก็มองราชามังกรดำของพวกเขาอย่างตกตะลึงในสังคมของมังกร ขนาดนั้นเท่ากับพลัง มันผ่านมานานกว่า 30,000 ปีแล้วที่มังกรที่แข็งแกร่งแบบลิงค์ปรากฏตัวขึ้นในหมู่พวกเขา หลังจากทำการดัดแปลงที่จำเป็นกับร่างมังกรแล้วเขาก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า 5,000 ฟุตด้วยการกระพือปีกอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว ร่างของเขาก็ค่อยๆหายลับฟ้าไปจนในที่สุดมันก็หายไปจากสายตา
เขาเองก็เข้าไปที่ทะเลแห่งความว่างเปล่าเหมือนกัน