Advent of the Archmage - 633 เขากำลังมองหาความตาย
Chapter
ทางเหนือป่าทมิฬ
ครืดครืด ครืด มันคือเสียงเดินในหิมะ พวกดาร์คเอลฟ์กำลังวิ่งลุยหิมะในป่า
เขาวิ่งไปทางเหนือยิ่งเขาวิ่งไปไกลเท่าไหร่ ต้นไม้ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นและหิมะก็หนาขึ้นตามด้วย ในตอนที่เขาผ่านยอดเขาไป ที่ราบน้ำแข็งอันเย็นเฉียบก็ปรากฏขึ้น ในระยะไกลออกไป มีป้อมปราการที่สร้างขึ้นจากกระดูกอยู่ มันคือป้อมโครงกระดูกของกองทัพแห่งการทำลาย
ดาร์กเอลฟ์ยังคงวิ่งต่อไปและไปถึงประตูอย่างรวดเร็ว
“จงบอกชื่อเสียงเรียงนามของเจ้ามา!”นากาสองคนเอาอาวุธไขว้กันและขวางทางดาร์กเอลฟ์เอาไว้
“ข้าชื่อเฟรอนเป็นผู้บัญชาการของมือแห่งความตาย ข้ามีข้อมูลที่สำคัญมาแจ้งให้กับองค์หญิง!”
ดาร์กเอลฟ์แสดงสัญลักษณ์ของเขาให้ดูและได้รับอนุญาติให้ผ่านทางได้
เฟรอนวิ่งต่อไปจนไปถึงห้องโถงหลักตรงนี้เขาลดความเร็วลงและจัดเสื้อผ้าของเขา จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและเข้าไปในห้องโถง
ที่นี่มีคนอยู่ไม่เยอะเท่าไหร่บัลลังก์โครงกระดูกที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันนั้นตั้งอยู่ที่สุดทางของห้อง
เจ้าหญิงเอลลี่ที่ส่วมชุดผ้าโปร่งกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์และกำลังฟังนายพลรายงานอยู่
เฟรอนมองดูรูปร่างอันไร้ที่ติของเจ้าหญิงแล้วหัวใจเต้นแรงเขารีบก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะมองเธอไปมากกว่านี้ อันที่จริงแล้ว เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารายงานด้วยตัวเองแบบนี้ ยังไงก็ตาม เขามักจะมารายงานข่าวสำคัญเพื่อให้ได้มาพบกับเจ้าหญิงอยู่ตลอด และครั้งนี้ก็เช่นกัน เจ้าหญิงดาร์กเอลฟ์เอลลี่ดานาสนั้นมีความสามารถมากและมีออร่าที่แข็งแกร่ง แถมเธอยังสวยอย่างไร้ที่ติอีก ดาร์กเอลฟ์หลายคนเรียกเธอว่า “กุหลาบแสงดาวใต้แสงจันทร์” มีคนหนุ่มมากมายตกหลุมรักเธอ แถมยังมีไฮเอลฟ์หลายคนที่ได้รับอิทธิพลจากเธอและทรยศเกาะรุ่งอรุณมาเข้าร่วมกับกองทัพแห่งการทำลายเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆเธอด้วย
เสียงของเธอนั้นอ่อนหวานและนุ่มนวลแต่ก็มีความหยาบคายแฝงอยู่เล็กน้อยมันเป็นเอกลักษณ์มากๆ
เฟรอนรู้สึกได้ว่าความเหนื่อยล้าของเขาหายไปหมดเลยในตอนที่ได้ยินเสียงสวรรค์นี้ถ้าเขาสามารถจูบ ไม่สิ นั่นมันเป็นการดูหมิ่น
เจ้าหญิงจะต้องกลายเป็นราชินีในอนาคตอย่างแน่นอนและสามีของเธอก็จะต้องเป็นขุนนาง เธอคงไม่มีธุระกับคนธรรมดาอย่างเขาหรอก เขาจะคิดเกินเลยไม่ได้
ในตอนที่เขากำลังคิดเรื่องไร้สาระอยู่นั้นเองเสียงก็ดังมาจากบัลลังก์
“เฟรอนข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีข่าวสำคัญจากทางใต้อย่างงั้นหรอ?”
เสียงนั้นทำให้เฟรอนหลุดออกจากห้วงความคิดของเขาเขาเงยหน้าขึ้นมาและคุกเข่าลงข้างนึงในทันที จากนั้นเขาก็หยิบคัมภีร์หนังแกะออกมา
“องค์หญิงนี่คือข่าวจากสายลับทางใต้ครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฟิร์ด”
“หืมเฟิร์ดหรอ?” ยูจิน (เจ้าหญิงเอลลี่) สนใจมันในทันที เธอยื่นมือออกมา และคัมภีร์ก็ลอยไปหาเธอ หลังจากที่อ่านมัน เธอก็ทำหน้าไม่พอใจ
คัมภีร์นั้นระบุเอาไว้ว่าลอร์ดเฟิร์ดได้รักษารอยแยกมิติที่เทือกเขาโคโรราโด้ได้อย่างสมบูรณ์แล้วเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับความนับถืออย่างมาก เขาแต่งงานกับราชินีมังกรแดง และหลังจากนั้นไม่นาน ราชินีก็ก้าวลงมาจากบัลลลังก์ และลิงค์ก็ขึ้นเป็นราชาของเหล่ามังกรแทน พวกมังกรได้เข้าร่วมกับเฟิร์ด มีมังกรสีดำตัวใหญ่น่ากลัวปรากฏตัวขึ้นที่เฟิร์ด แต่ว่าตัวตนที่แท้จริงของมันนั้นยังไม่มีใครรู้
ยูจินรู้ได้ในทันทีว่ามังกรดำตัวนั้นเป็นใคร!
แค่ช่วงสั้นๆพลังกับอำนาจของเขาก็เพิ่มขึ้นมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเราจะเอาชนะได้ยังกันงถ้าเกิดว่ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป? ยูจินทำได้แค่กังวล
ก่อนที่จะมาเป็นผู้บัญชาการของกองทัพแห่งการทำลายยูจินรู้สึกมั่นใจในตัวเองมาก เธอมักจะคิดว่าลิงค์กับเฟิร์ดนั้นไม่ได้พิเศษอะไรขนาดนั้น แต่หลังจากที่ได้รับตำแหน่งและเริ่มคุ้นเคยกับการเมือง เธอก็รู้สึกไร้ทางสู้
ต้องยอมรับเลยว่ากองทัพแห่งการทำลายนั้นแข็งแกร่งยังไงก็ตาม พลังของมันก็อยู่ที่จุดสูงสุดแล้ว พวกเขาไม่สามารถพัฒนาเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะหลังจากที่รอยแยกของมิติได้รับการฟื้นฟูแล้ว ภพจะเสถียรและสมบูรณ์มากขึ้น มันจะเป็นเรื่องยากที่นากาหรือปีศาจจะเข้ามาในภพนี้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ การที่รักษาระดับของกองทัพได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขยายอำนาจไปมากกว่านี้
ในอีกด้านนึงมนุษย์นั้นมีประชากรมากกว่า 200 ล้านคน ถ้าเกิดว่ารวมมังกรเข้าไปด้วย พวกเขาก็จะมีมังกรเพิ่มอีกเป็นล้านและนักสู้ที่แข็งแกร่งอีกมากมาย ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือนักรบชาวมนุษย์ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว กองทัพแสงอรุณของเฟิร์ดนั้นสามารถต่อสู้กับพวกปีศาจได้แล้ว
ถ้ายิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อนานกว่านี้มันก็จะยิ่งแย่ขึ้นไปอีก ในอีกไม่นาน ป่าทมิฬก็อาจจะไม่สามารถหยุดมนุษย์ได้ ข้าจะทำยังไงดี? ยูจีนขมวดคิ้วของเธอ
ตอนนี้เธอกำลังสำนึกผิดกับการกระทำก่อนหน้านี้ ถ้าเกิดว่าเธอรู้ว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เธอคงจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับพวกไฮเอลฟ์หรอก แต่ก็โชคไม่ดีที่ความสำนึกผิดนั้นช่วยอะไรไม่ได้ยูจินคิดไปเรื่อยๆแต่ก็ไม่สามารถหาวิธีดีๆที่จะหยุดพวกมนุษย์ได้เลย ในตอนที่เธอกำลังหงุดหงิดอยู่นั้นเอง โมลิน่าก็เดินเข้ามา ดูจากสีหน้าของเธอแล้ว เธอคงมีเรื่องบางอย่างมารายงาน
ยูจีนเข้าใจและพูดออกมา“เฟรอน ข้าเข้าใจแล้ว ทำงานได้ดีมาก ไปพักเถอะ”
“ครับองค์หญิง” เฟรอนเงยขึ้นมามองเจ้าหญิงอีกครั้ง เขาไม่อยากจะออกไป
“พวกเจ้าทุกคนออกไปได้แล้ว”ยูจีนพูด “ตอนนี้ข้ารู้สึกเหนื่อย ข้าอยากจะพักผ่อนซักหน่อย”
“ขอรับ องค์หญิง”
ทุกคนออกไปจากห้องเหลือแค่ยูจินกับโมลิน่า
“นักบวชมีอะไรหรอ?” ยูจีนมองโมลิน่า
โมลิน่าพยักหน้า“มีเรื่องสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับลอร์ดเฟิร์ดค่ะ” ยูจินยักไหล่ด้วยความรู้สึกโกรธ“อะไรอีกหล่ะ? อย่าบอกข้านะว่าเขาจะแต่งงานกับเจ้าหญิงไฮเอลฟ์ซักคนนึงแล้วเกาะรุ่งอรุณก็จะเข้าร่วมกับเฟิร์ด?”
“อะไรนะคะ?แต่งงาน? กับเกาะรุ่งอรุณเนี่ยนะคะ?” โมลิน่ายังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ยูจีนส่งคัมภีร์ให้เธอ“ดูเองก็แล้วกัน”
หลังจากอ่านเนื้อหาโมลิน่าก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน สถานการณ์มันยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าเธอก็ตั้งสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอชี้ไปที่คัมภีร์และพูด “ราชามังกรดำก็คือลิงค์ค่ะ”
“ข้ารู้แล้วข้าเคยเห็นเขาที่หุบเขามังกร” ยูจินสบัดมือในขณะที่พูด
“แต่ว่าข้ารู้ด้วยนะว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่เฟิร์ดพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ เขาไม่ได้อยู่ในฟิรุแมนค่ะ!” โมลิน่าพูดต่อ
“อะไรนะ?”ยูจีนยืนขึ้น ข่าวนี้น่าตกใจเกินไป “เจ้ารู้ได้ยังไง? เทพของเจ้าเป็นคนบอกมาอย่างงั้นหรอ?” “ใช่ค่ะ”โมลิน่าพยักหน้า “เจ้านายของข้ารู้สึกได้ถึงการกระเพื่อมของบาเรียแห่งภพและก็ได้ข้อสรุปหลังจากที่เพิ่มความละเอียดในการสังเกตค่ะ เขากำลังไล่ตามลอร์ดเฟิร์ดอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่า ครั้งนี้เขาได้ตายจริงๆแน่!”
“เยี่ยมเลย!”ยูจินอุทาน “ลิงค์ไม่ยอมอยู่ในภพและกล้าที่จะเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่า นี่เขาอยากรนหาที่ตายขนาดนั้นเลยหรอ!?”
“เจ้านายของข้าบอกว่าลอร์ดเฟิร์ดไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงอีกต่อไปแล้วเขานำปาฏิหาริย์มาให้กับพวกเรา เขาอยากให้พวกเราใช้โอกาสนี้ในการทะลวงป้อมโอริด้าและเดินทางลงใต้ค่ะ!”
“ไม่มีปัญหา!”ยูจินหัวเราะ คนเดียวในฟิรุแมนที่เธอกลัวก็คือลิงค์ เธอยังจำดาบเล่มนั้นได้อยู่เลย ตลอดชีวิตของเขา มีแค่การโจมตีของเขาลิงค์เดียวเท่านั้นที่ทำให้เธอไร้การป้องกัน หลังจากนั้นมาเธอก็รู้แล้วว่าเธอสู้กับลิงค์ตัวต่อตัวไม่ไหว แต่ตอนนี้ ลิงค์นั้นไปทำภารกิจฆ่าตัวตายอยู่ หึหึ แล้วจะมีอะไรที่เขาต้องกังวลอีกหล่ะ?
พอเห็นสีหน้าของยูจีนโมลิน่าก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอก็ทำได้แค่พูดเตือน “กองทัพที่ป้อมโอริด้านั้นไม่ได้เอาชนะได้ง่ายๆ มันประกอบไปด้วยกองทัพของอาณาจักรนอร์ตัน กองกำลังแสงอรุณของเฟิร์ด มนุษย์สัตว์ และตอนนี้ก็มีมังกรกับนักรบที่แข็งแกร่งอยู่อีกมากมาย ข้าว่าอย่าดูถูกพวกเขาจะดีกว่านะคะ”
“เชอะข้าไม่ต้องให้เจ้ามาคอยเตือนหรอก” ยูจินส่งเสียงฮึดฮัด
เธอเดินทางไปทั่วฟิรุแมนมาเป็นศตวรรษแล้วและเธอก็พบกับคู่ปรับที่แท้จริงแค่ 2 คน ซึ่งนั่นก็คือนักเวทย์แห่งแสงฮาลิโน่กับลิงค์ สำหรับพวกมือสมัครเล่นอย่างโอริด้านั้น ไม่มีใครต่อกรกับเวทย์แห่งความมืดของเธอได้หรอก ยูจินมั่นใจมากในเมื่อเขามีโอกาส เขาก็จะไม่ยอมเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เธอสั่งให้จัดตั้งกองทัพในทันที
3วันต่อมา กองทัพขนาดใหญ่จำนวน 150,000 คนที่ประกอบไปด้วยดาร์กเอลฟ์ ปีศาจและนากาก็เริ่มเดินทางลงใต้
กองทัพนี้สร้างความวุ่นวายอย่างมากข่าวนั้นไปถึงหูของหน่วยสอดแนมที่อยู่ในป่าทมิฬในทันที จำนวนข้อมูลอันมหาศาลได้ถูกส่งลงใต้เหมือนกับหิมะตก เครื่องจักรสงครามอย่างป้อมโอริด้านั้นเริ่มเตรียมการอย่างรวดเร็ว สำหรับศึกสุดท้ายนี้
ในตอนนั้นเองลิงค์นั้นกำลังอยู่ที่ส่วนลึกของทะเลแห่งความว่างเปล่า เขามีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงตรงไปโดยไม่แวะที่ไหนเลย
ยิ่งเขาเข้าไปใกล้เท่าไหร่จิตสัมผัสของเขาก็ยิ่งแรงขึ้น เขาเชื่อว่าเขาจะได้พบกับวิธีการเปลี่ยนแปลงยุคมืดจากการใช้เฟืองนี้!
ทางเหนือป่าทมิฬ
ครืดครืด ครืด มันคือเสียงเดินในหิมะ พวกดาร์คเอลฟ์กำลังวิ่งลุยหิมะในป่า
เขาวิ่งไปทางเหนือยิ่งเขาวิ่งไปไกลเท่าไหร่ ต้นไม้ก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้นและหิมะก็หนาขึ้นตามด้วย ในตอนที่เขาผ่านยอดเขาไป ที่ราบน้ำแข็งอันเย็นเฉียบก็ปรากฏขึ้น ในระยะไกลออกไป มีป้อมปราการที่สร้างขึ้นจากกระดูกอยู่ มันคือป้อมโครงกระดูกของกองทัพแห่งการทำลาย
ดาร์กเอลฟ์ยังคงวิ่งต่อไปและไปถึงประตูอย่างรวดเร็ว
“จงบอกชื่อเสียงเรียงนามของเจ้ามา!”นากาสองคนเอาอาวุธไขว้กันและขวางทางดาร์กเอลฟ์เอาไว้
“ข้าชื่อเฟรอนเป็นผู้บัญชาการของมือแห่งความตาย ข้ามีข้อมูลที่สำคัญมาแจ้งให้กับองค์หญิง!”
ดาร์กเอลฟ์แสดงสัญลักษณ์ของเขาให้ดูและได้รับอนุญาติให้ผ่านทางได้
เฟรอนวิ่งต่อไปจนไปถึงห้องโถงหลักตรงนี้เขาลดความเร็วลงและจัดเสื้อผ้าของเขา จากนั้นเขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆและเข้าไปในห้องโถง
ที่นี่มีคนอยู่ไม่เยอะเท่าไหร่บัลลังก์โครงกระดูกที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถันนั้นตั้งอยู่ที่สุดทางของห้อง
เจ้าหญิงเอลลี่ที่ส่วมชุดผ้าโปร่งกำลังนั่งอยู่บนบัลลังก์และกำลังฟังนายพลรายงานอยู่
เฟรอนมองดูรูปร่างอันไร้ที่ติของเจ้าหญิงแล้วหัวใจเต้นแรงเขารีบก้มหน้าลง ไม่กล้าที่จะมองเธอไปมากกว่านี้ อันที่จริงแล้ว เขาไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมารายงานด้วยตัวเองแบบนี้ ยังไงก็ตาม เขามักจะมารายงานข่าวสำคัญเพื่อให้ได้มาพบกับเจ้าหญิงอยู่ตลอด และครั้งนี้ก็เช่นกัน เจ้าหญิงดาร์กเอลฟ์เอลลี่ดานาสนั้นมีความสามารถมากและมีออร่าที่แข็งแกร่ง แถมเธอยังสวยอย่างไร้ที่ติอีก ดาร์กเอลฟ์หลายคนเรียกเธอว่า “กุหลาบแสงดาวใต้แสงจันทร์” มีคนหนุ่มมากมายตกหลุมรักเธอ แถมยังมีไฮเอลฟ์หลายคนที่ได้รับอิทธิพลจากเธอและทรยศเกาะรุ่งอรุณมาเข้าร่วมกับกองทัพแห่งการทำลายเพื่อให้ได้อยู่ใกล้ๆเธอด้วย
เสียงของเธอนั้นอ่อนหวานและนุ่มนวลแต่ก็มีความหยาบคายแฝงอยู่เล็กน้อยมันเป็นเอกลักษณ์มากๆ
เฟรอนรู้สึกได้ว่าความเหนื่อยล้าของเขาหายไปหมดเลยในตอนที่ได้ยินเสียงสวรรค์นี้ถ้าเขาสามารถจูบ ไม่สิ นั่นมันเป็นการดูหมิ่น
เจ้าหญิงจะต้องกลายเป็นราชินีในอนาคตอย่างแน่นอนและสามีของเธอก็จะต้องเป็นขุนนาง เธอคงไม่มีธุระกับคนธรรมดาอย่างเขาหรอก เขาจะคิดเกินเลยไม่ได้
ในตอนที่เขากำลังคิดเรื่องไร้สาระอยู่นั้นเองเสียงก็ดังมาจากบัลลังก์
“เฟรอนข้าได้ยินมาว่าเจ้ามีข่าวสำคัญจากทางใต้อย่างงั้นหรอ?”
เสียงนั้นทำให้เฟรอนหลุดออกจากห้วงความคิดของเขาเขาเงยหน้าขึ้นมาและคุกเข่าลงข้างนึงในทันที จากนั้นเขาก็หยิบคัมภีร์หนังแกะออกมา
“องค์หญิงนี่คือข่าวจากสายลับทางใต้ครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฟิร์ด”
“หืมเฟิร์ดหรอ?” ยูจิน (เจ้าหญิงเอลลี่) สนใจมันในทันที เธอยื่นมือออกมา และคัมภีร์ก็ลอยไปหาเธอ หลังจากที่อ่านมัน เธอก็ทำหน้าไม่พอใจ
คัมภีร์นั้นระบุเอาไว้ว่าลอร์ดเฟิร์ดได้รักษารอยแยกมิติที่เทือกเขาโคโรราโด้ได้อย่างสมบูรณ์แล้วเรื่องนี้ทำให้เขาได้รับความนับถืออย่างมาก เขาแต่งงานกับราชินีมังกรแดง และหลังจากนั้นไม่นาน ราชินีก็ก้าวลงมาจากบัลลลังก์ และลิงค์ก็ขึ้นเป็นราชาของเหล่ามังกรแทน พวกมังกรได้เข้าร่วมกับเฟิร์ด มีมังกรสีดำตัวใหญ่น่ากลัวปรากฏตัวขึ้นที่เฟิร์ด แต่ว่าตัวตนที่แท้จริงของมันนั้นยังไม่มีใครรู้
ยูจินรู้ได้ในทันทีว่ามังกรดำตัวนั้นเป็นใคร!
แค่ช่วงสั้นๆพลังกับอำนาจของเขาก็เพิ่มขึ้นมาถึงขนาดนี้แล้ว พวกเราจะเอาชนะได้ยังกันงถ้าเกิดว่ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป? ยูจินทำได้แค่กังวล
ก่อนที่จะมาเป็นผู้บัญชาการของกองทัพแห่งการทำลายยูจินรู้สึกมั่นใจในตัวเองมาก เธอมักจะคิดว่าลิงค์กับเฟิร์ดนั้นไม่ได้พิเศษอะไรขนาดนั้น แต่หลังจากที่ได้รับตำแหน่งและเริ่มคุ้นเคยกับการเมือง เธอก็รู้สึกไร้ทางสู้
ต้องยอมรับเลยว่ากองทัพแห่งการทำลายนั้นแข็งแกร่งยังไงก็ตาม พลังของมันก็อยู่ที่จุดสูงสุดแล้ว พวกเขาไม่สามารถพัฒนาเพิ่มขึ้นได้อีกในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเฉพาะหลังจากที่รอยแยกของมิติได้รับการฟื้นฟูแล้ว ภพจะเสถียรและสมบูรณ์มากขึ้น มันจะเป็นเรื่องยากที่นากาหรือปีศาจจะเข้ามาในภพนี้ ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ การที่รักษาระดับของกองทัพได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขยายอำนาจไปมากกว่านี้
ในอีกด้านนึงมนุษย์นั้นมีประชากรมากกว่า 200 ล้านคน ถ้าเกิดว่ารวมมังกรเข้าไปด้วย พวกเขาก็จะมีมังกรเพิ่มอีกเป็นล้านและนักสู้ที่แข็งแกร่งอีกมากมาย ที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือนักรบชาวมนุษย์ที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว กองทัพแสงอรุณของเฟิร์ดนั้นสามารถต่อสู้กับพวกปีศาจได้แล้ว
ถ้ายิ่งปล่อยให้ยืดเยื้อนานกว่านี้มันก็จะยิ่งแย่ขึ้นไปอีก ในอีกไม่นาน ป่าทมิฬก็อาจจะไม่สามารถหยุดมนุษย์ได้ ข้าจะทำยังไงดี? ยูจีนขมวดคิ้วของเธอ
ตอนนี้เธอกำลังสำนึกผิดกับการกระทำก่อนหน้านี้ ถ้าเกิดว่าเธอรู้ว่าจะเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น เธอคงจะไม่ตัดความสัมพันธ์กับพวกไฮเอลฟ์หรอก แต่ก็โชคไม่ดีที่ความสำนึกผิดนั้นช่วยอะไรไม่ได้ยูจินคิดไปเรื่อยๆแต่ก็ไม่สามารถหาวิธีดีๆที่จะหยุดพวกมนุษย์ได้เลย ในตอนที่เธอกำลังหงุดหงิดอยู่นั้นเอง โมลิน่าก็เดินเข้ามา ดูจากสีหน้าของเธอแล้ว เธอคงมีเรื่องบางอย่างมารายงาน
ยูจีนเข้าใจและพูดออกมา“เฟรอน ข้าเข้าใจแล้ว ทำงานได้ดีมาก ไปพักเถอะ”
“ครับองค์หญิง” เฟรอนเงยขึ้นมามองเจ้าหญิงอีกครั้ง เขาไม่อยากจะออกไป
“พวกเจ้าทุกคนออกไปได้แล้ว”ยูจีนพูด “ตอนนี้ข้ารู้สึกเหนื่อย ข้าอยากจะพักผ่อนซักหน่อย”
“ขอรับ องค์หญิง”
ทุกคนออกไปจากห้องเหลือแค่ยูจินกับโมลิน่า
“นักบวชมีอะไรหรอ?” ยูจีนมองโมลิน่า
โมลิน่าพยักหน้า“มีเรื่องสำคัญบางอย่างเกี่ยวกับลอร์ดเฟิร์ดค่ะ” ยูจินยักไหล่ด้วยความรู้สึกโกรธ“อะไรอีกหล่ะ? อย่าบอกข้านะว่าเขาจะแต่งงานกับเจ้าหญิงไฮเอลฟ์ซักคนนึงแล้วเกาะรุ่งอรุณก็จะเข้าร่วมกับเฟิร์ด?”
“อะไรนะคะ?แต่งงาน? กับเกาะรุ่งอรุณเนี่ยนะคะ?” โมลิน่ายังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
ยูจีนส่งคัมภีร์ให้เธอ“ดูเองก็แล้วกัน”
หลังจากอ่านเนื้อหาโมลิน่าก็ขมวดคิ้วเหมือนกัน สถานการณ์มันยุ่งยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าเธอก็ตั้งสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เธอชี้ไปที่คัมภีร์และพูด “ราชามังกรดำก็คือลิงค์ค่ะ”
“ข้ารู้แล้วข้าเคยเห็นเขาที่หุบเขามังกร” ยูจินสบัดมือในขณะที่พูด
“แต่ว่าข้ารู้ด้วยนะว่าตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ที่เฟิร์ดพูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ เขาไม่ได้อยู่ในฟิรุแมนค่ะ!” โมลิน่าพูดต่อ
“อะไรนะ?”ยูจีนยืนขึ้น ข่าวนี้น่าตกใจเกินไป “เจ้ารู้ได้ยังไง? เทพของเจ้าเป็นคนบอกมาอย่างงั้นหรอ?” “ใช่ค่ะ”โมลิน่าพยักหน้า “เจ้านายของข้ารู้สึกได้ถึงการกระเพื่อมของบาเรียแห่งภพและก็ได้ข้อสรุปหลังจากที่เพิ่มความละเอียดในการสังเกตค่ะ เขากำลังไล่ตามลอร์ดเฟิร์ดอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่า ครั้งนี้เขาได้ตายจริงๆแน่!”
“เยี่ยมเลย!”ยูจินอุทาน “ลิงค์ไม่ยอมอยู่ในภพและกล้าที่จะเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่า นี่เขาอยากรนหาที่ตายขนาดนั้นเลยหรอ!?”
“เจ้านายของข้าบอกว่าลอร์ดเฟิร์ดไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงอีกต่อไปแล้วเขานำปาฏิหาริย์มาให้กับพวกเรา เขาอยากให้พวกเราใช้โอกาสนี้ในการทะลวงป้อมโอริด้าและเดินทางลงใต้ค่ะ!”
“ไม่มีปัญหา!”ยูจินหัวเราะ คนเดียวในฟิรุแมนที่เธอกลัวก็คือลิงค์ เธอยังจำดาบเล่มนั้นได้อยู่เลย ตลอดชีวิตของเขา มีแค่การโจมตีของเขาลิงค์เดียวเท่านั้นที่ทำให้เธอไร้การป้องกัน หลังจากนั้นมาเธอก็รู้แล้วว่าเธอสู้กับลิงค์ตัวต่อตัวไม่ไหว แต่ตอนนี้ ลิงค์นั้นไปทำภารกิจฆ่าตัวตายอยู่ หึหึ แล้วจะมีอะไรที่เขาต้องกังวลอีกหล่ะ?
พอเห็นสีหน้าของยูจีนโมลิน่าก็รู้สึกไม่สบายใจ แต่เธอก็ทำได้แค่พูดเตือน “กองทัพที่ป้อมโอริด้านั้นไม่ได้เอาชนะได้ง่ายๆ มันประกอบไปด้วยกองทัพของอาณาจักรนอร์ตัน กองกำลังแสงอรุณของเฟิร์ด มนุษย์สัตว์ และตอนนี้ก็มีมังกรกับนักรบที่แข็งแกร่งอยู่อีกมากมาย ข้าว่าอย่าดูถูกพวกเขาจะดีกว่านะคะ”
“เชอะข้าไม่ต้องให้เจ้ามาคอยเตือนหรอก” ยูจินส่งเสียงฮึดฮัด
เธอเดินทางไปทั่วฟิรุแมนมาเป็นศตวรรษแล้วและเธอก็พบกับคู่ปรับที่แท้จริงแค่ 2 คน ซึ่งนั่นก็คือนักเวทย์แห่งแสงฮาลิโน่กับลิงค์ สำหรับพวกมือสมัครเล่นอย่างโอริด้านั้น ไม่มีใครต่อกรกับเวทย์แห่งความมืดของเธอได้หรอก ยูจินมั่นใจมากในเมื่อเขามีโอกาส เขาก็จะไม่ยอมเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เธอสั่งให้จัดตั้งกองทัพในทันที
3วันต่อมา กองทัพขนาดใหญ่จำนวน 150,000 คนที่ประกอบไปด้วยดาร์กเอลฟ์ ปีศาจและนากาก็เริ่มเดินทางลงใต้
กองทัพนี้สร้างความวุ่นวายอย่างมากข่าวนั้นไปถึงหูของหน่วยสอดแนมที่อยู่ในป่าทมิฬในทันที จำนวนข้อมูลอันมหาศาลได้ถูกส่งลงใต้เหมือนกับหิมะตก เครื่องจักรสงครามอย่างป้อมโอริด้านั้นเริ่มเตรียมการอย่างรวดเร็ว สำหรับศึกสุดท้ายนี้
ในตอนนั้นเองลิงค์นั้นกำลังอยู่ที่ส่วนลึกของทะเลแห่งความว่างเปล่า เขามีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้นเขาจึงตรงไปโดยไม่แวะที่ไหนเลย
ยิ่งเขาเข้าไปใกล้เท่าไหร่จิตสัมผัสของเขาก็ยิ่งแรงขึ้น เขาเชื่อว่าเขาจะได้พบกับวิธีการเปลี่ยนแปลงยุคมืดจากการใช้เฟืองนี้!