Advent of the Archmage - 634: เฉียดตาย
Chapter
ลิงค์ปล่อยลมหายใจออกมาจากนั้นก็หันกลับข้างหลังเขามีแผ่นวงกลมสีดำขนาดยักษ์ที่มีรัศมีกว่า 10,000 ไมล์, มันกว้างกว่าภพฟิรุแมนทั้งหมดซะอีก
มังคือกระแสพลังงานวนขนาดยักษ์,และมันก็ปล่อยพลุพลังงานออกมาจากข้างในด้วย เขาประเมินได้ว่ากระแสพลังงานนี้มีเลเวลมากกว่า 20 ไม่อย่างนั้น, สัมผัสถึงอันตรายของเขาคงจะไม่ทำให้เส้นขนทุกเส้นของเขาลุกซู่ไปทั้งตัวได้ขนาดนี้
แม้ว่าเขาจะไปถึงเลเวล13 พร้อมกับมีร่างมังกรและสามารถทำให้เกล็ดแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยคริสตัลแก่นภพที่ระบบเกมส์มอบให้เขาเมื่อก่อนหน้านี้, แต่เขาก็คงจะกลายเป็นเศษซากในทันทีที่เขาปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในกระแสวนขนาดยักษ์นี้
เขาออกจากภพฟิรุแมนมาไกลแล้วข้างหลังเขาในตอนนี้, ฟิรุแมนก็ไม่ต่างอะไรจากจุดแสงที่ไร้ซึ่งความโดดเด่น แม้ว่าหมอกมานาสีขาวที่ห่อหุ้มมันเอาไว้จะเบาบางมาก, แต่มันก็ยังสามารถบดบังฟิรุแมนส่วนใหญ่เอาไว้ได้
เขาหันซ้ายหันขวาดูทางข้างหน้าตอนนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยหมอกสีขาวที่ว่างเปล่า
ด้วยความที่ไม่มีสิ่งที่สามารถใช้อ้างอิงตำแหน่งของตัวเองได้เลย,ลิงค์จึงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาบินไปได้ไม้ถึงไหนเลย, แม้ว่าเขาจะบินเร็วแค่ไหนก็ตาม
ตามมาตรฐานของฟิรุแมน,ตอนนี้ฉันน่าจะบินด้วยความเร็วประมาณ 10,000 ไมล์ต่อวินาทีนะ ฉันยังสามารถไปได้ไวกว่านี้อีก, อย่างมากที่สุดฉันน่าจะบินได้ถึง 12,000 ไมล์ต่อวินาที แต่รอบตัวฉันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย การบินอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่านี่แทบจะเหมือนกับการเดินทางอยู่บนอวกาศของโลกเลย
ทันใดนั้นเอง,ร่างกายของเขาก็สั่นขึ้นมา จากนั้น, เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกพลังที่แข็งแกร่งจากทางซ้ายดึงอยู่ ในเวลาเดียวกันนั้น,เขาก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่คืบคลานเข้ามาในร่างของเขา, เหมือนกับดาบที่คมกริบ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีกรงเล็บที่มองไม่เห็นพยายามจะดึงวิญญาณของเขาออกจากร่างมังกรนี้
ไม่ดีแล้ว,มันคือหลุมพลังงานด้านลบ! ลิงค์คิดด้วยความตื่นตระหนก
พลังงานด้านลบคือพลังงานความมืดระดับสูงที่สามารถพบได้แค่ในทะเลแห่งความว่างเปล่าเท่านั้นในตอนที่พลังงานด้านลบจำนวนมหาศาลมารวมตัวกัน, พวกมันก็จะก่อตัวเป็นเอกพจน์นึง, ที่จะดูดกลืนทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวมัน, ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน, สิ่งของ, หรือแม้กระทั่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตต่างๆ จากนั้นทุกสิ่งก็จะถูกบีบอัดเป็นจุดเล็กๆจุดเดียว
สิ่งที่น่ากลัวเกี่ยวกับหลุมพลังงานด้านลบนี้ก็คือมันจะลอบโจมตีคุณในตอนที่คุณไม่รู้สึกตัวเลย
หลุมนี้ดำมืดอย่างเหลือเชื่อมันไม่ปล่อยออร่าประเภทไหนออกมาเลย, ทำให้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจจับตัวตนของมัน ใครก็ตามหรืออะไรก็ตามที่ถูกมันไล่ตามอยู่ก็เหมือนกับตายไปแล้ว แม้กระทั่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตก็คงจะถูกมิตินี้กลืนกิน
ในทะเลแห่งความว่างเปล่า,ร่างมังกรจะดูดซับพลังงานความว่างเปล่าที่ตกค้างอยู่รอบตัวอย่างต่อเนื่องในฐานะเชื้อเพลิง ในตอนที่ลิงค์กระพือปีก, แสงสีขาวจะถูกปล่อยออกมาจากปีกเหมือนกับอุปกรณ์ที่ช่วยในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์, และผลักดันลิงค์เข้าไปในความว่างเปล่าที่อยู่ข้างหน้าเขา
ลิงค์รู้สึกได้ถึงแรงคุกคามอย่างมหาศาลในทันทีร่างของเขาถูกตรึงในขณะที่เขาพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากเงื้อมมือของหลุมนี้, แต่ถึงอย่างนั้น, ร่างกายของเขาก็ยังคงขยับไปทางซ้ายอย่างไม่ลดละ
แรงดึงของหลุมนี้แข็งแกร่งเกินไปไม่ว่าลิงค์จะขัดขืนแค่ไหน, เขาก็ยังเป็นอิสระจากมันไม่ได้
ไม่ดีแล้วหลุมนี้ทรงพลังเกินไป ฉันคงต้านมันเอาไว้ได้อีกไม่นาน ฉันจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น!
ลิงค์ยังคงเป็นมือใหม่สำหรับการท่องความว่างเปล่าอย่างไรก็ตาม, ก่อนเข้ามาในทะเลแห่งความว่างเปล่านั้น, ลิงค์ได้อ่านสมุดบันทึกที่พิอาสเซ่เขียนรวบรวมเอาไว้ในระหว่างการเดินทางในความว่างเปล่า และมันก็บังเอิญจริงๆที่, พิอาสเซ่ได้เขียนวิธีจัดการกับหลุมพลังงานงานด้านลบเอาไว้ด้วย
หลุมพลังงานด้านลบมีทุกรูปร่างทุกขนาด,แต่โครงสร้างของพวกมันนั้นจะดูเหมือนกันหมด ชั้นนอกของหลุมเป็นที่รู้จักในชื่อเขตแดนปกติ, ในขณะที่โครงสร้างชั้นในนั้นจะถูกเรียกว่าชั้นที่ไม่สามารถหวนกลับได้ สิ่งที่คั่นกลางอยู่ระหว่างทั้งสองชั้นนี้ก็คือเยื่อบางๆที่ถูกเรียกกันว่าขอบฟ้าเหตุการณ์ ในตอนที่คุณถูกดึงผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์, สิ่งเดียวที่รอคุณอยู่ที่นั่นก็คือความตาย ในประวัติศาสตร์ของโอเมียร์, มีชาวโอเมียร์กลุ่มนึงที่มีทั้งความกล้าและความโง่ไปท้าทายหลุมพลังงานด้านลบนี้มาแล้ว, แต่ก็ไม่มีใครผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์และรอดชีวิตกลับมาบอกเล่าเรื่องราวได้เลย ในตอนที่คุณสัมผัสได้ถึงแรงดึงของมัน, คุณควรสลัดมันให้หลุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าคุณไม่สามารถสลัดตัวออกมาได้, ให้ใช้วิธีพุ่งตามแนวฉากในทันที จำเอาไว้, เคลื่อนไหวให้เร็ว การลังเลแม้เพียงชั่ววูบก็อาจทำให้คุณต้องพบจุดจบได้
ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ในทันทีแล้วร่างของเขาก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นตามสัญชาตญาณ
ครั้งนี้,เขาหยุดหนีจากมันเป็นเส้นตรง แต่, เขาเริ่มเร่งความเร็วตั้งฉากกับทิศทางของแรงดึงของหลุมแทน ด้วยความที่หลุมยังคงดึงเขาอยู่, ตอนนี้เขาจึงบินหักโค้งไปทางซ้ายในขณะที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า
คุณจำเป็นต้องทุ่มสุดตัวสนามพลังงานด้านลบนั้นก็เหมือนกับหนังยาง ในตอนที่มันรัดคุณไปได้แล้วซักครั้งนึง, ไม่ว่าคุณจะเร็วแค่ไหน, หนังยางนี้ก็จะยืดตามไปด้วยอย่างไรก็ตาม, แรงดึงของมันไม่ได้สะดุดเลยซักนิด อันที่จริง, มันรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ คุณจำเป็นต้องดึงหนังยางนี้จนกว่ามันจะขาด, ไม่อย่างนั้นมันจะดึงคุณหายไปตลอดกาล!
ลิงค์นึกถึงสิ่งที่พิอาสเซ่เขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเจ้าสิ่งนี้มีความคล้ายคลึงกับหลุมดำในบางจุด อย่างไรก็ตาม, มันก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญอยู่
ลิงค์เร่งความเร็วต่อไม่นานนัก, เขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้กำลังเคลื่อนที่อยู่ในวงโคจรหนึ่งที่มีรัศมีประมาณ 5,000 ไมล์ในพื้นที่อันมืดมิด
ในตอนแรก,วงโคจรนั้นเป็นวงกลม แต่พอเขาเร่งความเร็วขึ้น, มันก็ยืดออกไปเรื่อยๆจนเปลี่ยนเป็นวงรี
พลังงานความว่างเปล่าในร่างของเขากำลังถูกผลาญอย่างรวดเร็วแม้ว่าร่างมังกรของเขาจะยังดูดซับพลังงานในความว่างเปล่าได้, แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถฟื้นฟูพลังงานความว่างเปล่าในร่างได้เร็วเท่ากับที่เขาใช้ไป
ถ้ายังอยู่ในสภาพนี้,เขาจะสามารถทนต่อไปได้อีกสิบนาที ถ้าเขาไม่สามารถหลุดพ้นได้ในระยะเวลาที่ว่านี้, เขาก็คงจะต้องยอมรับชะตากรรมและถูกดึงเข้าไปในหลุมพลังงานแง่ลบ!
ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆ,ลิงค์ก็เรียบเรียงสติของตัวเองใหม่และจดจ่ออยู่กับการเร่งความเร็ว
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าหนึ่งนาที, สองนาที, สามนาที… ห้า, หกนาที…ในช่วงเวลาเหล่านี้, ลิงค์บินด้วยความเร็วกว่า 15,000 ไมล์ต่อวินาที ตอนนี้, ร่างมังกรนั้นแทบจะไม่สามารถรับมือกับความเครียดจากการรักษาความมั่นคงด้วยความเร็วระดับนี้ได้
แต่ว่า,มันก็ยังไม่พอ!
หนังยางพลังงานแง่ลบนี้ยังไม่ขาดในขณะที่มันฉุดรั้งลิงค์เอาไว้อย่างดื้อดึงตอนนี้เขาถึงขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เยือกเย็น, แต่ลิงค์ก็เริ่มรู้สึกกลัวความตายขึ้นมา
นี่ฉันจะต้องมาตายที่นี่จริงๆหรอ?ลิงค์คิด พลังงานในร่างของเขาถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว, และตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกหอบ
ไม่,อีกแค่นิดเดียว ฉันต้องทำได้สิ!
ลิงค์ส่งเสียงคำรามออกมาในขณะที่เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายที่อยู่ในตัวในตอนที่เขาอยู่ห่างจากหลุมที่สุดในวิถีวงรีของเขา, เขาก็กระพือปีกอีกครั้ง ตูม! มีพลังงานความว่างเปล่าถูกปล่อยออกมาข้างหลังเขา ลิงค์รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จากนั้น, เขาก็เริ่มช้าลง ตอนนี้ปีกของเขาไร้ซึ่งกำลังอย่างสมบูรณ์แล้ว
พอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะถูกหลุมพลังงานแง่ลบดึงกลับไป,ลิงค์ก็หันกลับมา, แล้วอ้าปากกว้างๆ, จากนั้นเขาก็พ่นลมหายใจมังกรใส่มัน
ปีกของเขาอาจจะไม่สามารถผลักดันเขาไปข้างหน้าได้อีกแล้ว,แต่เขายังมีพลังงานเหลืออยู่บ้างสำหรับใช้ลมหายใจมังกร, ซึ่งมักจะสงวนเอาไว้สำหรับมาตรการโจมตี
ตูม!ลิงค์ปล่อยลมหายใจมังกรแห่งความว่างเปล่าออกมา, ทำให้เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อได้อีกด้วยแรงระเบิดและทำให้เขาต่อสู้กับหลุมนี้ต่อไปได้
ลิงค์ได้ยืดหนังยางหลุมพลังงานนี้ออกไปจนตอนนี้มันยาวกว่า300,000 ไมล์แล้ว และแรงดึงของมันก็ดูเหมือนจะอ่อนลงด้วย
อีกแค่นิดเดียว,อีกแค่นิดเดียว…ลิงค์ตะโกนอยู่ในใจในขณะที่เขาสัมผัสได้ว่าเขากำลังช้าลง
จากนั้นก็มีเสี้ยงฉึกในหัวของเขาแล้วพลังงานมองไม่เห็นที่กำลังดึงเขาอยู่ก็หายไปอย่างกระทันหัน กรงเล็บอันหนาวเหน็บที่กำลังยึดเกาะสติของเขาก็หายไปด้วย ตอนนี้ลิงค์รู้สึกว่าร่างของเขากำลังลอยไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลด้วยความเร็วสิบไมล์ต่อวินาที
ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากหลุมพลังงานแง่ลบ ลิงค์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในที่สุดเขาก็ผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปจนได้
หลังจากที่ลอยอยู่ในความว่างเปล่าเป็นเวลาไม่กี่วินาที,ลิงค์ก็เริ่มสัมผัสได้ว่าพลังของเขากำลังกลับมาอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆกระพือปีกต่อ
วิธีนี้มันเสี่ยงเกินไปลิงค์คิดว่าต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทพก็คงจะไม่สามารถรอดจากการดึงเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ของหลุมนี้ได้
และนี่ก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงด้วย
ลิงค์เคยอ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วในหนังสือเวทมนตร์เล่มอื่นยกตัวอย่างเช่น, หนังสือเวทมนตร์มังกรนั้นได้พูดถึงอันตรายจากการเดินทางในความว่างเปล่าอยู่สองสามเรื่อง ผู้ปกครองวิญญาณเองก็เคยเล่าถึงการเดินทางในทะเลแห่งความว่างเปล่าของเขาในหนังสือแห่งการเปิดเผย ในหนังสือ, เขาได้พูดถึงความอันตรายของหลุมพลังงานแง่ลบเอาไว้ด้วย, แม้ว่ามันจะไม่ได้ให้รายละเอียดมากเท่าที่ลิงค์ต้องการก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญเลเวล13 อย่างลิงค์ก็คงจะคล้ายกับเด็กเดินเตาะแตะที่พึ่งจะเรียนรู้วิธีเดินในพื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่าทะเลแห่งความว่างเปล่านี้ การก้าวผิดเพียงครั้งเดียวก็อาจจะส่งเขาไปโลกหน้าได้แล้ว ในอีกด้านนึง, ผู้เชี่ยวชาญระดับเทพนั้นก็คงจะเหมือนผู้ใหญ่, ที่ฉลาดกว่าและแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเลเวล 13 อย่างไรก็ตาม, พวกเขาก็ยังคงต้านทานอันตรายของพื้นที่รกร้างนี้ได้มากกว่าไม่เท่าไหร่
ในตอนที่เขาหลุดพ้นหลุมพลังงานแง่ลบมาได้,ลิงค์ก็สามารถฟื้นคืนความเยือกเย็นของตัวเองกลับมาได้ หลังจากที่ได้พักผ่อนอยู่ครู่นึง, เขาก็บินไปข้างหน้าต่อ ครั้งนี้เขาเดินทางผ่านความว่างเปล่าอย่างช้าๆและระมัดระวัง, เพื่อให้เวลาตัวเองได้ฟื้นฟูพลังกลับมาให้เต็มที่
หลังจากบินไปได้เป็นเวลาพักใหญ่ๆ,รอบตัวลิงค์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างบอกไม่ถูก หมอกเท่าที่ลิงค์ต้องการก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญเลเวล13 อย่างลิงค์ก็คงจะคล้ายกับเด็กเดินเตาะแตะที่พึ่งจะเรียนรู้วิธีเดินในพื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่าทะเลแห่งความว่างเปล่านี้ การก้าวผิดเพียงครั้งเดียวก็อาจจะส่งเขาไปโลกหน้าได้แล้ว ในอีกด้านนึง, ผู้เชี่ยวชาญระดับเทพนั้นก็คงจะเหมือนผู้ใหญ่, ที่ฉลาดกว่าและแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเลเวล 13 อย่างไรก็ตาม, พวกเขาก็ยังคงต้านทานอันตรายของพื้นที่รกร้างนี้ได้มากกว่าไม่เท่าไหร่
ในตอนที่เขาหลุดพ้นหลุมพลังงานแง่ลบมาได้,ลิงค์ก็สามารถฟื้นคืนความเยือกเย็นของตัวเองกลับมาได้ หลังจากที่ได้พักผ่อนอยู่ครู่นึง, เขาก็บินไปข้างหน้าต่อ ครั้งนี้เขาเดินทางผ่านความว่างเปล่าอย่างช้าๆและระมัดระวัง, เพื่อให้เวลาตัวเองได้ฟื้นฟูพลังกลับมาให้เต็มที่
หลังจากบินไปได้เป็นเวลาพักใหญ่ๆ,รอบตัวลิงค์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างบอกไม่ถูก หมอกความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเขาบางลงอย่างเห็นได้ชัด, และเพิ่มระยะการมองเห็นของเขา และทันใดนั้นเอง, วัตถุที่มีลักษณะเหมือนเมฆก็ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าเขา
ชั้นเมฆหนาและดูเหมือนจะทอดยาวออกไปไม่รู้จบนี้เปล่งแสงสีเขียวเข้มออกมาด้วยมันคล้ายกับเนบิวลาในโลกของเขา
ในขณะที่ลิงค์เข้าไปใกล้,พวกมันก็เริ่มขยายตัวจนกระทั่งเต็มทัศนวิสัยของเขา
นี่ต้องเป็นเมฆสาหร่ายที่พิอาสเซ่พูดถึงแน่ๆ,ลิงค์คิดอย่างดีใจ
หลังจากที่เข้าร่วมเป็นพรรคพวกของเฟิร์ดแล้ว,พิอาสเซ่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรจากลิงค์อีก ไม่เพียงแค่เขาจะบอกพิกัดของอุปกรณ์ลึกลับให้กับลิงค์เท่านั้น, แต่เขายังแบ่งปันประสบการณ์ในความว่างเปล่า, เช่นเดียวกับรายละเอียดทิวทัศน์รอบๆวัตถุลึกลับนั้นด้วย
เมฆเบื้องหน้าเขาเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่จะพาเขาไปหาอุปกรณ์ลึกลับในตอนที่เขาเดินทางผ่านชั้นเมฆเขาวงกตนี้ได้, เขาก็จะไปถึงอุปกรณ์ลึกลับที่ว่าในที่สุด
จากนั้นลิงค์ก็เริ่มเร่งความเร็วไปทางเมฆ
ไม่นานนัก,เขาก็เข้ามาใกล้เมฆสาหร่าย จากที่ไกลๆ, เมฆสีเขียวเข้มนี้ดูหนาแน่น, จนแทบจะเป็นของแข็ง อย่างไรก็ตาม, พอเข้ามาใกล้, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าเมฆพวกนี้เป็นกลุ่มแก๊สและไม่มีตัวตนเหมือนกับควัน ทัศน์วิสัยที่มองเห็นได้ข้างในเมฆนี้มีแค่หนึ่งร้อยไมล์เท่านั้น
กำแพงเมฆหนานี้มีโพรงทางเดินอยู่มากมาย,ซึ่งแต่ละโพรงนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากที่ไกลๆ, เส้นทางพวกนี้ดูเหมือนกับทางแคบๆ, แต่ในความเป็นจริงนั้น, แต่ละโพรงมีความกว้างกว่า 100,000 ไมล์
ลิงค์ยังไม่ได้เข้าไปในเขาวงกตนี้ในทันทีเขานึกถึงสิ่งที่พิอาสเซ่เขียนเอาไว้ในสมุดบันทึก พิอาสเซ่บอกว่าเขาพบเมฆที่มีลักษณ์เหมือนสี่เหลี่ยมที่ไหนสักที่ในบรรดากลุ่มเมฆเหล่านี้ จากนั้นเขาก็ผ่านใจกลางของมันจนไปถึงเป้าหมาย ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนหล่ะ? พิอาสเซ่ได้ให้พิกัดเป้าหมายกับลิงค์แล้วเขาแค่บินตรงไปตำแหน่งนั้นเลยก็ได้ถ้าเขาต้องการ อย่างไรก็ตาม, นี่ก็หมายความว่าเขาจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ในเมฆสาหร่าย แล้วก็อาจจะมีสิ่งมีชีวิตแห่งความว่างเปล่าโผล่ออกมาจากในเมฆด้วย, ลิงค์คิดว่ามันจะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ไปกระตุ้นความสนใจที่ไม่จำเป็น
ทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้ก็คือการย้อนรอยเส้นทางของพิอาสเซ่
หลังจากวนรอบเมฆอยู่พักนึง,ลิงค์ก็ยังไม่เจอเมฆรูปร่างสีเหลี่ยมที่พิอาสเซ่พูดถึงเลย ในขณะที่เขากำลังจะทำการค้นหาต่อนั้นเอง, ลิงค์ก็เห็นแสงวาบข้างหลังเขาจากหางตา
ถ้าเปรียบกับคนระดับพิอาสเซ่,เขานั้นยังค่อนข้างขาดประสบการณ์ในการท่องทะเลแห่งความว่างเปล่า ตลอดทางที่มาที่นี่เขาไม่เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตเลย ดังนั้นภาพของสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังเขานั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่สบายใจแล้ว
ด้วยมุมมอง360 ที่ร่างมังกรมอบให้เขา,เขาจึงสามารถเห็นอะไรก็ตามที่อยู่ข้างหลังได้โดยไม่ต้องหันหลัง
ไม่นานนักลิงค์ก็ระบุตำแหน่งของสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ได้
มันคือจุดสีดำด้วยการเขม่นตาของเขา, ลิงค์ก็เห็นว่ามันมีรูปร่างเหมือนแผ่นดิสก์ แล้วมันก็มีแสงอ่อนๆเปล่งออกมาจากพื้นผิวของมันด้วย ในขณะที่ลิงค์จ้องมันอยู่พักนึง, ข้อความจากระบบเกมส์ก็เด้งขึ้นมาในทัศน์วิสัยของเขา, และทำให้เขาเห็นรายละเอียดของสิ่งนั้น
ความเร็ว:8,000 ไมล์ต่อวินาที
รัศมี:400 ฟุต
ระดับพลังโดยประมาณ:เลเวล 17
ระยะห่างในปัจจุบัน:1,000,000 ไมล์
ถ้าตัดสินจากรูปร่าง,ความเร็ว, และการไหลเวียนพลังงานของมันแล้ว, เจ้าสิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาและดูเหมือนจะเป็นเรือท่องความว่างเปล่าที่ไม่รู้ต้นกำเนิด “เรือท่องความว่างเปล่าหรอ?”ลิงค์ตกตะลึงอยู่ครู่นึง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นมิตรหรือศัตรู, เขาจึงหันหลังกลับแล้วพุ่งเข้าไปในเมฆสาหร่ายที่อยู่ใกล้ๆ
เมฆสาหร่ายแต่ละก้อนนั้นหนามากยกตัวอย่างเช่น, ก้อนที่ลิงค์เข้ามาซ่อนตัวอยู่นั้นก็มีความหนากว่า 20,000,000 ไมล์แล้ว
ในตอนแรก,ลิงค์กลัวว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากข้างในเมฆพวกนี้, ดังนั้นเขาจึงลอยอยู่ใกล้ๆกับพื้นผิวของมัน, ไม่กล้าที่จะเดินทางลึกเข้าไป อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
วัตถุที่ว่านี้ก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นเขาเหมือนกัน,เพราะมันหันมาและมุ่งหน้ามายังจุดที่เขาซ่อนตัวอยู่
ความเร็ว:13,325 ไมล์ต่อวินาที!
ตอนนี้สมองของเขากำลังตะโกนบอกให้เขาออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้
วัตถุที่ว่านี้กำลังตรงมาหาลิงค์เหมือนกับว่ามันจะรู้จักเขาด้วย จากวิธีที่มันพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างน่ากลัวนั้นก็เพียงพอที่จะบอกแล้วว่าวัตถุนี้ไม่ได้มีเจตนาที่ดีกับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น,มันกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สูงมาก, สูงกว่าความเร็วสูงสุดที่ลิงค์สามารถทำได้อีก ในอีกไม่ถึงสองวินาที, วัตถุนี้จะมาถึงที่ซ่อนของลิงค์ เรือท่องความว่างเปล่ามีเลเวล 17, ทำให้มันแข็งแกร่งกว่าลิงค์, ที่มีเลเวล 13 มาก แม้ว่าเกล็ดมังกรของเขาจะต้านทานเวทมนตร์, แต่ลิงค์ก็คงไม่สามารถเอาตัวรอดจากการปะทะกับมันตรงๆได้
ด้วยการทิ้งความคิดที่ว่าอาจจะมีอันตรายหลบซ่อนอยู่ในเมฆสาหร่าย,ลิงค์ก็ปล่อยพลังงานความว่างเปล่าออกมาจากปีกในทันทีและดำดิ่งเข้าไปในเมฆด้วยความเร็ว 12,000 ไมล์ต่อวินาที
…
ข้างหลังลิงค์,ข้างในเรือท่องความว่างเปล่า โนโซม่าพูดกับอาจารย์แห่งความมืดไมซิน,ที่เป็นกัปตันเรือท่องความว่างเปล่าลำนี้ “เจ้าเห็นสิ่งนั้นไหม? นั่นมันอะไรกัน?”
ไมซินส่ายหัว“ข้ามองไม่ทันว่ามันเป็นอะไร มันพุ่งเข้าไปในเมฆก่อนที่ข้าจะทันสังเกต แต่การเดินทางเข้าไปในเมฆนั้นเป็นเรื่องอันตราย ในท่าน, พวกเราควรไล่ตามไปไหมครับ?”
นี่ไม่ใช่การท่องทะเลแห่งความว่างเปล่าเป็นครั้งแรกของโนโซม่าเขาเข้าใจอันตรายในนั้นดี หลังจากที่ชั่งน้ำหนักการตัดสินใจ, เขาก็สั่งออกมา “ไล่ตามมันไปซะ มันดูคุ้นมากจริงๆ ข้ามั่นใจว่าข้าต้องเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อนแน่ๆ!”
โนโซม่ามั่นใจว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่ลูกน้องของเขาแน่ๆเนื่องจากพวกเขาทุกคนไม่ได้ต่างอะไรจากหุ่นเชิดวิญญาณของเขาแล้วเขาก็มั่นใจด้วยว่ามันคือศัตรู, เนื่องจากความคุ้นเคยที่เขารู้สึกได้
สิ่งที่ทำให้โนโซม่าสงสัยกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะปรากฎตัวขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับวัตถุลึกลับนั่นซึ่งนี่ก็หมายความได้อย่างเดียวว่าพวกเขาอาจจะกำลังตามหาสิ่งเดียวกันอยู่ โนโซม่าคงจะสะเพร่ามากถ้าเขาปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปโดยไม่ตรวจสอบแรงจูงใจให้ดีก่อน
พอได้ยินคำสั่งของเจ้านาย,อาจารย์แห่งความมืดไมซินก็พยักหน้าให้รองกัปตันเรือไอลอท, และทั้งคู่ก็ขับเรือแห่งความว่างเปล่าเข้าไปในเมฆสาหร่ายเพื่อไล่ตามจุดสีดำที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา
ลิงค์ปล่อยลมหายใจออกมาจากนั้นก็หันกลับข้างหลังเขามีแผ่นวงกลมสีดำขนาดยักษ์ที่มีรัศมีกว่า 10,000 ไมล์, มันกว้างกว่าภพฟิรุแมนทั้งหมดซะอีก
มังคือกระแสพลังงานวนขนาดยักษ์,และมันก็ปล่อยพลุพลังงานออกมาจากข้างในด้วย เขาประเมินได้ว่ากระแสพลังงานนี้มีเลเวลมากกว่า 20 ไม่อย่างนั้น, สัมผัสถึงอันตรายของเขาคงจะไม่ทำให้เส้นขนทุกเส้นของเขาลุกซู่ไปทั้งตัวได้ขนาดนี้
แม้ว่าเขาจะไปถึงเลเวล13 พร้อมกับมีร่างมังกรและสามารถทำให้เกล็ดแข็งแกร่งขึ้นได้ด้วยคริสตัลแก่นภพที่ระบบเกมส์มอบให้เขาเมื่อก่อนหน้านี้, แต่เขาก็คงจะกลายเป็นเศษซากในทันทีที่เขาปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในกระแสวนขนาดยักษ์นี้
เขาออกจากภพฟิรุแมนมาไกลแล้วข้างหลังเขาในตอนนี้, ฟิรุแมนก็ไม่ต่างอะไรจากจุดแสงที่ไร้ซึ่งความโดดเด่น แม้ว่าหมอกมานาสีขาวที่ห่อหุ้มมันเอาไว้จะเบาบางมาก, แต่มันก็ยังสามารถบดบังฟิรุแมนส่วนใหญ่เอาไว้ได้
เขาหันซ้ายหันขวาดูทางข้างหน้าตอนนี้เขาถูกล้อมรอบด้วยหมอกสีขาวที่ว่างเปล่า
ด้วยความที่ไม่มีสิ่งที่สามารถใช้อ้างอิงตำแหน่งของตัวเองได้เลย,ลิงค์จึงรู้สึกเหมือนกับว่าเขาบินไปได้ไม้ถึงไหนเลย, แม้ว่าเขาจะบินเร็วแค่ไหนก็ตาม
ตามมาตรฐานของฟิรุแมน,ตอนนี้ฉันน่าจะบินด้วยความเร็วประมาณ 10,000 ไมล์ต่อวินาทีนะ ฉันยังสามารถไปได้ไวกว่านี้อีก, อย่างมากที่สุดฉันน่าจะบินได้ถึง 12,000 ไมล์ต่อวินาที แต่รอบตัวฉันไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย การบินอยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่านี่แทบจะเหมือนกับการเดินทางอยู่บนอวกาศของโลกเลย
ทันใดนั้นเอง,ร่างกายของเขาก็สั่นขึ้นมา จากนั้น, เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังถูกพลังที่แข็งแกร่งจากทางซ้ายดึงอยู่ ในเวลาเดียวกันนั้น,เขาก็รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่คืบคลานเข้ามาในร่างของเขา, เหมือนกับดาบที่คมกริบ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ามีกรงเล็บที่มองไม่เห็นพยายามจะดึงวิญญาณของเขาออกจากร่างมังกรนี้
ไม่ดีแล้ว,มันคือหลุมพลังงานด้านลบ! ลิงค์คิดด้วยความตื่นตระหนก
พลังงานด้านลบคือพลังงานความมืดระดับสูงที่สามารถพบได้แค่ในทะเลแห่งความว่างเปล่าเท่านั้นในตอนที่พลังงานด้านลบจำนวนมหาศาลมารวมตัวกัน, พวกมันก็จะก่อตัวเป็นเอกพจน์นึง, ที่จะดูดกลืนทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวมัน, ไม่ว่าจะเป็นพลังงาน, สิ่งของ, หรือแม้กระทั่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตต่างๆ จากนั้นทุกสิ่งก็จะถูกบีบอัดเป็นจุดเล็กๆจุดเดียว
สิ่งที่น่ากลัวเกี่ยวกับหลุมพลังงานด้านลบนี้ก็คือมันจะลอบโจมตีคุณในตอนที่คุณไม่รู้สึกตัวเลย
หลุมนี้ดำมืดอย่างเหลือเชื่อมันไม่ปล่อยออร่าประเภทไหนออกมาเลย, ทำให้มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจจับตัวตนของมัน ใครก็ตามหรืออะไรก็ตามที่ถูกมันไล่ตามอยู่ก็เหมือนกับตายไปแล้ว แม้กระทั่งวิญญาณของสิ่งมีชีวิตก็คงจะถูกมิตินี้กลืนกิน
ในทะเลแห่งความว่างเปล่า,ร่างมังกรจะดูดซับพลังงานความว่างเปล่าที่ตกค้างอยู่รอบตัวอย่างต่อเนื่องในฐานะเชื้อเพลิง ในตอนที่ลิงค์กระพือปีก, แสงสีขาวจะถูกปล่อยออกมาจากปีกเหมือนกับอุปกรณ์ที่ช่วยในการเผาไหม้ของเครื่องยนต์, และผลักดันลิงค์เข้าไปในความว่างเปล่าที่อยู่ข้างหน้าเขา
ลิงค์รู้สึกได้ถึงแรงคุกคามอย่างมหาศาลในทันทีร่างของเขาถูกตรึงในขณะที่เขาพยายามดิ้นรนให้เป็นอิสระจากเงื้อมมือของหลุมนี้, แต่ถึงอย่างนั้น, ร่างกายของเขาก็ยังคงขยับไปทางซ้ายอย่างไม่ลดละ
แรงดึงของหลุมนี้แข็งแกร่งเกินไปไม่ว่าลิงค์จะขัดขืนแค่ไหน, เขาก็ยังเป็นอิสระจากมันไม่ได้
ไม่ดีแล้วหลุมนี้ทรงพลังเกินไป ฉันคงต้านมันเอาไว้ได้อีกไม่นาน ฉันจำเป็นต้องใช้วิธีอื่น!
ลิงค์ยังคงเป็นมือใหม่สำหรับการท่องความว่างเปล่าอย่างไรก็ตาม, ก่อนเข้ามาในทะเลแห่งความว่างเปล่านั้น, ลิงค์ได้อ่านสมุดบันทึกที่พิอาสเซ่เขียนรวบรวมเอาไว้ในระหว่างการเดินทางในความว่างเปล่า และมันก็บังเอิญจริงๆที่, พิอาสเซ่ได้เขียนวิธีจัดการกับหลุมพลังงานงานด้านลบเอาไว้ด้วย
หลุมพลังงานด้านลบมีทุกรูปร่างทุกขนาด,แต่โครงสร้างของพวกมันนั้นจะดูเหมือนกันหมด ชั้นนอกของหลุมเป็นที่รู้จักในชื่อเขตแดนปกติ, ในขณะที่โครงสร้างชั้นในนั้นจะถูกเรียกว่าชั้นที่ไม่สามารถหวนกลับได้ สิ่งที่คั่นกลางอยู่ระหว่างทั้งสองชั้นนี้ก็คือเยื่อบางๆที่ถูกเรียกกันว่าขอบฟ้าเหตุการณ์ ในตอนที่คุณถูกดึงผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์, สิ่งเดียวที่รอคุณอยู่ที่นั่นก็คือความตาย ในประวัติศาสตร์ของโอเมียร์, มีชาวโอเมียร์กลุ่มนึงที่มีทั้งความกล้าและความโง่ไปท้าทายหลุมพลังงานด้านลบนี้มาแล้ว, แต่ก็ไม่มีใครผ่านขอบฟ้าเหตุการณ์และรอดชีวิตกลับมาบอกเล่าเรื่องราวได้เลย ในตอนที่คุณสัมผัสได้ถึงแรงดึงของมัน, คุณควรสลัดมันให้หลุดให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าคุณไม่สามารถสลัดตัวออกมาได้, ให้ใช้วิธีพุ่งตามแนวฉากในทันที จำเอาไว้, เคลื่อนไหวให้เร็ว การลังเลแม้เพียงชั่ววูบก็อาจทำให้คุณต้องพบจุดจบได้
ความคิดเหล่านี้ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ในทันทีแล้วร่างของเขาก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นตามสัญชาตญาณ
ครั้งนี้,เขาหยุดหนีจากมันเป็นเส้นตรง แต่, เขาเริ่มเร่งความเร็วตั้งฉากกับทิศทางของแรงดึงของหลุมแทน ด้วยความที่หลุมยังคงดึงเขาอยู่, ตอนนี้เขาจึงบินหักโค้งไปทางซ้ายในขณะที่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า
คุณจำเป็นต้องทุ่มสุดตัวสนามพลังงานด้านลบนั้นก็เหมือนกับหนังยาง ในตอนที่มันรัดคุณไปได้แล้วซักครั้งนึง, ไม่ว่าคุณจะเร็วแค่ไหน, หนังยางนี้ก็จะยืดตามไปด้วยอย่างไรก็ตาม, แรงดึงของมันไม่ได้สะดุดเลยซักนิด อันที่จริง, มันรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ คุณจำเป็นต้องดึงหนังยางนี้จนกว่ามันจะขาด, ไม่อย่างนั้นมันจะดึงคุณหายไปตลอดกาล!
ลิงค์นึกถึงสิ่งที่พิอาสเซ่เขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเจ้าสิ่งนี้มีความคล้ายคลึงกับหลุมดำในบางจุด อย่างไรก็ตาม, มันก็ยังมีความแตกต่างที่สำคัญอยู่
ลิงค์เร่งความเร็วต่อไม่นานนัก, เขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้กำลังเคลื่อนที่อยู่ในวงโคจรหนึ่งที่มีรัศมีประมาณ 5,000 ไมล์ในพื้นที่อันมืดมิด
ในตอนแรก,วงโคจรนั้นเป็นวงกลม แต่พอเขาเร่งความเร็วขึ้น, มันก็ยืดออกไปเรื่อยๆจนเปลี่ยนเป็นวงรี
พลังงานความว่างเปล่าในร่างของเขากำลังถูกผลาญอย่างรวดเร็วแม้ว่าร่างมังกรของเขาจะยังดูดซับพลังงานในความว่างเปล่าได้, แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถฟื้นฟูพลังงานความว่างเปล่าในร่างได้เร็วเท่ากับที่เขาใช้ไป
ถ้ายังอยู่ในสภาพนี้,เขาจะสามารถทนต่อไปได้อีกสิบนาที ถ้าเขาไม่สามารถหลุดพ้นได้ในระยะเวลาที่ว่านี้, เขาก็คงจะต้องยอมรับชะตากรรมและถูกดึงเข้าไปในหลุมพลังงานแง่ลบ!
ด้วยการสูดหายใจเข้าลึกๆ,ลิงค์ก็เรียบเรียงสติของตัวเองใหม่และจดจ่ออยู่กับการเร่งความเร็ว
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าหนึ่งนาที, สองนาที, สามนาที… ห้า, หกนาที…ในช่วงเวลาเหล่านี้, ลิงค์บินด้วยความเร็วกว่า 15,000 ไมล์ต่อวินาที ตอนนี้, ร่างมังกรนั้นแทบจะไม่สามารถรับมือกับความเครียดจากการรักษาความมั่นคงด้วยความเร็วระดับนี้ได้
แต่ว่า,มันก็ยังไม่พอ!
หนังยางพลังงานแง่ลบนี้ยังไม่ขาดในขณะที่มันฉุดรั้งลิงค์เอาไว้อย่างดื้อดึงตอนนี้เขาถึงขีดจำกัดแล้ว แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เยือกเย็น, แต่ลิงค์ก็เริ่มรู้สึกกลัวความตายขึ้นมา
นี่ฉันจะต้องมาตายที่นี่จริงๆหรอ?ลิงค์คิด พลังงานในร่างของเขาถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว, และตอนนี้เขาก็เริ่มรู้สึกหอบ
ไม่,อีกแค่นิดเดียว ฉันต้องทำได้สิ!
ลิงค์ส่งเสียงคำรามออกมาในขณะที่เขารวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายที่อยู่ในตัวในตอนที่เขาอยู่ห่างจากหลุมที่สุดในวิถีวงรีของเขา, เขาก็กระพือปีกอีกครั้ง ตูม! มีพลังงานความว่างเปล่าถูกปล่อยออกมาข้างหลังเขา ลิงค์รู้สึกได้ว่าร่างกายของเขากำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า จากนั้น, เขาก็เริ่มช้าลง ตอนนี้ปีกของเขาไร้ซึ่งกำลังอย่างสมบูรณ์แล้ว
พอสัมผัสได้ว่าเขากำลังจะถูกหลุมพลังงานแง่ลบดึงกลับไป,ลิงค์ก็หันกลับมา, แล้วอ้าปากกว้างๆ, จากนั้นเขาก็พ่นลมหายใจมังกรใส่มัน
ปีกของเขาอาจจะไม่สามารถผลักดันเขาไปข้างหน้าได้อีกแล้ว,แต่เขายังมีพลังงานเหลืออยู่บ้างสำหรับใช้ลมหายใจมังกร, ซึ่งมักจะสงวนเอาไว้สำหรับมาตรการโจมตี
ตูม!ลิงค์ปล่อยลมหายใจมังกรแห่งความว่างเปล่าออกมา, ทำให้เขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าต่อได้อีกด้วยแรงระเบิดและทำให้เขาต่อสู้กับหลุมนี้ต่อไปได้
ลิงค์ได้ยืดหนังยางหลุมพลังงานนี้ออกไปจนตอนนี้มันยาวกว่า300,000 ไมล์แล้ว และแรงดึงของมันก็ดูเหมือนจะอ่อนลงด้วย
อีกแค่นิดเดียว,อีกแค่นิดเดียว…ลิงค์ตะโกนอยู่ในใจในขณะที่เขาสัมผัสได้ว่าเขากำลังช้าลง
จากนั้นก็มีเสี้ยงฉึกในหัวของเขาแล้วพลังงานมองไม่เห็นที่กำลังดึงเขาอยู่ก็หายไปอย่างกระทันหัน กรงเล็บอันหนาวเหน็บที่กำลังยึดเกาะสติของเขาก็หายไปด้วย ตอนนี้ลิงค์รู้สึกว่าร่างของเขากำลังลอยไปข้างหน้าอย่างนุ่มนวลด้วยความเร็วสิบไมล์ต่อวินาที
ในที่สุดเขาก็หลุดพ้นจากหลุมพลังงานแง่ลบ ลิงค์ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในที่สุดเขาก็ผ่านพ้นอุปสรรคนี้ไปจนได้
หลังจากที่ลอยอยู่ในความว่างเปล่าเป็นเวลาไม่กี่วินาที,ลิงค์ก็เริ่มสัมผัสได้ว่าพลังของเขากำลังกลับมาอย่างช้าๆ จากนั้นเขาก็ค่อยๆกระพือปีกต่อ
วิธีนี้มันเสี่ยงเกินไปลิงค์คิดว่าต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทพก็คงจะไม่สามารถรอดจากการดึงเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ของหลุมนี้ได้
และนี่ก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงด้วย
ลิงค์เคยอ่านเรื่องพวกนี้มาแล้วในหนังสือเวทมนตร์เล่มอื่นยกตัวอย่างเช่น, หนังสือเวทมนตร์มังกรนั้นได้พูดถึงอันตรายจากการเดินทางในความว่างเปล่าอยู่สองสามเรื่อง ผู้ปกครองวิญญาณเองก็เคยเล่าถึงการเดินทางในทะเลแห่งความว่างเปล่าของเขาในหนังสือแห่งการเปิดเผย ในหนังสือ, เขาได้พูดถึงความอันตรายของหลุมพลังงานแง่ลบเอาไว้ด้วย, แม้ว่ามันจะไม่ได้ให้รายละเอียดมากเท่าที่ลิงค์ต้องการก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญเลเวล13 อย่างลิงค์ก็คงจะคล้ายกับเด็กเดินเตาะแตะที่พึ่งจะเรียนรู้วิธีเดินในพื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่าทะเลแห่งความว่างเปล่านี้ การก้าวผิดเพียงครั้งเดียวก็อาจจะส่งเขาไปโลกหน้าได้แล้ว ในอีกด้านนึง, ผู้เชี่ยวชาญระดับเทพนั้นก็คงจะเหมือนผู้ใหญ่, ที่ฉลาดกว่าและแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเลเวล 13 อย่างไรก็ตาม, พวกเขาก็ยังคงต้านทานอันตรายของพื้นที่รกร้างนี้ได้มากกว่าไม่เท่าไหร่
ในตอนที่เขาหลุดพ้นหลุมพลังงานแง่ลบมาได้,ลิงค์ก็สามารถฟื้นคืนความเยือกเย็นของตัวเองกลับมาได้ หลังจากที่ได้พักผ่อนอยู่ครู่นึง, เขาก็บินไปข้างหน้าต่อ ครั้งนี้เขาเดินทางผ่านความว่างเปล่าอย่างช้าๆและระมัดระวัง, เพื่อให้เวลาตัวเองได้ฟื้นฟูพลังกลับมาให้เต็มที่
หลังจากบินไปได้เป็นเวลาพักใหญ่ๆ,รอบตัวลิงค์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างบอกไม่ถูก หมอกเท่าที่ลิงค์ต้องการก็ตาม
ผู้เชี่ยวชาญเลเวล13 อย่างลิงค์ก็คงจะคล้ายกับเด็กเดินเตาะแตะที่พึ่งจะเรียนรู้วิธีเดินในพื้นที่รกร้างอันกว้างใหญ่ที่เรียกว่าทะเลแห่งความว่างเปล่านี้ การก้าวผิดเพียงครั้งเดียวก็อาจจะส่งเขาไปโลกหน้าได้แล้ว ในอีกด้านนึง, ผู้เชี่ยวชาญระดับเทพนั้นก็คงจะเหมือนผู้ใหญ่, ที่ฉลาดกว่าและแข็งแกร่งกว่าผู้เชี่ยวชาญเลเวล 13 อย่างไรก็ตาม, พวกเขาก็ยังคงต้านทานอันตรายของพื้นที่รกร้างนี้ได้มากกว่าไม่เท่าไหร่
ในตอนที่เขาหลุดพ้นหลุมพลังงานแง่ลบมาได้,ลิงค์ก็สามารถฟื้นคืนความเยือกเย็นของตัวเองกลับมาได้ หลังจากที่ได้พักผ่อนอยู่ครู่นึง, เขาก็บินไปข้างหน้าต่อ ครั้งนี้เขาเดินทางผ่านความว่างเปล่าอย่างช้าๆและระมัดระวัง, เพื่อให้เวลาตัวเองได้ฟื้นฟูพลังกลับมาให้เต็มที่
หลังจากบินไปได้เป็นเวลาพักใหญ่ๆ,รอบตัวลิงค์ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างบอกไม่ถูก หมอกความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเขาบางลงอย่างเห็นได้ชัด, และเพิ่มระยะการมองเห็นของเขา และทันใดนั้นเอง, วัตถุที่มีลักษณะเหมือนเมฆก็ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าเขา
ชั้นเมฆหนาและดูเหมือนจะทอดยาวออกไปไม่รู้จบนี้เปล่งแสงสีเขียวเข้มออกมาด้วยมันคล้ายกับเนบิวลาในโลกของเขา
ในขณะที่ลิงค์เข้าไปใกล้,พวกมันก็เริ่มขยายตัวจนกระทั่งเต็มทัศนวิสัยของเขา
นี่ต้องเป็นเมฆสาหร่ายที่พิอาสเซ่พูดถึงแน่ๆ,ลิงค์คิดอย่างดีใจ
หลังจากที่เข้าร่วมเป็นพรรคพวกของเฟิร์ดแล้ว,พิอาสเซ่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรจากลิงค์อีก ไม่เพียงแค่เขาจะบอกพิกัดของอุปกรณ์ลึกลับให้กับลิงค์เท่านั้น, แต่เขายังแบ่งปันประสบการณ์ในความว่างเปล่า, เช่นเดียวกับรายละเอียดทิวทัศน์รอบๆวัตถุลึกลับนั้นด้วย
เมฆเบื้องหน้าเขาเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่จะพาเขาไปหาอุปกรณ์ลึกลับในตอนที่เขาเดินทางผ่านชั้นเมฆเขาวงกตนี้ได้, เขาก็จะไปถึงอุปกรณ์ลึกลับที่ว่าในที่สุด
จากนั้นลิงค์ก็เริ่มเร่งความเร็วไปทางเมฆ
ไม่นานนัก,เขาก็เข้ามาใกล้เมฆสาหร่าย จากที่ไกลๆ, เมฆสีเขียวเข้มนี้ดูหนาแน่น, จนแทบจะเป็นของแข็ง อย่างไรก็ตาม, พอเข้ามาใกล้, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าเมฆพวกนี้เป็นกลุ่มแก๊สและไม่มีตัวตนเหมือนกับควัน ทัศน์วิสัยที่มองเห็นได้ข้างในเมฆนี้มีแค่หนึ่งร้อยไมล์เท่านั้น
กำแพงเมฆหนานี้มีโพรงทางเดินอยู่มากมาย,ซึ่งแต่ละโพรงนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน จากที่ไกลๆ, เส้นทางพวกนี้ดูเหมือนกับทางแคบๆ, แต่ในความเป็นจริงนั้น, แต่ละโพรงมีความกว้างกว่า 100,000 ไมล์
ลิงค์ยังไม่ได้เข้าไปในเขาวงกตนี้ในทันทีเขานึกถึงสิ่งที่พิอาสเซ่เขียนเอาไว้ในสมุดบันทึก พิอาสเซ่บอกว่าเขาพบเมฆที่มีลักษณ์เหมือนสี่เหลี่ยมที่ไหนสักที่ในบรรดากลุ่มเมฆเหล่านี้ จากนั้นเขาก็ผ่านใจกลางของมันจนไปถึงเป้าหมาย ว่าแต่มันอยู่ที่ไหนหล่ะ? พิอาสเซ่ได้ให้พิกัดเป้าหมายกับลิงค์แล้วเขาแค่บินตรงไปตำแหน่งนั้นเลยก็ได้ถ้าเขาต้องการ อย่างไรก็ตาม, นี่ก็หมายความว่าเขาจะทิ้งร่องรอยเอาไว้ในเมฆสาหร่าย แล้วก็อาจจะมีสิ่งมีชีวิตแห่งความว่างเปล่าโผล่ออกมาจากในเมฆด้วย, ลิงค์คิดว่ามันจะเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ไปกระตุ้นความสนใจที่ไม่จำเป็น
ทางเลือกที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้ก็คือการย้อนรอยเส้นทางของพิอาสเซ่
หลังจากวนรอบเมฆอยู่พักนึง,ลิงค์ก็ยังไม่เจอเมฆรูปร่างสีเหลี่ยมที่พิอาสเซ่พูดถึงเลย ในขณะที่เขากำลังจะทำการค้นหาต่อนั้นเอง, ลิงค์ก็เห็นแสงวาบข้างหลังเขาจากหางตา
ถ้าเปรียบกับคนระดับพิอาสเซ่,เขานั้นยังค่อนข้างขาดประสบการณ์ในการท่องทะเลแห่งความว่างเปล่า ตลอดทางที่มาที่นี่เขาไม่เห็นร่องรอยของสิ่งมีชีวิตเลย ดังนั้นภาพของสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหลังเขานั้นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่สบายใจแล้ว
ด้วยมุมมอง360 ที่ร่างมังกรมอบให้เขา,เขาจึงสามารถเห็นอะไรก็ตามที่อยู่ข้างหลังได้โดยไม่ต้องหันหลัง
ไม่นานนักลิงค์ก็ระบุตำแหน่งของสิ่งที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ได้
มันคือจุดสีดำด้วยการเขม่นตาของเขา, ลิงค์ก็เห็นว่ามันมีรูปร่างเหมือนแผ่นดิสก์ แล้วมันก็มีแสงอ่อนๆเปล่งออกมาจากพื้นผิวของมันด้วย ในขณะที่ลิงค์จ้องมันอยู่พักนึง, ข้อความจากระบบเกมส์ก็เด้งขึ้นมาในทัศน์วิสัยของเขา, และทำให้เขาเห็นรายละเอียดของสิ่งนั้น
ความเร็ว:8,000 ไมล์ต่อวินาที
รัศมี:400 ฟุต
ระดับพลังโดยประมาณ:เลเวล 17
ระยะห่างในปัจจุบัน:1,000,000 ไมล์
ถ้าตัดสินจากรูปร่าง,ความเร็ว, และการไหลเวียนพลังงานของมันแล้ว, เจ้าสิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาและดูเหมือนจะเป็นเรือท่องความว่างเปล่าที่ไม่รู้ต้นกำเนิด “เรือท่องความว่างเปล่าหรอ?”ลิงค์ตกตะลึงอยู่ครู่นึง ด้วยความที่ไม่รู้ว่าเจ้าสิ่งนี้เป็นมิตรหรือศัตรู, เขาจึงหันหลังกลับแล้วพุ่งเข้าไปในเมฆสาหร่ายที่อยู่ใกล้ๆ
เมฆสาหร่ายแต่ละก้อนนั้นหนามากยกตัวอย่างเช่น, ก้อนที่ลิงค์เข้ามาซ่อนตัวอยู่นั้นก็มีความหนากว่า 20,000,000 ไมล์แล้ว
ในตอนแรก,ลิงค์กลัวว่ามันอาจจะมีอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจากข้างในเมฆพวกนี้, ดังนั้นเขาจึงลอยอยู่ใกล้ๆกับพื้นผิวของมัน, ไม่กล้าที่จะเดินทางลึกเข้าไป อย่างไรก็ตาม, ตอนนี้เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ
วัตถุที่ว่านี้ก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นเขาเหมือนกัน,เพราะมันหันมาและมุ่งหน้ามายังจุดที่เขาซ่อนตัวอยู่
ความเร็ว:13,325 ไมล์ต่อวินาที!
ตอนนี้สมองของเขากำลังตะโกนบอกให้เขาออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้
วัตถุที่ว่านี้กำลังตรงมาหาลิงค์เหมือนกับว่ามันจะรู้จักเขาด้วย จากวิธีที่มันพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างน่ากลัวนั้นก็เพียงพอที่จะบอกแล้วว่าวัตถุนี้ไม่ได้มีเจตนาที่ดีกับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น,มันกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่สูงมาก, สูงกว่าความเร็วสูงสุดที่ลิงค์สามารถทำได้อีก ในอีกไม่ถึงสองวินาที, วัตถุนี้จะมาถึงที่ซ่อนของลิงค์ เรือท่องความว่างเปล่ามีเลเวล 17, ทำให้มันแข็งแกร่งกว่าลิงค์, ที่มีเลเวล 13 มาก แม้ว่าเกล็ดมังกรของเขาจะต้านทานเวทมนตร์, แต่ลิงค์ก็คงไม่สามารถเอาตัวรอดจากการปะทะกับมันตรงๆได้
ด้วยการทิ้งความคิดที่ว่าอาจจะมีอันตรายหลบซ่อนอยู่ในเมฆสาหร่าย,ลิงค์ก็ปล่อยพลังงานความว่างเปล่าออกมาจากปีกในทันทีและดำดิ่งเข้าไปในเมฆด้วยความเร็ว 12,000 ไมล์ต่อวินาที
…
ข้างหลังลิงค์,ข้างในเรือท่องความว่างเปล่า โนโซม่าพูดกับอาจารย์แห่งความมืดไมซิน,ที่เป็นกัปตันเรือท่องความว่างเปล่าลำนี้ “เจ้าเห็นสิ่งนั้นไหม? นั่นมันอะไรกัน?”
ไมซินส่ายหัว“ข้ามองไม่ทันว่ามันเป็นอะไร มันพุ่งเข้าไปในเมฆก่อนที่ข้าจะทันสังเกต แต่การเดินทางเข้าไปในเมฆนั้นเป็นเรื่องอันตราย ในท่าน, พวกเราควรไล่ตามไปไหมครับ?”
นี่ไม่ใช่การท่องทะเลแห่งความว่างเปล่าเป็นครั้งแรกของโนโซม่าเขาเข้าใจอันตรายในนั้นดี หลังจากที่ชั่งน้ำหนักการตัดสินใจ, เขาก็สั่งออกมา “ไล่ตามมันไปซะ มันดูคุ้นมากจริงๆ ข้ามั่นใจว่าข้าต้องเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อนแน่ๆ!”
โนโซม่ามั่นใจว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นไม่ใช่ลูกน้องของเขาแน่ๆเนื่องจากพวกเขาทุกคนไม่ได้ต่างอะไรจากหุ่นเชิดวิญญาณของเขาแล้วเขาก็มั่นใจด้วยว่ามันคือศัตรู, เนื่องจากความคุ้นเคยที่เขารู้สึกได้
สิ่งที่ทำให้โนโซม่าสงสัยกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะปรากฎตัวขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกับวัตถุลึกลับนั่นซึ่งนี่ก็หมายความได้อย่างเดียวว่าพวกเขาอาจจะกำลังตามหาสิ่งเดียวกันอยู่ โนโซม่าคงจะสะเพร่ามากถ้าเขาปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปโดยไม่ตรวจสอบแรงจูงใจให้ดีก่อน
พอได้ยินคำสั่งของเจ้านาย,อาจารย์แห่งความมืดไมซินก็พยักหน้าให้รองกัปตันเรือไอลอท, และทั้งคู่ก็ขับเรือแห่งความว่างเปล่าเข้าไปในเมฆสาหร่ายเพื่อไล่ตามจุดสีดำที่อยู่เบื้องหน้าพวกเขา