Advent of the Archmage - 636: มนุษย์เอ๋ย พวกเจ้าคือคนที่อัญเชิญข้าออกมาใช่ไหม?
Chapter
มีเสียงโหยหวนดังขึ้นมันคือเสียงแรกที่ลิงค์ได้ยินหลังจากที่เข้ามาในรอยแยกมิติ เสียงมันเหมือนกับลมกรรโชกที่พัดผ่านหุบเขา
ในวินาทีต่อมาอยู่ๆลิงค์ก็รู้สึกไร้น้ำหนัก เขาควบคุมร่างของเขาไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้เลย ดูเหมือนว่าเขาจะตกลงมาในอุโมงค์อะไรซักอย่าง
มีภาพที่บิดเบี้ยวอยู่เต็มกำแพงทั้ง4 ด้าน ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังตกอยู่ในกล้องสลับลายเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกอัญเชิญเข้ามาในภพมันเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับลิงค์ และเขาก็กังวลเกี่ยวกับมันเพราะเขาไม่รู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่กันแน่
เขากลิ้งอยู่ในอุโมงค์เป็นเวลาพักนึงทันใดนั้นเอง มีเส้นแสงสีแดงพุ่งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ตอนแรกลิงค์ดูไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่พอมันเข้ามาใกล้ เขาก็เพ่งสายตาดู
มันคือกลุ่มก้อนวิญญาณที่กำลังร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด!
ลูกบอลแสงนั้นมีขนาด50 ลูกบาศก์ฟุต มีวิญญาณอย่างน้อย 3,000 ดวงอยู่ในนั้น แต่ละคนมีหน้าตาบูดเบี้ยวจนเกินกว่าจะจำแนกได้ มันเหมือนกับว่ามีคนนวดพวกเขาเป็นก้อนแป้งที่มีรูปร่างแปลกๆ และสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าในตอนที่ก้อนวิญญาณเข้ามาใกล้ลิงค์ มันก็ละลายลงอย่างรวดเร็วเหมือนกับขี้ผึ้ง
อ้ากช่วยด้วย พระเจ้า ข้าไม่คู่ควรกับสิ่งนี้
ลิงค์ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดมาจากก้อนวิญญาณนั้นซึ่งมันดังขึ้นเรื่อยๆในตอนที่ก้อนวิญญาณเข้ามาใกล้ลิงค์
ในตอนที่บอลแสงลอยมาถึงตัวลิงค์วิญญาณข้างในก็ละลายไปจนหมด ตอนนี้มันเต็มไปด้วยของเหลวเหนียวๆสีแดงเลือด ลิงค์ได้แต่ตัวสั่นในตอนที่เห็นมัน ลูกบอลแสงสีแดงเลือดลอยมาทางลิงค์และในที่สุดมันก็ปะทะเข้ากับเกล็ดมังกร
ในตอนที่ปะทะกันลิงค์รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่เข้ามาในร่างของเขา มันเข้าไปยังส่วนลึกในร่างกายของเขา
ตลอดทั้งกระบวนการร่างกายของลิงค์นั้นไม่ได้ขยับเลย พลังของเขายังถูกปิดผนึกอยู่ภายในร่างด้วยพลังปริศนา เขาทำได้แค่มองลูกบอลแสงบุกรุกเข้ามาในร่างกายของเขา
ในระหว่างที่เขาตื่นตกใจก็มีประโยคนึงผุดขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา ตรวจพบการเข้ามาของพลังงานปริศนา ตอนนี้สร้างเขตกักกันสำหรับตรวจสอบพลังงานปริศนาสำเร็จแล้ว
นี่เป็นประโยคแรกที่มาจากระบบเกมความรู้สึกหนาวเย็นในร่างของลิงค์ยังมีอยู่ ยังไงก็ตาม มันหยุดการแพร่กระจายในร่างกายของเขาแล้ว
หลังจากผ่านไปซักพักประโยคที่ 2 ก็ปรากฏขึ้นมา
การตรวจสอบองค์ประกอบของพลังงานปริศนาเสร็จสิ้นพลังงานปริศนานี้คือพลังงานวิญญาณ ซึ่งมักจะถูกใช้โดยทั่วไปในพันธสัญญาอัญเชิญข้ามภพ
เทคนิคการอัญเชิญที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้คือการบูชายัญในตอนที่เข้าไปยังภพของผู้เรียกผู้เล่นจะถูกผูกมัดด้วยพลังของพันธสัญญาอัญเชิญและจะถูกห้ามไม่ให้ละเมิดข้อสัญญาดังกล่าว
ลิงค์เตรียมใจกับเรื่องนี้เอาไว้แล้วบอกเงื่อนไขของพันธสัญญามาให้หน่อยได้มั้ย? ลิงค์ถามในใจ
การตรวจสอบเสร็จสิ้นตอนนี้ผู้เล่นถูกผูกพันธสัญญาแบบร่วมกัน ผู้ถูกอัญเชิญจะต้องช่วยเหลือผู้อัญเชิญในการทำภารกิจให้พวกเขา ในตอนที่ทำภารกิจสำเร็จแล้วผู้ถูกอัญเชิญจะได้รับอนุญาตให้เก็บพลังงานวิญญาณที่ได้รับมาจากการบูชายัญในพิธีกรรมอัญเชิญ ยังไงก็ตาม ผู้ถูกอัญเชิญจะต้องรับผลการปฏิเสธจากภพอีกครั้งหลังจากที่เติมเต็มพันธะสัญญาแล้ว ในระหว่างช่วงที่สัญญายังอยู่ ทั้งสองฝ่ายจะถูกห้ามไม่ให้ทำร้ายซึ่งกันและกัน
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็ถามขึ้น“มีวิธีทำลายพันธะสัญญารึเปล่า?”
ความพยายามในการลบล้างสัญญาที่มีพลังแห่งกฎไม่สำเร็จผู้เล่นมีสองทางเลือก หนึ่งคือปฏิเสธพลังวิญญาณที่ถูกกักกันอยู่ในร่างกายเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสระ ยังไงก็ตาม ผู้เล่นจะได้รับการปฏิเสธจากภพอย่างเต็มที่ และพลังของผู้เล่นจะถูกลดลงไปอย่างมากและจะสามารถใช้พลังได้แค่ในเลเวล 7
ตัวเลือกที่2 คือการรักษาสภาพแบบนี้ต่อไป ผู้เล่นจะอยู่ภายใต้การจำกัดของพันธะสัญญา ผู้อัญเชิญจะถูกบังคับให้รับพลังปฏิเสธของภพที่ผู้ถูกอัญเชิญได้รับไปบางส่วนด้วย ยิ่งผู้อัญเชิญแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ผู้ถูกอัญเชิญก็จะได้รับผลการปฏิเสธจากภพน้อยลงเท่านั้น และด้วยผลของการแลกเปลี่ยนนี้ พลังของผู้เล่นจะถูกลดลงไปไม่มากเท่าไหร่
หลังจากคิดอยู่พักนึงลิงค์ก็ตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่สอง เขาถูกปฏิเสธด้วยที่มาของพลังพันธะสัญญา ยังไงก็ตาม ด้วยสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ ถ้าเขายอมลดพลังของตัวเองลงเกินกว่าที่จำเป็นเขาก็คงจะโง่แล้ว
ถ้างั้นขอตัวเลือกที่สองละกัน
ในทันทีที่เขาพูดร่างของเขาก็สั่นเล็กน้อย มีความรู้สึกหนาวเย็นขึ้นที่ร่างของเขาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็สังเกตุเห็นว่าพลังวิญญาณที่ถูกบูชายัญนั้นได้ยึดพลังของเขาไป 1% จากทั้งหมด ในขณะที่อีก 99% ที่เหลือยังเป็นของเขาอยู่
ดูเหมือนว่าพลังของฉันจะได้รับผลกระทบจากพันธะสัญญาเวทมนตร์ไป1% นะ ฉันน่าจะรอดจากการลงโทษใดก็ตามที่ถูกเตรียมเอาไว้ถ้าเกิดว่าฉันผิดสัญญา
นี่มันดีกว่าที่ลิงค์คิดเอาไว้ซะอีก ไม่นานนักลิงค์ก็รู้สึกตัวว่าเขาเลิกร่วงลงมาแล้ว เขารู้สึกว่าเท้าของเขาโดนพื้นแข็งๆ ภาพที่บิดเบี้ยวรอบตัวเขาเริ่มเปลี่ยนกลายเป็นกำแพงหมอก ซึ่งมันเริ่มกระจายออกไปเพื่อให้เขาเห็นภพที่เขาถูกอัญเชิญมา
ตลอดทั้งกระบวนการลิงค์รู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่สามารถต้านทานได้กำลังต่อต้านเขา มันเหมือนกับว่าเขากำลังถูกกดทับอยู่ที่ส่วนลึกของมหาสมุทร
เขาขยับนิ้วเล็กน้อยเขารู้สึกได้ถึงแรงต้านที่มองไม่เห็นในตอนที่เขาพยายามที่จะร่ายมือแห่งนักเวทย์ ดูเหมือนว่าแรงต้านทานนี้จะยับยั้งพลังในร่างกายของเขาเอาไว้ประมาณ 10%
พูดอีกนัยนึงก็คือระดับพลังของเขาในตอนนี้น่าจะอยู่ที่เลเวล10 ซึ่งมันมากกว่าที่ระบบเกมคาดการณ์เอาไว้
แรงต้านนี้จะต้องเป็นผลจากการปฏิเสธของภพแน่ๆมันน้อยกว่าที่ฉันคาดเอาไว้นะเนี่ย ผู้อัญเชิญของฉันจะต้องรับมันไปบางส่วนแน่ๆตอนนี้ ดูจากสภาพของฉันแล้ว เขาคงจะเป็นนักเวทย์สินะ
ในตอนนั้นเองแสงบิดเบี้ยวที่อยู่รอบตัวเขาก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ลิงค์พบว่าตัวเองอยู่ที่ใจกลางหุบเขาลึกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า หุบเขานั้นกว้างประมาณ 400 ฟุต มันมีกำแพงสองฝั่งสูงประมาณ 200 ฟุต
ด้วยมุมมอง360 องศาของเขา ลิงค์สามารถดูรอบๆได้โดยไม่ต้องหันศรีษะเลย
เขารู้สึกได้ว่าเขากำลังยืนอยู่ที่ใจกลางของผนึกเวทย์ขนาดใหญ่กว่า150 ฟุต ซึ่งมันถูกเขียนลงบนพื้นด้วยเลือดสดๆ กลิ่นของเลือดนั้นไหลเข้ามาในรูจมูกของเขาจากทุกๆเส้นของผนึกเวทย์ มันเหม็นมากจนลิงค์ทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยความรังเกียจ
ด้วยความที่เป็นนักเวทย์สายตาของลิงค์ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วจึงมองไปยังโครงสร้างของผนึกเวทมนตร์เลือดนี้ในทันที แล้วเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ห็น ผนึกนั้นดูคุ้นเคยมากสำหรับเขา มันทำให้เขานึกถึงวงจรเวทมนตร์ที่ถูกพบในเฟืองปริศนา หินดวงดาวและหนังสือแห่งการเปิดเผย
ภพแห่งนี้อยู่ใกล้กับเฟืองลึกลับหรือว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องกันบางอย่างนะ? ลิงค์คิด
ในตอนนั้นเองเสียงอันแหบแห้งก็เรียกเขาและขัดขวางความคิดของเขา
“โอ้ท่านมังกรผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราดีใจมากที่ท่านตอบรับการอัญเชิญของพวกเรา!”
เสียงนั้นพูดด้วยภาษาอื่นยังไงก็ตาม ด้วยผลของพันธะสัญญา สิ่งใดก็ตามที่ถูกพูดออกมาจะถูกแปลในใจของลิงค์
โดยอัตโนมัติ
ลิงค์ตามที่มาของเสียงไปและเห็นนักเวทย์หงำเหงือกที่มีผมขาวเหมือนกับหิมะในชุดเสื้อคลุมสีดำคนนึงยืนอยู่ที่หนึ่งในโหนดของผนึกเวทมนตร์เลือดลิงค์รู้ได้ในทันทีว่าชายแก่คนนี้คือนักเวทย์เลเวล 6 จากพลังที่เขาปล่อยออกมา เขาดูเหมือนมนุษย์แล้วก็ดูเหมือนเขาจะรู้ด้วยว่าฉันเป็นใคร น่าสนใจแฮะ ลิงค์หรี่ตา
ชายแก่ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเหมือนกับคนทั่วๆไปที่พบเห็นได้ในภพฟิรุแมนความแตกต่างเดียวก็คือเขามีหน้าผากที่กว้าง และตาของเขาก็เล็กมากๆ แถมรูปร่างของเขาก็เหมือนคนยุคเก่าด้วย
ชายแก่คนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวในผนึกนี้มีโหนดอยู่ 6 จุด แต่ละจุดนั้นมีนักเวทย์พื้นเมืองของภพนี้อยู่ คนที่เหลือเองก็ดูเหมือนกับมนุษย์ รวมไปถึงความแตกต่างเล็กน้อยเช่นรูปร่างที่ดูเหมือนคนยุคเก่าและหน้าผากที่กว้างด้วย
นักเวทย์ที่ยืนอยู่บนผนึกเวทมนตร์ต่างก็จ้องมาที่ลิงค์ด้วยความประหลาดใจเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกเขาอัญเชิญเข้ามาในภพ นักเวทย์ชรานั้นกำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วในตอนที่ตะเบ็งเสียง “อา ท่านมังกรผู้แข็งแกร่ง พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ในตอนที่กำลังพูดอยู่นี้กองทัพของทรอยม์ได้มาอยู่ที่ประตูของอาณาจักรพวกเราแล้ว พวกมันเป็นศัตรูคู่อาฆาตของอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเรา พวกเราต้องการให้ท่านช่วยจัดการพวกมันให้หน่อยครับ”
ทรอยม์หรอ?แล้วก็กองทัพเนี่ยนะ? ลิงค์กระพริบตา เขาพอจะเข้าใจว่ามันคือเรื่องอะไร เขาเชิดหน้าขึ้นสูงเพื่อมองดูผนึกเวทมนตร์ที่อยู่เบื้องล่างเขา และเห็นว่ามันเกลื่อนไปด้วยศพ มีศพอยู่ประมาณ 4,000 ร่างนอนอยู่ที่พื้น คนพวกนี้ถูกบูชายัญเพื่อทำพิธีอัญเชิญเรียกตัวเขามาที่นี่
เสื้อผ้าของศพนั้นแตกต่างจากเสื้อคลุมที่พวกนักเวทย์รอบๆสวมลิงค์คิดว่าคนที่ถูกบูชายัญนั้นน่าจะเป็นเชลยศึกของกองทัพทรอยม์
หรือพูดอีกนัยนึงก็คือนักเวทย์พวกนี้ได้สังเวยเชลยของพวกเขาเพื่ออัญเชิญสิ่งที่ทรงพลังจากมิติอื่นอย่างเช่นลิงค์และหวังว่าจะช่วยพลิกสถานการณ์ให้พวกเขาชนะสงครามได้ด้วยความช่วยเหลือของผู้ที่ถูกอัญเชิญมา
พอเขาเข้าใจสาเหตุที่ถูกอัญเชิญมาแล้วลิงค์ก็มองไปยังผู้อัญเชิญเฒ่า เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร ส่วนใหญ่มันคือความตื่นเต้น และเขาก็ยังบอกได้ด้วยว่าการปรากฏตัวของเขานั้นเหนือกว่าความคาดหมายของชายแก่คนนี้
ในตอนที่พวกเขากำลังทำพิธีอัญเชิญพวกเขาน่าจะหวังอัญเชิญสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นส่วนฉันมันก็แค่คนที่มาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้นเอง และดูเหมือนว่าฉันจะต้องช่วยพวกเขาในการต่อสู้กับกองทัพของทรอยม์ด้วยเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของพันธะสัญญา
ทุกคนต่างก็จ้องมาที่เขาด้วยความรู้สึกคาดหวังพร้อมกับมีความระมัดระวังแฝงอยู่ลิงค์ยังคงเงียบ เขาเห็นคนประมาณ 5,000 คนที่นอกผนึกเวทมนตร์เลือด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นทหาร และมีบางส่วนที่อยู่กลางวงทหารพวกนี้ และแต่งตัวในชุดที่สง่างาม พวกเขาดูมีความสำคัญมาก นักรบพวกนั้นจะต้องเป็นพวกระดับสูงของภพแน่ๆแต่ว่า พวกเขาส่วนใหญ่มีเลเวลแค่ 3 ซึ่งมันไม่ค่อยต่างกับลิงค์ในตอนที่เข้ามาในภพฟิรุแมนในครั้งแรกซักเท่าไหร่ แต่ลิงค์จะไม่สามารถรับมือกับพวกเขาทุกคนได้ถ้าเกิดว่าพลังของเขาถูกลดเหลือเลเวล 7 ตามที่ระบบเกมได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนที่จะเข้ามาในภพ ยังไงก็ตาม ด้วยพลังที่จุดสูงสุดของเลเวล 10 นั้น เขาคิดว่าเขาสามารถต่อสู่กับพวกเขาทั้งหมดได้อย่างสบายๆ
พวกนักรบมองเขาอย่างระมัดระวังเส้นประสาทของพวกเขาตึงเปรี๊ยะในตอนที่รอการตอบสนองจากลิงค์ แถมลิงค์ยังเห็นด้วยว่าพวกเขาบางคนกำลังตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจได้ถ้าเกิดว่าลิงค์เจอผู้เชี่ยวชาญเลเวล 10 ตั้งแต่ช่วงแรกที่เขาเข้ามาในภพฟิรุแมน เขาก็คงจะกลัวขี้แตกเหมือนกัน
ไม่มีมนุษย์คนไหนมีโอกาสรอดได้ในการปะทะกับบุคคลระดับตำนาน
เขาฟาดหางขนาดใหญ่ของเขาลงกับพื้นหลายครั้งตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! แผ่นดินสะเทือน ทุกคนในหุบเขาหน้าซีด เหล่าคนที่น่าจะเป็นคนสำคัญที่ถูกล้อมด้วยองครักษ์นั้นตัวแข็งทื่อ ลิงค์เห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงเป็นลมไปแล้วด้วย
“ท่านมังกรผู้แข็งแกร่งท่านตกลงที่จะช่วยพวกเราใช่ไหมครับ?” นักเวทย์ชราตะโกนออกมาอีกครั้ง เสียงของเขาสั่น สถานการณ์ในตอนที่ดำเนินพิธีอัญเชิญอยู่นั้นแปลกมาก พูดอย่างละเอียดเลยก็คือมันใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะสำเร็จพิธีกรรม และสิ่งที่พวกเขาเรียกออกมาได้นั้นดูเหมือนจะมีพลังมากกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยพบมา
แต่เดิมนักเวทย์ชราต้องการจะอัญเชิญสิ่งที่มีเลเวล8 หรือ 9 ออกมา ยังไงก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นดูเหมือนกับคำอธิบายเกี่ยวกับมังกรที่ถูกบันทึกเอาไว้ในตำนานของพวกเขาเลย มีความยาวกว่า 100 ฟุต ตัวใหญ่เหมือนภูเขาลูกเล็กๆ เกล็ดสีดำเงาอันสวยงาม ดวงตาที่เป็นประกายและออร่าอันหนักหน่วง ทุกอย่างนั้นบ่งบอกว่าเขาได้อัญเชิญบางสิ่งที่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาออกมา
เขาไม่แน่ใจว่าพันธะสัญญานั้นสามารถทนรับตัวตนที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้รึเปล่า
ในตอนนั้นเองลิงค์ก็กำลังชั่งน้ำหนักทางเลือกของเขา ฉันควรจะยอมรับสัญญาในการช่วยเหลือพวกเขาจัดการกับกองทัพรึเปล่านะ? ไม่สิ เงื่อนไขของมันดูหละหลวมมาก ฉันน่าจะสามารถหาช่องโหว่วของมันได้ง่ายๆอยู่นะ อีกอย่างคงจะมีแต่คนโง่เท่านั้นแหล่ะที่จะยอมต่อสู้กับทั้งกองทัพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยตัวคนเดียว!
ตอนนี้ลิงค์แข็งแกร่งพอๆกับดยุคมังกรแดงอิเซนดิลันที่เขาเคยจัดการเพื่อช่วยพวกมนุษย์สัตว์ในตอนที่เขาเป็นภัยคุกคามแค่เล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับทั้งกองทัพของทรอยม์ได้ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่ามันจะราบรื่น อีกอย่าง ในตอนที่ลิงค์ทำพันธะสัญญาสำเร็จ เขาก็จะต้องจัดการกับการปฏิเสธจากภพอีก เมื่อถึงตอนนั้น มันคงจะวุ่นวายมากแน่ๆ
ฉันควรทำยังไงดีนะ?ลิงค์คิด ไม่กี่วินาทีต่อมา ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป
เขาก้มหัวลงมาและค่อยๆหันไปหานักเวทย์ชราในตอนที่เขามังกรอยู่ห่างจากเขาแค่ 20 ฟุต ชายชราก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ขาของเขาสั่นมากจนเขาล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา “ท่านมังกรผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายกับท่าน ได้โปรดยกโทษให้พวกข้าด้วยเถิด!”
ถ้าเกิดมีความแตกต่างในพลังอย่างมากระหว่างผู้อัญเชิญกับผู้ถูกอัญเชิญพลังที่ผู้ถูกอัญเชิญจะแสดงออกมาได้นั้นจะมีขีดจำกัด และพันธะสัญญาจะสามารถย้อนกลับมาหาผู้อัญเชิญได้ด้วยถ้าเกิดไม่ระวังมากพอ
ในตอนที่เห็นนักเวทย์ชรากลายเป็นกองน้ำตาอันน่าสงสารแล้วทั้งกองทัพในหุบเขาก็ตกอยู่ในความวุ่นวายในทันที
ด้วยความที่ไม่รู้การทำงานของเวทย์อัญเชิญในตอนที่นักรบเห็นนักเวทย์ชรากลายเป็นแบบนั้น ทุกคนก็พากันคิดว่าเวทย์ล้มเหลว ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสู้กับปีศาจมีปีกที่นักเวทย์อัญเชิญออกมาเลย
ในตอนนั้นเองลิงค์ก็อ้าปาก ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของเขา เสียงของเขาจึงออกมาดังก้อง “มนุษย์เอ๋ย เจ้าคือคนที่อัญเชิญข้าออกมาใช่ไหม?”
คำถามนั้นถูกยิงไปที่นักเวทย์ชรา
มีเสียงโหยหวนดังขึ้นมันคือเสียงแรกที่ลิงค์ได้ยินหลังจากที่เข้ามาในรอยแยกมิติ เสียงมันเหมือนกับลมกรรโชกที่พัดผ่านหุบเขา
ในวินาทีต่อมาอยู่ๆลิงค์ก็รู้สึกไร้น้ำหนัก เขาควบคุมร่างของเขาไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อได้เลย ดูเหมือนว่าเขาจะตกลงมาในอุโมงค์อะไรซักอย่าง
มีภาพที่บิดเบี้ยวอยู่เต็มกำแพงทั้ง4 ด้าน ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังตกอยู่ในกล้องสลับลายเลย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกอัญเชิญเข้ามาในภพมันเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับลิงค์ และเขาก็กังวลเกี่ยวกับมันเพราะเขาไม่รู้ว่ามีอะไรรอเขาอยู่กันแน่
เขากลิ้งอยู่ในอุโมงค์เป็นเวลาพักนึงทันใดนั้นเอง มีเส้นแสงสีแดงพุ่งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ ตอนแรกลิงค์ดูไม่ออกว่ามันคืออะไร แต่พอมันเข้ามาใกล้ เขาก็เพ่งสายตาดู
มันคือกลุ่มก้อนวิญญาณที่กำลังร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด!
ลูกบอลแสงนั้นมีขนาด50 ลูกบาศก์ฟุต มีวิญญาณอย่างน้อย 3,000 ดวงอยู่ในนั้น แต่ละคนมีหน้าตาบูดเบี้ยวจนเกินกว่าจะจำแนกได้ มันเหมือนกับว่ามีคนนวดพวกเขาเป็นก้อนแป้งที่มีรูปร่างแปลกๆ และสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าในตอนที่ก้อนวิญญาณเข้ามาใกล้ลิงค์ มันก็ละลายลงอย่างรวดเร็วเหมือนกับขี้ผึ้ง
อ้ากช่วยด้วย พระเจ้า ข้าไม่คู่ควรกับสิ่งนี้
ลิงค์ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดมาจากก้อนวิญญาณนั้นซึ่งมันดังขึ้นเรื่อยๆในตอนที่ก้อนวิญญาณเข้ามาใกล้ลิงค์
ในตอนที่บอลแสงลอยมาถึงตัวลิงค์วิญญาณข้างในก็ละลายไปจนหมด ตอนนี้มันเต็มไปด้วยของเหลวเหนียวๆสีแดงเลือด ลิงค์ได้แต่ตัวสั่นในตอนที่เห็นมัน ลูกบอลแสงสีแดงเลือดลอยมาทางลิงค์และในที่สุดมันก็ปะทะเข้ากับเกล็ดมังกร
ในตอนที่ปะทะกันลิงค์รู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บที่เข้ามาในร่างของเขา มันเข้าไปยังส่วนลึกในร่างกายของเขา
ตลอดทั้งกระบวนการร่างกายของลิงค์นั้นไม่ได้ขยับเลย พลังของเขายังถูกปิดผนึกอยู่ภายในร่างด้วยพลังปริศนา เขาทำได้แค่มองลูกบอลแสงบุกรุกเข้ามาในร่างกายของเขา
ในระหว่างที่เขาตื่นตกใจก็มีประโยคนึงผุดขึ้นมาในทัศนวิสัยของเขา ตรวจพบการเข้ามาของพลังงานปริศนา ตอนนี้สร้างเขตกักกันสำหรับตรวจสอบพลังงานปริศนาสำเร็จแล้ว
นี่เป็นประโยคแรกที่มาจากระบบเกมความรู้สึกหนาวเย็นในร่างของลิงค์ยังมีอยู่ ยังไงก็ตาม มันหยุดการแพร่กระจายในร่างกายของเขาแล้ว
หลังจากผ่านไปซักพักประโยคที่ 2 ก็ปรากฏขึ้นมา
การตรวจสอบองค์ประกอบของพลังงานปริศนาเสร็จสิ้นพลังงานปริศนานี้คือพลังงานวิญญาณ ซึ่งมักจะถูกใช้โดยทั่วไปในพันธสัญญาอัญเชิญข้ามภพ
เทคนิคการอัญเชิญที่กำลังดำเนินการอยู่ตอนนี้คือการบูชายัญในตอนที่เข้าไปยังภพของผู้เรียกผู้เล่นจะถูกผูกมัดด้วยพลังของพันธสัญญาอัญเชิญและจะถูกห้ามไม่ให้ละเมิดข้อสัญญาดังกล่าว
ลิงค์เตรียมใจกับเรื่องนี้เอาไว้แล้วบอกเงื่อนไขของพันธสัญญามาให้หน่อยได้มั้ย? ลิงค์ถามในใจ
การตรวจสอบเสร็จสิ้นตอนนี้ผู้เล่นถูกผูกพันธสัญญาแบบร่วมกัน ผู้ถูกอัญเชิญจะต้องช่วยเหลือผู้อัญเชิญในการทำภารกิจให้พวกเขา ในตอนที่ทำภารกิจสำเร็จแล้วผู้ถูกอัญเชิญจะได้รับอนุญาตให้เก็บพลังงานวิญญาณที่ได้รับมาจากการบูชายัญในพิธีกรรมอัญเชิญ ยังไงก็ตาม ผู้ถูกอัญเชิญจะต้องรับผลการปฏิเสธจากภพอีกครั้งหลังจากที่เติมเต็มพันธะสัญญาแล้ว ในระหว่างช่วงที่สัญญายังอยู่ ทั้งสองฝ่ายจะถูกห้ามไม่ให้ทำร้ายซึ่งกันและกัน
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็ถามขึ้น“มีวิธีทำลายพันธะสัญญารึเปล่า?”
ความพยายามในการลบล้างสัญญาที่มีพลังแห่งกฎไม่สำเร็จผู้เล่นมีสองทางเลือก หนึ่งคือปฏิเสธพลังวิญญาณที่ถูกกักกันอยู่ในร่างกายเพื่อแลกเปลี่ยนกับอิสระ ยังไงก็ตาม ผู้เล่นจะได้รับการปฏิเสธจากภพอย่างเต็มที่ และพลังของผู้เล่นจะถูกลดลงไปอย่างมากและจะสามารถใช้พลังได้แค่ในเลเวล 7
ตัวเลือกที่2 คือการรักษาสภาพแบบนี้ต่อไป ผู้เล่นจะอยู่ภายใต้การจำกัดของพันธะสัญญา ผู้อัญเชิญจะถูกบังคับให้รับพลังปฏิเสธของภพที่ผู้ถูกอัญเชิญได้รับไปบางส่วนด้วย ยิ่งผู้อัญเชิญแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ผู้ถูกอัญเชิญก็จะได้รับผลการปฏิเสธจากภพน้อยลงเท่านั้น และด้วยผลของการแลกเปลี่ยนนี้ พลังของผู้เล่นจะถูกลดลงไปไม่มากเท่าไหร่
หลังจากคิดอยู่พักนึงลิงค์ก็ตัดสินใจเลือกตัวเลือกที่สอง เขาถูกปฏิเสธด้วยที่มาของพลังพันธะสัญญา ยังไงก็ตาม ด้วยสถานการณ์ของเขาในตอนนี้ ถ้าเขายอมลดพลังของตัวเองลงเกินกว่าที่จำเป็นเขาก็คงจะโง่แล้ว
ถ้างั้นขอตัวเลือกที่สองละกัน
ในทันทีที่เขาพูดร่างของเขาก็สั่นเล็กน้อย มีความรู้สึกหนาวเย็นขึ้นที่ร่างของเขาอีกครั้ง จากนั้นเขาก็สังเกตุเห็นว่าพลังวิญญาณที่ถูกบูชายัญนั้นได้ยึดพลังของเขาไป 1% จากทั้งหมด ในขณะที่อีก 99% ที่เหลือยังเป็นของเขาอยู่
ดูเหมือนว่าพลังของฉันจะได้รับผลกระทบจากพันธะสัญญาเวทมนตร์ไป1% นะ ฉันน่าจะรอดจากการลงโทษใดก็ตามที่ถูกเตรียมเอาไว้ถ้าเกิดว่าฉันผิดสัญญา
นี่มันดีกว่าที่ลิงค์คิดเอาไว้ซะอีก ไม่นานนักลิงค์ก็รู้สึกตัวว่าเขาเลิกร่วงลงมาแล้ว เขารู้สึกว่าเท้าของเขาโดนพื้นแข็งๆ ภาพที่บิดเบี้ยวรอบตัวเขาเริ่มเปลี่ยนกลายเป็นกำแพงหมอก ซึ่งมันเริ่มกระจายออกไปเพื่อให้เขาเห็นภพที่เขาถูกอัญเชิญมา
ตลอดทั้งกระบวนการลิงค์รู้สึกได้ถึงพลังที่ไม่สามารถต้านทานได้กำลังต่อต้านเขา มันเหมือนกับว่าเขากำลังถูกกดทับอยู่ที่ส่วนลึกของมหาสมุทร
เขาขยับนิ้วเล็กน้อยเขารู้สึกได้ถึงแรงต้านที่มองไม่เห็นในตอนที่เขาพยายามที่จะร่ายมือแห่งนักเวทย์ ดูเหมือนว่าแรงต้านทานนี้จะยับยั้งพลังในร่างกายของเขาเอาไว้ประมาณ 10%
พูดอีกนัยนึงก็คือระดับพลังของเขาในตอนนี้น่าจะอยู่ที่เลเวล10 ซึ่งมันมากกว่าที่ระบบเกมคาดการณ์เอาไว้
แรงต้านนี้จะต้องเป็นผลจากการปฏิเสธของภพแน่ๆมันน้อยกว่าที่ฉันคาดเอาไว้นะเนี่ย ผู้อัญเชิญของฉันจะต้องรับมันไปบางส่วนแน่ๆตอนนี้ ดูจากสภาพของฉันแล้ว เขาคงจะเป็นนักเวทย์สินะ
ในตอนนั้นเองแสงบิดเบี้ยวที่อยู่รอบตัวเขาก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้ลิงค์พบว่าตัวเองอยู่ที่ใจกลางหุบเขาลึกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า หุบเขานั้นกว้างประมาณ 400 ฟุต มันมีกำแพงสองฝั่งสูงประมาณ 200 ฟุต
ด้วยมุมมอง360 องศาของเขา ลิงค์สามารถดูรอบๆได้โดยไม่ต้องหันศรีษะเลย
เขารู้สึกได้ว่าเขากำลังยืนอยู่ที่ใจกลางของผนึกเวทย์ขนาดใหญ่กว่า150 ฟุต ซึ่งมันถูกเขียนลงบนพื้นด้วยเลือดสดๆ กลิ่นของเลือดนั้นไหลเข้ามาในรูจมูกของเขาจากทุกๆเส้นของผนึกเวทย์ มันเหม็นมากจนลิงค์ทำหน้าบูดเบี้ยวด้วยความรังเกียจ
ด้วยความที่เป็นนักเวทย์สายตาของลิงค์ที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วจึงมองไปยังโครงสร้างของผนึกเวทมนตร์เลือดนี้ในทันที แล้วเขาก็ต้องตกใจกับสิ่งที่ห็น ผนึกนั้นดูคุ้นเคยมากสำหรับเขา มันทำให้เขานึกถึงวงจรเวทมนตร์ที่ถูกพบในเฟืองปริศนา หินดวงดาวและหนังสือแห่งการเปิดเผย
ภพแห่งนี้อยู่ใกล้กับเฟืองลึกลับหรือว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องกันบางอย่างนะ? ลิงค์คิด
ในตอนนั้นเองเสียงอันแหบแห้งก็เรียกเขาและขัดขวางความคิดของเขา
“โอ้ท่านมังกรผู้ยิ่งใหญ่ พวกเราดีใจมากที่ท่านตอบรับการอัญเชิญของพวกเรา!”
เสียงนั้นพูดด้วยภาษาอื่นยังไงก็ตาม ด้วยผลของพันธะสัญญา สิ่งใดก็ตามที่ถูกพูดออกมาจะถูกแปลในใจของลิงค์
โดยอัตโนมัติ
ลิงค์ตามที่มาของเสียงไปและเห็นนักเวทย์หงำเหงือกที่มีผมขาวเหมือนกับหิมะในชุดเสื้อคลุมสีดำคนนึงยืนอยู่ที่หนึ่งในโหนดของผนึกเวทมนตร์เลือดลิงค์รู้ได้ในทันทีว่าชายแก่คนนี้คือนักเวทย์เลเวล 6 จากพลังที่เขาปล่อยออกมา เขาดูเหมือนมนุษย์แล้วก็ดูเหมือนเขาจะรู้ด้วยว่าฉันเป็นใคร น่าสนใจแฮะ ลิงค์หรี่ตา
ชายแก่ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเหมือนกับคนทั่วๆไปที่พบเห็นได้ในภพฟิรุแมนความแตกต่างเดียวก็คือเขามีหน้าผากที่กว้าง และตาของเขาก็เล็กมากๆ แถมรูปร่างของเขาก็เหมือนคนยุคเก่าด้วย
ชายแก่คนนี้ไม่ได้อยู่คนเดียวในผนึกนี้มีโหนดอยู่ 6 จุด แต่ละจุดนั้นมีนักเวทย์พื้นเมืองของภพนี้อยู่ คนที่เหลือเองก็ดูเหมือนกับมนุษย์ รวมไปถึงความแตกต่างเล็กน้อยเช่นรูปร่างที่ดูเหมือนคนยุคเก่าและหน้าผากที่กว้างด้วย
นักเวทย์ที่ยืนอยู่บนผนึกเวทมนตร์ต่างก็จ้องมาที่ลิงค์ด้วยความประหลาดใจเห็นได้ชัดว่าพวกเขาตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกเขาอัญเชิญเข้ามาในภพ นักเวทย์ชรานั้นกำลังจะร้องไห้ออกมาแล้วในตอนที่ตะเบ็งเสียง “อา ท่านมังกรผู้แข็งแกร่ง พวกเราต้องการความช่วยเหลือจากท่าน ในตอนที่กำลังพูดอยู่นี้กองทัพของทรอยม์ได้มาอยู่ที่ประตูของอาณาจักรพวกเราแล้ว พวกมันเป็นศัตรูคู่อาฆาตของอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของเรา พวกเราต้องการให้ท่านช่วยจัดการพวกมันให้หน่อยครับ”
ทรอยม์หรอ?แล้วก็กองทัพเนี่ยนะ? ลิงค์กระพริบตา เขาพอจะเข้าใจว่ามันคือเรื่องอะไร เขาเชิดหน้าขึ้นสูงเพื่อมองดูผนึกเวทมนตร์ที่อยู่เบื้องล่างเขา และเห็นว่ามันเกลื่อนไปด้วยศพ มีศพอยู่ประมาณ 4,000 ร่างนอนอยู่ที่พื้น คนพวกนี้ถูกบูชายัญเพื่อทำพิธีอัญเชิญเรียกตัวเขามาที่นี่
เสื้อผ้าของศพนั้นแตกต่างจากเสื้อคลุมที่พวกนักเวทย์รอบๆสวมลิงค์คิดว่าคนที่ถูกบูชายัญนั้นน่าจะเป็นเชลยศึกของกองทัพทรอยม์
หรือพูดอีกนัยนึงก็คือนักเวทย์พวกนี้ได้สังเวยเชลยของพวกเขาเพื่ออัญเชิญสิ่งที่ทรงพลังจากมิติอื่นอย่างเช่นลิงค์และหวังว่าจะช่วยพลิกสถานการณ์ให้พวกเขาชนะสงครามได้ด้วยความช่วยเหลือของผู้ที่ถูกอัญเชิญมา
พอเขาเข้าใจสาเหตุที่ถูกอัญเชิญมาแล้วลิงค์ก็มองไปยังผู้อัญเชิญเฒ่า เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร ส่วนใหญ่มันคือความตื่นเต้น และเขาก็ยังบอกได้ด้วยว่าการปรากฏตัวของเขานั้นเหนือกว่าความคาดหมายของชายแก่คนนี้
ในตอนที่พวกเขากำลังทำพิธีอัญเชิญพวกเขาน่าจะหวังอัญเชิญสิ่งมีชีวิตอย่างอื่นส่วนฉันมันก็แค่คนที่มาอยู่ผิดที่ผิดเวลาเท่านั้นเอง และดูเหมือนว่าฉันจะต้องช่วยพวกเขาในการต่อสู้กับกองทัพของทรอยม์ด้วยเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของพันธะสัญญา
ทุกคนต่างก็จ้องมาที่เขาด้วยความรู้สึกคาดหวังพร้อมกับมีความระมัดระวังแฝงอยู่ลิงค์ยังคงเงียบ เขาเห็นคนประมาณ 5,000 คนที่นอกผนึกเวทมนตร์เลือด ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นทหาร และมีบางส่วนที่อยู่กลางวงทหารพวกนี้ และแต่งตัวในชุดที่สง่างาม พวกเขาดูมีความสำคัญมาก นักรบพวกนั้นจะต้องเป็นพวกระดับสูงของภพแน่ๆแต่ว่า พวกเขาส่วนใหญ่มีเลเวลแค่ 3 ซึ่งมันไม่ค่อยต่างกับลิงค์ในตอนที่เข้ามาในภพฟิรุแมนในครั้งแรกซักเท่าไหร่ แต่ลิงค์จะไม่สามารถรับมือกับพวกเขาทุกคนได้ถ้าเกิดว่าพลังของเขาถูกลดเหลือเลเวล 7 ตามที่ระบบเกมได้คาดการณ์เอาไว้ก่อนที่จะเข้ามาในภพ ยังไงก็ตาม ด้วยพลังที่จุดสูงสุดของเลเวล 10 นั้น เขาคิดว่าเขาสามารถต่อสู่กับพวกเขาทั้งหมดได้อย่างสบายๆ
พวกนักรบมองเขาอย่างระมัดระวังเส้นประสาทของพวกเขาตึงเปรี๊ยะในตอนที่รอการตอบสนองจากลิงค์ แถมลิงค์ยังเห็นด้วยว่าพวกเขาบางคนกำลังตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
ซึ่งเรื่องนี้ก็พอจะเข้าใจได้ถ้าเกิดว่าลิงค์เจอผู้เชี่ยวชาญเลเวล 10 ตั้งแต่ช่วงแรกที่เขาเข้ามาในภพฟิรุแมน เขาก็คงจะกลัวขี้แตกเหมือนกัน
ไม่มีมนุษย์คนไหนมีโอกาสรอดได้ในการปะทะกับบุคคลระดับตำนาน
เขาฟาดหางขนาดใหญ่ของเขาลงกับพื้นหลายครั้งตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! แผ่นดินสะเทือน ทุกคนในหุบเขาหน้าซีด เหล่าคนที่น่าจะเป็นคนสำคัญที่ถูกล้อมด้วยองครักษ์นั้นตัวแข็งทื่อ ลิงค์เห็นว่ามีผู้หญิงคนนึงเป็นลมไปแล้วด้วย
“ท่านมังกรผู้แข็งแกร่งท่านตกลงที่จะช่วยพวกเราใช่ไหมครับ?” นักเวทย์ชราตะโกนออกมาอีกครั้ง เสียงของเขาสั่น สถานการณ์ในตอนที่ดำเนินพิธีอัญเชิญอยู่นั้นแปลกมาก พูดอย่างละเอียดเลยก็คือมันใช้เวลานานกว่าปกติกว่าจะสำเร็จพิธีกรรม และสิ่งที่พวกเขาเรียกออกมาได้นั้นดูเหมือนจะมีพลังมากกว่าสิ่งที่พวกเขาเคยพบมา
แต่เดิมนักเวทย์ชราต้องการจะอัญเชิญสิ่งที่มีเลเวล8 หรือ 9 ออกมา ยังไงก็ตาม สิ่งมีชีวิตที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นดูเหมือนกับคำอธิบายเกี่ยวกับมังกรที่ถูกบันทึกเอาไว้ในตำนานของพวกเขาเลย มีความยาวกว่า 100 ฟุต ตัวใหญ่เหมือนภูเขาลูกเล็กๆ เกล็ดสีดำเงาอันสวยงาม ดวงตาที่เป็นประกายและออร่าอันหนักหน่วง ทุกอย่างนั้นบ่งบอกว่าเขาได้อัญเชิญบางสิ่งที่เหนือกว่าจินตนาการของพวกเขาออกมา
เขาไม่แน่ใจว่าพันธะสัญญานั้นสามารถทนรับตัวตนที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้รึเปล่า
ในตอนนั้นเองลิงค์ก็กำลังชั่งน้ำหนักทางเลือกของเขา ฉันควรจะยอมรับสัญญาในการช่วยเหลือพวกเขาจัดการกับกองทัพรึเปล่านะ? ไม่สิ เงื่อนไขของมันดูหละหลวมมาก ฉันน่าจะสามารถหาช่องโหว่วของมันได้ง่ายๆอยู่นะ อีกอย่างคงจะมีแต่คนโง่เท่านั้นแหล่ะที่จะยอมต่อสู้กับทั้งกองทัพที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนด้วยตัวคนเดียว!
ตอนนี้ลิงค์แข็งแกร่งพอๆกับดยุคมังกรแดงอิเซนดิลันที่เขาเคยจัดการเพื่อช่วยพวกมนุษย์สัตว์ในตอนที่เขาเป็นภัยคุกคามแค่เล็กน้อย แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถต่อสู้กับทั้งกองทัพของทรอยม์ได้ด้วยระดับพลังของเขาในตอนนี้ แต่ก็ไม่มีอะไรมายืนยันว่ามันจะราบรื่น อีกอย่าง ในตอนที่ลิงค์ทำพันธะสัญญาสำเร็จ เขาก็จะต้องจัดการกับการปฏิเสธจากภพอีก เมื่อถึงตอนนั้น มันคงจะวุ่นวายมากแน่ๆ
ฉันควรทำยังไงดีนะ?ลิงค์คิด ไม่กี่วินาทีต่อมา ในที่สุดเขาก็ได้ข้อสรุป
เขาก้มหัวลงมาและค่อยๆหันไปหานักเวทย์ชราในตอนที่เขามังกรอยู่ห่างจากเขาแค่ 20 ฟุต ชายชราก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ขาของเขาสั่นมากจนเขาล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ร้องไห้ออกมา “ท่านมังกรผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วยเถิด ข้าไม่ได้มีเจตนาร้ายกับท่าน ได้โปรดยกโทษให้พวกข้าด้วยเถิด!”
ถ้าเกิดมีความแตกต่างในพลังอย่างมากระหว่างผู้อัญเชิญกับผู้ถูกอัญเชิญพลังที่ผู้ถูกอัญเชิญจะแสดงออกมาได้นั้นจะมีขีดจำกัด และพันธะสัญญาจะสามารถย้อนกลับมาหาผู้อัญเชิญได้ด้วยถ้าเกิดไม่ระวังมากพอ
ในตอนที่เห็นนักเวทย์ชรากลายเป็นกองน้ำตาอันน่าสงสารแล้วทั้งกองทัพในหุบเขาก็ตกอยู่ในความวุ่นวายในทันที
ด้วยความที่ไม่รู้การทำงานของเวทย์อัญเชิญในตอนที่นักรบเห็นนักเวทย์ชรากลายเป็นแบบนั้น ทุกคนก็พากันคิดว่าเวทย์ล้มเหลว ไม่มีใครกล้าลุกขึ้นมาสู้กับปีศาจมีปีกที่นักเวทย์อัญเชิญออกมาเลย
ในตอนนั้นเองลิงค์ก็อ้าปาก ด้วยร่างกายอันใหญ่โตของเขา เสียงของเขาจึงออกมาดังก้อง “มนุษย์เอ๋ย เจ้าคือคนที่อัญเชิญข้าออกมาใช่ไหม?”
คำถามนั้นถูกยิงไปที่นักเวทย์ชรา