Advent of the Archmage - 637: ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องรับใช้ข้า
Chapter
หุบเขา
ตอนนี้ดาดาระเต็มไปด้วยความเสียใจการอัญเชิญนั้นเป็นความคิดของเขา และเขาก็เป็นคนลงมือเอง ในฐานะที่เป็นนักอัญเชิญที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแบล็คแลน เขาเคยอัญเชิญสัตว์ประหลาดออกมาแล้วมากมาย
แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในบ้างบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยอับอายเลย
แต่ว่าวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเกินความคาดหมายของเขา อาณาจักรแบล็คแลนอยู่ในภาวะวิกฤติ และทรอยม์ก็มาที่กำแพงเมืองแล้ว ในฐานะที่เป็นคนสำคัญของแบล็คแลน เขาได้อาสาตัวอย่างกล้าหาญในการใช้เวทย์อัญเชิญต้องห้าม
ซึ่งมันสำเร็จแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น! สัตว์ประหลาดที่อัญเชิญมาแข็งแกร่งมากจนทำให้พวกเขาลืมหายใจแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมมันได้เลย ซึ่งนี่มันแปลกจริงๆ
มีศรีษะขนาดเท่าภูเขาอยู่ตรงหน้าเขาปากของมันเปิดกว้างและเผยให้เห็นฟันที่คมเหมือนกับดาบ มีควันออกมาจากรูจมูกของมันด้วย ดาดาระมองเห็นเปลวเพลิงสีแดงเข้มกระพริบอยู่ในนั้น มันทำให้เขานึกถึงภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่เขาเคยไปดูพร้อมกับอาจารย์ของเขาตอนที่ยังหนุ่ม
ดวงตาของอีกฝ่ายส่องแสงสีเงินดาดาระมองไม่เห็นนัยตาของอีกฝ่ายเลย แต่ว่าพวกมันจะต้องรอฟังคำตอบของเขาอยู่แน่ๆ เขาถูกบังคับให้ต้องทำใจเข้มแข็งและตอบคำถาม “ท่านมังกรผู้เกรียงไกร ข้าเป็นคนอัญเชิญท่านออกมาเองครับ”
ฟึดมังกรปล่อยลมหายใจออกมาทางจมูก อากาศที่อยู่ใต้จมูกบิดเบี้ยวเล็กน้อยและก็เกิดเป็นลมกรรโชกขึ้นมา ดาดาระที่คุกเข่าอยู่กับพื้นกลิ้งถอยหลังไป
แค่การถอนหายใจก็ทรงพลังแล้วโอ้พระเจ้า นี่ข้าอัญเชิญราชามังกรออกมาหรอเนี่ย? ดาดาระคิดในตอนที่เขากลิ้งถอย
มันไม่ใช่เพราะเขาไม่เคยอัญเชิญมังกรมาก่อนอันที่จริงเขาเคยอัญเชิญมังกรปีศาจออกมาต่อสู้ให้กับอาณาจักรแบล็คแลนเมื่อ 10 ปีที่แล้วด้วยซ้ำ มังกรตัวนั้นแข็งแกร่งมาก มันมีเลเวล 7 และมันก็ได้เป็นผู้ปกครองน่านฟ้าแห่งทวีปเฟดาโร่(ชื่อที่ชาวพื้นเมืองใช้เรียกภพนี้)
แต่เมื่อเทียบกับมังกรดำตัวนี้มังกรปีศาจนั้นเหมือนกับไก่ตัวเล็กๆไปเลย
ในฐานะมาสเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอาณาจักรแบล็คแลนดาดาระมักจะสวมชุดที่หรูหราและใช้รถม้าที่งดงาม เขาไม่ต้องทำอะไรเลยก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่มากด้วยอำนาจแล้ว มันเป็นครั้งแรกที่เขานอนแผ่กับพื้นอย่างน่าสงสาร แต่ว่าเขาไม่สนใจเรื่องนั้น เขาแค่หวังว่ามังกรตัวนี้จะไม่เอากรงเล็บมาเสียบเขา เพราะเขาเห็นว่ากรงเล็บนั้นแข็งแกร่งกว่าร่างกายของเขามาก และเขาก็รู้ด้วยว่าเขาจะต้องแบนแน่ๆต่อให้มังกรเอากรงเล็บมาวางเบาๆก็ตาม
ในขณะที่ทุกคนกำลังเงียบเพราะความกลัวดาดาระก็ได้ยินเสียงจากด้านบน “เจ้าอยากให้ข้าจัดการกองทัพของทรอยม์งั้นหรอ?”
“ใช่ครับ”ดาดาระดีใจมาก นักรบที่กำลังจะเป็นบ้าอยู่ข้างๆเขาโล่งใจขึ้นมา ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะยังอยู่ในจุดที่ต่อรองกันได้
“ฮึ่มม”ลิงค์ส่งเสียงออกทางจมูกด้วยความไม่พอใจ อากาศพุ่งออกมาจากจมูกของเขาอีกครั้ง ทำให้ดาดาระกลัวจนไม่กล้าขยับ และแน่นอนว่า นักเวทย์คนอื่นๆก็เช่นกัน
การกระทำของลิงค์ไม่ได้ขัดพันธะสัญญาเขาแค่หายใจเฉยๆและไม่ได้ทำให้ผู้อัญเชิญบาดเจ็บเลย ที่พวกเขาได้รับผลจากมันก็เพราะว่าพวกเขาอ่อนแอเกินไป ดังนั้น ลิงค์จึงไม่ได้รู้สึกถึงการตอบสนองของพันธะสัญญาที่อยู่ในตัวเขาเลย
ยังไงก็ตามการกระทำของเขาก็ยังคงเปิดเผยความตั้งใจของเขา เขารู้สึกไม่ชอบใจกับคำขอของดาดาระ
ดาดาระเองก็ไม่ได้โง่ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้ขึ้นมาเป็นผู้อัญเชิญระดับมาสเตอร์หรอก ตอนนี้เขาต้องรักษาชีวิตของตัวเอง เขารีบคุมสติของตัวเอง
ในตอนที่ความรู้สึกกดดันได้หายแล้วเขาก็พูดต่อ “ท่านราชามังกรผู้เกรียงไกร ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าก็แอบหวังว่าท่านจะช่วยจัดการกองทัพทรอยม์ให้อยู่หรอก แต่ข้ารู้ว่ามันค่อนข้างเป็นคำขอที่เกินไปหน่อย ข้าขอแค่ ข้าแค่ให้ท่านช่วยเหลืออาณาจักรที่ข้ารับใช้อยู่ก็พอแล้วครับ”
ในขณะที่พูดดาดาระดูจริงจังมาก เขาไม่อยากให้อาณาจักรแบล็คแลนพ่ายแพ้ หัวใจของเขาเจ็บแปลบ และน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา จากนั้นเขานอนร้องไห้กับพื้น
ที่ด้านหลังเขาราชาโมราฮานแห่งอาณาจักรแบล็คแลนเองก็อยู่ในกองทัพด้วย พอเห็นดาดาระเขาก็ทำได้แค่คิด “โถ่ ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะภักดีขนาดนี้ นี่อาณาจักรของข้าจะต้องจบสิ้นจริงๆหรอ?” พอคิดแบบนั้น เขาก็ลืมความกลัวไป แม้ว่าจะมีคนต่อต้าน แต่เขาก็เดินฝ่าวงล้อมขององครักษ์ออกมา
ในตอนที่เขาอยู่ห่างจากลิงค์ประมาณ150 ฟุต เขาก็เริ่มรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองขึ้นมา เขาไม่คิดเลยว่าออร่าของมังกรจะน่ากลัวขนาดนี้
แต่มันก็สายไปแล้วเขากัดฟันและคุกเข่าลงกับพื้นเหมือนกับนักเวทย์ดาดาระและร้องไห้ออกมา “ท่านราชามังกร ได้โปรดช่วยอาณาจักรของข้าด้วยเถิด! ผู้คนของทรอยม์นั้นโหดเหี้ยม ข้าไม่อาจยอมให้ผู้คนของข้ามีชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของพวกมันได้หรอก!”
ในตอนที่เขาคุกเข่าทุกคนในหุบเขาเองก็คุกเข่าลงเหมือนกัน มันเป็นภาพที่สวยงามมาก แต่ว่าทรอยม์โหดเหี้ยมจริงๆหรอ?คำพูดของเขาดูสวยหรูก็จริง แต่พอลิงค์ลองตรวจดูกองศพที่อยู่ในหุบเขาแล้วเขาก็รู้สึกขัดแย้งขึ้นมา แต่ยังไงก็เถอะ, ตอนนี้พันธะสัญญาได้เปลี่ยนเป็นการช่วยเหลืออาณาจักรแทนแล้วใช่ไหม? รายละเอียดของพันธะสัญญานั้นกว้างและมีช่องโหว่วเยอะมาก ตราบใดที่ราชวงค์ยังอยู่ มันก็คงไม่เป็นไรถ้าอาณาจักรที่ชื่อว่าทรอยม์จะยึดเมืองหลวงไปชั่วคราว พวกเขายังสามารถมวงมันคืนได้ในภายหลัง
และที่แปลกกว่านั้นก็คือข้อเรียกร้องไม่มีเวลาจำกัด เขาสามารถช่วยพวกเขาใน 1 เดือน 1 ปี หรือ 10 ปีก็ได้ พันธะสัญญาจะยังอยู่ต่อไปจนลิงค์สามารถหาวิธีที่ปลอดภัยในการออกจากภพนี้ได้ ไม่ และก็อีกเรื่องนึง ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะศึกษาต้นตอเวทมนตร์ของที่นี่ด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เขาทำความเข้าใจเฟืองปริศนาได้มากขึ้น
ความคิดพวกนี้ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์เขาไม่ได้รีบพูด กลับกัน เขามองมนุษย์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา
มันเป็นแบบนี้อยู่นานกว่า10 นาที ในตอนที่พระราชาเหงื่อชุ่ม ลิงค์ก็พูดออกมาในที่สุด “มนุษย์อย่างพวกเจ้านี่มันโง่และอ่อนแอเหมือนกับมดจริงๆ ข้าจะช่วยพวกเจ้าก็ได้ แต่ว่าพวกเจ้าจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้านะ!”
ดาดาระสะดุ้งเหตุการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? พวกเขาอัญเชิญสัตว์ประหลาดมาช่วยสู้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าพวกเขาไปเจอกับผู้ปกครองได้ยังไง?
ยังไงก็ตามเขาเข้าใจสถานการณ์ดี พระราชาโมราฮานไม่มีความรู้เกี่ยวกับเวทย์อัญเชิญและยอมแพ้ให้กับพลังของลิงค์อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขาพยายามคว้าความหวังสุดท้ายที่มีอยู่อย่างริบหรี่นี้ เขาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องในอนาคตเลย
พอได้ยินสิ่งที่ลิงค์พูดเขาก็ตอบในทันที “ท่านมังกรผู้เกรียงไกร นับจากนี้ไป ท่านจะเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแบล็คแลน ในฐานะราชา ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเติมเต็มความต้องการของท่านเอง!”
พระราชาคนนี้หัวอ่อนดีแฮะลิงค์รู้สึกพอใจ ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้แสดงออกมา สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย เขาตรวจดูทุกคนในหุบเขาและในที่สุดก็ไปหยุดเข้าที่ผู้หญิงที่หมดสติไปก่อนหน้านี้
ดูจากผิวของเธอแล้วเธอยังเด็กมาก หน้าตาของเธอคล้ายกับพระราชา เมื่อเทียบกับอายุของพระราชาแล้ว เธอน่าจะเป็นลูกสาวของเขา ถ้าตัดสินจากการที่พระราชาพาตัวเธอมาด้วยแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันก็หมายความว่าเธอน่าจะเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก นี่แสดงว่าเธอจะต้องสำคัญกับเขามากแน่ๆ
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็ชี้นิ้วมังกรที่ยาว 15 ฟุตไปที่ผู้หญิงที่หมดสติ “ถ้างั้นนับจากนี้ไป ข้าจะเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแบล็คแลน และเธอก็จะกลายเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์กับข้าเพียงผู้เดียว”
ในช่วงเวลานี้เห็นได้ชัดว่าพระราชาใจกว้างมากการรับใช้บุคคลที่แข็งแกร่งนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน เขาพูดในทันที “ท่านผู้พิทักษ์ ข้ามีลูกสาว 13 คน ถ้าท่านต้องการ ข้าสามารถยกทุกคนให้ไปรับใช้ท่านได้เลยครับ และข้ายังมีลูกชายอีก 16 คนด้วยถ้าเกิดท่านต้องการคนเพิ่มอีก”
ฮึ่ม!ลิงค์ส่งเสียงทางจมูก และพระราชาก็เงียบไป เขาชี้ไปที่นักอัญเชิญทั้ง 6 ที่อยู่ข้างๆเขา “พวกเจ้า 6 คนจะต้องเป็นนักเวทย์รับใช้ของข้า ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากข้า พวกเจ้าทุกคนไม่มีสิทธิ์อยู่ห่างจากข้าเกินรัศมี 1 ไมล์ ไม่อย่างนั้นหล่ะก็…”
ทั้งหกคนนี้จะเป็นคนช่วยเหลือเขาในเรื่องการต้านทานกับภพและการรักษาพันธะสัญญาเอาไว้ถ้าเกิดพวกเขามีปัญหา เขาก็คงจะเสียเปรียบ
ในขณะที่พูดเขาก็สบัดกรงเล็บของเขาไปทางหน้าผาที่อยู่ตรงหน้าและร่ายเวทย์มิติ ใบมีดสุญญากาศ
ครืนอุโมงค์กว้าง 30 ฟุตถูกเปิดออกมาในหน้าผาที่สูงกว่า 600 ฟุต รอยตัดนั้นเรียบมากเหมือนกับกระจก
ว้าว
ปากของทุกคนในหุบเขาเปิดกว้างใบหน้าของพวกเขาแดงขึ้นมาเหมือนกับมีคนมาบีบคอ พลังนี้มันเหนือกว่าที่จินตนาการเอาไว้จริงๆ
พอเห็นการตอบสนองของพวกเขาลิงค์ก็รู้ว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว
ในตอนที่ลิงค์ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแบล็คแลนในพื้นที่ใกล้ๆกับค่ายของทรอยม์ก็มีนักเวทย์ 12 คนที่ทำการอัญเชิญสำเร็จ
มีปีศาจ3 ตนปรากฏตัวขึ้นมา หัวหน้าของพวกปีศาจก็คือนักเวทย์ปีศาจกลิน
กลินนั้นแตกต่างจากลิงค์ด้วยความที่ปีศาจต้องการจะยึดครองภพอื่นอยู่แล้ว เขาจึงเคยมีประสบการณ์จากการถูกอัญเชิญ 10 วินาทีหลังจากที่เขาเข้ามาในภพ เขาก็ลองตรวจความแข็งแกร่งของเขาเทียบกับคนที่อัญเชิญเขาออกมา
บ้าชะมัดไม่น่าเข้ามากัน 3 คนเลย ภพนี้แข็งแกร่งเกินไป ด้วยการที่พวกข้ามี 3 คน แรงต้านมันก็เลยสูง และพลังของข้าก็โดนลดลงมากเกินไปด้วย!
ตอนนี้เขาอยู่แค่ระดับต้นของเลเวล9 และปีศาจอีก 2 ตนมีเลเวล 7 ในอีกด้านนึง ผู้อัญเชิญพวกเขานั้นได้รับแรงต้านมากเกินไป พวกเขาต่างก็กระอักเลือดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าเกิดพวกเขามาคนเดียว กลินคิดว่าเขาน่าจะมีเลเวลอยู่ที่ 11 และผู้อัญเชิญเขามาก็จะไม่บาดเจ็บขนาดนี้ ซึ่งมันคงจะดีกว่าตอนนี้มาก
และที่แย่กว่านั้นก็คือภพนี้แข็งแกร่งกว่าที่กลินคิดเอาไว้มาก ถ้าเกิดว่าคนของที่นี่ไม่ช่วยกันรับแรงต้านเอาไว้ เขาก็คงจะถูกลดพลังลงไปมากกว่านี้ และมันคงจะเลวร้ายมากเลยถ้าเกิดว่าเขามีเลเวลแค่ 7
ข้าคำนวณผิดไปข้าสงสัยจังว่าตอนนี้ลอร์ดเฟิร์ดเป็นยังไงบ้าง
กลินตรวจดูนักเวทย์ที่อ่อนแรงรอบตัวเขาดูเหมือนว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นจะมีเลเวล 6 ถ้าตัดสินจากสิ่งนี้แล้ว พวกเขาน่าจะแข็งแกร่งที่สุดในภพนี้แล้ว มันง่ายมากที่จะจัดการกับ 12 คนนี้ ยังไงก็ตาม กองทัพที่อยู่ใกล้ๆนั้นมีทหารที่สภาพแข็งแรงดีและมีอุปกรณ์ครบครันมากกว่า 150,000 คน
เรื่องชักยุ่งยากแล้วสิ
ข้าไม่สามารถใช้กำลังล้วนๆในการทำภารกิจของนายท่านให้สำเร็จได้บ้าจริง สีหน้าของกลินเริ่มย่ำแย่ เขาอารมณ์เสียมาก
หุบเขา
ตอนนี้ดาดาระเต็มไปด้วยความเสียใจการอัญเชิญนั้นเป็นความคิดของเขา และเขาก็เป็นคนลงมือเอง ในฐานะที่เป็นนักอัญเชิญที่แข็งแกร่งที่สุดในอาณาจักรแบล็คแลน เขาเคยอัญเชิญสัตว์ประหลาดออกมาแล้วมากมาย
แม้ว่าเขาจะล้มเหลวในบ้างบางครั้งแต่เขาก็ไม่เคยอับอายเลย
แต่ว่าวันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นมันเกินความคาดหมายของเขา อาณาจักรแบล็คแลนอยู่ในภาวะวิกฤติ และทรอยม์ก็มาที่กำแพงเมืองแล้ว ในฐานะที่เป็นคนสำคัญของแบล็คแลน เขาได้อาสาตัวอย่างกล้าหาญในการใช้เวทย์อัญเชิญต้องห้าม
ซึ่งมันสำเร็จแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น! สัตว์ประหลาดที่อัญเชิญมาแข็งแกร่งมากจนทำให้พวกเขาลืมหายใจแต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่สามารถควบคุมมันได้เลย ซึ่งนี่มันแปลกจริงๆ
มีศรีษะขนาดเท่าภูเขาอยู่ตรงหน้าเขาปากของมันเปิดกว้างและเผยให้เห็นฟันที่คมเหมือนกับดาบ มีควันออกมาจากรูจมูกของมันด้วย ดาดาระมองเห็นเปลวเพลิงสีแดงเข้มกระพริบอยู่ในนั้น มันทำให้เขานึกถึงภูเขาไฟที่ยังไม่ดับที่เขาเคยไปดูพร้อมกับอาจารย์ของเขาตอนที่ยังหนุ่ม
ดวงตาของอีกฝ่ายส่องแสงสีเงินดาดาระมองไม่เห็นนัยตาของอีกฝ่ายเลย แต่ว่าพวกมันจะต้องรอฟังคำตอบของเขาอยู่แน่ๆ เขาถูกบังคับให้ต้องทำใจเข้มแข็งและตอบคำถาม “ท่านมังกรผู้เกรียงไกร ข้าเป็นคนอัญเชิญท่านออกมาเองครับ”
ฟึดมังกรปล่อยลมหายใจออกมาทางจมูก อากาศที่อยู่ใต้จมูกบิดเบี้ยวเล็กน้อยและก็เกิดเป็นลมกรรโชกขึ้นมา ดาดาระที่คุกเข่าอยู่กับพื้นกลิ้งถอยหลังไป
แค่การถอนหายใจก็ทรงพลังแล้วโอ้พระเจ้า นี่ข้าอัญเชิญราชามังกรออกมาหรอเนี่ย? ดาดาระคิดในตอนที่เขากลิ้งถอย
มันไม่ใช่เพราะเขาไม่เคยอัญเชิญมังกรมาก่อนอันที่จริงเขาเคยอัญเชิญมังกรปีศาจออกมาต่อสู้ให้กับอาณาจักรแบล็คแลนเมื่อ 10 ปีที่แล้วด้วยซ้ำ มังกรตัวนั้นแข็งแกร่งมาก มันมีเลเวล 7 และมันก็ได้เป็นผู้ปกครองน่านฟ้าแห่งทวีปเฟดาโร่(ชื่อที่ชาวพื้นเมืองใช้เรียกภพนี้)
แต่เมื่อเทียบกับมังกรดำตัวนี้มังกรปีศาจนั้นเหมือนกับไก่ตัวเล็กๆไปเลย
ในฐานะมาสเตอร์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของอาณาจักรแบล็คแลนดาดาระมักจะสวมชุดที่หรูหราและใช้รถม้าที่งดงาม เขาไม่ต้องทำอะไรเลยก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่มากด้วยอำนาจแล้ว มันเป็นครั้งแรกที่เขานอนแผ่กับพื้นอย่างน่าสงสาร แต่ว่าเขาไม่สนใจเรื่องนั้น เขาแค่หวังว่ามังกรตัวนี้จะไม่เอากรงเล็บมาเสียบเขา เพราะเขาเห็นว่ากรงเล็บนั้นแข็งแกร่งกว่าร่างกายของเขามาก และเขาก็รู้ด้วยว่าเขาจะต้องแบนแน่ๆต่อให้มังกรเอากรงเล็บมาวางเบาๆก็ตาม
ในขณะที่ทุกคนกำลังเงียบเพราะความกลัวดาดาระก็ได้ยินเสียงจากด้านบน “เจ้าอยากให้ข้าจัดการกองทัพของทรอยม์งั้นหรอ?”
“ใช่ครับ”ดาดาระดีใจมาก นักรบที่กำลังจะเป็นบ้าอยู่ข้างๆเขาโล่งใจขึ้นมา ดูเหมือนว่าสถานการณ์จะยังอยู่ในจุดที่ต่อรองกันได้
“ฮึ่มม”ลิงค์ส่งเสียงออกทางจมูกด้วยความไม่พอใจ อากาศพุ่งออกมาจากจมูกของเขาอีกครั้ง ทำให้ดาดาระกลัวจนไม่กล้าขยับ และแน่นอนว่า นักเวทย์คนอื่นๆก็เช่นกัน
การกระทำของลิงค์ไม่ได้ขัดพันธะสัญญาเขาแค่หายใจเฉยๆและไม่ได้ทำให้ผู้อัญเชิญบาดเจ็บเลย ที่พวกเขาได้รับผลจากมันก็เพราะว่าพวกเขาอ่อนแอเกินไป ดังนั้น ลิงค์จึงไม่ได้รู้สึกถึงการตอบสนองของพันธะสัญญาที่อยู่ในตัวเขาเลย
ยังไงก็ตามการกระทำของเขาก็ยังคงเปิดเผยความตั้งใจของเขา เขารู้สึกไม่ชอบใจกับคำขอของดาดาระ
ดาดาระเองก็ไม่ได้โง่ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้ขึ้นมาเป็นผู้อัญเชิญระดับมาสเตอร์หรอก ตอนนี้เขาต้องรักษาชีวิตของตัวเอง เขารีบคุมสติของตัวเอง
ในตอนที่ความรู้สึกกดดันได้หายแล้วเขาก็พูดต่อ “ท่านราชามังกรผู้เกรียงไกร ท่านเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าก็แอบหวังว่าท่านจะช่วยจัดการกองทัพทรอยม์ให้อยู่หรอก แต่ข้ารู้ว่ามันค่อนข้างเป็นคำขอที่เกินไปหน่อย ข้าขอแค่ ข้าแค่ให้ท่านช่วยเหลืออาณาจักรที่ข้ารับใช้อยู่ก็พอแล้วครับ”
ในขณะที่พูดดาดาระดูจริงจังมาก เขาไม่อยากให้อาณาจักรแบล็คแลนพ่ายแพ้ หัวใจของเขาเจ็บแปลบ และน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา จากนั้นเขานอนร้องไห้กับพื้น
ที่ด้านหลังเขาราชาโมราฮานแห่งอาณาจักรแบล็คแลนเองก็อยู่ในกองทัพด้วย พอเห็นดาดาระเขาก็ทำได้แค่คิด “โถ่ ข้านึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะภักดีขนาดนี้ นี่อาณาจักรของข้าจะต้องจบสิ้นจริงๆหรอ?” พอคิดแบบนั้น เขาก็ลืมความกลัวไป แม้ว่าจะมีคนต่อต้าน แต่เขาก็เดินฝ่าวงล้อมขององครักษ์ออกมา
ในตอนที่เขาอยู่ห่างจากลิงค์ประมาณ150 ฟุต เขาก็เริ่มรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองขึ้นมา เขาไม่คิดเลยว่าออร่าของมังกรจะน่ากลัวขนาดนี้
แต่มันก็สายไปแล้วเขากัดฟันและคุกเข่าลงกับพื้นเหมือนกับนักเวทย์ดาดาระและร้องไห้ออกมา “ท่านราชามังกร ได้โปรดช่วยอาณาจักรของข้าด้วยเถิด! ผู้คนของทรอยม์นั้นโหดเหี้ยม ข้าไม่อาจยอมให้ผู้คนของข้ามีชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของพวกมันได้หรอก!”
ในตอนที่เขาคุกเข่าทุกคนในหุบเขาเองก็คุกเข่าลงเหมือนกัน มันเป็นภาพที่สวยงามมาก แต่ว่าทรอยม์โหดเหี้ยมจริงๆหรอ?คำพูดของเขาดูสวยหรูก็จริง แต่พอลิงค์ลองตรวจดูกองศพที่อยู่ในหุบเขาแล้วเขาก็รู้สึกขัดแย้งขึ้นมา แต่ยังไงก็เถอะ, ตอนนี้พันธะสัญญาได้เปลี่ยนเป็นการช่วยเหลืออาณาจักรแทนแล้วใช่ไหม? รายละเอียดของพันธะสัญญานั้นกว้างและมีช่องโหว่วเยอะมาก ตราบใดที่ราชวงค์ยังอยู่ มันก็คงไม่เป็นไรถ้าอาณาจักรที่ชื่อว่าทรอยม์จะยึดเมืองหลวงไปชั่วคราว พวกเขายังสามารถมวงมันคืนได้ในภายหลัง
และที่แปลกกว่านั้นก็คือข้อเรียกร้องไม่มีเวลาจำกัด เขาสามารถช่วยพวกเขาใน 1 เดือน 1 ปี หรือ 10 ปีก็ได้ พันธะสัญญาจะยังอยู่ต่อไปจนลิงค์สามารถหาวิธีที่ปลอดภัยในการออกจากภพนี้ได้ ไม่ และก็อีกเรื่องนึง ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากจะศึกษาต้นตอเวทมนตร์ของที่นี่ด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้เขาทำความเข้าใจเฟืองปริศนาได้มากขึ้น
ความคิดพวกนี้ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์เขาไม่ได้รีบพูด กลับกัน เขามองมนุษย์ที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขา
มันเป็นแบบนี้อยู่นานกว่า10 นาที ในตอนที่พระราชาเหงื่อชุ่ม ลิงค์ก็พูดออกมาในที่สุด “มนุษย์อย่างพวกเจ้านี่มันโง่และอ่อนแอเหมือนกับมดจริงๆ ข้าจะช่วยพวกเจ้าก็ได้ แต่ว่าพวกเจ้าจะต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้านะ!”
ดาดาระสะดุ้งเหตุการณ์มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไงกัน? พวกเขาอัญเชิญสัตว์ประหลาดมาช่วยสู้ แต่มันกลับกลายเป็นว่าพวกเขาไปเจอกับผู้ปกครองได้ยังไง?
ยังไงก็ตามเขาเข้าใจสถานการณ์ดี พระราชาโมราฮานไม่มีความรู้เกี่ยวกับเวทย์อัญเชิญและยอมแพ้ให้กับพลังของลิงค์อย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เขาพยายามคว้าความหวังสุดท้ายที่มีอยู่อย่างริบหรี่นี้ เขาไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องในอนาคตเลย
พอได้ยินสิ่งที่ลิงค์พูดเขาก็ตอบในทันที “ท่านมังกรผู้เกรียงไกร นับจากนี้ไป ท่านจะเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแบล็คแลน ในฐานะราชา ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อเติมเต็มความต้องการของท่านเอง!”
พระราชาคนนี้หัวอ่อนดีแฮะลิงค์รู้สึกพอใจ ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้แสดงออกมา สีหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย เขาตรวจดูทุกคนในหุบเขาและในที่สุดก็ไปหยุดเข้าที่ผู้หญิงที่หมดสติไปก่อนหน้านี้
ดูจากผิวของเธอแล้วเธอยังเด็กมาก หน้าตาของเธอคล้ายกับพระราชา เมื่อเทียบกับอายุของพระราชาแล้ว เธอน่าจะเป็นลูกสาวของเขา ถ้าตัดสินจากการที่พระราชาพาตัวเธอมาด้วยแม้จะอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันก็หมายความว่าเธอน่าจะเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก นี่แสดงว่าเธอจะต้องสำคัญกับเขามากแน่ๆ
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็ชี้นิ้วมังกรที่ยาว 15 ฟุตไปที่ผู้หญิงที่หมดสติ “ถ้างั้นนับจากนี้ไป ข้าจะเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแบล็คแลน และเธอก็จะกลายเป็นคนรับใช้ที่ซื่อสัตย์กับข้าเพียงผู้เดียว”
ในช่วงเวลานี้เห็นได้ชัดว่าพระราชาใจกว้างมากการรับใช้บุคคลที่แข็งแกร่งนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน เขาพูดในทันที “ท่านผู้พิทักษ์ ข้ามีลูกสาว 13 คน ถ้าท่านต้องการ ข้าสามารถยกทุกคนให้ไปรับใช้ท่านได้เลยครับ และข้ายังมีลูกชายอีก 16 คนด้วยถ้าเกิดท่านต้องการคนเพิ่มอีก”
ฮึ่ม!ลิงค์ส่งเสียงทางจมูก และพระราชาก็เงียบไป เขาชี้ไปที่นักอัญเชิญทั้ง 6 ที่อยู่ข้างๆเขา “พวกเจ้า 6 คนจะต้องเป็นนักเวทย์รับใช้ของข้า ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากข้า พวกเจ้าทุกคนไม่มีสิทธิ์อยู่ห่างจากข้าเกินรัศมี 1 ไมล์ ไม่อย่างนั้นหล่ะก็…”
ทั้งหกคนนี้จะเป็นคนช่วยเหลือเขาในเรื่องการต้านทานกับภพและการรักษาพันธะสัญญาเอาไว้ถ้าเกิดพวกเขามีปัญหา เขาก็คงจะเสียเปรียบ
ในขณะที่พูดเขาก็สบัดกรงเล็บของเขาไปทางหน้าผาที่อยู่ตรงหน้าและร่ายเวทย์มิติ ใบมีดสุญญากาศ
ครืนอุโมงค์กว้าง 30 ฟุตถูกเปิดออกมาในหน้าผาที่สูงกว่า 600 ฟุต รอยตัดนั้นเรียบมากเหมือนกับกระจก
ว้าว
ปากของทุกคนในหุบเขาเปิดกว้างใบหน้าของพวกเขาแดงขึ้นมาเหมือนกับมีคนมาบีบคอ พลังนี้มันเหนือกว่าที่จินตนาการเอาไว้จริงๆ
พอเห็นการตอบสนองของพวกเขาลิงค์ก็รู้ว่าทุกอย่างลงตัวแล้ว
ในตอนที่ลิงค์ได้กลายเป็นผู้พิทักษ์แห่งอาณาจักรแบล็คแลนในพื้นที่ใกล้ๆกับค่ายของทรอยม์ก็มีนักเวทย์ 12 คนที่ทำการอัญเชิญสำเร็จ
มีปีศาจ3 ตนปรากฏตัวขึ้นมา หัวหน้าของพวกปีศาจก็คือนักเวทย์ปีศาจกลิน
กลินนั้นแตกต่างจากลิงค์ด้วยความที่ปีศาจต้องการจะยึดครองภพอื่นอยู่แล้ว เขาจึงเคยมีประสบการณ์จากการถูกอัญเชิญ 10 วินาทีหลังจากที่เขาเข้ามาในภพ เขาก็ลองตรวจความแข็งแกร่งของเขาเทียบกับคนที่อัญเชิญเขาออกมา
บ้าชะมัดไม่น่าเข้ามากัน 3 คนเลย ภพนี้แข็งแกร่งเกินไป ด้วยการที่พวกข้ามี 3 คน แรงต้านมันก็เลยสูง และพลังของข้าก็โดนลดลงมากเกินไปด้วย!
ตอนนี้เขาอยู่แค่ระดับต้นของเลเวล9 และปีศาจอีก 2 ตนมีเลเวล 7 ในอีกด้านนึง ผู้อัญเชิญพวกเขานั้นได้รับแรงต้านมากเกินไป พวกเขาต่างก็กระอักเลือดออกมาและได้รับบาดเจ็บสาหัส ถ้าเกิดพวกเขามาคนเดียว กลินคิดว่าเขาน่าจะมีเลเวลอยู่ที่ 11 และผู้อัญเชิญเขามาก็จะไม่บาดเจ็บขนาดนี้ ซึ่งมันคงจะดีกว่าตอนนี้มาก
และที่แย่กว่านั้นก็คือภพนี้แข็งแกร่งกว่าที่กลินคิดเอาไว้มาก ถ้าเกิดว่าคนของที่นี่ไม่ช่วยกันรับแรงต้านเอาไว้ เขาก็คงจะถูกลดพลังลงไปมากกว่านี้ และมันคงจะเลวร้ายมากเลยถ้าเกิดว่าเขามีเลเวลแค่ 7
ข้าคำนวณผิดไปข้าสงสัยจังว่าตอนนี้ลอร์ดเฟิร์ดเป็นยังไงบ้าง
กลินตรวจดูนักเวทย์ที่อ่อนแรงรอบตัวเขาดูเหมือนว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นจะมีเลเวล 6 ถ้าตัดสินจากสิ่งนี้แล้ว พวกเขาน่าจะแข็งแกร่งที่สุดในภพนี้แล้ว มันง่ายมากที่จะจัดการกับ 12 คนนี้ ยังไงก็ตาม กองทัพที่อยู่ใกล้ๆนั้นมีทหารที่สภาพแข็งแรงดีและมีอุปกรณ์ครบครันมากกว่า 150,000 คน
เรื่องชักยุ่งยากแล้วสิ
ข้าไม่สามารถใช้กำลังล้วนๆในการทำภารกิจของนายท่านให้สำเร็จได้บ้าจริง สีหน้าของกลินเริ่มย่ำแย่ เขาอารมณ์เสียมาก