Advent of the Archmage - 650: วิหารผู้รังสรรค์ 3
Chapter
มีวิหารที่งดงามตระการตาปรากฎขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาในขณะที่พวกเขาก้าวผ่านประตูแห่งความจริงเสาของมันสูงเป็นพันฟุตและมีความกว้างเป็นร้อยฟุต, พร้อมกับมีเมฆหนาขดตัวกันอยู่ที่ส่วนบนและเพดานของวิหาร มันเป็นภาพที่อลังการมากจริงๆ
ในตอนที่พวกเขาเข้ามาข้างในวิหาร,ลิงค์ก็เห็นว่าทั้งสองฝั่งมีรูปปั้นวางเรียงรายอยู่นับไม่ถ้วน ซึ่งรูปปั้นจำนวนมหาศาลเหล่านี้ล้วนถูกแช่แข็งอยู่ในทุกๆอิริยาบถ มีรูปปั้นนึงดูเหมือนกำลังกู่ร้องให้กับสวรรค์, และอีกรูปปั้นนึงก็กำลังอยู่ในท่าโจมตี, พร้อมกับมีขวานรบอยู่ในมือที่พาดไปถึงหลังศรีษะของเขา บางรูปปั้นมีสีหน้าที่เรียบเฉย และมีเมฆสีขาวแบบเดียวกันลอดผ่านช่องหว่างระหว่างแขนและร่างกายของพวกเขา, ทำให้พวกเขาดูสง่างาม, และมีบรรยากาศที่น่าเกรงขาม
แม้กระทั่งนักเวทย์ระดับตำนานเองก็คงจะตกตะลึงกับวิหารที่มีรูปปั้นวางเรียงรายขนาดนี้ทั้งตัวสิ่งก่อสร้างนั้นไม่มีส่วนไหนที่ดูเป็นฝีมือของมนุษย์เลย
พวกเขาทั้งสองบินผ่านวิหารมาได้ประมาณ25 ไมล์แล้ว และทันใดนั้นเอง, หินทรงกลมที่ดูเหมือนจะเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนก็ปรากฎขึ้นในสวรรค์เบื้องหน้าพวกเขา
หินนี้มีรัศมีประมาณ16 ฟุต มันลอยอยู่กลางอากาศเหมือนกับจุดๆนึงที่ไม่มีความสำคัญอะไร, แต่ทันใดนั้นเอง, โรเมออนก็หยุดลงที่ระยะห่างจากมัน 2,000 ฟุต ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบตัว, ลิงค์เองก็หยุดอยู่ข้างๆโรเมออน
จากนั้น,โรเมออนก็พูดขึ้นมา “นี่คือหินแห่งการรังสรรค์, แก่นพลังของทั้งวิหารแห่งนี้ มันดูเล็กและเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมเลยใช่ไหมหล่ะ?”
มันอยู่ห่างจากจุดที่พวกเขาอยู่ประมาณ2,000 ฟุต ลิงค์น่าจะไปถึงมันได้ด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม, โรเมออนคงจะไม่ถามคำถามแบบนี้ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
“มันสำคัญยังไง?”
โรเมออนตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ เจ้าต้องบินไปหาหินนั่นแล้วจะเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดเอง ไม่ต้องห่วง, มันค่อนข้างปลอดภัย, แม้ว่าการเดินทางอาจจะทำให้เจ้าเหนื่อยก็เถอะ ข้าเคยลองไปหามันมาหลายครั้งแล้ว, แต่ข้าไม่เคยมีพลังมากพอที่จะทำมันให้สำเร็จเลย
ด้วยการปล่อยวางความกังวล,ลิงค์ก็บินตรงไปหาหินสีฟ้าด้วยตัวเอง
ในตอนแรก,เขาคิดว่าเขาคงจะไปถึงหินนั่นในชั่วอึดใจเดียว อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่บินไปได้ซักพัก, ก็มีบางอย่างผิดปกติ
ในขณะที่เขาบินเข้าไป,เขาก็สังเกตเห็นว่าหินแห่งการรังสรรค์ค่อยๆขยายออกจนเต็มทัศนวิสัยของเขา เขาหันกลับไปและเห็นเสาของวิหารและรูปปั้น, ซึ่งดูเหมือนจะทอดยาวเข้าไปในสวรรค์เมื่อก่อนหน้านี้, ตอนนี้เป็นแค่จุดเล็กๆที่ไม่มีความสำคัญบนพื้นข้างหลังเขา หลังจากนั้นเขาก็มองตัวเองและตระหนักได้ว่าเขาเองก็ตัวหดลงจนมีขนาดเท่าเศษฝุ่น
มันแปลกมาก,แม้ว่าในความเป็นจริงลิงค์จะบินมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว, แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เข้าใกล้หินสีฟ้าเลย ยิ่งไปกว่านั้น, เขายังรู้สึกว่าเขากำลังถอยห่างจากมันในขณะที่บินไปหามันด้วย ก่อนหน้านี้, เขาอยู่ห่างจากหินประมาณ 2,000 ฟุต แต่ตอนนี้มันดูเหมือนกับอยู่ห่างจากเขาหลายแสนฟุต
นี่ฉันกำลังบินออกห่างจากมันหรอ?นี่มันคือเวทย์มิติรึเปล่า? แต่ฉันไม่เห็นรู้สึกถึงระลอกมิติรอบตัวฉันเลย ลิงค์ไม่สามารถทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าหินสีฟ้าที่อยู่ข้างหน้าเขากำลังเปล่งแสงจ้าขึ้น,ลิงค์ก็คงจะหมดกำลังใจในการไล่ตามมันไปตั้งนานแล้ว
ลิงค์บินอยู่ภายใต้ปรากฎการณ์อันนี้พิศวงนี้เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงพอมาถึงจุดนี้, หินสีฟ้าก็เต็มทัศนวิสัยของลิงค์อย่างสมบูรณ์ข้างหลังเขา, โรเมออนกับวิหารได้หายไปจนลับตาแล้ว
ตอนนี้ลิงค์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่ลอยมาเจอกับทะเลแห่งความว่างเปล่าที่กว้างใหญ่ไพศาลหินแห่งการรังสรรค์ค่อยๆปรากฎขึ้นเบื้องหน้าเขา ณ จุดๆนี้, เขาจะสามารถไปถึงมันได้หรือไม่นั้น, ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการคาดเดาล้วนๆ
ในขณะที่บินไปได้เป็นเวลาพักใหญ่ๆบางอย่างก็เกิดขึ้น
หินสีฟ้าเบื้องหน้าเขาหายไปมันถูกแทนที่ด้วยกระจก มีคลื่นแผ่ออกมาจากพื้นผิวที่เหมือนกับบ่อของมัน, ก่อนที่จะค่อยๆเบาบางลงจนเผยให้เห็นการสะท้อนที่เป็นระเบียบ
ด้วยสายตามังกรของเขา,ลิงค์มองเห็นสิ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจก เขามีความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังมองดูโลกทั้งใบจากความสูงหลายหมื่นฟุต
ไม่นานนักลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าโลกทั้งใบกำลังสะท้อนอยู่บนพื้นผิวของกระจกจริงๆในโลกใหม่นี้, มันมีทวีปและมหาสมุทรทอดยาวไปจนสุดเส้นขอบฟ้า มีเมืองมากมายตั้งอยู่ทั่วทวีป, มีอาคารที่ดูอลังการ, แต่มีลักษณะแปลกๆ แล้วลิงค์ก็เห็นว่ามีบางเมืองที่กำลังลอยอยู่บนฟ้าเหมือนกับเกาะลอยฟ้าขนาดยักษ์
พอสังเกตดูดีๆ,ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าโลกนี้คือจุดสุดยอดของนวัตกรรมเวทมนตร์, เกินกว่าที่ลิงค์จะจินตนาการได้
ถ้านี่คือหน้าตาของเวทมนตร์อันทันสมัยในจักรวาลนี้,ภพฟิรุแมนที่เขาอาศัยอยู่มาโดยตลอดก็คงไม่ต่างอะไรจากยุคสมัยที่ผู้คนยังใช้ดินทำกระท่อมและล่าสัตว์ด้วยหอกที่ทำขึ้นเอง ภพใหม่นี้ดูเหมือนจะเจริญกว่าฟิรุแมนถึงสามเท่า!
“ที่นี่มันคืออะไรกัน?หรือว่าจะเป็นมหากาพย์โบราณที่ภารกิจของเกมส์พูดถึง?” ลิงค์ขมวดคิ้วกับภาพนี้ เขายังคงบินไปหากระจกอยู่
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดกับฉากเบื้องหน้าเขา,ทันใดนั้นเอง, ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีก ครั้งนี้, มีอุกกาบาตขนาดยักษ์ล่วงลงมาจากท้องฟ้า, และกำลังพุ่งตรงไปยังหนึ่งในทวีปที่ใหญ่ที่สุดที่สะท้อนอยู่ในกระจก
อุกกาบาตมีความกว้าง300 พุต ในตอนที่มันพุ่งไปถึงพื้นดิน, แรงกระแทกของมันก็ทำให้เกิดแรงระเบิดขนาดยักษ์, ที่ลบเมืองๆนึงทิ้งไปได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ผู้คนจากเมืองใกล้เคียงกรูกันเข้ามาดับไฟไม่ให้ลามไปมากกว่านี้ ไม่นานนัก, แก่นของอุกกาบาตก็ถูกภพที่ใจกลางของหลุมอุกกาบาต
ลิงค์เพ่งสายตาไปที่แก่นนั้นแก่นมีลักษณะเหมือนกับหินชิ้นนึงที่มีความกว้าง 20 นิ้ว ดูเหมือนมันจะเป็นวัตถุที่มาจากนอกโลก มันมีสีขาวเนียน, เหมือนกับหยก อย่างไรก็ตาม, มันไม่เหมือนกับหยกทั่วๆไป, มันแผ่ออร่าเหมือนควันสีดำออกมาด้วย
จากนั้นมันก็ไปอยู่ในมือของนักเวทย์ที่มีพลังอันน่าเหลือชื่อที่ดูเหมือนจะเป็นคนสำคัญคนนึง นักเวทย์คนนั้นเอาหินกลับไปที่ห้องทดลองเวทมนตร์ของเขาและเริ่มทำการวิจัยและทดลองคุณสมบัติของหินเพื่อให้ดึงศักยภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
และในที่สุดเฟืองหกแฉกอันคุ้นเคยก็ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยฝีมือของนักเวทย์คนนี้
ในตอนนี้เอง,ก็มีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ อย่างไรก็ตาม, เขายังคงมองฉากที่ฉายอยู่ในกระจกต่อไป, เพื่อเก็บภาพความจริงทั้งหมดเอาไว้
ในภาพสะท้อน,หลังจากที่สร้างเฟืองเสร็จ, นักเวทย์คนนั้นก็เริ่มใส่พลังเข้าไปเพื่อทดสอบมัน เฟืองดึงพลังจากผู้สร้างอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ณ จุดนี้ไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว เพื่อที่จะดูผลการทดลองของเขา, นักเวทย์คนนั้นได้หาแหล่งพลังงานใหม่มาเติมให้เฟืองหกแฉกอย่าต่อเนื่อง จนในที่สุด, โศกนาฎกรรมก็อุบัติขึ้น
มีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นเบื้องหน้าเขาอย่างกระทันหันในตอนที่แสงเบาบางลง, ลิงค์ก็เห็นว่าเมืองของนักเวทย์คนนั้นถูกลบไปอย่างสมบูรณ์พร้อมกับตัวนักเวทย์ด้วย
แสงนั้นกระจายออกไปทุกทิศทางดูเหมือนว่ามันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในตอนที่กระจายออกไป ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้ ใครก็ตามที่พยายามหยุดมันจะถูกลบทิ้งไปอย่างง่ายดาย
ในขณะที่แสงกำลังกระจายออกไป,ลิงค์ก็เห็นบางสิ่งที่คล้ายกับมังกรกำลังบินหนีเข้าไปในความว่างเปล่า จากนั้นเขาก็เห็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งคนนึงกำลังแยกภพออก! แล้วเขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับปีศาจกำลังแห่กันเข้าไปในความว่างเปล่าด้วย
ในโลกแห่งแสงอนันต์นี้,เฟือกหกแฉกได้ลอยขึ้นอย่างช้าๆและจากนั้นก็หายเข้าไปในความว่างเปล่า กลับไปยังเมืองที่ถูกลบล้าง, ลิงค์มองเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่ตายจากภัยพิบัตินี้
ลิงค์เห็นเด็กหนุ่มคนนึงกำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นแล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ, ในตอนที่เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นคล้ายกับโนโซม่าเลย หลังจากที่เฟืองแห่งแสงหายไปบนฟ้า, เขาก็ได้สติกลับมา หลังจากนั้นเขาก็เหม่อมองท้องฟ้าเป็นเวลาพักใหญ่ๆ
ลิงค์จ้องไปที่เด็กหนุ่มคนนั้นและจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเด็กคนนั้นกำลังกำหินสีดำอยู่ในมือ หินนั่นดูเหมือนจะปล่อยออร่าสีดำออกมา, ซึ่งกำลังซึมซับเข้าไปในร่างของเด็กหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงตลอดทั้งกระบวนการนี้
พอตั้งใจมองดูหินสีดำดีๆ,ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่ามันคือมวลของความไม่บริสุทธิ์สีดำที่แก่นอุกกาบาตทิ้งเอาไว้
หรือว่านี่คือเหตุการณ์ก่อนประวัติศาสตร์ของฟิรุแมน?แต่เรื่องทั้งหมดนี้มันมาอยู่ในวิหารผู้รังสรรค์ที่อยู่ในภพที่ห่างไกลจากฟิรุแมนแบบนี้ได้ยังไง? หรือว่ามันเป็นเพราะเฟืองหกแฉก? ลิงค์ยิ่งสับสนหนักขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนั้นเอง,ภาพก่อนประวัติศาสตร์ของฟิรุแมนที่แสดงอยู่บนกระจกก็หายไปอย่างกระทันหัน แล้วพื้นหลังสีครามก็ปรากฎขึ้นมาแทนที่ มีบอลแสงสามลูกลอยอยู่ สองลูกในนั้นเป็นสีขาวกับดำตามลำดับ ส่วนลูกที่สามไม่มีสีเลย
ลิงค์มองดูพวกมันทันใดนั้นเอง, ระบบเกมส์ก็แสดงชื่อของบอลแสงแต่ละลูกขึ้นมาเบื้องหน้าเขา: ประตูแห่งแสง, ประตูแห่งความมืด, และประตูแห่งความจริง
ใต้ชื่อเหล่านี้,ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมให้ลิงค์เลย
จากนั้นก็มีข้อความจากระบบเกมส์ปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของเขา
จงเลือกประตูที่ต้องการเข้า
มีวิหารที่งดงามตระการตาปรากฎขึ้นเบื้องหน้าพวกเขาในขณะที่พวกเขาก้าวผ่านประตูแห่งความจริงเสาของมันสูงเป็นพันฟุตและมีความกว้างเป็นร้อยฟุต, พร้อมกับมีเมฆหนาขดตัวกันอยู่ที่ส่วนบนและเพดานของวิหาร มันเป็นภาพที่อลังการมากจริงๆ
ในตอนที่พวกเขาเข้ามาข้างในวิหาร,ลิงค์ก็เห็นว่าทั้งสองฝั่งมีรูปปั้นวางเรียงรายอยู่นับไม่ถ้วน ซึ่งรูปปั้นจำนวนมหาศาลเหล่านี้ล้วนถูกแช่แข็งอยู่ในทุกๆอิริยาบถ มีรูปปั้นนึงดูเหมือนกำลังกู่ร้องให้กับสวรรค์, และอีกรูปปั้นนึงก็กำลังอยู่ในท่าโจมตี, พร้อมกับมีขวานรบอยู่ในมือที่พาดไปถึงหลังศรีษะของเขา บางรูปปั้นมีสีหน้าที่เรียบเฉย และมีเมฆสีขาวแบบเดียวกันลอดผ่านช่องหว่างระหว่างแขนและร่างกายของพวกเขา, ทำให้พวกเขาดูสง่างาม, และมีบรรยากาศที่น่าเกรงขาม
แม้กระทั่งนักเวทย์ระดับตำนานเองก็คงจะตกตะลึงกับวิหารที่มีรูปปั้นวางเรียงรายขนาดนี้ทั้งตัวสิ่งก่อสร้างนั้นไม่มีส่วนไหนที่ดูเป็นฝีมือของมนุษย์เลย
พวกเขาทั้งสองบินผ่านวิหารมาได้ประมาณ25 ไมล์แล้ว และทันใดนั้นเอง, หินทรงกลมที่ดูเหมือนจะเปล่งแสงสีฟ้าอ่อนก็ปรากฎขึ้นในสวรรค์เบื้องหน้าพวกเขา
หินนี้มีรัศมีประมาณ16 ฟุต มันลอยอยู่กลางอากาศเหมือนกับจุดๆนึงที่ไม่มีความสำคัญอะไร, แต่ทันใดนั้นเอง, โรเมออนก็หยุดลงที่ระยะห่างจากมัน 2,000 ฟุต ด้วยความที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมรอบตัว, ลิงค์เองก็หยุดอยู่ข้างๆโรเมออน
จากนั้น,โรเมออนก็พูดขึ้นมา “นี่คือหินแห่งการรังสรรค์, แก่นพลังของทั้งวิหารแห่งนี้ มันดูเล็กและเหมือนจะอยู่ใกล้แค่เอื้อมเลยใช่ไหมหล่ะ?”
มันอยู่ห่างจากจุดที่พวกเขาอยู่ประมาณ2,000 ฟุต ลิงค์น่าจะไปถึงมันได้ด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว อย่างไรก็ตาม, โรเมออนคงจะไม่ถามคำถามแบบนี้ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
“มันสำคัญยังไง?”
โรเมออนตอบด้วยรอยยิ้ม“ข้าอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ เจ้าต้องบินไปหาหินนั่นแล้วจะเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดเอง ไม่ต้องห่วง, มันค่อนข้างปลอดภัย, แม้ว่าการเดินทางอาจจะทำให้เจ้าเหนื่อยก็เถอะ ข้าเคยลองไปหามันมาหลายครั้งแล้ว, แต่ข้าไม่เคยมีพลังมากพอที่จะทำมันให้สำเร็จเลย
ด้วยการปล่อยวางความกังวล,ลิงค์ก็บินตรงไปหาหินสีฟ้าด้วยตัวเอง
ในตอนแรก,เขาคิดว่าเขาคงจะไปถึงหินนั่นในชั่วอึดใจเดียว อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่บินไปได้ซักพัก, ก็มีบางอย่างผิดปกติ
ในขณะที่เขาบินเข้าไป,เขาก็สังเกตเห็นว่าหินแห่งการรังสรรค์ค่อยๆขยายออกจนเต็มทัศนวิสัยของเขา เขาหันกลับไปและเห็นเสาของวิหารและรูปปั้น, ซึ่งดูเหมือนจะทอดยาวเข้าไปในสวรรค์เมื่อก่อนหน้านี้, ตอนนี้เป็นแค่จุดเล็กๆที่ไม่มีความสำคัญบนพื้นข้างหลังเขา หลังจากนั้นเขาก็มองตัวเองและตระหนักได้ว่าเขาเองก็ตัวหดลงจนมีขนาดเท่าเศษฝุ่น
มันแปลกมาก,แม้ว่าในความเป็นจริงลิงค์จะบินมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว, แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เข้าใกล้หินสีฟ้าเลย ยิ่งไปกว่านั้น, เขายังรู้สึกว่าเขากำลังถอยห่างจากมันในขณะที่บินไปหามันด้วย ก่อนหน้านี้, เขาอยู่ห่างจากหินประมาณ 2,000 ฟุต แต่ตอนนี้มันดูเหมือนกับอยู่ห่างจากเขาหลายแสนฟุต
นี่ฉันกำลังบินออกห่างจากมันหรอ?นี่มันคือเวทย์มิติรึเปล่า? แต่ฉันไม่เห็นรู้สึกถึงระลอกมิติรอบตัวฉันเลย ลิงค์ไม่สามารถทำความเข้าใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าหินสีฟ้าที่อยู่ข้างหน้าเขากำลังเปล่งแสงจ้าขึ้น,ลิงค์ก็คงจะหมดกำลังใจในการไล่ตามมันไปตั้งนานแล้ว
ลิงค์บินอยู่ภายใต้ปรากฎการณ์อันนี้พิศวงนี้เป็นเวลากว่าสามชั่วโมงพอมาถึงจุดนี้, หินสีฟ้าก็เต็มทัศนวิสัยของลิงค์อย่างสมบูรณ์ข้างหลังเขา, โรเมออนกับวิหารได้หายไปจนลับตาแล้ว
ตอนนี้ลิงค์รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่ลอยมาเจอกับทะเลแห่งความว่างเปล่าที่กว้างใหญ่ไพศาลหินแห่งการรังสรรค์ค่อยๆปรากฎขึ้นเบื้องหน้าเขา ณ จุดๆนี้, เขาจะสามารถไปถึงมันได้หรือไม่นั้น, ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการคาดเดาล้วนๆ
ในขณะที่บินไปได้เป็นเวลาพักใหญ่ๆบางอย่างก็เกิดขึ้น
หินสีฟ้าเบื้องหน้าเขาหายไปมันถูกแทนที่ด้วยกระจก มีคลื่นแผ่ออกมาจากพื้นผิวที่เหมือนกับบ่อของมัน, ก่อนที่จะค่อยๆเบาบางลงจนเผยให้เห็นการสะท้อนที่เป็นระเบียบ
ด้วยสายตามังกรของเขา,ลิงค์มองเห็นสิ่งที่สะท้อนอยู่ในกระจก เขามีความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังมองดูโลกทั้งใบจากความสูงหลายหมื่นฟุต
ไม่นานนักลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าโลกทั้งใบกำลังสะท้อนอยู่บนพื้นผิวของกระจกจริงๆในโลกใหม่นี้, มันมีทวีปและมหาสมุทรทอดยาวไปจนสุดเส้นขอบฟ้า มีเมืองมากมายตั้งอยู่ทั่วทวีป, มีอาคารที่ดูอลังการ, แต่มีลักษณะแปลกๆ แล้วลิงค์ก็เห็นว่ามีบางเมืองที่กำลังลอยอยู่บนฟ้าเหมือนกับเกาะลอยฟ้าขนาดยักษ์
พอสังเกตดูดีๆ,ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าโลกนี้คือจุดสุดยอดของนวัตกรรมเวทมนตร์, เกินกว่าที่ลิงค์จะจินตนาการได้
ถ้านี่คือหน้าตาของเวทมนตร์อันทันสมัยในจักรวาลนี้,ภพฟิรุแมนที่เขาอาศัยอยู่มาโดยตลอดก็คงไม่ต่างอะไรจากยุคสมัยที่ผู้คนยังใช้ดินทำกระท่อมและล่าสัตว์ด้วยหอกที่ทำขึ้นเอง ภพใหม่นี้ดูเหมือนจะเจริญกว่าฟิรุแมนถึงสามเท่า!
“ที่นี่มันคืออะไรกัน?หรือว่าจะเป็นมหากาพย์โบราณที่ภารกิจของเกมส์พูดถึง?” ลิงค์ขมวดคิ้วกับภาพนี้ เขายังคงบินไปหากระจกอยู่
ในขณะที่เขากำลังครุ่นคิดกับฉากเบื้องหน้าเขา,ทันใดนั้นเอง, ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีก ครั้งนี้, มีอุกกาบาตขนาดยักษ์ล่วงลงมาจากท้องฟ้า, และกำลังพุ่งตรงไปยังหนึ่งในทวีปที่ใหญ่ที่สุดที่สะท้อนอยู่ในกระจก
อุกกาบาตมีความกว้าง300 พุต ในตอนที่มันพุ่งไปถึงพื้นดิน, แรงกระแทกของมันก็ทำให้เกิดแรงระเบิดขนาดยักษ์, ที่ลบเมืองๆนึงทิ้งไปได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที ผู้คนจากเมืองใกล้เคียงกรูกันเข้ามาดับไฟไม่ให้ลามไปมากกว่านี้ ไม่นานนัก, แก่นของอุกกาบาตก็ถูกภพที่ใจกลางของหลุมอุกกาบาต
ลิงค์เพ่งสายตาไปที่แก่นนั้นแก่นมีลักษณะเหมือนกับหินชิ้นนึงที่มีความกว้าง 20 นิ้ว ดูเหมือนมันจะเป็นวัตถุที่มาจากนอกโลก มันมีสีขาวเนียน, เหมือนกับหยก อย่างไรก็ตาม, มันไม่เหมือนกับหยกทั่วๆไป, มันแผ่ออร่าเหมือนควันสีดำออกมาด้วย
จากนั้นมันก็ไปอยู่ในมือของนักเวทย์ที่มีพลังอันน่าเหลือชื่อที่ดูเหมือนจะเป็นคนสำคัญคนนึง นักเวทย์คนนั้นเอาหินกลับไปที่ห้องทดลองเวทมนตร์ของเขาและเริ่มทำการวิจัยและทดลองคุณสมบัติของหินเพื่อให้ดึงศักยภาพของมันออกมาได้อย่างเต็มที่
และในที่สุดเฟืองหกแฉกอันคุ้นเคยก็ค่อยๆเป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยฝีมือของนักเวทย์คนนี้
ในตอนนี้เอง,ก็มีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ อย่างไรก็ตาม, เขายังคงมองฉากที่ฉายอยู่ในกระจกต่อไป, เพื่อเก็บภาพความจริงทั้งหมดเอาไว้
ในภาพสะท้อน,หลังจากที่สร้างเฟืองเสร็จ, นักเวทย์คนนั้นก็เริ่มใส่พลังเข้าไปเพื่อทดสอบมัน เฟืองดึงพลังจากผู้สร้างอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย ณ จุดนี้ไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว เพื่อที่จะดูผลการทดลองของเขา, นักเวทย์คนนั้นได้หาแหล่งพลังงานใหม่มาเติมให้เฟืองหกแฉกอย่าต่อเนื่อง จนในที่สุด, โศกนาฎกรรมก็อุบัติขึ้น
มีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นเบื้องหน้าเขาอย่างกระทันหันในตอนที่แสงเบาบางลง, ลิงค์ก็เห็นว่าเมืองของนักเวทย์คนนั้นถูกลบไปอย่างสมบูรณ์พร้อมกับตัวนักเวทย์ด้วย
แสงนั้นกระจายออกไปทุกทิศทางดูเหมือนว่ามันจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆในตอนที่กระจายออกไป ไม่มีใครสามารถหยุดมันได้ ใครก็ตามที่พยายามหยุดมันจะถูกลบทิ้งไปอย่างง่ายดาย
ในขณะที่แสงกำลังกระจายออกไป,ลิงค์ก็เห็นบางสิ่งที่คล้ายกับมังกรกำลังบินหนีเข้าไปในความว่างเปล่า จากนั้นเขาก็เห็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งคนนึงกำลังแยกภพออก! แล้วเขาก็เห็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนกับปีศาจกำลังแห่กันเข้าไปในความว่างเปล่าด้วย
ในโลกแห่งแสงอนันต์นี้,เฟือกหกแฉกได้ลอยขึ้นอย่างช้าๆและจากนั้นก็หายเข้าไปในความว่างเปล่า กลับไปยังเมืองที่ถูกลบล้าง, ลิงค์มองเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่ตายจากภัยพิบัตินี้
ลิงค์เห็นเด็กหนุ่มคนนึงกำลังนอนหมดสติอยู่บนพื้นแล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ, ในตอนที่เห็นว่าเด็กหนุ่มคนนั้นคล้ายกับโนโซม่าเลย หลังจากที่เฟืองแห่งแสงหายไปบนฟ้า, เขาก็ได้สติกลับมา หลังจากนั้นเขาก็เหม่อมองท้องฟ้าเป็นเวลาพักใหญ่ๆ
ลิงค์จ้องไปที่เด็กหนุ่มคนนั้นและจากนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าเด็กคนนั้นกำลังกำหินสีดำอยู่ในมือ หินนั่นดูเหมือนจะปล่อยออร่าสีดำออกมา, ซึ่งกำลังซึมซับเข้าไปในร่างของเด็กหนุ่มอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงตลอดทั้งกระบวนการนี้
พอตั้งใจมองดูหินสีดำดีๆ,ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่ามันคือมวลของความไม่บริสุทธิ์สีดำที่แก่นอุกกาบาตทิ้งเอาไว้
หรือว่านี่คือเหตุการณ์ก่อนประวัติศาสตร์ของฟิรุแมน?แต่เรื่องทั้งหมดนี้มันมาอยู่ในวิหารผู้รังสรรค์ที่อยู่ในภพที่ห่างไกลจากฟิรุแมนแบบนี้ได้ยังไง? หรือว่ามันเป็นเพราะเฟืองหกแฉก? ลิงค์ยิ่งสับสนหนักขึ้นเรื่อยๆ
ในตอนนั้นเอง,ภาพก่อนประวัติศาสตร์ของฟิรุแมนที่แสดงอยู่บนกระจกก็หายไปอย่างกระทันหัน แล้วพื้นหลังสีครามก็ปรากฎขึ้นมาแทนที่ มีบอลแสงสามลูกลอยอยู่ สองลูกในนั้นเป็นสีขาวกับดำตามลำดับ ส่วนลูกที่สามไม่มีสีเลย
ลิงค์มองดูพวกมันทันใดนั้นเอง, ระบบเกมส์ก็แสดงชื่อของบอลแสงแต่ละลูกขึ้นมาเบื้องหน้าเขา: ประตูแห่งแสง, ประตูแห่งความมืด, และประตูแห่งความจริง
ใต้ชื่อเหล่านี้,ไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมให้ลิงค์เลย
จากนั้นก็มีข้อความจากระบบเกมส์ปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของเขา
จงเลือกประตูที่ต้องการเข้า