Advent of the Archmage - 651 วิหารแห่งการรังสรรค์ 4
Chapter
โดยปกติลิงค์จะไม่มีทางเข้าประตูมิติโดยไม่ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าปลอดภัยรึเปล่า แต่ตอนนี้ ความสงสัยอย่างรุนแรงได้กระตุ้นจิตใจของเขา เขาอยากจะรู้จริงๆว่ามีอะไรอยู่หลังประตู
นอกจากนี้เขายังเห็นรูปปั้นของบุคคลที่แข็งแกร่งมากมายในระหว่างทาง บางคนอยู่ในระดับที่เกินความเข้าใจของเขาด้วยซ้ำ ถ้าเกิดว่าอีกฝ่ายต้องการจะทำร้ายเขา มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก เรื่องพวกนี้จึงไม่มีความจำเป็นเลย
หลังจากลังเลอยู่พักนึงลิงค์ก็เลือกที่จะบินผ่านประตูแห่งความจริง
ที่น่าแปลกคือในตอนที่เขาตัดสินใจได้ ประตูอีก 2 บานก็หายไป ประตูแห่งความจริงได้ขยายขึ้นมาบดบังทัศนวิสัยทั้งหมดของเขา และมาอยู่ตรงหน้าเขาในทันที
ลิงค์ไม่มีความลังเลอีกต่อไปแล้วเข้าพุ่งเข้าไป
ภาพด้านหน้าเขาเปลี่ยนไปหลังจากผ่านไปซักพัก แสงรอบตัวเขาก็อ่อนลง ลิงค์พบว่าร่างมังกรของเขาหายไปแล้ว และเขาก็กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์
แสงอาทิตย์อันอบอุ่นส่องมาหาเขาและจมูกของเขาก็เต็มไปด้วยกลิ่นหนังสือ เขามองดูรอบๆ และเห็นว่าตัวเองถูกล้อมรอบด้วยชั้นหนังสือทรงกลมที่บรรจุตำราเวทมนตร์ทุกรูปแบบเอาไว้ มีนักเวทย์คนนึงอยู่ตรงหน้าเขาด้วย ลักษณะของเขาเหมือนกับคนในมหากาพย์ที่เป็นคนสร้างฟันเฟือง 6 แฉกขึ้นมา แม้กระทั่งเสื้อผ้าของเขาก็เหมือนกัน
คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน? ลิงค์อ้าปากค้าง คุณตายไปแล้วไม่ใช่หรอ? ขอโทษนะครับ แต่ว่าผม ในตอนที่เกิดระเบิดแสงสว่างไร้สิ้นสุด เขาได้เห็นนักเวทย์คนนี้ระเหยหายไปกับตาของเขา
นักเวทย์ยิ้ม ข้าตายไปแล้วจริงๆ แต่ว่าข้ากลับมาเกิดใหม่ เทพแห่งแสงเป็นคนชุบชีวิตข้าขึ้นมา
เทพแห่งแสง?นี่คุณกำลังพูดถึงฟันเฟืองอยู่งั้นหรอ? ลิงค์ตัวแข็งทื่อ
นักเวทย์สับสนเล็กน้อย ฟันเฟืองหรอ? นั่นสินะ มันดูเหมือนกันเลย แต่ว่านั่นเป็นแค่เปลือกนอก อันที่จริง เขานั่นแหละคือเทพแห่งแสง
ลิงค์ตกใจยิ่งกว่าเดิม ในมหากาพย์บอกว่าคุณเป็นคนสร้างมันขึ้นมา นี่คุณจะบอกว่าคุณสร้างเทพขึ้นมาอย่างงั้นหรอ?
สร้างเทพ? นักเวทย์เลิกคิ้วขึ้น จากนั้นเขาก็ยิ้มและส่ายหัว ไม่ ไม่ ไม่ เจ้าไม่ได้เห็นเรื่องราวทั้งหมด สิ่งที่เกิดขึ้นคือเทพแห่งแสงมีตัวตนอยู่มาตั้งนานแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเขาบาดเจ็บ ข้าแค่ช่วยเขาให้กลับมามีชีวิตใหม่และเผลอชำระล้างความมืดในวิญญาณของเทพไปโดยบังเอิญเท่านั้นเอง สิ่งที่เจ้าเห็นมันคือขั้นตอนการจุติมาเกิดใหม่ของเทพแห่งแสง
นี่ฟังดูมีเหตุผลถ้าเกิดมีคนที่สร้างเทพขึ้นมาได้จริงๆ ความรู้ของเขาคงต้องลึกล้ำมากๆ การอยู่ต่อหน้าคนแบบนั้นลิงค์คงรู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรกับมดเลย
หลังจากที่เงียบไปเขาก็มองหนังสือที่อยู่รอบตัวเขา ผมเลือกเข้าประตูแห่งความจริงมา หรือว่าความจริงที่ว่าจะหมายถึงเวทย์ต่างๆที่อยู่ในหนังสือพวกนี้?
นักเวทย์พยักหน้า ในตอนที่เจ้าเข้ามาในภพที่พึ่งเกิดใหม่นี้เทพแห่งแสงก็รู้สึกได้ถึงเจ้าแล้ว เขาบอกให้ข้าเป็นคนจัดการเรื่องนี้ ดังนั้นข้าจึงให้โรเมออนพาเจ้ามาที่นี่ และเจ้าก็มาที่นี่จริงๆแถมยังเลือกประตูแห่งความจริงตามที่ข้าคิดเอาไว้เลยด้วย เพื่อเป็นของขวัญให้เจ้า เจ้าสามารถเลือกหนังสือเล่มไหนก็ได้และเชิญคัดลอกมันไปได้เลย แต่จำเอาไว้นะ ได้เล่มเดียวเท่านั้น นี่ก็เป็นความประสงค์ของท่านเทพแห่งแสงเหมือนกัน
แค่เล่มเดียวหรอลิงค์มองดูหนังสือเป็นร้อยเป็นพันที่อยู่รอบตัวเขา มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้เจอกับสมบัติกองเท่าภูเขาแต่ว่าเขาเอากลับไปได้เพียงหยิบมือเท่านั้น เขาอยากจะอ่านให้ครบทุกเล่มก่อนที่จะกลับออกไปจริงๆ
นักเวทย์เดาสิ่งที่เขาคิดอยู่ได้เขายิ้มและส่ายหัว ข้าไม่ใช่คนขี้เหนียวหรอกนะ มันก็แค่หนังสือพวกนี้ไม่ใช่ของๆข้า ข้าเป็นแค่ผู้ดูแลเท่านั้น, ข้าเองก็ไม่สามารถอ่านพวกมันได้เหมือนกัน เจ้าของจริงๆก็คือท่านเทพแห่งแสง หนังสือแต่ละเล่มนั้นประกอบไปด้วยความรู้ที่ทรงคุณค่ามากๆ ต่อให้ผ่านไปเป็น 100 ปี, มนุษย์ธรรมดาก็อาจจะทำความเข้าใจมันไม่ได้ด้วยซ้ำ การให้เจ้าไปเล่มนึงก็ถือเป็นการประทานพรอันยิ่งใหญ่แล้ว
พอได้ยินแบบนี้ลิงค์ก็รู้สึกว่าตัวเองโลภเกินไป ผมเข้าใจแล้ว เขาพูดอย่างจริงจัง
ไปเลือกมาซักเล่มสิ นักเวทย์ผายมือเชื้อเชิญ
ลิงค์สูดหายใจเข้าลึกๆเพื่อปรับอารมณ์ของตัวเองจากนั้นก็เดินไปที่ชั้นหนังสือด้วยความเคารพ
เขาเห็นว่าหนังสือทุกเล่มส่องแสงเวทมนตร์ออกมาและหน้าปกของพวกมันทุกเล่มก็ดึงดูดเขา
ความลึกลับของแสง,แสงสว่างและความมืด, ไตรสาม, เทคนิคการร่ายเวทย์ของสุดยอดนักเวทย์, ภพศักดิ์สิทธิ์, ธาตุมหัพภาค หนังสือทั้งหมดนี้ทำให้ลิงค์หัวหมุน แต่ละเล่มนั้นน่าดึงดูดมาก และเขาไม่อยากจะพลาดมันไปซักเล่ม มันเหมือนกับการที่คนธรรมดาสามารถเอาอัญมณีออกมาได้เพียงแค่ชิ้นเดียวจากขุมสมบัติของอาลีบาบา การเลือกนั้นเป็นไปไม่ได้เลย
ในขณะที่เขากำลังสับสนอยู่นั้นเองลิงค์ก็ถูกดึงดูดด้วยหนังสือเล่มนึงที่ชื่อว่าภพศักดิ์สิทธิ์ ‘ศักดิ์สิทธิ์’ นั้นหมายถึง ‘ตำนาน’ ดังนั้นหนังสือเล่มนี้จะต้องเขียนถึงเวทย์ที่อยู่ในระดับตำนานอย่างแน่นอน ด้วยระดับพลังของลิงค์ในตอนนี้ เขาจะสามารถเข้าใจมันและใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างแน่นอน
แถมหนังสือเล่มนี้ยังดูหนามากอีกด้วยมันหนามากกว่าหนังสือเล่มอื่นๆ ดังนั้นบางทีมันอาจจะมีเนื้อหามากกว่าด้วย สำหรับหนังสือระดับนี้ มันคงจะไม่มีถ้อยคำที่ไร้ประโยชน์ ทุกถ้อยคำน่าจะมีความสำคัญหมด ในเมื่อมันมีคำมากกว่า มันก็จะต้องมีเนื้อหาที่มากกว่า และเขาก็จะได้ประโยชน์จากมันมากกว่า
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็จัดการความคิดที่ไม่เป็นระบบเนื่องจากการได้มาอยู่ในคลังหนังสือของเทพออกไป เขาชี้ไปที่หนังสือภพศักดิ์สิทธิ์และพูด ผมจะคัดลอกเล่มนี้
นักเวทย์ไม่ได้ตอบสนองในตอนที่เห็นว่าลิงค์ตัดสินใจแล้วมันเหมือนกับว่าเขาไม่รู้สึกแปลกใจเลยไม่ว่าลิงค์จะเลือกเล่มไหนก็ตาม
เจ้าแน่ใจนะ?
ผมแน่ใจ
นักเวทย์กำมือไปทางหนังสือเวทย์มีเงาปรากฏขึ้นที่ชั้นหนังสือ ในตอนที่มันลอยมาได้ประมาณ 3 ฟุต มันก็แข็งตัวขึ้นและลอยมาหาลิงค์
ลิงค์ยื่นมือออกไปจับมันเขามองดูที่ชั้นหนังสือ ภพศักดิ์สิทธิ์นั้นยังคงอยู่ที่เดิมของมัน วิธีการคัดลอกแบบนี้สมกับเป็นเทพจริงๆ ลิงค์ไม่สามารถทำแบบนี้ได้
เจ้าหนุ่ม นักเวทย์พูด ในเมื่อได้หนังสือแล้ว, เจ้าก็ควรจะกลับไปยังที่ของเจ้าได้แล้ว
ลิงค์เริ่มลังเลอีกครั้งเขาอยากจะตามหาฟันเฟืองปริศนาที่เป็นเทพแห่งแสงที่อยู่ในทะเลแห่งความว่างเปล่า แต่ตอนนี้ กองทัพปีศาจยังคงรอคอยเขาอยู่ที่ทะเลแห่งความว่างเปล่า เทพแห่งการทำลายเองก็ตามตัวเขาอยู่ ถ้าเกิดว่าเขาออกจากภพนี้ไป เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
ราวกับว่าอ่านใจของเขาได้นักเวทย์ก็ส่ายหัวอีกครั้ง เจ้าได้รับการต้อนรับจากเทพแห่งแสงเรียบร้อยแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตามหาเขาอีกต่อไป ในส่วนของศัตรูที่ทะเลแห่งความว่างเปล่านั้น ข้าบอกเจ้าได้แค่อย่างเดียวว่า ในโลกนี้มีเทพที่แท้จริงเพียงองค์เดียวเท่านั้น ซึ่งคนๆนั้นไม่ใช่นักล่าสีขาว เฟกโนนี่อย่างแน่นอน ลิงค์ตัวแข็งทื่อ คุณหมายความว่ายังไง?
นักเวทย์ยิ้ม เจ้ามีภาพอยู่ในใจแล้ว และในเมื่อมันเป็นเช่นนั้น มันก็ไม่ยากที่จะมองเห็นความจริง สำหรับความจริงนั้น เจ้าจะต้องตามหามันด้วยตัวเอง มันเป็นเส้นทางที่เจ้าจะต้องไปดูด้วยตัวเอง เอาหล่ะ, ไปได้แล้ว
ในตอนที่เขาพูดจบลิงค์ก็รู้สึกว่าตัวของเขาลอยขึ้น ภาพรอบตัวเขาหมุนอย่างรวดเร็ว, 3 วินาทีต่อมา ภาพก็หยุดลง และมันก็กลายเป็นหมอกสีเขียวเข้ม กระแสพลังงานพุ่งผ่านเขาเป็นบางครั้ง มันกดดันเขาด้วยพลังงานแห่งความยุ่งเหยิง
ที่นี่คือทะเลแห่งความว่างเปล่า
ลิงค์รีบเปลี่ยนเป็นร่างมังกรเพื่อป้องกันพลังแห่งความว่างเปล่าในทันทีในเวลาเดียวกันนั้นเอง ก็มีข้อความเด้งขึ้นมา
ภารกิจสำเร็จ:มหากาพย์โบราณ
ผู้เล่นได้รับ:พรอมตะ จะใช้เลยไหม?
ใช้เลย ลิงค์เลือกโดยไม่ลังเล
มันไม่มีความเป็นอมตะที่แท้จริงในโลกใบนี้แม้กระทั่งเทพแห่งแสงก็ยังเคยตายมาแล้ว ดังนั้นการที่เรียกว่าอมตะก็คือการอมตะในโลกโดยที่ไม่มีพลังงานจากภายนอก ในเมื่อเขาจะได้ของดีๆแบบนี้ เขาจะปฏิเสธมันไปทำไมหล่ะ
ในทันทีที่เขาพูดจบลิงค์ก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาสั่น มีพลังที่ไม่สามารถอธิบายได้พุ่งผ่านเขา มันชำระล้างทั่วทั้งร่างของเขา เขาเห็นว่าเกล็ดสีดำเงินของเขานั้นเปลี่ยนไปเล็กน้อย พอมองดูอย่างละเอียดเขาก็เห็นว่ามันมีเส้นเวทมนตร์โบราณอยู่ที่พื้นผิวชั้นนอก พวกมันดูเหมือนกับเส้นที่อยู่บนเฟืองปริศนาเลย
ต่อมารายละเอียดก็ปรากฏขึ้นบนทัศนวิสัยของเขา
ผู้เล่นได้รับ:พรอมตะ
พรอมตะ เวทย์ระดับพระเจ้า
ผลที่1: เมื่อได้รับพร ผลเสียทุกอย่างจากภพจะถูกลบล้าง
ผลที่2: อัตราการฟื้นฟูของเป้าหมายจะเพิ่มขึ้น 100% และผลนี้จะไม่มีวันหมด
ลิงค์ตื่นเต้นและตรวจดูค่าสถานะของเขาเขาเห็นว่าอัตราฟื้นฟูแก่นภพของเขากลับมาเป็นปกติแล้ว มันกลับมาอยู่ที่ 180 แต้มต่อวินาทีเหมือนเดิม
นี่มันเยี่ยมไปเลยตอนนี้ ฉันมีพลังไม่จำกัดแล้ว และร่างกายของฉันก็ฟื้นฟูได้ไวขึ้นด้วย ฉันไม่ต้องกังวลว่าตัวเองจะเหนื่อยหลังจากที่ใช้ความเร็วสูงสุดด้วยซ้ำ ต่อให้โนโซม่าใช้เรือท่องความว่างเปล่าไล่ตามฉัน ฉันก็ยังสามารถหนีได้
พอนึกถึงโนโซม่าลิงค์ก็ตัวสั่น เฟดาโร่อยู่ข้างๆเขาในขณะที่โนโซม่าและเทพแห่งการทำลายล้างอยู่ใกล้ๆกัน เขาไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้ว ด้วยความคิดนั้นในใจเขาก็กระพือปีกมังกรทันที พลังแห่งความว่างเปล่ากระจายออก และเขาก็พุ่งไปทางเฟดาโร่เหมือนกับจรวด ในตอนที่เขาบิน ลิงค์ก็ได้ตรวจสอบของรางวัลอื่นจากภารกิจด้วย: คริสตัลพลังงาน
มันคือคริสตัลโปร่งแสง28 ด้านที่ประกอบไปด้วยวังวนพลังงานที่หมุนวนไปเรื่อยๆ มันส่องแสงด้วยพลังออร่าอันบริสุทธิ์ ลิงค์รู้สึกว่าถ้าเกิดว่าเขาดูดซับพลังนี้เข้าไป ขีดจำกัดพลังของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เขาอาจจะขึ้นไปถึงเลเวล 14 เลยก็ได้
เขามีความคิดขึ้นมาในตอนที่ฉันกลับไปถึงฟิรุแมนและปักหลักได้แล้ว ฉันจะเริ่มดูดซับมัน
ในตอนที่ลิงค์ออกมาจากเฟดาโร่โนโซม่าที่กำลังไล่ตามเขาอยู่ก็ได้รับข้อความจากเทพแห่งการทำลายในเวลาที่แทบจะไล่เลี่ยกัน หยุดตามและกลับมาได้แล้ว มันอยู่ที่ทะเลแห่งความว่างเปล่า!
โนโซม่าตกใจ มันออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่?แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหนกัน?
ข้าสัมผัสที่อยู่ของมันได้อ่อนๆพวกเรายังต้องใช้เรือท่องความว่างเปล่าของเจ้าในการไล่ตามมัน เทพแห่งการทำลายล้างตอบ
โนโซม่ายังคงลังเลเขาหันไปรอบๆ และเห็นว่ากำแพงเมฆขนาดใหญ่ที่มีฟันเฟืองนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าสำหรับตอนนี้ มันคือสิ่งที่เขากำลังตามหาอยู่ เมื่อเทียบกันแล้ว ลิงค์ถือเป็นเรื่องรอง ไม่สิ มันเหมือนกับเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่า
จะไล่ล่ามันหรือไปต่อดีนะ?
หลังจากที่คิดอยู่ไม่กี่วินาทีโนโซม่าก็ไม่สนใจเทพแห่งการทำลาย เขาพุ่งไปทางเมฆสีขาวโดยไม่ลังเล
ในตอนนั้นเองแสงสีแดงเลือดที่ดวงตาเขาก็หายไป มันกลับมาเป็นสีดำสนิท เทพแห่งแสง ข้าตามหาเจ้ามาตั้งหลายปี เจ้ามาซ่อนตัวอยู่ที่นี่นี่เอง หึหึ ครั้งนี้ เจ้าหนีข้าไม่ได้แล้ว!