Advent of the Archmage - 662: นี่เขาคิดจะทำอะไร?
Chapter
ยูจินพยายามรักษาสภาพของหนังสือแห่งความตายเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
ด้วยเหตุผลบางประการ,หนังสือแห่งความตายสั่นอย่างรุนแรงจนในที่สุด, มันก็เกินการควบคุมของเธอ หนังสือสลายกลายเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วนในทันที
ยูจินรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาอย่างกระทันหันพลังงานเวทมนตร์ในร่างของเธอถูกอุดเอาไว้ทั้งหมดราวกับว่ามันติดอยู่ในอะไรบางอย่างที่คล้ายกับโคลนตม
เธอไม่สามารถใช้พลังได้อีกต่อไป
“เกิดอะไรขึ้น?”โมเดอร์น่าตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะเคยเป็นศัตรูกัน, แต่เขาก็คุ้นเคยกับความเข้าใจในศาสตร์ลึกลับของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ดี เธอไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องง่ายๆแบบนี้พลาดได้
“มีคนขัดขวางการร่ายเวทย์ของข้า!”ยูจินพูด, ตอนนี้หัวใจของเธอกำลังเต้นรัว เธอสัมผัสถึงตัวตนของศัตรูที่ทำลายหนังสือแห่งความตายของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งนี่เป็นส่วนที่ทำให้เธอกลัวมากที่สุด
ลองจินตนาการดูว่าตอนนี้คุณกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่มองไม่เห็นบางทีคุณอาจจะโชคดีพอหลบการโจมตีแรกของอีกฝ่ายได้, แต่ว่าครั้งต่อๆไปหล่ะ?
ในขณะที่ยูจินกำลังสับสนกับสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น,ราชาโมเดอร์น่าก็มองไปทางป้อมโอริด้าอย่างกระทันหัน “ดูเหมือนเรือเหาะอีกลำที่พึ่งมาถึงจะเอานักเวทย์จากเฟิร์ดมาหนุนที่ป้อมเพิ่มนะ”
“หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของพวกที่มาใหม่?แต่เฟิร์ดไม่น่าจะมีนักเวทย์คนไหนที่ใช้เวทมนตร์แบบนี้ได้นะ!” ยูจินพูด คิ้วบนใบหน้าอันไร้ที่ติของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ขมวด, แล้วดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ทันใดนั้นเอง,โมลิน่าก็พูดออกมา “นั่นลอร์ดเฟิร์ดค่ะ มันมาช่วยเหลือป้อมโอริด้าแล้ว”
“อะไรนะ?”ยูจินกับราชาโมเดอร์น่าตะโกนพร้อมกัน
นักเวทย์ไฮเอลฟ์ที่อยู่รอบๆพวกเขาเริ่มกระซิบกันเองพวกเขามองหน้ากันด้วยความกังวล, เห็นได้ชัดว่าไม่สบายใจกับสิ่งที่พวกเขาพึ่งจะได้ยิน
ลอร์ดเฟิร์ดเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงไปทั่วทวีป,เขาไม่ได้โด่งดังแค่เพราะพลังที่แข็งแกร่งของเขาเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงสติปัญญาของเขาด้วย
ในเวลาแค่ไม่กี่ปี,เขาก็สามารถเปลี่ยนที่รกร้างเฟิร์ดให้กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในทวีปฟิรุแมนได้ หอคอยเวทมนตร์ของเฟิร์ดได้ช่วงชิงตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรมเวทมนตร์ที่ไฮเอลฟ์ครองตำแหน่งมานานกว่า 10,000 ปี ความรู้ด้านเวทมนตร์ที่ลอร์ดเฟิร์ดสั่งสมมาในเวลาไม่กี่ปีนั้นได้ก้าวข้ามความเข้าใจของนักเวทย์ธรรมดาไปไกลแล้ว ใครก็ตามที่ได้เห็นเวทมนตร์ของเขาจะสูญเสียความตั้งใจที่จะสู้กับเขาไปในทันที และคนจิตใจอ่อนแอที่รู้จักเขาแค่จากชื่อเสียงที่ได้ยินมาก็คงจะไม่กล้าท้าสู้กับเขาด้วยซ้ำ
ตอนนี้เขาได้มาถึงสนามรบแล้วและโดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัว, สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการลบล้างเวทย์หนังสือแห่งความตายของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์เลเวล 14
แค่การเคลื่อนไหวนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะฝังความกลัวลงไปในจิตใจของผู้คน
ยูจินมองโมลิน่า“โมลิน่า, เจ้าพูดเอาไว้ไม่ใช่หรอว่ามันสูญเสียร่างมังกร, และพลังส่วนใหญ่ไปแล้ว? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกหล่ะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงสอบสวน
โมลิน่ายักไหล่“บางทีอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับมันหลังจากนั้น แต่ไม่ว่ายังไง, ทุกสิ่งที่ข้าบอกเป็นความจริงแน่นอนค่ะ”
ตอนนี้ราชาโมเดอร์น่าใจเย็นขึ้นกว่าเมื่อก่อนมีรอยยิ้มอ่อนๆอยู่บนหน้าของเขา “มันก็แค่คนๆเดียว ต่อให้ลอร์ดเฟิร์ดจะเจอปาฎิหารย์ในระหว่างทางกลับมาฟิรุแมนจนทำให้พลังของมันกลับมาอยู่ที่จุดสูงสุดเหมือนเดิม, แต่มันก็ยังเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญเลเวล 13 การที่มันปรากฎตัวขึ้นที่นี่ถือว่าเป็นปัญหาก็จริง, แต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะแพ้ซักหน่อย”
แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ,เขาถูกยูจินตอกกลับมาอย่างแสบไส้ในทันที “เหอะ, อย่ามาทำเป็นรู้ดีนักเลย!”
ยูจินได้โยนมารยาทที่เจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ควรจะมีทิ้งไปหมดแล้วเธอเริ่มตื่นตระหนก จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของราชามอร์เดอน่า “เจ้ารู้จักฮาลิโน่นักเวทย์แห่งแสงรึเปล่า?”
“ฮาลิโน่หรอ?รู้จักสิ, เคยได้ยินเรื่องของเขาอยู่” แม้ว่าโมเดอร์น่าจะรู้สึกหงุดหงิดอยู่ข้างใน, แต่เขาก็ยังรักษามารยาทต่อหน้าเจ้าหญิงได้อยู่
“ฮาลิโน่เป็นนักเวทย์แสงเลเวล13, ที่ร่อนเร่ไปทั่วทวีปมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ข้าไม่เคยเจอเขาตัวเป็นๆหรอก, แต่ได้ยินมาว่าเขาถูกลิงค์ฆ่าที่ทุ่งน้ำแข็งทางเหนือสุด, แม้ว่าตอนนั้นเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะมีราชินีมังกรแดงเป็นตัวประกันก็ตาม ถ้ามันเห็นเจ้าเมื่อไหร่แค่มันจ้วงดาบเพียงครั้งเดียวก็สามารถฆ่าเจ้าได้สบายๆแล้ว แล้วนี่เจ้าคิดจะเอาชนะคนแบบนั้นได้ยังไงกัน, โดยเฉพาะในตอนที่มันกลับมาอยู่ในระดับตำนานแบบนี้อีก?”
ยูจินไม่ได้เห็นเหตุการณ์กับตาตัวเองอย่างไรก็ตาม, ด้วยความที่รู้จักฮาลิโน่, ยูจินจึงสามารถเดาสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ เธอตั้งใจปกปิดเรื่องของตัวเองในเหตุการณ์นั้นเอาไว้, เพื่อไม่ให้โมเดอร์น่าหรือคนอื่นๆรู้ว่าเธอเป็นใคร
โมเดอร์น่าไม่พอใจกับแค่ข่าวลือเขาอาจจะไม่สามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่มีชื่อเสียงมากกว่าในการต่อสู้ตรงๆ, แต่เขาก็ทำใจเชื่อไม่ได้ว่าจะมีคนที่สามารถฆ่าเขาได้ด้วยการโจมตีเดียว
ในท้ายที่สุดแล้ว,เขาจึงแค่ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจออกมา
ยูจินรู้ว่าตอนนี้โมเดอร์น่ากำลังคิดอะไรอยู่ด้วยการไม่สนใจเขา, เธอก็หันไปหาโมลิน่าแล้วพูด “นักบวช, เหตุผลเดียวที่พวกเราจัดทัพมาในครั้งนี้ก็เพราะลอร์ดเฟิร์ดออกไปจากฟิรุแมน แต่ตอนนี้เขากลับมาลงสนามรบด้วยตัวเองแล้ว, ดังนั้นมันไม่มีทางที่เราจะชนะในศึกนี้แน่! มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องลุยในสงครามที่รู้ว่าแพ้, เพราะฉะนั้นตอนนี้ข้าขอสั่งให้พวกเราถอยกันก่อน”
ไฮเอลฟ์กับดาร์คเอลฟ์ขมวดคิ้วให้กับคำสั่งนี้เธอแค่ถูกลอร์ดเฟิร์ดทำลายเวทมนตร์ไปเอง มันจำเป็นต้องขวัญเสียขนาดนี้เลยหรอ? การที่จู่ๆเธอมาแสงความขี้ขลาดแบบนี้, มันช่างแปลกจริงๆเมื่อเทียบกับความแน่วแน่ดุจเพชรที่เธอเคยแสดงออกมาในอดีต
โมลิน่าพูดพร้อมขมวดคิ้ว“ทั้งกองทัพพร้อมที่ลุยต่อไปให้ถึงที่สุดแล้วค่ะ พวกเราก็เหมือนกับลูกศรที่ง้างเต็มที่แล้ว ตอนนี้พวกเราถอยไม่ได้แล้วน่ะคะ!” ยูจินตกตะลึงกับคำพูดของโมลิน่าจากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
นั่นสินะ,ตอนนี้เธอเป็นแม่ทัพ ถ้าเธอสั่งให้ถอยตอนนี้, เธอก็จะต้องคำนึงถึงขวัญกำลังใจของคนในกองทัพ, กองหนุนที่ยังหลงเหลืออยู่, ศัตรูจะไล่ตามมารึเปล่า, และหัวข้อพิจารณาอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าตอนนี้พวกเขาล่าถอย,นักรบของป้อมโอริด้าก็จะไล่หลังพวกเขามาอย่างแน่นอนและนั่นก็คงจะเป็นจุดจบของพวกเขา และถ้าเป็นแบบนั้น, พวกเขาสู้ลุยสงครามในให้ถึงที่สุดยังจะดีซะกว่า พวกเขายังมีโอกาสชนะในสงครามนี้ได้อยู่, ถึงมันจะดูริบหรี่ก็ตาม
ยูจินถอนหายใจ“เอางั้นก็ได้ พวกเราจะลุยสงครามนี้ต่อตามแผนการที่วางเอาไว้”
ทันใดนั้นเอง,ก็มีคนชี้ไปที่กำแพงป้อม “ดูนั่นสิ, มีภาพเวทมนตร์อยู่บนกำแพงด้วย”
ทุกคนหันไปดูแล้วเห็นภาพของเด็กหนุ่มผมดำสูงสิบฟุตปรากฎขึ้นบนกำแพงป้อมเขากำลังสวมชุดคลุมต่อสู้สีดำเงินและมีดาบเหน็บอยู่ที่เอว
ทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นใครนั่นคือลอร์ดเฟิร์ด
“ดูเหมือนว่ามันอยากจะพูดอะไรบางอย่างนะ”ราชาโมเดอร์น่าพูดพร้อมขมวดคิ้ว
วินาทีต่อมา,ภาพนั้นก็พูด “เอลลี่ ดานาส, ฉันมีอะไรอยากจะพูดกับเธอหน่อย”
ณเวลานี้, ความเกลียดชังในตัวยูจินได้ปะทุขึ้นมาในตอนที่เห็นลิงค์ ตอนนี้, เธอไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการฝังเขี้ยวเล็บของเธอลงไปในเนื้อสดๆของเขาและบดกระดูกของเขาให้เป็นผุยผง อย่างไรก็ตาม, ในเมื่อเขาถามอย่างสุภาพ, ยูจินก็คิดว่ามันคงจะไม่มีอันตรายอะไรในการฟังชายคนนี้พูด ด้วยการใช้เวทย์เพิ่มเสียงของตัวเอง, เธอก็พูดออกมา “ถ้ามันเกี่ยวกับการที่เจ้าจะยอมจำนนต่อข้า, ข้าจะยอมรับฟังก็ได้”
ภาพของลิงค์ที่อยู่เหนือป้อมปราการยิ้มออกมาเล็กน้อย“ฉันขอถามเธอหน่อยว่าตอนนี้โมเดอร์น่า, ราชาแห่งไฮเอลฟ์อยู่ข้างๆเธอรึเปล่า?” ราชาโมเดอร์น่าพยักหน้า,แล้วยูจินก็ตอบกลับ “เขาอยู่ที่นี่”
“อุกกาบาตสิ้นโลกเมื่อสามวันก่อน,เป็นฝีมือของเขาใช่ไหม?” ลิงค์ถาม
ยูจินไม่รู้ว่าทำไมลิงค์ถึงถามเธอแบบนี้อย่างไรก็ตาม, เธอเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่สามารถเดาได้ว่าผิดตรงไหน, เธอทำได้แค่นิ่งเงียบ
ไอ้หมอนี่คิดจะทำอะไรกันแน่?ยูจินคิด เธอไม่เข้าใจเลยว่าลิงค์ตั้งใจจะเล่นอะไร
ยูจินพยายามรักษาสภาพของหนังสือแห่งความตายเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
ด้วยเหตุผลบางประการ,หนังสือแห่งความตายสั่นอย่างรุนแรงจนในที่สุด, มันก็เกินการควบคุมของเธอ หนังสือสลายกลายเป็นจุดแสงนับไม่ถ้วนในทันที
ยูจินรู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมาอย่างกระทันหันพลังงานเวทมนตร์ในร่างของเธอถูกอุดเอาไว้ทั้งหมดราวกับว่ามันติดอยู่ในอะไรบางอย่างที่คล้ายกับโคลนตม
เธอไม่สามารถใช้พลังได้อีกต่อไป
“เกิดอะไรขึ้น?”โมเดอร์น่าตกตะลึง แม้ว่าพวกเขาจะเคยเป็นศัตรูกัน, แต่เขาก็คุ้นเคยกับความเข้าใจในศาสตร์ลึกลับของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ดี เธอไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องง่ายๆแบบนี้พลาดได้
“มีคนขัดขวางการร่ายเวทย์ของข้า!”ยูจินพูด, ตอนนี้หัวใจของเธอกำลังเต้นรัว เธอสัมผัสถึงตัวตนของศัตรูที่ทำลายหนังสือแห่งความตายของเธอไม่ได้ด้วยซ้ำ ซึ่งนี่เป็นส่วนที่ทำให้เธอกลัวมากที่สุด
ลองจินตนาการดูว่าตอนนี้คุณกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่มองไม่เห็นบางทีคุณอาจจะโชคดีพอหลบการโจมตีแรกของอีกฝ่ายได้, แต่ว่าครั้งต่อๆไปหล่ะ?
ในขณะที่ยูจินกำลังสับสนกับสิ่งที่พึ่งจะเกิดขึ้น,ราชาโมเดอร์น่าก็มองไปทางป้อมโอริด้าอย่างกระทันหัน “ดูเหมือนเรือเหาะอีกลำที่พึ่งมาถึงจะเอานักเวทย์จากเฟิร์ดมาหนุนที่ป้อมเพิ่มนะ”
“หรือว่านี่จะเป็นฝีมือของพวกที่มาใหม่?แต่เฟิร์ดไม่น่าจะมีนักเวทย์คนไหนที่ใช้เวทมนตร์แบบนี้ได้นะ!” ยูจินพูด คิ้วบนใบหน้าอันไร้ที่ติของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ขมวด, แล้วดวงตาของเธอก็เบิกกว้างด้วยความไม่เชื่อ
ทันใดนั้นเอง,โมลิน่าก็พูดออกมา “นั่นลอร์ดเฟิร์ดค่ะ มันมาช่วยเหลือป้อมโอริด้าแล้ว”
“อะไรนะ?”ยูจินกับราชาโมเดอร์น่าตะโกนพร้อมกัน
นักเวทย์ไฮเอลฟ์ที่อยู่รอบๆพวกเขาเริ่มกระซิบกันเองพวกเขามองหน้ากันด้วยความกังวล, เห็นได้ชัดว่าไม่สบายใจกับสิ่งที่พวกเขาพึ่งจะได้ยิน
ลอร์ดเฟิร์ดเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงไปทั่วทวีป,เขาไม่ได้โด่งดังแค่เพราะพลังที่แข็งแกร่งของเขาเท่านั้น, แต่ยังรวมถึงสติปัญญาของเขาด้วย
ในเวลาแค่ไม่กี่ปี,เขาก็สามารถเปลี่ยนที่รกร้างเฟิร์ดให้กลายเป็นเมืองที่รุ่งเรืองที่สุดในทวีปฟิรุแมนได้ หอคอยเวทมนตร์ของเฟิร์ดได้ช่วงชิงตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรมเวทมนตร์ที่ไฮเอลฟ์ครองตำแหน่งมานานกว่า 10,000 ปี ความรู้ด้านเวทมนตร์ที่ลอร์ดเฟิร์ดสั่งสมมาในเวลาไม่กี่ปีนั้นได้ก้าวข้ามความเข้าใจของนักเวทย์ธรรมดาไปไกลแล้ว ใครก็ตามที่ได้เห็นเวทมนตร์ของเขาจะสูญเสียความตั้งใจที่จะสู้กับเขาไปในทันที และคนจิตใจอ่อนแอที่รู้จักเขาแค่จากชื่อเสียงที่ได้ยินมาก็คงจะไม่กล้าท้าสู้กับเขาด้วยซ้ำ
ตอนนี้เขาได้มาถึงสนามรบแล้วและโดยที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัว, สิ่งแรกที่เขาทำก็คือการลบล้างเวทย์หนังสือแห่งความตายของเจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์เลเวล 14
แค่การเคลื่อนไหวนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะฝังความกลัวลงไปในจิตใจของผู้คน
ยูจินมองโมลิน่า“โมลิน่า, เจ้าพูดเอาไว้ไม่ใช่หรอว่ามันสูญเสียร่างมังกร, และพลังส่วนใหญ่ไปแล้ว? ทำไมข้าถึงรู้สึกว่ามันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนอีกหล่ะ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงสอบสวน
โมลิน่ายักไหล่“บางทีอาจจะมีอะไรเกิดขึ้นกับมันหลังจากนั้น แต่ไม่ว่ายังไง, ทุกสิ่งที่ข้าบอกเป็นความจริงแน่นอนค่ะ”
ตอนนี้ราชาโมเดอร์น่าใจเย็นขึ้นกว่าเมื่อก่อนมีรอยยิ้มอ่อนๆอยู่บนหน้าของเขา “มันก็แค่คนๆเดียว ต่อให้ลอร์ดเฟิร์ดจะเจอปาฎิหารย์ในระหว่างทางกลับมาฟิรุแมนจนทำให้พลังของมันกลับมาอยู่ที่จุดสูงสุดเหมือนเดิม, แต่มันก็ยังเป็นแค่ผู้เชี่ยวชาญเลเวล 13 การที่มันปรากฎตัวขึ้นที่นี่ถือว่าเป็นปัญหาก็จริง, แต่มันไม่ได้หมายความว่าพวกเราจะแพ้ซักหน่อย”
แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ,เขาถูกยูจินตอกกลับมาอย่างแสบไส้ในทันที “เหอะ, อย่ามาทำเป็นรู้ดีนักเลย!”
ยูจินได้โยนมารยาทที่เจ้าหญิงดาร์คเอลฟ์ควรจะมีทิ้งไปหมดแล้วเธอเริ่มตื่นตระหนก จากนั้นเธอก็สังเกตเห็นสีหน้าไม่พอใจของราชามอร์เดอน่า “เจ้ารู้จักฮาลิโน่นักเวทย์แห่งแสงรึเปล่า?”
“ฮาลิโน่หรอ?รู้จักสิ, เคยได้ยินเรื่องของเขาอยู่” แม้ว่าโมเดอร์น่าจะรู้สึกหงุดหงิดอยู่ข้างใน, แต่เขาก็ยังรักษามารยาทต่อหน้าเจ้าหญิงได้อยู่
“ฮาลิโน่เป็นนักเวทย์แสงเลเวล13, ที่ร่อนเร่ไปทั่วทวีปมาเป็นเวลาหลายร้อยปี ข้าไม่เคยเจอเขาตัวเป็นๆหรอก, แต่ได้ยินมาว่าเขาถูกลิงค์ฆ่าที่ทุ่งน้ำแข็งทางเหนือสุด, แม้ว่าตอนนั้นเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบเพราะมีราชินีมังกรแดงเป็นตัวประกันก็ตาม ถ้ามันเห็นเจ้าเมื่อไหร่แค่มันจ้วงดาบเพียงครั้งเดียวก็สามารถฆ่าเจ้าได้สบายๆแล้ว แล้วนี่เจ้าคิดจะเอาชนะคนแบบนั้นได้ยังไงกัน, โดยเฉพาะในตอนที่มันกลับมาอยู่ในระดับตำนานแบบนี้อีก?”
ยูจินไม่ได้เห็นเหตุการณ์กับตาตัวเองอย่างไรก็ตาม, ด้วยความที่รู้จักฮาลิโน่, ยูจินจึงสามารถเดาสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ เธอตั้งใจปกปิดเรื่องของตัวเองในเหตุการณ์นั้นเอาไว้, เพื่อไม่ให้โมเดอร์น่าหรือคนอื่นๆรู้ว่าเธอเป็นใคร
โมเดอร์น่าไม่พอใจกับแค่ข่าวลือเขาอาจจะไม่สามารถต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานที่มีชื่อเสียงมากกว่าในการต่อสู้ตรงๆ, แต่เขาก็ทำใจเชื่อไม่ได้ว่าจะมีคนที่สามารถฆ่าเขาได้ด้วยการโจมตีเดียว
ในท้ายที่สุดแล้ว,เขาจึงแค่ส่งเสียงฮึดฮัดไม่พอใจออกมา
ยูจินรู้ว่าตอนนี้โมเดอร์น่ากำลังคิดอะไรอยู่ด้วยการไม่สนใจเขา, เธอก็หันไปหาโมลิน่าแล้วพูด “นักบวช, เหตุผลเดียวที่พวกเราจัดทัพมาในครั้งนี้ก็เพราะลอร์ดเฟิร์ดออกไปจากฟิรุแมน แต่ตอนนี้เขากลับมาลงสนามรบด้วยตัวเองแล้ว, ดังนั้นมันไม่มีทางที่เราจะชนะในศึกนี้แน่! มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องลุยในสงครามที่รู้ว่าแพ้, เพราะฉะนั้นตอนนี้ข้าขอสั่งให้พวกเราถอยกันก่อน”
ไฮเอลฟ์กับดาร์คเอลฟ์ขมวดคิ้วให้กับคำสั่งนี้เธอแค่ถูกลอร์ดเฟิร์ดทำลายเวทมนตร์ไปเอง มันจำเป็นต้องขวัญเสียขนาดนี้เลยหรอ? การที่จู่ๆเธอมาแสงความขี้ขลาดแบบนี้, มันช่างแปลกจริงๆเมื่อเทียบกับความแน่วแน่ดุจเพชรที่เธอเคยแสดงออกมาในอดีต
โมลิน่าพูดพร้อมขมวดคิ้ว“ทั้งกองทัพพร้อมที่ลุยต่อไปให้ถึงที่สุดแล้วค่ะ พวกเราก็เหมือนกับลูกศรที่ง้างเต็มที่แล้ว ตอนนี้พวกเราถอยไม่ได้แล้วน่ะคะ!” ยูจินตกตะลึงกับคำพูดของโมลิน่าจากนั้นเธอก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
นั่นสินะ,ตอนนี้เธอเป็นแม่ทัพ ถ้าเธอสั่งให้ถอยตอนนี้, เธอก็จะต้องคำนึงถึงขวัญกำลังใจของคนในกองทัพ, กองหนุนที่ยังหลงเหลืออยู่, ศัตรูจะไล่ตามมารึเปล่า, และหัวข้อพิจารณาอื่นๆอีกมากมาย
ถ้าตอนนี้พวกเขาล่าถอย,นักรบของป้อมโอริด้าก็จะไล่หลังพวกเขามาอย่างแน่นอนและนั่นก็คงจะเป็นจุดจบของพวกเขา และถ้าเป็นแบบนั้น, พวกเขาสู้ลุยสงครามในให้ถึงที่สุดยังจะดีซะกว่า พวกเขายังมีโอกาสชนะในสงครามนี้ได้อยู่, ถึงมันจะดูริบหรี่ก็ตาม
ยูจินถอนหายใจ“เอางั้นก็ได้ พวกเราจะลุยสงครามนี้ต่อตามแผนการที่วางเอาไว้”
ทันใดนั้นเอง,ก็มีคนชี้ไปที่กำแพงป้อม “ดูนั่นสิ, มีภาพเวทมนตร์อยู่บนกำแพงด้วย”
ทุกคนหันไปดูแล้วเห็นภาพของเด็กหนุ่มผมดำสูงสิบฟุตปรากฎขึ้นบนกำแพงป้อมเขากำลังสวมชุดคลุมต่อสู้สีดำเงินและมีดาบเหน็บอยู่ที่เอว
ทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นใครนั่นคือลอร์ดเฟิร์ด
“ดูเหมือนว่ามันอยากจะพูดอะไรบางอย่างนะ”ราชาโมเดอร์น่าพูดพร้อมขมวดคิ้ว
วินาทีต่อมา,ภาพนั้นก็พูด “เอลลี่ ดานาส, ฉันมีอะไรอยากจะพูดกับเธอหน่อย”
ณเวลานี้, ความเกลียดชังในตัวยูจินได้ปะทุขึ้นมาในตอนที่เห็นลิงค์ ตอนนี้, เธอไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการฝังเขี้ยวเล็บของเธอลงไปในเนื้อสดๆของเขาและบดกระดูกของเขาให้เป็นผุยผง อย่างไรก็ตาม, ในเมื่อเขาถามอย่างสุภาพ, ยูจินก็คิดว่ามันคงจะไม่มีอันตรายอะไรในการฟังชายคนนี้พูด ด้วยการใช้เวทย์เพิ่มเสียงของตัวเอง, เธอก็พูดออกมา “ถ้ามันเกี่ยวกับการที่เจ้าจะยอมจำนนต่อข้า, ข้าจะยอมรับฟังก็ได้”
ภาพของลิงค์ที่อยู่เหนือป้อมปราการยิ้มออกมาเล็กน้อย“ฉันขอถามเธอหน่อยว่าตอนนี้โมเดอร์น่า, ราชาแห่งไฮเอลฟ์อยู่ข้างๆเธอรึเปล่า?” ราชาโมเดอร์น่าพยักหน้า,แล้วยูจินก็ตอบกลับ “เขาอยู่ที่นี่”
“อุกกาบาตสิ้นโลกเมื่อสามวันก่อน,เป็นฝีมือของเขาใช่ไหม?” ลิงค์ถาม
ยูจินไม่รู้ว่าทำไมลิงค์ถึงถามเธอแบบนี้อย่างไรก็ตาม, เธอเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ก็ไม่สามารถเดาได้ว่าผิดตรงไหน, เธอทำได้แค่นิ่งเงียบ
ไอ้หมอนี่คิดจะทำอะไรกันแน่?ยูจินคิด เธอไม่เข้าใจเลยว่าลิงค์ตั้งใจจะเล่นอะไร