Advent of the Archmage - 668 ปรับเปลี่ยนแผนการ
Chapter
ล้อไม้หมุนไปตามพื้นถนนโดยที่มีกรงไม้อยู่ข้างบนลิงค์ เอเลียร์ดและดิโลเซ่นที่สวมชุดนักโทษเก่าๆ นั่งพิงเสากรงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
หลังจากที่ถูกผู้ติดตามแห่งความมืดสอบสวนด้วยตัวเองเสร็จแล้วชีวิตของพวกเขาก็คงจะพบจุดจบ
แน่นอนว่าสำหรับโจรพวกนี้ พวกเขาทั้งสามคนก็ไม่ต่างอะไรไปจากพ่อค้าธรรมดาที่อาจจะพอมีทักษะป้องกันตัวอยู่บ้าง แต่ด้วยการที่ถูกปลดอาวุธออกไปหมดแบบนี้ พ่อค้าเหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามสำหรับพวกเขาอีกต่อไป ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยเอาไว้ในกรงเฉยๆโดยไม่ดูแลอะไรทั้งสิ้น
ซึ่งมันก็เป็นโอกาสที่ลิงค์กับคนอื่นๆจะได้ปรึกษาหารือกัน
ด้วยความที่เป็นมาสเตอร์ที่แข็งแกร่งพวกเขาจึงสามารถสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเปิดปาก แทนที่จะพูดกันเบาๆหรือเดาท่าทางของอีกฝ่าย พวกเขาสามารถคุยกันได้โดยใช้การเคลื่อนไหวอันละเอียดอ่อนที่พวกเขาตกลงกันมาก่อนล่วงหน้าไม่ว่าจะเป็นการกระดิกนิ้วหรือยักคิ้ว
ที่ภายนอกนอกจากการปรับเปลี่ยนท่านั้งในกรงเพียงเล็กน้อย พวกเขาก็แทบจะไม่ขยับเลย ยังไงก็ตาม พวกเขาทั้งสามคนกำลัง ‘พูดคุยกัน’ อยู่
นี่นายเตรียมพร้อมรึยัง? พวกเรากำลังจะไปเจอมอร์เฟียสแล้วนะ เอเลียร์ดสื่อสารกับดิโลเซ่น ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่บนเส้นทางเล็กๆในป่าทึบ ดูจากสภาพของมันแล้ว พวกเขาน่าจะไปถึงฐานของมอร์เฟียสในอีกไม่นานนี้ แผนจัดการมอร์เฟียสของพวกเขานั้นขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์เลเวล 19 ที่ดิโลเซ่นเอาติดตัวมาด้วย
ใจเย็นหน่อยสิก่อนที่จะออกมา อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งได้ทำการศึกษาครึ่งเทพคนนี้แล้ว อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการมันโดยเฉพาะ มันจะต้องตายอย่างแน่นอน ดิโลเซ่น บิดริมฝีปากของเขาเล็กน้อย ไม่มีร่องรอยของความกังวลอยู่ในสายตาของเขาเลย
ลิงค์ไม่ได้ส่งสัญญาณอะไรเลยสายตาของเขากำลังจดจ่ออยู่กับสภาพแวดล้อมรอบๆในขณะที่พวกเขากำลังเดินทางอยู่พร้อมกับสัมผัสถึงความเร็วลมและอัตราการหายใจของพวกโจรเพื่อวิเคราะห์ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหนในตอนนี้
ด้วยการคาดคะเนตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาและเปรียบเทียบมันกับตำแหน่งของป้อมปราการเงาที่เขาจำได้ในเกมเขาก็จะสามารถบอกได้ว่าพวกเขากำลังเดินทางไปฐานของมอร์เฟียสจริงหรือเปล่า
ในเกมนั้นไม่ได้มีรายละเอียดมากเหมือนกับโลกที่ลิงค์อยู่ณ ตอนนี้ แต่ว่าทุกอย่างก็อยู่ในที่ๆมันควรอยู่ ยกตัวอย่างเช่น ป้อมโจรก่อนหน้านี้ก็มีอยู่จริงๆในเกม มันมีชื่อเรียกว่าป้อมฝูงชน มันเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นหลักของสมาคมและเป็นหนึ่งในฐานสาขาย่อยของสมาคมด้วย ซึ่งโจรที่ชื่อยามูกับหัวหน้าโจรเป็นหัวหน้าของที่นั่น
ภายในเกมลิงค์เคยพาปาร์ตี้ของเขามาที่ป้อมนี้และตามหาเบาะแสตำแหน่งของป้อมปราการเงาได้หลังจากที่ฆ่าหัวหน้าโจรไปแล้ว
อ้างอิงจากคำอธิบายของเกมป้อมปราการเงานั้นควรจะอยู่ในป่าลึกทางใต้ของป้อมฝูงชนประมาณ 80 ไมล์ บริเวณรอบๆนั้นจะมีกับดักหมอกพิษอยู่ ใครก็ตามที่บุกรุกเข้าไปจะต้องถูกหมอกพิษฆ่าตายอย่างแน่นอนถ้าไม่ได้รับวัคซีนมาก่อน
พวกเขาเดินทางผ่านป่ามาได้40 ไมล์แล้ว อ้างอิงจากข้อมูลของเกม อีกไม่นานพวกเขาจะไปถึงกับดักหมอกพิษ ถ้าเกิดว่าพวกโจรต้องการจะให้มอร์เฟียสสอบปากคำพวกเขาจริงๆ พวกเขาก็น่าจะให้ยาแก้พิษมาเพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาเอาไว้ แต่สิ่งที่ทำให้ลิงค์ตกใจก็คือ ดูเหมือนว่าไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่สนใจเรื่องสุขภาพของนักโทษเลยในขณะที่พวกเขายังคงเดินหน้ากันไปเรื่อยๆ
ไม่มีกับดักไหนทำงาน
ในไม่ช้าลิงค์ก็รู้สึกตัวว่าตอนนี้พวกเขากำลังใช้เส้นทางที่ค่อนข้างแตกต่างไปจากเส้นทางที่ลิงค์จำได้จากในเกม ตอนนี้ เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันเกิดข้อแตกต่างขึ้นจริงรึเปล่า หรือว่าพวกโจรนั้นแค่ตัดสินใจใช้เส้นทางอื่นเฉยๆ
ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าดิโลเซ่นจะมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป ซึ่งนี่ไม่ใช่ลักษณะที่ถูกต้องสำหรับคนที่กำลังจะไปต่อสู้กับครึ่งเทพ
จากนั้นลิงค์ก็ส่งสัญญาณออกมา เขาอาจจะเป็นคนหลงอำนาจ แต่ว่าเขาก็ยังเป็นครึ่งเทพที่ครอบครองชิ้นส่วนมาเป็นเวลานับ 100 ปี คนแบบนี้จะต้องมีอะไรแอบซ่อนเอาไว้แน่ๆ เพราะฉะนั้นระวังตัวให้ดีหล่ะ เข้าใจมั้ย?
เข้าใจแล้ว ดิโลเซ่นพูดพร้อมพยักหน้า
เกวียนขนคุกได้แล่นไปตามถนนอีกประมาณ2 ชั่วโมง ทันใดนั้นเอง เส้นทางที่อยู่เบื้องหน้าก็กว้างขึ้นและแบนลง การสั่นของเกวียนเบาลงด้วยเหตุผลบางอย่าง ต้นไม้รอบตัวพวกเขาน้อยลง ที่ด้านหน้าพวกเขานั้นมีหุบเขากว้าง 50 ฟุตที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยชั้นหมอกอ่อนๆ
ในทันทีที่เห็นภาพของหุบเขาลิงค์ก็สัมผัสได้ในทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เอาหล่ะหยุดเกวียนได้ หัวหน้าโจรที่ยืนอยู่ด้านหน้าของกลุ่มพูด หลังจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น และทุกคนก็หยุด ปล่อยตัวเจ้าพวกนี้ออกมา
หนึ่งในพวกโจรมาที่กรงจากนั้นพวกเขาก็เปิดประตูออกและตะโกน พวกเจ้าทุกคนออกมาซะ
เกิดอะไรขึ้น? เอเลียร์ดมองไปที่พรรคพวกของเขาแบบงงๆ
ดิโลเซ่นขมวดคิ้วเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรจะทำยังไงต่อดี ลิงค์ยักคิ้วขึ้น ตอนนี้ทำตามที่พวกมันบอกไปก่อน แน่นอนว่าแผนการของพวกเขาพังแล้วแต่ว่า เหตุการณ์ยังปกติอยู่ ถึงแม้ว่าข้อมูลที่พวกเขาได้มาจะยังไม่สมบูรณ์ก็ตาม แต่เอาจริงๆ, พวกเขาจะไปคาดหวังให้แผนการออกมาอย่างราบรื่นทั้งๆที่มีข้อมูลไม่สมบูรณ์ได้ยังไงหล่ะ
พวกเขาทั้งสามลงมาจากเกวียนหนึ่งในพวกโจรเอามีดมาจ่อหลังพวกเขา เดินไปซะ
พวกเขาทั้งสามคนถูกบังคับให้เดินไปหาหัวหน้าโจรที่มองมาทางพวกเขาอย่างเย็นชาหลังจากนั้นเขาก็โยนถุงให้กับลิงค์ เอารูปปั้นนี่ไปด้วยและตรงไปทางหุบเขา อย่าคิดแม้แต่จะหนีหล่ะ เจ้านายของพวกข้ารอพวกเจ้าอยู่ในหุบเขาแล้ว!
ลิงค์กับคนอื่นๆมองหน้ากันอย่างสับสนร่างกายของพวกเขาเริ่มสั่น ไม่มีใครในกลุ่มพวกเขาที่กล้าก้าวไปข้างหน้า
มัวรีรออะไรอยู่! หัวหน้าโจรหยิบหน้าไม้ออกมาและขึงสายธนูดังกริ๊ก พวกโจรคนอื่นๆเองก็ทำเหมือนกัน ณ ตอนนี้ หัวลูกธนูกว่า 10ลูกที่ส่องประกายด้วยสีของเหล็กเย็นๆได้ชี้มาทางพวกเขาทั้งสามอย่างน่ากลัว
ถ้าพวกเขายังหมอบกลัวอยู่ที่นี่พวกเขาจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน อย่างน้อยพวกเขาก็จะอยู่ได้นานขึ้นอีกเล็กน้อยถ้าพวกเขาเดินไปตามเส้นทางเข้าหุบเขาที่อยู่ข้างหน้า พวกเขาทั้งสามเริ่มเดินไปอย่างสั่นกลัว โดยเฉพาะลิงค์ ที่ตัวสั่นอย่างรุนแรงจนเกือบจะทำรูปปั้นหลุดมือ เห็นได้ชัดว่าเขาสั่นแรงกว่าสองคนที่เหลืออีก
พวกโจรที่อยู่ด้านหลังพวกเขาหัวเราะออกมาดังลั่นในตอนที่พวกเขาเห็นลิงค์กับคนอื่นๆเดินเข้าไปในหุบเขา
ทั้งสามคนเดินไปเรื่อยๆจนเข้ามาในหุบเขาตอนนี้พวกโจรถูกบดบังไปด้วยหมอกขาวที่อยู่ด้านหลังพวกเขาเรียบร้อยแล้ว
พวกเขายังไม่เจอมอร์เฟียสนี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งในแผนการของพวกเขา ยังไงก็ตาม พวกเขาทั้งสามก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วนอกจากเดินไปข้างหน้าต่อ หลังจากเดินไปได้อย่างน้อย10 นาที อยู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นมาจากหมอกขาว มนุษย์เอ๋ย หน้าตาของเจ้าดูคุ้นๆนะ
เกิดวังวนขึ้นที่หมอกขาวเบื้องหน้าพวกเขาจากนั้นมันก็ก่อตัวขึ้นเป็นร่างคน มันลอยตรงมาทางพวกเขา ลิงค์รู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาที่เขา
นี่ต้องเป็นหนึ่งในร่างแยกของมอร์เฟียสแน่ๆแล้วร่างจริงของมันอยู่ที่ไหนล่ะ? ด้วยความที่ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ดิโลเซ่นจึงไม่สามารถใช้อุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ใส่ครึ่งเทพคนนี้ได้แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม เขาเริ่มตื่นตระหนก
ลิงค์เคยต่อสู้กับมอร์เฟียสมาก่อนในอดีตเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เขานึกออก ลิงค์จึงเปลี่ยนแปลงรูปร่างของ, ออร่าเวทมนตร์ไปจนถึงเปลี่ยนนิสัยให้ดูเป็นคนขี้กังวลเพื่อให้เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างสมบูรณ์ แต่ถึงอย่างนั้น ทั้งๆที่เขาปลอมตัวมาขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังไม่สามารถหลอกครึ่งเทพที่มีสัมผัสอันเฉียบแหลมได้อย่างสมบูรณ์
ลิงค์ก้มลงกับพื้นเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเขา เขาหยิบถุงที่ซ่อนรูปปั้นเอาไว้ขึ้นมาเหนือหัวด้วยมือที่สั่นไหว หลังจากนั้นเขาก็วิงวอน ท่านผู้ยิ่งใหญ่ ผมเป็นแค่พ่อค้าธรรมดาที่อยากจะใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์ ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วยเถอะ
ไม่มีใครคิดหรอกว่าพ่อค้าที่กำลังตัวสั่นอยู่ตรงนี้คือลอร์ดเฟิร์ดผู้แข็งแกร่งแม้ว่าเอเลียร์ดกับดิโลเซ่นจะทำตัวแข็งเป็นหินอยู่, แต่ลึกๆในใจนั้น พวกเขากำลังประทับใจกับทักษะการแสดงของลิงค์อยู่
ดูเหมือนว่ารูปร่างคนในหมอกนั้นจะเลิกสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของลิงค์แล้ว
พอความสนใจของเขาไปอยู่ที่ถุงในมือของลิงค์อยู่ๆถุงก็เปิดออกเองและเผยให้เห็นถึงรูปปั้นหินสวรรค์ที่ส่องประกายอยู่ข้างใน
ยอดเยี่ยมยอดเยี่ยมจริงๆ แต่ก็น่าเสียดายที่เจ้านำมันมาให้ข้าได้แค่ครึ่งเดียว เงาในหมอกขาวยื่นมือออกมาจับส่วนที่แตกของรูปปั้น เจ้าไปได้มันมาจากไหน?
ณตอนนี้ หลังของลิงค์ชุ่มไปด้วยเงื่อ เขาเหงื่อออกเพราะความกังวลจริงๆ
เขามีความรู้สึกว่าถ้าเกิดเขาตอบมอร์เฟียสไปด้วยคำตอบที่พวกเขาเตรียมกันมาก่อนที่จะเข้ามาในหุบเขาครึ่งเทพคนนี้จะทำการลงมือใส่เขาในทันที
และเมื่อไหร่ที่มอร์เฟียสลงมือพวกเขาทั้งสามก็จะถูกบังคับให้เปิดเผยตัวตนในทันที ฐานของมอร์เฟียสนั้นอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ในทันทีที่เขารู้ว่าพวกเขาเป็นใคร เขาจะต้องออกมาทักทายพวกเขาด้วยตัวเองในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน
ในตอนแรกพวกเขามีแผนที่จะโจมตีมอร์เฟียสทีเผลอมีเพียงการลอบโจมตีเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสเอาชนะได้ พวกเขาทั้งสามจะต้องถูกขยี้เหมือนกับมดแน่ๆถ้าเกิดต้องปะทะกับครึ่งเทพคนนี้แบบซึ่งๆหน้า
ตอนนี้พวกเขายืนอยู่บนทางแยกระหว่างความเป็นและความตาย! ปัญหาก็คือตอนนี้พวกเขาควรทำยังไงดี?
เอเลียร์ดกับดิโลเซ่นฉลาดมากพอที่จะรู้ว่าสถานกาณ์ในตอนนี้ไม่ดีแล้วยังไงก็ตาม พวกเขาทั้งสองไม่สามารถทำอะไรได้ ณ จุดๆนี้ หัวใจของพวกเขาเต้นรัวพร้อมกับมีเหงื่อเย็นๆไหลออกมาจากรูขุมขนของพวกเขา