Advent of the Archmage - 672: คำสาปแรกของชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์
Chapter
“ไปเถอะ,ไปดูกัน” ดิโลเซ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
เนื่องจากพันธะวิญญาณที่พวกเขาทำด้วยกันก่อนหน้านี้,เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าลิงค์กับเอเลียร์ดจะทรยศเขา ด้วยความตายของมอร์เฟียส, ในที่สุดเขาก็จะทำภารกิจที่อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งฝากฝังมาสำเร็จแล้ว
พอเขากลับไปถึงภพอารากู่,เขาก็จะได้รับรางวัลตอบแทนจากอาร์คเมจสำหรับความพยายามของเขาอย่างแน่นอน
ลิงค์กับเอเลียร์ดไม่ได้มีเจนตนาจะขโมยชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่แรกแล้วแม้ว่าพันธะวิญญาณที่ทำกับดิโลเซ่นจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาไม่สนใจ, แต่พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพลังของชิ้นส่วนนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเล่นด้วยได้ง่ายๆ ใครก็ตามที่สามารถควบคุมมันได้จะไปสู่ภพเทพได้ ส่วนพวกที่ทำไม่ได้นั้นจะถูกมันครอบงำและตายไปเหมือนกับมอร์เฟียส
อย่างไรก็ตาม,ไม่มีทางที่ลิงค์กับเอเลียร์ดจะยอมพลาดโอกาสในการศึกษาสิ่งที่หายากและลึกลับระดับนี้ ลิงค์กับเอเลียร์ดตามดิโลเซ่นไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกัเบขา
ไม่นานนัก,พวกเขาทั้งสามก็ไปถึงป้อมเงา มีรูปปั้นมนุษย์แตกๆหนึ่งตัวตั้งอยู่ในห้องโถงขนาดยักษ์ จากสภาพที่หลงเหลืออยู่, สามารถสันนิษฐานได้ว่ามันมีรูปร่างเหมือนกับมอร์เฟียส จุดที่แตกนั้นยังดูเหมือนรอยใหม่อยู่เลย ทั่วทั้งตัวอาคารเองก็มีสภาพเละเทะ กำแพงส่วนใหญ่พังทลายลงมา นี่ต้องเป็นผลกระทบหลังจากที่มอร์เฟียสตายไปแล้วแน่ๆ
พอเข้ามาข้างในห้องโถง,ทุกคนก็แยกกันไปตามหาชิ้นส่วน อันที่จริงนั้น, ลิงค์รู้อยู่แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน, อย่างไรก็ตาม, เขาไม่มีความสนใจที่จะค้นหาวัตถุต้องสาปนี้, ดังนั้นเขาจึงแค่ทำเป็นหามันอยู่ที่มุมๆนึง
ทันใดนั้นเอง,ดิโลเซ่นก็รีบกลับมาที่ห้องโถง “เจอแล้ว, มันอยู่ตรงนี้!”
ลิงค์กับเอเลียร์ดหันไปและเห็นดิโลเซ่นกำลังยืนอยู่ข้างๆรูปปั้นที่พังทลายของมอร์เฟียส,รูปปั้นนั้นกำลังถือกระโหลกคริสตัลสีดำเอาไว้ในมือ
กระโหลกนี้เป็นสีดำสนิทอย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าฟันกรามส่วนล่างของมันจะหายไปและมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ที่ส่วนหลังของมัน มีแผลเป็นอยู่นับไม่ถ้วนด้วย และที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือ, มีประกายแสงสีดำกำลังลุกพรึบอยู่ในเบ้าตาทั้งสองข้าง
“กระโหลกนี้ดูไม่เหมือนสิ่งที่ทำมาจากโลกนี้เลยนะฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” เอเลียร์ดพูด นี่เป็นสิ่งที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้เขาจริงๆ
ลิงค์เคยเห็นมันมาก่อนตอนที่อยู่ในเกมส์อย่างไรก็ตาม, ของจริงนั้นดูน่าประทับใจกว่าที่เขาคาดเอาไว้ แสงสีดำที่ลุกพรึบอยู่ในเบ้าตานั้นเหมือนกับเส้นทางที่นำพาไปยังนรกที่มืดอย่างเหลือเชื่อ พอสบตากับกระโหลกนี้, เขาก็จะได้ยินเสียงกระซิบเบาๆในหัว เขาเริ่มรู้สึกโลภขึ้นมาอย่างกระทันหัน, และอยากได้มันมาเป็นของตัวเอง
ลิงค์เบือนสายตาหนีในทันทีและยับยั้งความต้องการที่จะฉกมันจากมือของดิโลเซ่นเอาไว้จากนั้นเขาก็มองไปที่เอเลียร์ด ตอนนี้เขามีสีหน้าแปลกๆ ดูเหมือนว่าเขาเองก็ได้รับผลกระทบจากมันเหมือนกัน
ในส่วนของดิโลเซ่นนั้น, เขามีความเข้าใจในกระโหลกนี้มากกว่าเพื่อนร่วมทีมทั้งสอง, ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าไม่ควรจ้องเข้าไปในดวงตาของมัน “ระวังด้วย, อย่าให้เจ้าสิ่งนี้ล่อลวงพวกเจ้าได้หล่ะ”
ลิงค์พยักหน้า“เอาหล่ะ, คุณดิโลเซ่น, พวกเราทำภารกิจของคุณสำเร็จแล้ว ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่คุณจะมอบของที่เราตกลงกันไว้มาได้แล้วนะ”
“ได้สิ,ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ทำงานกับพวกท่านทั้งสอง ลอร์ด, ครั้งนี้ท่านช่วยข้าเอาไว้เยอะจริงๆ อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งกับข้าเป็นหนี้ท่านครั้งใหญ่เลยหล่ะ” ดิโลเซ่นพูดด้วยรอยยิ้ม เขาเอากล่องที่มีลวดลายแบบสมัยเก่าออกมาแล้วเก็บกระโหลกคริสตัลสีดำเอาไว้ข้างในนั้น จากนั้นเขาก็ใช้เชือกคล้องกล่องเอาไว้แล้วเอามาห้อยที่เอวของเขา ซึ่งมันน่าแปลกมาก, กล่องนี้ดูเหมือนจะลบตัวตนของกระโหลกออกไปจากโลกนี้เลย
จากนั้น,ดิโลเซ่นก็ส่งจันทราโกลาหลให้ลิงค์ “จันทราโกลาหลสามารถใช้ได้แค่เดือนละครั้ง พวกเราพึ่งจะใช้มันไปเมื่อซักครู่นี้, ดังนั้นท่านจะใช้มันได้อีกครั้งในเดือนหน้า ท่านคงจะรู้แล้วว่ามันทำอะไรได้ ข้ามั่นใจว่ามันจะเป็นประโยชน์กับท่านแน่”
“มันเป็นของที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”ลิงค์พูดพลางพยักหน้า, พร้อมที่จะยื่นมือไปรับมัน
การร่วมมือกันในครั้งนี้ของพวกเขาเป็นไปได้อย่างงดงามแต่ว่า, เรื่องมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น “ระวัง!”
ลิงค์ชักดาบออกมาอย่างกระทันหันและแทงมันเข้าไปในบอลแห่งความสิ้นหวังที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเบื้องหน้าเขาจากนั้นปลายดาบก็ไปโผล่ที่ข้างหลังของดิโลเซ่น
มีคนที่สวมชุดคลุมต่อสู้สีทองสลับแดงกระโดดออกมาจากข้างหลังรูปปั้นมอร์เฟียส,และกำลังเหวี่ยงดาบลงมาทางดิโลเซ่น
ตัดสินจากชุดของเขา,คนๆนี้ต้องเป็นนักรบเพลิงนรกแน่ๆ…ไม่สิ, ชุดคลุมต่อสู้ของเขาดูหรูหรากว่านักรบเพลิงนรกสองคนที่ลิงค์เคยพาไปที่เฟิร์ดเมื่อไม่นานนี้ การไหลเวียนของพลังในร่างของเขาให้ความรู้สึกแข็งแกร่งกว่าด้วย นี่ต้องเป็นหนึ่งในอัศวินลาวา, นักรบขั้นสูงที่ดิโลเซ่นเคยเล่าให้พวกเขาฟังแน่ๆ
ลิงค์คิดว่าอัศวินลาว่าคนนี้น่าจะแฝงตัวมาตั้งแต่ตอนที่เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อสักคณู่นี้และเฝ้ารออยู่ในเงามืดเพื่อหาโอกาสที่จะโจมตีมาโดยตลอด อัศวินลาวาปัดป้องดาบของลิงค์ด้วยเสียงดังสนั่นแรงกระแทกได้ส่งคลื่นกระแทกอันแข็งแกร่งลงมาที่แขนของลิงค์, และทำให้มันชาในทันที, ซึ่งนี่ทำให้ลิงค์ไม่สามารถใช้ดาบได้อย่างเต็มที่เป็นการชั่วคราว อัศวินลาวาแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม,ลิงค์ไม่ได้เป็นแค่นักรบ เขาเป็นนักเวทย์ด้วย
แม้ว่าดาบลำนำจันทร์เต็มดวงจะถูกปัดป้องได้,แต่มันก็ช่วยซื้อเวลาให้ผู้ถือครองได้ร่ายเวทมนตร์, ด้วยเสียงครืนดังกระหึ่ม, บาเรียมิติหนาก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นระหว่างดิโลเซ่นกับอัศวินลาวา
“หนอยย!”อัศวินลาวาเหวี่ยงดาบลงมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง, ดาบสองมือ, ที่ดูเหมือนจะมีกระแสลาวาหยดอยู่, ก็ระเบิดในทันที จากนั้นมันก็รวมตัวกันเป็นคมดาบยาว 50 ฟุตที่ทำมาจากไฟและลาวาล้วนๆ
ดาบนี้ตัดบาเรียมิติที่ลิงค์สร้างขึ้นมาให้ดิโลเซ่นอย่างเร่งรีบเหมือนกับหั่นเนย จากนั้น,ไฟของดาบก็ตรงไปทางดิโลเซ่นด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาแค่ชั่วเสี้ยววินาทีนอกจากลิงค์, ทั้งเอเลียร์ดและดิโลเซ่นไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนองการลอบโจมตีของอัศวินคนนี้เลย
ดิโลเซ่นถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงในเวลาไม่นานมีเสียงระเบิดดังมาจากร่างของเขา, เนื่องจากอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เขามีเขาจึงไม่ได้ถูกจัดการในทันที
เห็นได้ชัดว่า,ไฟนี้เป็นการโจมตีด้วยเขตแดนรูปแบบหนึ่ง ดิโลเซ่นไม่มีวิธีป้องกันตัวเองเลยเมื่อมาเจอกับพลังระดับนี้
นี่คือผลลัพธ์จากการลอบโจมตีที่สายนักรบทำกับนักเวทย์เห็นได้ชัดว่าอัศวินลาวานั้นแข็งแกร่งกว่านักเวทย์ทุกคนในที่นี้ ไม่มีทางที่เหยื่อนักเวทย์ของเขาจะสามารถรอดจากการโจมตีของเขาได้เลย
ในตอนที่ดูเหมือนกับว่าไฟกำลังแผดเผาดิโลเซ่นทั้งเป็นอยู่นั้นเอง,แสงสีขาวก็เริ่มสว่างขึ้นจากร่างของเขา ฟึบ,ฟึบ, ฟึบ มันคือเวทย์เทเลพอร์ทของลิงค์
ในตอนที่แสงสีขาวนั้นหายไป,พวกเขาทั้งสามคนก็หายไปจากป้อมเงา อัศวินลาวาไม่ได้ไล่ตามมา เขาแค่ไปยังจุดที่พวกเขาเคยอยู่และหยิบกล่องไม้ขึ้นมา จากนั้นเขาก็เปิดมันออกและพบว่าชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ในกล่องอย่างสงบสุข
ดิโลเซ่นไม่ใช่เป้าหมายของเขาเป้าหมายของเขาคือชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่แรกแล้ว ในเมื่อตอนนี้มันอยู่ในการครอบครองของเขา, อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งก็จะไม่ใช่ภัยคุกคามต่อเจ้านายของเขา, อาร์คเมจเพลิงอีกต่อไป
“ลอร์ดเฟิร์ดนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ”อัศวินลาวาปิดกล่อง เขาไม่สนใจที่จะไล่ตามลิงค์อีก ตอนนี้เขากำลังวางแผนกลับไปที่เกาะรุ่งอรุณแทน
ภารกิจหลักของเขาคือการเก็บกู้ชิ้นส่วนศักดิ์สิทธ์และทำลายแผนการของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งการฆ่าดิโลเซ่นกับลอร์ดเฟิร์ดก็เป็นแค่การทำให้แผนมันง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว, ความตายของพวกเขาก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆสำหรับเขา
อย่างไรก็ตาม,เทคนิคของลอร์ดเฟิร์ดนั้นทำให้เขาตกใจจริงๆ แม้ว่าอัศวินลาวาจะไม่กลัวเขาเลย, แต่ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับเขาแล้ว, เพื่อไม่ให้เขามาวุ่นวายอีก
“ไปเถอะ,ไปดูกัน” ดิโลเซ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
เนื่องจากพันธะวิญญาณที่พวกเขาทำด้วยกันก่อนหน้านี้,เขาจึงไม่ต้องกังวลว่าลิงค์กับเอเลียร์ดจะทรยศเขา ด้วยความตายของมอร์เฟียส, ในที่สุดเขาก็จะทำภารกิจที่อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งฝากฝังมาสำเร็จแล้ว
พอเขากลับไปถึงภพอารากู่,เขาก็จะได้รับรางวัลตอบแทนจากอาร์คเมจสำหรับความพยายามของเขาอย่างแน่นอน
ลิงค์กับเอเลียร์ดไม่ได้มีเจนตนาจะขโมยชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่แรกแล้วแม้ว่าพันธะวิญญาณที่ทำกับดิโลเซ่นจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พวกเขาไม่สนใจ, แต่พวกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าพลังของชิ้นส่วนนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะเล่นด้วยได้ง่ายๆ ใครก็ตามที่สามารถควบคุมมันได้จะไปสู่ภพเทพได้ ส่วนพวกที่ทำไม่ได้นั้นจะถูกมันครอบงำและตายไปเหมือนกับมอร์เฟียส
อย่างไรก็ตาม,ไม่มีทางที่ลิงค์กับเอเลียร์ดจะยอมพลาดโอกาสในการศึกษาสิ่งที่หายากและลึกลับระดับนี้ ลิงค์กับเอเลียร์ดตามดิโลเซ่นไปเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกัเบขา
ไม่นานนัก,พวกเขาทั้งสามก็ไปถึงป้อมเงา มีรูปปั้นมนุษย์แตกๆหนึ่งตัวตั้งอยู่ในห้องโถงขนาดยักษ์ จากสภาพที่หลงเหลืออยู่, สามารถสันนิษฐานได้ว่ามันมีรูปร่างเหมือนกับมอร์เฟียส จุดที่แตกนั้นยังดูเหมือนรอยใหม่อยู่เลย ทั่วทั้งตัวอาคารเองก็มีสภาพเละเทะ กำแพงส่วนใหญ่พังทลายลงมา นี่ต้องเป็นผลกระทบหลังจากที่มอร์เฟียสตายไปแล้วแน่ๆ
พอเข้ามาข้างในห้องโถง,ทุกคนก็แยกกันไปตามหาชิ้นส่วน อันที่จริงนั้น, ลิงค์รู้อยู่แล้วว่ามันอยู่ที่ไหน, อย่างไรก็ตาม, เขาไม่มีความสนใจที่จะค้นหาวัตถุต้องสาปนี้, ดังนั้นเขาจึงแค่ทำเป็นหามันอยู่ที่มุมๆนึง
ทันใดนั้นเอง,ดิโลเซ่นก็รีบกลับมาที่ห้องโถง “เจอแล้ว, มันอยู่ตรงนี้!”
ลิงค์กับเอเลียร์ดหันไปและเห็นดิโลเซ่นกำลังยืนอยู่ข้างๆรูปปั้นที่พังทลายของมอร์เฟียส,รูปปั้นนั้นกำลังถือกระโหลกคริสตัลสีดำเอาไว้ในมือ
กระโหลกนี้เป็นสีดำสนิทอย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าฟันกรามส่วนล่างของมันจะหายไปและมีก้อนเนื้อขนาดใหญ่อยู่ที่ส่วนหลังของมัน มีแผลเป็นอยู่นับไม่ถ้วนด้วย และที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือ, มีประกายแสงสีดำกำลังลุกพรึบอยู่ในเบ้าตาทั้งสองข้าง
“กระโหลกนี้ดูไม่เหมือนสิ่งที่ทำมาจากโลกนี้เลยนะฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย” เอเลียร์ดพูด นี่เป็นสิ่งที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้เขาจริงๆ
ลิงค์เคยเห็นมันมาก่อนตอนที่อยู่ในเกมส์อย่างไรก็ตาม, ของจริงนั้นดูน่าประทับใจกว่าที่เขาคาดเอาไว้ แสงสีดำที่ลุกพรึบอยู่ในเบ้าตานั้นเหมือนกับเส้นทางที่นำพาไปยังนรกที่มืดอย่างเหลือเชื่อ พอสบตากับกระโหลกนี้, เขาก็จะได้ยินเสียงกระซิบเบาๆในหัว เขาเริ่มรู้สึกโลภขึ้นมาอย่างกระทันหัน, และอยากได้มันมาเป็นของตัวเอง
ลิงค์เบือนสายตาหนีในทันทีและยับยั้งความต้องการที่จะฉกมันจากมือของดิโลเซ่นเอาไว้จากนั้นเขาก็มองไปที่เอเลียร์ด ตอนนี้เขามีสีหน้าแปลกๆ ดูเหมือนว่าเขาเองก็ได้รับผลกระทบจากมันเหมือนกัน
ในส่วนของดิโลเซ่นนั้น, เขามีความเข้าใจในกระโหลกนี้มากกว่าเพื่อนร่วมทีมทั้งสอง, ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เขาจะรู้ว่าไม่ควรจ้องเข้าไปในดวงตาของมัน “ระวังด้วย, อย่าให้เจ้าสิ่งนี้ล่อลวงพวกเจ้าได้หล่ะ”
ลิงค์พยักหน้า“เอาหล่ะ, คุณดิโลเซ่น, พวกเราทำภารกิจของคุณสำเร็จแล้ว ผมคิดว่ามันถึงเวลาที่คุณจะมอบของที่เราตกลงกันไว้มาได้แล้วนะ”
“ได้สิ,ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ทำงานกับพวกท่านทั้งสอง ลอร์ด, ครั้งนี้ท่านช่วยข้าเอาไว้เยอะจริงๆ อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งกับข้าเป็นหนี้ท่านครั้งใหญ่เลยหล่ะ” ดิโลเซ่นพูดด้วยรอยยิ้ม เขาเอากล่องที่มีลวดลายแบบสมัยเก่าออกมาแล้วเก็บกระโหลกคริสตัลสีดำเอาไว้ข้างในนั้น จากนั้นเขาก็ใช้เชือกคล้องกล่องเอาไว้แล้วเอามาห้อยที่เอวของเขา ซึ่งมันน่าแปลกมาก, กล่องนี้ดูเหมือนจะลบตัวตนของกระโหลกออกไปจากโลกนี้เลย
จากนั้น,ดิโลเซ่นก็ส่งจันทราโกลาหลให้ลิงค์ “จันทราโกลาหลสามารถใช้ได้แค่เดือนละครั้ง พวกเราพึ่งจะใช้มันไปเมื่อซักครู่นี้, ดังนั้นท่านจะใช้มันได้อีกครั้งในเดือนหน้า ท่านคงจะรู้แล้วว่ามันทำอะไรได้ ข้ามั่นใจว่ามันจะเป็นประโยชน์กับท่านแน่”
“มันเป็นของที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”ลิงค์พูดพลางพยักหน้า, พร้อมที่จะยื่นมือไปรับมัน
การร่วมมือกันในครั้งนี้ของพวกเขาเป็นไปได้อย่างงดงามแต่ว่า, เรื่องมันคงไม่ง่ายขนาดนั้น “ระวัง!”
ลิงค์ชักดาบออกมาอย่างกระทันหันและแทงมันเข้าไปในบอลแห่งความสิ้นหวังที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเบื้องหน้าเขาจากนั้นปลายดาบก็ไปโผล่ที่ข้างหลังของดิโลเซ่น
มีคนที่สวมชุดคลุมต่อสู้สีทองสลับแดงกระโดดออกมาจากข้างหลังรูปปั้นมอร์เฟียส,และกำลังเหวี่ยงดาบลงมาทางดิโลเซ่น
ตัดสินจากชุดของเขา,คนๆนี้ต้องเป็นนักรบเพลิงนรกแน่ๆ…ไม่สิ, ชุดคลุมต่อสู้ของเขาดูหรูหรากว่านักรบเพลิงนรกสองคนที่ลิงค์เคยพาไปที่เฟิร์ดเมื่อไม่นานนี้ การไหลเวียนของพลังในร่างของเขาให้ความรู้สึกแข็งแกร่งกว่าด้วย นี่ต้องเป็นหนึ่งในอัศวินลาวา, นักรบขั้นสูงที่ดิโลเซ่นเคยเล่าให้พวกเขาฟังแน่ๆ
ลิงค์คิดว่าอัศวินลาว่าคนนี้น่าจะแฝงตัวมาตั้งแต่ตอนที่เกิดความวุ่นวายขึ้นเมื่อสักคณู่นี้และเฝ้ารออยู่ในเงามืดเพื่อหาโอกาสที่จะโจมตีมาโดยตลอด อัศวินลาวาปัดป้องดาบของลิงค์ด้วยเสียงดังสนั่นแรงกระแทกได้ส่งคลื่นกระแทกอันแข็งแกร่งลงมาที่แขนของลิงค์, และทำให้มันชาในทันที, ซึ่งนี่ทำให้ลิงค์ไม่สามารถใช้ดาบได้อย่างเต็มที่เป็นการชั่วคราว อัศวินลาวาแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม,ลิงค์ไม่ได้เป็นแค่นักรบ เขาเป็นนักเวทย์ด้วย
แม้ว่าดาบลำนำจันทร์เต็มดวงจะถูกปัดป้องได้,แต่มันก็ช่วยซื้อเวลาให้ผู้ถือครองได้ร่ายเวทมนตร์, ด้วยเสียงครืนดังกระหึ่ม, บาเรียมิติหนาก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นระหว่างดิโลเซ่นกับอัศวินลาวา
“หนอยย!”อัศวินลาวาเหวี่ยงดาบลงมาอีกครั้ง ทันใดนั้นเอง, ดาบสองมือ, ที่ดูเหมือนจะมีกระแสลาวาหยดอยู่, ก็ระเบิดในทันที จากนั้นมันก็รวมตัวกันเป็นคมดาบยาว 50 ฟุตที่ทำมาจากไฟและลาวาล้วนๆ
ดาบนี้ตัดบาเรียมิติที่ลิงค์สร้างขึ้นมาให้ดิโลเซ่นอย่างเร่งรีบเหมือนกับหั่นเนย จากนั้น,ไฟของดาบก็ตรงไปทางดิโลเซ่นด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาแค่ชั่วเสี้ยววินาทีนอกจากลิงค์, ทั้งเอเลียร์ดและดิโลเซ่นไม่มีเวลาแม้แต่จะตอบสนองการลอบโจมตีของอัศวินคนนี้เลย
ดิโลเซ่นถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงในเวลาไม่นานมีเสียงระเบิดดังมาจากร่างของเขา, เนื่องจากอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เขามีเขาจึงไม่ได้ถูกจัดการในทันที
เห็นได้ชัดว่า,ไฟนี้เป็นการโจมตีด้วยเขตแดนรูปแบบหนึ่ง ดิโลเซ่นไม่มีวิธีป้องกันตัวเองเลยเมื่อมาเจอกับพลังระดับนี้
นี่คือผลลัพธ์จากการลอบโจมตีที่สายนักรบทำกับนักเวทย์เห็นได้ชัดว่าอัศวินลาวานั้นแข็งแกร่งกว่านักเวทย์ทุกคนในที่นี้ ไม่มีทางที่เหยื่อนักเวทย์ของเขาจะสามารถรอดจากการโจมตีของเขาได้เลย
ในตอนที่ดูเหมือนกับว่าไฟกำลังแผดเผาดิโลเซ่นทั้งเป็นอยู่นั้นเอง,แสงสีขาวก็เริ่มสว่างขึ้นจากร่างของเขา ฟึบ,ฟึบ, ฟึบ มันคือเวทย์เทเลพอร์ทของลิงค์
ในตอนที่แสงสีขาวนั้นหายไป,พวกเขาทั้งสามคนก็หายไปจากป้อมเงา อัศวินลาวาไม่ได้ไล่ตามมา เขาแค่ไปยังจุดที่พวกเขาเคยอยู่และหยิบกล่องไม้ขึ้นมา จากนั้นเขาก็เปิดมันออกและพบว่าชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ยังคงอยู่ในกล่องอย่างสงบสุข
ดิโลเซ่นไม่ใช่เป้าหมายของเขาเป้าหมายของเขาคือชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์มาตั้งแต่แรกแล้ว ในเมื่อตอนนี้มันอยู่ในการครอบครองของเขา, อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งก็จะไม่ใช่ภัยคุกคามต่อเจ้านายของเขา, อาร์คเมจเพลิงอีกต่อไป
“ลอร์ดเฟิร์ดนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ”อัศวินลาวาปิดกล่อง เขาไม่สนใจที่จะไล่ตามลิงค์อีก ตอนนี้เขากำลังวางแผนกลับไปที่เกาะรุ่งอรุณแทน
ภารกิจหลักของเขาคือการเก็บกู้ชิ้นส่วนศักดิ์สิทธ์และทำลายแผนการของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งการฆ่าดิโลเซ่นกับลอร์ดเฟิร์ดก็เป็นแค่การทำให้แผนมันง่ายขึ้น ซึ่งตอนนี้ไม่จำเป็นแล้ว, ความตายของพวกเขาก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆสำหรับเขา
อย่างไรก็ตาม,เทคนิคของลอร์ดเฟิร์ดนั้นทำให้เขาตกใจจริงๆ แม้ว่าอัศวินลาวาจะไม่กลัวเขาเลย, แต่ตอนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งกับเขาแล้ว, เพื่อไม่ให้เขามาวุ่นวายอีก