Advent of the Archmage - 677: คำสาปไร้จุดจบ
Chapter
ในจังหวะต่อมา,ก็มีการระเบิดเกิดขึ้น เปลวเพลิงไม่รู้จบได้แผดเผาไปทางลิงค์แต่ก็โดนลมเข้าเต็มๆ ลิงค์ได้ใช้เวทย์มิติหนีไปแล้ว
อันที่จริง,ลาวาที่เชี่ยวกราดนี้ทำให้มิติเกิดความไม่เสถียร แล้วมันก็ได้รับผลกระทบจากเขตแดนเพลิงด้วย แม้ว่าลิงค์จะไม่สามารถใช้เทเลพอร์ทหนีได้ง่ายๆ แต่ว่า, ไม่มีเขตแดนไหนที่ไม่มีจุดอ่อน
ลิงค์ได้ไปเห็นพลังของเทพแห่งแสงมากับตาและเคยต่อสู้กับพวกระดับตำนานขั้นสูงมานับไม่ถ้วนในชีวิตก่อนเขาไม่ได้โง่ ในการเผชิญหน้ากับการโจมตีของโมเซอร์นั้น, เขามองเขตแดนเพลิงนี้ออกในทันที
ถ้าลิงค์เป็นนักรบระดับตำนาน,เขาก็คงจะสามารถเผชิญหน้ากับการโจมตีนี้ตรงๆได้ แต่เขาเป็นนักเวทย์
เขตแดนเป็นส่วนหนึ่งของกฏ,และนักเวทย์ก็เชี่ยวชาญการค้นคว้าและการใช้กฏมากที่สุด การโจมตีจากโมเซอร์ถึงตัวลิงค์นั้นใช้เวลาประมาณสิบวินาที ซึ่งมันเป็นเวลาที่มากพอสำหรับให้ลิงค์ได้ใช้หาช่องโหว่วของเขตแดนเพลิงนี้
และด้วยการใช้ช่องโหว่ว,ลิงค์ก็สามารถหนีจากการโจมตีปลิดชีพของโมเซอร์ได้
ตูมลิงค์, ที่เพิ่งหนีรอดมาได้, ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งข้างๆโมเซอร์ ดาบของเขาได้แทงไปทางโมเซอร์แล้ว มีลูกบอลความสิ้นหวังปรากฎขึ้นที่กลางทาง แล้วปลายดาบก็ฝังเข้าไปและโผล่ออกมาอีกทีที่หัวใจของโมเซอร์
โมเซอร์สับสนเขาได้ทุ่มพลังไปทั้งหมด, แต่การโจมตีของเขาไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย ในเมื่อหมัดแรกถูกบังคับให้จั่วลม, มันก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักในการฟื้นพลังกลับมาใหม่ ดังนั้นในการเผชิญหน้ากับการโจมตีที่กระทันหันเช่นนี้, ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือยกดาบขึ้นมากัน
ด้วยพลังและทักษะเลเวล15 ของเขา,เขาสามารถกันการโจมตีของลิงค์ได้อย่างแน่นอน, แม้ว่ามันจะกระทันหันขนาดนี้ก็ตาม แต่ในตอนที่เขาชักดาบออกมานั้นเอง, การเคลื่อนไหวของเขาเร็วเกินไป กล่องไม้ที่เก็บชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ที่เอวของเขาสั่น แล้วด้ามจับของดาบก็ปาดไปโดนกล่องทำให้มันแง้มออกมา แรงกระทำที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้ส่งผลกับการเคลื่อนไหวของโมเซอร์เลย, แต่ก็น่าเศร้าที่, ออร่าของชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์เล็ดรอดออกมาได้
โมเซอร์ตัวแข็งทื่อมีความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในหัวของเขา
ชิ้นส่วนจะหล่นหรอ?
ไอ้นักเวทย์เจ้าเล่ห์นั่นจะขโมยมันรึเปล่า?
ไม่นะ,ข้าจะยอมยกสมบัตินี้ให้ไม่ได้…
คนเราจะวอกแวกไปสนใจเรื่องอื่นในตอนที่กำลังเผชิญหน้ากับความตายได้ยังไงหล่ะ?โมเซอร์รู้เรื่องนั้นดี, แต่เขาก็ถูกชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งผลลัพธ์ก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว ฉึกดาบของลิงค์แทงเข้าไปในร่างของโมเซอร์ มันทะลวงเข้าไปพร้อมกับพลังแก่งภพที่พุ่งพล่านออกมาในตัวเขา
ห้ะ?โมเซอร์มองลงมาที่หน้าออกของตัวเอง พลังของเขาหลั่งไหลออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองลิงค์แล้วเห็นว่าลอร์ดเฟิร์ดผู้นี้ยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ การโจมตีสุดตัวของเขาเมื่อก่อนหน้านี้มันดูเหมือนกับเรื่องตลกสำหรับลิงค์ไปเลย
นี่เจ้า… โมเซอร์ไม่สามารถพูดออกมาได้, ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากบาดแผลร้ายแรงของเขา, และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงมาวอกแวกในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้
ลิงค์ชักดาบออกมาแล้วสีหน้าของเขานิ่งสงบ, แต่เขาก็รู้สึกแปลกใจมันเหมือนกัน พูดตามตรง, เขาไม่คิดเลยว่าการโจมตีของตัวเองจะสำเร็จง่ายขนาดนี้ ถ้าดูจากการต่อสู้รอบก่อนๆ, โมเซอร์นั้นถือเป็นคู่ต่อสู้ที่เลวร้ายอย่างแท้จริง นี่มันควรจะเป็นการต่อสู้ที่ย่าง ฉึกดาบของลิงค์แทงเข้าไปในร่างของโมเซอร์ มันทะลวงเข้าไปพร้อมกับพลังแก่งภพที่พุ่งพล่านออกมาในตัวเขา
ห้ะ?โมเซอร์มองลงมาที่หน้าออกของตัวเอง พลังของเขาหลั่งไหลออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองลิงค์แล้วเห็นว่าลอร์ดเฟิร์ดผู้นี้ยังคงมีสีหน้าไร้อารมณ์ การโจมตีสุดตัวของเขาเมื่อก่อนหน้านี้มันดูเหมือนกับเรื่องตลกสำหรับลิงค์ไปเลย
นี่เจ้า… โมเซอร์ไม่สามารถพูดออกมาได้, ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากบาดแผลร้ายแรงของเขา, และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมตัวเองถึงมาวอกแวกในช่วงเวลาที่สำคัญแบบนี้
ลิงค์ชักดาบออกมาแล้วสีหน้าของเขานิ่งสงบ, แต่เขาก็รู้สึกแปลกใจมันเหมือนกัน พูดตามตรง, เขาไม่คิดเลยว่าการโจมตีของตัวเองจะสำเร็จง่ายขนาดนี้ ถ้าดูจากการต่อสู้รอบก่อนๆ, โมเซอร์นั้นถือเป็นคู่ต่อสู้ที่เลวร้ายอย่างแท้จริง นี่มันควรจะเป็นการต่อสู้ที่ย่างลำบากแท้ๆ
ผลลัพธ์นี้มันเกินกว่าที่คาดเอาไว้
ตุ้บกล่องที่เอวของโมเซอร์ล่วงลงไป มันพังแล้ว, และกล่องก็เปิดออก จากนั้นก็มีกระโหลกคริสตัลสีดำหล่นออกมา มันคือชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์
พอเห็นแบบนี้,ลิงค์ก็นึกถึงคำพูดของมอร์เฟียสขึ้นมาได้อย่างกระทันหัน, และเขาก็เข้าใจสถานการณ์ขึ้นมา โมเซอร์, มันไม่ใช่ของของนาย นายควบคุมมันไม่ไหวหรอก
โมเซอร์สูญเสียการควบคุมจิตใจไปแล้ว,และเขาก็ร่วงลงมาจากท้องฟ้า สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่กระโหลกสีดำ เขาดูเสียใจ, สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากได้อย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าเขากำลังจะตายแล้ว, แต่มือของเขาก็ยังกวาดไปมา, พยายามที่จะคว้ากระโหลกที่ร่วงออกไปจากตัวเขา
ในท้ายที่สุดแล้ว,เขาก็ไม่สามารถคว้ามันเอาไว้ได้, เขาสูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์ ตัวเขาระเบิดด้วยเสียงตูม, และเปลี่ยนเป็นบอลเพลิงขนาดยักษ์ที่กำลังพุ่งลงมาที่พื้น ชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์เองก็ร่วงลงมาพร้อมกับเปล่งแสงออกมา มันดึงดูดสายตาของลิงค์
เป็นเวลาพักนึงที่ลิงค์คิดว่าเขากำลังได้เห็นโลกที่เขาไฝ่ฝันให้มันเป็น
จากคำขอสุดท้ายก่อนตายของดิโลเซ่น,เขาต้องเอาชิ้นส่วนนี้ไปให้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง แต่ตอนนี้, จู่ๆเขาก็รู้สึกไม่อยากทำแบบนั้นขึ้นมา
ของที่งดงามชิ้นนี้ตกอยู่ในกำมือของฉันแล้ว,เพราะฉะนั้นมันก็ควรจะเป็นของฉันสิ ทำไมฉันต้องส่งให้คนอื่นด้วย? ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์, และทำให้เขากลัว
ความคิดที่มีเหตุผลเองก็ผุดขึ้นมาเหมือนกันไม่สิ, นี่มันคือต้นตอของความโชคร้าย มอร์เฟียสตาย, ดิโลเซ่นตาย, แถมโมเซอร์ก็ตายเพราะมันเหมือนกัน ระดับพลังของฉันใกล้เคียงกับพวกเขา ถ้าฉันเก็บมันเอาไว้กับตัว, ฉันก็อาจจะตายเหมือนกัน พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา,มือที่ลิงค์ยื่นออกมาก็เลี้ยวไปคว้ากล่อง เขาใช้กล่องรับกระโหลกและรีบปิดมันอย่างรวดเร็ว กล่องพังไปแล้ว, แต่ผลป้องกันยังพอใช้ได้อยู่ ลิงค์ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงขนาดนั้น
ของสิ่งนี้คือตัวปัญหายิ่งอยู่กับเขานานเท่าไหร่, เขาก็ยิ่งมีโอกาสเจออันตรายมากเท่านั้น เขาต้องรีบเอามันไปส่ง
ในขณะที่ลิงค์พยายามคิดวิธีจัดการกับมัน,ไฮเอลฟ์คนนึงที่หมอบอยู่ในพงหญ้าที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลก็กำลังเฝ้าดูการต่อสู้ทั้งหมด
ด้วยการเอาอุปกรณ์เวทมนตร์ออกมา,เขาก็ใส่มานาเข้าไปแล้วรายงานสถานการณ์ โมเซอร์แพ้แล้ว ลอร์ดเฟิร์ดได้รับชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์ไป
ข้อความนี้ถูกส่งไปที่เรือนกกระจอกวายุเงินที่อยู่ในอ่าวที่ห่างไกลผู้คนจากนั้นมันก็ถูกส่งไปที่เกาะรุ่งอรุณอย่างรวดเร็ว หลังจากหยุดอยู่ที่เกาะเป็นเวลาพักนึง, มันก็ถูกส่งต่อเข้าไปในความว่างเปล่าและไปถึงภพอารากู่
ในภพนั้น,มีผู้หญิงคนนึงกำลังส่องกล้องโทรทัศน์จากกระโจมศักดิ์สิทธิ์ เธอสวมชุดสีแดงทองงดงาม ใบหน้าของเธอถูกคลุมเอาไว้อยู่ทำให้มองเห็นหน้าตาไม่ชัดเจน, แต่ว่าหุ่นของเธอนั้นน่าดึงดูดมาก
หลังจากได้รับข่าว,เธอก็ตกตะลึง จากนั้นเธอก็หันไปมองพื้นที่อันกว้างใหญ่ที่อยู่นอกกระโจม, เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ข้าใช้เวลาเป็นร้อยปีกว่าจะมาถึงจุดนี้, แต่เขากลับมาถึงจุดๆนี้ได้ในเวลาไม่กี่ปีเนี่ยนะ ผู้ชายคนนี้นี่มัน….
เธอก็คือมิลด้าที่ยังอยู่ในอารากู่เพื่อหยุดยั้งซาโรวินี่เมื่อนานมาแล้วแต่ก็น่าเสียดายที่เวลาได้ล่วงเลยไป, และเหตุการณ์ต่างๆก็เปลี่ยนไป
ด้วยการถอนหายใจเบาๆ,เธอก็ยกมือขึ้นแล้วหมุนแหวนที่นิ้วของเธอ หลังจากนั้นไม่นาน, เงาที่อยู่ข้างหลังเธอก็เคลื่อนไหว แล้วคนๆนึงก็ปรากฎตัวขึ้นมา คนๆนี้ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีม่วงเข้มใบหน้าของเขาถูกปิดเอาไว้, แต่ดูเหมือนว่าเขาค่อนข้างจะมีอายุ หลังจากที่ปรากฎตัว, เขาก็พูดขึ้นมา ท่านนักบวช, มีรับสั่งอะไรครับ?
ราเซอร์,โมเซอร์ตายแล้ว มิลด้าพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
ราเซอร์เป็นหัวหน้าของอัศวินลาวาเขาเป็นที่รู้จักในชื่อเพลิงนรก เขาไม่ค่อยโจมตีใคร, แต่ทุกคนที่โจมตีเขาต่างก็ตายกันหมด
เป็นไปไม่ได้! ชายวัยกลางคนตกใจ
มันเป็นไปแล้วจริงๆข้าต้องการให้เจ้าไปที่ฟิรุแมนด้วยตัวเอง จงไปฆ่าลอร์ดเฟิร์ดแล้วชิงชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์มาซะ
ครับท่านนักบวช ราเซอร์พยักหน้า ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็ถาม แล้วท่านซาโรวินี่รู้รึเปล่าครับ?
รู้สิ,แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องของเธอหรอก เธอไม่กล้ามาขัดขวางแน่ รับทราบครับ เปลวเพลิงสีดำรอบตัวโมเซอร์ลุกโชน, และเขาก็หายไป เขาเป็นอัศวินลาวาเลเวล 16 และแข็งแกร่งเป็นอันดับสามในลัทธิเพลิง เขากลัวแค่ซาโรวินี่เท่านั้น ตราบใดที่เธอไม่เข้ามาแทรกแซง, เขาก็มั่นใจเต็มร้อยว่าจะทำภารกิจนี้สำเร็จ