Advent of the Archmage - 680: อาจารย์อาร์คเมจ 2
Chapter
ตั้งแต่ที่เขาเข้ามาในโลกนี้,ลิงค์ได้เชี่ยวชาญเวทย์ที่แข็งแกร่งแทบทุกแขนงแล้ว
เขามีความคิดว่าไม่มีเวทย์บทไหนในโลกนี้ที่เขาไม่สามารถเชี่ยวชาญได้แม้ว่าจะพยายามอย่างเต็มที่แล้วก็ตามและความมั่นใจนี้ก็เติบโตยิ่งขึ้นหลังจากที่ได้เชี่ยวชาญเวทย์มิติอันซับซ้อนทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม,เขาไม่มั่นใจในความคิดนี้อีกต่อไปแล้ว
เหตุผลก็เพราะเวทย์เลเวล17, ‘โลกหิมะและน้ำแข็ง’ ที่อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งกำลังสอนเขาอยู่นี้ดูแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเชี่ยวชาญ แต่เดิมแล้วมันเป็นเวทย์เลเวล 19, แต่อาร์คเมจได้ทำให้มันง่ายขึ้นอย่างเหลือเชื่อเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกระบวนการเรียนรู้ของลิงค์
แต่ถึงอย่างนั้น,เวทย์เวอร์ชันลดพลังลงนี้ก็ยังขัดขวางความพยายามของลิงค์ในการทำความเข้าใจมัน
หลังจากใช้เวลาไปครึ่งวันกับการพยายามเชี่ยวชาญเวทย์นี้ที่ริมฝั่งแม่น้ำใกล้ๆกับขอบป่าเกอร์เวนท์,ลิงค์ก็ถอนหายใจออกมา, และกุมขมับด้วยความท้อใจ ท่านอาร์คเมจ, ผมเกรงว่าผมคงไม่มีความสามารถในการทำความเข้าใจพลังนี้ของท่าน
เอเลียร์ดที่ตามลิงค์มาด้วยได้ฟังการสอนของอาร์คเมจ,และมีสีหน้าเหม่อลอยไปแล้ว นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีความสนใจที่จะเรียนรู้จากชายคนนี้ แต่เอเลียร์ดแค่ไม่สามารถตามแนวความคิดของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งได้เท่านั้นเอง ทุกครั้งที่เขาพยายามฝืนตัวเองให้ฟังทุกคำพูดของอาร์คเมจ, เขาก็มักจะจบลงที่การปวดหัวจนมึนตึ้บ
ในตอนที่ลิงค์พูดออกมา,ความเงียบก็กลับมาที่ป่าอีกครั้ง เสียงเดียวที่พวกเขาได้ยิน ณ ตอนนี้ก็คือเสียงน้ำที่กำลังไหลไปตามแม่น้ำ
ในที่สุด,อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ บางทีข้าคงจะคาดหวังจากเจ้ามากเกินไป
ศัตรูที่พวกเขาต้องต่อกรด้วยในครั้งนี้แข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อพวกเขาทุกคนเป็นผู้เชี่ยวชาญเลเวล 16 ในการที่จะเอาชนะพวกเขาได้นั้น, พลังเลเวล 16 คงจะไม่เพียงพอ มีแค่พลังเลเวล 17 และเหนือกว่าเท่านั้นถึงจะรับรองชัยชนะของพวกเขาได้
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้ลิงค์มีเลเวลแค่ 14 แม้ว่าความรู้เกี่ยวกับศาสตร์เวทมนตร์ของเขาจะโดดเด่นกว่าผู้เชี่ยวชาญเลเวล 14 ทั่วๆไป, แต่มันก็ยังไม่พอที่จะทำให้เขาข้ามขั้นไปถึง 3 ขั้นจากระดับพลัง ณ ปัจจุบันนี้
ในตอนที่อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งพูดจบ,พวกเขาทั้งสามก็จมลงสู่ความเงียบอีกครั้ง
พวกเขาทุกคนรู้ว่าถ้าไม่มีพวกเขาคนไหนสามารถรับพลังเลเวล17 ได้ในตอนนี้, พวกเขาก็น่าจะถูกศัตรูฆ่าทิ้งอย่างแน่นอน อาร์คเมจอาจจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกหน่อย แต่เขาก็คงจะต้องสูญเสียชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์ไป และมันก็คงจะขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่ความตายจะไล่ทันเขา
สำหรับตอนนี้,อนาคตข้างหน้าของพวกเขาดูหนาวเหน็บและสิ้นหวังมาก
ผมขอไปเดินเล่นแถวนี้ซักหน่อยนะ ลิงค์พูดขึ้นมากระทันหัน, และทำลายความเงียบในป่า
อาร์คเมจพยักหน้า เชิญเลย ลองไปทำหัวให้โล่งดู พวกเรายังพอมีเวลาเหลืออยู่สองสามวัน, ข้าหวังในตัวเจ้าจริงๆนะว่าเจ้าจะยังไม่ยอมแพ้ไปซะก่อน
ชายแก่คนนี้ดูเหมือนจะยังมองโลกในแง่ดีอยู่
ลิงค์พยักหน้าตอบอาร์คเมจโดยไม่พูดอะไรอีกจากนั้นด้วยการตบไหล่ที่ดูห่อเหี่ยวของเอเลียร์ด, เขาก็ลุกขึ้นแล้วเริ่มเดินเลียบไปตามแม่น้ำ
น้ำใสสะอาดไหลไปตามแม่น้ำอย่างรวดเร็วด้วยเสียงซู่วมีหินรูปวงรีที่ถูกกระแสน้ำฟอกอยู่เต็มก้นแม่น้ำ นกกระจอกขนสีเขียวมากมายกำลังบินจากยอดต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังยอดไม้อีกต้นหนึ่ง, และส่งเสียงเจื้อยแจ้วระรื่นหู มันคือช่วงฤดูใบไม้ผลิ, และดอกไม้ทุกชาติพันธุ์ก็เบ่งบานอย่างเต็มที่เพื่อเฉลิมฉลองให้กับฤดูกาลนี้
ฉากที่อยู่เบื้องหน้าลิงค์นั้นงดงามอย่างบอกไม่ถูก
อย่างไรก็ตาม,ณ เวลานี้ลิงค์ไม่มีอารมณ์มาชื่นชมความงดงามของธรรมชาติ การสอนเวทมนตร์ของอาร์คเมจยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขาในขณะที่เขาเดินเลียบไปตามแม่น้ำอย่างเหม่อลอยเหมือนกับซอมบี้
เขายังไม่ยอมแพ้เนื่องจากเขามีเวลาเหลืออยู่ไม่กี่วันในการที่จะเชี่ยวชาญเวทมนตร์ที่ยากสุดขั้วนี้, สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้ก็คือการสู้กับมันจนกว่าเขาจะเข้าใจมันอย่างถ่องแท้
ในขณะที่กำลังเดิน,และจมปรักกับความคิดของตัวเองอยู่นั้นเอง, หูของลิงค์ก็กระตุกแล้วเขาก็ได้ยินเสียงน้ำตกข้างหน้าเขา ที่มุมๆนึง, เขาเห็นน้ำตกสูงสิบหกฟุตกำลังไหลลงมาตามทางลาด ภายใต้แสงอาทิตย์, มีสายรุ้งเล็กๆปรากฎขึ้นในหมอกขาวซึ่งเกิดจากละอองน้ำที่ตีนน้ำตก
ลิงค์เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าฉากอันงดงามนี้,และรู้สึกทึ่งกับมันอย่างเต็มที่
ทันใดนั้นเอง,ความคิดนึงก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ล็อคมิติเวลาเดลาส…แปลงหิมะเป็นน้ำแข็ง…กลับเวทย์ลาฟาร์เซน…โครงสร้างเขตแดนเยือกแข็ง…เดี๋ยวนะ, ฉันเข้าใจแล้ว!
แรงบันดาลใจผ่าลงมาที่เขาเหมือนกับสายฟ้าปมปัญหาเวทมนตร์ที่ผูกกันแน่นที่เขากำลังต่อสู้ด้วยตลอดเวลาในที่สุดมันก็คลายออกมาเล็กน้อย ตอนนี้เขาเริ่มมองเห็นหนทางในการแก้ปัญหาเหล่านี้อยู่ลางๆแล้ว
ด้วยการนั่งลงบนโขดหินใกล้ๆกับน้ำตก,ลิงค์ก็เอาสมุดเวทมนตร์ออกมาด้วยความรู้สึกตื่นเต้นและเริ่มเขียนการคำนวณของเขา
ไม่นานนักลิงค์ก็หลงลืมการไหลของเวลาในขณะที่เขาขีดเขียนการคำนวนของเขาในทุกๆครั้งที่เขาเจออุปสรรคหนึ่งหรือสองอย่าง, เขาก็จะได้ยินเสียงไร้ตัวตนมากระซิบแนะนำในหัวของเขา เสียงนี้ทำหน้าที่เหมือนกับกุญแจในการปลดล็อคการแก้ปัญหาในแต่ละขั้น ซึ่งลิงค์สามารถคืบหน้าไปได้ไกลขึ้นด้วยการแนะนำของมัน
แสงรอบตัวเขาค่อยๆมืดลงจนกระทั่งกลายเป็นตอนกลางคืนจากนั้น, รอบตัวเขาก็สว่างขึ้น, และดวงอาทิตย์ก็โผล่ขึ้นมาบนท้องฟ้าอีกครั้ง จากนั้นมันก็ตกลงไปอีก, แล้วนำความมืดมิดของค่ำคืนกลับมาสู่ป่า ในขณะที่นกในป่ากำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วอย่างไม่ลดละเพื่อเพื่อต้อนรับให้กับช่วงเช้าตรู่ของวันใหม่, ในที่สุดลิงค์ก็วางดินสอลงพร้อมกับถอนหายใจออกมายาวๆ
เขาพยายามคำนวณออกมาตามแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังผนึกเวทย์เลเวล17 , โลกน้ำแข็งและหิมะ แม้ว่าเขาจะยังไม่เข้าใจเวทย์นี้อย่างเต็มที่, แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าความพยายามของเขาไม่เกิดผล อันที่จริง, เขาคิดค้นเวทมนตร์ที่มีพลังอันยอดเยี่ยมขึ้นมาได้ใหม่ด้วย
จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นข้างหลังเขา นี่มันเวทย์เลเวล 16 ขั้นสูงที่มีพลังอันน่าเหลือเชื่อ แต่ว่า, มันไม่ใช่เวทย์ที่เจ้าจะร่ายได้ด้วยตัวคนเดียวหรอกนะ
ลิงค์หันกลับมาและเห็นอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งกำลังยืนอยู่ข้างหลังเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง
อาร์คเมจกำลังรู้สึกประหลาดใจที่นักเวทย์เลเวล14 สามารถทำความเข้าใจเวทย์ขั้นสูงของเลเวล 16 ได้ แม้ว่าเขาจะชี้จุดให้ลิงค์ไปประมาณครึ่งทาง, แต่อุปสรรคที่ลิงค์เผชิญนั้นก็ไม่ได้ยากเกินกว่าที่จะเอาชนะไม่ได้ ถ้าให้เวลาอีกสักนิด, อาร์คเมจมั่นใจว่าลิงค์จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ในที่สุด เขาแทบจะไม่เคยเจอคนที่หลงใหลในศาสตร์เวทมนตร์มากขนาดนี้เลย, แม้กระทั่งในภพของเขาก็ตาม
มันช่างน่าเสียดายจริงๆที่ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นในภพมากมายคงจะไม่มีใครสามารถขัดขวางหนทางของลิงค์ได้ถ้าเขามีเวลาซักสิบปีในการขัดเกลาทักษะเวทมนตร์ของเขา
และมันก็โชคร้ายจริงๆ,สำหรับนักเวทย์เลเวล 14 อย่างลิงค์, เวทย์เลเวล 16 นี้มันเกินกว่าที่เขาจะไขว่คว้ามาได้
อย่างไรก็ตาม,ดูเหมือนว่าลิงค์จะไม่ผิดหวังเลย เขามองอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งแล้วพูด คุณบอกว่าคุณไม่สามารถเอาชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์กลับไปที่อารากู่ด้วยสภาพตัวคุณในตอนนี้ได้…เพราะฉะนั้นคุณก็เลยต้องการความช่วยเหลือจากผม, ใช่ไหมครับ?
อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งพยักหน้าศัตรูหมายเลขหนึ่งของเขาคืออาร์คเมจเพลิง เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งได้ชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์ไป, อาร์คเมจเพลิงจึงวางกับดักเอาไว้ตามทางเต็มไปหมด อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งต้องฝ่าบาเรียระหว่างภพมาด้วยร่างเลเวล 10 เพื่อไม่ให้เขาตกเป็นที่สนใจ อย่างไรก็ตาม, มันไม่มีทางเลยที่เขาจะเอาชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์กลับไปด้วยในสภาพนี้
ถ้าเป็นแบบนั้น,ผมคิดว่าแค่สอนเวทย์เลเวล 17 ให้คงไม่พอที่จะชดเชยความเสี่ยงที่ผมต้องรับจากการช่วยคุณหรอกนะครับ ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ และสีหน้าของเขาก็ดูมีลับลมคมใน อย่างไรก็ตาม, สิ่งที่ลิงค์พูดมานั้นถูกต้องแล้ว นี่มันเรื่องที่เกี่ยวกับความเป็นความตาย อาร์คเมจต้องเสนอสิ่งที่มีค่าเท่าเที่ยมเพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือของลิงค์
อาร์คเมจยังคงเงียบอยู่ไม่กี่วินาทีต่อมา, เขาก็ถาม เจ้าคิดจริงๆหรอว่าข้าจะช่วยเพิ่มระดับพลังของเจ้าได้?
คุณน่าจะช่วยให้ผมไปถึงเลเวล16 ได้อยู่นะ… นี่ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับอาร์คเมจเลเวล 19 อย่างคุณ, ถูกไหมครับ? ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ขอเรื่องแบบนี้โดยไม่ผ่านการคิดวิเคราะห์มาก่อน,จากสิ่งที่เขารู้มาเกี่ยวกับลัทธิเพลิง ตอนนี้มีผู้เชี่ยวชาญเลเวล 16 อยู่ในลัทธิเพลิงทั้งหมดสามคน แม้กระทั่งมิลด้ากับซาโรวินี่ก็ยังมีเลเวล 16 เท่าที่เขารู้, ยังไม่มีมาสเตอร์คนไหนในลัทธิเพลิงที่ไปถึงเลเวล 17 เลย ซึ่งนี่ไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ
อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งพยักหน้าพร้อมกับถอนหายใจจากนั้นเขาก็ส่ายหัว อาร์คเมจเพลิงอาจจะทำเรื่องแบบนั้นไม่ได้, แต่ข้าทำไม่ได้หรอก
ทำไมหล่ะครับ?
เพราะข้าไม่มีชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวสำหรับใช้เก็บพลังความเชื่อจากสาวกของข้าถ้าจะให้ข้าช่วยเพิ่มระดับพลังของเจ้า, ข้าก็ต้องมีพลังนี้
พลังแห่งความเชื่อหรอครับ? ลิงค์พูดทวนด้วยความตกตะลึง ทันใดนั้นเองเขาก็นึกถึงเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับผู้ติดตามแห่งความมืดมอร์เฟียสตอนที่อยู่ในเกมส์ หลังจากฆ่ามอร์เฟียสได้สำเร็จ,ป้อมเงาจะพังลงมาและจะมีคริสตัลลึกลับสีดำให้ผู้เล่นได้เก็บอยู่จำนวนนึง คริสตัลพวกนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อคริสตัลเงา
คริสตัลเงาพวกนี้เป็นไอเท็มภารกิจพวกมันไม่มีประโยชน์กับผู้เล่นเลยและเกมส์ก็ไม่ได้บรรยายคุณสมบัติของมันเอาไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม, นักเวทย์ระดับตำนานเอเลียร์ดที่ตอนนั้นไปถึงเลเวล 17 แล้วจะเริ่มเสนอของมีค่าให้กับผู้เล่นคนใดก็ตามที่สามารถเก็บรวบรวมคริสตัลพวกนี้มาให้เขาได้ มันไม่มีจำกัดว่าคุณจะให้คริสตัลนี้กับเอเลียร์ดได้มากถึงเท่าไหร่ ยิ่งผู้เล่นให้คริสตัลกับเขาเยอะ, รางวัลที่ได้จากเขาก็จะดีขึ้นตามมา
ซึ่งมันก็น่าแปลก,หลังจากมีเควสนี้ให้ผู้เล่น, พลังของเอเลียร์ดก็เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง ในทุกครั้งที่เกมส์ปล่อยเนื้อเรื่องใหม่ออกมา, พลังของเอเลียร์ดก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในตอนที่โนโซม่าเข้ามามีบท, เอเลียร์ดก็เตรียมจะเข้าสู่ดินแดนเทพแล้ว พอตอนนี้มาคิดดูดีๆ,ลิงค์ก็สงสัยว่าคริสตัลเงานี้ต้องเก็บพลังแห่งความเชื่อที่มอร์เฟียสรวบรวมเอาไว้แน่ๆ แล้วนักเวทย์ระดับตำนานเอเลียร์ดก็คงจะคิดวิธีแปลงคริสตัลพวกนี้ให้เป็นพลังขึ้นมาได้
จากนั้นลิงค์ก็ถาม ถ้าผมหาแหล่งพลังความเชื่อที่ว่านี้ได้, คุณคิดว่าคุณจะช่วยผมได้ไหม?
อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งยักคิ้ว ได้สิ, ข้าน่าจะสามารถมอบพลังที่เจ้าตามหาด้วยความช่วยเหลือของชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์ได้
ลิงค์รู้สึกดีใจในตอนที่ได้ยินแบบนี้ มากับผมหน่อยสิ มีสถานที่แห่งนึงที่อยากจะพาคุณไปดู