Advent of the Archmage - 690: ความทรงจำที่ยืนหยัดต่อบททดสอบของเวลา
Chapter
ตูม!ลิงค์กระแทกพื้นอย่างรุนแรง
หลังจากที่ถูกเทวทูตหกปีกโจมตี,การเข้ามาในภพด้วยวิธีเช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ, แต่การโจมตีของเทวทูตก็ยังคงทำให้เขาสูญเสียการทรงตัว
ลิงค์ทิ้งหลุมรูปร่างมนุษย์เอาไว้บนพื้นหินสีม่วง
เขาถอนหายใจออกมาแล้วปีนขึ้นจากหลุม, หลังจากนั้นเขาก็ปัดฝุ่นที่ตัวออกแล้วเริ่มสำรวจดูรอบๆ
เนื่องจากการปรากฎตัวอย่างกระทันหันของเทวทูตหกปีก,ลิงค์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากพุ่งเข้ามาในภพตรงๆเลย เขาคิดว่าเขาน่าจะอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวๆพรมแดนระหว่างอาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยาง ในส่วนของตำแหน่งที่แน่นอนนั้น, เขาจำเป็นต้องสังเกตดูรอบๆให้มากกว่านี้ก่อน
พื้นดินรอบตัวเขานั้นรกร้างและทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาด้วยการเขม่นตา, ลิงค์ก็มองเห็นเนินเขาเล็กๆอยู่ที่เส้นขอบฟ้า
มีแง่งหินสีม่วงยื่นออกมาจากทุ่งหญ้ากว้างสีเหลืองที่อยู่รอบตัวลิงค์เป็นหย่อมๆทัศนียภาพนี้ทำให้เขานึกถึงผ้าสีเหลืองที่ถูกปักด้วยอัญมณีสีม่วงในทันที
หินสีม่วงบริเวณพรมแดนระหว่างอาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยางหรอ…ที่นี่ต้องเป็นทุ่งหญ้าสเลนด้าแน่ๆ, ลิงค์คิด ในที่สุดเขาก็สามารถยืนยันตำแหน่งของตัวเองได้แล้วโดยใช้ข้อมูลที่ราเซอร์มอบให้เขา
ในภพอารากู่นั้นมีแค่ทวีปเดียวทางฝั่งซ้ายของทวีปที่มีรูปร่างเหมือนเพลาหมุนนี้ก็คืออาณาจักรหยาง, ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ไปถึงสองส่วนสามของทวีป, และในอีกด้านหนึ่งทางฝั่งขวาก็คืออาณาจักรอารากู่ ตอนนี้ไม่เพียงแค่เขตแดนของอารากู่จะลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเท่านั้น, แต่มันยังดูเหมือนสูญเสียอิทธิพลไปเยอะเลยด้วย
เมื่อหนึ่งปีก่อน,ทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันที่ทุ่งหญ้าสเลนด้า, มันเป็นสงครามใหญ่ที่ทางฝั่งอาณาจักรหยางตั้งชื่อให้ว่า ‘สงครามศักดิ์สิทธิ์อันแสนโหดเหี้ยม’
มีผู้คนประมาณ300,000 คนได้ต่อสู้กันในสงครามนี้เป็นเวลาถึงสี่วันสี่คืน มีดวงวิญญาณกว่า 200,000 ดวงหลับพักผ่อนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ในระหว่างที่ทำสงครามกันนั้นมีเลือดไหลนองออกมามากจนเกิดเป็นสายน้ำเลือดอยู่ที่กลางทุ่งหญ้า จากนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีต่อมา, ดอกไม้สีแดงเลือดก็เบ่งบานไปทั่วทุ่งหญ้าแห่งนี้
พอจัดเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จเรียบร้อย,ลิงค์ก็เริ่มเดินออกมาจากหลุม เขายังคงสังเกตสภาพทางภูมิศาสตร์รอบๆตัวเขาต่อ
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง,ลิงค์ก็พยายามนึกย้อนไปถึงรายละเอียดของเหตุการณ์สงครามศักดิ์สิทธิ์อันแสนโหดเหี้ยม หลังจากสงครามศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนั้น,ทั้งฝ่ายอารากู่และฝ่ายหยางก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากศรัทธาที่แน่วแน่ของพวกเขา, ทหารของอาณาจักรหยางดูเหมือนว่าจะมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่ากองทัพของอารากู่เพราะพวกเขาต่อสู้จนลมหายใจสุดท้ายจริงๆ ด้วยความที่ไม่สามารถรับมือกับกองทัพของหยางได้, ทหารของอาณาจักรอารากู่ก็เลยถูกบังคับให้ถอย
ด้วยความที่สูญเสียกองกำลังทหารไปเป็นจำนวนมาก,อาณาจักรอารากู่ก็เลยไม่สามารถทำสงครามนี้กับอาณาจักรหยางได้อีกต่อไป ในอีกด้านนึง, การจะไล่ล่ากองทัพที่หลงเหลืออยู่ของอารากู่นั้นต้องใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาล, อาณาจักรหยางจึงตัดสินใจที่จะเลิกไล่ตามและปรับกำลังใหม่เพื่อที่จะเตรียมลุยสงครามสุดท้ายกับศัตรูของพวกเขา ณ ตอนนี้, อาณาจักรหยางลุยอีกแค่รอบเดียว, อาณาจักรอารากู่ก็จะจบสิ้นแล้ว!
พูดอีกนัยนึงก็คือ,ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน, อาณาจักรอารากู่ก็เตรียมนับวันล่มสลายได้เลย มันคงจะอีกไม่นานก่อนที่อาณาจักรหยางจะตัดสินใจโจมตีอีกครั้ง
ตอนนี้ลิงค์กำลังเดินทางอยู่บนสนามรบที่เคยเกิดสงครามศักดิ์สิทธิ์อันแสนโหดเหี้ยม
มีเนินดินนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากพื้นดินมีต้นไม้ใบหญ้างอกขึ้นมาจากเนินดินเหล่านี้อย่างเขียวฉะอุ่มจนผิดปกติ แล้วก็มีเศษกระดูกกระจายอยู่แถวๆนั้นด้วย ลิงค์คิดว่าเนินดินเหล่านี้ต้องเป็นสถานที่หลับใหลของพวกที่ต้องจบชีวิตในสงครามศักดิ์สิทธิ์นี้แน่ๆ, และเศษกระดูกพวกนี้ก็คงจะถูกสัตว์ป่าในพื้นที่รกร้านแห่งนี้ขุดขึ้นมา
เนินดินพวกนี้มีความสูงห้าถึงหกฟุตและกว้างประมาณ20 ฟุต ดูเหมือนจะมีหลุมศพเหล่านี้อยู่ประมาณห้าสิบหลุมกระจายอยู่ทั่วที่รกร้างแห่งนี้
มีชิ้นส่วนชุดเกาะกับอาวุธกระจายอยู่ตามพื้นด้วยพวกมันทั้งหมดเต็มไปด้วยคราบเลือดที่แห้งแล้ว โฮ่งๆ กรร… มีหมาป่าคู่นึงกระโดดออกมาจากกอหญ้าสูงอย่างกระทันหัน, สายตาของพวกมันจ้องมาที่ลิงค์อย่างหิวโหย หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติศพที่ถูกทิ้งเอาไว้ทั่วที่รกร้างหลังจากที่สงครามจบ, แนวการกินอาหารของพวกมันก็พัฒนาขึ้น, ตอนนี้พวกมันชื่นชอบเนื้อมนุษย์สดๆไม่ว่าเป็นหรือตายก็ตาม
อย่างไรก็ตาม,ลิงค์ไม่ได้สนใจพวกมัน, เขามุ่งหน้าไปทางตะวันออกเพื่อไปอาณาจักรอารากู่
สงครามศักดิ์สิทธิ์นี้เกิดขึ้นทางฝั่งตะวันออกของทุ่งหญ้าสเลนด้ามีแม่น้ำมังกรคลั่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออก 200 ไมล์ด้วย กองทัพของอารากู่ต้องใช้แม่น้ำนี้เป็นข้อได้เปรียบในการสลัดไม่ให้พวกหยางไล่ตามมาได้อย่างแน่นอน ถ้าฉันตามร่องรอยที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ในระหว่างสงคราม, ฉันก็น่าจะไปถึงป้อมมังกรคลั่งที่อาณาจักรอารากู่ตั้งเอาไว้ริมแม่น้ำมังกรคลั่งนะ
ลิงค์เร่งฝีเท้าไปทางตะวันออก ต้องขอบคุณที่ร่องรอยจากมหาสงครามนั้นยังคงถูกทิ้งเอาไว้อย่างชัดเจนลิงค์สามารถวิ่งไปตามที่รกร้างแห่งนี้ได้โดยไม่ต้องพยายามตามหาร่องรอยมากนัก ด้วยความช่วยเหลือของเวทย์ก้าวพริบตา, เขาก็สามารถย่นระยะประมาณเกือบ 200 ไมล์ได้ในเวลาไม่ถึงนาที
พอคิดขึ้นมาได้ว่ายิ่งไปถึงอาณาจักรอารากู่เร็วเท่าไหร่,เขาก็จะยิ่งปลอดภัยขึ้นเท่านั้น ลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปใช้เวทย์เทเลพอร์ทเพื่อย่นระยะเวลาเดินทางของเขา
มีรูนนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นรอบตัวเขาด้วยเสียงครืนจากนั้นด้วยแสงสว่างวาบ, ร่างของเขาก็ไปโผล่ขึ้นที่ระยะห่างออกไป 20 ไมล์ ในตอนที่รูนลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นรอบตัวเขาอีกครั้ง, และมีแสงสว่างวาบขึ้นมาอีก, เขาก็เทเลพอร์ทข้ามไปอีก 20 ไมล์ แต่ทันใดนั้นเอง, บางอย่างก็เกิดขึ้น!
ในขณะที่ลิงค์กำลังจะเทเลพอร์ทเป็นครั้งที่สาม,ความรู้สึกถึงอันตรายก็คุกคามทุกโสตประสาทของเขา
มีความคิดนึงแล่นเข้ามาในหัวของเขาในทันทีมีความผันผวนของมิติเกิดขึ้นที่ระยะห่างออกไปข้างหลังฉัน 1,000 ไมล์ มีคนกำลังมา…แถมไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย, มีกันทั้งหมดสามคน นั่นต้องเป็นเทวทูตเพลิงหกปีแน่ๆ!
ร่างกายของลิงค์ทำการตอบสนองในทันที
ดาบลำนำจันทร์เต็มดวงของเขาถูกดึงออกจากฝักและในตอนนั้นเอง, วงรูนสีทองเก้าวงก็ปรากฎขึ้นบนใบดาบในลักษณะขนานกัน จากนั้น, ส่วนบนของมันก็หายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เทคนิคนี้คือลูกบอลความสิ้นหวังเวอร์ชันพัฒนาแล้วลิงค์ได้ผนวกมันเข้ากับแก่นของเทคนิคอื่นไม่ว่าจะเป็นเทคนิคดาบกาลเวลาและเทคนิคเขตแดน, ซึ่งมันก็ทำให้ตอนนี้ผู้ใช้เทคนิคสามารถปิดกั้นได้ทั้งเวลาและมิติในเวลาเดียวกัน
พูดอีกนัยนึงก็คือ,ลิงค์สามารถฆ่าใครก็ตามที่มีเลเวลต่ำกว่า 16 ได้ด้วยลูกบอลความสิ้นหวังที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้
ในตอนที่ปลายดาบของเขาเล็ดรอดเข้าไปในผืนมิติ,ลิงค์ก็รู้สึกได้ในทันทีว่าดาบของเขากำลังเจาะทะลุอะไรบางอย่าง, ซึ่งมันก็แตกออกเหมือนกับฟองน้ำ
หลังจากนั้นในทันที,มิติบิดเบือนเบื้องหน้าเขาก็กลับเป็นปกติ
“น่าจะจัดการไปแล้วคนนึงนะ”
แม้ว่าเขาจะฆ่าไปได้แล้วคนนึง,แต่ผู้ไล่ล่าอีกสองคนก็ยังสามารถโผล่เข้ามาในภพอารากู่ได้ ร่างกายที่ผอมเพรียวของพวกเขาถูกห่อหุ้มด้วยวงเพลิง—ปีกสามคู่ที่งอกออกมาจากหลังของพวกเขานั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ใบหน้าของพวกเขาถูกบดบังด้วยประกายแสง ลิงค์ไม่มีความสงสัยเลย, พวกเขาต้องเป็นเทวทูตเพลิงหกปีกที่ไล่ตามเข้ามาตั้งแต่ทะเลแห่งความว่างเปล่าแน่ๆ
“ไอ้พวกนี้จะปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้เลยรึไงนะ?”ลิงค์บ่น เขาไม่ได้กลัวเทวทูตเพลิงเลเวล 15 พวกนี้ เขาแค่กังวลว่าพวกที่ไล่ตามมานั้นจะไปดึงดูดความสนใจของอาร์คเมจเพลิงกับลัทธิเพลิงของเขา
“มนุษย์เอ๋ย,จงคุกเข่าขอขมาองค์เทพอัคคีซะ!” เทวทูตทั้งสองคนพูดพร้อมกันจากบนฟ้า
ลิงค์ไม่ได้ตอบกลับเขาตัดสินใจว่าการจบชีวิตพวกเขาที่นี่เวลานี้จะดีกับเขามากที่สุด
หลังจากนั้นดาบของเขาก็แทงออกไปที่หนึ่งในเทวทูตเพลิง
ในทันทีที่เขาเห็นสิ่งที่ลิงค์กำลังทำอยู่,หนึ่งในเทวทูตเพลิงก็ตระหนักขึ้นมาได้ในทันทีว่ามันเป็นเทคนิคเดียวกับที่คร่าชีวิตพวกพ้องของเขา แสงที่บดบังใบหน้าของเขาเริ่มรุนแรงขึ้น และโดยไร้ซึ่งความลังเล, เทวทูตก็ตั้งท่าป้องกันรอรับการโจมตีของลิงค์
พอเห็นโอกาส,เทวทูตเพลิงอีกคนก็พุ่งเข้าใส่ลิงค์อย่างรวดเร็วด้วยการกระพือปีกเพียงครั้งเดียว เทวทูตทั้งสองเคลื่อนไหวพร้อมกันอย่างสัมพันธ์กัน
ลิงค์คงจะจัดการกับพวกเขาไม่ได้ง่ายๆถ้าเขาไม่ได้เก็บไปก่อนแล้วหนึ่งคน
ดาบลำนำจันทร์เต็มดวงยังคงคดเคี้ยวผ่านมิติตรงไปทางเทวทูตที่ตั้งท่าป้องกันอยู่ในการเผชิญหน้ากับเทวทูตเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามานั้น, ลิงค์ได้ยื่นมือซ้ายออกไป, และอัญเชิญวงรูนที่ตัดกันในฝ่ามือของเขา, แล้วคำรามใส่เทวทูตเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามา
ตอนนี้เวทมนตร์ของลิงค์ไปถึงระดับที่สามารถร่ายเวทย์ที่แข็งแกร่งได้ในทันทีแล้ว
ในชั่วพริบตา,เทวทูตเพลิงหกปีกเลเวล 15 ที่กำลังเข้ามาหาลิงค์ก็เหลือเวลาอีกหนึ่งส่วนสิบวินาทีก่อนที่จะถึงเป้าหมายแล้ว
อย่างไรก็ตาม,ในช่วงเวลาสั้นๆนี้, ลิงค์ก็สามารถร่ายเวทย์อันแข็งแกร่งเลเวล 15 เพื่อขัดการโจมตีของเทวทูตเพลิงได้
หลังจากนั้นในทันที,ดาบของลิงค์ก็แทงโดนเป้าหมายในที่สุด มันไม่มีทางที่เทวทูตเพลิงเลเวล 15 จะสามารถป้องกันการโจมตีเลเวล 16 นี้ได้
ในวินาทีต่อมา,มังกรเวทมนตร์ของลิงค์ก็ผสานเข้ากับเวทมนตร์ของเขา, แล้วส่งคลื่นพลังออกไปผ่านมิติ
ในทันทีที่ระลอกคลื่นเบาบางลง,ก่อนที่เทวทูตเพลิงจะทันตั้งสติ, ดาบของลิงค์ก็ทะลวงร่างของเขาเรียบร้อยแล้ว
ด้วยความที่ระบบการไหลเวียนมานาของเขาถูกการโจมตีของลิงค์ตัดทิ้ง,เทวทูตเพลิงจึงสูญเสียการควบคุมมานาไปในทันที จากนั้นเขาก็ระเบิดเป็นกลุ่มควันด้วยเสียงดังสนั่น
ลิงค์ไม่ได้คิดจะกลับไปตรวจสอบผลงานของตัวเองมีรูนปรากฎขึ้นบนร่างของเขาอีกครั้ง, แล้วเขาก็หายไป
สามนาทีต่อมา,ก็มีแสงสว่างวาบขึ้นติดต่อก่อนที่ใจกลางที่รกร้างแห่งนี้, แล้วจากนั้นร่างคนประมาณสิบคนก็ปรากฎตัวขึ้นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสตรีศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิงและเจ้าหญิงของไฮเอลฟ์, มิลด้า
เธอสวมชุดสีแดงทองหลังจากเดินไปทั่วที่รกร้าง, ในที่สุดเธอก็มาถึงหินก้อนนึงที่กำลังเปล่งแสงสีแดงสลัวอยู่บนพื้น
เธอหยิบมันขึ้นมาสังเกตใกล้ๆหลังจากนั้นคิ้วของเธอก็ขมวด นี่คือชิ้นส่วนหัวใจของเทวทูตเพลิงหกปี ข้าสัมผัสได้ถึงพลังที่คุ้นเคยด้วย…ดูเหมือนพวกเราจะได้เจอกับผู้บุกรุกที่แข็งแกร่งมากๆเข้าแล้วหล่ะ, แถมเขายังสามารถจัดการเทวทูตสามคนได้ในทันทีด้วย
ในตอนนั้นเอง,นักบวชเพลิงคนนึงก็เข้ามาหาเธอพร้อมกับคริสตัลความทรงจำในมือ “ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์คะ, ข้าได้บันทึกร่องรอยการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่นี่เอาไว้ในคริสตัลความทรงจำนี้แล้วค่ะ แต่ว่า, ผืนมิติถูกตัวตนที่แข็งแกร่งนี้บิดเบือนอย่างรุนแรง, ข้าคิดว่าเราคงจะได้ภาพของผู้บุกรุกไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”
นี่เป็นหนึ่งในเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิง,ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บร่องรอยของเหตุการณ์และสร้างขึ้นมาใหม่ได้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในรูปแบบของโฮโลแกรม
“ดีมาก”มิลด้ารับคริสตัลมาจากนักบวช จากภาพที่ไม่ชัดนี้, เธอมองเห็นแค่ร่างคนที่เลือนลาง, ซึ่งมีเทคนิคที่รวดเร็วและเฉียบคมมากจนเทวทูตเพลิงไม่มีโอกาสต่อกรกับเขาเลยซักคน
มิลด้าตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
เธอคิดว่าเธอทิ้งเขาเอาไว้ข้างหลังไปไกลแล้วเธอคิดว่าเขาจะไม่มีอิทธิพลกับเธออีกต่อไป อย่างไรก็ตาม, เธอคิดไม่ถึงเลยว่าแค่ภาพเบลอๆของเขาจะมีอิทธิพลกับเธอขนาดนี้
“นี่เขามาที่นี่จริงๆหรอ?”
ตูม!ลิงค์กระแทกพื้นอย่างรุนแรง
หลังจากที่ถูกเทวทูตหกปีกโจมตี,การเข้ามาในภพด้วยวิธีเช่นนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บ, แต่การโจมตีของเทวทูตก็ยังคงทำให้เขาสูญเสียการทรงตัว
ลิงค์ทิ้งหลุมรูปร่างมนุษย์เอาไว้บนพื้นหินสีม่วง
เขาถอนหายใจออกมาแล้วปีนขึ้นจากหลุม, หลังจากนั้นเขาก็ปัดฝุ่นที่ตัวออกแล้วเริ่มสำรวจดูรอบๆ
เนื่องจากการปรากฎตัวอย่างกระทันหันของเทวทูตหกปีก,ลิงค์จึงไม่มีทางเลือกนอกจากพุ่งเข้ามาในภพตรงๆเลย เขาคิดว่าเขาน่าจะอยู่ที่ไหนซักแห่งแถวๆพรมแดนระหว่างอาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยาง ในส่วนของตำแหน่งที่แน่นอนนั้น, เขาจำเป็นต้องสังเกตดูรอบๆให้มากกว่านี้ก่อน
พื้นดินรอบตัวเขานั้นรกร้างและทอดยาวออกไปไกลสุดลูกหูลูกตาด้วยการเขม่นตา, ลิงค์ก็มองเห็นเนินเขาเล็กๆอยู่ที่เส้นขอบฟ้า
มีแง่งหินสีม่วงยื่นออกมาจากทุ่งหญ้ากว้างสีเหลืองที่อยู่รอบตัวลิงค์เป็นหย่อมๆทัศนียภาพนี้ทำให้เขานึกถึงผ้าสีเหลืองที่ถูกปักด้วยอัญมณีสีม่วงในทันที
หินสีม่วงบริเวณพรมแดนระหว่างอาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยางหรอ…ที่นี่ต้องเป็นทุ่งหญ้าสเลนด้าแน่ๆ, ลิงค์คิด ในที่สุดเขาก็สามารถยืนยันตำแหน่งของตัวเองได้แล้วโดยใช้ข้อมูลที่ราเซอร์มอบให้เขา
ในภพอารากู่นั้นมีแค่ทวีปเดียวทางฝั่งซ้ายของทวีปที่มีรูปร่างเหมือนเพลาหมุนนี้ก็คืออาณาจักรหยาง, ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ไปถึงสองส่วนสามของทวีป, และในอีกด้านหนึ่งทางฝั่งขวาก็คืออาณาจักรอารากู่ ตอนนี้ไม่เพียงแค่เขตแดนของอารากู่จะลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเท่านั้น, แต่มันยังดูเหมือนสูญเสียอิทธิพลไปเยอะเลยด้วย
เมื่อหนึ่งปีก่อน,ทั้งสองฝ่ายได้ปะทะกันที่ทุ่งหญ้าสเลนด้า, มันเป็นสงครามใหญ่ที่ทางฝั่งอาณาจักรหยางตั้งชื่อให้ว่า ‘สงครามศักดิ์สิทธิ์อันแสนโหดเหี้ยม’
มีผู้คนประมาณ300,000 คนได้ต่อสู้กันในสงครามนี้เป็นเวลาถึงสี่วันสี่คืน มีดวงวิญญาณกว่า 200,000 ดวงหลับพักผ่อนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ในระหว่างที่ทำสงครามกันนั้นมีเลือดไหลนองออกมามากจนเกิดเป็นสายน้ำเลือดอยู่ที่กลางทุ่งหญ้า จากนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีต่อมา, ดอกไม้สีแดงเลือดก็เบ่งบานไปทั่วทุ่งหญ้าแห่งนี้
พอจัดเสื้อผ้าของตัวเองเสร็จเรียบร้อย,ลิงค์ก็เริ่มเดินออกมาจากหลุม เขายังคงสังเกตสภาพทางภูมิศาสตร์รอบๆตัวเขาต่อ
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง,ลิงค์ก็พยายามนึกย้อนไปถึงรายละเอียดของเหตุการณ์สงครามศักดิ์สิทธิ์อันแสนโหดเหี้ยม หลังจากสงครามศักดิ์สิทธิ์ในครั้งนั้น,ทั้งฝ่ายอารากู่และฝ่ายหยางก็ได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วง อย่างไรก็ตาม, เนื่องจากศรัทธาที่แน่วแน่ของพวกเขา, ทหารของอาณาจักรหยางดูเหมือนว่าจะมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่ากองทัพของอารากู่เพราะพวกเขาต่อสู้จนลมหายใจสุดท้ายจริงๆ ด้วยความที่ไม่สามารถรับมือกับกองทัพของหยางได้, ทหารของอาณาจักรอารากู่ก็เลยถูกบังคับให้ถอย
ด้วยความที่สูญเสียกองกำลังทหารไปเป็นจำนวนมาก,อาณาจักรอารากู่ก็เลยไม่สามารถทำสงครามนี้กับอาณาจักรหยางได้อีกต่อไป ในอีกด้านนึง, การจะไล่ล่ากองทัพที่หลงเหลืออยู่ของอารากู่นั้นต้องใช้ทรัพยากรอย่างมหาศาล, อาณาจักรหยางจึงตัดสินใจที่จะเลิกไล่ตามและปรับกำลังใหม่เพื่อที่จะเตรียมลุยสงครามสุดท้ายกับศัตรูของพวกเขา ณ ตอนนี้, อาณาจักรหยางลุยอีกแค่รอบเดียว, อาณาจักรอารากู่ก็จะจบสิ้นแล้ว!
พูดอีกนัยนึงก็คือ,ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน, อาณาจักรอารากู่ก็เตรียมนับวันล่มสลายได้เลย มันคงจะอีกไม่นานก่อนที่อาณาจักรหยางจะตัดสินใจโจมตีอีกครั้ง
ตอนนี้ลิงค์กำลังเดินทางอยู่บนสนามรบที่เคยเกิดสงครามศักดิ์สิทธิ์อันแสนโหดเหี้ยม
มีเนินดินนับไม่ถ้วนยื่นออกมาจากพื้นดินมีต้นไม้ใบหญ้างอกขึ้นมาจากเนินดินเหล่านี้อย่างเขียวฉะอุ่มจนผิดปกติ แล้วก็มีเศษกระดูกกระจายอยู่แถวๆนั้นด้วย ลิงค์คิดว่าเนินดินเหล่านี้ต้องเป็นสถานที่หลับใหลของพวกที่ต้องจบชีวิตในสงครามศักดิ์สิทธิ์นี้แน่ๆ, และเศษกระดูกพวกนี้ก็คงจะถูกสัตว์ป่าในพื้นที่รกร้านแห่งนี้ขุดขึ้นมา
เนินดินพวกนี้มีความสูงห้าถึงหกฟุตและกว้างประมาณ20 ฟุต ดูเหมือนจะมีหลุมศพเหล่านี้อยู่ประมาณห้าสิบหลุมกระจายอยู่ทั่วที่รกร้างแห่งนี้
มีชิ้นส่วนชุดเกาะกับอาวุธกระจายอยู่ตามพื้นด้วยพวกมันทั้งหมดเต็มไปด้วยคราบเลือดที่แห้งแล้ว โฮ่งๆ กรร… มีหมาป่าคู่นึงกระโดดออกมาจากกอหญ้าสูงอย่างกระทันหัน, สายตาของพวกมันจ้องมาที่ลิงค์อย่างหิวโหย หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติศพที่ถูกทิ้งเอาไว้ทั่วที่รกร้างหลังจากที่สงครามจบ, แนวการกินอาหารของพวกมันก็พัฒนาขึ้น, ตอนนี้พวกมันชื่นชอบเนื้อมนุษย์สดๆไม่ว่าเป็นหรือตายก็ตาม
อย่างไรก็ตาม,ลิงค์ไม่ได้สนใจพวกมัน, เขามุ่งหน้าไปทางตะวันออกเพื่อไปอาณาจักรอารากู่
สงครามศักดิ์สิทธิ์นี้เกิดขึ้นทางฝั่งตะวันออกของทุ่งหญ้าสเลนด้ามีแม่น้ำมังกรคลั่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันออก 200 ไมล์ด้วย กองทัพของอารากู่ต้องใช้แม่น้ำนี้เป็นข้อได้เปรียบในการสลัดไม่ให้พวกหยางไล่ตามมาได้อย่างแน่นอน ถ้าฉันตามร่องรอยที่พวกเขาทิ้งเอาไว้ในระหว่างสงคราม, ฉันก็น่าจะไปถึงป้อมมังกรคลั่งที่อาณาจักรอารากู่ตั้งเอาไว้ริมแม่น้ำมังกรคลั่งนะ
ลิงค์เร่งฝีเท้าไปทางตะวันออก ต้องขอบคุณที่ร่องรอยจากมหาสงครามนั้นยังคงถูกทิ้งเอาไว้อย่างชัดเจนลิงค์สามารถวิ่งไปตามที่รกร้างแห่งนี้ได้โดยไม่ต้องพยายามตามหาร่องรอยมากนัก ด้วยความช่วยเหลือของเวทย์ก้าวพริบตา, เขาก็สามารถย่นระยะประมาณเกือบ 200 ไมล์ได้ในเวลาไม่ถึงนาที
พอคิดขึ้นมาได้ว่ายิ่งไปถึงอาณาจักรอารากู่เร็วเท่าไหร่,เขาก็จะยิ่งปลอดภัยขึ้นเท่านั้น ลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนไปใช้เวทย์เทเลพอร์ทเพื่อย่นระยะเวลาเดินทางของเขา
มีรูนนับไม่ถ้วนปรากฎขึ้นรอบตัวเขาด้วยเสียงครืนจากนั้นด้วยแสงสว่างวาบ, ร่างของเขาก็ไปโผล่ขึ้นที่ระยะห่างออกไป 20 ไมล์ ในตอนที่รูนลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นรอบตัวเขาอีกครั้ง, และมีแสงสว่างวาบขึ้นมาอีก, เขาก็เทเลพอร์ทข้ามไปอีก 20 ไมล์ แต่ทันใดนั้นเอง, บางอย่างก็เกิดขึ้น!
ในขณะที่ลิงค์กำลังจะเทเลพอร์ทเป็นครั้งที่สาม,ความรู้สึกถึงอันตรายก็คุกคามทุกโสตประสาทของเขา
มีความคิดนึงแล่นเข้ามาในหัวของเขาในทันทีมีความผันผวนของมิติเกิดขึ้นที่ระยะห่างออกไปข้างหลังฉัน 1,000 ไมล์ มีคนกำลังมา…แถมไม่ใช่แค่คนเดียวด้วย, มีกันทั้งหมดสามคน นั่นต้องเป็นเทวทูตเพลิงหกปีแน่ๆ!
ร่างกายของลิงค์ทำการตอบสนองในทันที
ดาบลำนำจันทร์เต็มดวงของเขาถูกดึงออกจากฝักและในตอนนั้นเอง, วงรูนสีทองเก้าวงก็ปรากฎขึ้นบนใบดาบในลักษณะขนานกัน จากนั้น, ส่วนบนของมันก็หายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เทคนิคนี้คือลูกบอลความสิ้นหวังเวอร์ชันพัฒนาแล้วลิงค์ได้ผนวกมันเข้ากับแก่นของเทคนิคอื่นไม่ว่าจะเป็นเทคนิคดาบกาลเวลาและเทคนิคเขตแดน, ซึ่งมันก็ทำให้ตอนนี้ผู้ใช้เทคนิคสามารถปิดกั้นได้ทั้งเวลาและมิติในเวลาเดียวกัน
พูดอีกนัยนึงก็คือ,ลิงค์สามารถฆ่าใครก็ตามที่มีเลเวลต่ำกว่า 16 ได้ด้วยลูกบอลความสิ้นหวังที่พัฒนาขึ้นมาใหม่นี้
ในตอนที่ปลายดาบของเขาเล็ดรอดเข้าไปในผืนมิติ,ลิงค์ก็รู้สึกได้ในทันทีว่าดาบของเขากำลังเจาะทะลุอะไรบางอย่าง, ซึ่งมันก็แตกออกเหมือนกับฟองน้ำ
หลังจากนั้นในทันที,มิติบิดเบือนเบื้องหน้าเขาก็กลับเป็นปกติ
“น่าจะจัดการไปแล้วคนนึงนะ”
แม้ว่าเขาจะฆ่าไปได้แล้วคนนึง,แต่ผู้ไล่ล่าอีกสองคนก็ยังสามารถโผล่เข้ามาในภพอารากู่ได้ ร่างกายที่ผอมเพรียวของพวกเขาถูกห่อหุ้มด้วยวงเพลิง—ปีกสามคู่ที่งอกออกมาจากหลังของพวกเขานั้นมีขนาดไม่เท่ากัน ใบหน้าของพวกเขาถูกบดบังด้วยประกายแสง ลิงค์ไม่มีความสงสัยเลย, พวกเขาต้องเป็นเทวทูตเพลิงหกปีกที่ไล่ตามเข้ามาตั้งแต่ทะเลแห่งความว่างเปล่าแน่ๆ
“ไอ้พวกนี้จะปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวไม่ได้เลยรึไงนะ?”ลิงค์บ่น เขาไม่ได้กลัวเทวทูตเพลิงเลเวล 15 พวกนี้ เขาแค่กังวลว่าพวกที่ไล่ตามมานั้นจะไปดึงดูดความสนใจของอาร์คเมจเพลิงกับลัทธิเพลิงของเขา
“มนุษย์เอ๋ย,จงคุกเข่าขอขมาองค์เทพอัคคีซะ!” เทวทูตทั้งสองคนพูดพร้อมกันจากบนฟ้า
ลิงค์ไม่ได้ตอบกลับเขาตัดสินใจว่าการจบชีวิตพวกเขาที่นี่เวลานี้จะดีกับเขามากที่สุด
หลังจากนั้นดาบของเขาก็แทงออกไปที่หนึ่งในเทวทูตเพลิง
ในทันทีที่เขาเห็นสิ่งที่ลิงค์กำลังทำอยู่,หนึ่งในเทวทูตเพลิงก็ตระหนักขึ้นมาได้ในทันทีว่ามันเป็นเทคนิคเดียวกับที่คร่าชีวิตพวกพ้องของเขา แสงที่บดบังใบหน้าของเขาเริ่มรุนแรงขึ้น และโดยไร้ซึ่งความลังเล, เทวทูตก็ตั้งท่าป้องกันรอรับการโจมตีของลิงค์
พอเห็นโอกาส,เทวทูตเพลิงอีกคนก็พุ่งเข้าใส่ลิงค์อย่างรวดเร็วด้วยการกระพือปีกเพียงครั้งเดียว เทวทูตทั้งสองเคลื่อนไหวพร้อมกันอย่างสัมพันธ์กัน
ลิงค์คงจะจัดการกับพวกเขาไม่ได้ง่ายๆถ้าเขาไม่ได้เก็บไปก่อนแล้วหนึ่งคน
ดาบลำนำจันทร์เต็มดวงยังคงคดเคี้ยวผ่านมิติตรงไปทางเทวทูตที่ตั้งท่าป้องกันอยู่ในการเผชิญหน้ากับเทวทูตเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามานั้น, ลิงค์ได้ยื่นมือซ้ายออกไป, และอัญเชิญวงรูนที่ตัดกันในฝ่ามือของเขา, แล้วคำรามใส่เทวทูตเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามา
ตอนนี้เวทมนตร์ของลิงค์ไปถึงระดับที่สามารถร่ายเวทย์ที่แข็งแกร่งได้ในทันทีแล้ว
ในชั่วพริบตา,เทวทูตเพลิงหกปีกเลเวล 15 ที่กำลังเข้ามาหาลิงค์ก็เหลือเวลาอีกหนึ่งส่วนสิบวินาทีก่อนที่จะถึงเป้าหมายแล้ว
อย่างไรก็ตาม,ในช่วงเวลาสั้นๆนี้, ลิงค์ก็สามารถร่ายเวทย์อันแข็งแกร่งเลเวล 15 เพื่อขัดการโจมตีของเทวทูตเพลิงได้
หลังจากนั้นในทันที,ดาบของลิงค์ก็แทงโดนเป้าหมายในที่สุด มันไม่มีทางที่เทวทูตเพลิงเลเวล 15 จะสามารถป้องกันการโจมตีเลเวล 16 นี้ได้
ในวินาทีต่อมา,มังกรเวทมนตร์ของลิงค์ก็ผสานเข้ากับเวทมนตร์ของเขา, แล้วส่งคลื่นพลังออกไปผ่านมิติ
ในทันทีที่ระลอกคลื่นเบาบางลง,ก่อนที่เทวทูตเพลิงจะทันตั้งสติ, ดาบของลิงค์ก็ทะลวงร่างของเขาเรียบร้อยแล้ว
ด้วยความที่ระบบการไหลเวียนมานาของเขาถูกการโจมตีของลิงค์ตัดทิ้ง,เทวทูตเพลิงจึงสูญเสียการควบคุมมานาไปในทันที จากนั้นเขาก็ระเบิดเป็นกลุ่มควันด้วยเสียงดังสนั่น
ลิงค์ไม่ได้คิดจะกลับไปตรวจสอบผลงานของตัวเองมีรูนปรากฎขึ้นบนร่างของเขาอีกครั้ง, แล้วเขาก็หายไป
สามนาทีต่อมา,ก็มีแสงสว่างวาบขึ้นติดต่อก่อนที่ใจกลางที่รกร้างแห่งนี้, แล้วจากนั้นร่างคนประมาณสิบคนก็ปรากฎตัวขึ้นหัวหน้าของคนกลุ่มนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากสตรีศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิงและเจ้าหญิงของไฮเอลฟ์, มิลด้า
เธอสวมชุดสีแดงทองหลังจากเดินไปทั่วที่รกร้าง, ในที่สุดเธอก็มาถึงหินก้อนนึงที่กำลังเปล่งแสงสีแดงสลัวอยู่บนพื้น
เธอหยิบมันขึ้นมาสังเกตใกล้ๆหลังจากนั้นคิ้วของเธอก็ขมวด นี่คือชิ้นส่วนหัวใจของเทวทูตเพลิงหกปี ข้าสัมผัสได้ถึงพลังที่คุ้นเคยด้วย…ดูเหมือนพวกเราจะได้เจอกับผู้บุกรุกที่แข็งแกร่งมากๆเข้าแล้วหล่ะ, แถมเขายังสามารถจัดการเทวทูตสามคนได้ในทันทีด้วย
ในตอนนั้นเอง,นักบวชเพลิงคนนึงก็เข้ามาหาเธอพร้อมกับคริสตัลความทรงจำในมือ “ท่านสตรีศักดิ์สิทธิ์คะ, ข้าได้บันทึกร่องรอยการต่อสู้ที่เกิดขึ้นที่นี่เอาไว้ในคริสตัลความทรงจำนี้แล้วค่ะ แต่ว่า, ผืนมิติถูกตัวตนที่แข็งแกร่งนี้บิดเบือนอย่างรุนแรง, ข้าคิดว่าเราคงจะได้ภาพของผู้บุกรุกไม่ค่อยชัดเท่าไหร่”
นี่เป็นหนึ่งในเวทย์ศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิง,ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บร่องรอยของเหตุการณ์และสร้างขึ้นมาใหม่ได้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในรูปแบบของโฮโลแกรม
“ดีมาก”มิลด้ารับคริสตัลมาจากนักบวช จากภาพที่ไม่ชัดนี้, เธอมองเห็นแค่ร่างคนที่เลือนลาง, ซึ่งมีเทคนิคที่รวดเร็วและเฉียบคมมากจนเทวทูตเพลิงไม่มีโอกาสต่อกรกับเขาเลยซักคน
มิลด้าตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น
เธอคิดว่าเธอทิ้งเขาเอาไว้ข้างหลังไปไกลแล้วเธอคิดว่าเขาจะไม่มีอิทธิพลกับเธออีกต่อไป อย่างไรก็ตาม, เธอคิดไม่ถึงเลยว่าแค่ภาพเบลอๆของเขาจะมีอิทธิพลกับเธอขนาดนี้
“นี่เขามาที่นี่จริงๆหรอ?”