Advent of the Archmage - 691: ลางแห่งความมืดที่ทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาว
Chapter
หลังจากที่จัดการเทวทูตเพลิงหกปีกได้แล้วลิงค์ก็รีบหนีออกจากที่เกิดเหตุในทันที ครึ่งนาทีต่อมา เขาก็มาถึงสถานที่แห่งใหม่ที่แบ่งแยกระหว่างอาณาจักรหยางกับอาณาจักรอารากู่: แม่น้ำมังกรคลั่ง
ซู่ววซ่า คลื่นแม่น้ำรุนแรงเหมือนกับม้าพยศกว่าพันตัวกำลังวิ่งพร้อมกัน
เขายืนอยู่ที่ริมแม่น้ำและสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแม่น้ำด้วย
ต้นสายกับปลายสายของแม่น้ำมังกรคลั่งนั้นค่อนข้างแตกต่างกันมันมีหน้าผาและปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่เกิดเสียงดังสนั่นอย่างที่เห็นอยู่นี้
แม่น้ำไม่ได้ไหลเร็วขนาดนั้นแต่ว่ามันกว้างมาก จากที่ลิงค์ดู, พื้นผิวของมันมีความกว้างอย่างน้อยครึ่งไมล์ มีไอน้ำพุ่งขึ้นมาจากพื้นผิวของมัน และซ่อนแม่น้ำเอาไว้ ลิงค์ตรวจสอบแม่น้ำอย่างละเอียดและเข้าใจถึงพื้นฐานความลับของแม่น้ำมังกรคลั่งแล้วเขาทำได้แค่ถอนหายใจ มีร่องรอยการใช้มานาอยู่ นี่มันคือการผสมผสานระหว่างกฎเวทมนตร์และธรรมชาติอย่างลงตัว แม่น้ำสายนี้เหมือนกับเป็นตัวแทนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติจริงๆ
ในทันทีที่เขาคิดแบบนี้เขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานจากระยะใกล้ๆ แต่ว่ามันไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย เขาจึงไม่รู้ถึงตัวตนของคนที่กำลังมา
ลิงค์ยืนรออยู่ที่ริมแม่น้ำ
ไม่กี่วินาทีต่อมาแสงสีน้ำเงินเข้มก็พุ่งผ่านหมอกหนาแล้วลงมาหยุดอยู่ริมแม่น้ำ เขาคือนักรบที่สวมชุดเกราะคริสตัลสีน้ำเงินเข้ม ในตอนที่เขาเห็นลิงค์ เขาก็ทำความเคารพแบบชาวอารากวนและยิ้มให้ “ท่านจอมเวทย์ ท่านช่างมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆนะครับ”
รอยยิ้มของเขาอ่อนน้อมดวงตาคริสตัลสีน้ำเงินของเขาส่องประกายด้วยความมั่นใจ พอมองดูลักษณะภายนอกของชายคนนี้ลิงค์ก็รู้ถึงตัวตนของเขาในทันที ในเมื่อชายคนนี้เรียกเขาว่า “จอมเวทย์” เขาก็คิดว่าชายคนนี้เองก็รู้จักเขาเหมือนกัน พวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อน ดังนั้นอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งจะต้องเป็นคนบอกเขาแน่ๆ
นี่ก็หมายความว่าอาร์คเมจรู้ถึงการมาของเขาแล้วในเวลาเดียวกันนั้นเอง อาร์คเมจเพลิงก็น่าจะรู้เหมือนกัน แต่ว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นนี่อาจจะหมายความว่าอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งกำลังต่อสู้กับอาร์คเมจเพลิงอยู่ทำให้เขาไม่สามารถมารับด้วยตัวเองได้
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็รู้แล้วว่าตอนนี้เขาน่าจะปลอดภัยแล้ว
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้นอกเหนือจากคนที่มีพลังระดับอาร์คเมจแล้ว เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวนักรบคนไหนในอารากู่เลย ต่อให้มีหลายคนมาล้อมเขาจนเขาไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด เขาก็ยังสามารถใช้เวทย์มิติหนีออกมาได้อย่างง่ายดาย เขาทำความเคารพนักรบเยือกแข็งกลับ“ฉันได้ยินมาว่ามีนักรบเยือกแข็งอยู่ 6 คนในอาณาจักรอารากู่ ทักษะของแต่ละคนนั้นอยู่ระดับสูงสุดของภพ ช่วยบอกชื่อของนายมาได้ไหม?”
อาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยางนั้นเป็นขั้วตรงกันข้ามกันอาณาจักรหยางมีอัศวินลาวาในขณะที่อารากู่มีนักรบเยือกแข็ง พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน
พอได้ยินคำพูดของลิงค์นักรบเยือกแข็งก็ยืดอกขึ้นกว่าเดิมและพูดอย่างจริงจัง “ข้าชื่อเทโรดอว์ เฮทเตอร์ แห่งศูนย์สัมบูรณ์ ท่านมหาจอมเวทย์, อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งอียีร์ได้บอกข้าเกี่ยวกับการมาถึงของท่านและได้นำทางข้ามาที่นี่ พูดตามตรงท่านมาเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อีกนะครับ”
“ท่านมหาจอมเวทย์หรอ”นั้นคือชื่อเรียกอีกชื่อนึงของอาร์คเมจที่ขึ้นมาถึงเลเวล 19 ได้ พวกเขาจะก่อตั้งชนเผ่าขึ้นมาและมีลูกศิษย์มากมาย “อืมนายคือเทเรอโดวสินะ ฉันเอาของติดตัวมาด้วย ฉันต้องส่งมันให้นายหรือจะให้เอาไปส่งกับอาร์คเมจโดยตรงเลยหล่ะ?”
ลิงค์ถามชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวปัญหา ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ยากจะโยนภาระนี้ให้กับนักรบเยือกแข็งและรีบออกไปจากที่นี่
แต่ว่าความจริงก็ทำให้เขาผิดหวังเทเรอโดวส่ายหัว “ท่านมหาจอมเวทย์บอกกับข้าว่าท่านต้องนำมันไปส่งให้เขาด้วยตัวเอง หน้าที่ของพวกเราคือการนำทางท่านไปให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ”
นี่ทำให้ลิงค์ขมวดคิ้ว“การเดินทางมันอันตรายขนาดนั้นเลยหรอ?”
ถ้าพวกเขาเป็นคนธรรมดาอาณาจักรหยางอาจจะส่งคนที่แข็งแกร่งมาอาณาจักรอารากู่เพื่อนโจมตีพวกเขา ยังไงก็ตาม พวกเขาต่างก็อยู่ระดับแนวหน้า และภพอารากู่ก็เป็นสนามเด็กเล่นของพวกเขา
แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นได้อีกหล่ะ? เทโรดอว์ส่ายหัว“ข้าเองก็ไม่รู้สึกถึงอันตรายอะไรเลย แต่ท่านมหาจอมเวทย์บอกว่าเขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานแห่งความมืดที่กำลังกัดกินภพอยู่ ความมืดนี้จะปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน ทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาว แต่ก็โชคไม่ดีที่เขากำลังติดพันอยู่กับอาร์คเมจเพลิงอยู่ ไม่อย่างนั้น เขาคงจะมาต้อนรับท่านด้วยตัวเองแล้ว”
ลิงค์ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม“คลื่นแห่งความมืดหรอ? แถมยังปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน ทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาวด้วย? มีข้อมูลมากกว่านี้ไหม?”
เทโรดอว์ไม่ได้ตอบในทันทีเขามองไปที่ทุ่งสเลนด้าที่อยู่ด้านหลังลิงค์และพูดขึ้น “ท่านจอมเวทย์ครับ ที่นี่ไม่ปลอดภัย เอาเป็นว่าพวกเราข้ามแม่น้ำกันก่อนดีไหมครับ? ข้าจะอธิบายให้ฟังในระหว่างทาง”
“ไม่มีปัญหา”
เทโรดอว์ผิวปากแล้วแม่น้ำมังกรคลั่งก็สงบลงอย่างมาก หมอกที่ปกคลุมพื้นผิวของมันอยู่ก็เปิดออกแล้วเผยเส้นทางออกมาอย่างชัดเจน
“ตามข้ามาได้เลยครับแล้วก็ระวังอย่าไปสัมผัสกับหมอกนะครับ ท่านมหาจอมเวทย์เป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง มันเย็นมาก มันสามารถแช่แข็งได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งมิติก็ไม่เว้น ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมถึงห้ามส่งสัญญาณบริเวณนี้ครับ”
หลังจากนั้นเทโรดอว์ก็ใช้พลังของเขาและเริ่มเดินผ่านแม่น้ำไป
ทุกครั้งที่เขาก้าวน้ำที่อยู่ใต้เท้าเขาจะกลายเป็นน้ำแข็ง ในตอนที่ใต้เท้าของเขามีพื้นแข็งๆ เขาก็จะสามารถกระโดดไปข้างหน้าได้ และจากนั้นน้ำแข็งก็จะถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดกลืนกินไป ในอีกด้านนึง ลิงค์ใช้เดินอากาศในการลอยตามหลังไป สีหน้าของเขาสงบนิ่ง แต่จิตใจของเขากำลังว้าวุ่นอยู่ มันไม่ใช่เพราะแม่น้ำมังกรคลั่งแต่เป็นเพราะคำพูดของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง
อาร์คเมจนั้นมีวิญญาณที่กล้าแกร่งมากๆความรู้เกี่ยวกับกฎมิติเวลาของเขานั้นไปไกลเกินกว่าความเข้าใจของลิงค์ อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งมองเห็นความมืดและบอกว่ามันจะทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาว ซึ่งในอีกความหมายนึงก็คือ ภพนี้จะถูกทำลาย
และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นก็คืออาร์คเมจเพลิงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความมืดนี้และยังอยากจะสู้ต่อเขาไม่สนใจเรื่องที่ภพกำลังจะถูกทำลายเลยหรอ หรือว่าเขาไม่อยากจะเป็นเทพแล้ว?
แล้วอีกอย่างนึงความมืดแบบไหนกันนะที่สามารถทำลายภพได้?
ความเป็นไปได้มากมายผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ในทันที
ความเป็นไปได้แรกก็คือราชันแห่งแสงของภพเฟดาโร่เขาเป็นเทพที่แท้จริงเพียงองค์เดียวที่ลิงค์รู้จัก เขามีความสามารถและแรงจูงใจมากพอที่จะทำแบบนั้นได้
ความเป็นไปได้ที่สองก็คืออุบัติเหตุทางเวทมนตร์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในฟิรุแมนและแบ่งแยกภพเป็นสองส่วน และยังมีต้นไม้โลกที่สามารถรวมภพได้อีก ถ้าเกิดต้นไม้ทำผิดพลาด มันอาจจะทำให้เกิดภัยพิบัติเวทมนตร์ได้
ส่วนความเป็นไปได้ที่สามนั้นมีโอกาสเกิดน้อยทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะมีเทพที่น่ากลัวองค์ไหนกระโจนเข้ามาในนี้จากที่ไหนซักแห่งรึเปล่า
เขาตกอยู่ในห้วงความคิดและลิงค์ก็มาถึงอีกฝั่งของแม่น้ำพร้อมกับเทโรดอว์
อย่างไรก็ตาม,จุดหมายที่พวกเขาจะไปนั้นไม่ใช่ป้อมมังกรคลั่ง มันอยู่ไกลกว่านั้นมาก ส่วนป้อมปราการนั้นอยู่ห่างออกไปอีกหลายไมล์และลิงค์ก็มองเห็นมันได้อย่างง่ายดาย
“นี่คือภารกิจลับครับ”เทโรดอว์อธิบาย “มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้คนธรรมดารู้เรื่องนี้ ถ้าเกิดพวกเขารู้ อาจจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้นได้ครับ”
ลิงค์เห็นด้วย“แล้วพวกเราจะไปที่ไหนหล่ะ?” เขาถาม
เทโรดอว์ผิวปากอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนๆนึงปรากฏตัวขึ้น คนๆนั้นสวมชุดเกราะคริสตัลสีน้ำเงินเหมือนกัน แต่ว่ามีรูปร่างสวยงามกว่า และมีผมยาวสีเงินด้วย พอสังเกตดูดีๆ ลิงค์ก็พบว่าเธอเป็นนักรบหญิง เธอสูงประมาณ 5 ฟุตและมีรูปร่างที่ผอมเพรียวเหมาะสำหรับนักรบ มีดาบขนาดใหญ่ห้อยอยู่ที่หลังของเธอซึ่งดูขัดแย้งกับรูปร่างของเธอมาก
นอกจากผมยาวสีเงินที่มัดเป็นหางม้าแล้วนักรบหญิงคนนี้ยังมีดวงตาสีน้ำเงินเข้มด้วย พวกมันดูลึกล้ำกว่าของเทโรดอว์ และดวงตาของเธอก็ดูสงบกว่า ส่วนเรื่องรูปร่างของเธอนั้นดูดีกว่าค่าเฉลี่ย แต่ก็ยังเทียบกับราชินีมังกรแดงหรือเซลีนไมได้
“ท่านหญิงผู้นี้มีนามว่าลิลลี่ครับ,เธอคือราชินีน้ำแข็งและแม่ทัพของนักรบเยือกแข็ง ซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการโดยตรงของข้าครับ”
ลิงค์ค่อนข้างตกใจเขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่ผอมเพรียวคนนี้จะมีชื่อเหมือนกับวิญญาณหอคอยของเขาแถมยังเป็นแม่ทัพของนักรบเยือกแข็งอีก เธอดูไม่เหมือนกับคนที่ใหญ่โตระดับนั้นเลย
ลิลลี่ยิ้มใบหน้าของเธอเบ่งบานจนทำให้นึกถึงทุ่งหญ้าหิมะที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์เลย “ลอร์ดเฟิร์ด ข้ารู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบท่านค่ะ ข้าได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของท่านมามากมายเลย”
เสียงของเธอนั้นสดใสเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านทุ่งหิมะมันได้ให้พลังงานกับลิงค์และทิ้งความประทับใจเอาไว้
ลิงค์พยักหน้าอยู่ในใจด้วยแรงกดดันทางจิตวิทยาที่รุนแรงเช่นนี้ เธอจะต้องอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 16 แน่ๆ ทักษะการต่อสู้ของเธอก็คงจะสุดยอดเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเธอถึงเป็นผู้นำของพวกนักรบเยือกแข็งได้
“เก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆเอาไว้คุยกันที่หลังดีกว่าพวกเรารีบไปกันเลยไหม?” ลิงค์ไม่อยากเสียเวลา
“ได้ค่ะเทโรดอว์กับข้าจะติดตามท่านไปด้วย เชิญตามมาทางนี้ค่ะ” ลิลลี่มีหน้าที่นำทางลิงค์ในขณะที่เทโรดอว์นั้นคอยตามหลัง ทั้งสามคนเริ่มเดินทางในทันที
ในระหว่างทางลิลลี่ก็อธิบายไปด้วย “ท่านอียีร์ อยู่ที่ป้อมปราการเหมันต์นิรันดรทางตะวันออกเฉียงเหนือ เขาอยู่ห่างกับพวกเราประมาณ 2,000 ไมล์ ถ้าพวกเราเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด น่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ”
“เข้าใจแล้ว”ลิงค์พยักหน้า 2000 ไมล์นั้นไม่ได้ไกลมาก
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางกันเงียบๆ 1 ชั่วโมงผ่านไปและทั้งสามก็มาถึงทุ่งหญ้าเวอแดนท์ที่ใจกลางของอารากู่ ซึ่งมีลักษณะไม่ชอบมาพากลเอาซะเลย
ด้วยความที่มันเป็นใจกลางของอาณาจักรทั้งสามคนจึงค่อนข้างผ่อนคลาย แต่ถึงอย่างนั้นลิลลี่ก็หยุดลงกระทันหัน “นั่นอะไรหน่ะ”
ลิงค์มองออกไปและเห็นคนที่คุ้นเคย
หลังจากที่จัดการเทวทูตเพลิงหกปีกได้แล้วลิงค์ก็รีบหนีออกจากที่เกิดเหตุในทันที ครึ่งนาทีต่อมา เขาก็มาถึงสถานที่แห่งใหม่ที่แบ่งแยกระหว่างอาณาจักรหยางกับอาณาจักรอารากู่: แม่น้ำมังกรคลั่ง
ซู่ววซ่า คลื่นแม่น้ำรุนแรงเหมือนกับม้าพยศกว่าพันตัวกำลังวิ่งพร้อมกัน
เขายืนอยู่ที่ริมแม่น้ำและสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแม่น้ำด้วย
ต้นสายกับปลายสายของแม่น้ำมังกรคลั่งนั้นค่อนข้างแตกต่างกันมันมีหน้าผาและปริมาณน้ำจำนวนมหาศาล ซึ่งนี่ก็เป็นสาเหตุที่เกิดเสียงดังสนั่นอย่างที่เห็นอยู่นี้
แม่น้ำไม่ได้ไหลเร็วขนาดนั้นแต่ว่ามันกว้างมาก จากที่ลิงค์ดู, พื้นผิวของมันมีความกว้างอย่างน้อยครึ่งไมล์ มีไอน้ำพุ่งขึ้นมาจากพื้นผิวของมัน และซ่อนแม่น้ำเอาไว้ ลิงค์ตรวจสอบแม่น้ำอย่างละเอียดและเข้าใจถึงพื้นฐานความลับของแม่น้ำมังกรคลั่งแล้วเขาทำได้แค่ถอนหายใจ มีร่องรอยการใช้มานาอยู่ นี่มันคือการผสมผสานระหว่างกฎเวทมนตร์และธรรมชาติอย่างลงตัว แม่น้ำสายนี้เหมือนกับเป็นตัวแทนระหว่างมนุษย์และธรรมชาติจริงๆ
ในทันทีที่เขาคิดแบบนี้เขาก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังงานจากระยะใกล้ๆ แต่ว่ามันไม่ได้มีจุดประสงค์ร้าย เขาจึงไม่รู้ถึงตัวตนของคนที่กำลังมา
ลิงค์ยืนรออยู่ที่ริมแม่น้ำ
ไม่กี่วินาทีต่อมาแสงสีน้ำเงินเข้มก็พุ่งผ่านหมอกหนาแล้วลงมาหยุดอยู่ริมแม่น้ำ เขาคือนักรบที่สวมชุดเกราะคริสตัลสีน้ำเงินเข้ม ในตอนที่เขาเห็นลิงค์ เขาก็ทำความเคารพแบบชาวอารากวนและยิ้มให้ “ท่านจอมเวทย์ ท่านช่างมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมจริงๆนะครับ”
รอยยิ้มของเขาอ่อนน้อมดวงตาคริสตัลสีน้ำเงินของเขาส่องประกายด้วยความมั่นใจ พอมองดูลักษณะภายนอกของชายคนนี้ลิงค์ก็รู้ถึงตัวตนของเขาในทันที ในเมื่อชายคนนี้เรียกเขาว่า “จอมเวทย์” เขาก็คิดว่าชายคนนี้เองก็รู้จักเขาเหมือนกัน พวกเขาไม่เคยพบกันมาก่อน ดังนั้นอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งจะต้องเป็นคนบอกเขาแน่ๆ
นี่ก็หมายความว่าอาร์คเมจรู้ถึงการมาของเขาแล้วในเวลาเดียวกันนั้นเอง อาร์คเมจเพลิงก็น่าจะรู้เหมือนกัน แต่ว่ายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นนี่อาจจะหมายความว่าอาร์คเมจภูผาน้ำแข็งกำลังต่อสู้กับอาร์คเมจเพลิงอยู่ทำให้เขาไม่สามารถมารับด้วยตัวเองได้
พอคิดได้แบบนี้ลิงค์ก็รู้แล้วว่าตอนนี้เขาน่าจะปลอดภัยแล้ว
ด้วยพลังของเขาในตอนนี้นอกเหนือจากคนที่มีพลังระดับอาร์คเมจแล้ว เขาก็ไม่ได้เกรงกลัวนักรบคนไหนในอารากู่เลย ต่อให้มีหลายคนมาล้อมเขาจนเขาไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด เขาก็ยังสามารถใช้เวทย์มิติหนีออกมาได้อย่างง่ายดาย เขาทำความเคารพนักรบเยือกแข็งกลับ“ฉันได้ยินมาว่ามีนักรบเยือกแข็งอยู่ 6 คนในอาณาจักรอารากู่ ทักษะของแต่ละคนนั้นอยู่ระดับสูงสุดของภพ ช่วยบอกชื่อของนายมาได้ไหม?”
อาณาจักรอารากู่กับอาณาจักรหยางนั้นเป็นขั้วตรงกันข้ามกันอาณาจักรหยางมีอัศวินลาวาในขณะที่อารากู่มีนักรบเยือกแข็ง พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน
พอได้ยินคำพูดของลิงค์นักรบเยือกแข็งก็ยืดอกขึ้นกว่าเดิมและพูดอย่างจริงจัง “ข้าชื่อเทโรดอว์ เฮทเตอร์ แห่งศูนย์สัมบูรณ์ ท่านมหาจอมเวทย์, อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งอียีร์ได้บอกข้าเกี่ยวกับการมาถึงของท่านและได้นำทางข้ามาที่นี่ พูดตามตรงท่านมาเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อีกนะครับ”
“ท่านมหาจอมเวทย์หรอ”นั้นคือชื่อเรียกอีกชื่อนึงของอาร์คเมจที่ขึ้นมาถึงเลเวล 19 ได้ พวกเขาจะก่อตั้งชนเผ่าขึ้นมาและมีลูกศิษย์มากมาย “อืมนายคือเทเรอโดวสินะ ฉันเอาของติดตัวมาด้วย ฉันต้องส่งมันให้นายหรือจะให้เอาไปส่งกับอาร์คเมจโดยตรงเลยหล่ะ?”
ลิงค์ถามชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นตัวปัญหา ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ยากจะโยนภาระนี้ให้กับนักรบเยือกแข็งและรีบออกไปจากที่นี่
แต่ว่าความจริงก็ทำให้เขาผิดหวังเทเรอโดวส่ายหัว “ท่านมหาจอมเวทย์บอกกับข้าว่าท่านต้องนำมันไปส่งให้เขาด้วยตัวเอง หน้าที่ของพวกเราคือการนำทางท่านไปให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ”
นี่ทำให้ลิงค์ขมวดคิ้ว“การเดินทางมันอันตรายขนาดนั้นเลยหรอ?”
ถ้าพวกเขาเป็นคนธรรมดาอาณาจักรหยางอาจจะส่งคนที่แข็งแกร่งมาอาณาจักรอารากู่เพื่อนโจมตีพวกเขา ยังไงก็ตาม พวกเขาต่างก็อยู่ระดับแนวหน้า และภพอารากู่ก็เป็นสนามเด็กเล่นของพวกเขา
แล้วจะมีอะไรเกิดขึ้นได้อีกหล่ะ? เทโรดอว์ส่ายหัว“ข้าเองก็ไม่รู้สึกถึงอันตรายอะไรเลย แต่ท่านมหาจอมเวทย์บอกว่าเขาสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังงานแห่งความมืดที่กำลังกัดกินภพอยู่ ความมืดนี้จะปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน ทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาว แต่ก็โชคไม่ดีที่เขากำลังติดพันอยู่กับอาร์คเมจเพลิงอยู่ ไม่อย่างนั้น เขาคงจะมาต้อนรับท่านด้วยตัวเองแล้ว”
ลิงค์ขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม“คลื่นแห่งความมืดหรอ? แถมยังปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน ทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาวด้วย? มีข้อมูลมากกว่านี้ไหม?”
เทโรดอว์ไม่ได้ตอบในทันทีเขามองไปที่ทุ่งสเลนด้าที่อยู่ด้านหลังลิงค์และพูดขึ้น “ท่านจอมเวทย์ครับ ที่นี่ไม่ปลอดภัย เอาเป็นว่าพวกเราข้ามแม่น้ำกันก่อนดีไหมครับ? ข้าจะอธิบายให้ฟังในระหว่างทาง”
“ไม่มีปัญหา”
เทโรดอว์ผิวปากแล้วแม่น้ำมังกรคลั่งก็สงบลงอย่างมาก หมอกที่ปกคลุมพื้นผิวของมันอยู่ก็เปิดออกแล้วเผยเส้นทางออกมาอย่างชัดเจน
“ตามข้ามาได้เลยครับแล้วก็ระวังอย่าไปสัมผัสกับหมอกนะครับ ท่านมหาจอมเวทย์เป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง มันเย็นมาก มันสามารถแช่แข็งได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งมิติก็ไม่เว้น ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมถึงห้ามส่งสัญญาณบริเวณนี้ครับ”
หลังจากนั้นเทโรดอว์ก็ใช้พลังของเขาและเริ่มเดินผ่านแม่น้ำไป
ทุกครั้งที่เขาก้าวน้ำที่อยู่ใต้เท้าเขาจะกลายเป็นน้ำแข็ง ในตอนที่ใต้เท้าของเขามีพื้นแข็งๆ เขาก็จะสามารถกระโดดไปข้างหน้าได้ และจากนั้นน้ำแข็งก็จะถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกราดกลืนกินไป ในอีกด้านนึง ลิงค์ใช้เดินอากาศในการลอยตามหลังไป สีหน้าของเขาสงบนิ่ง แต่จิตใจของเขากำลังว้าวุ่นอยู่ มันไม่ใช่เพราะแม่น้ำมังกรคลั่งแต่เป็นเพราะคำพูดของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง
อาร์คเมจนั้นมีวิญญาณที่กล้าแกร่งมากๆความรู้เกี่ยวกับกฎมิติเวลาของเขานั้นไปไกลเกินกว่าความเข้าใจของลิงค์ อาร์คเมจภูผาน้ำแข็งมองเห็นความมืดและบอกว่ามันจะทำลายดวงอาทิตย์และดวงดาว ซึ่งในอีกความหมายนึงก็คือ ภพนี้จะถูกทำลาย
และที่น่าเหลือเชื่อไปกว่านั้นก็คืออาร์คเมจเพลิงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความมืดนี้และยังอยากจะสู้ต่อเขาไม่สนใจเรื่องที่ภพกำลังจะถูกทำลายเลยหรอ หรือว่าเขาไม่อยากจะเป็นเทพแล้ว?
แล้วอีกอย่างนึงความมืดแบบไหนกันนะที่สามารถทำลายภพได้?
ความเป็นไปได้มากมายผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ในทันที
ความเป็นไปได้แรกก็คือราชันแห่งแสงของภพเฟดาโร่เขาเป็นเทพที่แท้จริงเพียงองค์เดียวที่ลิงค์รู้จัก เขามีความสามารถและแรงจูงใจมากพอที่จะทำแบบนั้นได้
ความเป็นไปได้ที่สองก็คืออุบัติเหตุทางเวทมนตร์อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในฟิรุแมนและแบ่งแยกภพเป็นสองส่วน และยังมีต้นไม้โลกที่สามารถรวมภพได้อีก ถ้าเกิดต้นไม้ทำผิดพลาด มันอาจจะทำให้เกิดภัยพิบัติเวทมนตร์ได้
ส่วนความเป็นไปได้ที่สามนั้นมีโอกาสเกิดน้อยทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจะมีเทพที่น่ากลัวองค์ไหนกระโจนเข้ามาในนี้จากที่ไหนซักแห่งรึเปล่า
เขาตกอยู่ในห้วงความคิดและลิงค์ก็มาถึงอีกฝั่งของแม่น้ำพร้อมกับเทโรดอว์
อย่างไรก็ตาม,จุดหมายที่พวกเขาจะไปนั้นไม่ใช่ป้อมมังกรคลั่ง มันอยู่ไกลกว่านั้นมาก ส่วนป้อมปราการนั้นอยู่ห่างออกไปอีกหลายไมล์และลิงค์ก็มองเห็นมันได้อย่างง่ายดาย
“นี่คือภารกิจลับครับ”เทโรดอว์อธิบาย “มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้คนธรรมดารู้เรื่องนี้ ถ้าเกิดพวกเขารู้ อาจจะทำให้เกิดปัญหามากขึ้นได้ครับ”
ลิงค์เห็นด้วย“แล้วพวกเราจะไปที่ไหนหล่ะ?” เขาถาม
เทโรดอว์ผิวปากอีกครั้งหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนๆนึงปรากฏตัวขึ้น คนๆนั้นสวมชุดเกราะคริสตัลสีน้ำเงินเหมือนกัน แต่ว่ามีรูปร่างสวยงามกว่า และมีผมยาวสีเงินด้วย พอสังเกตดูดีๆ ลิงค์ก็พบว่าเธอเป็นนักรบหญิง เธอสูงประมาณ 5 ฟุตและมีรูปร่างที่ผอมเพรียวเหมาะสำหรับนักรบ มีดาบขนาดใหญ่ห้อยอยู่ที่หลังของเธอซึ่งดูขัดแย้งกับรูปร่างของเธอมาก
นอกจากผมยาวสีเงินที่มัดเป็นหางม้าแล้วนักรบหญิงคนนี้ยังมีดวงตาสีน้ำเงินเข้มด้วย พวกมันดูลึกล้ำกว่าของเทโรดอว์ และดวงตาของเธอก็ดูสงบกว่า ส่วนเรื่องรูปร่างของเธอนั้นดูดีกว่าค่าเฉลี่ย แต่ก็ยังเทียบกับราชินีมังกรแดงหรือเซลีนไมได้
“ท่านหญิงผู้นี้มีนามว่าลิลลี่ครับ,เธอคือราชินีน้ำแข็งและแม่ทัพของนักรบเยือกแข็ง ซึ่งถือเป็นผู้บัญชาการโดยตรงของข้าครับ”
ลิงค์ค่อนข้างตกใจเขาคิดไม่ถึงเลยว่าผู้หญิงที่ผอมเพรียวคนนี้จะมีชื่อเหมือนกับวิญญาณหอคอยของเขาแถมยังเป็นแม่ทัพของนักรบเยือกแข็งอีก เธอดูไม่เหมือนกับคนที่ใหญ่โตระดับนั้นเลย
ลิลลี่ยิ้มใบหน้าของเธอเบ่งบานจนทำให้นึกถึงทุ่งหญ้าหิมะที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์เลย “ลอร์ดเฟิร์ด ข้ารู้สึกเป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบท่านค่ะ ข้าได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานของท่านมามากมายเลย”
เสียงของเธอนั้นสดใสเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านทุ่งหิมะมันได้ให้พลังงานกับลิงค์และทิ้งความประทับใจเอาไว้
ลิงค์พยักหน้าอยู่ในใจด้วยแรงกดดันทางจิตวิทยาที่รุนแรงเช่นนี้ เธอจะต้องอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 16 แน่ๆ ทักษะการต่อสู้ของเธอก็คงจะสุดยอดเหมือนกัน ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมเธอถึงเป็นผู้นำของพวกนักรบเยือกแข็งได้
“เก็บเรื่องเล็กๆน้อยๆเอาไว้คุยกันที่หลังดีกว่าพวกเรารีบไปกันเลยไหม?” ลิงค์ไม่อยากเสียเวลา
“ได้ค่ะเทโรดอว์กับข้าจะติดตามท่านไปด้วย เชิญตามมาทางนี้ค่ะ” ลิลลี่มีหน้าที่นำทางลิงค์ในขณะที่เทโรดอว์นั้นคอยตามหลัง ทั้งสามคนเริ่มเดินทางในทันที
ในระหว่างทางลิลลี่ก็อธิบายไปด้วย “ท่านอียีร์ อยู่ที่ป้อมปราการเหมันต์นิรันดรทางตะวันออกเฉียงเหนือ เขาอยู่ห่างกับพวกเราประมาณ 2,000 ไมล์ ถ้าพวกเราเดินทางด้วยความเร็วสูงสุด น่าจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ”
“เข้าใจแล้ว”ลิงค์พยักหน้า 2000 ไมล์นั้นไม่ได้ไกลมาก
หลังจากนั้นพวกเขาก็เดินทางกันเงียบๆ 1 ชั่วโมงผ่านไปและทั้งสามก็มาถึงทุ่งหญ้าเวอแดนท์ที่ใจกลางของอารากู่ ซึ่งมีลักษณะไม่ชอบมาพากลเอาซะเลย
ด้วยความที่มันเป็นใจกลางของอาณาจักรทั้งสามคนจึงค่อนข้างผ่อนคลาย แต่ถึงอย่างนั้นลิลลี่ก็หยุดลงกระทันหัน “นั่นอะไรหน่ะ”
ลิงค์มองออกไปและเห็นคนที่คุ้นเคย