Advent of the Archmage - 698: ช่างน่าอับอายจริงๆ
Chapter
เป้าหมายที่ซาโรวินี่มีมาโดยตลอดก็คือการทำตัวให้เป็นที่ถูกใจของพ่อเธอด้วยการฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นและชนะการต่อสู้เพราะนี้คือหนทางที่จะทำให้เธอได้รับความรักจากพ่อแต่เพียงผู้ดียว
เธอไม่ได้สนใจเรื่องการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างและความมืด,ความดีและความชั่วที่มีมาอย่างเนิ่นนานเลย
สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเธอในตอนนี้ก็คือการเอาชนะลิงค์!
ทันใดนั้นเอง,ท้องฟ้าก็มืดลงในขณะที่เขตแดนแผ่ขยายออกมารอบตัวเธอ การเคลื่อนไหวของเธอเองก็รวดเร็วมากจนร่างของเธอเบลอ
เมื่อสักครู่นี้,ซาโรวินี่อยู่ห่างจากลิงค์ไปหนึ่งไมล์ แต่วินาทีต่อมา, เธอก็มาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งเบื้องหน้าลิงค์, ดาบของเธอเล็งตรงมาที่หน้าผากของเขา ตั้งแต่ที่เธอได้รับชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวังจากพ่อของเธอ,เธอก็แข็งแกร่งขึ้นมากจนไม่มีใครในอารากู่สามารถเอาตัวรอดจากการต่อสู้ตรงๆกับเธอได้, ไม่แม้กระทั่งมิลด้า อย่างไรก็ตามอาร์คเมจทั้งสองคนนั้นเป็นข้อยกเว้น
ตอนนี้ดาบของซาโรวินี่อยู่ห่างจากลิงค์หนึ่งฟุตอากาศบิดเบือนที่อยู่ในวิถีของดาบนั้นทำให้เส้นผมของลิงค์ขยับ แต่ลิงค์ก็ยังไม่เคลื่อนไหวอยู่ดี
มีบางอย่างผิดปกติ…แย่หล่ะ,นี่มันเวทมนตร์ตัวล่อ! เธอคิด
ในที่สุดซาโรวินี่ก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเสี้ยววินาทีสุดท้ายเธอพยายามเหวี่ยงดาบออกด้านข้างในทันที
ในวินาทีต่อมา,ความหนาวเย็นอย่างรุนแรงก็แผ่มาหาเธอ จากนั้นดาบของเธอก็ได้สัมผัสกับพลังที่หนาแน่นและรุนแรงเข้า
ผลกระทบของมันนั้นทำให้ซาโรวินี่รู้สึกได้ถึงกระแสพลังเหมือนกับเข็มที่กำลังไหลมาตามดาบเข้ามาที่มือของเธอ,มันทำให้เธอรู้สึกชาขึ้นมา
กระแสพลังนี้ยังคงหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนมันลามไปทั้งแขนของเธอตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บจี้ดที่ท่อนแขน
ชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวังตอบสนองต่อพลังทะลุทะลวงที่เหมือนกับเข็มนี้ในทันที
ปัง!ร่างของซาโรวินี่กระเด็นไปยังทิศทางตรงข้ามเป็นระยะสามไมล์, มันเหมือนกับว่ามีบางอย่างกระแทกใส่เธออย่างรุนแรง
สีหน้าของเธอดูสับสนนี่มันเวทย์เลเวล 17!
ถ้าเธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของเลเวล16 และถ้าเธอไม่ได้สวมชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวัง, การโจมตีของลิงค์ก็คงจะฆ่าเธอในทันที
เธอหันหลังกลับไป,และมองหาลิงค์อย่างตาลีตาเหลือก ทันใดนั้นเอง, เสียงร้องอันเจ็บปวดก็ดังขึ้นมา มันมาจากลอสเต้, ซึ่งถูกลิงค์กระซวกเข้าที่หน้าอก
พลังแห่งความมืดแผ่ออกมาจากดาบลำนำจันทร์เต็มดวงเข้าไปในร่างของลอสเต้แม้จะมีฉายาว่า “เพลิงนภา”, แต่ชายคนนี้ก็อยู่แค่จุดสูงสุดของเลเวล 15 ดังนั้นพลังที่ไหลออกมาจากดาบของลิงค์จึงสยบไฟที่เขาปล่อยออกมาได้อย่างง่ายดาย
กริ้ง…กริ้ง…น้ำแข็งคริสตันสีดำเริ่มลามไปทั่วร่างของเขาจนถูกแช่แข็งไปทั้งตัว
“คุกเข่า!”ลิงค์เปิดใช้เวทย์วงกว้างด้วยการเหวี่ยงดาบของเขา, และบังคับให้ลอสเต้คุกเข่าลง จากนั้นเขาก็ส่งร่างที่ถูกแช่แข็งของลอสเต้ลอยไปคุกเข่าอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นน้ำแข็งของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง
ทุกคนที่อยู่ณ ที่นี้รู้สึกหนาววาบไปถึงสันหลังในตอนที่เห็นฉากที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม,ด้วยความที่เป็นนักสู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก, ทุกคนจึงฟื้นจากอาการตกใจได้อย่างรวดเร็วและทำการเคลื่อนไหวในทันที
มิลด้าเป็นคนแรกที่โจมตี
เธอชี้คทาแห่งการทำนายไปที่ลิงค์แล้วพึมพำออกมา“ท่านลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ทรงพิพากษาให้ขาของเจ้าจมลงไปในโคลนตม, ร่างของเจ้าจะอ่อนแอจนไม่สามารถจับดาบได้ตลอดชีวิต, และจิตใจของเจ้าก็จะจมลงไปในหลุมแห่งความบ้าคลั่ง!”
จำกัดการเคลื่อนไหว,อ่อนแรง, และคุ้มคลั่งคือผลทั้งสามที่มิลด้าทำนายให้ลิงค์
โดยปกตินั้น,ผลพวกนี้สามารถใช้เวทย์ทั่วๆไปร่ายออกมาได้ แต่ก็น่าเสียดายที่, ถ้าอีกฝ่ายมีความต้านทานเวทมนตร์ที่สูงพอคนๆนั้นก็จะสามารถต่อต้านได้ ในอีกด้านนึง, เวทย์ทำนายนั้นจะลบล้างได้ยาก แล้วพวกมันก็ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย เป้าหมายของเวทย์ประเภทนี้ก็คือการที่ต้องทนรับผลของมันนานเท่าที่เวทมนตร์จะมีผลอยู่
ครืน…ครืน…คลื่นพลังสีดำแผ่ออกมาจากคทาของมิลด้าและเข้าไปในความว่างเปล่าวินาทีต่อมา, ลิงค์ก็เริ่มรู้สึกถึงผลจากเวทมนตร์ของเธอ พละกำลังของเขากำลังหายไป, เท้าของเขาก็รู้สึกเหมือนติดอยู่ในโคลน, และมีความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในหัวของเขาจนแทบจะทำให้เขาเป็นบ้า!
ถ้าลิงค์เป็นแค่นักรบ,ต่อให้มีพลังเลเวล 17, เขาก็คงจะไม่สามารถจัดการกับเวทย์ทำนายแบบนี้ในขณะที่ถูกศัตรูล้อมได้
แต่ก็โชคดีที่เขาเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจผู้ซึ่งเคยศึกษาเวทมนตร์มาทุกแขนง,ไม่ว่าจะเป็นเวทย์ธาตุ, เวทย์มิติ, เวทย์กาลเวลา, และแม้กระทั่งเวทย์วิญญาณ เขาสามารถค้ำจุนจิตใจของตัวเองจากการโจมตีของมิลด้าได้ทันเวลา
‘จงปล่อยใจให้ยังคงเป็นดั่งดวงจันทร์ในมหาสมุทรคลั่งของสติ,จงปล่อยมันให้จดจ่ออยู่กับจิตวิญญาณ’ นี่คือเวทย์วิญญาณจากหนังสือแห่งการเปิดเผย มันเหมือนกับคำสอนจากคู่มือศิลปะการต่อสู้
ก่อนหน้านี้,แม้ว่าลิงค์จะเข้าใจความหมายในแต่ละคำของมัน, แต่เขาก็ไม่เคยเอาเวทย์นี้มาฝึกได้เลย แต่ตอนนี้พอพลังมาถึงเลเวล 17, วิธีการใช้เวทย์ก็ถูกประมวลผลออกมาในหัวของเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ในโลกนี้สติปัญญากับพลังนั้นมักจะเชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิดบางสิ่งจะสามารถเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อมีมุมมองที่กว้างพอ
ด้วยการเปิดใช้เวทย์วิญญาณนี้,จิตใจของเขาก็สามารถทนรับความคิดอันบ้าคลั่งที่ยังคงวุ่นวายอยู่ในหัวของเขาได้ และพอได้ความเยือกเย็นกลับคืนมา, ลิงค์ก็เปิดใช้ผลจิตทมิฬของมงกุฎราตรีนิรันดร์และเริ่มใช้เวทมนตร์กาลเวลา
เวทมนตร์การเวลานั้นไม่ใช่แขนงที่ลิงค์เชี่ยวชาญที่สุดแต่มันก็ไม่เป็นปัญหา เวทย์ทำนายนั้นส่วนใหญ่มักจะมีผลตามเส้นเวลาที่กำหนดเอาไว้จนกว่าจะไปถึงเป้าหมายของพวกมัน ดังนั้นถ้าทำลายเส้นเวลาของเวทย์ได้, เขาก็จะสามารถลบล้างมันได้อย่างสมบูรณ์ สายตาของลิงค์เริ่มเปล่งแสงสีเงินดำออกมาตอนนี้เขามองเห็นกระแสเวลาเบื้องหน้าเขาอย่างชัดเจน
จากนั้นลิงค์ก็สบัดดาบ,แล้วปล่อยแสงจันทร์เสี้ยวสีเงินออกไป
การเคลื่อนไหวของลิงค์นั้นอาจจะดูเหมือนกับการสุ่มโจมตีซาโรวินี่และอัศวินลาวาอีกสองคนอย่างไรก็ตาม, สายตาของมิลด้าเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจในทันทีที่เธอรู้ถึงสิ่งที่ลิงค์ทำ คทาแห่งการทำนายของเธอมีรอยร้าว, และเวทย์ของเธอก็ถูกลบล้าง
ศัตรูของเธอสามารถตอบโต้เทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอได้
เจ้าจะแข็งแกร่งไปถึงไหนกันเนี่ย,ลิงค์? ตอนนี้มิลด้ามองลิงค์ด้วยความหวาดกลัว เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน, พวกเขาได้เข้ามาในภพอารากู่โดยที่ยังไม่มีประสบการณ์ หนึ่งร้อยปีต่อมา, เธอก็กลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิง เธอเชื่อมาโดยตลอดว่าเธอได้ก้าวข้ามลิงค์ไปแล้วในแง่ของพลัง แต่เธอก็หารู้ไม่ว่าเขานั้นสามารถแข็งแกร่งกว่าเธอได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเช่นนี้
แม้ว่าเวทมนตร์ของเธอจะถูกลิงค์ทำลายไปแล้ว,แต่มันก็สามารถลดการป้องกันของลิงค์ได้มากพอที่จะให้ซาโรวินี่กับอัศวินลาวาอีกสองคนออกเคลื่อนไหวเพื่อฆ่าเขาได้
มีแสงสามเส้นพุ่งเข้ามาหาลิงค์จากรอบทิศทางพวกเขาทั้งสามคนรู้ว่าไม่มีหวังที่จะเอาชนะเขาด้วยการต่อสู้ตัวต่อตัวได้ มีแค่การโจมตีพร้อมกันเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสชนะ
นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเขาในการโค่นลิงค์!
หลังจากที่รับมือกับซาโรวินี่ในตอนแรก,ฆ่าเพลิงนภาลอสเต้และลบล้างเวทย์ทำนายของมิลด้าแล้ว, ตอนนี้หัวของลิงค์ก็โล่งขึ้นเยอะ มันไม่มีร่องรอยของความกลัวอยู่ในจิตใจของเขาเลยในขณะที่เขามองศัตรูทั้งหลายที่กำลังเข้ามาหาเขา ในทางกลับกัน, ตอนนี้เขารู้สึกไฟติดมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ด้วยผลจิตทมิฬที่เปิดใช้งานอยู่,ตอนนี้ความคิดของเขาก็กำลังผสานกับจิตใจอย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วจนพวกเขาทั้งสามคนดูเหมือนกับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า
เขาสามารถตอบโต้กับชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวังของซาโรวินี่และเอาชนะเธอได้ด้วยการตัดขาดกระแสของเวลา
ผลการจุติแห่งความมืดขั้นสูงสุดถูกเปิดใช้งานมีคริสตัลสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วทั้งร่างของเขาจนเกิดเป็นชุดคลุมต่อสู้ที่ทำมาจากคริสตัลสีดำ ตอนนี้ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีเงินดำ
ณเวลานี้เอง, การโจมตีของทั้งสามคนก็ใกล้จะปักดาบเข้ามาในร่างของเขาแล้ว
ซึ่งในตอนนี้มือขวาของลิงค์ก็กำลังกวัดแกว่งดาบด้วยความเร็วที่มองไม่เห็น,ในขณะที่มีวงรูนปรากฎขึ้นที่มือซ้ายของเขา, และอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนเถาวัลย์สีดำออกมา ‘เถาวัล’ นี้ไม่เพียงแค่จะทำหน้าที่เป็นโล่ป้องกันให้ลิงค์เท่านั้น, แต่พวกมันยังเป็นดาบยาวให้เขาเพื่อเพิ่มพลังโจมตีด้วย
นี่คือฉากที่แสดงอยู่เบื้องหน้ามิลด้า:ก่อนที่จะมีคนไปถึงตัวลิงค์, บางสิ่งที่มีสีดำก็ระเบิดจากจุดที่เขายืนอยู่ ทันใดนั้นเอง, อัศวินลาวาทั้งสองคนก็ถูกซัดกระเด็นไปยังทิศทางตรงกันข้ามด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ มีแค่ซาโรวินี่เท่านั้นที่สามารถรับการโจมตีของลิงค์ได้เป็นเวลาครึ่งวินาทีก่อนที่เธอจะถูกซัดกระเด็นไปเหมือนกัน และในตอนที่เห็นว่าสู้ยังไงก็แพ้แน่ๆ, ซาโรวินี่ก็ตัดสินใจที่จะหันหลังหนีเอาชีวิตรอด
จากนั้นลิงค์ก็เปิดใช้เทคนิคเปลวเพลิงวิญญาณ
ตอนนี้อัศวินลาวาทั้งสองคนกำลังเปล่งแสงสีแดงออกมาจากนั้นแสงก็หลุดออกจากร่างของพวกเขาและเข้ามาในร่างของลิงค์
ตูม!ตูม! อัศวินลาวาทั้งสองคนถูกซัดกระเด็นตกน้ำทะเลที่อยู่ข้างใต้พวกเขา ในตอนที่หันไปมอง, มิลด้าก็เห็นว่าร่างของพวกเขาถูกแรงกระแทกอัดจนเละเกินกว่าที่จะจำหน้าตาได้ พวกเขาทั้งสองคนจากไปแล้ว
อัศวินลาวาสองคนถูกฆ่า,ในขณะที่ซาโรวินี่หนีเอาชีวิตรอด ตอนนี้มีแค่ลิงค์ที่ยังคงยืนอยู่โดยไม่มีบาดแผลอะไรเลย
ในขณะที่สายลมหอนพัดผ่านลิงค์ก็มายืนอยู่เบื้องหน้ามิลด้า เขาปัดคทาออกจากมือของเธอด้วยการสะบัดดาบแล้วเอาปลายดาบมาจ่อที่ใต้คางของเธอ
ด้วยความที่เวทย์ที่ทรงพลังที่สุดของเธอถูกลิงค์โต้กลับได้อย่างง่ายดาย,มิลด้าในตอนนี้จึงไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
“เจ้าจะฆ่าข้าด้วยหรอ?”มิลด้าถาม
“แล้วตอนนี้เธอยังถอนตัวออกจากลัทธิเพลิงทันอยู่รึเปล่าหล่ะ?”ลิงค์ถาม
“คงจะไม่ทันแล้ว”มิลด้าตอบกลับพร้อมกับส่ายหัว เธอได้ทุ่มเทเวลากว่าหนึ่งร้อยปีให้ลัทธิเพลิง ตอนนี้มันไม่มีทางที่เธอจะหันหลังกลับได้แล้ว
“ถ้างั้นก็โชคร้ายหน่อยนะ” ด้วยการเคลื่อนไหวอันไร้ที่ติ,ลิงค์ก็สบัดดาบผ่านคอของมิลด้า, ทำให้ศรีษะของเธอกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นเขาก็ลอยขึ้นไปคว้ามันกลางอากาศแล้วเปิดใช้เทคนิคเพลิงวิญญาณในทันที
เหมือนกับอัศวินลาวาสองคนก่อนหน้าเธอ,แสงสีแดงจากวิญญาณของมิลด้าลอยออกมาจากศรีษะของเธอแล้วเข้ามาในร่างของลิงค์ หลังจากที่ดูดวิญญาณของมิลด้ากับอัศวินลาทั้งสองคนมาด้วยพลังแห่งความมืดแล้ว, ตอนนี้พลังของเขาก็ไปถึงขั้นกลางของเลเวล 17
ร่างไร้ศรีษะของมิลด้าล้มลงกับพื้นจากนั้นด้วยการฟันไม่กี่ครั้ง, ลิงค์ก็ทำให้ร่างนั้นกลายเป็นเศษฝุ่นจากระยะไกล
เขาถอนหายใจออกมาหลังจากที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆเป็นเวลาพักนึง, เขาก็ลองเปิดประตูข้ามภพอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม, มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ลิงค์ขมวดคิ้วแซสเตอร์ยังปิดกั้นภพเอาไว้อยู่ ถ้าเขาฟื้นฟลังกลับมาได้, ฉันเจอปัญหาแน่…ตอนนี้ฉันจะเอายังไงดี?
ทันใดนั้นเอง,ความคิดบ้าๆก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ในเมื่อนายยังคิดจะไล่ล่าฉันไม่เลิกแบบนี้, นายก็ทำให้ฉันไม่มีทางเลือกเองนะ!
แผนการของเขานั้นบ้ามากจริงๆอย่างไรก็ตาม, เส้นขั้นระหว่างความบ้ากับความยอดเยี่ยมนั้นมักจะไม่ชัดเจนเสมอ
ฉันยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้เวทย์เลเวล16 ที่พึ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่เลย…จากที่ดูแล้ว, มันน่าจะยังพอมีพื้นที่ให้พัฒนาอยู่นะ ฉันน่าจะพัฒนาไปในระหว่างทางได้, ลิงค์คิดในขณะที่บินไปทางอาณาจักรหยาง ใครจะรู้หล่ะ, โอกาสใช้มันอาจจะโผล่ขึ้นมาเองในขณะที่ฉันไล่กวาดล้างสาวกของแซสเตอร์ก็ได้!
เป้าหมายที่ซาโรวินี่มีมาโดยตลอดก็คือการทำตัวให้เป็นที่ถูกใจของพ่อเธอด้วยการฝึกฝนให้แข็งแกร่งขึ้นและชนะการต่อสู้เพราะนี้คือหนทางที่จะทำให้เธอได้รับความรักจากพ่อแต่เพียงผู้ดียว
เธอไม่ได้สนใจเรื่องการต่อสู้ระหว่างแสงสว่างและความมืด,ความดีและความชั่วที่มีมาอย่างเนิ่นนานเลย
สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวของเธอในตอนนี้ก็คือการเอาชนะลิงค์!
ทันใดนั้นเอง,ท้องฟ้าก็มืดลงในขณะที่เขตแดนแผ่ขยายออกมารอบตัวเธอ การเคลื่อนไหวของเธอเองก็รวดเร็วมากจนร่างของเธอเบลอ
เมื่อสักครู่นี้,ซาโรวินี่อยู่ห่างจากลิงค์ไปหนึ่งไมล์ แต่วินาทีต่อมา, เธอก็มาปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งเบื้องหน้าลิงค์, ดาบของเธอเล็งตรงมาที่หน้าผากของเขา ตั้งแต่ที่เธอได้รับชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวังจากพ่อของเธอ,เธอก็แข็งแกร่งขึ้นมากจนไม่มีใครในอารากู่สามารถเอาตัวรอดจากการต่อสู้ตรงๆกับเธอได้, ไม่แม้กระทั่งมิลด้า อย่างไรก็ตามอาร์คเมจทั้งสองคนนั้นเป็นข้อยกเว้น
ตอนนี้ดาบของซาโรวินี่อยู่ห่างจากลิงค์หนึ่งฟุตอากาศบิดเบือนที่อยู่ในวิถีของดาบนั้นทำให้เส้นผมของลิงค์ขยับ แต่ลิงค์ก็ยังไม่เคลื่อนไหวอยู่ดี
มีบางอย่างผิดปกติ…แย่หล่ะ,นี่มันเวทมนตร์ตัวล่อ! เธอคิด
ในที่สุดซาโรวินี่ก็รู้สึกได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเสี้ยววินาทีสุดท้ายเธอพยายามเหวี่ยงดาบออกด้านข้างในทันที
ในวินาทีต่อมา,ความหนาวเย็นอย่างรุนแรงก็แผ่มาหาเธอ จากนั้นดาบของเธอก็ได้สัมผัสกับพลังที่หนาแน่นและรุนแรงเข้า
ผลกระทบของมันนั้นทำให้ซาโรวินี่รู้สึกได้ถึงกระแสพลังเหมือนกับเข็มที่กำลังไหลมาตามดาบเข้ามาที่มือของเธอ,มันทำให้เธอรู้สึกชาขึ้นมา
กระแสพลังนี้ยังคงหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนมันลามไปทั้งแขนของเธอตอนนี้เธอรู้สึกเจ็บจี้ดที่ท่อนแขน
ชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวังตอบสนองต่อพลังทะลุทะลวงที่เหมือนกับเข็มนี้ในทันที
ปัง!ร่างของซาโรวินี่กระเด็นไปยังทิศทางตรงข้ามเป็นระยะสามไมล์, มันเหมือนกับว่ามีบางอย่างกระแทกใส่เธออย่างรุนแรง
สีหน้าของเธอดูสับสนนี่มันเวทย์เลเวล 17!
ถ้าเธอไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของเลเวล16 และถ้าเธอไม่ได้สวมชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวัง, การโจมตีของลิงค์ก็คงจะฆ่าเธอในทันที
เธอหันหลังกลับไป,และมองหาลิงค์อย่างตาลีตาเหลือก ทันใดนั้นเอง, เสียงร้องอันเจ็บปวดก็ดังขึ้นมา มันมาจากลอสเต้, ซึ่งถูกลิงค์กระซวกเข้าที่หน้าอก
พลังแห่งความมืดแผ่ออกมาจากดาบลำนำจันทร์เต็มดวงเข้าไปในร่างของลอสเต้แม้จะมีฉายาว่า “เพลิงนภา”, แต่ชายคนนี้ก็อยู่แค่จุดสูงสุดของเลเวล 15 ดังนั้นพลังที่ไหลออกมาจากดาบของลิงค์จึงสยบไฟที่เขาปล่อยออกมาได้อย่างง่ายดาย
กริ้ง…กริ้ง…น้ำแข็งคริสตันสีดำเริ่มลามไปทั่วร่างของเขาจนถูกแช่แข็งไปทั้งตัว
“คุกเข่า!”ลิงค์เปิดใช้เวทย์วงกว้างด้วยการเหวี่ยงดาบของเขา, และบังคับให้ลอสเต้คุกเข่าลง จากนั้นเขาก็ส่งร่างที่ถูกแช่แข็งของลอสเต้ลอยไปคุกเข่าอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นน้ำแข็งของอาร์คเมจภูผาน้ำแข็ง
ทุกคนที่อยู่ณ ที่นี้รู้สึกหนาววาบไปถึงสันหลังในตอนที่เห็นฉากที่เพิ่งจะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม,ด้วยความที่เป็นนักสู้ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก, ทุกคนจึงฟื้นจากอาการตกใจได้อย่างรวดเร็วและทำการเคลื่อนไหวในทันที
มิลด้าเป็นคนแรกที่โจมตี
เธอชี้คทาแห่งการทำนายไปที่ลิงค์แล้วพึมพำออกมา“ท่านลอร์ดผู้ยิ่งใหญ่ทรงพิพากษาให้ขาของเจ้าจมลงไปในโคลนตม, ร่างของเจ้าจะอ่อนแอจนไม่สามารถจับดาบได้ตลอดชีวิต, และจิตใจของเจ้าก็จะจมลงไปในหลุมแห่งความบ้าคลั่ง!”
จำกัดการเคลื่อนไหว,อ่อนแรง, และคุ้มคลั่งคือผลทั้งสามที่มิลด้าทำนายให้ลิงค์
โดยปกตินั้น,ผลพวกนี้สามารถใช้เวทย์ทั่วๆไปร่ายออกมาได้ แต่ก็น่าเสียดายที่, ถ้าอีกฝ่ายมีความต้านทานเวทมนตร์ที่สูงพอคนๆนั้นก็จะสามารถต่อต้านได้ ในอีกด้านนึง, เวทย์ทำนายนั้นจะลบล้างได้ยาก แล้วพวกมันก็ไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย เป้าหมายของเวทย์ประเภทนี้ก็คือการที่ต้องทนรับผลของมันนานเท่าที่เวทมนตร์จะมีผลอยู่
ครืน…ครืน…คลื่นพลังสีดำแผ่ออกมาจากคทาของมิลด้าและเข้าไปในความว่างเปล่าวินาทีต่อมา, ลิงค์ก็เริ่มรู้สึกถึงผลจากเวทมนตร์ของเธอ พละกำลังของเขากำลังหายไป, เท้าของเขาก็รู้สึกเหมือนติดอยู่ในโคลน, และมีความคิดนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในหัวของเขาจนแทบจะทำให้เขาเป็นบ้า!
ถ้าลิงค์เป็นแค่นักรบ,ต่อให้มีพลังเลเวล 17, เขาก็คงจะไม่สามารถจัดการกับเวทย์ทำนายแบบนี้ในขณะที่ถูกศัตรูล้อมได้
แต่ก็โชคดีที่เขาเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจผู้ซึ่งเคยศึกษาเวทมนตร์มาทุกแขนง,ไม่ว่าจะเป็นเวทย์ธาตุ, เวทย์มิติ, เวทย์กาลเวลา, และแม้กระทั่งเวทย์วิญญาณ เขาสามารถค้ำจุนจิตใจของตัวเองจากการโจมตีของมิลด้าได้ทันเวลา
‘จงปล่อยใจให้ยังคงเป็นดั่งดวงจันทร์ในมหาสมุทรคลั่งของสติ,จงปล่อยมันให้จดจ่ออยู่กับจิตวิญญาณ’ นี่คือเวทย์วิญญาณจากหนังสือแห่งการเปิดเผย มันเหมือนกับคำสอนจากคู่มือศิลปะการต่อสู้
ก่อนหน้านี้,แม้ว่าลิงค์จะเข้าใจความหมายในแต่ละคำของมัน, แต่เขาก็ไม่เคยเอาเวทย์นี้มาฝึกได้เลย แต่ตอนนี้พอพลังมาถึงเลเวล 17, วิธีการใช้เวทย์ก็ถูกประมวลผลออกมาในหัวของเขาได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ในโลกนี้สติปัญญากับพลังนั้นมักจะเชื่อมต่อกันอย่างใกล้ชิดบางสิ่งจะสามารถเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อมีมุมมองที่กว้างพอ
ด้วยการเปิดใช้เวทย์วิญญาณนี้,จิตใจของเขาก็สามารถทนรับความคิดอันบ้าคลั่งที่ยังคงวุ่นวายอยู่ในหัวของเขาได้ และพอได้ความเยือกเย็นกลับคืนมา, ลิงค์ก็เปิดใช้ผลจิตทมิฬของมงกุฎราตรีนิรันดร์และเริ่มใช้เวทมนตร์กาลเวลา
เวทมนตร์การเวลานั้นไม่ใช่แขนงที่ลิงค์เชี่ยวชาญที่สุดแต่มันก็ไม่เป็นปัญหา เวทย์ทำนายนั้นส่วนใหญ่มักจะมีผลตามเส้นเวลาที่กำหนดเอาไว้จนกว่าจะไปถึงเป้าหมายของพวกมัน ดังนั้นถ้าทำลายเส้นเวลาของเวทย์ได้, เขาก็จะสามารถลบล้างมันได้อย่างสมบูรณ์ สายตาของลิงค์เริ่มเปล่งแสงสีเงินดำออกมาตอนนี้เขามองเห็นกระแสเวลาเบื้องหน้าเขาอย่างชัดเจน
จากนั้นลิงค์ก็สบัดดาบ,แล้วปล่อยแสงจันทร์เสี้ยวสีเงินออกไป
การเคลื่อนไหวของลิงค์นั้นอาจจะดูเหมือนกับการสุ่มโจมตีซาโรวินี่และอัศวินลาวาอีกสองคนอย่างไรก็ตาม, สายตาของมิลด้าเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจในทันทีที่เธอรู้ถึงสิ่งที่ลิงค์ทำ คทาแห่งการทำนายของเธอมีรอยร้าว, และเวทย์ของเธอก็ถูกลบล้าง
ศัตรูของเธอสามารถตอบโต้เทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอได้
เจ้าจะแข็งแกร่งไปถึงไหนกันเนี่ย,ลิงค์? ตอนนี้มิลด้ามองลิงค์ด้วยความหวาดกลัว เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อน, พวกเขาได้เข้ามาในภพอารากู่โดยที่ยังไม่มีประสบการณ์ หนึ่งร้อยปีต่อมา, เธอก็กลายเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเพลิง เธอเชื่อมาโดยตลอดว่าเธอได้ก้าวข้ามลิงค์ไปแล้วในแง่ของพลัง แต่เธอก็หารู้ไม่ว่าเขานั้นสามารถแข็งแกร่งกว่าเธอได้ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเช่นนี้
แม้ว่าเวทมนตร์ของเธอจะถูกลิงค์ทำลายไปแล้ว,แต่มันก็สามารถลดการป้องกันของลิงค์ได้มากพอที่จะให้ซาโรวินี่กับอัศวินลาวาอีกสองคนออกเคลื่อนไหวเพื่อฆ่าเขาได้
มีแสงสามเส้นพุ่งเข้ามาหาลิงค์จากรอบทิศทางพวกเขาทั้งสามคนรู้ว่าไม่มีหวังที่จะเอาชนะเขาด้วยการต่อสู้ตัวต่อตัวได้ มีแค่การโจมตีพร้อมกันเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขามีโอกาสชนะ
นี่คือโอกาสสุดท้ายของพวกเขาในการโค่นลิงค์!
หลังจากที่รับมือกับซาโรวินี่ในตอนแรก,ฆ่าเพลิงนภาลอสเต้และลบล้างเวทย์ทำนายของมิลด้าแล้ว, ตอนนี้หัวของลิงค์ก็โล่งขึ้นเยอะ มันไม่มีร่องรอยของความกลัวอยู่ในจิตใจของเขาเลยในขณะที่เขามองศัตรูทั้งหลายที่กำลังเข้ามาหาเขา ในทางกลับกัน, ตอนนี้เขารู้สึกไฟติดมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ด้วยผลจิตทมิฬที่เปิดใช้งานอยู่,ตอนนี้ความคิดของเขาก็กำลังผสานกับจิตใจอย่างคล่องแคล่วและรวดเร็วจนพวกเขาทั้งสามคนดูเหมือนกับเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้า
เขาสามารถตอบโต้กับชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความสิ้นหวังของซาโรวินี่และเอาชนะเธอได้ด้วยการตัดขาดกระแสของเวลา
ผลการจุติแห่งความมืดขั้นสูงสุดถูกเปิดใช้งานมีคริสตัลสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนกระจายไปทั่วทั้งร่างของเขาจนเกิดเป็นชุดคลุมต่อสู้ที่ทำมาจากคริสตัลสีดำ ตอนนี้ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีเงินดำ
ณเวลานี้เอง, การโจมตีของทั้งสามคนก็ใกล้จะปักดาบเข้ามาในร่างของเขาแล้ว
ซึ่งในตอนนี้มือขวาของลิงค์ก็กำลังกวัดแกว่งดาบด้วยความเร็วที่มองไม่เห็น,ในขณะที่มีวงรูนปรากฎขึ้นที่มือซ้ายของเขา, และอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะเหมือนเถาวัลย์สีดำออกมา ‘เถาวัล’ นี้ไม่เพียงแค่จะทำหน้าที่เป็นโล่ป้องกันให้ลิงค์เท่านั้น, แต่พวกมันยังเป็นดาบยาวให้เขาเพื่อเพิ่มพลังโจมตีด้วย
นี่คือฉากที่แสดงอยู่เบื้องหน้ามิลด้า:ก่อนที่จะมีคนไปถึงตัวลิงค์, บางสิ่งที่มีสีดำก็ระเบิดจากจุดที่เขายืนอยู่ ทันใดนั้นเอง, อัศวินลาวาทั้งสองคนก็ถูกซัดกระเด็นไปยังทิศทางตรงกันข้ามด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ มีแค่ซาโรวินี่เท่านั้นที่สามารถรับการโจมตีของลิงค์ได้เป็นเวลาครึ่งวินาทีก่อนที่เธอจะถูกซัดกระเด็นไปเหมือนกัน และในตอนที่เห็นว่าสู้ยังไงก็แพ้แน่ๆ, ซาโรวินี่ก็ตัดสินใจที่จะหันหลังหนีเอาชีวิตรอด
จากนั้นลิงค์ก็เปิดใช้เทคนิคเปลวเพลิงวิญญาณ
ตอนนี้อัศวินลาวาทั้งสองคนกำลังเปล่งแสงสีแดงออกมาจากนั้นแสงก็หลุดออกจากร่างของพวกเขาและเข้ามาในร่างของลิงค์
ตูม!ตูม! อัศวินลาวาทั้งสองคนถูกซัดกระเด็นตกน้ำทะเลที่อยู่ข้างใต้พวกเขา ในตอนที่หันไปมอง, มิลด้าก็เห็นว่าร่างของพวกเขาถูกแรงกระแทกอัดจนเละเกินกว่าที่จะจำหน้าตาได้ พวกเขาทั้งสองคนจากไปแล้ว
อัศวินลาวาสองคนถูกฆ่า,ในขณะที่ซาโรวินี่หนีเอาชีวิตรอด ตอนนี้มีแค่ลิงค์ที่ยังคงยืนอยู่โดยไม่มีบาดแผลอะไรเลย
ในขณะที่สายลมหอนพัดผ่านลิงค์ก็มายืนอยู่เบื้องหน้ามิลด้า เขาปัดคทาออกจากมือของเธอด้วยการสะบัดดาบแล้วเอาปลายดาบมาจ่อที่ใต้คางของเธอ
ด้วยความที่เวทย์ที่ทรงพลังที่สุดของเธอถูกลิงค์โต้กลับได้อย่างง่ายดาย,มิลด้าในตอนนี้จึงไร้พลังเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
“เจ้าจะฆ่าข้าด้วยหรอ?”มิลด้าถาม
“แล้วตอนนี้เธอยังถอนตัวออกจากลัทธิเพลิงทันอยู่รึเปล่าหล่ะ?”ลิงค์ถาม
“คงจะไม่ทันแล้ว”มิลด้าตอบกลับพร้อมกับส่ายหัว เธอได้ทุ่มเทเวลากว่าหนึ่งร้อยปีให้ลัทธิเพลิง ตอนนี้มันไม่มีทางที่เธอจะหันหลังกลับได้แล้ว
“ถ้างั้นก็โชคร้ายหน่อยนะ” ด้วยการเคลื่อนไหวอันไร้ที่ติ,ลิงค์ก็สบัดดาบผ่านคอของมิลด้า, ทำให้ศรีษะของเธอกระเด็นขึ้นไปบนฟ้า จากนั้นเขาก็ลอยขึ้นไปคว้ามันกลางอากาศแล้วเปิดใช้เทคนิคเพลิงวิญญาณในทันที
เหมือนกับอัศวินลาวาสองคนก่อนหน้าเธอ,แสงสีแดงจากวิญญาณของมิลด้าลอยออกมาจากศรีษะของเธอแล้วเข้ามาในร่างของลิงค์ หลังจากที่ดูดวิญญาณของมิลด้ากับอัศวินลาทั้งสองคนมาด้วยพลังแห่งความมืดแล้ว, ตอนนี้พลังของเขาก็ไปถึงขั้นกลางของเลเวล 17
ร่างไร้ศรีษะของมิลด้าล้มลงกับพื้นจากนั้นด้วยการฟันไม่กี่ครั้ง, ลิงค์ก็ทำให้ร่างนั้นกลายเป็นเศษฝุ่นจากระยะไกล
เขาถอนหายใจออกมาหลังจากที่ลอยค้างอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆเป็นเวลาพักนึง, เขาก็ลองเปิดประตูข้ามภพอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม, มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
ลิงค์ขมวดคิ้วแซสเตอร์ยังปิดกั้นภพเอาไว้อยู่ ถ้าเขาฟื้นฟลังกลับมาได้, ฉันเจอปัญหาแน่…ตอนนี้ฉันจะเอายังไงดี?
ทันใดนั้นเอง,ความคิดบ้าๆก็ผุดขึ้นมาในหัวของเขา ในเมื่อนายยังคิดจะไล่ล่าฉันไม่เลิกแบบนี้, นายก็ทำให้ฉันไม่มีทางเลือกเองนะ!
แผนการของเขานั้นบ้ามากจริงๆอย่างไรก็ตาม, เส้นขั้นระหว่างความบ้ากับความยอดเยี่ยมนั้นมักจะไม่ชัดเจนเสมอ
ฉันยังไม่มีโอกาสได้ลองใช้เวทย์เลเวล16 ที่พึ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่เลย…จากที่ดูแล้ว, มันน่าจะยังพอมีพื้นที่ให้พัฒนาอยู่นะ ฉันน่าจะพัฒนาไปในระหว่างทางได้, ลิงค์คิดในขณะที่บินไปทางอาณาจักรหยาง ใครจะรู้หล่ะ, โอกาสใช้มันอาจจะโผล่ขึ้นมาเองในขณะที่ฉันไล่กวาดล้างสาวกของแซสเตอร์ก็ได้!