Advent of the Archmage - 706 รวมภพ (6)
Chapter
เรย์มอนด์มอร์เกนสตาร์เป็นพ่อของทีโอดอร์, ไฮเอลฟ์ผู้กล้าในอดีตกาล
ทุกวันนี้มีไม่กี่คนที่จะใส่ใจกับชื่อนี้เพราะส่วนใหญ่จะเรียกเขาว่า ‘อ้วนมอนด์’ เนื่องจากจำนวนลูกเต้าและความเจ้าชู้ของเขา
แต่ก็แน่นอนว่า,พวกเขาจะเรียกชื่อแบบนี้แค่ลับหลังเขาเท่านั้น ในฐานะผู้อาวุโสของบ้านมอร์เกนสตาร์, เรย์มอนด์ มอร์เกนสตาร์เองก็มีที่นั่งในสภาผู้อาวุโสไฮเอลฟ์เหมือนกัน แม้เขาจะมีเรื่องอื้อฉาวมากมาย, แต่ชื่อตระกูลมอร์เกนสตาร์ก็ทำให้ชายแก่คนนี้มีพื้นที่ในแวดวงการเมืองของไฮเอลฟ์
ผู้อาวุโสเรย์มอนด์รู้สึกดีใจมากกับการกลับมาของทีโอดอร์,ที่ความจริงแล้วเป็นลิงค์ปลอมตัวมา เขาตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ให้กับลูกชายของเขา, และส่งจดหมายเชิญไปให้ตระกูลขุนนางทั้งหมดที่อยู่ในอันวาร์ คืนนี้,ทุกคนได้มารวมตัวกันที่คฤหาสน์ของมอร์เกนสตาร์ งานเลี้ยงดูมีชีวิตชีวาในตอนแรก อย่างไรก็ตาม, มันก็เริ่มแตกต่างออกไปในตอนที่เรย์มอนด์เริ่มม่อแขกผู้หญิง
ลิงค์ไม่ได้เข้าร่วมกับเขาเขาแค่มองอยู่ที่มุมๆนึงอย่างเฉยชา
ไฮเอลฟ์อาวุโสทั้งแปดคนได้แต่งตัวมาเต็มยศสำหรับงานเลี้ยงนี้พวกเขาทุกคนล้วนมีตำแหน่งสำคัญในอันวาร์ อย่างไรก็ตาม, นิสัยของพวกเขาในคืนนี้น่าอับอายไม่ต่างไปจากเรย์มอนด์เลย พวกเขาแต่ละคนล้วนมีผู้หญิงแนบอยู่ข้างกายทั้งสองฝั่ง มันดูเหมือนกับว่าพวกเขาได้โยนความเป็นผู้ดีทั้งหมดออกนอกหน้าต่างไปแล้ว
ไฮเอลฟ์หนุ่มสาวเองก็มาโชว์ตัวที่งานนี้เป็นจำนวนมากพวกเขาส่วนใหญ่ได้สลัดคราบผู้ดีที่พวกเขารักษาเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าสามัญชนทิ้งไป พวกเขาบางคนดิ้นและสบัดไปมาด้วยลีลาการเต้นที่บ้าคลั่ง บางคนร้องตะโกนออกมาสุดเสียงจนเสียงของพวกเขาแหบแห้งบางคนเมาจนไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และในที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็ตกสู่ความวุ่นวาย
ความมั่งคั่งและความไร้การพัฒนากว่า3,000 ปีของไฮเอลฟ์ชั้นสูงนั้นได้นำความเสื่อมเสียมาให้กับสังคมชั้นสูงของไฮเอลฟ์, ไม่เว้นแม้กระทั่งในโลกเกมส์ ลิงค์ค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยในตอนที่ได้เห็นทั้งหมดนี้กับตาตัวเอง
คืนนี้,ผู้อาวุโสเรย์มอนด์ได้จัดเตรียมไฮเอลฟ์สาวงามสองคนมาเป็นคู่ของลิงค์ด้วย ด้วยความที่เห็นว่ามันจะไม่ดีสำหรับเขาถ้าออกจากงานเลี้ยงก่อนคนอื่นๆ, ลิงค์จึงตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ตรงมุมนึงของงานและศึกษาการเคลื่อนไหวของไฮเอลฟ์ทุกคนในขณะที่เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มของเขาอย่างเงียบๆ
ไม่นานนัก,กลิ่นไม่พรึงประสงค์ก็ฟุ้งเต็มห้องโถง ประสาทการรับกลิ่นของลิงค์ถูกโจมตีด้วยกลิ่นอ้วกน่าสะอิดสะเอียน, กลิ่นปัสสาวะและกลิ่นตัวที่ปล่อยออกมาจากฝูงชนไฮเอลฟ์ที่กำลังปาร์ตี้กันอยู่ ลิงค์รีบลุกจากที่นั่งแล้วเดินตรงไปทางหน้าต่างใกล้ๆเพื่อหาอากาศบริสุทธิ์ในทันที
มันเป็นความจริงที่ความยอดเยี่ยมนั้นยังหาพบได้ในแวดวงขุนนางไฮเอลฟ์ไม่อย่างนั้น, พวกเขาคงจะไม่สามารถรักษาความยอดเยี่ยมเหนือเผ่าอื่นได้เป็นเวลานานขนาดนี้ ลิงค์คิด แต่ว่า, ความสงบสุขและความมั่งคั่งได้ทำให้คนพวกนี้กลายเป็นพวกหมูสันหลังยาว ไฮเอลฟ์สามัญชนเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกนี้เลย พวกเขาอาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้โลกมานานเกินไปจนมองข้ามความโหดร้ายของโลกภายนอกไปจนหมดสิ้น การใช้ชีวิตอย่างรุ่งเรืองเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ดำเนินไปโดยไม่มีความผิดพาด มันอาจจะพูดได้เลยว่าถ้าไม่มีเกาะรุ่งอรุณโลกก็คงจะดีกว่านี้
ลิงค์จิบไวน์อย่างเงียบๆตอนแรก, เขาตั้งใจจะลดผลกระทบที่เกิดจากการรวมภพ อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่ได้เห็นความโสมมของไฮเอลฟ์, เขาก็ตัดสินใจที่จะยกให้การเชื่อมสองภพนั้นเป็นความสำคัญสูงสุดของเขา ณ จุดนี้, เขาจะไม่สนเรื่องความอยู่รอดของไฮเอลฟ์แล้ว
ในตอนนั้นเอง,ก็มีเสียงนึงดังขึ้นข้างหลังเขา “ท่านทีโอดอร์, ดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยชอบงานนี้สินะคะ”
ลิงค์หันกลับไปแล้วเห็นนักเวทย์ไฮเอลฟ์หญิงคนนึงถ้าดูจากกระแสมานาในร่างของเธอ, ดูเหมือนว่านักเวทย์คนนี้จะมีเลเวล 9 ในฐานะไฮเอลฟ์อายุ 40 ปีนั้น, ได้ขนาดนี้ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จแล้ว
หลังจากนึกถึงข้อมูลที่เขาได้รับมาจากเจ้าของโรงเตี๊ยม,ลิงค์ก็รู้ถึงตัวตนของนักเวทย์หญิงคนนี้ในเวลาไม่นาน ชื่อของเธอคือเซบี เฟเทอร์มูน, นักเวทย์อัจฉริยะของบ้านเฟเทอร์มูนและลูกสาวคนโปรดของตระกูล เธอคือว่าที่ผู้สืบทอดผู้นำตระกูลคนต่อไปของเฟเทอร์มูน
“เป็นเกียรติที่ได้พบครับ,ท่านหญิงเซบี” ลิงค์โค้งให้เล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองพวกไฮเอลฟ์ที่สนุกสนานกันอยู่กลางห้องโถงในตอนนี้ เขาพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “ข้าแค่รู้สึกว่านี่มันค่อนข้างเหมือนการเยาะเย้ยมากกว่า ดาร์คเอลฟ์ในป่าทมิฬ, พวกมนุษย์ของเฟิร์ด, มนุษย์สัตว์ในทุ่งหญ้าสีทองและแม้กระทั่งพวกยับบ้านั้นต่างก็กำลังมุ่งมั่นเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเผ่าพันธุ์ของตัวเอง, ในขณะที่พวกเราชาวไฮเอลฟ์ดูเหมือนจะไปในทิศทางตรงข้ามเลย”
เซบีเถียง“นั่นก็เพราะพวกเราได้รับพรจากต้นไม้โลก พวกเราได้รับความรักจากภพนี้, ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องปกตินี่ที่พวกเราจะได้รับสิทธิพิเศษ”
“ท่านแน่ใจหรอครับว่ามันเป็นพร,มันน่าจะเป็นคำสาป 3,000 ปีที่ทำให้พวกเราอ่อนแอและอ้วนฉุไม่ใช่หรอครับ?” ลิงค์ถาม
เซบีขมวดคิ้วเล็กน้อยเธอไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนไฮเอลฟ์คนอื่นๆ ในฐานะนักเวทย์เลเวล 9, เธอเป็นคนที่ฉลาดและช่างสังเกตมาก ไม่กี่วินาทีต่อมา, เธอก็ถาม “ท่านทีโอดอร์, ท่านได้เดินทางไปทั่วทวีปเป็นเวลากว่าหนึ่งปี ท่านคงจะเห็นอะไรมามากในระหว่างการเดินทางของท่าน เห็นได้ชัดว่าท่างแข็งแกร่งกว่า, และมีประสบการณ์มากกว่าข้า นี่ก็แสดงว่าท่านคิดว่าสภาพความเป็นอยู่ในทวีปจะเกิดความเปลี่ยนแปลงใช่ไหมคะ?”
“หืม?”ลิงค์รู้สึกประหลาดใจกับคำถามของเธออย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกเขาคิดว่าเซบีเป็นเหมือนกับไฮเอลฟ์คนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม, มุมมองของเขาที่มีต่อเธอได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เขามองว่าการศึกษาเวทมนตร์ของนักเวทย์ไฮเอลฟ์หญิงคนนี้ไม่ได้สูญเปล่าเลยจริงๆ
จากนั้นเขาก็พูดอย่างราบเรียบ“ข้าได้ยินมาว่าลอร์ดเฟิร์ดพึ่งจะได้รับชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเลเวล 19 เมื่อไม่นานนี้”
แก้วไวน์ของเซบีร่วงหลุดจากมือ,ที่ตอนนี้กำลังสั่นอย่างรุนแรง สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แสงสีม่วงอ่อนในดวงตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อยในขณะที่เธอคร่ำครวญ “ตอนนี้ลอร์ดมังกรมีเลเวล 19 แล้วหรอ…นี่มันเลวร้ายมาก! เกาะรุ่งอรุณจบสิ้นแล้ว!”
ความรู้สึกที่พวกไฮเอลฟ์มีเกี่ยวกับลอร์ดเฟิร์ดนั้นแตกต่างกัน
บางส่วนก็เกลียดชังเขาไฮเอลฟ์มักจะพบว่าตัวเองจบลงที่เสียเปรียบกว่ามนุษย์ชาวเฟิร์ดทุกครั้งที่พวกเขามีเรื่องขัดแย้งกัน ยกตัวอย่างเช่นการที่เฟิร์ดแย่งธุรกิจผูกขาดในการขายอุปกรณ์เวทมนตร์ของไฮเอลฟ์ไปนั้นก็ทำให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจ
บางส่วนก็เคารพเขาแน่นอนว่าไฮเอลฟ์คงจะไม่เคารพเขาเลยถ้าเขาเป็นแค่นักรบคนนึง อย่างไรก็ตาม, เขาเป็นนักเวทย์ชั้นแนวหน้าด้วย คนที่เอาชนะพวกเขาได้ในเกมส์ของพวกเขานั้นอย่างน้อยก็สมควรจะได้รับความเคารพจากพวกเขาบ้าง
นอกจากนี้เขายังเป็นที่เกรงกลัวของไฮเอลฟ์เฟิร์ดเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆวัน มันไม่ต้องพูดเลยว่าในซักวันหนึ่งเฟิร์ดจะมีพลังมากพอที่จะถอนรากถอนโคนต้นไม้โลกได้
ในเมื่อตอนนี้เฟิร์ดมีนักเวทย์เลเวล19 ที่สามารถรับมือกับต้นไม้โลกเลเวลได้แล้ว ไฮเอลฟ์จะทำเป็นใจเย็นหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?
เซบีรู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินเธอเริ่มเดินวนไปรอบๆ, ฝีเท้าของเธอไม่มั่นคง จากนั้น, เธอก็มองมาที่ลิงค์แล้วถาม “ท่านทีโอดอร์, ท่านมั่นใจในข่าวนี้มากแค่ไหน?”
ลิงค์ยักไหล่“ข้ามั่นใจว่าข่าวนี้ไม่ผิดแน่ เอาจริงๆข้าไม่อยากกลับมาที่เกาะรุ่งอรุณหรอก การเติบโตของทุกคนที่นี่อ่อนเกินไป แต่ว่า, ในวันหนึ่ง, ข้าได้เข้าไปอยู่ในอาณาเขตของเฟิร์ด, แล้วข้าก็เห็นลอร์ดเฟิร์ดปรากฎตัวขึ้นบนท้องฟ้าในระยะห่างออกไปไม่กี่พันฟุต ในตอนที่เขาปรากฎตัวขึ้น, ท้องฟ้าก็มืดลงอย่างกระทันหัน มานาทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาถูกเขาดูดซับไปในทันที ตอนนั้นข้าคิดว่าเขาเห็นข้าด้วย แต่ข้ารู้สึกได้ว่าข้าก็ไม่ต่างอะไรจากแมลงที่อยู่ใต้เท้าเขา เขาน่าจะคิดว่าข้าไม่คู่ควรกับเวลาของเขา เจ้าคงจะเคยอ่านหนังสือ ‘หัวใจของความแข็งแกร่ง’ สินะ? เจ้าต้องรู้แน่ว่าทั้งหมดที่ข้าสื่อมันหมายถึงอะไร”
‘หัวใจของความแข็งแกร่ง’คือคู่มือแนะนำเกี่ยวกับพลังและสภาพจิตใจของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเลเวล มันเป็นหนังสือที่ไฮเอลฟ์ทุกคนในเกาะต้องอ่าน ซึ่งลิงค์ได้ข้อมูลส่วนนี้มาจากในโลกเกมส์
เซบีตกตะลึงกับข่าวนี้จากนั้นเธอก็เริ่มพึมพำ “พวกเราจะทำยังไงกันดี? พวกเราจะทำยังไงกันดี? พวกเราจะทำยังไงกันดี?”
หลังจากพึมพำกับตัวเองอยู่พักนึง,จู่ๆเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองลิงค์ “ท่านทีโอดอร์, ที่ท่านตัดสินใจกลับมาที่เกาะรุ่งอรุณหลังจากได้เห็นทั้งหมดนั่น ก็แสดงว่าท่านมีแผนอยู่ใช่ไหมคะ?”
ลิงค์ยิ้มอย่างขมขื่น“ก็ไม่เชิงหรอก ที่ข้ากลับมาก็เพราะตระหนักได้ถึงหน้าที่เท่านั้นแหล่ะ…”
พอเห็นสีหน้าท้อแท้ใจของเซบี,ลิงค์ก็พูดต่อ “มันยังพอมีทางออกอยู่ ในเมื่อต่อต้านด้วยกำลังไม่ได้, สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ก็คือการเจรจากับลอร์ดเฟิร์ดด้วยสันติวิธี”
“เจรจาหรอคะ?นั่นมันจะเป็นไปได้หรอ? พวกเรายังเป็นศัตรูกันอยู่นะ” เซบีพูดเบาๆ
“ท่านไม่เคยได้ยินหรอ?ศัตรูจะไม่เป็นศัตรูกันไปตลอดกาลหรอก” ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เซบีกำลังคิดหนักครู่ต่อมา, เธอก็พูดกับลิงค์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่มันเรื่องใหญ่ ข้าจำเป็นต้องปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อของข้าก็”
“ข้าก็ว่าจะทำแบบนั้นเหมือนกัน”ลิงค์พูด จากนั้นเขาก็เสริม “องค์ราชินีไฮเอลฟ์เองก็น่าจะรู้ถึงการพัฒนานี้แล้ว เธอเองก็คงจะสภาพไม่สู้ดีเหมือนกัน” “ท่านหมายความว่ายังไง?”เซบีหยุดเดินแล้วหันมาถาม
“ข้ารู้สึกได้ว่ามีพลังงานแห่งความมืดปริศนากำลังแผ่ออกมาจากวังหลวง…ตอนนี้คงมีแค่เทพเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”
ลิงค์ตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรอีกเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยได้ถูกฝังเข้าไปในตัวเธอแล้ว
ตอนนี้ลิงค์รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากเห็นเซบีรีบวิ่งออกไปตอนแรกเขาตั้งใจจะทำการสังเกตไฮเอลฟ์อีกสักพักก่อนที่จะทำการเคลื่อนไหว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะบังเอิญมาเจอคนที่มีอิทธิพลเร็วขนาดนี้
ซึ่งก็แน่นอนว่า,มันไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้โอกาสที่เหมาะเจาะเช่นนี้หลุดลอยไป
ลิงค์ตัดสินใจว่าจะไม่อยู่ในงานเลี้ยงอีกในตอนที่ออกมาจากคฤหาสน์, เขาก็เริ่มเดินไปทางอันวาร์
เนื่องจากการมีอยู่ของต้นไม้โลก,เมืองอันวาร์จึงค่อนข้างเหมาะสำหรับเที่ยวกลางคืน แม้ว่ามันจะมืดแล้ว, แต่ถนนก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน
ลิงค์ตัดสินใจที่จะใช้โอกาสนี้ทำการศึกษาต้นไม้โลกอย่างใกล้ชิดและในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่ที่สวนของโรงเตี๊ยมเล็กๆที่ชื่อว่า ‘แสงเทพจันทรา’ จากนั้นเขาก็เริ่มสัมผัสถึงพลังของต้นไม้โลก
แม้ว่าจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่,แต่ต้นไม้โลกก็ยังเป็นสิ่งก่อสร้างเวทมนตร์อยู่ดี นี่คือโอกาสที่เขาจะได้เห็นด้วยตัวเองว่าจริงๆแล้วมันแข็งแกร่งแค่ไหน
เรย์มอนด์มอร์เกนสตาร์เป็นพ่อของทีโอดอร์, ไฮเอลฟ์ผู้กล้าในอดีตกาล
ทุกวันนี้มีไม่กี่คนที่จะใส่ใจกับชื่อนี้เพราะส่วนใหญ่จะเรียกเขาว่า ‘อ้วนมอนด์’ เนื่องจากจำนวนลูกเต้าและความเจ้าชู้ของเขา
แต่ก็แน่นอนว่า,พวกเขาจะเรียกชื่อแบบนี้แค่ลับหลังเขาเท่านั้น ในฐานะผู้อาวุโสของบ้านมอร์เกนสตาร์, เรย์มอนด์ มอร์เกนสตาร์เองก็มีที่นั่งในสภาผู้อาวุโสไฮเอลฟ์เหมือนกัน แม้เขาจะมีเรื่องอื้อฉาวมากมาย, แต่ชื่อตระกูลมอร์เกนสตาร์ก็ทำให้ชายแก่คนนี้มีพื้นที่ในแวดวงการเมืองของไฮเอลฟ์
ผู้อาวุโสเรย์มอนด์รู้สึกดีใจมากกับการกลับมาของทีโอดอร์,ที่ความจริงแล้วเป็นลิงค์ปลอมตัวมา เขาตัดสินใจที่จะจัดงานเลี้ยงใหญ่ให้กับลูกชายของเขา, และส่งจดหมายเชิญไปให้ตระกูลขุนนางทั้งหมดที่อยู่ในอันวาร์ คืนนี้,ทุกคนได้มารวมตัวกันที่คฤหาสน์ของมอร์เกนสตาร์ งานเลี้ยงดูมีชีวิตชีวาในตอนแรก อย่างไรก็ตาม, มันก็เริ่มแตกต่างออกไปในตอนที่เรย์มอนด์เริ่มม่อแขกผู้หญิง
ลิงค์ไม่ได้เข้าร่วมกับเขาเขาแค่มองอยู่ที่มุมๆนึงอย่างเฉยชา
ไฮเอลฟ์อาวุโสทั้งแปดคนได้แต่งตัวมาเต็มยศสำหรับงานเลี้ยงนี้พวกเขาทุกคนล้วนมีตำแหน่งสำคัญในอันวาร์ อย่างไรก็ตาม, นิสัยของพวกเขาในคืนนี้น่าอับอายไม่ต่างไปจากเรย์มอนด์เลย พวกเขาแต่ละคนล้วนมีผู้หญิงแนบอยู่ข้างกายทั้งสองฝั่ง มันดูเหมือนกับว่าพวกเขาได้โยนความเป็นผู้ดีทั้งหมดออกนอกหน้าต่างไปแล้ว
ไฮเอลฟ์หนุ่มสาวเองก็มาโชว์ตัวที่งานนี้เป็นจำนวนมากพวกเขาส่วนใหญ่ได้สลัดคราบผู้ดีที่พวกเขารักษาเอาไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าสามัญชนทิ้งไป พวกเขาบางคนดิ้นและสบัดไปมาด้วยลีลาการเต้นที่บ้าคลั่ง บางคนร้องตะโกนออกมาสุดเสียงจนเสียงของพวกเขาแหบแห้งบางคนเมาจนไม่รู้เรื่องอะไรแล้ว และในที่สุดสถานที่แห่งนี้ก็ตกสู่ความวุ่นวาย
ความมั่งคั่งและความไร้การพัฒนากว่า3,000 ปีของไฮเอลฟ์ชั้นสูงนั้นได้นำความเสื่อมเสียมาให้กับสังคมชั้นสูงของไฮเอลฟ์, ไม่เว้นแม้กระทั่งในโลกเกมส์ ลิงค์ค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อยในตอนที่ได้เห็นทั้งหมดนี้กับตาตัวเอง
คืนนี้,ผู้อาวุโสเรย์มอนด์ได้จัดเตรียมไฮเอลฟ์สาวงามสองคนมาเป็นคู่ของลิงค์ด้วย ด้วยความที่เห็นว่ามันจะไม่ดีสำหรับเขาถ้าออกจากงานเลี้ยงก่อนคนอื่นๆ, ลิงค์จึงตัดสินใจที่จะนั่งอยู่ตรงมุมนึงของงานและศึกษาการเคลื่อนไหวของไฮเอลฟ์ทุกคนในขณะที่เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มของเขาอย่างเงียบๆ
ไม่นานนัก,กลิ่นไม่พรึงประสงค์ก็ฟุ้งเต็มห้องโถง ประสาทการรับกลิ่นของลิงค์ถูกโจมตีด้วยกลิ่นอ้วกน่าสะอิดสะเอียน, กลิ่นปัสสาวะและกลิ่นตัวที่ปล่อยออกมาจากฝูงชนไฮเอลฟ์ที่กำลังปาร์ตี้กันอยู่ ลิงค์รีบลุกจากที่นั่งแล้วเดินตรงไปทางหน้าต่างใกล้ๆเพื่อหาอากาศบริสุทธิ์ในทันที
มันเป็นความจริงที่ความยอดเยี่ยมนั้นยังหาพบได้ในแวดวงขุนนางไฮเอลฟ์ไม่อย่างนั้น, พวกเขาคงจะไม่สามารถรักษาความยอดเยี่ยมเหนือเผ่าอื่นได้เป็นเวลานานขนาดนี้ ลิงค์คิด แต่ว่า, ความสงบสุขและความมั่งคั่งได้ทำให้คนพวกนี้กลายเป็นพวกหมูสันหลังยาว ไฮเอลฟ์สามัญชนเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าพวกนี้เลย พวกเขาอาศัยอยู่ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้โลกมานานเกินไปจนมองข้ามความโหดร้ายของโลกภายนอกไปจนหมดสิ้น การใช้ชีวิตอย่างรุ่งเรืองเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ดำเนินไปโดยไม่มีความผิดพาด มันอาจจะพูดได้เลยว่าถ้าไม่มีเกาะรุ่งอรุณโลกก็คงจะดีกว่านี้
ลิงค์จิบไวน์อย่างเงียบๆตอนแรก, เขาตั้งใจจะลดผลกระทบที่เกิดจากการรวมภพ อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่ได้เห็นความโสมมของไฮเอลฟ์, เขาก็ตัดสินใจที่จะยกให้การเชื่อมสองภพนั้นเป็นความสำคัญสูงสุดของเขา ณ จุดนี้, เขาจะไม่สนเรื่องความอยู่รอดของไฮเอลฟ์แล้ว
ในตอนนั้นเอง,ก็มีเสียงนึงดังขึ้นข้างหลังเขา “ท่านทีโอดอร์, ดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยชอบงานนี้สินะคะ”
ลิงค์หันกลับไปแล้วเห็นนักเวทย์ไฮเอลฟ์หญิงคนนึงถ้าดูจากกระแสมานาในร่างของเธอ, ดูเหมือนว่านักเวทย์คนนี้จะมีเลเวล 9 ในฐานะไฮเอลฟ์อายุ 40 ปีนั้น, ได้ขนาดนี้ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จแล้ว
หลังจากนึกถึงข้อมูลที่เขาได้รับมาจากเจ้าของโรงเตี๊ยม,ลิงค์ก็รู้ถึงตัวตนของนักเวทย์หญิงคนนี้ในเวลาไม่นาน ชื่อของเธอคือเซบี เฟเทอร์มูน, นักเวทย์อัจฉริยะของบ้านเฟเทอร์มูนและลูกสาวคนโปรดของตระกูล เธอคือว่าที่ผู้สืบทอดผู้นำตระกูลคนต่อไปของเฟเทอร์มูน
“เป็นเกียรติที่ได้พบครับ,ท่านหญิงเซบี” ลิงค์โค้งให้เล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองพวกไฮเอลฟ์ที่สนุกสนานกันอยู่กลางห้องโถงในตอนนี้ เขาพูดด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ “ข้าแค่รู้สึกว่านี่มันค่อนข้างเหมือนการเยาะเย้ยมากกว่า ดาร์คเอลฟ์ในป่าทมิฬ, พวกมนุษย์ของเฟิร์ด, มนุษย์สัตว์ในทุ่งหญ้าสีทองและแม้กระทั่งพวกยับบ้านั้นต่างก็กำลังมุ่งมั่นเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับเผ่าพันธุ์ของตัวเอง, ในขณะที่พวกเราชาวไฮเอลฟ์ดูเหมือนจะไปในทิศทางตรงข้ามเลย”
เซบีเถียง“นั่นก็เพราะพวกเราได้รับพรจากต้นไม้โลก พวกเราได้รับความรักจากภพนี้, ดังนั้นมันก็เป็นเรื่องปกตินี่ที่พวกเราจะได้รับสิทธิพิเศษ”
“ท่านแน่ใจหรอครับว่ามันเป็นพร,มันน่าจะเป็นคำสาป 3,000 ปีที่ทำให้พวกเราอ่อนแอและอ้วนฉุไม่ใช่หรอครับ?” ลิงค์ถาม
เซบีขมวดคิ้วเล็กน้อยเธอไม่ได้เย่อหยิ่งเหมือนไฮเอลฟ์คนอื่นๆ ในฐานะนักเวทย์เลเวล 9, เธอเป็นคนที่ฉลาดและช่างสังเกตมาก ไม่กี่วินาทีต่อมา, เธอก็ถาม “ท่านทีโอดอร์, ท่านได้เดินทางไปทั่วทวีปเป็นเวลากว่าหนึ่งปี ท่านคงจะเห็นอะไรมามากในระหว่างการเดินทางของท่าน เห็นได้ชัดว่าท่างแข็งแกร่งกว่า, และมีประสบการณ์มากกว่าข้า นี่ก็แสดงว่าท่านคิดว่าสภาพความเป็นอยู่ในทวีปจะเกิดความเปลี่ยนแปลงใช่ไหมคะ?”
“หืม?”ลิงค์รู้สึกประหลาดใจกับคำถามของเธออย่างบอกไม่ถูก ตอนแรกเขาคิดว่าเซบีเป็นเหมือนกับไฮเอลฟ์คนอื่นๆ อย่างไรก็ตาม, มุมมองของเขาที่มีต่อเธอได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว เขามองว่าการศึกษาเวทมนตร์ของนักเวทย์ไฮเอลฟ์หญิงคนนี้ไม่ได้สูญเปล่าเลยจริงๆ
จากนั้นเขาก็พูดอย่างราบเรียบ“ข้าได้ยินมาว่าลอร์ดเฟิร์ดพึ่งจะได้รับชิ้นส่วนศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเลเวล 19 เมื่อไม่นานนี้”
แก้วไวน์ของเซบีร่วงหลุดจากมือ,ที่ตอนนี้กำลังสั่นอย่างรุนแรง สายตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น แสงสีม่วงอ่อนในดวงตาของเธอสั่นไหวเล็กน้อยในขณะที่เธอคร่ำครวญ “ตอนนี้ลอร์ดมังกรมีเลเวล 19 แล้วหรอ…นี่มันเลวร้ายมาก! เกาะรุ่งอรุณจบสิ้นแล้ว!”
ความรู้สึกที่พวกไฮเอลฟ์มีเกี่ยวกับลอร์ดเฟิร์ดนั้นแตกต่างกัน
บางส่วนก็เกลียดชังเขาไฮเอลฟ์มักจะพบว่าตัวเองจบลงที่เสียเปรียบกว่ามนุษย์ชาวเฟิร์ดทุกครั้งที่พวกเขามีเรื่องขัดแย้งกัน ยกตัวอย่างเช่นการที่เฟิร์ดแย่งธุรกิจผูกขาดในการขายอุปกรณ์เวทมนตร์ของไฮเอลฟ์ไปนั้นก็ทำให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เลวร้ายทางเศรษฐกิจ
บางส่วนก็เคารพเขาแน่นอนว่าไฮเอลฟ์คงจะไม่เคารพเขาเลยถ้าเขาเป็นแค่นักรบคนนึง อย่างไรก็ตาม, เขาเป็นนักเวทย์ชั้นแนวหน้าด้วย คนที่เอาชนะพวกเขาได้ในเกมส์ของพวกเขานั้นอย่างน้อยก็สมควรจะได้รับความเคารพจากพวกเขาบ้าง
นอกจากนี้เขายังเป็นที่เกรงกลัวของไฮเอลฟ์เฟิร์ดเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆวัน มันไม่ต้องพูดเลยว่าในซักวันหนึ่งเฟิร์ดจะมีพลังมากพอที่จะถอนรากถอนโคนต้นไม้โลกได้
ในเมื่อตอนนี้เฟิร์ดมีนักเวทย์เลเวล19 ที่สามารถรับมือกับต้นไม้โลกเลเวลได้แล้ว ไฮเอลฟ์จะทำเป็นใจเย็นหลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ได้ยังไงกัน?
เซบีรู้สึกตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินเธอเริ่มเดินวนไปรอบๆ, ฝีเท้าของเธอไม่มั่นคง จากนั้น, เธอก็มองมาที่ลิงค์แล้วถาม “ท่านทีโอดอร์, ท่านมั่นใจในข่าวนี้มากแค่ไหน?”
ลิงค์ยักไหล่“ข้ามั่นใจว่าข่าวนี้ไม่ผิดแน่ เอาจริงๆข้าไม่อยากกลับมาที่เกาะรุ่งอรุณหรอก การเติบโตของทุกคนที่นี่อ่อนเกินไป แต่ว่า, ในวันหนึ่ง, ข้าได้เข้าไปอยู่ในอาณาเขตของเฟิร์ด, แล้วข้าก็เห็นลอร์ดเฟิร์ดปรากฎตัวขึ้นบนท้องฟ้าในระยะห่างออกไปไม่กี่พันฟุต ในตอนที่เขาปรากฎตัวขึ้น, ท้องฟ้าก็มืดลงอย่างกระทันหัน มานาทั้งหมดที่อยู่รอบตัวเขาถูกเขาดูดซับไปในทันที ตอนนั้นข้าคิดว่าเขาเห็นข้าด้วย แต่ข้ารู้สึกได้ว่าข้าก็ไม่ต่างอะไรจากแมลงที่อยู่ใต้เท้าเขา เขาน่าจะคิดว่าข้าไม่คู่ควรกับเวลาของเขา เจ้าคงจะเคยอ่านหนังสือ ‘หัวใจของความแข็งแกร่ง’ สินะ? เจ้าต้องรู้แน่ว่าทั้งหมดที่ข้าสื่อมันหมายถึงอะไร”
‘หัวใจของความแข็งแกร่ง’คือคู่มือแนะนำเกี่ยวกับพลังและสภาพจิตใจของผู้เชี่ยวชาญในแต่ละเลเวล มันเป็นหนังสือที่ไฮเอลฟ์ทุกคนในเกาะต้องอ่าน ซึ่งลิงค์ได้ข้อมูลส่วนนี้มาจากในโลกเกมส์
เซบีตกตะลึงกับข่าวนี้จากนั้นเธอก็เริ่มพึมพำ “พวกเราจะทำยังไงกันดี? พวกเราจะทำยังไงกันดี? พวกเราจะทำยังไงกันดี?”
หลังจากพึมพำกับตัวเองอยู่พักนึง,จู่ๆเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองลิงค์ “ท่านทีโอดอร์, ที่ท่านตัดสินใจกลับมาที่เกาะรุ่งอรุณหลังจากได้เห็นทั้งหมดนั่น ก็แสดงว่าท่านมีแผนอยู่ใช่ไหมคะ?”
ลิงค์ยิ้มอย่างขมขื่น“ก็ไม่เชิงหรอก ที่ข้ากลับมาก็เพราะตระหนักได้ถึงหน้าที่เท่านั้นแหล่ะ…”
พอเห็นสีหน้าท้อแท้ใจของเซบี,ลิงค์ก็พูดต่อ “มันยังพอมีทางออกอยู่ ในเมื่อต่อต้านด้วยกำลังไม่ได้, สิ่งเดียวที่พวกเราทำได้ในตอนนี้ก็คือการเจรจากับลอร์ดเฟิร์ดด้วยสันติวิธี”
“เจรจาหรอคะ?นั่นมันจะเป็นไปได้หรอ? พวกเรายังเป็นศัตรูกันอยู่นะ” เซบีพูดเบาๆ
“ท่านไม่เคยได้ยินหรอ?ศัตรูจะไม่เป็นศัตรูกันไปตลอดกาลหรอก” ลิงค์พูดด้วยรอยยิ้ม
ตอนนี้เซบีกำลังคิดหนักครู่ต่อมา, เธอก็พูดกับลิงค์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง “นี่มันเรื่องใหญ่ ข้าจำเป็นต้องปรึกษาเรื่องนี้กับพ่อของข้าก็”
“ข้าก็ว่าจะทำแบบนั้นเหมือนกัน”ลิงค์พูด จากนั้นเขาก็เสริม “องค์ราชินีไฮเอลฟ์เองก็น่าจะรู้ถึงการพัฒนานี้แล้ว เธอเองก็คงจะสภาพไม่สู้ดีเหมือนกัน” “ท่านหมายความว่ายังไง?”เซบีหยุดเดินแล้วหันมาถาม
“ข้ารู้สึกได้ว่ามีพลังงานแห่งความมืดปริศนากำลังแผ่ออกมาจากวังหลวง…ตอนนี้คงมีแค่เทพเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น”
ลิงค์ตัดสินใจที่จะไม่พูดอะไรอีกเมล็ดพันธุ์แห่งความสงสัยได้ถูกฝังเข้าไปในตัวเธอแล้ว
ตอนนี้ลิงค์รู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยหลังจากเห็นเซบีรีบวิ่งออกไปตอนแรกเขาตั้งใจจะทำการสังเกตไฮเอลฟ์อีกสักพักก่อนที่จะทำการเคลื่อนไหว เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะบังเอิญมาเจอคนที่มีอิทธิพลเร็วขนาดนี้
ซึ่งก็แน่นอนว่า,มันไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้โอกาสที่เหมาะเจาะเช่นนี้หลุดลอยไป
ลิงค์ตัดสินใจว่าจะไม่อยู่ในงานเลี้ยงอีกในตอนที่ออกมาจากคฤหาสน์, เขาก็เริ่มเดินไปทางอันวาร์
เนื่องจากการมีอยู่ของต้นไม้โลก,เมืองอันวาร์จึงค่อนข้างเหมาะสำหรับเที่ยวกลางคืน แม้ว่ามันจะมืดแล้ว, แต่ถนนก็ยังเต็มไปด้วยผู้คน
ลิงค์ตัดสินใจที่จะใช้โอกาสนี้ทำการศึกษาต้นไม้โลกอย่างใกล้ชิดและในที่สุดเขาก็มาหยุดอยู่ที่สวนของโรงเตี๊ยมเล็กๆที่ชื่อว่า ‘แสงเทพจันทรา’ จากนั้นเขาก็เริ่มสัมผัสถึงพลังของต้นไม้โลก
แม้ว่าจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่,แต่ต้นไม้โลกก็ยังเป็นสิ่งก่อสร้างเวทมนตร์อยู่ดี นี่คือโอกาสที่เขาจะได้เห็นด้วยตัวเองว่าจริงๆแล้วมันแข็งแกร่งแค่ไหน