Advent of the Archmage - 710: รวมภพ (10)
Chapter
อันวาร์,บ้านผู้อาวุโส
มีเสียงขบวนรถม้าดังมาจากนอกอาคารไฮเอลฟ์ในรถม้านั้นสวมชุดเต็มยศทุกคน, และใบหน้าของพวกเขาก็ดูมีสง่าราศี ในตอนที่พวกเขาลงมาจากรถม้า, จะมีคนรับใช้หนุ่มสองคนรีบตรงมารับพวกเขา จากนั้นไฮเอลฟ์อาวุโสก็จะถูกพาไปยังที่นั่งประจำตำแหน่งของพวกเขาในบ้านผู้อาวุโส
ไฮเอลฟ์อาวุโสหนึ่งคนมักจะชอบพาลูกๆที่ตัวเองถูกใจมากที่สุดหนึ่งหรือสองคนมาเข้าร่วมการประชุมพวกนี้ตรงส่วนนี้นั้น, บ้านเฟเทอร์มูนได้มากับลูกสาวคนโตของเขา, นักเวทย์เลเวล 9 เซบี, ในขณะที่บ้านโคลด์สตาร์พาลูกที่น่ายกย่องที่สุดของเขามาสองคน
ไม่นานนัก,ก็เริ่มมีเสียงพูดคุยดังขึ้นในบ้านผู้อาวุโส เหล่าผู้เฒ่าได้ทักทายกัน, ในขณะที่ไฮเอลฟ์หนุ่มสาวแอบพูดคุยกันข้างหลังพวกเขา ทันใดนั้นเอง,ผู้อาวุโสคนนึงก็พูดขึ้นมา “ดูนั่นสิ, เรย์มอนด์มาถึงแล้ว”
แม้ว่าจะมีเสียงพูดคุยในบ้าน,แต่เสียงของเขาก็ดังไปทั่วทั้งอาคาร ในตอนนั้นเอง, ทุกคนก็หันไปมองทางเรย์มอนด์
สายตาของพวกเขาจดจ้องไปที่เรย์มอนด์เป็นเวลาพักนึงจากนั้น, ก็ย้ายไปยังไฮเอลฟ์หนุ่มที่เจิดจรัสที่สุดข้างหลังเขา
ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องในตอนที่แขกทั้งหลายได้เห็นไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้
ชายหนุ่มคนนี้สวมชุดที่ดูทันสมัยที่สุดแต่ดาบที่ห้อยตรงเอวของเขายังคงเป็นดาบธรรมดา อย่างไรก็ตาม, เขาแผ่ออร่าที่อธิบายไม่ได้ออกมา ณ เวลานี้, สายตาของทุกคนได้จับจ้องมาที่เขา
เขากลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจแม้ว่าเขาจะไม่ตั้งใจก็ตาม
ยกเว้นแค่เรย์มอนด์,ไฮเอลฟ์ผู้อาวุโสส่วนใหญ่นั้นคือต้นแบบของความยอดเยี่ยม ตัวตนของพวกเขาทำให้ไฮเอลฟ์ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งนี่ก็หมายความว่าพวกเขาได้รับการยกย่องในเรื่องสายตาที่เป็นเลิศ
ความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านผู้อาวุโสอีกครั้งนึงเหล่าผู้อาวุโสต่างก็สบตาอย่างรู้กัน พวกเขาได้ข้อสรุปเดียวกัน ต้นไม้โลกต้องส่งทีโอดอร์ มอร์เกนสตาร์มาให้พวกเราเพื่อต่อกรกับปีศาจอย่างแน่นอน!
บ้านเฟเทอร์มูนเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาทักทายเรย์มอนด์“โอ้สหาย, มันก็ผ่านมาซักพักแล้วนะ ท่านยังจำตอนที่พวกเราไปล่าสัตว์ด้วยกันในพื้นที่ล่าทางเหนือได้รึเปล่า?”
ในฐานะหนึ่งในตระกูลขุนนางใหญ่ของเกาะรุ่งอรุณ,บ้านเฟเทอร์มูนนั้นไม่เคยชายตามองผู้เล่นเล็กๆอย่างตระกูลมอร์เกนสตาร์เลย เรย์มอนด์รู้สึกประหลาดใจกับการแสดงความเป็นมิตรนี้ เขารีบก้มหัวให้เล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าท่านยังจำได้อยู่ ตอนนั้นข้าจำได้แค่ว่าข้าทำให้ตัวเองดูโง่มากเลย, 555”
ในตอนแรก,เขาตั้งใจจะปรับน้ำเสียงให้ดูสุภาพกว่านี้ในขณะที่พูด อย่างไรก็ตาม, พอการสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ, เขาก็เริ่มพูดได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น ซึ่งเหตุผลนั้นง่ายมาก เขารู้ว่าเหตุผลเดียวที่หัวหน้าตระกูลเฟเทอร์มูนเข้ามาหาเขาก็เพราะทีโอดอร์ ลูกชายของเขาได้กลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในแวดวงไฮเอลฟ์ และแน่นอนว่า, นี่ทำให้เรยม์อนด์ดูเป็นคนที่มีคุณค่าให้คุยด้วยมากขึ้น
ผู้อาวุโสคนอื่นๆเองก็เข้ามาพูดคุยกับเขา
“ช่วงนี้ลูกชายที่ท่านพามาด้วยค่อนข้างมีชื่อเสียงใช้ได้เลยนะนี่คงเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นใช่ไหมครับ?”
“ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านแล้วนะ,สหาย!”
เรย์มอนด์ได้รับคำสรรเสริญมากมายจากเหล่าผู้อาวุโสจนเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาดังลั่น “ข้าเกรงว่าข้าคงจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หรอก พวกเรายังต้องร่วมมือกันอยู่นะครับถ้าพวกเราหวังให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ด้วยดี”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆเองก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
ในตอนนั้นเอง,เพลงประจำชาติของไฮเอลฟ์ ‘สรรเสริญพระแม่ธรรมชาติ’ ก็เริ่มบรรเลงที่ข้างหน้าทางเข้าอาคาร ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบในทันที ผู้อาวุโสทุกคนลุกขึ้น, ในขณะที่ก้มหัวลงเล็กน้อย พอสัมผัสได้ถึงความสำคัญของการประชุมนี้, เหล่าไฮเอลฟ์หนุ่มสาวก็ทำตาม, โดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำ
ณตอนนี้, บรรยากาศในห้องนั้นตึงเครียดมากจนแม้กระทั่งนักเวทย์เลเวล 9 ก็ยังรู้สึกหายใจลำบาก
ลิงค์ได้ถอยไปอยู่ที่มุมๆนึง,และเขาก็เหลือบมองทางเข้าอาคารด้วยหางตาของเขา
มีเสียงเท้าดังมาจากทางเข้าไม่กี่วินาทีต่อมา, การ์ดหลวงก็เข้ามาในบ้านผู้อาวุโสด้วยชุดเครื่องแบบสีเขียวทองของพวกเขา นักรบเหล่านี้มีพลังเฉลี่ยอยู่ที่เลเวล 9 โดยมีจำนวนทั้งหมด 30 นาย ห้าคนในนั้นอยู่ระดับตำนาน และคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 11
ขุมพลังเช่นนี้เคยแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเกาะจากภยันอันตรายทั้งหมดในฟิรุแมน
อย่างไรก็ตาม,เวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาคงจะถูกแปรสภาพเป็นปุ๋ยในพริบตาถ้าต้องเจอกับคนที่แข็งแกร่งอย่างซาโรวินี่หรือลิงค์
หนึ่งนาทีต่อมา,คนหน้าตาคุ้นเคยสองคนก็ปรากฎตัวขึ้นที่ประตูทางเข้า หนึ่งในนั้นคือราชินีไฮเอลฟ์, ในขณะที่อีกคนนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซาโรวินี่
เมื่อหนึ่งปีก่อนลิงค์เคยพบกับราชินีไฮเอลฟ์ครั้งนึงที่เฟิร์ดแม้ว่าเธอจะดูแก่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, แต่เธอก็ยังรักษาบารมีและความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้ ในโลกเกมส์, มีผู้เล่นมากมายที่ชอบไปรายล้อมรอบตัวเธอเหมือนกับพวกกองอวย พวกเขามักจะเป็นกลุ่มแรกที่ทำภารกิจที่ได้รับจากราชินีสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม,ช่วงปีที่ผ่านมานี้ไม่ได้ใจดีกับองค์ราชินีเลย มีรอยย่นปรากฎขึ้นที่หน้าผากของเธอ โคนผมตรงหน้าผากของเธอก็เริ่มหงอก และชุดที่งดงามของเธอนั้นก็ช่วยปกปิดบรรยากาศที่เศร้าซึมของเธอได้เพียงเล็กน้อย
แผนการต่างๆนาๆของเธอนั้นได้ถูกลิงค์ทำลายในทุกๆครั้งและการสูญเสียสามีกับลูกสาวไปก็มีแต่จะทำให้อารมณ์ที่เธอต้องแบกรับรุนแรงขึ้น
ซาโรวินี่ยืนอยู่ข้างๆราชินีไฮเอลฟ์เธอยังสวมชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความเศร้าอยู่, พร้อมกับมีดาบพลังแห่งความมืดคู่นึงห้อยอยู่ที่เอวของเธอ เธอมีสีหน้าที่จริงจัง คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย เธอดูแตกต่างจากครั้งแรกที่ลิงค์เห็นเธออย่างสมบูรณ์
หลังจากฝึกหนักมาหลายปี,เธอก็ได้กลายเป็นนักรบที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม,ซาโรวินี่ยังคงมีบรรยากาศที่เย่อหยิ่งอยู่ แม้จะรู้ว่าปีศาจจะถูกไฮเอลฟ์ส่วนใหญ่ในเกาะรุ่งอรุณมองในแง่ลบ, แต่เธอก็ดูเหมือนไม่คิดจะยับยั้งออร่าปีศาจของเธอเลย ในทุกๆครั้งที่ไฮเอลฟ์อาวุโสมองเธออย่างไม่พอใจ, เธอก็จะจ้องกลับไปเพื่อเตือนให้รู้ว่าที่นี่ใครคุม
ยังไงซะเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของเลเวล16, ในขณะที่ไฮเอลฟ์อาวุโสส่วนใหญ่ที่อยู่ในอาคารนั้นมีพลังแค่เลเวล 9 เท่านั้น พวกเขาทุกคนต่างก็พากันกลัวหัวหดในทันทีที่ถูกปีศาจจ้องกลับ
และในที่สุด,สายตาของซาโรวินี่ก็มาหยุดอยู่ที่ลิงค์
ในอาคารนั้นมีประชากรอยู่ประมาณ300 คน ไม่มีใครที่สามารถต้านทานสายตาของเธอได้เลย มีแค่ลิงค์เท่านั้นที่สามารถสบตากับเธอได้นานกว่าคนอื่นๆ
ซาโรวินี่ยกมือขึ้นมาข้างนึง,เพื่อหยุดฝีเท้าของราชินีไฮเอลฟ์ จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ลิงค์แล้วพูดออกมา “องค์ราชินี, นั่นใช่ทีโอดอร์ มอร์เกนสตาร์, ชายหนุ่มที่มีข่าวลือว่าได้รับพรจากต้นไม้โลกใช่ไหม?”
ราชินีไฮเอลฟ์มองทีโอดอร์เธอมีความรู้สึกที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนของเขาที่นี่ ใจนึง, เธอก็หวังว่าตอนนี้ทีโอดอร์จะแข็งแกร่งพอที่จะจัดการซาโรวินี่ แต่อีกใจนึง, เธอก็รู้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขานั้นไม่ได้มีหวังขนาดนั้น การเดิมพันที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ก็คือการทำตามคำขอของปีศาจและปกป้องชายหนุ่มคนนี้ให้นานจนกว่าเขาจะพร้อมต่อกรกับซาโรวินี่
แต่เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่าซาโรวินี่จะรู้ถึงตัวตนของไฮเอลฟ์หนุ่มเร็วขนาดนี้
ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก,ราชินีจึงพยักหน้า “ใช่ค่ะ, นั่นคือทีโอดอร์ มอร์เกนสตาร์ เขายังเป็นแค่ไฮเอลฟ์หนุ่มที่ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่คู่ควรกับเวลาของท่านหรอกค่ะ”
ซาโรวินี่ส่ายหัว“เล็กน้อยหรอ? ข้าไม่คิดอย่างนั้นนะ พอได้สบตากันแล้วข้าก็เข้าใจว่าเจ้าหนุ่มนี่มีอะไรมากกว่านั้นอีก”
จากนั้นเธอก็มองเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ในห้องแล้วพูดออกมาดังลั่น“ข้าเดาว่าเจ้าหนุ่มนี่คงเป็นไพ่ตายที่พวกเจ้าคิดจะใช้ต่อกรกับข้าสินะ?”
ไม่มีเสียงตอบดังมาจากในห้องไม่มีผู้อาวุโสคนไหนกล้าเปล่งเสียงออกมาเลย
ตอนนี้เรย์มอนด์กำลังจับมือของทีโอดอร์แน่นเขาพึมพำออกมา “ลูกพ่อ, ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อีก เจ้ามั่นใจนะว่ารับมือกับเธอไหว? เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองก็ได้นะ”
ลิงค์เอามืออีกข้างลูบหลังมือของเรย์มอนด์อย่างปลอบใจจากนั้นเขาก็ก้าวออกมาจากฝูงชนและโค้งคำนับราชินี “องค์ราชินี”
พอเห็นเด็กหนุ่มคนนี้,ราชินีก็รู้ในทันทีว่าทีโอดอร์นั้นมีพลังที่โดดเด่นจริงๆ อย่างไรก็ตาม, เธอยังไม่มั่นใจว่าเขาจะเอาชนะซาโรวินี่, ที่แข็งแกร่งถึงขนาดเดินทางระหว่างภพได้รึเปล่า จากที่เธอเห็น, คนๆเดียวที่สามารถเอาชนะปีศาจตนนี้ได้ก็คือลอร์ดเฟิร์ด
เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของชายหนุ่มคนนี้ได้อีกแล้วเธอยกมือขึ้นแล้วพูดออกมา “ทำตัวตามสบายเถอะ”
ก่อนที่ซาโรวินี่จะได้พูดอะไร,ราชินีก็พึมพำออกมา “เขาไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อท่านหรอกค่ะ เรื่องที่สำคัญที่สุดของพวกเราในวันนี้ก็คือการหยุดกระบวนการรวมภพไม่ใช่หรอคะ? และเพื่อที่จะทำแบบนั้น, พวกเราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากไฮเอลฟ์ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ พวกเรามีเวลาเหลือไม่มากแล้วนะคะ”
“ไม่ได้”ซาโรวินี่ส่ายหัว เธอก้าวมาข้างหน้า, สายตาของเธอยังคงจับจ้องมาที่ลิงค์ “ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนุ่มนี่มีชีวิตอยู่ไม่ได้!”
จากนั้นเธอก็ชักดาบออกมา“องค์ราชินี, ตั้งบาเรียป้องกันซะ ที่นี่อาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย…”
ราชินีไฮเอลฟ์ขมวดคิ้ว“นี่เจ้า…” ก่อนที่เธอจะพูดจบ,ซาโรวินี่ก็หันดาบมาจ่อที่คอของเธอ โลหะเย็นๆทำให้ราชินีขนลุกไปทั้งตัว
“พูดให้น้อยๆ,และทำให้เยอะๆเถอะองค์ราชินี, หรือว่าท่านอยากจะให้ข้าจัดการทุกคนที่นี่ตอนนี้เลย?”
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเธอยังต้องการความช่วยเหลือของผู้อาวุโสในการหยุดกระบวนการรวมภพ,เธอก็คงไม่คิดจะเข้าร่วมการประชุมที่น่าสมเพชนี้ตั้งแต่แรก, และทำการสังหารหมู่ไฮเอลฟ์ทุกคนที่อยู่บนเกาะไปแล้ว!
ราชินีไฮเอลฟ์กัดริมฝีปากของเธอ“กางบาเรียป้องกันซะ”
ณจุดนี้, เธอทำได้แค่หวังให้ทีโอดอร์ได้รับพรจากต้นไม้โลกจริงๆ
“องค์ราชินี,ท่านจะยอมทิ้งลูกชายของข้าง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะครับ!” เรย์มอนด์ตะโกน เขาพึ่งจะได้ทีโอดอร์กลับคืนมา แล้วเขาจะปล่อยให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ถูกฆ่าได้ยังไงกัน?
“ตายซะเถอะ,ไอ้แก่!” ซาโรวินี่สบัดดาบ, แล้วส่งระลอกคลื่นมิติพุ่งตรงมายังหัวใจของเรย์มอนด์
เธอมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถป้องกันการโจมตีของเธอได้แม้ว่าไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้พึ่งจะได้รับพลังระดับเดียวกับเธอ, แต่เธอก็คิดว่าคนที่พึ่งได้รับพลังเลเวล 16 ในชั่วข้ามคืนจากต้นไม้โลกนั้นจะสามารถเชี่ยวชาญมันในทันทีได้ยังไง
อย่างไรก็ตาม,เธอคิดผิด
แขนของลิงค์ขยับอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นภาพเบลอจากนั้นลำแสงจันทร์เสี้ยวก็พุ่งออกมาผ่านอากาศและขัดขวางการโจมตีของปีศาจในทันที
ซาโรวินี่ตกตะลึง“เจ้าหนุ่ม, ดูเหมือนข้าจะดูถูกเจ้าเกินไปหน่อยสินะ!”
ตูม!พลังแห่งความมืดเริ่มพลุ่งพล่านออกมารอบตัวซาโรวินี่ ตอนนี้เปลวเพลิงสีดำกำลังลุกไหม้รอบตัวเธอ เธอกำลังจะทุ่มพลังทั้งหมดใส่ลิงค์!
อันวาร์,บ้านผู้อาวุโส
มีเสียงขบวนรถม้าดังมาจากนอกอาคารไฮเอลฟ์ในรถม้านั้นสวมชุดเต็มยศทุกคน, และใบหน้าของพวกเขาก็ดูมีสง่าราศี ในตอนที่พวกเขาลงมาจากรถม้า, จะมีคนรับใช้หนุ่มสองคนรีบตรงมารับพวกเขา จากนั้นไฮเอลฟ์อาวุโสก็จะถูกพาไปยังที่นั่งประจำตำแหน่งของพวกเขาในบ้านผู้อาวุโส
ไฮเอลฟ์อาวุโสหนึ่งคนมักจะชอบพาลูกๆที่ตัวเองถูกใจมากที่สุดหนึ่งหรือสองคนมาเข้าร่วมการประชุมพวกนี้ตรงส่วนนี้นั้น, บ้านเฟเทอร์มูนได้มากับลูกสาวคนโตของเขา, นักเวทย์เลเวล 9 เซบี, ในขณะที่บ้านโคลด์สตาร์พาลูกที่น่ายกย่องที่สุดของเขามาสองคน
ไม่นานนัก,ก็เริ่มมีเสียงพูดคุยดังขึ้นในบ้านผู้อาวุโส เหล่าผู้เฒ่าได้ทักทายกัน, ในขณะที่ไฮเอลฟ์หนุ่มสาวแอบพูดคุยกันข้างหลังพวกเขา ทันใดนั้นเอง,ผู้อาวุโสคนนึงก็พูดขึ้นมา “ดูนั่นสิ, เรย์มอนด์มาถึงแล้ว”
แม้ว่าจะมีเสียงพูดคุยในบ้าน,แต่เสียงของเขาก็ดังไปทั่วทั้งอาคาร ในตอนนั้นเอง, ทุกคนก็หันไปมองทางเรย์มอนด์
สายตาของพวกเขาจดจ้องไปที่เรย์มอนด์เป็นเวลาพักนึงจากนั้น, ก็ย้ายไปยังไฮเอลฟ์หนุ่มที่เจิดจรัสที่สุดข้างหลังเขา
ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งห้องในตอนที่แขกทั้งหลายได้เห็นไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้
ชายหนุ่มคนนี้สวมชุดที่ดูทันสมัยที่สุดแต่ดาบที่ห้อยตรงเอวของเขายังคงเป็นดาบธรรมดา อย่างไรก็ตาม, เขาแผ่ออร่าที่อธิบายไม่ได้ออกมา ณ เวลานี้, สายตาของทุกคนได้จับจ้องมาที่เขา
เขากลายเป็นศูนย์กลางของความสนใจแม้ว่าเขาจะไม่ตั้งใจก็ตาม
ยกเว้นแค่เรย์มอนด์,ไฮเอลฟ์ผู้อาวุโสส่วนใหญ่นั้นคือต้นแบบของความยอดเยี่ยม ตัวตนของพวกเขาทำให้ไฮเอลฟ์ได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งนี่ก็หมายความว่าพวกเขาได้รับการยกย่องในเรื่องสายตาที่เป็นเลิศ
ความวุ่นวายเกิดขึ้นในบ้านผู้อาวุโสอีกครั้งนึงเหล่าผู้อาวุโสต่างก็สบตาอย่างรู้กัน พวกเขาได้ข้อสรุปเดียวกัน ต้นไม้โลกต้องส่งทีโอดอร์ มอร์เกนสตาร์มาให้พวกเราเพื่อต่อกรกับปีศาจอย่างแน่นอน!
บ้านเฟเทอร์มูนเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาทักทายเรย์มอนด์“โอ้สหาย, มันก็ผ่านมาซักพักแล้วนะ ท่านยังจำตอนที่พวกเราไปล่าสัตว์ด้วยกันในพื้นที่ล่าทางเหนือได้รึเปล่า?”
ในฐานะหนึ่งในตระกูลขุนนางใหญ่ของเกาะรุ่งอรุณ,บ้านเฟเทอร์มูนนั้นไม่เคยชายตามองผู้เล่นเล็กๆอย่างตระกูลมอร์เกนสตาร์เลย เรย์มอนด์รู้สึกประหลาดใจกับการแสดงความเป็นมิตรนี้ เขารีบก้มหัวให้เล็กน้อยแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ข้านึกไม่ถึงเลยว่าท่านยังจำได้อยู่ ตอนนั้นข้าจำได้แค่ว่าข้าทำให้ตัวเองดูโง่มากเลย, 555”
ในตอนแรก,เขาตั้งใจจะปรับน้ำเสียงให้ดูสุภาพกว่านี้ในขณะที่พูด อย่างไรก็ตาม, พอการสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ, เขาก็เริ่มพูดได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น ซึ่งเหตุผลนั้นง่ายมาก เขารู้ว่าเหตุผลเดียวที่หัวหน้าตระกูลเฟเทอร์มูนเข้ามาหาเขาก็เพราะทีโอดอร์ ลูกชายของเขาได้กลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในแวดวงไฮเอลฟ์ และแน่นอนว่า, นี่ทำให้เรยม์อนด์ดูเป็นคนที่มีคุณค่าให้คุยด้วยมากขึ้น
ผู้อาวุโสคนอื่นๆเองก็เข้ามาพูดคุยกับเขา
“ช่วงนี้ลูกชายที่ท่านพามาด้วยค่อนข้างมีชื่อเสียงใช้ได้เลยนะนี่คงเรียกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นใช่ไหมครับ?”
“ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับท่านแล้วนะ,สหาย!”
เรย์มอนด์ได้รับคำสรรเสริญมากมายจากเหล่าผู้อาวุโสจนเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาดังลั่น “ข้าเกรงว่าข้าคงจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวคนเดียวไม่ได้หรอก พวกเรายังต้องร่วมมือกันอยู่นะครับถ้าพวกเราหวังให้เรื่องนี้ผ่านไปได้ด้วยดี”
ผู้อาวุโสคนอื่นๆเองก็พยักหน้าเป็นการเห็นด้วย
ในตอนนั้นเอง,เพลงประจำชาติของไฮเอลฟ์ ‘สรรเสริญพระแม่ธรรมชาติ’ ก็เริ่มบรรเลงที่ข้างหน้าทางเข้าอาคาร ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบในทันที ผู้อาวุโสทุกคนลุกขึ้น, ในขณะที่ก้มหัวลงเล็กน้อย พอสัมผัสได้ถึงความสำคัญของการประชุมนี้, เหล่าไฮเอลฟ์หนุ่มสาวก็ทำตาม, โดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำ
ณตอนนี้, บรรยากาศในห้องนั้นตึงเครียดมากจนแม้กระทั่งนักเวทย์เลเวล 9 ก็ยังรู้สึกหายใจลำบาก
ลิงค์ได้ถอยไปอยู่ที่มุมๆนึง,และเขาก็เหลือบมองทางเข้าอาคารด้วยหางตาของเขา
มีเสียงเท้าดังมาจากทางเข้าไม่กี่วินาทีต่อมา, การ์ดหลวงก็เข้ามาในบ้านผู้อาวุโสด้วยชุดเครื่องแบบสีเขียวทองของพวกเขา นักรบเหล่านี้มีพลังเฉลี่ยอยู่ที่เลเวล 9 โดยมีจำนวนทั้งหมด 30 นาย ห้าคนในนั้นอยู่ระดับตำนาน และคนที่แข็งแกร่งที่สุดก็อยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 11
ขุมพลังเช่นนี้เคยแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเกาะจากภยันอันตรายทั้งหมดในฟิรุแมน
อย่างไรก็ตาม,เวลาได้เปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาคงจะถูกแปรสภาพเป็นปุ๋ยในพริบตาถ้าต้องเจอกับคนที่แข็งแกร่งอย่างซาโรวินี่หรือลิงค์
หนึ่งนาทีต่อมา,คนหน้าตาคุ้นเคยสองคนก็ปรากฎตัวขึ้นที่ประตูทางเข้า หนึ่งในนั้นคือราชินีไฮเอลฟ์, ในขณะที่อีกคนนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากซาโรวินี่
เมื่อหนึ่งปีก่อนลิงค์เคยพบกับราชินีไฮเอลฟ์ครั้งนึงที่เฟิร์ดแม้ว่าเธอจะดูแก่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด, แต่เธอก็ยังรักษาบารมีและความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้ ในโลกเกมส์, มีผู้เล่นมากมายที่ชอบไปรายล้อมรอบตัวเธอเหมือนกับพวกกองอวย พวกเขามักจะเป็นกลุ่มแรกที่ทำภารกิจที่ได้รับจากราชินีสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม,ช่วงปีที่ผ่านมานี้ไม่ได้ใจดีกับองค์ราชินีเลย มีรอยย่นปรากฎขึ้นที่หน้าผากของเธอ โคนผมตรงหน้าผากของเธอก็เริ่มหงอก และชุดที่งดงามของเธอนั้นก็ช่วยปกปิดบรรยากาศที่เศร้าซึมของเธอได้เพียงเล็กน้อย
แผนการต่างๆนาๆของเธอนั้นได้ถูกลิงค์ทำลายในทุกๆครั้งและการสูญเสียสามีกับลูกสาวไปก็มีแต่จะทำให้อารมณ์ที่เธอต้องแบกรับรุนแรงขึ้น
ซาโรวินี่ยืนอยู่ข้างๆราชินีไฮเอลฟ์เธอยังสวมชุดคลุมต่อสู้นรกแห่งความเศร้าอยู่, พร้อมกับมีดาบพลังแห่งความมืดคู่นึงห้อยอยู่ที่เอวของเธอ เธอมีสีหน้าที่จริงจัง คิ้วของเธอขมวดเล็กน้อย เธอดูแตกต่างจากครั้งแรกที่ลิงค์เห็นเธออย่างสมบูรณ์
หลังจากฝึกหนักมาหลายปี,เธอก็ได้กลายเป็นนักรบที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม,ซาโรวินี่ยังคงมีบรรยากาศที่เย่อหยิ่งอยู่ แม้จะรู้ว่าปีศาจจะถูกไฮเอลฟ์ส่วนใหญ่ในเกาะรุ่งอรุณมองในแง่ลบ, แต่เธอก็ดูเหมือนไม่คิดจะยับยั้งออร่าปีศาจของเธอเลย ในทุกๆครั้งที่ไฮเอลฟ์อาวุโสมองเธออย่างไม่พอใจ, เธอก็จะจ้องกลับไปเพื่อเตือนให้รู้ว่าที่นี่ใครคุม
ยังไงซะเธอก็เป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่จุดสูงสุดของเลเวล16, ในขณะที่ไฮเอลฟ์อาวุโสส่วนใหญ่ที่อยู่ในอาคารนั้นมีพลังแค่เลเวล 9 เท่านั้น พวกเขาทุกคนต่างก็พากันกลัวหัวหดในทันทีที่ถูกปีศาจจ้องกลับ
และในที่สุด,สายตาของซาโรวินี่ก็มาหยุดอยู่ที่ลิงค์
ในอาคารนั้นมีประชากรอยู่ประมาณ300 คน ไม่มีใครที่สามารถต้านทานสายตาของเธอได้เลย มีแค่ลิงค์เท่านั้นที่สามารถสบตากับเธอได้นานกว่าคนอื่นๆ
ซาโรวินี่ยกมือขึ้นมาข้างนึง,เพื่อหยุดฝีเท้าของราชินีไฮเอลฟ์ จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ลิงค์แล้วพูดออกมา “องค์ราชินี, นั่นใช่ทีโอดอร์ มอร์เกนสตาร์, ชายหนุ่มที่มีข่าวลือว่าได้รับพรจากต้นไม้โลกใช่ไหม?”
ราชินีไฮเอลฟ์มองทีโอดอร์เธอมีความรู้สึกที่ซับซ้อนเกี่ยวกับตัวตนของเขาที่นี่ ใจนึง, เธอก็หวังว่าตอนนี้ทีโอดอร์จะแข็งแกร่งพอที่จะจัดการซาโรวินี่ แต่อีกใจนึง, เธอก็รู้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขานั้นไม่ได้มีหวังขนาดนั้น การเดิมพันที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ก็คือการทำตามคำขอของปีศาจและปกป้องชายหนุ่มคนนี้ให้นานจนกว่าเขาจะพร้อมต่อกรกับซาโรวินี่
แต่เธอก็คิดไม่ถึงเลยว่าซาโรวินี่จะรู้ถึงตัวตนของไฮเอลฟ์หนุ่มเร็วขนาดนี้
ด้วยความที่ไม่มีทางเลือก,ราชินีจึงพยักหน้า “ใช่ค่ะ, นั่นคือทีโอดอร์ มอร์เกนสตาร์ เขายังเป็นแค่ไฮเอลฟ์หนุ่มที่ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย ข้าไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่คู่ควรกับเวลาของท่านหรอกค่ะ”
ซาโรวินี่ส่ายหัว“เล็กน้อยหรอ? ข้าไม่คิดอย่างนั้นนะ พอได้สบตากันแล้วข้าก็เข้าใจว่าเจ้าหนุ่มนี่มีอะไรมากกว่านั้นอีก”
จากนั้นเธอก็มองเหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ในห้องแล้วพูดออกมาดังลั่น“ข้าเดาว่าเจ้าหนุ่มนี่คงเป็นไพ่ตายที่พวกเจ้าคิดจะใช้ต่อกรกับข้าสินะ?”
ไม่มีเสียงตอบดังมาจากในห้องไม่มีผู้อาวุโสคนไหนกล้าเปล่งเสียงออกมาเลย
ตอนนี้เรย์มอนด์กำลังจับมือของทีโอดอร์แน่นเขาพึมพำออกมา “ลูกพ่อ, ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งกว่าที่ข้าคิดเอาไว้อีก เจ้ามั่นใจนะว่ารับมือกับเธอไหว? เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนตัวเองก็ได้นะ”
ลิงค์เอามืออีกข้างลูบหลังมือของเรย์มอนด์อย่างปลอบใจจากนั้นเขาก็ก้าวออกมาจากฝูงชนและโค้งคำนับราชินี “องค์ราชินี”
พอเห็นเด็กหนุ่มคนนี้,ราชินีก็รู้ในทันทีว่าทีโอดอร์นั้นมีพลังที่โดดเด่นจริงๆ อย่างไรก็ตาม, เธอยังไม่มั่นใจว่าเขาจะเอาชนะซาโรวินี่, ที่แข็งแกร่งถึงขนาดเดินทางระหว่างภพได้รึเปล่า จากที่เธอเห็น, คนๆเดียวที่สามารถเอาชนะปีศาจตนนี้ได้ก็คือลอร์ดเฟิร์ด
เธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของชายหนุ่มคนนี้ได้อีกแล้วเธอยกมือขึ้นแล้วพูดออกมา “ทำตัวตามสบายเถอะ”
ก่อนที่ซาโรวินี่จะได้พูดอะไร,ราชินีก็พึมพำออกมา “เขาไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อท่านหรอกค่ะ เรื่องที่สำคัญที่สุดของพวกเราในวันนี้ก็คือการหยุดกระบวนการรวมภพไม่ใช่หรอคะ? และเพื่อที่จะทำแบบนั้น, พวกเราจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากไฮเอลฟ์ทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ พวกเรามีเวลาเหลือไม่มากแล้วนะคะ”
“ไม่ได้”ซาโรวินี่ส่ายหัว เธอก้าวมาข้างหน้า, สายตาของเธอยังคงจับจ้องมาที่ลิงค์ “ข้าจะปล่อยให้เจ้าหนุ่มนี่มีชีวิตอยู่ไม่ได้!”
จากนั้นเธอก็ชักดาบออกมา“องค์ราชินี, ตั้งบาเรียป้องกันซะ ที่นี่อาจจะเกิดความวุ่นวายขึ้นนิดหน่อย…”
ราชินีไฮเอลฟ์ขมวดคิ้ว“นี่เจ้า…” ก่อนที่เธอจะพูดจบ,ซาโรวินี่ก็หันดาบมาจ่อที่คอของเธอ โลหะเย็นๆทำให้ราชินีขนลุกไปทั้งตัว
“พูดให้น้อยๆ,และทำให้เยอะๆเถอะองค์ราชินี, หรือว่าท่านอยากจะให้ข้าจัดการทุกคนที่นี่ตอนนี้เลย?”
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเธอยังต้องการความช่วยเหลือของผู้อาวุโสในการหยุดกระบวนการรวมภพ,เธอก็คงไม่คิดจะเข้าร่วมการประชุมที่น่าสมเพชนี้ตั้งแต่แรก, และทำการสังหารหมู่ไฮเอลฟ์ทุกคนที่อยู่บนเกาะไปแล้ว!
ราชินีไฮเอลฟ์กัดริมฝีปากของเธอ“กางบาเรียป้องกันซะ”
ณจุดนี้, เธอทำได้แค่หวังให้ทีโอดอร์ได้รับพรจากต้นไม้โลกจริงๆ
“องค์ราชินี,ท่านจะยอมทิ้งลูกชายของข้าง่ายๆแบบนี้ไม่ได้นะครับ!” เรย์มอนด์ตะโกน เขาพึ่งจะได้ทีโอดอร์กลับคืนมา แล้วเขาจะปล่อยให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ถูกฆ่าได้ยังไงกัน?
“ตายซะเถอะ,ไอ้แก่!” ซาโรวินี่สบัดดาบ, แล้วส่งระลอกคลื่นมิติพุ่งตรงมายังหัวใจของเรย์มอนด์
เธอมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถป้องกันการโจมตีของเธอได้แม้ว่าไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้พึ่งจะได้รับพลังระดับเดียวกับเธอ, แต่เธอก็คิดว่าคนที่พึ่งได้รับพลังเลเวล 16 ในชั่วข้ามคืนจากต้นไม้โลกนั้นจะสามารถเชี่ยวชาญมันในทันทีได้ยังไง
อย่างไรก็ตาม,เธอคิดผิด
แขนของลิงค์ขยับอย่างรวดเร็วจนเกิดเป็นภาพเบลอจากนั้นลำแสงจันทร์เสี้ยวก็พุ่งออกมาผ่านอากาศและขัดขวางการโจมตีของปีศาจในทันที
ซาโรวินี่ตกตะลึง“เจ้าหนุ่ม, ดูเหมือนข้าจะดูถูกเจ้าเกินไปหน่อยสินะ!”
ตูม!พลังแห่งความมืดเริ่มพลุ่งพล่านออกมารอบตัวซาโรวินี่ ตอนนี้เปลวเพลิงสีดำกำลังลุกไหม้รอบตัวเธอ เธอกำลังจะทุ่มพลังทั้งหมดใส่ลิงค์!