Advent of the Archmage - 719: นักเวทย์เฒ่าตาบอด (2)
Chapter
เหมือนกับเมืองมนุษย์สัตว์ส่วนใหญ่ถนนของเมืองในหุบเขานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นและสิ่งน่าขยะแขยง
ทุ่งหญ้าที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ขาดแคลนน้ำดังนั้นมนุษย์สัตว์จึงไม่มีรสนิยมในการอาบน้ำซักเท่าไหร่ พวกเขาไม่มีระบบท่อน้ำใต้ดินด้วยซ้ำ ดังนั้นของเน่าเสียจึงถูกนำมากองสุมกันที่มุมถนน ทั้งขี้วัว, ขี้แพะ, ขี้ลา ต่างก็อยู่เต็มถนนไปหมด เมืองมนุษย์ทุกเมืองนั้นล้วนสะอาดกว่าที่นี่เยอะ
แนวหุบเขาสูงตั้งเรียงรายกันเป็นกำแพงบดบังดวงอาทิตย์มันทำให้ซอยเล็กๆมืดและเต็มไปด้วยเงา ตลอดทั่วทั้งหุบเขา มีแค่ถนนสายหลักเท่านั้นที่เห็นแสงอาทิตย์ นอกเหนือจากนั้นจะอยู่ในเงามืด
ในความมืดนั้นสามารถเก็บงำความลับได้อย่างง่ายดายลิงค์เดินลึกเข้าไปในหุบเขาและสัมผัสถึงออร่าเวทมนตร์ที่เต็มไปด้วยเลือดได้จากถนนบางเส้น นอกจากนี้ที่ถนนบางเส้นยังมีคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่ดูยุ่งเหยิงด้วย
พวกนี้น่าจะเป็นผู้ติดตามของเทพปีศาจจากทะเลแห่งความว่างเปล่าที่ถูกส่งมาเพื่อดึงดูดผู้คน
เทพนั้นทรงพลังมากสำหรับมนุษย์แต่ก็เทียบอะไรไม่ได้กับเทพที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นบุคคลระดับตำนานคนไหนที่ได้รับการคุ้มครองจากภพก็สามารถขับไล่เทพปีศาจพวกนี้ออกไปได้
พวกนี้ก็เหมือนกับกลากเกลื้อนในภพแทนที่จะทำตัวเป็นภัยคุกคาม พวกมันกลับน่ารำคาญ
ลิงค์ไม่สนใจพวกความมืดกระจ้อยร่อยและเดินต่อไปเขาถามมนุษย์สัตว์บางคนที่เจออยู่ตามทางและได้เรียนรู้มาว่ามีเมืองที่ชื่อแบล็ควอร์เตอร์อยู่ที่ส่วนลึกสุดของหุบเขา มันเป็นเส้นทางที่มืดที่สุด และมีสิ่งมีชีวิตอันตรายอยู่รวมกันมากที่สุดด้วย แม้กระทั่งคนพื้นเมืองของหุบเขาก็ยังกลัวที่นี่เลย หุบเขานั้นยาวมากในตอนที่ลิงค์เดินไป มันก็แคบลงและมืดลงเรื่อยๆ ด้วยความที่ชาวเมืองได้ขุดภูเขาทำที่อยู่อาศัย มันจึงเริ่มกลายเป็นถ้ำขนาดใหญ่
ประมาณ10 นาทีต่อมา กำแพงทั้งสองก็แทบจะปิดลง และข้างในก็มีแต่ความมืด แหล่งที่มาของแสงเพียงอย่างเดียวก็คือคบเพลิงที่ติดอยู่ตามทาง เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้รับการดูแลดีเท่าไหร่นักและติดแบบกระจายกันมั่วไปหมด ในบางครั้ง จะมีลมพัดมา และเปลวเพลิงก็จะสั่นไหว แล้วเงาที่น่าขนลุกก็จะสะท้อนออกมาผ่านหุบเขา
พอมาถึงตรงนี้หัวใจของลิงค์ก็เต้นแรงขึ้นมา เขาสัมผัสถึงคลื่นพลังงานจากนักรบนากาที่อยู่ข้างหลังเขาได้อย่างชัดเจน
พวกเธอกำลังปลอมตัวอยู่แต่พวกเธอก็เหมือนกับเด็กที่พึ่งหัดเดินเมื่อต้องมาเจอกับลิงค์ ไม่ว่าจะซ่อนแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์
“พวกแกอยากใช้ฉันเป็นตัวดึงดูดความสนใจสินะ?เหอะ ฉันไม่ปล่อยให้แกได้ในสิ่งที่ต้องการหรอก” เห็นได้ชัดว่าลิงค์มองแผนของนากาออก ยกตัวอย่างเช่น ขวานรบของเขานั้นก็ไม่ได้เป็นแค่อาวุธ แต่มันยังประกอบไปด้วยเวทย์ระบุสถานที่สำหรับให้นากาสะกดรอยตามด้วย
ลิงค์ยิ่งสนใจเป้าหมายของนากามากขึ้นไปอีกเขาดูสภาพพื้นที่รอบตัวเขา และเขาก็เลือกเส้นทางเดินต่อโดยไม่ลังเล เขาก้มหน้าลงและมองไปตามเงาของเมืองแบล็ควอร์เตอร์ ลักษณะท่าทางของเขานั้นอยู่ระดับเดียวกับหน่วยลาดตระเวนที่ดีที่สุดเลย
เมืองแบล็ควอร์เตอร์นั้นอยู่ลึกลงไปข้างล่างและเส้นทางก็แยกออกไปรอบด้านมันดูเหมือนกับเขาวงกต ในบางครั้งจะมีเงาปรากฏขึ้นในตรอก แต่พวกมันจะคืบคลานไปข้างหน้าเหมือนลิงค์หรือไม่ก็หายไปอย่างไร้รอยต่อโดยไม่แสดงอะไรเลย
ในบางครั้งจะมีเสียงแปลกๆดังขึ้นตามถนน บ้างก็เป็นเสียงคราง บ้างก็เป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ในขณะที่เสียงอื่นๆเป็นเสียงที่ไม่สามารถอธิบายได้ ผู้คนที่อยู่ตามท้องถนนดูเหมือนจะชินกับเสียงพวกนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจเสียงพวกนี้เลย
ในขณะที่เขาเดินต่อไปคบเพลิงก็ค่อยๆน้อยลง และแสงก็น้อยลงตามไปด้วย ในสถานที่ๆแสงไฟไปไม่ถึงนั้นจะแทบมองไม่เห็นมือของตัวเองเลย แต่ก็แน่นอนว่า มันไม่มีผลกับลิงค์ ในสายตาของเขาสภาพแวดล้อมรอบตัวนั้นสว่างเหมือนกับตอนกลางวัน เขามองเห็นทุกซอกทุกมุมของที่นี่ได้อย่างชัดเจน
จากการรับรู้ของเขานากาที่แอบตามหลังเขามานั้นช้าลงมาก ความมืดขั้นสุดยอดและเสียงแปลกๆทำให้พวกเธอยกอาวุธขึ้นมาป้องกันตัว
ส่วนลิงค์นั้นเขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเหมือนกับวิญญาณ เขาไม่มีเสียงและรวดเร็ว หลังจากที่เดินไปได้เกือบ 10 นาที เขาก็หยุดลงและจับตัวใครบางคนที่สวมเสื้อคลุมฮู้ดสีดำมา
คนๆนี้มีคลื่นมานาแห่งความมืดเลเวล4เขาเป็นนักเวทย์ ซึ่งนักเวทย์เฒ่าตาบอดเองก็เป็นนักเวทย์เหมือนกัน ดังนั้นด้วยเหตผลนี้ลิงค์อาจจะถามข้อมูลจากเขาได้
ลิงค์กระตุกมือแล้วขวานรบขนาดใหญ่ก็ลอยออกมาเหมือนกับใบไม้ ใบมีดอันเย็นเฉียบได้กดลงไปที่คอของชายคนนั้น “อยากอยู่หรือตาย?”
“อยากอยู่สิครับ”คำตอบของนักเวทย์หนักแน่น และน้ำเสียงของเขาก็นิ่งมากมันมีการสั่นเลย เห็นได้ชัดว่าเขาชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว
เขาไม่ได้พยายามจะสู้กลับด้วยถึงแม้ว่าลิงค์จะไม่ได้ปล่อยมานาของเขาออกมา แต่เขาก็แสดงเทคนิคการต่อสู้ที่ทรงพลังด้วยขวานของเขา นักเวทย์นั้นเป็นพวกที่ตอบสนองกับอันตรายได้ดีกว่าอาชีพอื่นๆ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถสู้กับชายคนนี้ได้
ลิงค์รู้สึกพอใจที่ชายคนนี้รู้สถานะของตัวเอง“ข้าอยากรู้เรื่องของนักเวทย์เฒ่าตาบอด” “นักเวทย์เฒ่าตาบอด?ทำไมหรอครับ?” เสียงของนักเวทย์ฟังดูแปลกๆ
ลิงค์กดขวานของเขาลงในทันทีมีเสียงแหลมดังขึ้น และปกเสื้อของนักเวทย์ก็ถูกฉีกออก ใบมีดกดเข้าไปที่ผิวหนังของเขา “ข้าเป็นคนถาม ส่วนเจ้าเป็นคนตอบ ความอดทนของข้ามีจำกัดนะ”
นักเวทย์ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เขารู้แล้วว่าเขาเจอกับคนอันตรายเข้าแล้ว เขาอาจจะตายจากข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ เขาไม่กล้าที่จะคิดเรื่องอื่น เขาทำได้แค่พยามให้ความร่วมมือ “ถ้าเกิดนักเวทย์เฒ่าตาบอดอยู่ในเมืองแบล็ควอร์เตอร์ เขาก็คงจะต้องอยู่ที่โรงเตี๊ยมโลหิตแน่ๆครับ”
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่แบล็ควอเตอร์รึเปล่า?”ในขณะที่ถามลิงค์ก็จ้องเข้าไปในดวงตาของนักเวทย์ เขาคอยสัมผัสวิญญาณของอีกฝ่ายด้วย เพื่อให้รู้ได้ในทันทีว่าเขาโกหกรึเปล่า ไม่มีความลับไหนในฟิรุแมนที่เขาจะไม่รู้! “ท่านมาได้ถูกจังหวะเลยครับวันนี้เขาอยู่ที่นี่พอดีเลย” นักเวทย์ไม่กล้ามองตาลิงค์ตรงๆ เขาเบือนหน้าหนีในไม่กี่วินาทีต่อมา มันไม่ใช่เพราะเขารู้สึกผิด มันเป็นเพราะเขาไม่สามารถทนรับแรงกดดันจากลิงค์ได้
ลิงค์หันศรีษะของนักเวทย์กลับมาบังคับให้เขาจ้องมาที่ลิงค์ “ปกตินักเวทย์เฒ่าตาบอดชอบไปอยู่ที่ไหน?”
“เขาเป็นคนที่ลึกลับมากไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่ และเขาก็แข็งแกร่งมากเลยด้วย เขาเคยแสดงเวทย์เลเวล 7 ให้ดู เขาทำตัวติดดินและไม่เคยก่อปัญหา ในตอนที่เขาไปโรงเตี๊ยมโลหิต เขามักจะไปดื่มคนเดียวที่มุมเงียบๆและแทบไม่สุงสิงกับใครเลย” เสียงของนักเวทย์สั่นด้วยความกลัว
“คำถามสุดท้ายทำไมเขาถึงถูกเรียกว่านักเวทย์เฒ่าตาบอด?”
“เขาตาบอดตาบอดทั้งสองข้างเลยครับ เขาใส่คริสตัลสีขาว 2 ชิ้นเข้าไปแทนลูกตาของเขา มันก็ดูน่ากลัวมาก นี่คือทั้งหมดที่ข้ารู้จริงๆนะ”
“ใจเย็นก่อนข้าแค่อยากจะรู้ว่าโรงเตี๊ยมโลหิตต้องไปทางไหน”
“เดินไปตามถนนนี้จนสุดเลยครับแล้วท่านจะเห็นประตูที่มีคบเพลิงสีดำ นั่นคือทางเข้า” เสียงของนักเวทย์ดูเร่งรีบและสั่นเครือ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าลิงค์พร้อมที่จะปิดปากเขาด้วยความตายแล้ว
ลิงค์หัวเราะซึ่งมันทำให้นักเวทย์ตัวสั่น เขาพยายามที่จะโจมตีตามสัญชาติญาณด้วยการยกคทาขึ้นมา
“เข้าใจหล่ะข้าเชื่อเจ้า ไปได้แล้ว” ลิงค์สบัดมืออย่างเฉยเมย และทำลายเวทมนตร์ที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นที่คทา จากนั้นเขาก็จับนักเวทย์โยนออกไป ในขณะที่ลอยอยู่นั้นเขาก็หายเข้าไปในความมืดภายในพริบตา
ตุ้บนักเวทย์ตกลงมาที่พื้นเบาๆ ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมา นักรบมนุษย์สัตว์ก็หายไปแล้ว สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นดูน่าเหลือเชื่อมาก แต่ในตอนที่เขาจับคอของตัวเอง เขาก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบของขวาน ปกเสื้อของเขาเองก็ขาดหลุดรุ่ย ซึ่งนี่เป็นข้อพิสูจน์ว่ามันเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ
นักรบคนนั้นแข็งแกร่งมากศัตรูของนักเวทย์เฒ่าตาบอดอาจจะตามหาตัวเขาอยู่ ข้าอยู่ที่เมืองแบล็ควอร์เตอร์ไม่ได้แล้ว ต้องรีบไปแล้วหล่ะ!
เขารีบหันหลังกลับและวิ่งออกจากเมืองโดยไม่หยุดพัก
ในอีกด้านนึงลิงค์เร่งความเร็วขึ้น 3 นาทีต่อมา เขาก็มาถึงสุดเส้นถนน มีประตูอยู่ที่นี่จริงๆ และมีคบเพลิงสีดำห้อยอยู่จริงๆ มันส่องแสงสว่างเป็นประโยคสีแดงเลือด ‘ค่ำคืนเลือดแห่งความสนุก’
มีเสียงดังมาจากอีกฝั่งของประตูพร้อมกับเพลงแปลกๆนี่จะต้องเป็นโรงเตี๊ยมโลหิตแน่ๆ ลิงค์เดินเข้าไปและเปิดประตูเบาๆ
เขาได้กลิ่นเลือดในทันทีมันทำให้เขามึนหัว เขาตั้งสติ และเห็นสีแดงอยู่ทุกที่ ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาบอกเขาว่าไวน์ของที่นี่เป็นเลือดทั้งหมด ชายหญิงที่มีส่วนร่วมในงานรื่นเริงนี้ต่างก็เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ดำทั้งนั้น และประมาณ 1 ใน 3 ก็เป็นลูกหลานของปีศาจดูดเลือดด้วย
นอกจากนี้เขายังเห็นนักเวทย์ตาบอดคนนึงอยู่ที่มุมนึงของโรงเตี๊ยมเหมือนกับที่นักเวทย์คนนั้นบอกเอาไว้ เขานั่งเงียบๆคนเดียวและกำลังดื่มเลือดสด ในตอนที่ลิงค์ปรากฏตัวขึ้น เขาก็หันมาในทันทีด้วยความตกตะลึง ในตอนที่ลิงค์เห็นเขา เขาเองก็ขมวดคิ้วขึ้นเหมือนกัน เขารู้จักนักเวทย์คนนี้!
เหมือนกับเมืองมนุษย์สัตว์ส่วนใหญ่ถนนของเมืองในหุบเขานั้นเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นและสิ่งน่าขยะแขยง
ทุ่งหญ้าที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้เป็นสถานที่ที่ขาดแคลนน้ำดังนั้นมนุษย์สัตว์จึงไม่มีรสนิยมในการอาบน้ำซักเท่าไหร่ พวกเขาไม่มีระบบท่อน้ำใต้ดินด้วยซ้ำ ดังนั้นของเน่าเสียจึงถูกนำมากองสุมกันที่มุมถนน ทั้งขี้วัว, ขี้แพะ, ขี้ลา ต่างก็อยู่เต็มถนนไปหมด เมืองมนุษย์ทุกเมืองนั้นล้วนสะอาดกว่าที่นี่เยอะ
แนวหุบเขาสูงตั้งเรียงรายกันเป็นกำแพงบดบังดวงอาทิตย์มันทำให้ซอยเล็กๆมืดและเต็มไปด้วยเงา ตลอดทั่วทั้งหุบเขา มีแค่ถนนสายหลักเท่านั้นที่เห็นแสงอาทิตย์ นอกเหนือจากนั้นจะอยู่ในเงามืด
ในความมืดนั้นสามารถเก็บงำความลับได้อย่างง่ายดายลิงค์เดินลึกเข้าไปในหุบเขาและสัมผัสถึงออร่าเวทมนตร์ที่เต็มไปด้วยเลือดได้จากถนนบางเส้น นอกจากนี้ที่ถนนบางเส้นยังมีคลื่นศักดิ์สิทธิ์ที่ดูยุ่งเหยิงด้วย
พวกนี้น่าจะเป็นผู้ติดตามของเทพปีศาจจากทะเลแห่งความว่างเปล่าที่ถูกส่งมาเพื่อดึงดูดผู้คน
เทพนั้นทรงพลังมากสำหรับมนุษย์แต่ก็เทียบอะไรไม่ได้กับเทพที่แท้จริงไม่ว่าจะเป็นบุคคลระดับตำนานคนไหนที่ได้รับการคุ้มครองจากภพก็สามารถขับไล่เทพปีศาจพวกนี้ออกไปได้
พวกนี้ก็เหมือนกับกลากเกลื้อนในภพแทนที่จะทำตัวเป็นภัยคุกคาม พวกมันกลับน่ารำคาญ
ลิงค์ไม่สนใจพวกความมืดกระจ้อยร่อยและเดินต่อไปเขาถามมนุษย์สัตว์บางคนที่เจออยู่ตามทางและได้เรียนรู้มาว่ามีเมืองที่ชื่อแบล็ควอร์เตอร์อยู่ที่ส่วนลึกสุดของหุบเขา มันเป็นเส้นทางที่มืดที่สุด และมีสิ่งมีชีวิตอันตรายอยู่รวมกันมากที่สุดด้วย แม้กระทั่งคนพื้นเมืองของหุบเขาก็ยังกลัวที่นี่เลย หุบเขานั้นยาวมากในตอนที่ลิงค์เดินไป มันก็แคบลงและมืดลงเรื่อยๆ ด้วยความที่ชาวเมืองได้ขุดภูเขาทำที่อยู่อาศัย มันจึงเริ่มกลายเป็นถ้ำขนาดใหญ่
ประมาณ10 นาทีต่อมา กำแพงทั้งสองก็แทบจะปิดลง และข้างในก็มีแต่ความมืด แหล่งที่มาของแสงเพียงอย่างเดียวก็คือคบเพลิงที่ติดอยู่ตามทาง เห็นได้ชัดว่าพวกมันไม่ได้รับการดูแลดีเท่าไหร่นักและติดแบบกระจายกันมั่วไปหมด ในบางครั้ง จะมีลมพัดมา และเปลวเพลิงก็จะสั่นไหว แล้วเงาที่น่าขนลุกก็จะสะท้อนออกมาผ่านหุบเขา
พอมาถึงตรงนี้หัวใจของลิงค์ก็เต้นแรงขึ้นมา เขาสัมผัสถึงคลื่นพลังงานจากนักรบนากาที่อยู่ข้างหลังเขาได้อย่างชัดเจน
พวกเธอกำลังปลอมตัวอยู่แต่พวกเธอก็เหมือนกับเด็กที่พึ่งหัดเดินเมื่อต้องมาเจอกับลิงค์ ไม่ว่าจะซ่อนแค่ไหนมันก็ไม่มีประโยชน์
“พวกแกอยากใช้ฉันเป็นตัวดึงดูดความสนใจสินะ?เหอะ ฉันไม่ปล่อยให้แกได้ในสิ่งที่ต้องการหรอก” เห็นได้ชัดว่าลิงค์มองแผนของนากาออก ยกตัวอย่างเช่น ขวานรบของเขานั้นก็ไม่ได้เป็นแค่อาวุธ แต่มันยังประกอบไปด้วยเวทย์ระบุสถานที่สำหรับให้นากาสะกดรอยตามด้วย
ลิงค์ยิ่งสนใจเป้าหมายของนากามากขึ้นไปอีกเขาดูสภาพพื้นที่รอบตัวเขา และเขาก็เลือกเส้นทางเดินต่อโดยไม่ลังเล เขาก้มหน้าลงและมองไปตามเงาของเมืองแบล็ควอร์เตอร์ ลักษณะท่าทางของเขานั้นอยู่ระดับเดียวกับหน่วยลาดตระเวนที่ดีที่สุดเลย
เมืองแบล็ควอร์เตอร์นั้นอยู่ลึกลงไปข้างล่างและเส้นทางก็แยกออกไปรอบด้านมันดูเหมือนกับเขาวงกต ในบางครั้งจะมีเงาปรากฏขึ้นในตรอก แต่พวกมันจะคืบคลานไปข้างหน้าเหมือนลิงค์หรือไม่ก็หายไปอย่างไร้รอยต่อโดยไม่แสดงอะไรเลย
ในบางครั้งจะมีเสียงแปลกๆดังขึ้นตามถนน บ้างก็เป็นเสียงคราง บ้างก็เป็นเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ในขณะที่เสียงอื่นๆเป็นเสียงที่ไม่สามารถอธิบายได้ ผู้คนที่อยู่ตามท้องถนนดูเหมือนจะชินกับเสียงพวกนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจเสียงพวกนี้เลย
ในขณะที่เขาเดินต่อไปคบเพลิงก็ค่อยๆน้อยลง และแสงก็น้อยลงตามไปด้วย ในสถานที่ๆแสงไฟไปไม่ถึงนั้นจะแทบมองไม่เห็นมือของตัวเองเลย แต่ก็แน่นอนว่า มันไม่มีผลกับลิงค์ ในสายตาของเขาสภาพแวดล้อมรอบตัวนั้นสว่างเหมือนกับตอนกลางวัน เขามองเห็นทุกซอกทุกมุมของที่นี่ได้อย่างชัดเจน
จากการรับรู้ของเขานากาที่แอบตามหลังเขามานั้นช้าลงมาก ความมืดขั้นสุดยอดและเสียงแปลกๆทำให้พวกเธอยกอาวุธขึ้นมาป้องกันตัว
ส่วนลิงค์นั้นเขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไรเหมือนกับวิญญาณ เขาไม่มีเสียงและรวดเร็ว หลังจากที่เดินไปได้เกือบ 10 นาที เขาก็หยุดลงและจับตัวใครบางคนที่สวมเสื้อคลุมฮู้ดสีดำมา
คนๆนี้มีคลื่นมานาแห่งความมืดเลเวล4เขาเป็นนักเวทย์ ซึ่งนักเวทย์เฒ่าตาบอดเองก็เป็นนักเวทย์เหมือนกัน ดังนั้นด้วยเหตผลนี้ลิงค์อาจจะถามข้อมูลจากเขาได้
ลิงค์กระตุกมือแล้วขวานรบขนาดใหญ่ก็ลอยออกมาเหมือนกับใบไม้ ใบมีดอันเย็นเฉียบได้กดลงไปที่คอของชายคนนั้น “อยากอยู่หรือตาย?”
“อยากอยู่สิครับ”คำตอบของนักเวทย์หนักแน่น และน้ำเสียงของเขาก็นิ่งมากมันมีการสั่นเลย เห็นได้ชัดว่าเขาชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว
เขาไม่ได้พยายามจะสู้กลับด้วยถึงแม้ว่าลิงค์จะไม่ได้ปล่อยมานาของเขาออกมา แต่เขาก็แสดงเทคนิคการต่อสู้ที่ทรงพลังด้วยขวานของเขา นักเวทย์นั้นเป็นพวกที่ตอบสนองกับอันตรายได้ดีกว่าอาชีพอื่นๆ เขารู้ว่าเขาไม่สามารถสู้กับชายคนนี้ได้
ลิงค์รู้สึกพอใจที่ชายคนนี้รู้สถานะของตัวเอง“ข้าอยากรู้เรื่องของนักเวทย์เฒ่าตาบอด” “นักเวทย์เฒ่าตาบอด?ทำไมหรอครับ?” เสียงของนักเวทย์ฟังดูแปลกๆ
ลิงค์กดขวานของเขาลงในทันทีมีเสียงแหลมดังขึ้น และปกเสื้อของนักเวทย์ก็ถูกฉีกออก ใบมีดกดเข้าไปที่ผิวหนังของเขา “ข้าเป็นคนถาม ส่วนเจ้าเป็นคนตอบ ความอดทนของข้ามีจำกัดนะ”
นักเวทย์ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เขารู้แล้วว่าเขาเจอกับคนอันตรายเข้าแล้ว เขาอาจจะตายจากข้อผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ เขาไม่กล้าที่จะคิดเรื่องอื่น เขาทำได้แค่พยามให้ความร่วมมือ “ถ้าเกิดนักเวทย์เฒ่าตาบอดอยู่ในเมืองแบล็ควอร์เตอร์ เขาก็คงจะต้องอยู่ที่โรงเตี๊ยมโลหิตแน่ๆครับ”
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่แบล็ควอเตอร์รึเปล่า?”ในขณะที่ถามลิงค์ก็จ้องเข้าไปในดวงตาของนักเวทย์ เขาคอยสัมผัสวิญญาณของอีกฝ่ายด้วย เพื่อให้รู้ได้ในทันทีว่าเขาโกหกรึเปล่า ไม่มีความลับไหนในฟิรุแมนที่เขาจะไม่รู้! “ท่านมาได้ถูกจังหวะเลยครับวันนี้เขาอยู่ที่นี่พอดีเลย” นักเวทย์ไม่กล้ามองตาลิงค์ตรงๆ เขาเบือนหน้าหนีในไม่กี่วินาทีต่อมา มันไม่ใช่เพราะเขารู้สึกผิด มันเป็นเพราะเขาไม่สามารถทนรับแรงกดดันจากลิงค์ได้
ลิงค์หันศรีษะของนักเวทย์กลับมาบังคับให้เขาจ้องมาที่ลิงค์ “ปกตินักเวทย์เฒ่าตาบอดชอบไปอยู่ที่ไหน?”
“เขาเป็นคนที่ลึกลับมากไม่มีใครรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนกันแน่ และเขาก็แข็งแกร่งมากเลยด้วย เขาเคยแสดงเวทย์เลเวล 7 ให้ดู เขาทำตัวติดดินและไม่เคยก่อปัญหา ในตอนที่เขาไปโรงเตี๊ยมโลหิต เขามักจะไปดื่มคนเดียวที่มุมเงียบๆและแทบไม่สุงสิงกับใครเลย” เสียงของนักเวทย์สั่นด้วยความกลัว
“คำถามสุดท้ายทำไมเขาถึงถูกเรียกว่านักเวทย์เฒ่าตาบอด?”
“เขาตาบอดตาบอดทั้งสองข้างเลยครับ เขาใส่คริสตัลสีขาว 2 ชิ้นเข้าไปแทนลูกตาของเขา มันก็ดูน่ากลัวมาก นี่คือทั้งหมดที่ข้ารู้จริงๆนะ”
“ใจเย็นก่อนข้าแค่อยากจะรู้ว่าโรงเตี๊ยมโลหิตต้องไปทางไหน”
“เดินไปตามถนนนี้จนสุดเลยครับแล้วท่านจะเห็นประตูที่มีคบเพลิงสีดำ นั่นคือทางเข้า” เสียงของนักเวทย์ดูเร่งรีบและสั่นเครือ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าลิงค์พร้อมที่จะปิดปากเขาด้วยความตายแล้ว
ลิงค์หัวเราะซึ่งมันทำให้นักเวทย์ตัวสั่น เขาพยายามที่จะโจมตีตามสัญชาติญาณด้วยการยกคทาขึ้นมา
“เข้าใจหล่ะข้าเชื่อเจ้า ไปได้แล้ว” ลิงค์สบัดมืออย่างเฉยเมย และทำลายเวทมนตร์ที่กำลังเป็นรูปเป็นร่างขึ้นที่คทา จากนั้นเขาก็จับนักเวทย์โยนออกไป ในขณะที่ลอยอยู่นั้นเขาก็หายเข้าไปในความมืดภายในพริบตา
ตุ้บนักเวทย์ตกลงมาที่พื้นเบาๆ ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นมา นักรบมนุษย์สัตว์ก็หายไปแล้ว สิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นดูน่าเหลือเชื่อมาก แต่ในตอนที่เขาจับคอของตัวเอง เขาก็ยังคงรู้สึกได้ถึงความเย็นวาบของขวาน ปกเสื้อของเขาเองก็ขาดหลุดรุ่ย ซึ่งนี่เป็นข้อพิสูจน์ว่ามันเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ
นักรบคนนั้นแข็งแกร่งมากศัตรูของนักเวทย์เฒ่าตาบอดอาจจะตามหาตัวเขาอยู่ ข้าอยู่ที่เมืองแบล็ควอร์เตอร์ไม่ได้แล้ว ต้องรีบไปแล้วหล่ะ!
เขารีบหันหลังกลับและวิ่งออกจากเมืองโดยไม่หยุดพัก
ในอีกด้านนึงลิงค์เร่งความเร็วขึ้น 3 นาทีต่อมา เขาก็มาถึงสุดเส้นถนน มีประตูอยู่ที่นี่จริงๆ และมีคบเพลิงสีดำห้อยอยู่จริงๆ มันส่องแสงสว่างเป็นประโยคสีแดงเลือด ‘ค่ำคืนเลือดแห่งความสนุก’
มีเสียงดังมาจากอีกฝั่งของประตูพร้อมกับเพลงแปลกๆนี่จะต้องเป็นโรงเตี๊ยมโลหิตแน่ๆ ลิงค์เดินเข้าไปและเปิดประตูเบาๆ
เขาได้กลิ่นเลือดในทันทีมันทำให้เขามึนหัว เขาตั้งสติ และเห็นสีแดงอยู่ทุกที่ ประสบการณ์การต่อสู้ของเขาบอกเขาว่าไวน์ของที่นี่เป็นเลือดทั้งหมด ชายหญิงที่มีส่วนร่วมในงานรื่นเริงนี้ต่างก็เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ดำทั้งนั้น และประมาณ 1 ใน 3 ก็เป็นลูกหลานของปีศาจดูดเลือดด้วย
นอกจากนี้เขายังเห็นนักเวทย์ตาบอดคนนึงอยู่ที่มุมนึงของโรงเตี๊ยมเหมือนกับที่นักเวทย์คนนั้นบอกเอาไว้ เขานั่งเงียบๆคนเดียวและกำลังดื่มเลือดสด ในตอนที่ลิงค์ปรากฏตัวขึ้น เขาก็หันมาในทันทีด้วยความตกตะลึง ในตอนที่ลิงค์เห็นเขา เขาเองก็ขมวดคิ้วขึ้นเหมือนกัน เขารู้จักนักเวทย์คนนี้!