Advent of the Archmage - 721: ตามหาเซลีน (1)
Chapter
หลังจากนั้นไม่นานนากาที่ปลอมตัวเป็นพ่อค้าชาวมนุษย์คนนึงก็ปรากฏตัวขึ้นที่โรงเตี๊ยม เธอถือมีดพร้า 2 เล่มลอบเข้ามาข้างใน พอสำรวจดูรอบๆแล้ว เธอก็ตะโกนบอกข้างนอก หัวหน้า ปลอดภัยค่ะ แต่ข้าไม่เห็นนักเวทย์เฒ่าตาบอดเลย และข้าก็ไม่เจอมนุษย์สัตว์คนนั้นด้วย
จากนั้นก็มีคนกลุ่มนึงปรากฏตัวขึ้นที่ประตูนากาประมาณ 10 กว่าคนพากันเข้ามา หัวหน้าของนากาเหล่านี้อยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 11 ตอนี่ทอยู่ในเมืองเธอได้ปลอมตัวเป็นผู้ชายและคอยระวังการกระทำของเธอ แต่พอมาถึงจุดนี้ เธอก็ไม่สนใจเรื่องนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอบิดเอวของเธอ และล้อมโรงเตี๊ยมเอาไว้ จากนั้นเธอก็ตรวจสอบร่องรอยทั้งหลายที่ถูกทิ้งเอาไว้ที่นี่และตรวจดูศพที่พื้นอีกรอบให้แน่ใจ และในท้ายที่สุด เธอก็หยิบขวานรบขนาดใหญ่ที่วางอยู่กลางโรงเตี๊ยมขึ้นมาตรวจสอบ เธอกำลังตกอยู่ในห้วงความคิด
ณตอนนี้นากาคนอื่นๆได้ล้อมเธอไว้ รอฟังคำสั่งต่อไปของเธอ
ประมาณ5 หรือ 6 นาทีต่อมา หัวหน้านากาก็ได้ข้อสรุป มนุษย์สัตว์ยืนอยู่ที่ทางเข้าในขณะที่นักเวทย์เฒ่าตาบอดน่าจะนั่งอยู่ตรงนี้ เขารู้สึกได้ถึงภัยคุกคาม ดังนั้นเขาจึงใช้เวทย์วิญญาณแห่งความมืด และโรงเตี๊ยมก็ตกอยู่ในความวุ่นวายในทันที
เธอตรวจดูพื้นของโรงเตี๊ยมและเธอก็อธิบายสถานการณ์ให้ลูกน้องฟังไปด้วยพร้อมกับจัดระเบียบความคิดของเธอ
ผู้คนพากันวิ่งออกไปทางประตูแต่พวกเขาก็ถูกขวานของมนุษย์สัตว์ผ่า มนุษย์สัตว์คนนี้มีพละกำลังมาก หลังจากฆ่าไปได้ 5 คน เขาก็พุ่งไปหานักเวทย์เฒ่าตาบอด และร่องรอยก็หายไปตรงนี้ ซึ่งนี่แสดงว่าพวกเขาหายตัวไป เดี๋ยวนะ ข้าสัมผัสได้ถึงการบิดเบือนของมิติ จะต้องมีการใช้เวทย์เทเลพอร์ทเกิดขึ้นแน่ๆ! หัวหน้าแล้วตอนนี้พวกเราจะเอายังไงต่อดีคะ? นากาถาม
นักเวทย์เฒ่าตาบอดเป็นคนที่เจ้าเล่ห์มากแถมยังมีระยะการเทเลพอร์ทที่ค่อนข้างไกลด้วยมนุษย์สัตว์คนนั้นอาจจะถูกฆ่าไปแล้ว แถมยังไม่เหลือศพให้ตรวจสอบอีก บางทีมันตอนนี้การตามหาตัวนักเวทย์เฒ่าตาบอดคงเป็นไปไม่ได้แล้ว
หัวหน้านากาเดินไปทั่วห้องไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็พูดขึ้น ตอนนี้ภารกิจมันเกินความสามารถของพวกเราแล้ว กลับไปบอกนายท่านกันก่อนเถอะ
คนที่เหลือไม่มีข้อโต้แย้งพวกเธอพยักหน้าพร้อมกันและเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ลิงค์กับดาร์ริสได้ซ่อนตัวอยู่ที่มุมๆนึง และคอยเฝ้ามองอย่างเงียบๆ หลังจากที่นากาออกไป ดาร์ริสก็หันมามองลิงค์ ตอนนี้ท่านจะฆ่าข้าหรอ?
พวกเขาเคยเป็นศัตรูกันและตอนนี้ลิงค์ก็มีพลังสูงมากลิงค์แค่กระดิกนิ้วก็ฆ่าเขาได้แล้วตอนนี้เขาทำได้แค่รอความตาย
ลิงค์ไม่ได้ตอบคำถามแต่เขาถามออกมาแทน นายคิดยังไงเกี่ยวกับมานาแห่งความมืด?
มันทรงพลังครับแต่มันส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนได้ง่ายมาก ถ้าเกิดไม่ใช้มันอย่างระมัดระวัง ก็อาจจะถูกมานาควบคุมและกลายเป็นทาสแห่งความมืดได้ และเมื่อเป็นแล้วคนๆนั้นจะทำลายตัวเองในขณะที่ทำลายคนอื่นไปด้วย
ดาร์ริสไม่รู้ว่าทำไมลิงค์ถึงถามแบบนี้แต่เขารู้สึกได้อย่างลึกซึ้งในตอนที่พูด เขาไม่ใช่เด็กหนุ่มที่เป็นคนภาคภูมิใจในตัวเองและเย่อหยิ่งเหมือนตอนอยู่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟอีกแล้ว เขาได้ผ่านความยากลำบากมามากมายและได้เข้าใจความเป็นจริงอันโหดร้ายของโลกใบนี้
หลังจากที่ได้ฟังความเข้าใจเกี่ยวกับมานาแห่งความมืดของเขาลิงค์ก็ยิ้มให้และตบไหล่ของเขาเบาๆ พลังแห่งความมืดเป็นดาบสองคม มีแค่ไม่กี่คนที่สามารถควบคุมมันได้ การที่นายคิดแบบนี้ได้ถือว่าสุดยอดแล้วหล่ะ ถ้างั้นก็เอาเป็นว่าเรื่องบาดหมางของเราในอดีต ก็ปล่อยให้มันผ่านไปแล้วกันนะ
ทะท่านจะยกโทษให้ข้าจริงๆหรอครับ? ดาร์ริสดีใจมาก ไม่มีใครอยากอาศัยอยู่ในความลึกลับและความน่ากลัวไปตลอดชีวิตหรอก
ลิงค์พยักหน้าเขาเอามือแตะอากาศและพลังแห่งความมืดก็ปรากฏขึ้น จากนั้นพลังก็แข็งตัวและกลายเป็นหนังสือปกหนังสีดำเล่มนึง
เอาหนังสือมนตร์แห่งความมืดเล่มนี้ไปสิมันเก็บรวบรวมประสบการณ์ของฉันในตอนที่ใช้พลังแห่งความมืดเอาไว้ แล้วมันก็สามารถช่วยคุ้มครองไม่ให้วิญญาณของนายแปดเปื้อนได้ด้วยนะ
เขาสร้างของแบบนี้ขึ้นมาได้จากความว่างเปล่าดาร์ริสจ้องมองเขาด้วยความเคารพ ในตอนที่เขาได้รับหนังสือมา เขาก็คุกเข่าลงด้วยความตื่นเต้น และแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ ขอบคุณมากเลยครับสำหรับความเมตตาของท่าน
ลิงค์ตบไหล่ของเขา ปีศาจส่วนใหญ่ในโลกนี้ล้วนถูกความมืดควบคุม การที่นายควบคุมมันได้นี่ถือเป็นเรื่องที่หาได้ยากนะ
ในส่วนของเรื่องบาดหมางในอดีตลิงค์ได้ปล่อยวางไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ เขาจะมองแค่จุดที่สูงกว่า
ในทันทีที่เขาจัดการเสร็จเรียบร้อยลิงค์ก็หายไปจากโรงเตี๊ยมโลหิต พริบตาต่อมา เขาก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ปลายหุบเขาด้วยร่างของมนุษย์สัตว์ ยังไงก็ตาม แทนที่จะเป็นนักเดินทาง ตอนนี้เขากลายเป็นพ่อค้าที่ขายของอยู่ริมทาง
ประมาณครึ่งนาทีต่อมากลุ่มของนากาก็รีบออกมาจากส่วนลึกของหุบเขา
พวกเธอเดินผ่านลิงค์ไปโดยไม่ทันสังเกตเห็นลิงค์เองก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษเหมือนกัน เขาแค่เงยหน้าขึ้นมาและทำการขายต่อไป ในตอนที่นากาจากไปไกลแล้วและเกือบจะหายไปจากทัศนวิสัยของเขาอย่างสมบูรณ์ลิงค์ก็รีบตามไปทันที นากาได้พูดถึงเจ้านายของพวกเธอด้วย คนๆนั้นจะต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดอย่างแน่นอน เขาจะต้องไปเจอกับคนๆนั้นให้ได้
พวกนากาดูระวังตัวมากพวกเธอมองไปรอบๆในขณะที่เดิน ในตอนที่พวกเธอออกจากหุบเขาและเข้าไปในพงหญ้าแห้ง, พวกเธอก็สวมผ้าคลุมล่องหนแล้วหายตัวไป
แต่ก็น่าเสียดายที่ผ้าคลุมพวกนี้ใช้ได้ผลแค่กับคนธรรมดาเท่านั้น สำหรับลิงค์ ผลพวกนี้เบาจนแทบจะไร้ผลเลยด้วยซ้ำ
ลิงค์แอบตามเป็นเวลาประมาณ1 ชั่วโมงแล้ว เขาเดินทางมาได้กว่า 100 ไมล์ก่อนที่เนินหินจะปรากฏขึ้น ซึ่งพวกนากาได้เดินวนรอบเนินหินยักษ์นั้นอยู่หลายรอบจากนั้นก็หายไป ในครั้งนี้ ลิงค์รู้สึกได้ว่า เขาพลัดหลงกับพวกนั้นแล้ว เทคนิคนี้เป็นเทคนิคระดับเดียวกับของเขา! นี่มันพลังสูงสุดที่ภพจะรับได้เจ้านายของยัยพวกนี้จะต้องอยู่ที่จุดสูงสุดของเลเวล 19 แน่ๆ! ลิงค์ขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าตอนนี้มันค่อนข้างมีปัญหาแล้ว แต่ก็ต้องขอบคุณที่ เขาระวังตัวมาตลอดทาง ไม่อย่างนั้น เขาคงจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวแล้ว
แต่แทนที่จะรีบไปตามหาพวกนากาที่เนินหินเขากลับซ่อนตัวอยู่ในพงหญ้าแห้งและเฝ้ารออย่างอดทน เขามีความรู้สึกว่าจะมีโอกาสครั้งอื่นอีก
นอกจากรอแล้วเขาได้ทำอย่างอื่นด้วยเขาโยนหินเวทมนตร์อันล้ำค่าที่ได้มาจากดาร์ริสไปที่ไหนซักแห่งในอีก 300 ฟุตข้างหน้า คลื่นมานาระดับตำนานจากหินน่าจะทำให้อีกฝ่ายคำนวนผิดพลาดได้
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆตอนนี้ไม่มีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น สายลมพัดผ่านและมีสัตว์เล็กๆผ่านมาบ้างเป็นบางครั้ง แต่ว่านากาก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา ลิงค์เองก็ยังอยู่ที่เดิมเหมือนกัน ตอนนี้เขาได้ลดอัตราการหายใจกับการเต้นของหัวใจตัวเองลงจนแทบจะไม่ได้ยิน ความคาดหวังของเขายังไม่เปลี่ยนแปลง เขาเชื่อว่าอีกไม่นานนี้จะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
นี่มาจากความมั่นใจในพลังของเขาเองเหมือนกับที่เขาเชื่อในฟิรุแมน ซึ่งตอนนี้อีกฝ่ายก็อยู่ในฟิรุแมน ไม่มีอะไรสามารถหนีจากสายตาของภพได้ และด้วยความที่ลิงค์ได้รับพรจากภพ ถ้าเกิดภพรู้เขาก็จะรู้เหมือนกัน
เขารออยู่เฉยๆเป็นเวลา3 ชั่วโมงเต็ม
3ชั่วโมงต่อมา พลังแปลกๆก็พุ่งออกมาจากเนินหิน เสี้ยววินาทีต่อมา นากาที่สวมชุดเดรสสีแดงเข้มก็ปรากฏตัวขึ้นจากเนินหินนั้น เธอดูคล้ายกับโมลิน่ามาก ไม่สิ พูดให้ชัดกว่านี้ก็คือ โมลิน่าดูเหมือนเธอ ออร่าของเธอนั้นวุ่นวายและรุนแรงแต่เธอกลับดูสงบ เธอเหมือนกับทะเลที่มีคลื่นใต้น้ำ
นั่นมันเทพแห่งการทำลายนี่!ลิงค์รู้สึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม
หลังจากที่เธอปรากฏตัวขึ้นเธอก็กระโดดขึ้นไปบนกองหินสีขาว จากนั้นเธอก็มองลงมาที่พงหญ้าแห้ง และพูดเยาะเย้ย ออกมาเถอะ ข้าเห็นเจ้าแล้วนะ
ลิงค์หัวใจเต้นแรงเพราะคิดว่าโดนเจอตัวแล้ว แต่เขาก็ใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว เขายังไม่ขยับไปไหน อีกฝ่ายน่าจะยังไม่เห็นเขา เธออาจจะแค่เจอหินเวทมนตร์ที่เขาโยนออกไปก็ได้
ไม่กี่วินาทีต่อมาเทพแห่งการทำลายก็พูดเย้ยหยันต่อ เจ้าคิดว่าตัวเองจะรอดพ้นสายตาของข้าไปได้หรอ ลอร์ดเฟิร์ด?
เธอมองไปข้างหน้าในตอนที่พูดโดยที่ไม่ได้มองไปทางหินเวทมนตร์หรือลิงค์เลย ซึ่งนี่ทำให้สังเกตได้ยากว่าเธอกำลังพูดความจริงอยู่รึเปล่า
ครึ่งวินาทีผ่านไปลิงค์ก็ตัดสินใจที่จะรอ ตราบใดที่เธอไม่บังคับให้เขาออกมา เขาก็จะทำเหมือนกับเขาไม่ได้ยินอะไร
หลังจากรออยู่หลายวินาทีโดยที่ไม่มีการตอบรับเทพแห่งการทำลายก็ขมวดคิ้ว จากนั้นเธอก็กวักมือส่งสัญญาณให้นากาคนนึงที่อยู่ข้างหลัง และนากาคนนั้นก็พุ่งไปทางหินเวทมนตร์
หลังจากนั้นไม่นานนากาก็พบกับหินเวทมนตร์และนำมันกลับมาให้กับเทพแห่งการทำลาย
เธอขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิมและทันใดนั้นเอง เธอก็มองไปทางพงหญ้าและประกาศออกมา ลอร์ดเฟิร์ด ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่แถวนี้และกำลังฟังข้าอยู่ ในเมื่อเจ้าเจอหินนี่แล้ว เจ้าก็คงจะรู้แล้วสินะว่าข้ากำลังตามล่าใครอยู่ ข้าจะบอกให้ฟังชัดๆนะ ข้าจะตามหาเธอให้เจอก่อนเจ้าและกำจัดเธอซะ นี่คือความประสงค์ของผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด ไม่มีใครสามารถขัดขืนได้!
ลิงค์ฟังอย่างเงียบๆมันอาจจะดูเหมือนว่าเทพแห่งการทำลายกำลังขู่เขา แต่ในความเป็นจริงนั้น เธอนั้นกำลังอธิบายสถานการณ์อยู่ เธอไม่ได้อยากตามหาเซลีนเลย มันเป็นเพราะผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดบังคับให้เธอทำ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วจะทำไมหล่ะ?
เทพแห่งการทำลายไม่สามารถต้านทานผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดได้ดังนั้นเธอจึงกลายเป็นศัตรูของลิงค์ และถ้าจำเป็นจริงๆพวกเขาก็จะต้องสู้กันจนตายไปข้าง
แต่คำถามที่สำคัญกว่านั้นคือ:แล้วเซลีนอยู่ที่ไหน?
นี่เป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะถึงแม้ตอนนี้ลิงค์จะมีเลเวลสูงขนาดนี้แต่เขากลับสัมผัสถึงเซลีนไม่ได้เลย มันดูเหมือนกับว่าเธอไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้ด้วยซ้ำ
นี่อธิบายได้แค่อย่างเดียวคือเซลีนได้รับรู้ความจริงจากหนังสือแห่งการเปิดเผยแล้วและเธอก็ได้รับมรดกที่แท้จริงจาก ผู้ปกครองวิญญาณเลเวล 19 รอสโซ่
แต่การที่เขาตามหาเซลีนไม่ได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะนี่ก็หมายความว่าเทพแห่งการทำลายเองก็หาตัวเธอไม่ได้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้น, เธอคงจะไม่โดนหินเวทมนตร์นี้หรอก ยังไงก็ตาม เธอยังเก่งกว่าลิงค์ การกระทำของเธอน่าจะสร้างแรงกดดันให้เซลีนได้อยู่บ้าง เธอถึงจำใจต้องใช้หินนี้เพื่อหลอกล่อเทพแห่งการทำลาย
ความคิดพวกนี้ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์หลังจากที่เขาเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมด เขาก็มีแผน เขาจะแอบตามเทพแห่งการทำลายไปอย่างลับๆไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม และเมื่อไหร่ที่เธอเจอกับเซลีน เขาก็จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือเธอ
ในอีกด้านนึงเทพแห่งการทำลายได้รออย่างอดทนอยู่ซักพัก และพอไม่ได้รับคำตอบ เธอก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา แค่ตามหาเซลีนก็ยากพอแล้ว แต่นี่ยังมีลอร์ดเฟิร์ดมาตามรังควานอีก มันเหมือนกับการสาดเกลือใส่แผลของเธอ
นายท่านพวกเราจะเอายังไงต่อดีคะ? นากาถามอย่างระมัดระวัง
พวกเราจะไปทำอะไรได้หล่ะ?ออกตามหาต่อไป นี่คือความประสงค์ของผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด! เทพแห่งการทำลายรู้สึกว่าเธอไม่ควรมาที่ฟิรุแมนเลย หลังจากที่เธอมามันไม่มีอะไรเข้าที่เข้าทางเลย ตอนนี้ เธอยิ่งเหมือนกับเครื่องมือในการต่อสู้ระหว่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!?