Advent of the Archmage - 724: ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเทพในโลกนี้
Chapter
ความเงียบปกคลุมที่ราบลุ่ม
มันเหมือนกับว่าทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้พากันหยุดหายใจในขณะที่รอการตัดสินใจของลิงค์
เทพแห่งการทำลายขมวดคิ้วแรงกดดันที่ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดกระทำกับเธอรุนแรงขึ้นทุกนาที ถ้าเธอไปถึงขีดจำกัดเมื่อไหร่, เธอก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กับลอร์ดเฟิร์ดจนตายไปข้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่ลิงค์ต้องทำการตัดสินใจที่ยากแบบนี้นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาในฟิรุแมน
มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่เทพแห่งการทำลายจะทรยศเขาหลังจากที่เขาส่งมงกุฏราตรีนิรันดร์ให้กับเธออย่างไรก็ตาม, ถ้าเขาไม่ทำ, พวกเขาทั้งคู่ก็ต้องต่อสู้กันจนตายไปข้าง และต่อให้เขาเอาชนะได้, เขาก็ยังต้องจัดการกับผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดด้วยตัวคนเดียวอยู่ดี
ทางเลือกเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือภาวนาให้เทพแห่งการทำลายเลือกที่จะร่วมมือกับลิงค์ต่อสู้กับเจ้านายเก่าของเธอในตอนที่เธอหลุดพ้นจากอิทธิพลของผู้ปกครองแล้ว
“ช่วยเร่งหน่อยได้ไหม?ข้าคิดว่าข้าคงทนได้อีกไม่นานนะ!” เทพแห่งการทำลายกัดฟันพูด สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ลิงค์ไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องนี้เลยทันใดนั้นเอง, เขาก็นึกถึงตอนที่มงกุฏราตรีนิรันดร์ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าเขาครั้งแรกตอนอยู่ในภพอารากู่ขึ้นมา
ตอนนั้นเขาอยู่ในระหว่างช่วงความเป็นความตายแต่เขาก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของเขา แม้ว่าซาโรวินี่จะขู่ดึงวิญญาณของเขาไปให้พ่อของเธอ, เขาก็ยังเลือกที่จะต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย
มันเป็นตอนนั้นเองที่มงกุฏราตรีนิรันดร์เลือกเขาเป็นผู้ครอบครอง ชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์เลือกฉันเพราะพวกเราเดินบนเส้นทางเดียวกันถ้าฉันหวังที่จะจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง, ฉันก็ต้องเดินหน้าไปตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก แล้วเส้นทางที่ฉันเลือกคืออะไรหล่ะ? เส้นทางแห่งความมืดหรอ?
ลิงค์นึกย้อนกลับไปถึงอดีตทั้งหมดที่เขาเคยผ่านมาในฟิรุแมน,เริ่มตั้งแต่สถาบันเวทมนตร์เฟลมมิ่ง, จากนั้นก็หมู่บ้านห้วยไม้, ตามมาด้วยสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ, และจบท้ายด้วยเฟิร์ด
ไม่มีอาจารย์หรือสถาบันเวทมนตร์แห่งไหนในโลกนี้ที่เขาสามารถเรียนรู้ได้อีกเขาได้เดินมาถึงปลายสุดของอารยาธรรมโลกแล้ว, ความรู้ที่เหนือไปกว่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้จัก
ไม่มีใครสามารถช่วยตอบคำถามที่เขาเผชิญอยู่ได้ณ ตอนนี้ได้ เขาทำได้แค่เดินต่อไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ไม่รู้จักด้วยแสงแห่งปัญญาทั้งหมดที่เขาเก็บสั่งสมมา ตลอดเวลามานี้อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฉันเดินหน้าต่อไป?มันเป็นคำถามที่เขาถามได้แค่ตัวเองเท่านั้น
เวทมนตร์หรอ?
ลิงค์ทบทวนคำตอบอยู่พักนึงจากนั้นเขาก็ส่ายหัว เวทมนตร์มักจะเป็นเครื่องมือที่คมกริบที่สุดในกล่องเครื่องมือของฉัน, แต่มันก็ไม่เคยเป็นแก่นแท้ของการมีตัวตนอยู่ของฉัน ฉันยังเรื่องอื่นนอกจากเวทมนตร์ให้ทุ่มเทเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของฉันได้
หรือว่าจะเป็นมิตรภาพ?
ลิงค์นึกถึงเอเลียร์ดในทันทีเขาไม่เคยรู้สึกคลางแคลงใจในตัวเพื่อนสนิทคนนี้เลย แม้ว่าตอนแรกลิงค์จะเข้าหาเอเลียร์ดด้วยเหตุผลที่เห็นแก่ตัว, แต่พอมันผ่านไปนานเข้า, ในที่สุดมิตรภาพที่แท้จริงก็เบ่งบานระหว่างพวกเขาทั้งคู่
การมีเพื่อนอย่างเอเลียร์ดทำให้โลกของเขาสดใสขึ้นจริงๆถ้าไม่มีเขาลิงค์จะมาได้ไกลขนาดนี้รึเปล่านะ? ในที่สุดคำตอบนึงก็เข้ามาหาเขาถ้าไม่มีเอเลียร์ด, เส้นทางเบื้องหน้าเขาอาจจะดูมืดมนกว่านี้ อย่างไรก็ตาม, เท่าที่เขาจำได้, เขามักจะเคลื่อนไหวด้วยตัวเองมาโดยตลอด เอเลียร์ดแค่อยู่ด้วยในตอนที่เขาต้องการการสนับสนุนสำหรับแผนการของเขาเท่านั้นเอง
มิตรภาพก็เป็นแค่ความอบอุ่นส่วนนึงในชีวิตของเขา
แล้วความรักหล่ะ?
ลิงค์นึกถึงเซลีน,ราชินีมังกรแดงเกรเทล, เอร์เรร่าและแม้กระทั่งมิลด้า จากนั้นเขาก็ส่ายหัว
ความรักอาจจะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเขาในตอนแรกอย่างไรก็ตาม, เขาก็ตระหนักได้ในเวลาไม่นานว่ามิตรภาพหรือความรักนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากทัศนียภาพอันงดงามที่จะทำให้หลงใหลเป็นบางครั้งในเส้นทางที่เรียกว่าชีวิตนี้
ลิงค์ยังคงแยกชิ้นส่วนที่ไม่ได้เป็นแก่นแท้ในชีวิตของเขาจริงๆต่อไปเรื่อยๆ,จนในที่สุดเขาก็ได้มาคำเดียว: อิสระ
ความมืดมักจะพยายามคลืบคลานเข้ามาในฟิรุแมนอยู่เสมออันที่จริงต่อให้ความมืดครอบงำฟิรุแมนได้, ภพก็ยังคงอยู่ต่อไปได้อยู่ดี อย่างไรก็ตาม, มันจะถูกเปลี่ยนเป็นนรก, ที่ทุกคนจะถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจที่คอยรับใช้เจ้านรก สิ่งเดียวที่พวกเขาจะเสียไปในกระบวนการนี้ก็คืออิสระของพวกเขา ฉันเองก็จะต้องสูญเสียอิสระของตัวเองไปด้วย และเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น, ฉันถึงเลือกที่จะยืนขั้วตรงข้ามกับความมืด
แล้วอิสระคืออะไรหล่ะ?ลิงค์ถามตัวเองอีกครั้ง
เขาได้คำตอบในเวลาไม่นานอิสระไม่ได้หมายถึงการสลัดความยับยั้งชั่งใจของตัวเอง, และมันก็ไม่ใช่ความโกลาหลด้วย มันคือสิทธิที่จะเลือกต่างหากหล่ะ! ทุกชีวิตในโลกนี้มีสิทธิที่จะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง นี่แหล่ะคืออิสระที่แท้จริง!
ฉันเลือกที่จะไฝ่หาความรู้ด้านเวทมนตร์และสืบหาความจริงแท้ของโลกใบนี้แต่ว่าความมืดก็ยังคงวางแผนแทรกแซงชีวิตของฉัน ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดยังคงวางแผนจะเขมือบภพนี้ การคุกคามที่ป่าเถื่อนเหล่านี้ได้ช่วงชิงอิสระของฉันในการไฝ่หาความรู้ ที่ฉันเริ่มสร้างเฟิร์ดขึ้นมาตั้งแต่หนึ่งและสั่งสมพลังมามากขนาดนี้, ทั้งหมดก็เพื่อที่ฉันจะได้ต่อกรกับการปกครองแบบเผด็จการของศัตรูของฉันได้!
มีแสงที่สว่างอย่างเหลือเชื่อเปล่งออกมาจากส่วนลึกสุดของวิญญาณของเขา
แสงนี้บริสุทธิ์เหมือนกับน้ำและร้อนเหมือนกับไฟอย่างไรก็ตาม, มันไม่ได้จ้าจนแสบตาหรือกำลังลุกไหม้จนแสบร้อน ไม่ว่าใครที่เห็นก็คงจะอดคุกเข่าเบื้องหน้าความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้
มีสายลมอ่อนๆพัดไปทั่วที่ราบลุ่มมันคือวิธีการที่โลกให้การต้อนรับกับการถือกำเนิดของเทพ
ร่างของลิงค์ลอยขึ้นไปบนฟ้าเขาไม่ได้ลอยขึ้นไปด้วยความตั้งใจของตัวเอง ภพฟิรุแมนกำลังยกเขาขึ้นไป
แสงบริสุทธิ์ได้ปกคลุมทั่วทั้งร่างของลิงค์มงกุฏคริสตัลสีดำโผล่ออกมาจากแสงและลอยไปตามลมจนกระทั่งไปสวมลงบนศรีษะของเทพแห่งการทำลายอย่างนุ่มนวล
ความเจ็บปวดบนสีหน้าของเทพแห่งการทำลายหายไปในทันทีอย่างไรก็ตาม, เธอยังคงคุกเข่าเบื้องหน้าลิงค์อยู่
ตอนนี้แสงศักดิ์สิทธิ์กำลังฉายไปทั่วโลก,เพื่อประกาศข้อความจากเทพองค์ใหม่ไปยังทุกสารทิศ
เทพแห่งการทำลายนั้นอยู่ใกล้ลิงค์มากที่สุดเธอเป็นคนแรกที่ได้รับข้อความ
ถ้าเธอได้รับข้อความแบบนี้ก่อนที่จะเข้ามาในฟิรุแมน,เธอก็คงจะรู้สึกเย้ยหยัน อย่างไรก็ตาม, ในเมื่อเธอเข้ามาที่นี่แล้ว, และแผนการของเธอก็ถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ลูกน้องที่มีความสามารถของเธอก็ถูกลิงค์ฆ่าตายหมด แถมเธอก็ไม่อยากกลายเป็นทาสของผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดด้วย ดังนั้นทั้งหมดที่เธอทำได้ก็คือน้อมรับข้อความศักดิ์สิทธิ์ของลิงค์
แม้ว่าเธอจะแข็งแกร่งพอที่จะเปลี่ยนแปลงส่วนเล็กๆในโลกของเธอได้,แต่มันก็ยังมีคนอื่นที่แข็งแกร่งกว่าเธอและสามารถเปลี่ยนทุกอย่างของเธอได้
ในตอนที่ข้อความแห่งอิสระของลิงค์มาถึงตัวเธอ,เธอก็พูดอย่างนอบน้อม “ท่านผู้ยิ่งใหญ่, ข้าขอมอบชีวิตให้ท่านภายใต้ชื่อที่จะปกป้องสิทธิของทุกคนในการเลือกเส้นทางของตัวเอง”
เธอกำลังจะก้มกราบเบื้องหน้าลิงค์ในตอนที่พลังอันอ่อนโยนเข้ามาหยุดเธออย่างกระทันหันจากนั้นเสียงอันอบอุ่นก็ดังก้องในหูของเธอ
“ไม่จำเป็นต้องก้มกราบหรอกเธอเลือกที่จะติดตามฉัน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก ถ้าเธอเต็มใจ, ก็จงลุกขึ้นและเข้าร่วมกับฉันในการต่อสู้กับจอมเขมือบภพเถอะ” เทพแห่งการทำลายส่ายหัวและยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิมเธอพูดออกมา “ท่านผู้ยิ่งใหญ่, นี่คือการติดสินใจของข้าและเป็นของข้าเพียงผู้เดียว ข้าจะเป็นหอกแห่งการทำลายของท่านที่จะคอยพิทักษ์อิสระของทุกชีวิตในโลกใบนี้!”
ลิงค์ตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องนี้กับเธอต่อ
เขาสัมผัสถึงพลังแก่นภพของภพฟิรุแมนที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเขาตอนนี้ระดับพลังของเขากำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าเหลือเชื่อ เลเวล 20, เลเวล 21, เลเวล 22, เลเวล 23…มันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
แต่ถึงแม้ว่าพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน,จิตใจของลิงค์ก็ไม่ได้สั่นคลอนเลย สำหรับเขา, พลังใหม่นี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเครื่องมือที่ใช้ปกป้องอิสระของทุกคนในภพ เขาน่าจะจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดนี้ในการเอาชนะผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด
และในที่สุดพลังทั้งหมดนี้ก็จะทำหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ของมันในตอนที่ศัตรูของเขาถูกกำจัด
อีกไม่นานนี้ภพจะต้องเผชิญกับตัวตนอันน่ากลัวที่สามารถกลืนกินมันทั้งหมดได้มันตอบสนองต่อความศักดิ์สิทธิ์ของลิงค์ด้วยการไว้ใจเขาและให้พลังของมันเพื่อที่เขาจะได้ต่อสู้กับจอมเขมือบภพได้
ไฟศักดิ์สิทธิ์ของลิงค์นั้นคือเครื่องหมายความไว้ใจของภพที่มีให้กับเขาถ้าเขาล้มเหลวในการกำจัดผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดและคืนพลังที่ภพให้เขายืม, ความศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะแปดเปื้อน, และไฟศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะดับไป
เมื่อครู่ก่อน,ลิงค์เข้าใจว่าสิ่งที่เขาสมควรทำก็คือการส่งมงกุฏราตรีนิรันดร์ให้กับเทพแห่งการทำลายเพื่อให้เธอสามารถต้านทานอิทธิพลของผู้ปกครองได้ แต่ครู่ต่อมา, ภพฟิรุแมนก็ได้ฝากฝังเขาด้วยพลังของมัน!
ในขณะที่พลังของเขายังคงเพิ่มต่อไป,ร่างอวตารของจิตแห่งภพเฟรย่าก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าลิงค์, เทพแห่งอิสระองค์ใหม่ เธอถามด้วยรอยยิ้ม“ความมืดคืออะไร?”
“มันคือหนึ่งในเครื่องมือที่ฉันใช้”ลิงค์ตอบกลับ
“แล้วเทพคืออะไร?”เธอถามอีกครั้ง
ลิงค์ส่ายหัว“ทุกชีวิตล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเทพอยู่ในโลกใบนี้”
เฟรย่ายิ้มให้ลิงค์จากนั้นเธอก็โค้งคำนับเบื้องหน้าเขา “ตอนนี้ข้าขอฝากเรื่องทั้งหมดให้ท่านจัดการนะคะ”
ลิงค์พยักหน้าตอนนี้เขาสามารถมองทะลุเปลือกภพเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าได้แล้ว ที่นั่น, เขาเห็นผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดกำลังมุ่งหน้าเข้ามา
เขามองตัวตนที่น่ากลัวนี้ออกในทันทีสำหรับผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด, ทั้งแสงสว่างและความมืดนั้นเป็นแค่เครื่องมือที่ถูกใช้ในการอาละวาดของเขา อย่างไรก็ตาม, ไม่เหมือนกับลิงค์, เขาไฝ่หาที่จะกลืนกินทุกสิ่งที่เขาผ่านและแย่งชิงอิสระจากทุกชีวิต, ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเติมเต็มความหิวกระหายของตัวเอง
เขาคือตัวตนที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันจริงๆ
ในที่สุดชะตากรรมที่พวกเขาต้องมาเจอกันก็มาถึงแล้ว!
และตอนนี้ชะตากรรมของโลกก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้!
ความเงียบปกคลุมที่ราบลุ่ม
มันเหมือนกับว่าทุกชีวิตที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้พากันหยุดหายใจในขณะที่รอการตัดสินใจของลิงค์
เทพแห่งการทำลายขมวดคิ้วแรงกดดันที่ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดกระทำกับเธอรุนแรงขึ้นทุกนาที ถ้าเธอไปถึงขีดจำกัดเมื่อไหร่, เธอก็จะไม่มีทางเลือกนอกจากสู้กับลอร์ดเฟิร์ดจนตายไปข้าง
นี่เป็นครั้งแรกที่ลิงค์ต้องทำการตัดสินใจที่ยากแบบนี้นับตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้ามาในฟิรุแมน
มันมีความเป็นไปได้สูงมากที่เทพแห่งการทำลายจะทรยศเขาหลังจากที่เขาส่งมงกุฏราตรีนิรันดร์ให้กับเธออย่างไรก็ตาม, ถ้าเขาไม่ทำ, พวกเขาทั้งคู่ก็ต้องต่อสู้กันจนตายไปข้าง และต่อให้เขาเอาชนะได้, เขาก็ยังต้องจัดการกับผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดด้วยตัวคนเดียวอยู่ดี
ทางเลือกเดียวของเขาในตอนนี้ก็คือภาวนาให้เทพแห่งการทำลายเลือกที่จะร่วมมือกับลิงค์ต่อสู้กับเจ้านายเก่าของเธอในตอนที่เธอหลุดพ้นจากอิทธิพลของผู้ปกครองแล้ว
“ช่วยเร่งหน่อยได้ไหม?ข้าคิดว่าข้าคงทนได้อีกไม่นานนะ!” เทพแห่งการทำลายกัดฟันพูด สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด
ลิงค์ไม่ได้สะทกสะท้านกับเรื่องนี้เลยทันใดนั้นเอง, เขาก็นึกถึงตอนที่มงกุฏราตรีนิรันดร์ปรากฎขึ้นเบื้องหน้าเขาครั้งแรกตอนอยู่ในภพอารากู่ขึ้นมา
ตอนนั้นเขาอยู่ในระหว่างช่วงความเป็นความตายแต่เขาก็ไม่สนใจอาการบาดเจ็บของเขา แม้ว่าซาโรวินี่จะขู่ดึงวิญญาณของเขาไปให้พ่อของเธอ, เขาก็ยังเลือกที่จะต่อสู้จนลมหายใจสุดท้าย
มันเป็นตอนนั้นเองที่มงกุฏราตรีนิรันดร์เลือกเขาเป็นผู้ครอบครอง ชิ้นส่วนเงาศักดิ์สิทธิ์เลือกฉันเพราะพวกเราเดินบนเส้นทางเดียวกันถ้าฉันหวังที่จะจุดไฟศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง, ฉันก็ต้องเดินหน้าไปตามเส้นทางที่ตัวเองเลือก แล้วเส้นทางที่ฉันเลือกคืออะไรหล่ะ? เส้นทางแห่งความมืดหรอ?
ลิงค์นึกย้อนกลับไปถึงอดีตทั้งหมดที่เขาเคยผ่านมาในฟิรุแมน,เริ่มตั้งแต่สถาบันเวทมนตร์เฟลมมิ่ง, จากนั้นก็หมู่บ้านห้วยไม้, ตามมาด้วยสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ, และจบท้ายด้วยเฟิร์ด
ไม่มีอาจารย์หรือสถาบันเวทมนตร์แห่งไหนในโลกนี้ที่เขาสามารถเรียนรู้ได้อีกเขาได้เดินมาถึงปลายสุดของอารยาธรรมโลกแล้ว, ความรู้ที่เหนือไปกว่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรู้จัก
ไม่มีใครสามารถช่วยตอบคำถามที่เขาเผชิญอยู่ได้ณ ตอนนี้ได้ เขาทำได้แค่เดินต่อไปข้างหน้าบนเส้นทางที่ไม่รู้จักด้วยแสงแห่งปัญญาทั้งหมดที่เขาเก็บสั่งสมมา ตลอดเวลามานี้อะไรคือสิ่งที่ทำให้ฉันเดินหน้าต่อไป?มันเป็นคำถามที่เขาถามได้แค่ตัวเองเท่านั้น
เวทมนตร์หรอ?
ลิงค์ทบทวนคำตอบอยู่พักนึงจากนั้นเขาก็ส่ายหัว เวทมนตร์มักจะเป็นเครื่องมือที่คมกริบที่สุดในกล่องเครื่องมือของฉัน, แต่มันก็ไม่เคยเป็นแก่นแท้ของการมีตัวตนอยู่ของฉัน ฉันยังเรื่องอื่นนอกจากเวทมนตร์ให้ทุ่มเทเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายของฉันได้
หรือว่าจะเป็นมิตรภาพ?
ลิงค์นึกถึงเอเลียร์ดในทันทีเขาไม่เคยรู้สึกคลางแคลงใจในตัวเพื่อนสนิทคนนี้เลย แม้ว่าตอนแรกลิงค์จะเข้าหาเอเลียร์ดด้วยเหตุผลที่เห็นแก่ตัว, แต่พอมันผ่านไปนานเข้า, ในที่สุดมิตรภาพที่แท้จริงก็เบ่งบานระหว่างพวกเขาทั้งคู่
การมีเพื่อนอย่างเอเลียร์ดทำให้โลกของเขาสดใสขึ้นจริงๆถ้าไม่มีเขาลิงค์จะมาได้ไกลขนาดนี้รึเปล่านะ? ในที่สุดคำตอบนึงก็เข้ามาหาเขาถ้าไม่มีเอเลียร์ด, เส้นทางเบื้องหน้าเขาอาจจะดูมืดมนกว่านี้ อย่างไรก็ตาม, เท่าที่เขาจำได้, เขามักจะเคลื่อนไหวด้วยตัวเองมาโดยตลอด เอเลียร์ดแค่อยู่ด้วยในตอนที่เขาต้องการการสนับสนุนสำหรับแผนการของเขาเท่านั้นเอง
มิตรภาพก็เป็นแค่ความอบอุ่นส่วนนึงในชีวิตของเขา
แล้วความรักหล่ะ?
ลิงค์นึกถึงเซลีน,ราชินีมังกรแดงเกรเทล, เอร์เรร่าและแม้กระทั่งมิลด้า จากนั้นเขาก็ส่ายหัว
ความรักอาจจะเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเขาในตอนแรกอย่างไรก็ตาม, เขาก็ตระหนักได้ในเวลาไม่นานว่ามิตรภาพหรือความรักนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากทัศนียภาพอันงดงามที่จะทำให้หลงใหลเป็นบางครั้งในเส้นทางที่เรียกว่าชีวิตนี้
ลิงค์ยังคงแยกชิ้นส่วนที่ไม่ได้เป็นแก่นแท้ในชีวิตของเขาจริงๆต่อไปเรื่อยๆ,จนในที่สุดเขาก็ได้มาคำเดียว: อิสระ
ความมืดมักจะพยายามคลืบคลานเข้ามาในฟิรุแมนอยู่เสมออันที่จริงต่อให้ความมืดครอบงำฟิรุแมนได้, ภพก็ยังคงอยู่ต่อไปได้อยู่ดี อย่างไรก็ตาม, มันจะถูกเปลี่ยนเป็นนรก, ที่ทุกคนจะถูกเปลี่ยนเป็นปีศาจที่คอยรับใช้เจ้านรก สิ่งเดียวที่พวกเขาจะเสียไปในกระบวนการนี้ก็คืออิสระของพวกเขา ฉันเองก็จะต้องสูญเสียอิสระของตัวเองไปด้วย และเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น, ฉันถึงเลือกที่จะยืนขั้วตรงข้ามกับความมืด
แล้วอิสระคืออะไรหล่ะ?ลิงค์ถามตัวเองอีกครั้ง
เขาได้คำตอบในเวลาไม่นานอิสระไม่ได้หมายถึงการสลัดความยับยั้งชั่งใจของตัวเอง, และมันก็ไม่ใช่ความโกลาหลด้วย มันคือสิทธิที่จะเลือกต่างหากหล่ะ! ทุกชีวิตในโลกนี้มีสิทธิที่จะเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง นี่แหล่ะคืออิสระที่แท้จริง!
ฉันเลือกที่จะไฝ่หาความรู้ด้านเวทมนตร์และสืบหาความจริงแท้ของโลกใบนี้แต่ว่าความมืดก็ยังคงวางแผนแทรกแซงชีวิตของฉัน ผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดยังคงวางแผนจะเขมือบภพนี้ การคุกคามที่ป่าเถื่อนเหล่านี้ได้ช่วงชิงอิสระของฉันในการไฝ่หาความรู้ ที่ฉันเริ่มสร้างเฟิร์ดขึ้นมาตั้งแต่หนึ่งและสั่งสมพลังมามากขนาดนี้, ทั้งหมดก็เพื่อที่ฉันจะได้ต่อกรกับการปกครองแบบเผด็จการของศัตรูของฉันได้!
มีแสงที่สว่างอย่างเหลือเชื่อเปล่งออกมาจากส่วนลึกสุดของวิญญาณของเขา
แสงนี้บริสุทธิ์เหมือนกับน้ำและร้อนเหมือนกับไฟอย่างไรก็ตาม, มันไม่ได้จ้าจนแสบตาหรือกำลังลุกไหม้จนแสบร้อน ไม่ว่าใครที่เห็นก็คงจะอดคุกเข่าเบื้องหน้าความรู้สึกเช่นนี้ไม่ได้
มีสายลมอ่อนๆพัดไปทั่วที่ราบลุ่มมันคือวิธีการที่โลกให้การต้อนรับกับการถือกำเนิดของเทพ
ร่างของลิงค์ลอยขึ้นไปบนฟ้าเขาไม่ได้ลอยขึ้นไปด้วยความตั้งใจของตัวเอง ภพฟิรุแมนกำลังยกเขาขึ้นไป
แสงบริสุทธิ์ได้ปกคลุมทั่วทั้งร่างของลิงค์มงกุฏคริสตัลสีดำโผล่ออกมาจากแสงและลอยไปตามลมจนกระทั่งไปสวมลงบนศรีษะของเทพแห่งการทำลายอย่างนุ่มนวล
ความเจ็บปวดบนสีหน้าของเทพแห่งการทำลายหายไปในทันทีอย่างไรก็ตาม, เธอยังคงคุกเข่าเบื้องหน้าลิงค์อยู่
ตอนนี้แสงศักดิ์สิทธิ์กำลังฉายไปทั่วโลก,เพื่อประกาศข้อความจากเทพองค์ใหม่ไปยังทุกสารทิศ
เทพแห่งการทำลายนั้นอยู่ใกล้ลิงค์มากที่สุดเธอเป็นคนแรกที่ได้รับข้อความ
ถ้าเธอได้รับข้อความแบบนี้ก่อนที่จะเข้ามาในฟิรุแมน,เธอก็คงจะรู้สึกเย้ยหยัน อย่างไรก็ตาม, ในเมื่อเธอเข้ามาที่นี่แล้ว, และแผนการของเธอก็ถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่า ลูกน้องที่มีความสามารถของเธอก็ถูกลิงค์ฆ่าตายหมด แถมเธอก็ไม่อยากกลายเป็นทาสของผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดด้วย ดังนั้นทั้งหมดที่เธอทำได้ก็คือน้อมรับข้อความศักดิ์สิทธิ์ของลิงค์
แม้ว่าเธอจะแข็งแกร่งพอที่จะเปลี่ยนแปลงส่วนเล็กๆในโลกของเธอได้,แต่มันก็ยังมีคนอื่นที่แข็งแกร่งกว่าเธอและสามารถเปลี่ยนทุกอย่างของเธอได้
ในตอนที่ข้อความแห่งอิสระของลิงค์มาถึงตัวเธอ,เธอก็พูดอย่างนอบน้อม “ท่านผู้ยิ่งใหญ่, ข้าขอมอบชีวิตให้ท่านภายใต้ชื่อที่จะปกป้องสิทธิของทุกคนในการเลือกเส้นทางของตัวเอง”
เธอกำลังจะก้มกราบเบื้องหน้าลิงค์ในตอนที่พลังอันอ่อนโยนเข้ามาหยุดเธออย่างกระทันหันจากนั้นเสียงอันอบอุ่นก็ดังก้องในหูของเธอ
“ไม่จำเป็นต้องก้มกราบหรอกเธอเลือกที่จะติดตามฉัน ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก ถ้าเธอเต็มใจ, ก็จงลุกขึ้นและเข้าร่วมกับฉันในการต่อสู้กับจอมเขมือบภพเถอะ” เทพแห่งการทำลายส่ายหัวและยังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิมเธอพูดออกมา “ท่านผู้ยิ่งใหญ่, นี่คือการติดสินใจของข้าและเป็นของข้าเพียงผู้เดียว ข้าจะเป็นหอกแห่งการทำลายของท่านที่จะคอยพิทักษ์อิสระของทุกชีวิตในโลกใบนี้!”
ลิงค์ตัดสินใจที่จะไม่พูดเรื่องนี้กับเธอต่อ
เขาสัมผัสถึงพลังแก่นภพของภพฟิรุแมนที่ไหลเวียนอยู่ในร่างของเขาตอนนี้ระดับพลังของเขากำลังเพิ่มขึ้นในอัตราที่น่าเหลือเชื่อ เลเวล 20, เลเวล 21, เลเวล 22, เลเวล 23…มันไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
แต่ถึงแม้ว่าพลังจะเพิ่มขึ้นอย่างกระทันหัน,จิตใจของลิงค์ก็ไม่ได้สั่นคลอนเลย สำหรับเขา, พลังใหม่นี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเครื่องมือที่ใช้ปกป้องอิสระของทุกคนในภพ เขาน่าจะจำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมดนี้ในการเอาชนะผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด
และในที่สุดพลังทั้งหมดนี้ก็จะทำหน้าที่ตามวัตถุประสงค์ของมันในตอนที่ศัตรูของเขาถูกกำจัด
อีกไม่นานนี้ภพจะต้องเผชิญกับตัวตนอันน่ากลัวที่สามารถกลืนกินมันทั้งหมดได้มันตอบสนองต่อความศักดิ์สิทธิ์ของลิงค์ด้วยการไว้ใจเขาและให้พลังของมันเพื่อที่เขาจะได้ต่อสู้กับจอมเขมือบภพได้
ไฟศักดิ์สิทธิ์ของลิงค์นั้นคือเครื่องหมายความไว้ใจของภพที่มีให้กับเขาถ้าเขาล้มเหลวในการกำจัดผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดและคืนพลังที่ภพให้เขายืม, ความศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะแปดเปื้อน, และไฟศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็จะดับไป
เมื่อครู่ก่อน,ลิงค์เข้าใจว่าสิ่งที่เขาสมควรทำก็คือการส่งมงกุฏราตรีนิรันดร์ให้กับเทพแห่งการทำลายเพื่อให้เธอสามารถต้านทานอิทธิพลของผู้ปกครองได้ แต่ครู่ต่อมา, ภพฟิรุแมนก็ได้ฝากฝังเขาด้วยพลังของมัน!
ในขณะที่พลังของเขายังคงเพิ่มต่อไป,ร่างอวตารของจิตแห่งภพเฟรย่าก็ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าลิงค์, เทพแห่งอิสระองค์ใหม่ เธอถามด้วยรอยยิ้ม“ความมืดคืออะไร?”
“มันคือหนึ่งในเครื่องมือที่ฉันใช้”ลิงค์ตอบกลับ
“แล้วเทพคืออะไร?”เธอถามอีกครั้ง
ลิงค์ส่ายหัว“ทุกชีวิตล้วนมีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าเทพอยู่ในโลกใบนี้”
เฟรย่ายิ้มให้ลิงค์จากนั้นเธอก็โค้งคำนับเบื้องหน้าเขา “ตอนนี้ข้าขอฝากเรื่องทั้งหมดให้ท่านจัดการนะคะ”
ลิงค์พยักหน้าตอนนี้เขาสามารถมองทะลุเปลือกภพเข้าไปในทะเลแห่งความว่างเปล่าได้แล้ว ที่นั่น, เขาเห็นผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืดกำลังมุ่งหน้าเข้ามา
เขามองตัวตนที่น่ากลัวนี้ออกในทันทีสำหรับผู้ปกครองแห่งแสงสว่างและความมืด, ทั้งแสงสว่างและความมืดนั้นเป็นแค่เครื่องมือที่ถูกใช้ในการอาละวาดของเขา อย่างไรก็ตาม, ไม่เหมือนกับลิงค์, เขาไฝ่หาที่จะกลืนกินทุกสิ่งที่เขาผ่านและแย่งชิงอิสระจากทุกชีวิต, ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเติมเต็มความหิวกระหายของตัวเอง
เขาคือตัวตนที่อยู่ขั้วตรงข้ามกันจริงๆ
ในที่สุดชะตากรรมที่พวกเขาต้องมาเจอกันก็มาถึงแล้ว!
และตอนนี้ชะตากรรมของโลกก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้!