Akuyaku Reijou no Naka no Hito - ตอนที่ 10 ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 10
ผู้ที่อยู่ภายในของจอมวายร้าย 10
เรื่องงานเลี้ยงสานสัมพันธ์กับโลกปีศาจถูกประกาศออกมาเป็นทางการ ทั้งที่ยังอีกนานกว่าจะถึงวันนั้น เนื่องจากเป็นงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ระดับประเทศ จึงต้องให้เวลาผู้ที่เข้าร่วมเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดก่อนจะถึงวันจริง เช่นสตรีในตระกูลขุนนางจะเริ่มต้นตั้งแต่การสั่งตัดชุดใหม่
ข้าเองก็ต้องเตรียมตัวสำหรับงานนี้เช่นกัน แต่ก็มีผู้หญิงจากเผ่าปีศาจหลายคนมาช่วยข้าเตรียมชุดและเครื่องประดับ ข้าจึงปล่อยให้พวกเขาจัดการทั้งหมด และพวกเขาก็นำเครื่องประดับอัญมณีเวทมนตร์สีทองมามอบให้กับข้า มันเป็นสีเดียวกับดวงตาของแองเจิ้ล พร้อมกับบอกว่าเป็นของที่แองเจิ้ลมอบให้สำหรับงานเลี้ยง ข้าแกล้งทำเป็นไม่รู้ความหมายของมันและรับ ‘อัญมณีเวทมนตร์สีสวย’ ชิ้นนั้นมาลองสวมใส่ด้วยความยินดี เพราะสีอันสวยงามนั้นเป็นสีของเส้นผมของข้า… ของ ‘เรมิเลีย’ ของเอมิ ซึ่งดวงตาของแองเจิ้ลก็เป็นสีทองเข้มเช่นเดียวกันนี้
“เอ่อ… คุณเรมิเลีย อัญมณีเวทมนตร์นั่นเป็นของที่พี่ชายของผมทำขึ้นมา… คุณรู้ความหมายของการสวมใส่มันหรือเปล่า?”
“ไม่เคยมีใครบอกความหมายของมันกับข้าเลย มีอะไรหรือเปล่าคะ?…หรือว่ามันเป็นเรื่องไม่ดี?”
“ผิดแล้ว คลิม ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด มันเอาไว้กันพวกแมลงสกปรกไม่ให้มาไต่ตอมต่างหาก”
“…ท่านพี่ ไปหลอกคนที่ไม่รู้แล้วยังแก้ตัวแบบนี้อีก ใช้ไม่ได้เลยนะครับ”
“ไม่ใช่นะ ไม่ได้หลอกสักหน่อย ก็แค่ยังไม่ได้บอกเท่านั้น”
การแปรรูปอัญมณีเวทมนตร์พิเศษด้วยตัวเองและมอบเป็นเครื่องประดับให้เพศตรงข้ามนั้นหมายถึงการขอแต่งงาน และการรับมาสวมใส่ก็หมายถึงการตอบตกลง ข้ารู้จักวัฒนธรรมของปีศาจจากเนื้อเรื่องในเกม แต่ไม่มีใครเคยบอก ‘เรมิเลีย’ ถึงเรื่องนั้น ข้าจึงพูดออกไปตามความจริง
ทั้งคลิมและแองเจิ้ลต่างก็เป็นคนที่ข้าชอบจริงๆ บุรุษผู้ซื้อสัตย์ ยอมสละชีวิตโดยไม่ลังเลเพื่อพี่ชายและประเทศ และแองเจิ้ลเป็นราชาที่สมเป็นราชา ผู้ให้ความสำคัญกับอนาคตของประเทศและประชาชนของเขามากกว่าความรู้สึกส่วนตัว เพราะฉะนั้น ต่อให้พีน่าล่อลวงเขาได้สำเร็จไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม ข้าก็เชื่อว่าเขาจะเลือกข้าที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่าผู้หญิงที่เขาแค่รู้สึกรัก ไม่ว่ามองอย่างไร ตัวข้าก็มีประโยชน์กว่าพีน่าอยู่แล้วใช่ไหม? เอาเถอะ ไอเทมที่จะล่อลวงเขาได้ก็ถูกข้าปิดผนึกไปเรียบร้อย
…ใช่แล้ว คนที่โดนหลอกพวกนั้นไม่ได้ถูกควบคุมหรือบงการ คนพวกนั้นผิดเองที่ไม่เชื่อเอมิจนถึงที่สุด ทั้งที่รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก ใช้เวลาร่วมกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และต้องการให้มันจบลงแบบนี้ นี่ ทุกคนก็คิดเหมือนกันสินะ?
เวทีพร้อมแล้ว ข้าจึงกลับมาที่หมู่บ้านในดินแดนเป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมานาน ไม่สิ ไม่ใช่หมู่บ้านอีกแล้ว ขนาดของมันใหญ่โตเกินกว่าจะเรียกว่าหมู่บ้าน เผ่าปีศาจที่หลบซ่อนในดินแดนอื่นก็ถูกเชิญมาเป็นประชากรของที่นี่ มันได้เติบโตเป็นเมืองแห่งการค้า เมืองท่าศูนย์กลางสำหรับค้าขายกับเผ่าปีศาจ
ประตูเคลื่อนย้ายระหว่างโลกปีศาจถูกสร้างขึ้นที่นี่ เพราะตามความเหมาะสมแล้วมันไม่ควรอยู่ใกล้กับเมืองหลวง
แน่นอนว่าทางวังหลวงก็รู้เรื่องนี้ดี ข้าตั้งใจขอให้มี ‘คนคอยจับตาดู’ ก็เพราะเรื่องนี้ หลังจากเผ่าปีศาจเป็นที่รู้จักกันดีมันจะมีประโยชน์ ที่สำคัญคือต้องให้ทุกคนรู้ว่า ‘ในพื้นที่ปกครองของ เรมิเลีย โรส กราปเนอร์ มีเผ่าปีศาจอาศัยอยู่อย่างมีความสุขมาก่อนหน้านี้แล้ว’
ข้าเป็นคนจัดหาวัสดุอุปกรณ์สำหรับสร้างหมู่บ้าน รับผู้อพยพมาดูแลด้วยตนเอง ซ่อมแซมบ้านร้างจนสามารถใช้อาศัยได้ ใช้เวทมนตร์เพื่อสร้างพื้นฐานของหมู่บ้าน ในตอนที่เด็กในหมู่บ้านมีไข้ ข้าก็พาเขาเข้ามาอยู่ในบ้านและเฝ้าดูแลตลอดทั้งคืน ข้าก่อตั้งโรงเรียน ร้านค้า มอบอาชีพให้กับทุกคนที่ต้องการ เงินภาษีที่ได้มาก็ถูกใช้เพื่อพัฒนาพื้นที่ที่แห่งนี้ แม้ว่าข้าจะเป็นเจ้าของดินแดนแต่ก็มักจะเข้าท้าทายดันเจี้ยน ปราบอสูรเพื่อหาเงิน
ทุกวันนี้ ประชากรไม่ได้มีเพียงปีศาจ เด็กและคนแร่ร่อนจากดินแดนอื่นๆรวมถึงเหมืองหลวงก็อพยพมาที่เมืองนี้เพื่อให้มีงานทำ ทั้งการทำไร่นา รักษาความสะอาดตัวเมือง และผลิตปุ๋ย พวกเขาจะทำให้ข้าเป็น ‘เรมิเลีย โรส กราปเนอร์ ผู้ประกาศความบริสุทธิ์ของตนจนถึงที่สุด ไม่เคยตกต่ำแม้จะถูกขับไล่ไปยังพื้นที่ห่างไกล อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากทุกคนโดยไม่แบ่งแยก’
…ข้าทำในสิ่งที่เชื่อว่าเอมิจะทำ ภายใต้รูปแบบที่ประสบความสำเร็จมาแล้วในโลกของเอมิ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เอมิทำได้ ไม่สิ เมืองที่เธอสร้างต้องยิ่งใหญ่กว่าของข้าแน่
ขณะที่เมืองของข้าเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง ข้าไม่เคยได้ยินข่าวคราวใดๆเกี่ยวกับพื้นที่ในการดูแลของมกุฎราชกุมารวิลเลียดเลย ซึ่งก็คงเป็นเพราะข้าทิ้งห่างจนเกินไป
เท่าที่ข้ารู้ พีน่านำเสนอ ‘การเกษตรหมุนเวียน’ ซึ่งเป็นความรู้จากโลกก่อนของเธอให้กับเขา ในตอนนี้มันอยู่ในขั้นทดลองว่าพืชชนิดใดเหมาะสมสำหรับการฟื้นฟูคุณภาพดิน ดังนั้น ข้าจึงลงมือเผยแพร่วิทยาการนี้ก่อน เกี่ยวกับความรู้ในโลกของเอมิ ข้ารู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับแบคทีเรียที่มักจะมีอยู่ที่รากของพืชตระกูลถั่ว และข้าได้ตามหาสิ่งที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันได้สำเร็จ หากรู้ว่าต้องตามหาอะไร เส้นทางก็จะสั้นลงอย่างมาก นอกจากนั้น อุสาหกรรมปุ๋ยหมักต้นทุนต่ำที่ต่อยอดมาจากโครงการกำจัดของเสียในเมืองก็ได้ความนิยมไปทั่วประเทศ ผลผลิตเพิ่มขึ้น 1.2 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อน ต้องขอบคุณปุ๋ยหมักจากดินแดนของข้า
ด้วยความสามารถของปีศาจ ปุ๋ยหมักได้กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของเมือง แม้พวกเขาจะมีพลังเวทต่ำในหมู่ปีศาจ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นพลังเวทที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับมนุษย์ พวกเขามีหน้าที่ควบคุมการหมักและผสมปุ๋ย จึงได้ผลลัพธ์ในเวลาที่สั้นลงและประสิทธิภาพที่สูงขึ้น
อีกทั้งความรู้ ‘การคัดเลือกพันธุกรรม’ ของเอมิ ทำให้ข้าสร้างสายพันธุ์พืชที่ทนทานต่อสภาพอากาศและโรคได้สำเร็จ แม้รสชาติจะด้อยลงเล็กน้อยแต่ผลผลิตจะสูงขึ้นกว่าเดิม ข้ามีแผนจะแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวแบบใหม่ให้เกษตรกรทั่วประเทศโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เรื่องนี้ถูกคาดหวังเอาไว้สูงเพราะพื้นที่โดยรอบแสดงให้เห็นแล้วว่าโครงการนี้ประสบความสำเร็จได้อย่างงดงาม
จะว่าไป มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วิลเลียดมีโครงการคิดค้นเครื่องปรุงชนิดใหม่ที่เรียกว่ามายองเนส ตามคำแนะนำของพีน่า เอมิก็เคยพยายามสร้างมันมาก่อนแต่ก็ล้มเลิกไปเพราะหาไข่ปลอดเชื้อในโลกนี้ไม่ได้ แน่นอนว่าโครงการของวิลเลียดก็ถูกยกเลิกไปแล้วเช่นกัน เพราะอาสาสมัครผู้ทดลองจำนวนมากมีอาการอาหารเป็นพิษ จึงไม่สามารถทำการผลิตเป็นสินค้าได้ แต่ดูเหมือนสินค้าต้นแบบจำนวนน้อยจะไม่มีปัญหานั้น อาจเป็นเพราะมันเพิ่งถูกเปิดขวดครั้งแรกหรือแค่อมมันไว้ในปากเฉยๆ
พวกเขาใช้เวทมนตร์ชำระล้างกับไข่ดิบก่อนนำมาใช้ ถ้าพีน่ามีความรู้เกี่ยวกับแบคทีเรีย เธอก็คงไม่แนะนำให้พวกเขาทำอย่างนั้น เวทมนตร์การชำระล้างไม่ได้มีผลสะดวกสบายขนาดตัดสินและกำจัดสิ่งที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้เสร็จสรรพ มันมีไว้สำหรับกำจัดมลพิษ คราบสกปรก หรือยาพิษ มันมีผลกับ ‘สิ่งแปลกปลอม’ ที่ไม่มีชีวิต
เมื่อความทรงจำของเอมิทำให้ข้าได้รู้เช่นนั้น ข้าจึงแก้ปัญหาโดยประยุกต์ใช้เวทมนตร์สายวิญญาณของเผ่าปีศาจ ผลที่ได้คือเวทมนตร์สั่งตายที่กำหนดให้ฆ่าเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็กและอ่อนแอ ด้วยการใช้ ‘เวทมนตร์สั่งตาย’ ครอบคลุมไข่ดิบ น้ำสะอาด น้ำส้มสายชู น้ำมันที่เป็นส่วนผสม และมายองเนสที่ผสมเสร็จแล้ว ทำให้ข้าผลิตมายองเนสที่ไม่มีความเสียงต่อโรคอาหารเป็นพิษได้สำเร็จ และเพื่อป้องกันการปนเปื้อนในภายหลัง จึงได้ทำการบรรจุลงขวดในปริมาณน้อย ให้ถูกใช้จนหมดในเวลาอันสั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความรู้ของเอมิ ข้าตระหนักได้ว่าเวทมนตร์นี้สามารถนำไปใช้งานทางด้านการแพทย์ได้ ข้าจึงส่งปีศาจที่ได้สอนเวทมนตร์นี้ให้ไปเผยแพร่ต่อให้กับเหล่าหมอและพยาบาล มันไม่มีผลกับสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เช่นมนุษย์ แต่มันละช่วยป้องกันการอักเสบและติดเชื้อของบาดแผล อีกทั้งการใช้เวทมนตร์นี้ร่วมกับเวทมนตร์ชำระล้าง ก็จะสามารถสร้างน้ำสะอาดได้ทุกที่ และเนื่องจากมันเป็นเวทมนตร์สายวิญญาณซึ่งเป็นเวทมนตร์ของเผ่าปีศาจ จึงทำให้คุณค่าของเผ่าปีศาจสูงขึ้นจนเป็นที่ต้องการตัว
เขายังได้ทดลองทำอีกหลายอย่าง เช่นแกงกะหรี่และช็อคโกแลต แกงกะหรี่เคยเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจอยู่ช่วงหนึ่งเพราะใช้เครื่องเทศราคาแพงหลายอย่าง แต่ก็หมดความนิยมจนไม่มีใครสนใจภายในเวลาไม่นาน อาจเป็นเพราะมันถูกสร้างเพื่อต่อมรับรสของพีน่าโดยเฉพาะ แต่แกงกะหรี่จากความทรงจำของเอมิที่ข้าทำขึ้นมา ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแองเจิ้ลและคนอื่นๆ
ส่วนโครงการผลิตช็อกโกแลตของพีน่า ทำให้เกิดการกว้านซื้อ ‘เมล็ดโกโก้’ ซึ่งตามปรกติจะใช้เป็นยา ทำให้งบประมาณของวิลเลียร่อยหรอลงไปอย่างมากจนถูกวิจารณ์ในฐานะมกุฎราชกุมาร ยิ่งไปกว่านั้น พีน่าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำอย่างไรกับเมล็ดโกโก้ที่ได้มา และตั้งแต่ตอนนั้น ช็อคโกแลตก็ยังไม่สำเร็จ
นอกจากนั้น วิลเลียดมีแผนการป้องกันอุทกภัยครั้งใหญ่ เป็นโครงการขยายและเพิ่มทางระบายน้ำในพื้นที่ที่มักจะเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ข้าตัดหน้าโครงการนั้นด้วยการสร้างเขื่อนภายในดินแดนของข้าซึ่งเป็นต้นน้ำ การก่อสร้างแทบทั้งหมดนั้นจะอาศัยแรงงานท้องถิ่นแทนที่จะเป็นหน่วยงานชลประทานจากวังหลวง สิ่งก่อสร้างอันแสนสะดวกสบายนี้จะแล้วเสร็จภายในปีหน้า หลังจากนั้นมันจะกักเก็บน้ำส่วนเกินในฤดูฝนและปล่อยน้ำให้ใช้ในฤดูแล้ง ทั้งหมดนี้ก็มาจากความทรงจำของเอมิเช่นกัน
ถัดจากเรื่องนั้น พื้นที่ภายใต้ความรับผิดชอบของมกุฎราชกุมารเริ่มแห้งแล้งขึ้นหลังจากการสร้างสะพานขนาดใหญ่ที่กว้างพอให้รถม้าจะสวนกันได้ นั่นก็เพราะข้าจงใจปล่อยแบบแปลนการสร้างสะพานให้กับพวกเขาในรูปแบบที่ทำให้เข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็น ‘เขื่อนชนิดเรียบง่าย’ ทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้แผนการของข้าอย่างง่ายดาย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะพวกเขาลังเลที่จะทุ่มงบประมาณเพื่อการป้องกันอุทกภัย วิลเลียดเอ๋ย ถ้าจะโกรธใครสักคนล่ะก็ ไปโกรธพ่อของท่านเถอะ
ไม่มีวี่แววของภัยพิบัติแห่งหายนะ ไม่มีสงคราม หลังจากมลพิษถูกชำระล้าง ภัยคุกคามจากอสูรก็ลดลง ทางเดียวที่จะสร้างผลงานได้คือการบริหารบ้านเมือง ซึ่งข้าจะเข้าขัดขวางอยู่เบื้องหลังทุกครั้ง บรรดาผู้ติดตามของวิลเลียดได้ถูกทางบ้านทอดทิ้งไม่เหลือจุดยืน ในตอนนี้ พวกเขาไม่มีอำนาจและความน่าเชื่อถือพอที่จะริเริ่มทำอะไรได้อีกต่อไป ทางเดียวที่จะพลิกสถานการณ์ของพวกเขาได้คือพีน่าที่พวกเขาถวายตัวรับใช้ต้องสร้างปาฏิหาริย์อะไรบางอย่างขึ้นมาในฐานะหญิงสาวแห่งดวงดาว… แน่นอนว่าข้าจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น
ออ ยังมีอีกเรื่อง พีน่าจัดตั้ง ‘ศูนย์แจกจ่ายอาหาร’ แต่ครั้งนี้ข้าไม่ต้องลงมือทำอะไรทั้งนั้น เพราะแค่ได้เห็นก็รู้แล้วว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ใช่เพียงขุนนาง แม้แต่ประชาชนก็รู้ว่ามันคือการสร้างภาพ ไม่มีใครชื่นชมโครงการนั้น จริงๆแล้วทั้งหมดที่พวกเขาทำก็มีเพียงตักอาหารให้กับคนที่มาขอ ไม่ได้สนับสนุนการจ้างงาน ไม่ได้ทำให้เด็กๆรู้สึกปลอดภัย ก็แค่รอให้มีคนมาขออาหาร จากนั้นก็ตักใส่จานให้พวกเขา ในขณะที่ไม่มีใครอดตาย ผู้คนไม่ได้อดอยาก ชาวบ้านไม่ได้หิวโหย มีเพียงขอทานมารวมตัวกันรอบบริเวณศูนย์แจกจ่ายอาหาร ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในพื้นที่ ยิ่งไปกว่านั้น เธอให้ความสำคัญเฉพาะกับเมืองหลวงกับเมืองในเขตความรับผิดชอบของมกุฎราชกุมารราวกับต้องการให้ผู้คนสนใจ โดยที่ไม่ให้ความสนับสนุนเท่าที่ควรกับพื้นที่ห่างไกลหรือหมู่บ้านตามชายแดนที่ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ เป็นการกระทำที่ต้องการเพียงคำยกย่องเท่านั้น ซึ่งก็สมกับเป็นผู้หญิงคนนั้นดี
ข้านึกถึงเรื่องที่น่ายินดีเหล่านั้น… ขณะเพลิดเพลินไปกับการแต่งตัวอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ด้วยชุดที่แองเจิ้ลมอบให้ ชุดอันหรูหราสำหรับงานเลี้ยง ไล่เฉดสีจากสีน้ำเงินค่อยๆเข้มขึ้นจนเป็นสีดำ เช่นเดียวกับสีผมของแองเจิ้ล โซเฟียที่ตอนนี้ได้กลายมาเป็นผู้ติดตามคนสนิทของข้าเห็นแล้วก็ยิ้มและพูดออกมาว่า ‘เหมาะกับท่านมาก’ เธอรู้ดีว่าแองเจิ้ลให้ความสำคัญกับข้าขนาดไหน ซึ่งเธอก็ยินดีกับมันราวกับเป็นเรื่องของตัวเธอเอง และเธอก็ชื่นชอบชุดที่แองเจิ้ลมอบให้ข้าตัวนี้เป็นอย่างมาก
ข้าตอบสนองความคาดหวังนั้นด้วยการแสดงท่าทางเป็นหญิงสาวผู้เหนียมอายและพูดว่า ‘หวังว่าแองเจิ้ลจะคิดแบบนั้นเหมือนกัน’ อา ข้าแทบอดใจรอต่อไปไม่ไหวแล้ว