Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ - ตอนที่ 2028 สังเวยโลหิต
- Home
- Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์
- ตอนที่ 2028 สังเวยโลหิต
ตอนที่ 2028 สังเวยโลหิต
เซียวจิ๋วและคนอื่นๆร่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว แม้แต่ปรมาจารย์ระดับแปดบัวบานก็ยังส่งเสียงร้องโอดครวญออกมา และร่างกายถูกกัดกร่อนด้วยความเร็วที่มองเห็นด้วยตาเปล่า
หากอีกฝ่ายยอมสละกายหยาบของตนเองแต่แรก ดวงวิญญาณก็คงยังรอดชีวิตและหาร่างใหม่สิงสู่ได้
แต่ชายวัยกลางคนไม่รู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพิษจากไผ่ครามผลสีชาด ทําให้เขาดื้อรั้นที่จะขจัดพิษออกจากร่างด้วยพลังของตัวเอง จนกลายเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองในที่สุด
เพียงแค่ไม่กี่ลมหายใจ ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งเทียบเท่าตัวตนระดับตําหนักอมตะก็กลายสภาพเป็นกองโลหิต และแม้แต่ดวงวิญญาณก็ถูกทําลาย
“เจ้า… เจ้าใช้วิธีการใดกันแน่?” เซียวจวิ้นถามด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ
เขามักจะมีท่าที่สุขุมอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ในตอนที่พ่ายแพ้ให้กับหลิงฮันต่อหน้าสาธารณชนเขาก็ยังคิดหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ และดึงความเชื่อมั่นของคนอื่นกลับมาได้ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้านี้ อยู่เหนือจินตนาการของเขาไปไกล ทําให้เขาไม่อาจใจเย็นได้อีกตอไป
ปรมาจารย์ระดับแปดบัวบานถูกหลิงฮันสังหารในหนึ่งกระบวนท่า เรื่องแบบนี้ไม่ว่าใครก็คาดไม่ถึง
หลิงฮันยิ้มและกล่าว “เจ้ามีดวงวิญญาณนิรันดร์ของพวกเจ้า ข้าเองก็มีของข้าเหมือนกัน เมื่อครู่ข้าใช้พลังของดวงวิญญาณนิรันดร์ออกไป ซึ่งดูเหมือนดวงวิญญาณนิรันดร์ของเจ้าจะอ่อนแอจริงๆนะ ทั้งๆที่มีพลังบ่มเพาะเหนือกว่าก็ยังถูกสังหารในเวลาไม่กีลมหายใจ!”
เขาส่ายหัวด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
ราดแต่ก็ไม่มีใครกล่าวแย้งอะไรออกมา
ความจริงย่อมเสียงดังความคําพูดปากเปล่า
“สังหารพวกคนนอกให้หมด และทําพิธีสังเวยโลหิต!” เสียงของหลันเทียนหยางส่งผ่านเข้ามา
ว่าไงนะ!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็เผยสีท่าทางตกตะลึงออกมา
ทางด้านคนนอกตกตะลึง เพราะพวกเขาไม่นึกว่าจอมยุทธบนเกาะจะผลิกหน้ากลายมาเป็นศัตรูของพวกเขา ทุกคนในที่นี้ต่างก็ร่วมมือกันต้านทานการบุกรุกของสัตว์อสูร และยินยอมจะคารวะต่อดวงวิญญาณนิรันดร์เหมือนกัน เพราะงั้นพวกเขาก็สมควรจะเปรียบดั่งครอบครัวเดียวกันแท้ๆ
ส่วนทางด้านจอมยุทธบนเกาะ พวกเขาตกตะลึงเพราะเจ้าของเกาะตัดสินใจที่จะทําพิธี สังเวยโลหิต!
สิ่งนี้คือวิธีการท้ายสุดที่พวกเขาจะเลือกใช้
พิธีสังเวยโลหิตจะทําให้พลังของรูปปั้นดวงวิญญาณนิรันดร์ทั้งสอง ทรงพลังยิ่งขึ้นชั่วคราว แต่หลังจากสิ้นสุดพิธีแล้วผู้ที่แบกรับพลังจะได้รับผลกระทบที่สาหัส เพราะงั้นมันจึงเป็นวิธีการสุดท้ายที่จะใช้
การที่ถึงขนาดจําเป็นต้องทําพิธีสังเวยโลหิต แสดงให้เห็นว่าหลันเทียนหยางกับเชอหยวนหวากําลังเผชิญวิกฤตที่หนักหนาขนาดไหน
“รีบลงมือเร็วเข้า จะมัวยืนอึ้งกันทําไม?” หลันเทียนหยางคํารามเสียงดัง เขากับเชอหยวนหวาใกล้จะหมดสภาพเต็มที่แล้ว ศัตรูตรงหน้าเป็นศัตรูที่ฆ่าไม่ตาย หากการต่อสู้ยังคงดําเนินต่อไปเช่นนี้ พวกเขาคงหนีไม่พ้นชะตากรรมดับสูญ
เซียวจนและคนอื่นๆหันไปจดจ้องเหล่าคนอื่นด้วยแววตาโหดเหี้ยม
การสังเวยโลหิตแน่นอนว่าโลหิตคือสิ่งจําเป็น แต่ที่สําคัญกว่านั้นก็คือพลังชีวิต ยิ่งได้รับพลังชีวิตมากเท่าไหร่ พิธีสังเวยโลหิตก็จะมีผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
“ฆ่า!” เซียวจวิ้นและคนอื่นๆลงมือจู่โจมสังหารพวกฉินเหว่ย
เพียงแต่ทุกคนก็จงใจเลือกที่จะมองข้ามหลิงฮันไป โดยไม่กล้าเข้าปะทะด้วย
คนผู้นี้ใช้เพียงหนึ่งกระบวนท่าก็สามารถสังหารปรมาจารย์ระดับแปดบัวบานได้ แถมการโจมตียังส่งผลเป็นวงกว้างด้วย แม้แต่เข้าใกล้ก็ยังไม่กล้า เพราะงั้นใครกันจะกล้าโจมตีหลิงฮัน?
เหล่าจอมยุทธบนเกาะไม่ขาดแคลนปรมาจารย์ระดับแปดบัวบาน ในขณะที่เหล่าคนนอกมีเพียงฉินเหว่ยคนเดียวที่เป็นตัวตนระดับตําหนักอมตะ มีรึที่จะต้านทานจะล่าสังหารไหว?
ฉัวะ ฉวะ ฉวะ หลายคนถูกสังหารในพริบตา หัวของพวกเขาระเบิดออกและโลหิตสาดกระ จายขึ้นสู่ท้องฟ้า
ทุกๆครั้งที่มีคนถูกสังหาร จอมยุทธของเกาะจะทําท่าทางแปลกประหลาด ราวกับกําลังนั่งคุก เขาพร้อมกับระบํา
นี่คือขั้นตอนของพิธีการสังเวยโลหิต
“ครืนน” รูปปั้นทั้งสองเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ พลังชีวิตของพวกมันค่อยๆพุ่งทะยานสูงขึ้น ราวกับพื้นที่แห้งเหือดที่จู่ๆก็มีฝนตกลงมา
หากพลังต่อสู้ของเขอหยวนหวาและหลันเทียนหยางเพิ่มขึ้น แม้จะไม่สามารถสังหารเสี่ยวได้แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังสามารถรั้งเอาไว้ได้ เพื่อถ่วงเวลาให้จอมยุทธคนอื่นๆบนเกาะมีโอกาสหลบหนี
หลิงฮันขมวดคิ้วทันที เนื่องจากเขาไม่คิดจะปล่อยให้คนเหล่านี้หลบหนีไปได้
ต้องทําลายพิธีสังเวยโลหิต
“นายน้อยหลิง ช่วยข้าด้วย!” จอมยุทธนอกเกาะผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากหลิ่งฮัน
จอมยุทธบนเกาะที่ไล่ตามมา เมื่อเห็นว่าตนเองกําลังเข้าใกล้หลิงฮันที่เป็นดังราชาปีศาจ ก็รีบหยุดฝีเท้าทันที
หลิงฮันชําเลืองมอง คนที่ร้องขอความช่วยเหลือจากเขา เป็นหนึ่งในคนที่เคยขับไสเขาก่อนหน้านี้
เขาอดประหลาดใจไม่ได้ว่า ในโลกนี้มีคนหน้าด้านขนาดนี้อยู่ได้อย่างไรกัน?
“ตุบ ตุบ ตุบ” เมื่อเห็นว่ามีคนหลบหนีการไล่ล่าได้สําเร็จ คนนอกคนอื่นๆก็รีบวิ่งเข้ามาหวังใช้หลิงฮันเป็นร่มคุ้มกัน
คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยกล่าวว่าร้ายหลิงฮันทั้งนั้น
หลิงฮันส่ายหัว ฝูงขยะเหล่านี้ต่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปก็มีแต่จะน่าอับอาย
จะปล่อยให้คนบนเกาะทําพิธีสังเวยโลหิตไม่ได้ เพราะงั้นเขาจะยอมเป็นอสูรร้ายเอง
ปัง!
หลิงฮันปล่อยหมัดออกไป เปลวเพลิงพุ่งทะยานสูงตระหง่านฟ้า และเผาร่างของคนที่มาร้องขอให้ช่วยกลายเป็นเถ้าถ่านในหนึ่งกระบวนท่า
เหอะๆ คิดว่าเขาเป็นพ่อพระหรืออย่างไร?
“หลิงฮัน เจ้าทําอะไร?”
“พวกเราทุกคนมาจากที่เดียวกันแท้ๆ!”
“เจ้ามันไม่มีความเป็นมนุษย์!”
“นายน้อยหลิง ยกโทษให้ข้าด้วย!”
เหล่าคนนอกโอดครวญ บางตนตําหนิหลิงฮัน ในขณะที่บางคนขอร้องอ้อนวอน
“ฝูงขยะเช่นพวกเจ้า ไม่ควรค่าจะอยู่ใต้สวรรค์และปฐพีนี้” หลิงฮันเผยท่าทางเย็นชาและลงมือเข่นฆ่าสังหาร
หากพฤติกรรมที่บนเหล่านี้ทําตอนที่อยู่บนเกาะพอจะมีคุณธรรมอยู่บ้าง เขาก็คงยอมช่วยคนเหล่านี้เข้าไปหลบอยู่ในอุปกรณ์มิติ
แต่ตอนนี้น่ะ?
เพื่อไม่ให้เกิดปัญหามากกว่านี้ รีบๆสังหารให้สิ้นไปทั้งหมดเลยดีกว่า
เหล่าคนนอกรีบเผ่นหนีอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาก็รู้สึกตัวทันทีว่าตนเองกําลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ด้านหน้าที่พยัคฆ์ไล่ล่า และมีหมาป่าไล่ตามจากด้านหลัง
“อ้ากกก!” เสียงร้องโอดครวญดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับชีวิตที่ค่อยๆดับไปทีละชีวิต
หลิงฮันลงมือโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย ความเมตตาของเขาหมดไปนานแล้วเพราะความโลเลของคนเหล่านี้
เพียงแต่ว่าทางด้านของจอมยุทธนั้นมีปรมาจารย์ระดับแปดบัวบานอยู่มากมาย ทําให้คนนอกหลายคนถูกพวกเขาสังหาร และพิธีสังเวยโลหิตได้ส่งผลให้พลังต่อสู้ของเธอหยวนหวาและหลันเทียนหยางพุ่งทะยานสูงขึ้น
ทว่าพลังต่อสู้ที่เพิ่มขึ้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะกําราบเสียวกู้ได้ เนื่องจากคนนอกหลายคนถูกสังหารด้วยเงื้อมมือหลิงฮัน
“ฆ่าอีก! ฆ่าให้มากกว่านี้!” หลันเทียนหยางคําราม
ฆ่าอีกงั้นรึ? จะให้ฆ่าใครกันล่ะ?
หลิงฮันเป็นคนนอกคนเดียวที่เหลืออยู่ ไม่ต้องกล่าวว่าจะสังหารอีกฝ่ายได้หรือไม่ เพราะต่อให้สังหารได้ พลังของพิธีสังเวยโลหิตก็คงเพิ่มขึ้นไม่มากอยู่ดี
ถ้างั้นที่ว่า “ฆ่าอีก” นั้นหมายความว่าอย่างไร?
เชียวจชิ้นเผยสีหน้าเย็นชาและกล่าว “ไม่ได้ยินดีเจ้าของเกาะกล่าวงั้นรึ?”
ทันใดนั้นเอง ปรมาจารย์ระดับแปดบัวบานหลายคนก็ลงมือสังหารเหล่าคนที่อยู่รอบข้างอย่างไร้ความเมตตา
“ฉัวะ ฉัวะ ฉิวะ” ศีรษะของผู้คนมากมายลอยขึ้นฟ้า และพิธีสังเวยโลหิตได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง