Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ - ตอนที่ 2053 แข็งแกร่งสูสี
- Home
- Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์
- ตอนที่ 2053 แข็งแกร่งสูสี
ตอนที่ 2053 แข็งแกร่งสูสี
จี่อู๋หมิงยิ้มอย่างหยิ่งทะนง “เพื่อจัดการเจ้า ข้าจําเป็นต้องใช้ร่างวิญญาณด้วยงั้นรึ?”
คําพูดนี้แม้จะดูโอ้อวดเป็นอย่างมาก แต่ในฐานะร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก้า จี่อู๋หมิงย่อมมีคุณสมบัติจะพูดออกมา
หลิงฮันกล่าว “เจ้ามาที่นี่ด้วยร่างหลักเพียงร่างเดียว และให้ร่างวิญญาณแยกไปที่อื่น”
จี่อู๋หมิงชะงักเล็กน้อย เขาไม่นึกว่าหลิงฮันจะลางสังหรณ์ดีขนาดนี้ “ถูกอย่างที่เจ้าว่า ในสามารถแยกร่างของตนเองได้ ก็ย่อมใช้ประโยชน์ให้ไปแสวงหาวาสนาที่อื่นได้”
สมกับเป็นจี่อู๋หมิง!
จิตใจของหลิงฮันเต็มไปด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน ขนาดอีกฝ่ายอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีร่างแยกวิญญาณ ก็ยังสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างสูสี ถึงแม้ตอนนี้เขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบอยู่ แต่การจะสังหารอีกฝ่ายก็ยังเป็นเรื่องที่ยากลําบากมากอยู่ดี
“ฆ่า!” แม้จี่อู๋หมิงจะได้รับบาดเจ็บ แต่จิตวิญญาณสู้รบของเขาก็ยิ่งเดือดพล่าน
ปัง! ปัง! ปัง!
การปะทะของสองสุดยอดจักรพรรดิเริ่มขึ้นอีกครั้ง อักขระในดวงตาของจี่อู๋หมิงยังคงส่องประกาย และมอบพลังอันน่าสะพรึงกลัวไร้ขีดจํากัดให้แก่เขา
หลิงฮันไม่ยอมตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ในเมื่อแก่นพลังมหาพินาศถูกใช้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาก็ไม่ปกปิดมันอีกต่อไป และใช้มันโจมตีอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างแรงกดดันต่อจี่อู๋หมิง
แต่จี่อู๋หมิงนั้นสมกับที่เป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ระดับเก้า และอัจฉริยะไร้พ่ายอย่างแท้จริง ถึงแม้แก่นพลังมหาพินาศจะสร้างภัยคุกคามให้แก่ขี่อู่ได้ แต่อีกฝ่ายก็หาวิธีรับมือได้โดยใช้การแบ่งแยกจากอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงเวลาและห้วงมิติ
ก่อนระดับพลังราชานิรันดร์ อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติและห้วงเวลา สามารถบดขยื้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้าธาตุได้ทุกธาตุ ถึงแม้หลิงฮันจะได้ประโยชน์จากการขัดแย้งกันของธาตุถึงสี่ธาตุ จากแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี แต่ก็ยังขาดธาตุที่ห้าไป ทําให้พลังของการขัดแย้งลดลงหลายส่วน
ซึ่งหมายความว่าแก่นพลังมหาพินาศในตอนนี้ ยังไม่เพียงพอที่จะใช้กําราบจี่อู๋หมิง
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องนี้มากจริงๆ อย่างที่รู้ว่าจี่อู๋หมิงนั้นยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา เพราะร่างวิญญาณไม่ได้ถูกเรียกให้มาร่วมต่อสู้ด้วย แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นอีกฝ่ายก็ยังสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม กล่าวคือความแข็งแกร่งของเขายังเทียบเท่าอีกฝ่ายไม่ได้นั่นเอง
สุดยอดจักรพรรดิทั้งสองใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ออกมา เมื่อการต่อสู้ดําเนินไปเป็นเวลาสามวันสามคืน ทั้งสองฝ่ายต่างก็หยุดมือและยืนนิ่งจ้องหน้ากัน
“หากไม่มีเหตุผลที่ต้องสังหารเจ้า ข้าล่ะอยากเป็นสหายกับเจ้าจริงๆ” จี่อู๋หมิงหัวเราะ จิต วิญญาณสู้รบของเขายังคงเดือดพล่านไม่ลด
“เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าเคยพบเจอมาอย่างแท้จริง” หลิงฮันพยักหน้าและเผยท่าทางยอมรับ
นอกจากจี่อู๋หมิงแล้ว ไม่มีใครอื่นที่สามารถทําให้เขากดดันขนาดนี้ได้ และในระดับเดียวกันนี้มีเพียงจี่อู๋หมิงตนเดียวเท่านั้น ที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้
หลิงฮันรู้สึกตกตะลึงกับเรื่องนี้มากจริงๆ อย่างที่รู้ว่าจี่อู๋หมิงนั้นยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมา เพราะร่างวิญญาณไม่ได้ถูกเรียกให้มาร่วมต่อสู้ด้วย แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นอีกฝ่ายก็ยังสามารถต่อสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม กล่าวคือความแข็งแกร่งของเขายังเทียบเท่าอีกฝ่ายไม่ได้นั่นเอง
สุดยอดจักรพรรดิทั้งสองใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ออกมา เมื่อการต่อสู้ดําเนินไปเป็นเวลาสามวันสามคืน ทั้งสองฝ่ายต่างก็หยุดมือและยืนนิ่งจ้องหน้ากัน
“หากไม่มีเหตุผลที่ต้องสังหารเจ้า ข้าล่ะอยากเป็นสหายกับเจ้าจริงๆ” จี่อู๋หมิงหัวเราะ จิตวิญญาณสู้รบของเขายังคงเดือดพล่านไม่ลด
“เจ้าเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าเคยพบเจอมาอย่างแท้จริง” หลิงฮันพยักหน้าและเผยท่าทางยอมรับ
นอกจากจี่อู๋หมิงแล้ว ไม่มีใครอื่นที่สามารถทําให้เขากดดันขนาดนี้ได้ และในระดับเดียวกันนี้มีเพียงจี่อู๋หมิงตนเดียวเท่านั้น ที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้ โจมตีเพิ่มได้เป็นหนึ่งหมื่นหนึ่งพัน หนึ่งหมื่นสองพัน หรืออาจจะถึงสองหมื่นและสามหมื่นหมัด”
หลังจากเวลาผ่านไปอีกสามวัน หลิงฮันก็ลุกขึ้นยืนและเดินหน้าต่อ
ปราณมังกรปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา และแปรสภาพกลายเป็นมนุษย์พร้อมกับโจมตีอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนว่าวาสนาจะไม่สิ้นสุดลงแม้จี่อู๋หมิงจะนําหน้าไปก่อนแล้ว
หลิงฮันเลือกที่จะไม่ใช่แก่นพลังมหาพินาศในทันที แต่โจมตีตอบโต้กับคู่ต่อสู้เพื่อขัดเกลาพลังต่อสู้ของตนเอง
เพียงแต่หากไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศ เขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของปราณมังกรตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ทว่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว พลังของเขาถือว่าพัฒนาขึ้นมามากพอสมควร
เมื่อได้ข้อสรุปแล้วก็ไม่จําเป็นต้องเสียเวลาอีกต่อไป
หลิงฮันโคจรแก่นพลังมหาพินาศ “ปัง” อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา และปราณมังกรร่างมนุษย์ได้สลายไปในทันที
“ข้าต้องการปราณมังกรเพิ่มอีก!”
หลิงฮันเดินหน้าเพื่อต้องการตามหาปราณมังกรเพิ่มอีก แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางมังกรนี้จะมีกฏของมันอยู่ หลังจากที่เคยเดินผ่านมาแล้ว ในเส้นทางเดิมจะไม่มีปราณมังกรปรากฏขึ้นอีกต่อไป
กฏนี้ไม่ใช่แค่กับกรณีของปราณมังกรเท่านั้น แต่บุปผาแห่งเต๋เองก็เช่นกัน เพราะหลิงฮันไม่เชื่อว่าจี่อู๋หมิงจะเดินผ่านไปโดยทิ้งบุปผาแห่งเต๋เอาไว้
เขาโคจรอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สวรรค์มิติอย่างรอบคอบเพื่อลบตัวตนให้หายไปจากสวรรค์และปฐพี พร้อมกับเก็บเกี่ยวบุปผาแห่งเต๋ตลอดทาง
สะพานมังกรที่แตกต่างกัน ความแข็งแกร่งของปราณมังกรก็น่าจะต่างกันด้วย และในสะพานมังกรอันอื่นก็ไม่น่าจะมีบุปผาแห่งเต๋า เพราะเขาไม่เคยได้ยินฟูเยว่เอ่ยถึงมันมาก่อน
หลิงฮันเดิมไปตามทางของสะพานมังกร และหวังให้สะพานยังคงยืดตามต่อไปเรื่อยๆ เพื่อที่เขาจะเก็บเกี่ยวปราณมังกรและบุปผาแห่งเต๋ได้มากขึ้น
แต่ไม่ว่าเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม หลังจากเวลาผ่านไปสามเดือนสะพานมังกรก็มาถึงจุดสิ้นสุด
หลิงฮันมองเห็นหัวมังกรขนาดใหญ่ กําลังงับหน้าผาอีกด้านเพื่อเชื่อมเป็นทางเดิน
ในระยะเวลาสามเดือนนี้ พลังบ่มเพาะของเขาได้บรรลุเป็นระดับตัดวิญญาณหยางสูงสุด และพลังกายของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว จนสามารถเทียบชั้นกับจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ได้ เพียงแต่จอมยุทธระดับนิรันดร์นั้นจะต่อสู้ด้วยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์และปราณก่อเกิด ซึ่งพลังกายจะตกไปเป็นปัจจัยรอง
หลิงฮันกระโดดลงจากหัวมังกร เมื่อเขาหันหลังกลับไปก็พบว่าสะพานมังกรที่เขาเดินผ่านมาได้หายไปแล้ว
กล่าวคือเขาไม่สามารถย้อนกลับไปยังเส้นทางเดิมและ และต้องมุ่งหน้าต่อไปอย่างเดียว
จี่อู๋หมิงได้นําเขาไปแล้ว
ความรู้สึกร้อนรนผุดขึ้นในใจหลิงฮัน แต่เขาก็ตัดสินใจไม่มุ่งหน้าต่อในทันที และนั่งลงเพื่อรอคอยฮูหนิวกับคนอื่นๆ
ที่หน้าผาฝั่งนี่คือจุดที่สะพานทั้งสามพันจะมาบรรจบกัน ตราบใดที่ข้ามผ่านสะพานมาได้สําเร็จ ทุกคนก็จะมารวมกันที่นี่ ซึ่งใช่ว่าทุกคนจะมาถึงที่นี่ได้ เพราะใครที่อ่อนแอก็จะถูกกําจัดไปตั้งแต่ต้นแล้ว
เขานั่งนิ่งราวกับขุน โดยมีคนมากมายที่ลงจากมาสะพานมังกรและเดินผ่านเขาไป
บางคนผ่านไปอย่างเร่งรีบ ในขณะที่บางคนหยุดมองอยู่ครู่หนึ่ง เพราะสงสัยว่าทําไมหลิงฮันถึงนั่งอยู่ตรงนี้
“หลิงฮัน!” สองวันต่อมา เด็กสาวที่งดงามก็กระโดดลงมาจากหัวมังกรและโผเข้าสู่อ้อมกอดของหลิงฮัน เด็กสาวผู้นี้จะเป็นใครไปได้นอกจากฮูหนิว?
เด็กสาวนําร่างของตนเองเข้าไปอยู่ระหว่างแขนของหลิงฮัน และใช้มือโอบที่ลําคอ “หลิงฮัน คิดถึงฮูหนิวรึเปล่า?”
“แน่นอนอยู่แล้ว” หลิงฮันยิ้ม
“ถ้างั้นก็ทิ้งมารจิ้งจอกทั้งสองเอาไว้ และพวกเรารีบไปกันเถอะ!” สาวน้อยดวงตาเปิดกว้าง และทําสีหน้าคาดหวัง