Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ - ตอนที่ 1917 ดูดซับหยกต้นกําเนิดวิถี สวรรค์ และเข้าใกล้ห้านิพพาน
- Home
- Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์
- ตอนที่ 1917 ดูดซับหยกต้นกําเนิดวิถี สวรรค์ และเข้าใกล้ห้านิพพาน
ตอนที่ 1917 ดูดซับหยกต้นกําเนิดวิถี สวรรค์ และเข้าใกล้ห้านิพพาน)
หืม?
หลิงฮันชะงัก ฮูหนิวงั้นรึ?
นางมาที่นี่ได้อย่างไร?
หลิงฮันคิดและเข้าใจอย่างรวดเร็ว ต้องเป็นหัวหน้ากองก๋วนแน่นอน ที่รายงานไปว่าเขาตายไป แล้วเพราะงั้นฮูหนิวที่ไม่เชื่อถึงได้มาที่นี่ด้วยตัวเอง
“มีอะไรงั้นรึ?” จักรพรรดินี้ไม่อาจรับรู้เหตุการณ์ด้านนอกหอคอยทมิฬได้
หลิงอันยิ้ม “ซูหนิวมาที่นี่แล้ว อีกไม่นานพวกเจ้าคงได้พบกัน”
จักรพรรดินีเผยสีหน้าหยิ่งทะนงอันผ่าเผยที่หาได้ยาก ก่อนหน้านี้นางได้เห็นซูหนิวผ่านทางร่างแยก จึงรู้ว่าความงดงามของเด็กสาวผู้นี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่านางเลยแม้แต่น้อย
นางรู้สึกฮึกเหิมและต้องการสยบศูหนิว เพื่อขึ้นครองตําแหน่งภรรยาหลวงของตระกูลหลิง
หลิงฮันน้ําหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ออกมาและกะเทาะให้เกิดรู เขากับจักรพรรดินี้ใช้มือคนละข้างกําก้อนหยก พร้อมกับดูดซับแก่นพลังที่อยู่ภายใน
“ครื้นนน” ร่างของพวกเขาทั้งสองคนสั่นสะท้าน และระเบิดคลื่นแสงสว่างเจิดจ้า ตราประทับมากมายที่ไม่ซ้ํากันแม้แต่อันเดียวค่อยๆ ปรากฏออกมา
หนึ่งชั่วโมง สองชั่วโมง.. ห้าชั่วโมง… หนึ่งวัน!
หลิงฮันและจักรพรรดินี้เขาสู่สภาวะอิ่มตัว และไม่สามารถดูดซับพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ได้อีกต่อไป
เพียงแต่แก่นพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ ยังคงหลั่งไหลออกมาจากรูอย่างไม่สิ้นสุด
หลิงฮันขมวดคิ้ว หากปล่อยไว้แบบนี้จะไม่ใช่เป็นการทําให้ หยกต้นกําเนิดวิ ถีสวรรค์เสียเปล่าหรอก?
เขาเคยคิดว่าจะแบ่งแก่นพลังที่เหลืออยู่ของก้อนหยกให้กับซูหนิว เพียงแต่ตอนนี้เขาอยู่ในสภาวะรู้แจ้งที่กําลังจะทะลวงผ่านระดับห้านิพพานแล้ว หากทิ้งระยะเวลาไว้นานเกินไป และสูญเสียพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ที่ดูดซับเข้ามาอยู่ในร่างกายไปล่ะก็ ความพยายามหลายเดือนที่ผ่านมาของเขาก็จะกลายเป็นสูญเปล่า
หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาออกมาจากหอคอยทมิฬ และย้ายเข้าไปในอุปกรณ์มิติแทน
“รับไป!” เขาโยนหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ที่ยังมีแก่นพลังเหลืออยู่ออกไป ก่อนจะออกจากอุปกรณ์มิติอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ธิดาโรัวตกอยู่ในความมึนงง
ช่างน่าปวดใจนัก!
สมบัติที่ล้ําค่าเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาย่อมต้องการนําไปใช้กับคนของตนเอง เพียงแต่ตอนนี้นอกจากฏหนิวจะวิ่งเลยไปแล้ว สตรีนกอมตะก็ยังไม่บรรลุระดับโลกียนิพพานอีก ส่วนเขาหากดูดซับพลังของมันมากไปกว่านี้ล่ะก็ ร่างกายจะต้องระเบิดตายแน่นอน
เพราะงั้นทางเลือกเดียวจึงมีเพียงมอบให้แก่สตรีจอมยั่วยวนผู้นี้
ธิดาโรวรับหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์
เจ้าเข้ามาโยนหินใส่ข้าแล้วหนีไปเพื่ออะไร? ข้าไปทําอะไรให้เข้ากัน เจ้าถึงต้องโยนหินใส่ข้าด้วย?
เพียงแต่หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อสัมผัสถึงพลังงานที่หลั่งไหลออกมาจาก หยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ได้ สีหน้าของธิดาโร่วก็แปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง
นางรีบหยิบหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ขึ้นมา และนั่งบ่มเพาะดูดซับผลประโยชน์จากมัน
หลังจากชี้นําแก่นพลังของหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์เข้าสู่ร่าง นางก็ตระหนักได้ทันทีว่าสิ่งนี้คือสมบัติที่ล้ําค่าไม่ผิดแน่ เนื่องจากรากฐานพลังบ่มเพาะที่มีข้อบกพร่องก่อนหน้านี้ของนางค่อยๆ ถูกขัดเกลาให้สมบูรณ์แบบไล่มาทีละระดับ
ธิดาโร่วตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ศักยภาพของนางกําลังยกระดับจากราชาทั่วไป ขึ้นเป็นราชาในหมู่ราชา ยิ่งนางเป็นผู้ครอบครองแก่นกําเนิดนิรันดร์ด้วยแล้ว หลังจากกลายเป็นราชาในหมู่ราชาอนาคตของนางย่อมรุ่งโรจน์ไร้สิ่งกีดขวาง
หลิงขั้น ข้าคิดว่าเจ้าเกลียดข้าเสียอีก เหตุใดเจ้าถึงได้มอบสมบัติล้ําค่าเช่นนี้ให้ข้ากัน?
หรือนี่จะเป็นของขวัญที่สื่อถึงความรักกัน?
หลังจากกลับมายังหอคอยทมิฬแล้ว หลิงฮันก็เริ่มทําการฝึกฝนใต้ต้นสังสารวัฏ
กลอนประตูสู่ระดับห้านิพพานของเขาได้ถูกปลดออกแล้ว เพียงแต่เขาจะสามารถผลักประตูให้เปิดหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับตัวเขาเอง
ภายใต้ต้นสังสารวัฏ วันเวลาได้ผ่านพ้นไปราวกับติดปีก
ร่างของหลิงฮันและจักรพรรดินีปลดปล่อยคลื่นแสงอันเจิดจ้าออกมา โดยที่แสงเหล่านั้นได้พัวพันกัน กลายเป็นบอลแสงแห่งเต๋าขนาดใหญ่ ปกคลุมไปทั่วร่างของพวกเขา
ทุกครั้งที่บอลแสงกระเพื่อม คลื่นพลังอันรุนแรงก็จะปะทุออกมา คลื่นพลังที่ว่านี้ไม่ได้ส่งผลแค่ในหอคอยทมิฬเท่านั้น แต่แม้กระทั่งทั่วทั้งยอดเขาสามตะวัน ก็ยังสามารถสัมผัสถึงมันได้
สิบปี… ร้อยปี พันปี!
หลังจากเวลาใต้ต้นสังสารวัฏผ่านไปหนึ่งพันปีเต็ม หลิงฮันและจักรพรรดินีก็ลืมตาขึ้นพร้อมกัน “ตูม” บอลแสงรอบกายพวกเขาแตกออก ภายในดวงตาของพวกเขาตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นลูกตาได้แม้แต่นิดเดียว โดยสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาแทนคือห้วงอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด
ร่างของพวกเขาปลดปล่อยออร่าที่เหนือกว่าสี่นิพพาน แต่กลับยังเป็นสัมผัสของระดับโลกี้ยนิพพาน ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประหลาดมาก
ห้านิพพาน!
ไม่สิ… พวกเขายังไม่ได้ตัดนิพพานเลย มีเพียงหลังจากผ่านทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์สําเร็จแล้วเท่านั้น พวกเขาถึงจะนับว่าได้กลายเป็นจักรพรรดิที่แท้จริง
“เริ่มกันเถอะ”
ทั้งสองคนออกมาจากหอคอยทมิฬพร้อมกัน และนํายันต์ไม้ท้อผูกชะตาออกมาแปะไว้บนศีรษะ
“ครื้นนน” สวรรค์และปฐพี่ส่งเสียงคําราม พร้อมกับเมฆสีดําสองก้อนได้ถูกก่อตัวขึ้นอย่างรวด
ห้านิพพาน… การตัดนิพพานในขั้นพลังนี้ถือว่าเป็นการตัดขาดกับสวรรค์และปฐพีอย่างสมบูรณ์ ราวกับจะไม่ถูกสวรรค์และปฐพีผูกมัดอีกต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่สวรรค์ไม่อาจยอมให้เกิดขึ้น!
เพราะงั้นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ในครั้งนี้ จึงแฝงไว้ด้วยโทสะอันสูงสุดของสวรรค์ ที่ต้องการจะชําระล้างผู้กบฏให้สิ้นซาก
เพียงแต่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาก็ทําหน้าที่ของมัน
ถึงแม้สมบัติจากแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีพฤกษาชิ้นนี้ จะไม่ได้ช่วยจอมยุทธในการยกระดับพลังบ่มเพาะหรือช่วยให้รู้แจ้ง แต่มันก็มีความสามารถพิเศษอย่างการช่วยลดทอนอํานาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ให้เบาลง
ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาทั้งสองชิ้นส่องแสงขึ้นสู่ท้องฟ้า และปลดปล่อยคลื่นพลังอันแปลกประหลาดออกมา จนทําให้ยอดเขาสามตะวันแห่งนี้ดูราวกับเป็นโลกอันแบ่งแยก ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอันใดกับสวรรค์และปฐพี
อํานาจของทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ลดลงทันที ถึงแม้พลังทําลายของมันจะยังเกินกว่าระดับสี่นิพพาน แต่อย่างน้อยก็ไม่เกินไปกว่าระดับตัดวิญญาณหยาง