Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ - ตอนที่ 1918 ไล่ล่า
- Home
- Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์
- ตอนที่ 1918 ไล่ล่า
ตอนที่ 1918 ไล่ล่า
“โอ้?” ราชานิรันดร์หย่งชางแหงนมองท้องฟ้า และเผยสีหน้าประหลาดใจ
ไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องที่สัมผัสสวรรค์ของเขานั้นกว้างใหญ่ไพศาล ตอนนี้เพียงแค่มองขึ้นไปเฉยๆเขาก็สามารถรับรู้ได้แล้วว่ากําลังมีอะไรเกิดขึ้น
ตัดผ่านห้านิพพาน และยันต์ไม้ท้อผูกชะตา
สองสิ่งนี้คือสิ่งที่อยู่คู่กัน เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีใครคนไหน สามารถรอดพ้นจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ของระดับห้านิพพานได้ โดยไม่ใช่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตา
“เป็นเด็กน้อยคนไหนกัน ที่ครอบครองสมบัติเช่นนั้น?” ราชานิรันดร์หย่งชางรู้สึกสงสัย ต้นท้อผูกชะตานั้นเป็นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีพฤกษา ที่เมื่อหลายล้านปีที่ผ่านๆ มา ได้ถูกเหล่าปรมาจารย์ที่ทรงพลังตัดไปแล้วจนแทบไม่เหลือแล้ว ในยุคสมัยนี้ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาที่ทุกคนมี ใช้จึงล้วนแต่เป็นสิ่งที่ถูกส่งต่อมาจากยุคก่อน
นอกจากนั้นผู้ที่สามารถบรรลุระดับนิพพานได้ ต่อให้เป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้าก็มีอยู่เพียงหยิบมือ
ในขุมอํานาจที่ยิ่งใหญ่แต่ละยุคสมัย รุ่นเยาว์ที่จะบรรลุระดับพลังนี้ได้มีเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น
แต่ทว่าตอนนี้ คนถึงสองคนกลับกําลังทะลวงผ่านระดับห้านิพพานพร้อมกัน เพราะงั้นจึงไม่แปลกที่แม้แต่ราชานิรันดร์ระดับแปดเช่นเขา ก็ยังประหลาดใจ
หลี่ว์ไห่หรงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ถึงแม้พลังของนางจะไม่ได้สูงส่งเท่าราชานิรันดร์หย่งชางแต่ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ก็เป็นถึงขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับเก้า นางจึงรู้เรื่องนี้ดีกว่าราชานิรันตร์หย่งชางเสียอีก
ต่อให้เป็นตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ ยันต์ไม้ท้อผูกชะตาที่เหลืออยู่ก็มีไม่มากแล้ว
“น่าสนใจ! น่าสนใจยิ่งนัก!” ราชานิรันดร์หย่งชางดวงตาส่องประกาย และสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง
เขาไม่รู้สึกสนใจอะไรในตัวหลิงฮันมาก่อน จนกระทั่งได้เห็นทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ เมื่อสายตาของเขากวาดมอง สิ่งที่เขามองเห็นก็ไม่ได้มีเพียงแค่ยันต์ไม้ท้อผูกชะตา
“แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเพลิงบรรพบุรุษ กับวารีบรรพบุรุษ!” ราชานิรันดร์หย่งชาง พึมพํา “อํานาจต้นกําเนิดทั้งสองที่แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ยังยากที่จะมีในครอบครอง แต่เขากลับมีอยู่ถึงสอง”
แววตาของหลิวไห่หรงเองก็ส่องประกาย นางเกิดความคิดขึ้นมาทันทีว่า จะต้องนําแก่ นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสองนี้ไปให้ฮูหนิวดูดกลืนให้ได้
“โอ้ ดูเหมือนเจ้าหนูผู้นี้จะมีชื่อว่าหลิงฮันนะ” ราชานิรันดร์หย่งซางยิ้ม
ว่าไงนะ!
หลี่วไห่หรงอ้าปากค้าง และกลายเป็นไร้คําพูดในทันที
หรือหลิงฮันผู้นี้จะเป็นหลิงฮันคนที่ชูหนวกําลังตามหา?
ช่างบังเอิญอะไรเช่นนี้
ฮูหนิวมั่นใจเป็นอย่างมากว่าหลิงฮันนั้นยังไม่ตาย ถ้าเกิดหลิงฮันผู้นี้เป็นคนเดียวกันจริงนางก็พอเข้าใจได้ว่าเหตุใดอีกฝ่ายถึงสามารถหลบหนีจาก คลื่นปะทะของตัวตนระดับข้ามผ่า นต้นกําเนิดแท็ได้
ขนาดแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่เขายังมีครอบครองถึงสอง เพราะงั้นมีรีที่เขาจะไม่มีไพ่ลับอื่นที่เอาไว้ใช้รักษาชีวิตตนเอง?
น่าเสียดายเป็นอย่างมาก หากเป็นแบบนี้คงเป็นไปไม่ได้แล้ว ที่จะชิงแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ทั้งสองนี้ไปให้ฮูหนิว
“พรึบ” ทันใดนั้นเองร่างหนึ่งก็เหาะเหินเข้ามา ร่างที่ว่านี้คือชายชราผมขาวที่บนหัวแทบจะไม่เหลือเส้นผมให้เห็น ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นราวกับคนใกล้ตายและมีออร่าเที่ยว เฉาปกคลุมไปทั่วร่าง
อสูรเฒ่าเงาโลหิต!
“เจ้าหนู คิดว่าการที่เจ้าแอบหนีออกมา จะทําให้ชายชราผู้นี้จะไล่ตามเจ้ามาไม่ได้งั้นรึ? ช่างไร้เดียงสา!” ชายชราแสยะยิ้ม โดยไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของราชานิรันดร์ทั้งสอง
ตราบใดที่ราชานิรันดร์ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตน ต่อให้พวกเขายืนอยู่ต่อหน้า ผู้คนก็จะไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้!
“เจ้าหนู คิดจริงๆ รีว่าข้าจะหาเจ้าไม่พบ?” อสูรเฒ่าเงาโลหิตพึมพํากับตัวเอง
เขาแอบรอคอยอยู่ด้านนอกเมืองวิถีโอสถมาโดยตลอด และได้รู้ว่าหลิงฮันกลายเป็นผู้สืบทอดคนใหม่ของเมืองวิถีโอสถ หากกล่าวตามตรงแล้ว ในตอนที่ได้ยินข่าวนี้เป็นครั้งแรก ตัวเขานั้นตกตะลึงมากจริงๆ
เขาสั่งให้เจ้าหนูผู้นี้ไปเป็นผู้ติดตามของหลู่เซียนหมิง และคอยช่วยเหลืออีกฝ่ายเพื่อที่จะได้มีโอกาสแย่งชิงยันต์ไม้ท้อผูกชะตาแท้ๆ แต่เจ้าหนูนี้กลับกลายเป็นผู้สืบทอดเองเสียได้
เพียงแต่หลังจากหายจากอาการตกตะลึงแล้ว ความรู้สึกของเขาก็เอ่อล้นไปด้วยความตื่นเต้น
ทีนี้หลิงฮันก็จะนํายันต์ไม้ท้อผูกชะตากลับมาให้เขาได้แน่นอน
เพียงแต่หลังจากรอมานานสองนานเพื่อให้หลิงฮันกลับมาหา ชายชราก็เริ่มอดทนไม่ ไหวจนต้องแอบลอบเข้าไปในเมือง เพียงแต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกพบตัวและมีการปะทะที่รุนแรงเกิดขึ้น ก่อนจะเผ่นหนีออกมา
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามาถจับกุมตัวใครบางคนมาได้ เมื่อทําการตรวจสอบความทรงจําจากดวงวิญญาณของคนผู้นั้นแล้ว ชายชราถึงได้รู้ว่าหลิงฮันออกจากเมืองวิถีโอสถไปยังสถานที่นัดพบกับเอี๋ยนเซียนลู่
ด้วยเหตุนี้เขาจึงรีบไล่ตามมาที่นี้ในทันที ถึงแม้ราชานิรันดร์หย่งชางจะเป็นตัวตนที่น่ายําเกรงแต่เขาก็ไม่ได้คิดจะล่วงเกินอีกฝ่าย และมานําตัวจอมยุทธหรือนักปรุงยาตัวจ้อยผู้หนึ่งกลับไปเท่านั้น เพราะงั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่ราชานิรันดร์หย่งชางจะให้ความสนใจ
ยิ่งกว่ามีรีที่ราชานิรันดร์จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของหลิงฮัน?
ช่างน่าขั้น!
เพียงแต่สําหรับยอดเขาสามตะวันแห่งนี้นั้น ชายชราไม่สามารถไต่ขึ้นไปได้ เนื่องจากสถานที่แห่งนี้คือสถานที่แห่งการบรรลุเป็นราชานิรันดร์ ที่ราชานิรันดร์หย่งชาง กําหนดเอาไว้ให้เพียงแค่จอมยุทธระดับโลกียนิพพานเท่านั้นที่สามารถไต่ขึ้นเพื่อรับวาสนาได้ สําหรับจอมยุทธระดับอื่น ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถขึ้นไปยังภูเขาได้
นอกเสียจากว่าคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งกว่าราชานิรันดร์หย่งชาง!
“พรึบ คลื่นแสงอัสนี้ส่องประกาย พร้อมกับชายร่างใหญ่ผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวอย่างเงียบเฉียบ
ป้าเยา!
หลังจากตอนที่กลับไปตําหนักเมฆาอัสนี และรายงานเรื่องของหลิงฮันแล้ว เขาก็หาข้ออ้างแอบออกมาเพียงคนเดียว
แน่นอนว่าที่ทําแบบนั้นก็เพื่อตามล่าหลิงชั้น
ด้วยการที่เขาเป็นคนของขุมอํานาจราชนิรันดร์ สายตาของเขาย่อมเฉียบคมกว่าอสูรเฒ่าเงา โลหิตจึงมั่นใจว่าสมบัติที่หลิงฮันครอบครองอยู่นั้นจะต้องล้ําค่าหาสิ่งใดเปรียบแน่นอน ที่เป็นไป ได้มากที่สุดก็คือสมบัตินั่นอาจจะเป็นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี หรือไม่ก็อุปกรณ์ที่มีพลังระดับราชานิรันดร์
“สถานที่แห่งการบรรลุเป็นราชานิรันดร์!” ป้าเยาแหงนมองยอดเขาสามตะวัน และเผยสีหน้าเลื่อมใส
ราชานิรันดร์หย่งชางคือตัวตนสูงส่ง ที่เมื่อเทียบกันแล้ว ราชานิรันดร์เหลยหยุนก็ไม่ต่างอะไรจากมดปลวกตั้วจ้อย!
ต่อให้เป็นในความฝัน เขาก็ไม่กล้าจินตนาการว่าตนเองจะบรรลุพลัง ที่สูงส่งขนาดนั้นได้ ความหวังของเขาคือขอแค่ทะลวงผ่านกลายเป็นราชานิรันดร์ได้ก็พอ
ในตอนที่เขายังเป็นผู้สืบทอด เขามีความมั่นใจมากว่าตนเองจะบรรลุระดับพลังที่ว่าสําเร็จ แต่ยิ่งพลังบ่มเพาะสูงขึ้นเท่านั้น เขาก็เริ่มค้นพบว่าราชานิรันดร์นั้น เป็นระดับพลังที่ยากเกินจะเอื้อมถึง!
ในรอบหลายล้านล้านปี ที่ตําหนักเมฆาอัสนี้มีผู้สืบทอดถือกําเนิดขึ้นมากมาย แต่คิดว่ามีกี่คนกันที่บรรลุเป็นราชานิรันดร์ได้?
ไม่มีแม้แต่คนเดียว!
“จะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสนี้แล้ว!”