Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ - ตอนที่ 2008 มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก
- Home
- Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์
- ตอนที่ 2008 มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก
ตอนที่ 2008 มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก
“หลิงฮัน เจ้าแข็งแกร่งจริงๆ!” ฮูหนิวกระโดดเข้ามาเกาะหลังหลิงฮัน และชูมือเรียวบางของนางไปมา
จักรพรรดินีเองก็เดินเข้ามาแนบชิด และเผยสีหน้าอ่อนหวาน
ตั้งแต่ที่จี่อู๋หมิงปรากฏตัว เขาก็เป็นดั่งขุนเขาตั้งตระหง่านที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจข้ามผ่านได้ แม้แต่สุดยอดจักรพรรดิเช่นพวกนางก็ทําได้เพียงแหงนมอง%uid% เพราะงั้นตอนนี้เมื่อเห็นหลิงฮันสามารถต่อสู้ทัดเทียมกับจี่อู๋หมิง
มีรึที่พวกนางจะไม่ตื่นเต้น?
กลุ่มของหลิงฮันออกเดินทางต่อ และในอีกหนึ่งเดือนต่อมา พวกเขาก็กลับมาถึงทางปากทางเขามหาสมุทรในที่สุด
“ฟุบ” ร่างของพวกเขาหลุดพ้นจากผิวน้ํา ก่อนจะพบเห็นแสงอาทิตย์ที่สาดส่อง และท้องฟ้าสีครามที่ไม่ได้เห็นมานาน
มหาสมุทรวิญญาณหยางเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากตอนแรกมา สายรุ้งหลากสีแปรเปลี่ยนกลายเป็นแสงสลัวสีขาว และกระเพื่อมไปมา ราวกับจะสามารถพังทลายลงได้ตลอดเวลา
เมื่อใดที่สายรุ้งพังทลาย นั่นหมายถึงการปิดตัวลงอย่างสมบูรณ์ของมหาสมุทรวิญญาณหยาง และจะกลับมาเปิดอีกครั้งในอีกหนึ่งร้อยล้านปีข้างหน้า
เพราะงั้นคนที่กลับออกมาไม่ทัน จะต้องเสียชีวิตอยู่ในมหาสมุทรวิญญาณหยางไปตลอดกาล
หลังจากรอคอยอยู่เป็นเวลาสิบเจ็ดวัน แสงสลัวสีขาวของสายรุ้งก็หายไป
หลิงฮันลองนับจํานวนดู และพบว่าคนที่แต่เดิมมีอยู่ทั้งหมดเจ็ดร้อนห้าสิบสองคน ตอนนี้เหลืออยู่เพียงสี่ร้อยยี่สิบเอ็ดคนเท่านั้น และในหมู่คนเหล่านั้นมีอยู่เจ็ดสิบสี่คนที่ทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณได้สําเร็จ ในขณะที่คนอื่นๆ ทะลวงผ่านระดับล้มเหลว และทําได้เพียงรอโอกาสครั้งต่อไป
คนจํานวนมากกว่าเจ็ดร้อยคน แต่คนที่ทะลวงผ่านสําเร็จกลับมีไม่ถึงร้อยคน นี่แสดงให้เห็นว่าการทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณทําได้ยากลําบากขนาดไหน
เรือเหาะเคลื่อนที่อีกครั้ง และพวกหลิงฮันได้มุ่งหน้ากลับเมืองวิถีโอสถ
ฮูหนิวมาบอกหลิงฮันว่าในระยะเวลาเจ็ดร้อยปีนี้ ขุมอํานาจราชานิรันดร์ได้ส่งคนมาจัดการหลิงฮันอยู่หลายครั้ง ในหุบเขาสามบุปผามีจักรพรรดิถูกหลิงฮันสังหารไปถึงหกคน มีรีที่ขุมอํานาจเบื้องหลังจักรพรรดิเหล่านั้นจะยอมปล่อยหลิงฮันไปง่ายๆ?
จอมยุทธที่มีศักยภาพระดับจักรพรรดินั้น ต่อให้เป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์ก็ใช่ว่าจะฝึกฝนขึ้นมาได้ง่ายๆ และต้องเป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับห้าเป็นอย่างน้อยอีกด้วย
เมื่ออัจฉริยะที่ตนเองฝึกฝนอย่างยากลําบากถูกสังหาร จึงไม่แปลกที่ขุมอํานาจราชานิรันดร์จะส่งคนมาล้างแค้น
เพียงแค่ทุกคนที่ถูกส่งมาก็ถูกหวี่ไห่หรงไล่กลับไปทั้งหมด ถึงแม้นางจะไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็น แต่นางก็คอยคุ้มกันฮูหนิวอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา และช่วยสะสางปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ให้หลิงฮัน
หลิงฮันประหลาดใจ ถึงว่าทําไมขุมอํานาจราชานิรันดร์ถึงไม่มาสร้างปัญหาให้เขาเสียที
“กลับเมืองวิถีโอสถกันก่อน แล้วหลังจากนั้น พวกเราจะมุ่งหน้าไปยังดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก!”
การเดินทางกินเวลาไปหนึ่งปีเศษๆ กว่าพวกเขาจะกลับมาถึงเมืองวิถีโอสถ
หลังจากสะสางกิจธุระต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลิงฮันก็ไปกล่าวอําลาปรมาจารย์จื่อเฉิง และพาสตรีทั้งสี่กับพี่น้องสืออวี่และสือเหล่ย ออกเดินทางไปยังเขตมหาสมุทรไร้พรมแดนของดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออก
หลิงฮันยืนอยู่บนหัวเรือและระลึกถึงความหลัง ในความเป็นจริงเขาควรจะไปยัง ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกตั้งแต่ราวๆ หนึ่งพันปีก่อนแล้ว แต่เพราะการปะทะกันของตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้สองคน เขาจึงต้องไปยังเมืองวิถีโอสถและมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย
ตอนนี้ในที่สุดเขาก็ได้ออกเดินทางไปยัง ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกอีกครั้งเสียที แถมครั้งนี้ ข้างกายยังมีราชานิรันดร์ระดับสี่อยู่ด้วย คงจะไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่?
“พรึ่บ” ร่างของหวี่ไห่หรงปรากฏขึ้นมาบนเรือเหาะ
“เมื่อเข้าสู่เขตมหาสมุทรไร้พรมแดนแล้ว พวกเจ้าทุกคนจงอยู่ใกล้ข้าและระมัดระวังตัวเอาไว้” นางกล่าวด้วยน้ําเสียงจริงจัง
“ผู้อาวุโส ท่านเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับสี่!” หลิงฮันประหลาดใจ แม้แต่ราชานิรันดร์ระดับสี่ก็ไม่สามารถเคลื่อนไหว ในเขตมหาสมุทรไร้พรมแดนได้อย่างอิสระงั้นรึ?
หวี่ไห่หรงเค้นเสียงกล่าว “หากเจ้าอยากตายจะลองดูก็ได้”
“ตัวอัปลักษณ์ ห้ามพูดแบบนั้นกับหลิงฮันของหนิว!” ฮูหนิวกระทืบเท้าอย่างไม่สบอารมณ์
“ในเขตมหาสมุทรไร้พรมแดนมีสิ่งมีชีวิตต้นกําเนิดอยู่มากมาย” ฮูหนิวกล่าวอธิบายให้หลิงฮันฟัง “เมื่อสวรรค์และปฐพี่ถือกําเนิด สิ่งมีชีวิตกลุ่มแรกได้บรรลุเป็นราชานิรันดร์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าทั้งหมดจะมีการพัฒนาในด้านสติปัญญา”
“ภายในเขตมหาสมุทรไร้พรมแดน มีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังอยู่มากมาย และพวกมันส่วน ใหญ่ล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้สติปัญญา และมีสัญชาตญาณเพียงเพื่อความอยู่รอดเท่านั้น”
“หากเจ้าบังเอิญตกไปยังพื้นที่ของพวกมันล่ะก็ คงมีจุดจบไม่สวยแน่!”
หลิงฮันพยักหน้าเข้าใจ ดินแดนแห่งเซียนนั้นมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ล้วนแต่มีสติปัญญาก็จริง แต่สิ่งมีชีวิตในเขตมหาสมุทรไร้พรมแดนนั้นตรงกันข้าม พวกมันส่วนใหญ่แทบจะไร้สติปัญหา
ราวๆ สี่เดือนต่อมา เรือเหาะได้เคลื่อนที่มาถึงปลายขอบของดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออก และเขตมหาสมุทรไร้พรมแดนได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าพวกเขา หลังจากข้ามผ่านมหาสมุทรนี้ไปได้ ปลายทางก็จะเป็นดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกที่ทั้งศาสตร์วรยุทธและระดับศาสตร์ปรุงยา อยู่ในระดับที่เหนือกว่าดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออก
ในดินแดนแห่งนั้น มีทั้งครอบครัว ภรรยา และบุตรของเขาอยู่
“มุ่งหน้า!”
หวี่ไห่หรงสะบัดมือสร้างคลื่นพลังที่ทรงอํานาจให้พัดพาเรือเหาะมุ่งไปเข้าสู่อาณาเขตของมหาสมุทรด้วยความเร็วที่มากขึ้น สมกับเป็นราชานิรันดร์ พลังอํานาจช่างแข็งแกร่งเกินจะพรรณนา
หลิงฮันและเหล่าสตรีมองยืนอยู่บนหัวเรือ และมองดูทิวทัศน์ตลอดเส้นทาง
ในดินแดนแห่งเซียนไม่มีกลางวันหรือกลางคืน ถ้าหากมีดวงตะวันหรือดวงจันทร์ปรากฏให้เห็น นั่นย่อมเป็นสิ่งที่ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ หรือตัวตนที่สูงกว่าสร้างขึ้นมาด้วยทักษะที่น่าอัศจรรย์ เพียงแต่ท่ามกลางเขตมหาสมุทรไร้พรมแดนแห่งนี้ ไม่มีทางที่ใครจะมาสร้างดวงตะวันหรือดวงจันทร์เอาไว้อยู่แล้ว
เพราะงั้นทิวทัศน์รอบด้านที่พวกเขาเห็น จึงเป็นทิวทัศน์เดิมๆ ที่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
“ครืนนน” แต่ทันใดนั้นเอง มือขนาดมหึมาก็ปรากฏขึ้นมากลางอากาศ และผลักเข้าใส่เรือเหาะ