Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์ - ตอนที่ 2021 ค้นหาทองหยกกําเนิดดารา
- Home
- Alchemy Emperor of the Divine Dao จักรพรรดิปรุงยาแห่งวิถีสวรรค์
- ตอนที่ 2021 ค้นหาทองหยกกําเนิดดารา
ตอนที่ 2021 ค้นหาทองหยกกําเนิดดารา
หลิงฮันไม่รู้ว่าคนของเกาะนี้ใช้วิธีอะไร ในการกระตุ้นให้เกิดการบุกรุกของสัตว์อสูร แต่ในเมื่อสามารถกระตุ้นให้เกิดขึ้นได้ ก็ย่อมสามารถทําให้ระยะเวลามันยืดเยื้อต่อไปได้เช่นกัน
สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นการได้ครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี
การต่อสู้ดําเนินต่อไป โดยสิ่งมีชีวิตจากมหาสมุทรได้บุกขึ้นฝั่งมาโดยไม่สนใจชีวิตของตนเอง และมีเป้าหมายเพียงอย่างเดียว คือการทําลายรูปแบบอาคมป้องกัน
สิบวัน… สิบห้าวัน!
ในวันที่สิบเจ็ดของการต่อสู้ หลิงฮันก็สัมผัสได้ว่าแรงกดดันของการต่อสู้เริ่มลดลง
“การบุกรุกชะลอตัวลงแล้ว”
“ไม่มีสัตว์อสูรตัวใหม่บุกมาแล้ว ในที่สุดก็จบเสียที”
“พวกเราทําได้”
ทุกคนชะงักกันไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยท่าทีตื่นเต้น
ถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหน แต่ก็ไม่มีใครเลยที่เสียชีวิตราวกับปาฏิหาริย์
“ต้องเป็นเพราะวาสนาจากดวงวิญญาณนิรันดร์แน่ๆ” ใครบางคนกล่าวอย่างศรัทธา
เหล่าจอมยุทธบนเกาะพยักหน้าเห็นด้วย ทุกคนคุกเข่าลงและกราบแสดงความศรัทธา ไปยังทิศทางของปราสาท
พวกฉินเหว่ยมองหน้ากันด้วยความว่างเปล่า ถึงแม้พวกเขาจะยังไม่ได้พลังจาก “ดวงวิญญาณนิรันดร์” แต่การที่ไม่มีใครตายในการต่อสู้ที่สาหัสขนาดนั้นเลย หากเรียกว่าปาฏิหาริย์แล้วจะเรียกว่าอะไร?
จอมยุทธของฝั่งฉินเหว่ยส่วนหนึ่งคุกเข่าลงทันที ในขณะที่ยังมีบางส่วนยืนเฉย เนื่องจากพวกเขายังไม่รับวาสนาใดๆ จึงไม่คิดที่จะคุกเข่า
หลิงฮันแอบแยกตัวไปอย่างเงียบเฉียบ ในเมื่อการบุกรุกของสัตว์อสูรสิ้นสุดแล้ว นั่นหมายความว่าการสังเวยเองก็ต้องเสร็จสมบูรณ์ และถึงคราวให้เก็บเกี่ยวแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีได้แล้วเช่นกัน
“หอคอยน้อย นําทางไปที่”
เมื่อเดินมาถึงโขดหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง หลิงฮันก็ทําการขุดดินลงไปยังเบื้องล่างทันที
ทองหยกกําเนิดดารา… ถูกฝังอยู่ในส่วนลึกใต้เกาะ
หากหลิงฮันฝึกฝนอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ปฐพี่ล่ะก็ เขาคงไม่จําเป็นต้องทําอะไรเปลืองแรงเช่นนี้ เพราะเพียงแค่เขากระตุ้นใช้งานอํานาจแห่งเต๋าปฐพี เขาก็จะสามารถเคลื่อนที่ผ่านพื้นดินได้ราวกับเหาะเหินกลางอากาศ
แต่ตอนนี้ในเมื่อไม่สามารถทําเช่นนั้นได้ ก็มีแต่ต้องขุดทางลงไปอย่างเดียว
หอคอยน้อยคอยกล่าวนําทาง ส่วนหลิงฮันก็ทําหน้าที่ขุดดินลึกลงไป หลังจากเคลื่อนที่ลงมาลึกกว่าพันฟุต หลิงฮันก็เริ่มรู้สึกว่าการขุดเริ่มทําให้ยากขึ้น
เนื้อดินเริ่มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าพวกมันไม่ใช่ดินหรือก้อนกรวด แต่เป็นแร่โลหะนิรันดร์
“หืม?”
จิตใจของหลิงฮันสั่นสะท้าน ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเขาเข้าใกล้ทองหยกกําเนิดดารามากขึ้น ด้วยพลังอํานาจของมันที่เป็นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี เนื้อดินโดยรอบถึงแปรสภาพกลายเป็นโลหะ
หลิงฮันนําดาบอสูรนิรันดร์ออกมา อย่างแรกคือเขาต้องการทดสอบว่า ดาบอสูรนิรันดร์สามารถดูดกลืนธาตุโลหะของเนื้อดินได้หรือไม่ และสองคือหากใช้ดาบอสูรนิรันดร์ในการขุด เขาก็จะเคลื่อนที่ต่อไปได้เร็วขึ้น เพราะในด้านของพลังทําลายดาบอสูรนิรันดร์นั้นเหนือกว่าเขา
เมื่อคิดเช่นนี้ เขาแทงดาบอสูรนิรันดร์ลงไป “ฉึบ” ดาบอสูรนิรันดร์สั่นไหวเล็กน้อย พร้อมกับเนื้อดินและก้อนกรวดรอบด้านเริ่มส่องประกายแสงออกมา
ได้ผลจริงๆ!
หลังจากประหลาดใจไปชั่วขณะ หลิงฮันก็เผยสีหน้าตื่นเต้น เนื้อดินและก้อนกรวดบริเวณนี้ทั้งหมดได้กลายสภาพกลายเป็นแร่โลหะ ที่อาจจะมีความทนทานถึงระดับของแร่โลหะกิ่งนิรันดร์ เพราะงั้นเขาจึงใช้มือขุดได้ยากขึ้น
แต่สําหรับดาบอสูรนิรันดร์แล้ว แร่โลหะที่ทนทานเหล่านี้ คือมื้ออาหารอันโอชะ
หลิงฮันมุ่งหน้าต่อ โดยให้ดาบอสูรนิรันดร์ดูดกลืนแร่โลหะมากที่สุดเท่าที่จะทําได้
ความเร็วในการขุดทางของเขาช้าลงกว่าตอนแรกมาก เพราะต่อให้ดาบอสูรนิรันดร์จะดูดกลืนแร่โลหะได้ แต่ก็ต้องใช้เวลา
หลังจากลงลึกไปได้อีกหลายฟุต หลิงฮันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรง
ไม่ใช่แค่สัมผัสได้ แต่สามารถมองเห็นได้แม้ด้วยตาเปล่า
ในขณะที่ทําการขุด คลื่นอํานาจแห่งเต๋ที่แหลมคมจะไหลผ่านมาตามอากาศ หากสัมผัสเพียงเล็กน้อย ต่อให้เป็นกายหยาบของหลิงฮันก็ไม่อาจต้านทานได้ และจะถูกเชือดเฉือนจนโลหิตไหลออกมาไม่หยุด
กลิ่นอายที่เฉียบคมและรุนแรงนี้เป็นอํานาจแห่งเต๋ของทองหยกกําเนิดดารา ซึ่งอัดแน่นไปด้วยพลังทําลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว
หลิงฮันเคลื่อนที่หลบกลิ่นอายเหล่านั้นอย่างรอบคอบ แต่ก็ทําได้ยากมาก เนื่องจากการเคลื่อนไหวของพลังอํานาจกลางอากาศเหล่านี้นั้นไม่สม่ําเสมอ และรวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง
เพียงแต่เมื่อหลิงฮันลองใช้ดาบอสูรนิรันดร์ปัดป้องดู กลับพบว่าดาบอสูรนิรันดร์สามารถดูดกลืนกลิ่นอายรุนแรงเหล่านี้ได้
เขานึกออกขึ้นมาทันที สิ่งที่ดาบอสูรนิรันดร์ดูดกลืนนั้นไม่ใช่ตัวโลหะ แต่เป็นแก่นพลังของแร่โลหะ
หลิงฮันยิ้มและกวัดแกว่งดาบอสูรนิรันดร์ไปตลอดทาง
หลังจากเคลื่อนที่ต่อไปอีกราวๆ สองชั่วโมง จู่ๆดาบอสูรนิรันดร์ก็หยุดการดูดกลืน และตัวดาบเกิดการสั่นสะท้านเบาๆ ตราประทับแห่งเต๋มากมายค่อยๆพรั่งพรูปรากฏขึ้นมาบนดาบ และแหลกสลายไปก่อนจะถูกแทนที่ด้วยตราประทับอันใหม่ ที่ซับซ้อนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
เลื่อนระดับแล้ว!
อุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สี่ดาว
จอมยุทธจําเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้ามากมายหากการทะลวงผ่านขั้นพลัง เพื่อให้รอดพ้นจากทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ แต่ดาบอสูรนิรันดร์นั้นสามารถยกระดับตัวเองได้ในทันที
เนื่องจากระดับขั้นที่อยู่เหนือกว่าแร่โลหะศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงขั้นเดียวคือแร่โลหะนิรันดร์
ขั้นพลังแยกย่อยอย่างแร่โลหะกิ่งนิรันดร์หนึ่งดาวหรือสองดาวนั้น ในความเป็นจริงมันคือลําดับขั้นที่ไม่มีอยู่ในหลักเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี
หลิงฮันเดินหน้าต่อ ยิ่งดาบอสูรนิรันดร์แข็งแกร่งขึ้น ความสามารถในการดูดกลืนก็ยิ่งทวีคูณขึ้น ก่อนหน้านี้ตัวดาบสามารถดูดกลืนแก่นพลังของแร่โลหะในรัศมีสิบฟุตรอบด้านเท่านั้น แต่ตอนนั้นรัศมีได้เพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบฟุตแล้ว ซึ่งบริเวณใดที่ถูกดาบอสูรนิรันดร์กวัดแกว่งผ่าน ล้วนแต่ไม่มีแก่นพลังของแร่โลหะเหลืออยู่อีกต่อไป
“หอคอยน้อย แร่โลหะกลืนกินคืออะไรกันแน่?” เขาสงสัยและอดไม่ได้ที่จะถามออกไป
“มันคือแร่โลหะนิรันดร์ ที่มีเศษเสี้ยวความเป็นไปได้ ที่จะก้าวข้ามแร่โลหะนิรันดร์ทั้งปวง และบรรลุเป็นแร่โลหะพิเศษที่ไร้สิ่งใดทัดเทียม” หอคอยน้อยกล่าวอย่างไม่แยแส
“เจ้าหมายถึง หากมันดูดกลืนแร่โลหะนิรันดร์เข้าไป ก็ยังพัฒนาต่อไปได้อีกงั้นรึ?”
“อย่างน้อยเจ้าก็ไม่ได้โง่จนคิดตามไม่ได้” หอคอยน้อยเอ่ยชมด้วยคําพูดที่ฟังดูไม่ค่อยน่าดีใจเท่าไหร่
“สิ้นเปลืองมาก”
แร่โลหะนิรันดร์นั้น ต่อให้เป็นราชานิรันดร์ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้มันมาครอบครองเพื่อสร้างเป็นอุปกรณ์นิรันดร์ ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น แต่ดาบอสูรนิรันดร์กลับจําเป็นต้องดูดกลืนแร่โลหะนิรันดร์เพื่อพัฒนาต่อ…
หลิงฮันครุ่นคิดเพ้อฝัน บางทีในตอนที่เขาเป็นราชานิรันดร์แล้ว ไม่สิ ในตอนที่เขาเป็นราชานิรันดร์ระดับสูงแล้วเขาอาจจะลองดู ไม่ใช่ว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดไปเลยงั้นรึ ที่จะได้อุปกรณ์นิรันดร์ที่ไร้เทียนทานเหนือใครมาครอบครอง?
เขาหัวเราะและเลิกคิดเพ้อไปไกล อย่างแรกเลยคือต้องทําให้ดาบอสูรนิรันดร์ กลายเป็นอุปกรณ์นิรันดร์ที่แท้จริงให้ได้เสียก่อน
“หลิงฮัน เจ้าไม่ร่วมเฉลิมฉลองกับผู้คนที่ด้านบน แล้วมาทําอะไรลับๆล่อๆอยู่ที่นี่?” เสียงถากถางดังขึ้น พร้อมกับคนผู้หนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของเขา
หลันเทียนอวี่