Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 164
10โมงเช้าวันถัดมา หลี่ไต้ได้มาถึงแผนกกีฬาของมหาลัยชิงฮั่วตรงเวลาเป๊ะ เขาได้รับการต้อนรับจากตัวแทนด๊อกเตอร์ที่นามสกุลเหมา
คุณเหมาแจ้งมาว่าโค้ชที่ถูกส่งมาโดยมาโดยทีมชาตินั้นหนุ่มมาก ดังนั้นเขาเลยเตรียมใจมาแล้วแต่พอได้เจอหลี่ไต้จริงๆเขาก็อดตกใจไม่ได้จริงๆ หลี่ไต้ดูเหมือนคนที่แก่กว่าปี4ในมหาลัยแค่นิดเดียว และสำหรับตัวแทนปริญญาเอกแล้ว ด๊อกเตอร์เหมายังแก่กว่าหลี่ไต้เลย
โค้ชหลี่ เราไม่ได้มีการสอนทางด้านร่างกายในมหาลัยชิงฮั่วนักกีฬาของเราเลยมาจากคณะอื่นกัน แล้วส่วนมากก็ใช้เวลาและแรงงานไปกับการเรียนปรกติไปเกือบหมด ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดยังเรียนอยู่ การฝึกกีฬาของเราจะสามารถจัดขึ้นได้ในตอนเที่ยง นักกีฬาบางคนเรียนเสร็จตั้งแต่เที่ยงแล้วก็สามารถมาเข้าการฝึกได้”เหมาบอก
“อ้อ โอเคนะ งั้นผมขอเดินดูรอบๆแล้วก้ขอทำความคุ้นชินกับสถานที่ก่อนละกันนะ”หลี่ไต้พูด
เมื่อตอนกลางวันมาถึง เหมาก็พาหลี่ไต้ไปที่สนามฝึก
“โค้ชหลี่ นี้คือทีมกรีฑาของเรา เรามีนักกีฬาทั้งหมด8คน ตั้งแต่นี้ไปนี้คือทีมของคุณ”เมื่อเขาพูดจบ เหมาก็เรียกนักกีฬาทุกคนมาหาหลี่ไต้เพื่อแนะนำตัวเอง
หลี่ไต้แนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มก่อนที่จะเริ่มการเรียกชื่อตามปรกติ แต่รอบนี้ หลี่ไต้ได้ตรวจสอบนักกีฬสทุกๆคนไปพร้อมกันด้วย
คนที่ชื่อตูเหลียงนี้ดีพอควรเลยแหะ เขามีพรสวรรค์ระดับC+ ซึ่งก็โอเคมากแล้วในนักกีฬาระดับมหาวิทยาลัย เขาอาจจะมีโอกาสเข้าทีมชาติได้ถ้าเกิดเขาฝึกหนักมากหน่อย
อุ๊ป หมนี้มีพรสวรรค์ระดับB- ระดับนี้มันอยู่เหนือกว่ามาตรฐานของทีมชาติอีกแต่ค่าความสามารถของเขายังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไร เขาต้องฝึกหนักมากกว่านี้ ไหนดูชื่อซิ ชื่อของนักกีฬาคนนี้คือ ฉินเฉี่ยวเทียน ชื่ออะไรเนี่ย!
คนที่มีระดับB-อีกคน ชื่อหนิวกั๋วหง นักวิ่งเร็วทีมชาติที่มีพรสวรรค์ดีที่สุดคือB- อีกอย่าง ค่าความสามารถของเขาก็ดันไปเกือบ500แล้วด้วย เขาอยู่ในระดับนักวิ่งทีชาติได้เลย ไปแข่งในระดับเขตได้ง่ายๆเลยนะเนี่ย
ตอนที่หลี่ไต้ตรวจสอบนักกีฬาไปนั้นเขาก็พูดกับตัวเองว่ามหาวิทยาลัยชิงฮั่วนี้มันยอดเยี่ยมจริงๆด้วย
ในบรรดานักกีฬาที่เขาตรวจสอบทั้งหมด เขาเจอต่ำสุดที่C-แค่คนเดียว ที่เหลือจะเป็นC+หรือมากกว่าหมดเลย มีนักกีฬา2คนที่มีพรสวรรค์ระดับB-ด้วย ตามที่ระบบเคยบอกไว้ ระดับB-สามารถดันขึ้นไปจนชนะกลายเป็นแชมป์ประเทศได้
หลี่ไต้เคยทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัยกีฬาในเขตฮั่นเบอยู่ช่วงหนึ่ง ในตอนนั้นเขาก็ได้ฝึกนักกีฬาเหมือนกัน นีกกีฬาที่พรสวรรค์ดีที่สุดของที่นั้นก็ได้แค่ระดับC ไม่มีใครได้C+ มีบางคนถึงขั้นลงไปในระดับDด้วยซ้ำ
แต่นักกีฬาในมหาวิทยาลัยชิงฮั่วนั้นเก่งกว่าที่มหาลัยกีฬาในเขตฮั่นเบมาก นักกีฬาที่แย่ที่สุดในมหาลัยนี้ยังเก่งกว่านักกีฬาที่ดีที่สุดในเขตฮั่นเบซะอีก หลี่ไต้นึกถึงความแข็งแกร่งงของมหาลัยชิงฮั่วแล้วก็อดเปรียบเทียบไม่ได้
แน่นอนถึงแม้ว่านักกีฬาในมหาวิทยาลัยธรรมดาๆจะไปเทียบอะไรกับนักกีฬาในทีมฝึกมืออาชีพไม่ได้ บางมหาวิทยาลัยถึงได้จ้องจะดึงตัวแชมป์โอลิมปิคไว้ในรายชื่อจับตามอง แล้วก็เผื่อที่ในมหาลัยไว้ให้พวกนั้นเขาเพื่อเป็นเกียรติกับมหาลัย แต่ความเป็นจริงคือนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมนั้นจะมาฝึกกับมหาลัยที่มีระดับการฝึกที่ต่ำแบบนั้นหรอก พวกเขาควรที่จะไปอยู่ในฐานฝึกของทีมชาติมากกว่า
นั้นเป็นเหตุผลที่ซูหลี่พูดว่าแผนกกีฬาของมหาลัยชิงฮั่วนั้นอาจจะเหนือกว่าแผนกเฉพาะทางในมหาวิทยาลักกีฬาบางที่เลยด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงเลยปรกติแล้วเราไม่มีทางหานักกีฬาวิ่งเร็วระดับB-2คนในมหาวิทยาลัยกีฬาธรรมดาๆได้
สำหรับหลี่ไต้แล้วหลังจากที่เขาได้ทำการตรวจสอบคนตอนไป เมื่อผลออกมาหลี่ไต้ทำหน้าแทบไม่ถูก
Aวะ! พรสวรรค์ของเขาระดับA นักกีฬาคนนี้ ที่ชื่อหยางฉื่อจี๋นี้มีพรสวรรค์ระดับA หลี่ไต้นึกถึงวันที่ได้เจอฝางไฮควานเป็นครั้งแรกขึ้นมา
พรสวรรค์ระดับAอีกคนนึงแล้ว หมายความว่าเราจะสามารถมีนักกีฬาระดับโลกเพิ่มมาอีกคนงั้นเหรอ เขาเป็นนักวิ่งเร็วระดับโลก! มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับหลี่ไต้ที่จะปิดกั้นความรู้สึกตื่นเต้นนี้ไว้ เขาอ่านผลตรวจสอบต่อแล้วก็พบว่ามีปัจจัยอะไรบางอย่างที่ไม่น่าพอใจมากนัก
ความสามารถของเขาในการวิ่งเร็วนั้นมีแค่303 ทำไมมันน้อยงี้ละ? แม้แต่นักกีฬาระดับC-ยังมีค่าความสามารถมากกว่าเขาอีกนะ ไหนขอเช็คข้อดีข้อเสียซิ ข้อดี มีพรสวรรค์สุดๆ ข้อเสีย…เชี่ยอะไรเนี่ย ทำไมข้อเสียมันเยอะแบบนี้ละ ฉันว่าฉันต้องใช้เวลาอ่าน2นาทีเลยมั้งกว่าจะอ่านหมด
หลี่ไต้เริ่มอ่านจุดอ่อนของนักกีฬาคนนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ แรงระเบิดพลังของเขายังพัฒนายังไม่สุด อัตราการเร่งของเขาต่ำเกินไป ก้าวขาสั้นเกินไป การออกตัวของเขาไร้พลัง การเหวี่ยงขาไม่กระฉับกระเฉง อัตราการก้าวขาต่ำ การเคลื่อนไหวของเขาไม่ยืดหยุ่นพอ เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้แย่ จุดศูนย์ถ่วงไม่เสถียร มุมองศาของตัวไม่พอ แรงเหวี่ยงแขนน้อย เหวี่ยวงแขนไปไม่สุด แรงวิ่งแนวดิ่งแย่มาก เขาใช้เวลานานไปกว่าจะดีดตัวไปได้แต่ละที เขาลงพื้นเร็วไป การตอบสนองช้า….
หลี่ไต้หงอยทันทีที่เห็นจุดอ่อนทั้งหลายที่ขึ้นมาในระบบเทียบกับข้อดีแค่อย่างเดียว คือ โคตรมีพรสวรรค์” หยางฉื่อจี๋คนนี้มันมีพรสวรรค์แต่โดนบดบังด้วยผ้าขี้ริ้วเหม็นเน่านี้หว่า
นี้มันบ้าอะไรเนี่ย ทำไมพวกเขาถึงมีนักกีฬาแบบนี้อยู่ได้? เขามีพรสวรรค์มากๆเลยนะแต่เทคนิคเขากากมาก หรือว่าเขาจะเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่เคยได้รับการฝึกจริงจังมาก่อน หลี่ไต้ดูตารางในมืออีกรอบ
หยางฉื่อจี๋คนนี้อายุ19 ได้รับการฝึกวิ่งเร็วมาตั้งแต่อายุ14ปี เข้าทีมกรีฑามหาวิทยาลัยชิงฮั่วมาได้1ปี ด้วยพรสวรรค์ระดับAกับการฝึก3-5เดือน ความสามารถของเขาก็ไม่ควรจะแย่ขนาดนี้ดิ ฝางไฮควานก็มีพรสวรรค์ระดับAเหมือนกันนี้ แต่หลังจากฝึกกับฉันได้2เดือนค่าความสามารถของเขาก็พุ่งไปถึง370แล้วนี้ แถมเขายังแค่อายุ16ด้วย อายุน้อยกว่าหยางฉื่อจี๋ตั้ง3ปีแต่หยางยังมีความสามารถอยู่แค่303อีก
หลี่ไต้งงและงงมากขึ้นไปอีก เขาเคยฝึกนักกีฬาระดับAมาแล้ว เขารู้ดีว่านักกีฬาพรสวรรค์ระดับAมันแกร่งแค่ไหนหลังจากที่ได้รับการฝึกแบบมืออาชีพ แต่ผลที่เครื่องตรวจสอบให้มานี้มันทำให้เขางงแตกไปเลย
เขาเริ่มฝึกวิ่งเร็วตั้งแต่อายุ14ตอนนี้เขาอายุ19แล้ว หมายความว่าเขาได้รับการฝึกมา5ปีแล้ว ถึงแม้ว่าโค้ชของเขาจะกากแค่ไหน แต่แรงระเบิดพลังของเขามันก็น่าจะพัฒนาได้ตั้งแต่การฝึกพื้นฐานละปะวะ แล้วพอมีแรงระเบิดพลังน้อยก็มีความเร่งที่ต่ำอีก
อีกอย่าง เทคนิคในการวิ่งแบบโบราณ การถีบตัวออกตัวก็ยังเป็นแรงขับเคลื่อนหลักอยู่ ดังนั้น สำหรับนักวิ่งทุกๆคน การออกตัวนั้นเป็นการฝึกขั้นพื้นฐานที่สุด แต่ระบบก็ยังบอกมาได้ว่า การออกตัวของเขานั้น “ไร้พลัง” มันแค่กว่าคำว่าไม่พออีกนะเนี่ย มันเป็นเทคนิคที่ธรรมดาสามัญที่สุดเลยนะ ทำไมโค้ชคนเก่าถึงได้เมินขนาดนี้เนี่ย
หลี่ไต้มองไปที่จุดอ่อนทั้งหมด หลายๆอย่างในนั้นเป็นปัญหาที่แม้แต่นักกีฬามือสมัครเล่นยังหลบปัญหานั้นได้หมด อย่าว่าแต่นักกีฬามืออาชีพเลย
มันต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่ๆ ฉันหาเหตุผลตอนนี้ไม่ได้เลย แต่เดี๋ยวฉันก็ต้องดูอีกทีตอนฝึกเนี่ยละ