Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 191
ก่อนการแข่งขันใหญ่ๆ ทีมชาติมักจะจัดค่ายฝึกเพื่อเตรียมตัวนักกีฬาก่อนเสมอ
ในตอนแรกของค่ายฝึกพวกนี้ จะมีทั้งนักกีฬาและโค้ชจํานวนมากเขามา ค่ายฝึกนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายขั้นตอน ทุกอย่างจะไปแบบขั้นต่อขั้น แล้วก็จะมีคนจํานวนมากโดนคัดออก จะมีเหลือแต่คนเพียงหยิบมือที่จะเป็นตัวแทนของทีมชาติเพื่อไปแข่งในหีฬาเอเชี่ยนเกม แต่ละรายการกีฬาจะมีผู้เข้าร่วม1-3คน
หลี่ไต้นั้นไม่ใช่เป็นเพียงแค่โค้ชจากทีมกีฬาเขตฮั่นเบ แต่เขายังรับหน้าที่เป็นโค้ชในทีมชาติอีกด้วยในขณะเดียวกันนั้น ทีมกีฬาต่างๆก็ต้องส่งนักกีฬา2คนเข้าร่วมค่ายฝึกนี้ด้วย
ในออฟฟิศ ซูหลี่กําลังถือรายชื่อผู้เข้าร่วมอยู่ แล้วเขาก็พูดกับหลีไต้ว่า “ในขั้นแรกของการฝึก โค้ชจากทีมชาติจะเป็นคนรับผิดชอบตารางการฝึกทั้งหมด ส่วนโค้ชจากทีมเขตจะเป็นคนดูแลเรื่องการฝึกรายวัน แล้วก็โค้ชจะจับคู่กับนักกีฬาในเขตของตัวเองอีก2คน แล้วในนักกีฬา2คนของ เขตฮั่นเบคนนึงเป็นนักวิ่งระยะกลาง ส่วนอีกคนเป็นนักขว้างจักร ไม่มีใครเข้ากับความถนัดของนายเลยซักคน แต่ฉันมีนักกีฬาอีก2คนให้นายคนแรกคือฮาวหยูอี้ คนที่นายแนะนํามาเอง เพราะงั้นนายก็ดูแลการฝึกของเขาด้วย มีปัญหาอะไรไหม?”
“ไม่มีครับ”ซูหลีไต้ตอบทันที
“ส่วนอีกคนนึงคือหยางฉือจี๋กับหนิวกั๋วหง ทั้งคู่เคยเป็นนักกีฬาของนายมาก่อน ฉันคิดมาซักพักแล้ว แล้วฉันก็ตัดสินใจว่าหนิวกั๋วหงจะไปอยู่กับนาย ส่วนหยางฉือจี้ที่เป็นลูกชายของนักวิชาการหยางหลิน เขาเป็นคนมีพรสวรรค์มาก ฉันจะคุมการฝึกของเขาเอง”ซูหลีพูด
หยางฉือจี๋เป็นอัจฉริยะ แล้วก็ได้รับความสนใจจากทีมชาติเป็นพิเศษ ซูหลี่คงกังวลว่าหยางฉือจี้จะดึงความสามารถออกมาได้ไม่เต็มที่ถ้าไปอยู่กับคนอื่น เขาเลยตัดสินใจที่จะฝึกให้ด้วยตัวเองซูหลีพูดต่อสําหรับหนิวกั๋วหง ฉันไม่พูดอะไรมากละกัน แต่ฉันจะตั้งเป้าหมายไว้ให้ช่วยให้เข้าไปแข่งเอเชี่ยนเกมให้ได้”
“ผมจะพยายามครับ” หลี่ไต้พยักหน้า เขารู้ว่าเขาต้องทุ่มสุดตัวให้งานนี้สําเร็จให้ได้
หนิวกั่วหงเป็นนักกีฬาที่มีพรสวรรค์คนนึง แต่เขาต้องฝึกให้หนักขึ้นกว่านี้ถ้าเขายังอยา กเป็นตัวแทนของทีมชาติไปแข่งในเอเชี่ยนเกม มีแค่3คนเท่านั้นที่จะได้รับเลือกไปแข่งในรายการวิ่งเร็ว100เมตร แล้วทีมชาติก็มีคนเก่งๆอีกเป็นโหลเลย ทุกคนต้องทุ่มสุดตัวเพื่อให้ที่นั่งนั้นมาแน่ๆ
หนิวกั๋วหงพึ่งจะได้มาเข้าทีมชาติ ถ้าเทียบกับนักกีฬาที่เก่งที่สุดในทีมชาตินั้น หนิวกั่วหงไม่ได้มีอะไรดีกว่าเลยซักนิด มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทําให้เขาไปเป็นตัวแทนทีมชาติแบบผ่านฉลุย แล้วนี้คงท้าทายไม่น้อยเลยสําหรับเขา
“ส่วนฮาวหยูอี้… “ซูหลี่หยุดซักพัก “ฉันจะไม่ได้ให้เป้าหมายอะไรกับนายละกัน ฮาวหยูอื้อยู่ในรายการวิ่ง200เมตร
เขาเป็นนักกีฬามากประสบการณ์อยู่แล้ว แล้วก็มีความรู้เหมือนกัน หวังว่าเขาจะโดดเด่นขึ้นมาได้นะ” หลีไต้บอกได้เลยว่าซูหลี่ไม่ได้เชื่อในฮาวอยูมากขนาดนั้น เอาจริงๆ ไม่มีโค้ชคนไหนคิด ว่าฮาวหยูอี้จะไปรอดเลย หลายๆคนยังเชื่ออีกว่าด้วยสภาพแวดร้อมที่กดดันของทีมชาติ ฮาวหยูอี้คงโดนเตะออกไปทันทีที่ขั้นตอนที่1ของค่ายจบลง
ค่ายฝึกกีฬาเอเชี่ยนเกมเริ่มต้นขึ้นแล้ว ภายในค่ายฝึก หลีไต้ได้เจอกับ2เพื่อนเก่า คือหลินเฟยเหลียงกับฝางไฮควาน
ความสามารถของหลินเฟยเหลียงนั้นประคองตัวมาได้ดีมาก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถทําลายสถิติโลกเป็นรอบ3ได้ก็ตาม เขาก็ยังคงเป็นแชมป์โลกอยู่ดีในกีฬาเอเชี่ยนเกมครั้งล่าสุด หลินเฟยเหลียงได้ชนะการแข่งวิ่งกระโดดข้ามรั้ว 110เมตรอย่างง่ายดาย แล้วรอบนี้เขามาเพื่อที่จะชนะอีกรอบ
ส่วนฝางไฮควานนั้น เขาอยู่ในศูนย์ฝึกเปียโข่วต่อเพื่อฝึก
ตอนนี้ฝางไฮควานแกร่งกว่าที่เขาเคยเป็นมา เขากลายเป็นไพ่ตายของทีมชาติไปเลย
การที่จะได้ฝึกในค่ายฝึกของทีมชาตินั้นเป็นโอกาสที่ถือว่าหาได้ยาก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่จนถึงรอบสุดท้าย แต่ความสามารถของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
ทําไมหลี่ไต้ถึงเป็นโค้ชฉันละ! ฮาวหยูยิ้มองไปที่แผ่นรายชื่อจับคู่ แล้วถอนหายใจอย่างผิดหวัง
สําหรับนักกีฬาเขาอยากที่จะได้รับการสอนโดยโค้ชที่มีระดับสูง อีกอย่างเพราะว่าเขาเคยอยู่ในทีมชาติมาก่อนทําให้เขารู้ว่าใครเก่งอะไรยังไงบ้าง
หลี่ไต้เป็นแค่โค้ชหนุ่มธรรมดาคน ซึ่งทําให้ฮาวหยูอี้ผิดหวังมากในสายตาของฮาว หลีไต้อายุเกือบๆจะเท่าเขาเลย แล้วหลี่ไต้ก็คงมีประสบการณ์มาน้อยกว่าเขาด้วยซ้ํา การอยู่ใต้การนําของหลีไต้นั้นทําให้เขาไม่คาดหวังอะไรมาก
แต่ถึงอย่างนั้นฮาวหยูอี้ก็เข้ามาในค่ายนี้ได้เพราะการแนะนําของหรี่ได้เพราะแบบนี้ เขาจึงจําเป็นต้องแสดงความเคารพกับหล็ได้ แล้วฮาวหยูอี้ก็ไม่ได้แสดงอาการที่เหมือนกับว่ารู้เยอะกว่าหลี่ไต้อีกเลย
“ฮาวหยูอี้ รอบสุดท้ายของนายมีจุดพลาดเยอะเลยนะ มีหลักๆตามนี้” หลี่ไต้พูดสิ่งที่จดรายการข้อผิดพลาดของฮาวหยูอื้ออกมาได้เป็นฉากๆด้วยความมั่นใจ ฮาวหยูอี้ฟังอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด
โค้ชหลีพูดถูกหมดเลยแหะ! ฉันมีข้อเสียตามที่โค้ชหลี่บอกหมดเลย! ฮาวหยูอี้หายใจลึกๆ
การวิ่งรอบสุดท้ายของฉันก็วิ่งได้ไม่เกิน21วินะ แต่หลีไต้ก็ยังสามารถหาจุดอ่อนมาได้เยอะขนาดนี้ เขาจับจุดได้แม่นจริงๆ! แม้แต่โค้ชที่ฉันรู้จักยังไม่สามารถหาข้อเสียของฉันมาได้มากเท่าเขาเลย เขานี้เป็นศิษย์เอกของซูหลีจริงๆด้วย น่าประทับใจจริงๆ
ฮาวหยูอี้เลิกดูถูกหลีไต้ทันที เหมือนกับว่าหลี่ไต้ได้ตอกหมุดลงบนหัวของฮาวหยูอี้ แล้วพ่นเอา แต่ข้อเสียของเขาออกมาจรหมดเปลือก ฮาวหยูอี้รู้สึกได้ทันทีเลยว่าบางที่หลีไต้คนนี้รู้จักเขาดีซะยิ่งกว่าเขารู้จักตัวเองอีก
หลีไต้พูดต่อ “ฉันพึ่งได้ทําแผนการฝึกใหม่มา เอาไปลองดูซิ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร เราจะ ฝึกด้วยแผนนี้ต่อไปกัน” หลี่ไต้ยืนแผนกระดาษให้กับฮาวหยูอี้
เขาเขียนแผนมาด้วยวะเห้ย! ฮาวหยูอี้หยิบกระดาษ แล้วอ่านมัน เป็นรายมือที่อ่า นง่ายแต่ก็เห็นได้ชัดเลยว่าพึ่งเขียนสดๆร้อนๆ
แถมแผนนี้มันก็เข้ากับข้อเสียทุกอย่างได้ดีด้วย มันเหมาะเจาะไปหมดเลย! ฮาวหยูอี้ตะลึง
เป็นไปได้ยังไงเนี่ย ฉันพึ่งวิ่งไปได้แปปเดียวเองนะ แต่เขาก็สามารถหยิบเอาข้อเสียของฉันมาเขียน นี้ก็ดีพอแล้วนะ แต่เขายังสามารถร่างแผนการฝึกที่แก้ปัญหาของฉันได้อย่าศรอบคลุมอีกตัวย ทําไมเขาทําได้เร็วงละ?
ถ้ารายมือมันไม่สดขนาดนี้เขาคงคิดว่าหลีไต้คงเตรียมแผยมาให้เขาก่อนหน้านี้ก็ได้
แล้วด้วยประสบการณ์ที่ฮาวหยูอี้มีในทีมชาตินั้น เขารู้จักโค้ชเก่งๆหลายคนในทีม แม้แต่โค้ชที่เก่งที่สุดในทีมชาติยังไม่สามารถเจาะลึกรายละเอียดข้อเสียของเขาได้มากขนาดนี้ ยังไม่พอยังจะลงรายละเอียดแผนการฝึกได้อย่ารวดเร็วอีก เจ๋งไปเลย! ฮาวหยูอี้พูดกับตัวเอง ตอนแรกเขาแค่ที่ ใจที่หลี่ไต้พาเขากลับมา แต่ตอนนี้เขานับถือหลีไต้ขึ้นมา แผนที่หลี่ไต้เขียนขึ้นมานี้ ตอนที่ฮาวหยูอี้ มาถึงทีมชาติหลีไต้ได้ทําการตรวจสอบฮาวหยูอี้ไว้ก่อนแล้ว หลังจากนั้นเขาก็เขียนข้อเสียของฮาวหยูอี้ลงในกระดาษตั้งแต่ที่ฮาวหยูอี้ยังไม่ได้เริ่มวิ่ง แล้วในตอนที่ฮาวหยูอี้วิ่งทดสอบอยู่นั้นเอง หลี่ไต้ก็ร่างแผนขึ้นมาอย่างรวดเร็วตามข้อเสียของเขา และนั้นทําให้ฮาวหยูอี้ประทับใจเอามากๆ