Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 196
ตอน4ทุ่ม นักกีฬาเกือบทุกคนหลับกันหมดแล้ว หลี่ไต้กับฮาวหยูอี้พึ่งกลับมาถึงหอ ฮาวหยูอี้เหนื่อยเกินกว่าจะเดินไหวแล้ว เขาขึ้นบันไดไม่ได้ด้วยซ้ำ ต้องให้หลี่ไต้ช่วยพยุงหิ้วไป เอาจริงๆหลี่ไต้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากฮาวหยูอี้เลย การเป็นโค้ชมันเป็นงานที่เหนื่อย หลังจากการฝึกอันเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน หลี่ไต้แทบจะหลับนกทั้งยืนได้แล้ว
แต่หลี่ไต้ก็รู้สึกว่าตั้งแต่ที่เขาเปลี่ยนจากวงแหวนระเบิดพลังไปวงแหวนเพิ่มความอึดแล้วฮาวหยูอี้ดึงพลังงานออกมาใช้ได้มากกว่าเดิมตอนฝึก
เมื่อวานนี้ หลี่ไต้ไม่ได้ใช้วงแหวนความอึด พอถึง2ทุ่ม ฮาวหยูอี้ก็หมดแรงเหนื่อยเกินกว่าจะยกเท้าแล้ว แต่วันนี้ หลังจากที่หลีใต้ใช้วงแหวนเพิ่มความอึด ฮาวหยูก็อยู่ยาวได้ยัน4ทุ่ม
น่าเสียดายที่ฉันสามารถใช้วงแหวนได้แค่ทีละอันเอง ถ้าฉันใช้พร้อมกันได้ทั้งระเบิดพลังทั้งความอึด คงจะดีไม่น้อยเลย! หลี่ไต้ถอนหายใจ
วงแหวนใช้ได้แค่ที่ละวงเท่านั้น ซึ่งก็ทําให้หลี่ไต้รำคาญพอสมควร ถ้าหลี่ไต้เลือกใช้วงแหวน เพิ่มความอึด เขาก็จะไม่สามารถใช้วงแหวนระเบิดพลังไปพร้อมกันได้ หลี่ไต้ต้องเลือกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่โชคดีที่ในกีฬากรีฑานั้น มันแบ่งไปอย่างชัดเจนเลย กีฬาวิ่งเร็ว กระโดด ขว้างทั้งหลายก็ใช้วงแหวนระเบิดพลัง ส่วนการวิ่งระยะกลางกับไกล หรือเป็นแข่ง พวกนี้ก็ใช้วงแหวนเพิ่มความอึด ถ้าเป็นกีฬาอื่นอย่างพวกฟุตบอลหรือบาสเก็ตบอล มันคงไม่ง่ายเลยที่จะเลือก เพราะนักกีฬาจะต้องใช้ทั้งแรงระเบิดพลังเพื่อทะลวงแนวหลังและความอดเพื่ออยู่ในการแข่งได้นาน โดยไม่เหนื่อยซะก่อนควบคู่กันไป
หลี่ไต้ช่วยฮาวหยูอี้กลับเข้าหอตัวเอง แล้วพูด “อาบน้ำแล้วนอนให้ไวเลยนะ พรุ่งนี้เราต้องฝึกอีกเยอะ”
“เห้ย หลี่ไต้ ดึกแล้วนะ พึ่งกลับมาถึงเหรอ ?”เสียงหนึ่งตั้งขึ้นมาจากโถงหอ
หลี่ไต้หันหัวกลับไปดูทางต้นเสียง แล้วพบว่าผู้พูดเป็นโค้ชที่ชื่อ หลิวเหอที่อายุประมาณ50กว่าๆ แล้วก็ผู้อาวุโสคนนึงในทีมชาติ
“สวัสดีครับโค้ชหลิว ผมฝึกให้ฮาวหยูอี้จนลืมดูเวลาไปหน่อยนะครับ”หลี่ไต้ยิ้ม
“หนุ่มๆ นี้มันดีจริงๆ!”โค้ชหลิ่วชี้ไปข้างบน แล้วพูด “มีวงมาจอง(ไพ่นกกระจอก)อยู่ข้างบนอะ ตอนนี้มี5คนขาดขานึงพอดี เดี๋ยวฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกัน”โค้ชหลิวเดินขึ้นชั้นบน หลี่ไต้ก็เดินกลับเข้าหอของตัวเอง ก่อนจะเริ่มเตรียมนอน
โค้ชหลิง เคาะประตูห้อง มีคน3คนประจําที่อยู่แล้วพร้อมกองไพ่นกกระจอกที่จัดกองเรียบร้อย รอโค้ชหลิวคนเดียว
“ซง หลี่ หวางก็อยู่นี้เหมือนกันเหรอ! นี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ฉันได้เล่นมาจองกับหวาง!”โค้ชหลิ่วทักทายทั้ง3
โค้ชที่ซื่อหวางคือ หวางเหยาซูเขาเป็นโค้ชของซูฉง ซูฉงเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในการแข่งวิ่งระยะ200เมตร
“ว่าไงหลิว นั่งก่อนซิ! พวกเรารอนานนานมาก อะ เอาเค้าไป มาเล่นกันเลย!” 1ในนั้นเรียกหลิวไปนั่ง
“หลิวเอ้ย นายนี้เริ่มแก่ขึ้นรึเปล่าเนี่ย ทําไมขึ้นบันไดมาช้าจังเลย? รู้เปล่าว่าเวลาที่นายขึ้นบันไดมาเนี่ย ฉันชนะได้เกมนึงเลยนะ อ้า เดี๋ยวนะ ฉันผ่าน” อีกคนพูด
“เหรอ? อ้อ ฉันพึ่งเจอหลี่ไต้ก่อนมาเจอพวกนายเนี่ย เราคุยกันนิดหน่อย คนหนุ่มนี้มันดีจริงๆ พวกเขาฝึกเพิ่มเติมกันมา แล้วก็พึ่งกลับมาเมื่อกี้ ถ้าฉันเป็นเขา ฉันต้องหอบกินแน่ๆ บางทีอาจจะถึงขั้นเดินไม่ไหวเลยก็ได้” โค้ชหลิวเล่าตอนที่โยนไพ่มังกรแตงออกไป
“ฝึกเพิ่มเติมเหรอ”หวางเหยาซูที่นั่งอยู่ทางขวาของโค้ชหลิวพอได้ยินแบบนี้แล้วใจก็กระตุกขึ้นมา เขาจั่ว แล้วพึ่งเห็นว่าเป็นไพ่มังกรขาว เขาเลยทิ้งมัน แต่พอวินาทีต่อมา เขาก็คิดได้ว่าเขาทําพลาด
ชิบหาย ไม่น่าจั่วเลย ฉันมีมังกรแดง2ตัวแล้วนี้ ปิดเกมแล้วป๊อกได้เลยนะเนี่ย! หวางเหยาซูหงุดหงิด ถ้าโค้ชหลิวไม่พูดถึงหลี่ไต้ เขาก็คงไม่ใจลอยแบบนี้
พอเห็นคนทางขวาเขาทิ้งแล้ว โค้ชหลิวก็ตะโกน ป๊อก!
โค้ชหลิ่วชนะด้วยการมีไพ่ใบแล้วค่อยๆเรียงใหม่ “ใช่แล้ว ฝึกเพิ่มเติม! ฮาวหยูอี้ขยันมาก ฉันเห็นเขาร่างพังโดนหลี่ไต้หิ้วปีกมาอยู่นี้เอง
ตอนที่เขาพูด เขาก็โยนไฟ3ตัวลง
“ ป๊อก!”ขายคนข้างๆโค้ชหลิวพูดบ้าง แล้วเอื้อมมือไปจับตัวไพ่ไม้ไผ่ตรงหน้าเขา เขาพูด “ที่นั่งสุดท้ายในการแข่งวิ่ง200เมตรนั้นยังไม่ถูกตัดสิน และด้วยเวลาที่20.75 วินาทีนั้น ฮาวหยูอี้ต้องพยายามเต็มที่แน่ๆ แต่พอพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็สงสารฮาวหยูอี้เหมือนกันนะ เขาโดนหมาตรวจว่า เป็นมะเร็งกระดูกแถมยังเกือบเสียขาฟรีๆ ด้วย การกลับมาของเขาคงยากน่าดู”
พอได้ยินแบบนี้แล้วหวางเหยาซูก็ใจไม่ดี เขาเป็นโค้ชของซูฉง คู่แข่งของฮาวหยูอี้ แต่โค้ชข้างๆ เขากับเข้าข้างฮาวหยูอี้เห็นๆ แล้วตอนนี้ฮาวหยูอี้ก็กําลังฝึกอย่างหนัก หนักซะจนหวางเหยาซู เริ่มรู้สึกได้ถึงไฟที่ลนก้นขึ้นมา
ฮาวหยูอี้รับการฝึกพิเศษ ถ้าของไม่ทําแบบนั้นบ้าง เขาต้องแพ้แน่ ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกินขึ้น ฉันจะให้ของฝึกด้วย!
พอคิดแบบนั้น หวางเหยาซูก็ไม่ได้สนใจมาจองอีกต่อไป เขาเล่นด้วยใจที่ลอยแล้วก็แพ้อย่างราบคาบ
ตอน 7 โมงครึ่งยามเช้า หวางเหยาซูกําลังฮัมเพลงขณะที่เดินไปโรงอาหาร
วันนี้จะมีอะไรกินน้อ? ฉันละอยากกินเคิร์ดถั่วจริงๆ ถ้าเหลืออะนะ ถ้าไม่ก็ขอเป็นนมถั่วเหลืองก็ได้
หวางเหยาซูเดินเข้าโรงอาหารแล้วเห็นนักเรียนของเขา ซูฉงกําลังนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วปอกไข่อยู่
ฉันต้องบอกซูฉงว่าเราจะฝึกเพิ่มตอนเที่ยง หวางเหยาซูรีบหยิบข้าวเข้าแล้วเดินไปหาที่โต๊ะของซูฉง จากนั้นก็นั่ง ในเวลาเดียวกันนั้นมีเสียงนึงดังขึ้นมา
“ฮาวหยูอี้ เหงื่อเต็มตัวเลย ฝึกเช้ามาเหรอ? ไม่ไปล้างหน้าซะก่อนละ!”
หวางเหยาซูหันกลับไป ฮาวหยูอี้อยู่ตรงนั้น เขาดูร้อนเหงื่อแตกเต็มตัวไหลหยดตามร่างกาย ผมเปียกเหมือนกับว่าพึ่งไปฝึกหนักมา
ฮาวหยูอี้พูดแบบอายๆ “ผมตื่นตอนที่5แล้วกออกกําลังกายฟังเสร็จเองครับ เดี๋ยวผมจะไปซักผ้าเสื้วจะกลับไปฝึกต่อแล้วครับ
“ตี5! เช้ามืดเนี่ยนะ!” บางคนตกใจ
หวางเหยาซูมองเวลาที่นาฬิกาแบบไม่ทันตั้งตัว
เขาเริ่มตั้งแต่ตี5 หมายความว่าเขาฝึกมา2ชั่วโมงครึ่งแล้ว เอาง่ายๆ ว่าฮาวหยูอี้ฝึกมากกว่าฉูฉง2ชั่วโมงครึ่งไปแล้ว
ในตอนนั้น ความรู้สึกไฟลนก้นก็แรงขึ้นเรื่อยๆในใจของหวางเหยาซู