Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 209
ตอนที่ 209 การแข่งกลางสายฝน
ท้องฟ้าดูมืดมัวและหม่นหมอง อัฒจันทร์ในสนามแข่งเต็มไปด้วยสีสันของร่มและเสื้อกันฝน
ฝนคงจะตกในอีกไม่ช้า ถึงมันจะไม่ได้ตกหนัก แต่มันก็หนาวเย็น
หลีใต้มองไปบนท้องฟ้าแล้วรู้สึกเคืองนิดหน่อย เขาไม่ชอบกีฬาที่จัดท่ามกลางสายฝนเลย
เอาจริงๆ ทั้งโค้ชและนักกีฬาทุกคนไม่อยากที่จะลงแข่งกลางวันฝนตกแบบนี้โดยเฉพาะนักวิ่ง ฝนมันทําให้ลู่วิ่งเปียกแล้วลื่นซึ่งมันโคตรส่งผลกับความสามารถของนักกีฬาเพราะงั้นนักกีฬาจะทําคะแนนได้แย่ลงมากในวันที่ฝนตก
เพราะยังไงซะกรีฑาก็จัดในที่กลางแจ้ง แล้วมันคงเป็นไม่ได้ที่จะเลื่อนการแข่งในวันฝนตก สนามแข่งมีระบบระบายน้ําในลู่ที่ดีทําให้มันไม่เกิดเป็นแอ่งน้ําหลุมหรือบ่อแต่ยังไงลู่วิ่งก็ยัง เปียกและลื่นอยู่ดี ตราบใดที่ฝนไม่ได้ตกมาเป็นกรดหรือกบการแข่งก็ยังคงจัดต่อไป
นักกีฬาทุกคนไม่ค่อยคุ้นชินกับการแข่งกลางฝนนักหรอก และไม่มีใครเตรียมตัวมากับสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะกับนักกีฬานําเข้าจากเอเชียตะวันตก ที่ปรับตัวไม่ทันเลยในวันฝนตกแบบ นี้อากาศในเอเชียตะวันตกนั้นส่วนมากจะแห้งแล้งการมีฝนตกแต่ละที่เป็นเหมือนของขวัญจากพระเจ้า นักกีฬาเลยแทบไม่มีโอกาสได้วิ่งแข่งกลางสายฝนเลย
ในลู่วิ่งนั้นเอง ฮาวหยูอี้กําลังเตรียมตัวแข่งแล้ว
มันเป็นรอบรองชิงชนะเลิศในการแข่งวิ่ง200เมตร โชคดีที่นักกีฬาตัวท้อปของการแข่งนี้ถอนตัวไปแล้ว ทําให้ฮาวหยูอี้ไม่ได้มีคู่แข่งอะไรเยอะในรอบนี้ตราบใดที่ฮาวหยูอี้ไม่ได้พลาดอะไรเขา ก็จะได้เข้ารอบสุดท้ายแน่นอน
และในตอนที่เสียงปืนดังขึ้นนั้นเอง ฮาวหยูอื้ออกตัววิ่งไปบนลู่ เสียงเชียร์ดังกระหึมดังขึ้นมาพร้อมเสียงปืน
ฮาวหยูอี้นั้นวิ่งในทางโค้งเก่งอยู่แล้วทําให้เขาเป็นคนแรกที่ได้เข้าวิ่งในทางตรง
บางที่นักกีฬาวิ่งที่เหลือในกลุ่มนี้เหลือแต่พวกธรรมดาๆ หรือไม่พวกเขาก็อยากที่จะออมแรงเอาไว้ บางทีพวกเขาอาจจะแข่งวิ่งในวันฝนตกไม่เก่ง ยังไงก็ตามพวกเขาตามฮาวหยูอี้ไม่ทันแล้วปล่อยให้เขาเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในกลุ่ม
“มาเร็ว มาเช็ดผมให้แห้งแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ” หลีใต้พูดแล้วยื่นผ้าเช็ดตัวให้ฮาวหยูอี้
ถึงแม้นักกีฬาจะเปียกชกจากเหงื่อตัวเองในทุกๆวันของการฝึกอยู่แล้วแต่มันเหงื่อมันต่างจากน้ําฝนมาก เหงือของนักกีฬานั้นมีมากเท่าไรก็ได้เพราะมันไม่ทําให้เป็นหวัด แต่ถ้าโดนฝนกับลมหนาวเมื่อไรนักกีฬาต้องทําตัวให้แห้งให้ไวที่สุดเพื่อป้องกันอาการหวัด
นักกีฬารอบถัดไปประจําที่เป็นที่เรียบร้อย เป็นตาของเหว่ยซือเต่า นักกีฬาทีมชาติจีนอีกคนห
นักกีฬาสัญชาติอาหรับอย่างซาราฟาก็อยู่กลุ่มนี้ด้วยชาราฟาแกร่งในด้านการวิ่ง200เมตร มากกว่า100เมตรอีกและในตอนนี้คลาร์กก็ถอนตัวจากการแข่งไปแล้วซาราฟาเลยเป็นตัวเต็งที่จะชนะการแข่งวิ่ง200เมตร
และในที่สุด เหว่ยชื่อเต๋ก็ได้เข้ารอบสุดท้ายในฐานะที่2ของรอบนี้ นักกีฬาทีมชาติจีนเข้ารอบสุดท้ายทั้ง2คน
หลังจากพักเบรกหลายชั่วโมง การแข่งวิ่งผลัด4×100เมตรรอบอุ่นเครื่องก็ได้เริ่มขึ้น
มีแค่บางประเทศเท่านั้นที่เข้าร่วมการแข่งในรายการนี้ นักกีฬาชาวเอเชียส่วนมากไม่ ค่อยเก่งในกีฬากรีฑาเท่าไร บางประเทศไม่มีนักวิ่งด้วยซ้ํา ดังนั้นการแข่ง4×100นั้นจะมีแค่รอบอุ่นเครื่องเท่านั้น
ทีมญี่ปุ่นเป็นเจ้าพ่อในวงการนี้มากว่า20ปี หลังจากการเกษียรของซาซากิทําให้ยุคทองของญี่ปูนเสื่อมโทรมไป ทําให้ยากสําหรับญี่ปุ่นที่จะกลับมาครองบัลลัง
ในขณะเดียวกันนั้นพวกเขาก็ต้องเฝ้ามองการเติบโตของประเทศต่างๆในการแข่งในรายการนี้ อย่างเช่นกาตาร์หรือซาอุดิอารเบีย คาซัคสถานไทย ซึ่งมันเป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าใครจะได้เหรียญทองในกีฬาวิ่งผลัดนี้ มีทีมที่แกร่งๆหลายๆทมีมรวมถึงทีมชาติจีนเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้แชมป์เช่นกัน
ทีมที่แข็งแกร่งจริงๆไม่จําเป็นต้องเร็วเสมอไป เพราะยังไงซะ ถ้าแข็งจริงพวกเขาเข้ารอบสุดท้ายได้ง่ายๆอยู่แล้ว ตราบใดที่ไม่พลาดล้มกลิ้งไปอีกอะนะ
ทีมชาติก็ทําการบอกให้ทั้ง4คนของทีม พยายามอย่าพลาด
ฉือจี้จุนก็สละสิทธิ์เนื่องมาจากอาการบาดเจ็บ หนิวกิ้วหงเลยได้มีโอกาสเล่นแทน
หนิวคั่วหงนั้นค่อนข้างตื่นเต้นกับโอกาสที่เขาได้รับมานี้เขาไม่ได้เล่นในการแข่งแบบเดียว เขา เลยได้แต่นั่งรอข้างสนามจนจบการแข่งขัน แต่พอฉือจี้จุนบาดเจ็บทําให้หนิวกิ้วหงมีโอกาสได้เข้า มาแข่งซักที
ทีมกาตาร์ก็เจอสถานการณ์แบบเดียวกับทีมจีนเพราะคลาร์กก็สละสิทธิ์โอในด้าก็ยังพักฟื้นอยู่ทีมกาตาร์แทบจะถอดในกับการแข่งครั้งนนี้ไปแล้ว
ในลู่วิ่งขาที่3อย่างเหว่ยซื้อเยื่นไม้ส่งไปให้หยางฉือจี้อย่างมั่นคงก่อนจะออกตัววิ่งไป
“ไม่พลาด ส่งไม้ได้ดีมาก!” ซูหลี่โล่งใจไป
การส่งไม้จากขา3ไปขาสุดท้ายทําได้อย่างดี ตอนนี้หยางฉือจีก็แค่ต้องกําไม้ให้แน่นแล้ววิ่งเข้า เส้นชัยให้ไวแค่นั้นเอง
ในฐานะที่เป็นแชมป์วิ่ง100เมตรคนใหม่ของเอเชี่ยนเกมหยางฉือจี้เลยค่อนข้างมั่นใจมากเขามีความเจิดจรัสส่องประกายเวลาอยู่บนลู่ และด้วยพรสวรรค์ที่เขามี มีแค่เวลาเท่านั้นกั้นขวางเขาระหว่างตอนนี้กับการเป็นนักวิ่งระดับโลกและการได้แชมป์ครั้งนี้มันก็ยิ่งเร่งเวลานั้นให้มาถึงได้ไวขึ้น
หยางฉือจี้พาทีมจีนเข้ารอบสุดท้ายอย่างสวยงาม
เหว่ยชื่อเต๋หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหัวตัวเอง ก่อนจะยื่นมันกลับให้หลีใต้
” ทําไมหน้าแดงๆละ” หลีใต้มองดูเหว่ยชื่อเต๋ที่ดูหน้าแดงๆแบบไม่เป็นธรรมชาติ
“ผม…”เหว่ยถือเตําลังเลซักพัก ก่อนจะพูด “ผมรู้สึกหนาวนิดหน่อยหน่ะครับ”
“เป็นไข้รึเปล่าเนี่ย เดี๋ยวมานะ ฉันจะไปที่วัดไข้จากหมอให้” หลีใต้ไปหาหมอประจําทีมทันที
ซักพักต่อมา หมอก็มาแล้วแตะที่หน้าผากของเหว่ยซื้อเต่าซึ่งมันร้อนมากจากนั้นก็ใช้ปรอทวัดไข้วัด
“เขาเป็นไข้ อุณหภูมิร่างกายของเขาตอนนี้อยู่ที่ 38.9เกือบๆ 39” หมอพูด
โค้ชรอบๆเขาสะอีก
คงเป็นเพราะอากาศเปลี่ยนทันทีเมื่อคืนที่แล้ว การแข่งในสายฝนมันเลยยิ่งทําให้เกิดอาการปวยและเป็นไข้ได้ง่าย และแน่นอน การเป็นไข้เวลาแบบนี้ในเวลาที่การแข่งรอบสุดท้ายของการวิ่ง200เมตรกําลังจะเริ่มขึ้นในอีก1ชั่วโมง
“เอาไงดีครับ” ทุกๆคนมองไปทางซูหลี่ แกมๆว่าจะให้เขาต้องตัดสินใจ
ซูหลี่มองเหว่ยซื้อเต๋
“โค้ช ให้ผมได้แข่งเถอะครับ” เหว่ยชื่อเต๋พูดตัดสินใจ
“งั้นก็โอเค ตามนั้นดื่มน้ําเยอะๆ แล้วก็ไม่ต้องกังวลนะ นายเป็นหวัดไม่มีใครโทษนาย ได้หรอกแล้วหลังจบการแข่งฉันจะให้รถมารับนายกลับเลย” ซูหลี่ตัดสินใจยอมทําตามที่เหว่ยซื้อเต้าขอ