Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 215
ตอนที่215 การเปลี่ยนไม้ของกองทัพหลี่
ในการแข่งวิ่งผลัด นักกีฬาแต่ละคนจะออกตัวต่างกัน หมายความว่าจุดเริ่มต้นของแต่ละคนจะไม่อยู่ในเส้นเดียวกัน นักกีฬาในเลนในจะเริ่มออกตัวหลัง ส่วนนักกีฬาในเลนนอกจะเริ่มออกตัวก่อน สําหรับคนดูทั่วๆไป ก่อนที่นักกีฬาจะเข้าช่วงทางตรง100เมตรนั้น มันจะบอกยากมากว่าใครวิ่งเร็วกว่าใคร
แต่โชคยังดีที่พวกเขามีสิ่งที่เรียกว่าจุดเปลี่ยนไม้ ซึ่งช่วยบอกได้ว่าใครวิ่งได้เร็วกว่ากันจุดเริ่มของแต่ละคนถึงจุดเปลี่ยนไม้นั้นระยะเท่ากัน ดังนั้นคนที่ก้าวเข้าจุดเปลี่ยนไม้เป็นคนแรกก็คือคนที่เร็วที่สุด และในขณะเดียวกัน คนที่ออกจากโซนนั้นเป็นคนแรกก็คือคนที่กําลังขึ้นนํา
หนิวทั่วหงเป็นคนแรกที่เข้ามาถึงจุดเปลี่ยนไม้แรก ซึ่งก็บอกได้ว่าเขาเป็นคนที่วิ่งได้เร็วที่สุดในบรรดาขาแรกทั้งหลาย แต่ถึงอย่างนั้น เพราะว่าเขาเป็นขาแรก ทีมชาติเลยยังบอกไม่ได้ว่าได้เปรียบ
หยางฉือจี้เตรียมพร้อมรอหนิวคั่วหงเรียบร้อยแล้ว ตรงขอบของจุดเปลี่ยนไม้นั้น ทันทีที่หนิวคั่วหงเข้าจุด หยางฉือจีก็เริ่มออกตัววิ่งและหนิ่วคิ้วหงก็วิ่งตรงมาที่หลังของหยางฉือจี้
การเปลี่ยนไม้นั้นถือเป็นขั้นตอนที่สําคัญที่สุดของการวิ่งผลัด แล้วมันก็เป็นตัวชี้วัดบอกว่าทีมจะรุ่งหรือร่วง ถ้ามีใครโชคร้ายทําไม้ตกตอนนี้ ทีมทั้งทีมก็แพ้ไปได้เลย ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจจะนํามาให้เกิดหายนะมาสู่ทีมและความได้เปรียบที่ผ่านๆมาจะไร้ค่าทันที
หยางฉือจี้ยื่นมือไปด้านหลังและหนิวทั่วหงก็ส่งไม้อย่างมั่นคงไปที่มือของหยางฉือจี้ เขากําไม้แน่นแล้ววิ่งต่ออย่างเร็ว
“ดีมาก ส่งได้สวย!”ซูหลี่พึมพํา การรับส่งกันระหว่างหนิวทั่วหงกับหยางฉือจีนั้นไร้รอยต่อทอ เต็มผืนลื่นไหลเหมือนสายน้ํามาก
เพราะทั้งคู่เคยเป็นเพื่อนร่วมมหาลัยกันในมหาลัยชิงฮั่วแล้วพวกเขาก็เคยฝึกด้วยกันมาก่อนตลอด2ปี พวกเขาสนิทกันมาก อีกอย่าง ในการเปลี่ยนไม้แรก หนิวคั่วหงเป็นคนคุมการส่งไม้เพราะว่าเขาเองไม่มีการแข่งแบบเดี่ยวทําให้เขามุ่งมั่นในการฝึกวิ่งผลัดอย่างเดียวไม่แปลกใจเลยที่เขาทําได้ดีขนาดนี้
พอคิดแบบนี้แล้ว ซูหลี่ก็โล่งอกขึ้นมาทันที ถึงแม้นี้จะเป็นก้าวแรกไม้แรกไปไม้2 แต่มันก็ถือว่าประสบความสําเร็จไปได้ด้วยดี แต่ที่เหลือก็ต้องไปดูกันต่อไป
ฝั่งทางด้านของโค้ชทีมชาติไทยอย่างสมชัยตอนนี้กําลังกังวล หนิวคั่วหงและหยางฉือจี้ส่งไม้กันได้อย่างดีดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นเพื่อนร่วมทีมกันมานานแล้ว ถึงแม้ว่าทีมเวิร์คพวกเขาจะยังสู้ทีมไทยไม่ได้เพราะทีมไทยฝึกกันมา4ปี แต่ก็ถือว่าสูสี
เราตามในการส่งไม้รอบแรกไม้ได้เหรอ! สมชัยขมวดคิ้วขึ้น และในขณะเดียวกันนั้น หยางฉือจี้ก็เป็นคนแรกในการออกจากจุดเปลี่ยนไม้ ซึ่งหมายความว่าตอนนี้เขาขึ้นนําแล้ว
แต่ไม่ต้องห่วง พวกแกก็แค่ดวงดีหน่า อีกอย่าง นักกีฬา2คนนั้นมันก็เป็นเพื่อนกันมาก่อน ฝีกด้วยกันมานาน ก็ไม่แปลกที่จะทําได้ดี จุดสําคัญคือตอนสุดท้ายมากกว่า ขาที่4ได้ข่าวว่าเป็นนักกระโดดไกลนี้ ตราบใดที่พวกเขาพลาด เราก็สามารถตามทันได้ แม้กระทั้งครึ่งวิก็ตามสมชัยปลอบใจตัวเอง
ขาที่2นั้นวิ่งทางตรงเป็นส่นมาก และระยะทางการวิ่งนั้นจะสั้นที่สุดในบรรดานักวิ่งทั้ง4คน
หยางฉือจี้เป็นแชมป์มาเมื่อ3วันก่อน ทําให้ความมั่นใจของเขาเต็มเปี่ยม +กับที่คนดูจําเขาได้หมดแล้ว ตอนที่เขารับไม่ได้ เสียงคนดูก็เชียร์ดังสนั่นกึกก้อง
แรงใจของคนดูนั้นมีผลกระตุ้นหยางฉือจี้ทันที มันทําให้เขารู้สึกฮึกเหิม เต็มไปด้วยพลังที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขารอไม่ไหวแล้วที่จะปลดปล่อยพลังของเขาออกมา
ในฐานะที่เขาเป็นแชมป์กีฬาวิ่ง100เมตรของเอเชียนเกม หยางฉือจี้ก็ได้แสดงความสามารถที่ล้นเปี่ยมออกมาอีกครั้ง ถ้าดูจากความเร็วแล้ว หยางฉือจี้เร็วที่สุดในทีมวิ่งผลัดจีน ปรกติแล้วคนที่เร็วสุดจะเอาไว้ขาสุดท้าย ในขณะที่คนที่2ปรกติจะเป็นคนที่อ่อนที่สุด
แต่ถึงอย่างนั้นด้วยเหตุผลบางประการ ทําให้ทีมชาติต้องเสียผู้เข้าแข่งขันไป พวกเขาเลยขอให้หยางฉือจี้ที่เป็นนักวิ่งที่ดีที่สุดไปอยู่ในขาที่2 คล้ายกับกลยุทธแข่งม้าของจี้เทียนหยางฉือจี้เป็นม้าเกรดเอ ส่วนนักวิ่งคนอื่นๆเป็นม้าเกรดต่ําสุด ความต่างมันเหนือกว่าเยอะ
และพอถึงโค้งที่2 หยางฉือจี้ก็ได้สร้างระยะห่างอย่างชัดเจนไว้ ถึงแม้จะยังไม่เข้าจุดเปลี่ยนไม้ก็บอกได้เลยว่าหยางฉือจีนั้นกําลังนําอยู่
ในขณะที่คนดูกําลังนั่งทบทวนเรื่องลําดับการเปลี่ยนไม้ หยางฉือจี้ก็เข้าจุดเปลี่ยนไม้แล้วและไม้ที่3ก็คือฮาวหยุอี้เ
เปลี่ยนไม้ครั้งที่2! ซุหลีใจเต้นแรกอีกครั้ง
หยางฉือจี้กับฮาวหยูอี้ไม่ใช่เพื่อนกันมาก่อน ฮาวหยูอี้โดนรับเข้ามาหลังจากที่เขาเข้าร่วมค่ายฝึกเอเชี่ยนเกม เขาถนัดในด้านการวิ่ง200เมตร และแทบจะไม่คุยอะไรกับหยางฉือจี้เลยจนกระทั้งถึง1เดือนก่อนเอเชี่ยนเกมจะเริ่ม ตอนที่พวกเขาต้องเริ่มเตรียมฝึกวิ่งผลัดพวกเขาไม่เคยอยู่ทีมเดียวกันมาก่อน
อีกทั้งยังเคยเป็นคู่แข่งกันด้วย
ดังนั้นซูหลี่รู้ว่าทีมเวิร์คระหว่างหยางฉือจี้กับฮาวหยูอี้นั้นไม่ได้ดีเท่าหยางฉือจี้กับหนิวคั่วหง แน่ๆ
อีกอย่างหนิวคั่วหงเน้นฝึกวิ่งผลัดอย่างจริงจัง ในขณะที่หยางฉือจี้ต้องเอาดีในด้านการวิ่ง100เมตรก่อน ดังนั้นหนิวคั่วหงเลยส่งไม้ได้ดีกว่าหยางฉือจี้แน่ๆ
ฉันไม่คิดว่าการส่งไม้ครั้งนี้จะลื่นได้เท่าครั้งแรก หวังแค่ว่าอย่าให้พวกเขาพลาดเยอะก็พอหรืออย่าเสียเวลามากเกินไป ตอนนี้หยางฉือจี้สร้างความห่างได้แล้ว อย่างน้อยเราก็น่าจะเสียไปได้ซัก0.2วินะ ซูหลี่คิด
ในขณะเดียวกันนั้น นักวิ่งทั้ง2ก็เริ่มส่งไม้ให้กัน หยางฉือจี้ยื่นมือไปข้างหน้าเพื่อส่งไม้ เข้ามือฮาวหยูอี้แล้วตะโกน “จะซิโว้ย!”ฮาวหยุอี้ตกใจกําไม้แน่น แล้ววิ่งต่อไปเป็นขาที่3
กระบวนการเปลี่ยนไม้มันเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนมองเห็นท่าทางไม้ชัดถ้าไม่ได้เพ่งดูดีๆ
การเปลี่ยนไม้นั้นจะต้องให้นักกีฬาทั้งส่งอย่างปลอดภัย เร็ว และเร็วขึ้นอีก ยิ่งเปลี่ยนไม้ไวเท่าไรก็ยิ่งทําให้เวลาที่เสียไปน้อยลงเท่านั้น
การเปลี่ยนไม้ของทั้งคู่ในรอบนี้ ไม่ได้ดีเลิศเหมือนรอบก่อนหน้า ที่ทําโดยหนิวทั่วหงกับหยางฉือจี้แล้วมันก็ยังดูหยาบๆบ้าง แต่มันก็ดูใช้ได้
ถ้านับจากเวลาที่เสียไป ตราบใดที่มันยังเร็ว ท่วงท่าอะไรก็ไม่จําเป็นต้องสวย มันก็เหมือนกับรถหลังจากที่แต่งเบาะหนัง ใส่เครื่องเสียง พ่นสีใหม่แล้ว มันก็ยังไม่ได้ช่วยให้รถเร็วขึ้นอยู่ดี
“ยอดมาก เยี่ยมไปเลย!” ซูหลี่เริ่มปรบมือ
การเปลี่ยนครั้งแรกทําให้ซูหลี่มีความสุขแล้ว แต่ครั้งที่2มันอยู่เหนือความคาดหมายของซุหลี เอง
หยางฉือจี้กับหนิวทั่วหงทํางานกันได้อย่างดีมาก พวกเขาดูไม่เหมือนคนที่พึ่งฝึกด้วยกันมาแค่เดือนเดียวกลับกัน พวกเขาเหมือนวิ่งแข่งกันระหว่างเพื่อนเก่ามากกว่า
ซูหลี่รู้ตั้งแต่ตอนแข่งวิ่งผลัดรอบอุ่นเครื่องแล้ว ว่าฮาวหยูอี้กับหยางฉือจี้ ไม่ค่อย “กินเส้น” กันเท่าไร
เขาหันไปมองหลีใต้ที่อยู่ข้างๆแต่หลีใต้ดูไม่แปลกใจอะไร
ฮาวหยูอี้กับหยางฉือจี้มันไปญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไรกันเนี่ย? เมื่อวานยังไม่ค่อยลงรอยกันอยู่เลยหรือเพราะว่าการฝึกของหลีใต้? มันเป็นไปได้เหรอที่จะทําให้คน2คนที่ไม่กินเส้นกันมาสนิทกันได้ในวันเดียวเนี่ย?