Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 220
ตอนที่ 220 แจ้งเบาะแส
หลี่ไต้มองอย่างระแวดระวัง บนแขนของชายไทยคนหนึ่ง นอกจากจะมีรอยสักแล้ว มันยังมีจุดสีแดงอีกหลายจุด
จุดสีแดงพวกนั้นมันเป็นเหมือนสัญลักษณ์ลอยแผลเป็นที่เกิดมาจากการฉีดยา แล้วแผลมันก็ค่อนข้างดูสดด้วย คนพวกนี้พึ่งออกมาจากโรงพยาบาลรึไงนะ? หลี่ไต้รู้สึกได้ว่ามีบางอย่าแปลกๆ
เขาหยิบมือถือขึ้นมาดูที่หน้าเพจหลักของการแข่งขันจักรยานรอบกําแพงเมืองจีน จากนั้นก็หาข้อควรระวังทั้งหลาย หลังจากนั้นซักพักเขาก็โงหัวขึ้น
การแข่งนี้มันมีการตรวจสารยูรีนด้วยนี้ ผู้เข้าแข่งไม่ควรได้รับการฉีดยาใดๆก่อนเข้าแข่งไม่งั้นจะไม่ผ่านการทดสอบแล้วแข่งไม่ได้
หลี่ไต้ทําเป็นเล่นโทรศัพท์ไปในขณะที่สังเกตุคนไทยพวกนั้นไปด้วยหลายนาทีต่อมา คนไทยอีกคนนึงก็พับแขนเสื้อขึ้น ทําให้เห็นแขน ที่แขนของอีกคนนึงก็มีรอยแดงเป็นจุดๆเหมือนกัน
อีกคนนึงแล้วเหรอ หลี่ไต้หลี่ตาลง เขาเริ่มคาดเดา
หลินฉงอยู่ที่นี้ กําลังปฏิบัติหน้าที่ลับอยู่ ฉันจําได้ว่างานของเขาอยู่ในองกรณ์ปราบปรามยาเสพติด แล้วคนไทยพวกนี้ก็มีมากกว่า20คน และพวกเขาก็ไม่ใช่นักกีฬาซักคนเลยด้วย พวกเขาทําตัวเป็นนักกีฬาเพื่อที่จะได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองมาได้ ในทางกลับกัน ค่าความสามารถทางการกีฬาของพวกเขานั้นก็ต่ำมากด้วย ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีสภาพร่างกายที่อ่อนแอ แล้ว+กับรอยแดงบนแขนแล้ว…
หลี่ไต้รู้สึกเหมือนเป็นโคนันเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที
ฉันไม่รู้ว่าหลินฉงรู้เรื่องพวกนี้ไหม หลี่ไต้มองไปทางกลุ่มคนไทย แล้วสังเกตุเห็นว่าพวกเขากําลังจะออกกันแล้ว หลี่ไต้ลังเลซักพักก่อนจะเดินกลับไปที่อาคาร ที่ๆหลินฉงอยู่
ในโถงนั้นเอง หลินฉงยังคงเดินเตร็ดเตร่ เหมือนกําลังมองหาอะไรบางอย่าง พอเห็นแบบนั้นหลี่ไต้เลยเดินปรี่เข้าไปทันที
“โค้ชหลี่กลับมาทําไมครับ? หรือว่ากลับมารับใครเหรอครับ?” หลินฉงเห็นหลี่ไต้
หลี่ไต้พูดเสียงเบา “เจ้าหน้าที่หลิน นายกําลังตามหาคนขายยาอยู่ใช่ไหม?”
หลินฉงส่ายหัว”โค้ชหลี่ ผมกําลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นะครับ ผมคงบอกรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ มันเป็นกฏ เข้าใจผมหน่อยนะครับ”
หลี่ไต้ยิ้ม หลินฉงเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจในองกรณ์ปราบปรามยาเสพติด งานของเขาก็ต้องเป็นการจับพ่อค้ายาอยู่แล้ว
ในตอนนั้นเอง ในห้องเล็กๆไม่ไกลจากหลินฉงมากนัด บทสนธนาของหลี่ไต้ก็ส่งต่อผ่านไมค์ไปยังหัวหน้ากองปราบปรามยาเสพติด ฝูต้าหู ผู้ที่เป็นคนคุมปฏิบัติการครั้งนี้ทั้งหมด เขาสังเกตุเห็นได้ว่าหลี่ไต้ลี่ไต้คุยอะไรกับหลินฉงผ่านทางจอมอนิเตอร์แล้ว
ทําไมเพื่อนของหลินฉงมันถึงกลับมาละ? ถ้าเป็นแบบนี้ต่อเขาจะขัดขวางภารกิจของเรทได้ ฝูต้าหูคว้าไมค์เตรียมออกคําสั่งให้หลินฉงไล่หลี่ไต้ออกไป แต่เขาก็ได้ยินบทสนทนาเข้า
“โค้ชหลี่ ผมกําลังปฏิบัติหน้าที่อยู่นะครับ ผมคงบอกรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ มันเป็นกฏเข้าใจผมหน่อยนะครับ”
ฝูต้าหูขมวดคิ้วทันที เพื่อนของหลงฉินมันทําอะไร ทําไมเขาถึงถามแบบนั้น เขาออกไปแล้วรอบนึ่งแล้วทําไมเขาถึงกลับมาอีก แล้วเขาก็ดันมาถามว่าเรากําลังทําอะไรอยู่ หรือว่ามีเจตนาแอบแฝงอะไร?
ฝูต้าหูเริ่มสงสัยในตัวหลี่ไต้ ในฐานะของหัวหน้ากองปราบปรามยาเสพติด เขาต่อสู้กับพวกแก๊งค้ายามามากกว่า20ปีแล้ว ระหว่างนั้น เขาก็ได้สร้างนิสัยความขี้สงสัยชาวบ้านเขาไปทั่วด้วย โดยเฉพาะกับคนที่ถามหรือรู้มากไป
หลินฉงเรียกเขาว่าโค้ชหลี่ เขาเป็นโค้ชกีฬาเหรอ หรือว่าเป็นโค้ชสอนขับรถฝูต้าหู ก้มหัวลงคิดซักพัก ก่อนที่จะวางแผนออกไปเจอหน้าหลี่ไต้ด้วยตัวเอง
ในขณะเดียวกัน หลี่ไต้ก็ถามต่อ ”เจ้าหน้าที่หลิน พ่อค้ายาที่นายกําลังตามหาอยู่เนี่ย พวกเขามาจากประเทศไทยรึเปล่า?”
หลินฉงไม่ได้ตอบ แล้วก็ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้า เพราะว่าเขาเป็นหน่วยสืบราชการลับ ที่มีความสามารถทางด้านจิตวิทยาสูง แม้แต่เจอคําถามที่น่าตกใจและน่ากดดันของหลี่ไต้เข้าไป เขาก็ยังไม่แสดงความรู้สึกเลย เหมือนกับว่าหลี่ไต้นั้นพูดในเรื่องที่เขาไม่รู้เรื่องออกมา
หลี่ไต้พูดต่อ “ถ้าเป้าหมายของนายมาจากไทยละก็ บางทีฉันอาจจะทําตัวเป็นพลเมืองดีแล้วให้ข้อมูลอะไรกับนายได้นะ”
หลินฉงยังคงทําตัวไม่รู้ร้อนรู้หน่วต่อไป แต่ฝูต้าหูที่อยู่ในกองบัญชาการ คว้าไมค์ขึ้นมาทันที “หลินฉง พาโค้ชหลี่เข้ามาพบฉันที่ศูนย์บัญชาการ” ฝูต้าหูพูด
หลินฉงพยักหน้าทันที “โค้ชหลี่ หัวหน้าของเราอยากพบครับ”
“ไม่มีปัญหาเลย!” หลี่ไต้ตกลงแล้วตามหลินฉงไปเข้าห้อง และที่นั้นหลี่ไต้ก็ได้เจอกับฝูต้าหู
“นี้คือหัวหน้ากองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด กัปตันฝูต้าหู” หลินฉงแนะนําให้หลี่ไต้รู้จัก
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ กัปตัน” หลี่ไต้พูด
“ยินดีที่ได้รู้จักครับโค้ชหลี่ ผมได้ยินมาว่าคุณคุยกับหลินฉงเรื่องที่ว่าคุณมีเบาะแสจะมาให้การเหรอครับ?”ฝูต้าหูถามตรงๆ
“ผมไม่รู้ว่างานของพวกคุณคืออะไรหรอกนะ แต่ถ้าพวกคุณกําลังตามจับพ่อค้ายาที่มาจากประเทศไทยละก็ ผมมีผู้ต้องสงสัยแล้ว” หลี่ไต้ไม่มีแผนที่จะปิดบังอะไร เขาเลยบอกหมดตรงๆ
“เมืองฮั่วจิงกําลังจะมีการจัดการแข่งปั่นจักรยานรอบกําแพงเมืองจีน ผมคิดว่าพ่อค้ายา พวกนั้นจะต้องแฝงตัวอยู่เป็นนักกีฬาจากประเทศไทยแน่ๆครับ”
ฝูต้าหูให้สัญญาณนายตํารวจที่อยู่หน้าคอม ก่อนจะถาม “โค้ชหลี่ คุณมีหลักฐานอะไรที่จะกล่าวหาไหม”
“ประเทศไทยส่งนักกีฬามามากถึง20กว่าคร แล้วผมก็รู้สึกได้ว่าพวกเขาไม่ใช่นักกีฬา” หลี่ไต้พูด เขาคงไม่บอกฝูต้าหูหรอกว่าเขาตรวจสอบคนพวกนั้นแล้วมันก็เป็นแค่คนธรรมดากันหมดเลยแถมอ่อนแอกว่าคนธรรมดาด้วย
“รู้สึกได้หรอ?”ฝูต้าหูพ่นลมทันทีที่ได้ยินคําตอบของหลี่ไต้ เขาตอบกลับ “โค้ชหลี่ คุณอาจจะยังไม่ชินกับการทํางานของพวกเรา แต่พวกเราจะทํางานแก้ปัญหากันโดยใช้หลักฐานจริงๆ ไม่ใช่ใช้ความรู้สึก
หลินฉงอธิบายอย่างเร่งรีบ “กัปตันครับ โค้ชหลี่เขาเป็นโค้ชมืออาชีพที่ทํางานให้กับทีมชาตินะครับ”
“โอ้? โค้ชหลี่ยังดูอายุน้อยอยู่เลย ผมเลยไม่คิดว่าจะเป็นถึงโค้ชทีมชาติ ขอโทษด้วยนะครับ” ต้าหูตอบกลับ คงเพราะว่าหลี่ไต้นักนทํางานให้กับทีมชาติตั้งแต่อายุยังน้อย ฝูต้าหูเลยไม่ทันตั้งตัว แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังยากที่จะบอกให้ฝูต้าหูเชื่อหลี่ไต้ โดยใช้แค่ความรู้สึกล้วนๆหลี่ไต้
พูดต่อ ” ผมเป็นโค้ชกีฬาครับ และผมก็รู้เรื่องนักกีฬาเยอะมากด้วย ในความคิดเห็นของผม ในบรรดาคนไทยพวกนั้นไม่มีใครเป็นนักปั่นจักรยานเลยครับ แถมการแข่งปั่นจักรยานครั้งนี้ก็มาตรฐานสูงก้วย ผู้เข้าแข่งทุกคนเป็นมืออาชีพ ดังนั้น ทีมไทยนี้ เลยเป็นผู้ต้องสงสัยครับ”
“โค้ชอย่างคุณสามารถบอกได้ว่าใครเป็นหรือไม่เป็นนักกีฬาเพียงแค่มองเนี่ยนะ?”ฝูต้าหูไม่เชื่อ
การเป็นตํารวจมามากกว่า20ปีมันยังทําให้เขาบอกไม่ได้เลยว่าใครเป็นหรือไม่เป็นโจรเพียงแค่การมองอย่างเดียวด้วย หลี่ไต้เป็นโค้ชหนุ่ม ตอนที่เขาบอกว่าเขาสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นหรือไม่เป็นนักกีฬาได้เพียงแค่การมอง ผู้ค้าหูก็ต้องคิดว่าเขาโม้แน่ๆอยู่แล้ว
แล้วหลี่ไต้ก็ไม่มีอะไรจะเถียงด้วย เขาตัดสินคนโดยใช้เครื่องตรวจสอบ ซึ่งมันอธิบายถึงหลักการและเหตุผลอะไรบนโลกใบนี้ไม่ได้เลย หลี่ไต้กําลังจะบอกเรื่องรอยเข็มที่แขนของคนไทยพวกนั้น
แต่ก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา นายตํารวจคนที่นั่งอยู่หน้าคอมพูดขึ้นมา
” กัปตันครับ ผมเจอแล้วครับ ทีมปั่นจักรยานชาวไทยเรียกชื่อทีมว่า จินฉิน มีทั้งหมด23คนผ่านตม.เข้ามาด้วยการเป็นนักปั่นจักรยาน เป็นการผ่านเข้ามาแบบพิเศษครับ”
“ผ่านแบบพิเศษเหรอ? หมายความว่าพวกเขาไม่ต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับภายในหรือctscanอะไรพวกนี้เหรอ?”ฝูต้าหูถามทันที
ตํารวจพยักหน้าทันที แล้วพิมอะไรต่ออีกซักพักก่อนจะพูด ข้อมูลบอกไว้ว่าทีมจินฉินนี้ตั้งขึ้นเมื่อครึ่งปีก่อน ทันทีที่มีการประกาศรับสมัครแข่งปั่นจักรยานรอบกําแพงเมืองจีน
ฝูต้าหูเหมือนจะบรรลุอะไรบางอย่างแล้วหันกลับไปมองหลี่ไต้ตาเขม็ง แล้วทําหน้าเหมือนเห็นผี
โค้ชทีมชาตินี้มันสุดยอดขนาดมองคนแล้วรู้ว่าเป็นนักกีฬารึเปล่าเลยเหรอวะ?!