Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 222
ตอนที่ 222 มาราธอนครึ่งทาง
100000หยวนมันก็ไม่ใช่เงินน้อยๆเลย หลี่ไต้ต้องเก็บเงินมากถึง2ปีถึงจะได้เงินขนาดนั้นมา แถมเขายังต้องงดใช้จ่ายรายวันอีกด้วย อีกทั้งเงินนี้มันได้มาจากตํารวจ ซึ่งดีกว่าการหาตั้งได้ตามถนนเยอะ เพราะยังไงมันไม่มีปัญหาตามมาทีหลังแน่นอน
“แต่ก่อนที่คุณจะได้รับเงินคุณต้องผ่านขั้นตอนอะไรนิดๆหน่อยๆก่อน เพราะงั้น ถ้าคุณมีเวลาก็ขอให้คุณไปที่สํานักงานใหญ่ของเรา คุณสามารถติดต่อผมล่วงหน้าก็ได้ นี่ครับนามบัตรผม” ต้าหูยืนนามบัตรให้หลี่ไต้ แล้วพูด “ไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะเก็บเรื่องคุณเป็นความลับ รอยเปอร์เซน”
หลี่ไต้รับนามบัตรมาทั้งๆที่ตกใจและดีใจมาก
ฝูต้าหูถามต่อ “โค้ชหลี่ จริงๆแล้วผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยอีกอย่างหนึ่ง
“ได้ บอกมาเลยว่าอยากให้ผมทําอะไร” หลี่ไต้ตอบทันที
ฝูต้าหูพูด “ในประเทศนี้มันมีคอสฟิตเนสฝึกร่างกายเต็มไปหมดเลย แล้วในเดือนหน้า เมืองของเราจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งมาราทอนครึ่งทางที่ทะเลสาบจินหยาน นอกจากจะมีจะมีคนที่ชอบวิ่งมาราธอนมาร่วมแล้ว พวกบริษัทใหญ่ๆก็ส่งพนักงานของพวกเขามาร่วมแข่งด้วย ตํารวจอย่างพวกเราก็ส่งคนไปเข้าแข่งเหมือนกัน นี้มันเป็นการแข่งระดับมือสมัครเล่น แล้วส่วนมากมันก็แค่เข้าร่วมการวิ่งเฉยๆมากกว่าจะเอาแพ้ชนะ แต่พวกเราเป็นตํารวจไงครับ ดังนั้น เราจึงพิเศษกว่าชาวบ้านเขาหน่อย คือ ถ้าเราทําผลงานได้แย่ ทางกรมตํารวจรวมไปถึงประชาชนก็จะครหาเราได้ ดังนั้น ผมจึงหวังว่าจะให้คุณฝึกพวกเราไปลงแข่ง”
หลี่ไต้พยักหน้าเข้าใจ เขาเองก็ได้ยินว่าจะมีการจัดการแข่งมาราธอนครึ่งทางจะจัดขึ้นเดือนหน้าพอดี มันเป็นการแข่งสําหรับคนทั่วไปและมือสมัครเล่น มีจุดมุ่งหมายคือเน้นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีของคนในชาติ เงินรางวัลนั้นไม่ได้สูงอะไรเลย เป้าหมายจริงๆคือเอาสนุกมากกว่า โค้ชบางคนในทีมชาติก็วางแผนที่จะไปคุมการแข่งเหมือนกัน อย่างเช่นโค้ชหลิวที่คุมการฝึกมาราธอนอยู่แล้วก็ได้ทําเรื่องขอลางานก่อนเวลาเพื่อไปเตรียมงานแล้ว
แต่ถ้าเทียบกับคนเข้าแข่งคนอื่นๆตํารวจนั้นแตกต่างออกไปอย่างชัดเจน คนอื่นๆมาเพื่อสนุกกันก็จริง แต่ในสายตาคนธรรมดา ตํารวจนั้นจะต้องถูกฝึกมาอย่างเข้มงวดและเด็ดขาด พวกเขาต้องวิ่งได้ไวกว่าเร็วกว่าและอึดกว่า ไม่งั้นจะไปจับโจรได้ยังไง
ดังนั้นถ้าตํารวจได้คะแนนน้อยในการแข่งครั้งนี้ พลเมืองจะมองไปก่อนเลยว่าตํารวจกากๆแบบนี้จะไปจับโจรแล้วปกป้องประชาชนได้ไง
และถ้าพวกตํารวจทําผลงานได้ดีในการแข่งจะเป็นยังไง พวกเขาก็จะได้โชว์ให้คนเห็นว่าพวกเขาฝึกมาเพื่อการนี้แล้ว ดังนั้น มันจึงเป็นการสร้างภาพให้กับองค์กรตํารวจไปในตัว ถ้าพวกเขาทําดี คนก็จะสรรเสริญ ถ้าพวกเขาเละ คนก็จะคิดว่าตํารวจเละเทะไปด้วย นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมตํารวจพวกนี้ถึงให้ความสําคัญกับการแข่งมาราธอนครั้งนี้กันนัก พวกเขาไม่ใช่แค่ส่งคนที่เก่งที่สุดมาแข่ง แต่รวมถึงจะให้โค้ชมืออาชีพมาฝึกพวกเขาด้วย
และในเมื่อเป็นการแข่งวิ่งมาราธอน โค้ชกรีฑาของทีมชาติดูท่าจะมีความเชี่ยวชาญที่สุด ก่อนหน้าหลี่ไต้จะมาช่วยฝูต้าหูได้คุยกับซูหลี่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น โค้ชนักวิ่งระยะไกลตัวเต็งแต่ละคนกลับงานยุ่งเต็มเวลา ทําให้ไม่มีเวลาพอทํางานนี้ ดังนั้นฝูต้าหูเลยตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากหลี่ไต้แทน
ฝูต้าหูคิดแบบนี้เพราะว่าหลี่ไต้ยังอายุน้อย เขาน่าจะสนใจงานแบบนี้มากกว่าแล้วเขาก็คงว่างกว่า ซึ่งตารางงานที่ว่างหมายความว่าหลี่ไต้จะสามารถได้มาช่วยมากขึ้น อีกอย่างหลี่ไต้พึ่งได้ เงิน1แสนหยวนจากตํารวจไป เขาน่าจะยังมีความประทับใจต่อตํารวจอยู่ด้วยเหตุผลทั้งหมดนั้น ทําให้ฝูต้าหูคิดว่าหลี่ไต้ไม่น่าปฏิเสธ
พอได้ยินฝูต้าหูพูดแบบนี้แล้ว หลี่ไต้ก็ลังเลแล้วมองไปทางซูหลี่ที่อยู่ข้างๆ ส่งเจตนาไปถามความคิดเห็นของอาจารย์ตัวเอง
ซูหลี่พยักหน้าแล้วยิ้ม “เพราะว่าคุณเลือกนายเอง เพราะงั้นก็ไปเถอะ ช่วงนี้เราไม่ค่อยมีอะไรให้ฝึกเท่าไรแล้วนี้”
ดูเหมือนว่าซูหลี่เองก็เห็นว่ามันก็น่าจะดีกับตัวหลี่ไต้เองมากกว่าที่จะตอบรับคําชวนจากตํารวจ การได้มีเส้นสายและรู้จักคนหลากหลายมันก็เป็นเรื่องดี ซึ่งหมายความว่าหลี่ไต้ควรจะรู้จักคนมากกว่านี้ เพราะว่าตอนนี้หลี่ไต้ยังเป็นแค่ระดับรากหญ้าที่ไม่มีเส้นสายหรือพาวเวอร์หนุนหลังเลย
พอเห็นว่าซูหลี่ไม่คัดค้านอะไร หลี่ไต้เลยตอบตกลง “โอเคครับ คุณฝูมาขอแบบนี้ จะให้ผมปฏิเสธได้ยังไงกัน
การแข่งจะเริ่มต้นในเดือนหน้า หมายความว่าหลี่ไต้มีเวลาที่จะฝึกมากสุด3อาทิตย์
เอาจริงๆสําหรับการฝึกวิ่งระยะไกลนั้น 3อาทิตย์มันสั้นเกินไป แย่กว่านั้นคือเรื่องที่ว่าตํารวจนั้นไม่ได้มีเวลาฝึกเต็มวัน นั้นหมายความว่าหลี่ไต้จะมีเวลาฝึกให้กับตํารวจเพียงแค่2-3ชั่วโมงหลังเลิกงานเท่านั้น
ถึงแม้หลี่ไต้จะอัพขั้นมาเป็นโค้ชระดับไขั้นกลางแล้ว แต่การฝึกเพียงแค่2-3ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา3อาทิตย์นั้น มันไม่มีอะไรรับรองผลการฝึกได้เลยว่าตํารวจพวกนั้นจะก้าวหน้าไปได้ไกลแค่ไหน ดังนั้น หลี่ไต้จึงต้องว่างแผนการฝึกและเตรียมความพร้อมอย่างดี
ในการวิ่งระยะไกลนั้น การเตรียมพร้อมการกระจายแรงกายนั้นสําคัญที่สุด ยิ่งต้องวิ่งระยะไกลเท่าไรการกระจายแรงกายก็ยิ่งจําเป็นมากเท่านั้น หลายๆคนสามารถวิ่ง5หรือ10กิโลได้ก็จริง แต่มันยังไม่ใช่กับการวิ่งมาราธอน ความต่างของมันคือการที่ยังขาดความรู้ในเรื่องของการกระจายแรงกายเนี่ยละ
ปัจจัยสําคัญในการแบ่งกําลังในการวิ่งมาราธอนนั้นจะขึ้นอยู่ในการวิ่งช่วงท้ายของการแข่ง โดยเฉพาะการวิ่งในช่วงใกล้จะถึง นักกีฬาส่วนมากจะเป็นตะคริว และยอมแพ้จากการแข่งก่อนที่จะจบ เพราะว่าแบ่งแรงกายในการวิ่งไม่ถูกต้อง
นักวิ่งมาราธอนมืออาชีพจะแบ่งออมแรงของตัวเองไว้ได้อย่างแม่นยํามาก จังหวะไหนควรจะวิ่งเร็วเท่าไร ควรจะใช้พลังงานเยอะไหม ทุกอย่างต้องควบคุมได้ในมือของมืออาชีพ สําหรับนักวิ่งมือสมัครเล่น แค่จัดสรรแรงของตัวเองให้ถูกแล้ววิ่งด้วยความเร็วที่คงที่ตลอดระยะวิ่งได้ก็เก่งแล้ว
การวิ่งมาราธอนนั้นจะคล้ายๆกับการวิ่ง10กิโล ถ้าพวกเขาวิ่งกันเป็นทีม ลูกทีมทั้งหลายก็จะอยู่เกาะติดกันเท่าที่จะทําได้แล้วเปลี่ยนคนนําวิ่งสลับกันไปเรื่อยๆ ด้วยวิธีนี้มันจะเป็นการประหยัดแรงได้ดี
และในช่วงสุดท้ายของการวิ่งนั้น แรงใจสําคัญมาก มันเป็นปัจจัยที่ช่วยดึงความสามารถและวัดขีดจํากัดของคนเราได้มากที่สุด
แรงใจนั้นเป็นสิ่งสําคัญอย่างมากในการวิ่งมาราธอนมาก โดยเฉพาะในช่วงท้าย หลายๆคนมักจะหลงระเริงคิดว่าตัวเองนําคู่แข่งแล้วหรือไม่ก็รู้สึกหัวเสียที่โดนแซง ถ้านักวิ่งโดนแซงเอามากๆ อาจจะเกิดผลเสียต่อสภาพจิตใจของคนวิ่งจนแทบอยากจะออกจากการแข่งไปเลยด้วยซ้ํา
ในเมื่อความเป็นจริงแล้ว เมื่อคุณเหนื่อยขณะที่วิ่งมาราธอน คู่แข่งของคุณก็จะเหนื่อยแบบเดียวกัน โดยเฉพาะคนที่มีระดับความสามารถใกล้ๆกัน เพราะว่าทุกๆคนนั้นวิ่งในระยะที่ไกลเท่ากัน เวลาเท่ากัน ใช้แรงเท่ากัน คนที่อยู่รอดคนสุดท้ายได้ก็คือผู้ชนะ
สําหรับนักกีฬามืออาชีพ คําว่าอยู่รอดและอดทนมันเป็นการฝึกรายวันของพวกเขาไปแล้ว แต่สําหรับมือสมัครเล่น แค่เรียนรู้คําว่าอยู่รอดในสนามก็เป็นสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว
ในบรรดาตึกเสียดฟ้าในศูนย์ธุรกิจCBDกลางเมืองฮั่วจิง ครอบคลุมบริษัททั้งในด้านเศรษกิจ เทคโนโลยี วัฒนธรรม รวมไปถึงบริษัทยักใหญ่ในด้านการเงินการคลัง การตลาด งานบริการร้านอาหารและอื่นๆ
กลุ่มบริษัทติ้งเทียนเป็นบริษัทยักใหญ่ที่ควบเอากิจการของทั้งอสังหาริมทรัพย์ งานวิทยุกระจายเสียง และอื่นๆมากมาย มีมูลค่ามากกว่า500ล้านล้านหยวน ติดอันดับท็อป200ของโลก ถ้าเทียบๆกันแล้ว กลุ่มบริษัทคอนติเนนทอลของพ่อฝางไฮควานนั้นกลายเป็นบริษัทเล็กๆไปเลย
ศูนย์ใหญ่ของขอบริษัทติ้งเทียนไม่ได้อยู่ในจิงฮั่ว แต่ก็มีออฟฟิศหรูในจิงฮั่วอยู่เหมือนกัน และออฟฟิศนั้นก็อยู่ที่ตึกสูงที่สึดในเมืองในเขตCBD และเป็นที่ตั้งของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เฉียดฟ้าในกลุ่มติ้งเทียน
ตรงหน้าน่าต่างของออฟฟิศกลุ่มบริษัทติ้งเทียน มีผู้หญิงในชุดทํางานอายุ24-25ยืนอยู่ เธอมองผ่านหน้าต่างทรงฝรั่งเศสไปที่ผู้คนที่เดินล้นหลามอยู่กลางถนนด้านล่าง
จากนั้นมีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เป็นชายใส่ชุดสูทอายุ50กว่าๆเดินเข้ามาพร้อมกับแฟ้มหนาในมือ
“หยูหนาน ฉันได้อ่านคําขอของเธอแล้วนะ เอาตามนั้นได้เลย!” ชายคนนั้นกล่าว
ผู้หญิงคนนั้นหันกลับมาเผยให้เห็นใบหน้าที่สละสวย ทรงหน้ารูปไข่แต่งหน้าเบาๆ เขียนแค่คิ้วกับลิปสติกนิดหน่อยกับแป้งรองพื้นเท่านั้น แต่มันก็ช่วยขับผิวอะอ่อนนุ่มและสุขภาพดีออกมาได้อย่างงดงาม ดวงตาของเธอส่องประกายฉายแววดื้อดึงออกมา แต่ถึงอย่างนั้นบนใบหน้าของเธอก็มีลักยิ้มพอที่จะให้เธอดูอ่อนหวานขึ้นมาบ้าง
“ลุงหวางคะ อย่าเรียกฉันอย่างนั้นในบริษัทจะได้ไหมคะ?”เสียงของเธอเข้ากับลักยิ้มหวานๆนั้น
“ก็ได้ ก็ได้ครับ ผู้จัดการเฉียว!”ชายคนนั้นพูดแล้วยิ้มอย่างอบอุ่น “นี้เธอคิดเหรอว่าพวกนั้นจะไม่รู้จักว่าจริงๆแล้วเธอเป็นใครถ้าฉันไม่พูดชื่อเธอออกมาหน่ะ? คนหนุ่มคนสาวสมัยนี้เขาลือกันให้แซดหมดแล้ว หญิงสาวอายุเท่าเธอแต่กลับขึ้นไปอยู่บนจุดของผู้จัดการได้เนี่ย พวกนั้นก็เริ่มสืบกันตั้งแต่ที่เธอเข้ามาที่นี้วันแรกแล้ว”
ลุงหวางวางแฟ้มลง แล้วเปลี่ยนเรื่อง “การแข่งมาราธอนที่ทะเลสาบกําลังจะเริ่มแล้ว การเตรียมการเป็นไงบ้าง ได้ข่าวว่าเธอก็จ้างโค้ชมืออาชีพมาเหมือนกันนี้?”
หญิงสาวตอบ “ฉันจ้างหลิวเปากังมาคะ เขาเป็นโค้ชจากทีมมาราธอนชาติ ฉันขอให้เขามาช่วยฝึกนักวิ่งทีมเราหน่ะคะ”
“ดีเลย เดิมทีคนที่เราเลือกก็เป็นเจ้าสนามเก่าอยู่แล้ว พวกเขาเก่งกีฬาแต่แรก เพราะงั้นตอนนี้ พอได้ฝึกกับโค้ชทีมชาติ ฉันแน่ใจว่าเราต้องชนะได้แน่ๆ” ชายตอบ
หญิงสาวคนนั้นยิ้ม แล้วตอบกลับ “เราต้องชนะเท่านั้นคะ เราทุ่มงบไปมากกว่า10.2ล้านหยวนเพื่อซื้อที่ในทะเลสาบจินหยางมา และการแข่งครั้งนี้ก็เป็นก้าวแรกของการโฆษณาโครงการของเรา เราต้องการก้าวแรกที่มั่นคงนั้นมาให้ได้”