Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 149
หลินฉงนั้นดีกว่าตำรวจคนอื่นๆ เขาไม่ใช่พวกที่พอใจกับแค่สอบผ่านเฉยๆ แล้วเขาก็ไม่ได้สนใจกับการเพิ่มน้ำหนักการฝึกของหลี่ไต้ด้วย แต่ก็เหมือนกับผู้ฝึกคนอื่นๆ เขาก็ไม่ได้จริงจังกับการฝึกเท่ากับอาทิตย์แรก
เมื่อบรรลุเป้หมายแล้ว คนส่วนมากก็จะเริ่มผ่อนคลายลงนิดหน่อย หลินฉงก็ตกอยู่ในคนจำพวกนี้เหมือนกัน ตอนที่เขารู้ว่าตัวเองผ่านเกณฑ์แล้ว สำหรับเขามันก็เหมือนกับการจบภารกิจสำคัญแล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะเริ่มอู้งาน
“ถึงแม้ว่านายจะรับการสอบตอนนี้เลยนายก็น่าจะผ่านแน่ๆแล้ว แต่นายต้องการแค่นี้จริงๆเหรอ?”หลี่ไต้มองดูหลินฉงอย่างจริงจัง
หลินฉงพยักหน้าอย่างอายๆ “ขอโทษนะโค้ชหลี่ ฉันรู้ว่าช่วงนี้ฉันใจลอยระหว่างที่ฝึกเมื่อวานกับวันนี้ แต่อย่าเข้าใจฉันผิดนะ ฉันไม่ได้ต่อต้านอะไรกับการฝึก ฉันแค่อยากผ่อนคลายบ้างนิดหน่อย ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรทำอย่างนั้น”
หลี่ไต้ยิ้มอย่างพอใจ เขาเชื่อว่าถ้าหลินฉงอยากที่จะพัฒนาขึ้น มันก็เป็นเรื่องง่ายทีเดียว
“ฉันจะเปลี่ยนแผนการฝึกของเราเป็นเวลา3วันนะ อยากดูไหม?”หลี่ไต้ยื่นกระดาษให้หลินฉง
หลินฉงหยิบกระดาษไปแล้วอ่านมันอย่างเร็ว แล้วถาม “จะเพิ่มจำนวนการฝึกขึ้นอีกหรอ?”
“ใช่แล้ว ฉันไม่จำนวนกิจกรรมที่ต้องฝึกอย่างเดียวนะ แต่ฉันจะเพิ่มน้ำหนักการฝึกของนายด้วย นายต้องฝึกอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่งั้นนายคงฝึกหมดนี้ไม่ทันเวลา1วันแน่ๆ”
มันเป็นเรื่องง่ายของหลี่ไต้ที่จะพูด แต่สำหรับหลินฉงแล้ว มันทำยาก หน้าของหลินฉงตึงขึ้นมาทันที
การเพิ่มจำนวนของการฝึกของหลินฉงนั้นเป็นแผนการของหลี่ไต้เอง หลินฉงนั้นขาดการทุ่มเทให้กับการฝึกเพราะว่าการผ่อนคลายทางจิตใต ถ้าหลินฉงยังไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการฝึกแล้วละก็ เขาคงพยายามอย่างเต็มที่สุดๆแล้วก็คงยังไม่โล่งอกเหมือนตอนนี้
หลี่ไต้อยากที่ให้หลินฉงนั้นรู้สึกเครียดและอยู่ใต้แรงกดดันมากที่สุดเท่าที่ทำได้ นั้นเป็นเหตุผลที่เขาเพิ่มจำนวนการฝึกให้หลินฉง
เมื่อคนเรารู้ตัวว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ พวกเขาจะรู้สึกกระวนกระวายโดยอัตโนมัติ การกระวนกระวายนั้นเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับความผ่อนคลาย การลนลานแบบนั้นจะช่วยลดความผ่อนคลายลงแล้วผลักดันให้เกิดการพัฒนามากขึ้น
วิธีนี้เป็นสิ่งที่หลี่ไต้เชื่อมาตลอด เอาจริงๆแล้วในตอนที่โค้ชต้องเจอกับนักกีฬาที่ไม่ทุ่มเทมากพอ ส่วนมากก็จะใช้วิธีนี้โดยการเพิ่มจำนวนการฝึกให้มากขึ้นเพื่อให้นักกีฬาถูกกระตุ้นโดยความเครียด
การเพิ่มน้ำหนักการฝึกนั้นเป็นวิทยาศาสตร์อย่างหนึ่ง เพราะถ้าเอาแต่เพิ่มน้ำหนักการฝึกอย่างเดียวนั้นมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร ถ้าโค้ชตั้งเป้าหมายไว้สูงเกินกว่าที่ผู้ฝึกจะคว้าถึงได้ นักกีฬาก็จะไม่ดิ้นรนไปหามัน แล้วมันจะเกิดเป็นผลเสียแทน
วิธีการปฏิบัติที่ได้ผลจริงๆคือการทำให้นักกีฬานั้นรู้สึกว่าพวกเขาทำการฝึกพวกนั้นได้ทันเวลา แล้วในขณะเดียวกันนั้นน้ำหนักการฝึกของเขานั้นไม่ได้มากเกินความสามารถทางกีฬาของเขา ด้วยวิธีนี้ ผู้ฝึกจะมีความหวัง และรู้สึกว่าถ้าพยายามมากขึ้นในวันพรุ่งนี้ พวกเขาก็จะสามารถทำได้ แล้วนักกีฬาก็จะได้ฝึกการไขว้ขว้าเป้าหมายโดยการพยายามให้มากขึ้น คุณภาพการฝึกก็จะถูกพัฒนาไปด้วย
หลี่ไต้เองก็มีระบบโค้ชอยู่ก็จริง แต่เขาเองก็มีความสามารถของตัวเองอยู่ด้วย ตอนที่เขาเป็นนักเรียนในมหาลัยนั้น เขาก็เป็นนักเรียนดีเด่นอยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าระบบจะช่วยเขา แต่ระหว่างการฝึกนั้นหลี่ไต้ก็ใช้ความสามารถของตัวเองเหมือนกัน
แผนการฝึกใหม่ของหลี่ไต้ชองหลี่ไต้นั้น มันอยู่เหนือขีดจำกัดของหลินฉง เพราะอย่างงั้น หลินฉงจึงทำทุกอย่างในรายการฝึกให้เสร็จทันเวลาไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ได้ท้อใจแต่อย่างใด เขากลับรู้สึกว่าเขาเข้าใกล้เป้าหมายไปอีกก้าวนึงแล้ว
…
“เอาละถึงเวลาเลิกแล้ว”หลี่ไต้มองนาฬิกาแล้วพูด
“เหลืออีกแค่อย่างเดียวเอง! อีกแค่อย่างเดียวเองแล้วฉันจะได้จบแผนของวันนี้!”หลินฉงหงุดหงิด
“ใช่ นายใกล้แล้ว พยายามให้มากกว่านี้แล้ววันพรุ่งนี้จะเป็นวันของนายเอง”หลี่ไต้ยิ้ม
ในแผนการฝึกนั้น งานที่หลินฉงจะได้รับในวันพรุ่งนี้จะถูกจัดใหม่ทั้งเวลาและปริมาณ บางอย่างถูกเพิ่มขึ้นและบางอย่างก็ลดลง แวบแรกที่ดูมันจะเหมือนกับว่าปริมาณของมันเท่ากันกับเมื่อวันก่อนๆ แต่เอาจริงๆแล้วมันเยอะกว่าเมื่อก่อนหน่อยๆ
และเพราะว่าการเพิ่มขึ้นอย่างเล็กน้อยนี้แหล่ะ หลินฉงเลยเหมือนจะใกล้ทำสำเร็จทุกครั้งแต่ก็พลาดทุดครั้ง ด้วยช่องว่างที่เล็กกระจ้อยร่อบที่เรียกว่า “ใกล้จะถึงแล้ว อีกนิดเดียว”นั้นละเป็นตัวสร้างกำลังใจให้เขา เขาไม่อู้อีกแล้วแต่กลับกลายเป็นว่าเขาขยันมากกว่าเดิม ด้วยความหวังที่จะทำสิ่งที่รับมอบหมายให้เสร็จทันเวลาให้ได้
ในขณะที่โค้ชคนอื่นนั้นกำลังหาทางสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ฝึกขยันฝึกมากขึ้น หลี่ไต้กลับมาทำให้หลินฉงฝึกในความเข้มข้นสูงได้สำเร็จแล้ว หลี่ไต้รู้สึกโชคดีที่ได้หลินฉงมาเป็นผู้ฝึก เพราะว่าเขาเองเป็นคนที่พลักดันไปข้างหน้าตลอดเวลา
การได้เห็นโค้ชคนอื่นตกที่นั่งลำบาก หลี่ไต้ก็รู้สึกดีใจขึ้นมา เขารู้ว่าความห่างระหว่างหลินฉงกับตำรวจคนอื่นๆนั้นกว้างชึ้นเรื่อยๆ เพราะยังไงซะหลินฉงก็เคยเป็นถึงหน่วยสืบราชการลับ นายตำรวจที่ไปอยู่ในหน่วยนั้นได้นั้นนอกจากจะเนียนจากสายตาของแก๊งค้ายาได้แล้วยังต้องยอดเยี่ยมในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย การต่อสู้ ความแม่นยำ และอื่นๆ นี้ยังไม่นับIQกับความแข็งแกร่งทางจิตใจอีก เอาง่ายๆว่าหลินฉงนั้นดีกว่าคนอื่นๆเห็นๆ
สำหรับหลินฉงในตอนนี้นั้น เขาเอาความสามารถเก่าของตัวเองกลับคืนมาได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เขายังยืนยันที่จะเอาคะแนนเต็มในการทดสอบครั้งนี้ให้ได้
…
หลินฉงเคยมีอาการบาดเจ็บที่ขาซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เขาคิดมาก แล้วตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าขาเขาไม่ได้เป็นอะไร แล้วก็ลบอคติออกจากหัวไปได้ แล้วตอนนี้เขาก็ทุ่มเทตัวเองให้กับการฝึกอย่างบ้าคลั่ง
ในสนามฝึกนั้นเอง เหงื่อไหลรินทั่วหน้าของหลินฉง
“15 16 17 18 … “หลินฉงจำไม่ได้แล้วว่าเขาดึงข้อ18ครั้งไปกี่เซตแล้ววันนี้ เพราะเกณฑ์การให้คะแนนของการทดสอบร่างกาย การดึงข้อ18ครั้งนั้นถือว่าได้คะแนนเต็มแล้ว หลินฉงอ่อนล้า แต่เขาก็ยังคงดึงดันที่จะฝึกซ้อมต่อไป
“เจ้าหน้าที่หลิน นายฝึกมามากกว่า2ชั่วโมงแล้วนะ พอแล้ว มาพักได้แล้ว!”หลี่ไต้พูด
“ไม่ ฉันยังทำได้มากกว่านี้อีก!”หลินฉงปฏิเสธ
หลี่ไต้นั้นอยากจะพูดอะไร แต่ก็หยุดตัวเองไว้ไม่ให้พูด เขาเห็นความดื้อดึงและความมุ่งมั่นในแววตาของหลินฉง หลินฉงเองก็แทบจะรับไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
เหนื่อยชิบหาย ไม่! ฉันจะมายอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้ ฉันต้องฝึกต่อไป ฉันต้องเอาเวลาที่ฉันเสียไปกลับคืนมาให้ได้!
ในตอนนั้นเอง หลินฉงก็นึกถึงตอนที่เขาเป็นนายตำรวจ และนึกถึงความรับผิดชอบที่เขาต้องแบกรับ
….จงรักภักดีต่อชาติ จงรักภักดีต่อประชาชนและจงรักภักดีต่อกฎหมาย…. หลินฉงนึกถึงภาพของตัวเขาเองที่ให้คำสัตย์ปฏิญาณตนต่อหน้าธงชาติ ในวันแรกที่เขาสวมเครื่องแบบตำรวจ
….เชื่อมั่นในสัตย์ เชื่อมั่นในคำสั่ง มีวินัยและปิดความลับ….หลินฉงตอนนี้เริ่มพูดกับตัวเอง ในจิตวิญญาณของเขาตอนนี้เหลือเพียงความเชื่อที่แรงกล้าเท่านั้น
….ซื่อสัตย์และเที่ยงตรงในการปฏิบัติหน้าที่ และไม่เกรงกลัวที่จะเสียสละ…เขาทวนคำปฏิญาณนั้นในหัว มีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้นในใจของเขา คืออดทนเอาไว้
สำหรับหลินฉงนั้น มันไม่ใช่เพียงแค่คำปฏิญาณธรรมดา แต่มันเป็นทั้งอาชีพ ทั้งภารกิจ ทั้งหน้าที่ ทั้งความรับผิดชอบ : เป็นความเชื่อที่เขาตั้งใจอุทิศชีวิตให้กับมัน!
เขามุ่งมั่นที่จะกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้ง เขามุ่งมั่นที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!
…
ช่วงเวลา2อาทิตย์ได้จบลงแล้ว นายตำรวจกำลังจะก้าวเข้าสู่การทดสอบครั้งใหญ่ ก่อนที่จะเข้าสู่การทดสอบร่างกายของจริง
การทดสอบครั้งนี้มันไม่ใช่แค่ของพวกเขาเท่านั้น แต่เป็นของโค้ชด้วย มีเพียงโค้ชที่ดีที่สุด30คนเท่านั้นที่มีคุณสมบัติพอที่จะอยู่ และจะมีสิทธิ์ที่จะได้เข้าโครงการฝึกของทีมชาติ