Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 151
คะแนนของผู้เข้ารอบที่30นั้นอยู่ที่270 ซึ่งเป็นคะแนนที่ต่ำสุดที่จะนับได้ถ้าเกิดไม่อยากตกรอบ
เเต่ถึงอย่างงั้นคะเเนนนี้มันก็ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับคนที่มีมีความหวัง คะเเนนต่ำสุดอยู่ที่270คะเเนนซึ่งห่างจากเส้นผ่านเเค่30คะเเนน ความต่างนี้มันคืออุปสรรคที่เเทบจะก้าวผ่านไม่ได้เลยถ้าเกิดโค้ชคนนั้นยังติดอยู่กับคำว่า “เอาเเค่ผ่านก็พอ”
เเต่ก็เเน่นอนว่ายังมีคนที่ดื้อด้านไม่ยอมเเพ้อยู่ อย่างเช่นฉวงซูฉี
มันต้องมีคนที่ได้270มากกว่า1คนเเน่ๆ เเล้วมันต้องมีคนที่ได้คะเเนนเท่ากันเข้ารอบไปด้วย บางทีอันดับที่29กับ28อาจจะได้270คะเเนนก็ได้ ถ้าเจ้าหน้าที่หวางทำเต็มที่อาจจะได้270คะเเนนก็ได้ ฉันยังมีหวังอยู่
ฉวงซูฉีปรอบใจตัวเองในขณะที่เริ่มภาวนาให้คู่ฝึกของตัวเอง.เจ้าหน้าที่หวาง ภาวนาให้เขาทำออกมาได้ดีๆ
บนเวทีนั้นเอง ครูฝึกตำรวจก็ขานรายชื่อต่อไป “อันดับที่29 เค่อหลิว270คะเเนน อันดับที่28 ฉานหลี่ 270คะเเนน อันดับที่27เต๋าเฉิน270คะเเนน…”
ครูฝึกตะโกนบอกรายชื่ออีก6คน ทั้งหมดนั้นได้คะเเนน270คะเเนนหมดเลบ เหมือนกับที่ฉวงซูฉีคาดการไว้ เเต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีชื่อของเจ้าหน้าที่หวาง
“อันดับที่24 เสี่ยวเหว่ยซุง 275คะเเนน”คะเเนนที่ต่างกันถูกประกาศออกมาเเล้ว เขาประกาศรายชื่อนายตำรวจอีก3นายที่ได้คะเเนน275
“อันดับที่20 บิ่นฉาง280คะเเนน”
“อันดับที่18 เป่าหยูหวาง 285คะแนน”
…
ทุกครั้งที่รายชื่อถูกประกาศออกมาคนแล้วคนเล่า ก็จะทำให้หน้าของโค้ชนั้นตื่นเต้นทุกครั้ง
การประกาศรายชื่อแบบคนต่อคนแบบนี้มันค่อยข้างเป็นการทรมารสำหรับโค้ช ถ้าเกิดคะแนนของทุกคนถูกประกาศออกมาพร้อมกันตรงๆไปเลยบนบอร์ดประกาศ โค้ชที่ไม่เข้ารอบนั้นอาจจะเเค่ผิดหวังเเค่เเปปเดียวหลังจากที่ประกาศผล เเต่ก็เเค่นั้น พวกเขาจะทำใจยอมรับได้ทันที เพราะยังไงซะความล้มเหลวก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างธรรมดาสำหรับโค้ช เเต่เพราะว่ารายชื่อถูกประกาศออกมาคนต่อคนเเบบนี้ มันทำให้โค้ชพวกนั้นมีความหวัง เเล้วก็ยังเติมเต็มหัวใจของพวกเขาด้วยความคาดหวัง เเต่ประเด็นคือยิ่งคาดหวังไว้มากเท่าไร พอผิดหวังก็จะเจ็บมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงหลังๆ ในช่วงที่เหลือที่น้อยมากเเล้ว บรรยากาศก็จะเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ
ในขณะเดียวกันนั้น ความคาดหวังก็เริ่มพอกพูนขึ้นมาในหัวใจของโค้ชเหมือนกัน ยิ่งใกล้จบประกาศเท่าไร บรรยากาศยิ่งเเย่ลงไปเท่านั้น สีหน้าของโค้ชที่ยังไม่ได้ถูกเรียกชื่อคู่ฝึกนั้นไม่มีความสุขทั้งนั้น บางคนก็หน้าเเดงเเป๊ดเเทบจะร้องไห้ ถึงเเม้บรรยากาศมันจะกดดันเเละทรมารโค้ช เเต่มันก็ค่อนข้างเพลิดเพลินสำหรับครูฝึกเอง เขาเลยยื้อเวลาด้วยการลดความเร็วในการประกาศลง ให้มันกดดันมากกว่านี้ๆ
ครูฝึกฮาวนั้นไม่ได้เป็นพวกโรคจิตอะไรหรอก เเต่เขาเเค่ทำตามนิสัยในความเป็นมืออาชีพของเขา การอดทนต่อเเรงกดดันทางจิตวิทยานั้นเป็นการฝึกที่จำเป็นสำหรับตำรวจเพราะว่านายตำรวจนั้นมักจะต้องเจอกับความเสี่ยงที่เป็นอันตรายถึงชีวิตตลอดเวลา ดังนั้นจิตใจที่แข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น อีกอย่าง ครูฝึกก็เริ่มใช้การฝึกการอดทนต่อแรงกดดันทางจิตวิทยาโดยที่เขาไม่รู้ตัวตอนที่เขาประกาศผล แถมยังใช้โดยที่ไม่คิดเลยว่ากำลังพูดอยู่กับโค้ชด้วย
ในตอนที่อันดับเริ่มใกล้จุดสูงสุดขึ้นไปเรื่อยๆ คะแนนก็ยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ มีน้อยคนมากๆแล้วที่จะได้คะแนนเท่ากัน ในบรรดาท๊อป10คน แต่ละคะแนนนั้นต่างกันมาก คะแนนแต่ละคะแนนหมายถึงที่ๆสูงกว่า
…
“พูดชื่อของฉิงฉานหลี่มาซิ พูดมา พูดฉิงฉานหลี่!”โค้ชเต็งพึมพำเบาๆ
นี้เป็นเวลาที่จะประกาศท๊อป3 ด้วยคะแนนตอนนี้ดันขึ้นไปถึง305คะแนน จากการคาดการของเขาแล้ว คะแนนของเจ้าหน้าที่ที่เป็นคู่ฝึกของเขานั้นจะอยู่ประมาณนี้แหล่ะ
“ในที่3 ฉิงฉานหลี่ 310คะแนน” ครูฝึกฮาวประกาศออกมาจนได้
“ฟิ้วว!”โค้ชเต็งถอนหายใจมาด้วยความโล่งอก คะแนนนั้นตรงกับที่เขาคาดการไว้เป๊ะๆ
โค้ช้เต็งหันไปมองโค้ชเกี้ยวที่ยืนอยู่ข้างๆเขา ชื่อของเจ้าหน้าที่ที่โค้ชเกี้ยวเป็ยนคนฝึกนั้นยังไม่ถูกประกาศออกมา
“เจ้าหน้าที่กุง อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ!”โค้ชเกี้ยวดูกังวลมาก เพราะว่ามันเหลืออีกแค่2ตำแหน่งเท่านั้น หมายความว่ามันเหลือโอกาสอีกแค่2ที่นั่งเท่านั้น
“ที่2 กุงฉิงจุน 320คะแนน!”
“เยสส!!!!”โค้ชเกี้ยวปล่อยความโล่งอก ออกมาทันที เขารูสึกได้ถึงตึงเครียดยิ่งกว่าตอนไปแข่งระดับชาติกับทีมที่เขาไปเข้าร่วมอีก ในใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความปลื้มปริ่มในชัยชนะวินาทีสุดท้าย
โค้ชเต็งตกใจเล็กน้อย เขาเป็นคนที่ปะทะกับโค้ชเกี้ยวในการแข่งตั้งหลายครั้งด้วยผลแพ้ชนะที่ผสมๆ แต่วันนี้โค้ชเกี้ยวเก่งกว่าเขาอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่ที่โค้ชเกี้ยวเป็นคนฝึกนั้น ได้คะแนนห่างกับของเขาตั้ง10คะแนน
“คะแนนรวมของที่2มันตั้ง320คะแนนแหน่ะ หมายความว่าคะแนนเฉลี่ยของเขาต้องได้อย่างน้อยกิจกรรมละ80คะแนน!”
“ยอดไปเลย โค้ชเกี้ยวคนนั้นเก่งหน้าดูเลย ในเวลาแค่10วัน เขาสามารถพัฒนาคู่ฝึกของเขาให้เก่งขึ้นจนคะแนนเฉลี่ยในแต่ละฐานพุ่งไปถึงตั้ง80คะแนน”
“หยุดพูดมากได้แล้ว! โค้ชเกี้ยวหน่ะมาจากครอบครัวที่เป็นโค้ชหมดเลยนะ เขาเริ่มมีส่วนร่วมในการแข่งกรีฑากรังปรีย์ โดยเขาคุมทีมด้วยตัวเองมาตลอด3ปี เขาเป็นเพรชแท้แห่งทีมกีฬาเจียงตง เขาต้องได้เข้าทีมชาติแน่ๆในอนาคต”
ถึงแม้ว่าจะมีคนอวยโค้ชเกี้ยวมากมาย แต่ความสุขนั้นไม่ได้ปรากฏบนใบหน้าของโค้ชเกี้ยวเลย
320คะแนนยังเป็นได้แค่ที่2เองเหรอ? นอกจากโค้ชเต็งแล้ว ยังมีคนที่ฝึกเก่งกว่าฉันอีกเหรอ? โค้ชเกี้ยวมองไปรอบๆ มันยังมีโค้ชอีกมากกว่า30คนที่คู่ฝึกยังไม่ถูกเรียก โค้ชเกี้ยวเลยมองไม่ออกเลยว่าโค้ชคนไหนฝึกแชมป์
บางที ที่1อาจจะได้คะแนนเท่าฉันก็ได้ 320คะแนน!โค้ชเกี้ยวพูดคนเดียว
…
เหลือเพียงตำแหน่งของที่1เท่านั้นที่ยังไม่ถูกประกาศ ในบรรดาโค้ชที่ยังไม่ถูกเรียก หลายๆคนในนั้นยังคงมีความหวังว่าคู่ฝึกของตัวเองจะเป็นคนสุดท้าย
ด้วยคอที่ตึงจนสุด ฟันที่กัดจนจะแตกหมัดที่กำจนเลือดซิบ พวกเขาจ้องมองครูฝึกฮาวด้วยสายตามีความหวัง ตอนนี้แม้แต่การกระดิกนิ้วของครูฝึกก็สามารถเพิ่มแรงกดดันให้กับพวกเขาได้แล้ว มันก็เหมือนกับเวลาคนเล่นหวยแลห่ะ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าไม่มีโอกาส แต่พวกเขาก็ยังหวังว่าตัวเองจะโชคดี
และแน่นอน โค้ชหลายๆคนตอนนี้ยอมแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยคะแนนรวมมากถึง320คะแนน นั้นหมายถึงคะแนนเฉลี่ยในแต่ละรายการมากถึง80คะแนน ซึ่งเกินกว่าความสามารถของพวกเขามาก พวกเขารู้ตัวเองดีว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ฝึกกับพวกเขานั้นไม่มีทางทำคะแนนได้ดีแบบนั้นแน่ๆ
ฉวงซูฉีก็เป็น1ในนั้น เขาหงุดหงิดมากๆ แต่การได้เห็นหลี่ไต้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขาก็ทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้นมาหน่อย
เอาวะ ถึงฉันจะตกรอบ แต่หลี่ไต้ก็ตกรอบไปพร้อมฉันด้วย! ฉวงซูฉีโล่งอกขึ้นมา
ในช่วงเวลสนั้นเอง ครูฝึกก็อ่านชื่อสุดท้าย
“และที่1 หลินฉง 400คะแนน!”