CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 176

  1. Home
  2. Almighty Coach – โค้ชอหังการ
  3. ตอนที่ 176
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

การช่วยเหลือคนอื่นที่กำลังมีปัญหานั้นเป็นเรื่องที่ดีแต่เพราะบางประการ หยางฉือจี๋จึงรู้สึกเศร้า เขารู้สึกลึกๆข้างในใจของเขาตอนที่เขากลับไปบ้าน เขารู้สึกเหมือนเขาพึ่งสูญเสียคนที่รักไป
เดี๋ยวนะ สูญเสียคนที่รักไปงั้นเหรอ…หยางฉือจี๋ขำ เขาไม่เคยมีแฟนหรืออะไรเทือกนั้นมาก่อน แล้วทำไมเขาถึงรู้ความรู้สึกของการอกหักได้ละ

หยางฉือจี๋ส่ายหัวกับความรู้สึกตัวเอง แล้วเปิดคอม จากนั้นก็โอนไฟล์รูปจากกล้องลงคอมแล้วเริ่มเปิดดู

ห่วย ลบ!

นี้ก็ห่วย ลบ!

นี้เหมือนจะดีนะ แต่ห่วย ลบ!

หยางฉือจี๋นั่งดูรูปที่เขาถ่ายเมื่อเช้าแล้วลบไปซัก2ใน3ส่วน เขาเริ่มที่จะไล่ดูอีกรอบแล้วก็ลบอีกรอบ ตอนที่เขาลบเสร็จแล้ว มันเหลือรูปอยู่ในเครื่องแค่10รูปเท่านั้น แล้วยิ่งมองมันเท่าไรก็ยิ่งอยากลบมันเท่านั้นด้วย

หยางฉือจี๋พึ่งมานึกได้ว่าเขานั้นถ่ายรูปได้ห่วยแตกมาก ภาพถ่ายที่ถ่ายโดยนักศึกษาในนิทรรศการภาพถ่ายยังดีกว่าเขามากเลย

เขาเริ่มที่จะเสียใจ เพราะส่วนมากแล้วเขาจะเก่งทุกอย่างที่เขาทำ มันเป็นเหมือนสิ่งที่สืบทอดมาจากพ่อของเขา ถ้าเขาอยากที่จะทำอะไร เขาก็จะทำมันได้ดีเสมอ แต่ยกเว้นรอบนี้

หยางฉือจี๋ถอนหายใจ เขาเปิดคอมแล้วไปที่บล็อกของช่างภาพต่างๆเพื่อดูรูปที่พวกเขาถ่าย แต่ยิ่งดูรูปพวกนั้นเท่าไร ก็ยิ่งรู้สึกแย่กับตัวเองเท่านั้น

ฉันควรจะฝึกให้มากกว่านี้ ยิ่งฝึกก็ยิ่งเก่งขึ้น

หยางมองออกไปข้างนอกหน้าต่างตอนที่เขาคิดเรื่องนี้ อากาศวันนี้ปลอดโปร่งดี พระอาทิตย์ก็กำลังจะตก หยางฉือจี๋หยิบกล้องแล้วออกไปข้างนอกอีกครั้ง

…

2ชั่วโมงผ่านไป หยางฉือจี๋ก็กลับมาบ้านอีกครั้ง เขาดูรูปที่เขาพึ่งถ่าย แล้วเขาก็รู้สึกเสียใจอีกครั้ง

นี้ไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากจะได้นี้หน่า!หยางฉือจี๋คิดกับตัวเองอย่างเงียบๆแล้วถอนหายใจ

ปิ้งปอง! เสียงวีแชทเขาเด้ง เขาเช็กโทรศัพท์ตัวเองแล้วเห็นว่าเป็นแชทกลุ่มของมหาลัยชิงฮั่ว ใครคนนึงในกลุ่มพึ่งโพสรูปพระอาทิตย์ตกดินไป

นี้มันสวยกว่ารูปฉันเยอะเลยนี้หว่า มีคำกล่าวว่าการที่จะหลีกหนีจากความเอาความรู้สึกตัวเองไปเจ็บปวดคือการไม่ไปเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แล้วตอนนี้ หยางฉือจี๋ก็กำลังรู้สึกขมขื่น

ในตอนนั้นเอง หยางฉือจี๋รู้สึกว่าถึงแม้เขาจะอยากเป็นตากล้องแล้วพอเขาได้เริ่มทำมันจริงๆ มันกลับไม่ได้ให้ความพอใจหรือความสุขอะไรอย่างที่เขาคาดหวัง เขาเคยตื่นเต้นตอนที่เขาคิดถึงสิ่งที่เรียกว่าทักษะการถ่ายภาพ แล้วก็กระเหี้ยนกระหือรือที่จะออกไปลองของพวกนั้น แต่ปถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งไป

หยางฉือจี๋ตอนนี้รู้สึกแปลกๆ เขาหยิบเอากล้องรุ่นใหม่ไปวางไว้บนเก้าอี้

เขาเคยใฝ่ฝันว่าอยากจะได้กล้องตัวนี้มานานมากแล้ว แล้วเขาก็ดีใจไปหลุดโลกเลยตอนที่เขาได้มันมา แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้หยางฉิอจี๋ก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขหรือตื่นเต้นเหมือนตอนแรกๆที่เขาได้มันมาแล้ว เขารู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่พยายามทุกวิธีการที่จะทำให้พ่อแม่ซื้อมันให้เขา แต่พอเขาได้มันมา เขากลับรู้สึก ว่างเปล่า

ในตอนนั้นเองหยางรู้สึกได้ว่าความอยากในการถ่ายรูปของเขานั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด

แรงใจ3นาที! หยางฉือจี๋นึกถึงคำจีนนี้ขึ้นมา เอาจริงเขาก็ไม่ได้ยอมรับอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก แต่เขาต้องการที่จะพิสูจน์คำนั้น

ฉันอยากเป็นตากล้อง!หยางฉือจี๋ลองพิสูจน์คำนั้นด้วยการพึมพำในใจ พยายามหลอกตัวเอง แต่ในใจเขา กลับมีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้นมา ไม่ ฉันเป็นนักกีฬา

ในตอนนั้นเอง หยางฉือจี๋ก็นึกย้อนกลับไปตอนที่ตำรวจถามว่าเขาเป็นนักกีฬารึเปล่า และเขาก็ตอบกลับไปว่าใช่ทันทีหยางฉือจี๋ตอบไปโดยสัญชาตญาณ เขาตอบโดยที่ยังไม่ได้คิดด้วยซ้ำ

ทำไมมันถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้เนี่ย ฉันควรจะเกลียดการวิ่งซิ ฉันควรจะเกลียดการเป็นนักกีฬาซิ! หยางฉือจี๋สับสน ยิ่งเขาคิดลึกลงไปเท่าไร เขายิ่งอยากกลับไปวิ่งมากเท่านั้น ทุกอย่างมันกะทันหันไปหมด หยางเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อ5ปีก่อนตอนที่เขาฝึกวิ่งแล้วตั้งแต่นั้นมาการวิ่งก็เป็นชีวิตของเขา

แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นนักกีฬา ฉันอยากเป็นช่างภาพ! หยางหงุดหงิดกับความคิดตัวเอง เขาหยิบกล้องแล้วพยายามหลอกตัวเองว่าความฝันจริงๆของเขาคือการถ่ายภาพ

ตอนที่เขาถือกล้องอยู่นั้นเองเขาก็รู้สึกว่ามันหนักขึ้น ตอนนี้มันไม่ได้รู้สึกแค่เป็นกล้องแต่ตอนนี้มันคือภาระ และต้นเหตุของภาระนั้นก็คือความคิดที่อยากจะเป็นช่างภาพนั้นเอง

หยางเริ่มรู้สึกกังวลมากขึ้น ความคิดสำหรับการถ่ายภาพของเขา มันคืองานอดิเรก และความชอบ เขาควรจะรู้สึกมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ชอบมากกว่าจะคิดว่ามันเป็นภาระ

บางทีฉันอาจจะไม่ได้ชอบการถ่ายรูปก็ได้ หยางฉือจี๋คิดกับตัวเอง แล้วถ้าพ่อไม่ได้ขอให้ฉันไปเป็นนักกีฬาแต่เป็นช่างภาพแทนละ อะไรจะเกิดขึ้น ฉันยังคงเกลียดการเป็นนักกีฬาอยู่ไหมหรือฉันจะไปเกลียดการเป็นช่างภาพแทน

หยางฉือจี๋สับสน เขาหลับตาแล้วพยายามหยุดคิด

ถ้าพ่อของฉันบังคับให้ฉันไปเป็นช่างภาพ ฉันก็คงอาจจะเกลียดช่างภาพเหมือนกัน

ความคิดนี้เด้งขึ้นมาในใจของหยางฉือจี๋ เขาพึ่งค้นพบสิ่งหนึ่งที่อยู่ในใจของเขา คือเขาไม่ได้เกลียดการวิ่งหรือการเป็นนักกีฬาแต่เขาแค่ไม่ชอบคือสิ่งที่พ่อพยายามยัดเยียดให้ตั่งหาก

เขาอยากที่จะได้โอกาสในการเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองมาโดยตลอดแต่เขาไม่เคยได้โอกาสนั้นเลย เขาอยากที่จะขัดกับสิ่งที่พ่อคาดหวังที่จะให้เป็นแต่นี้เป็นสิ่งที่ฝังแน่นในใจของหยางฉือจี๋

เขายืนขึ้นแล้วประหลาดใจ

เอาจริงๆแล้ว ฉันก็ไม่ได้อยากเป็นช่างภาพหรอก

หยางฉือจี๋ในที่สุดก็ได้ค้นพบ ว่าการเป็นช่างภาพไม่ใช่ความฝันจริงๆของเขาหรอก มันเป็นแค่ภาพสะท้อนของความต้องการในอิสระ เป็นแค่ตัวแทนเท่านั้น เอาจริงๆแล้ว ตอนนี้เขาเป็นอะไรก็ได้ที่อยากจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพ จิตรกร นักดนตรีหรือกวี

มันไม่ใช่เกี่ยวกับเส้นทางเดินในชีวิตที่เขาเลือกเดิน แต่มันคืออิสระ อิสระที่เขาจะได้ฟังเสียงหัวใจตัวเองแล้วเลือกในทางที่เขาจะเดินเองโดยปราศจากเงาของพ่อของเขา

หยางฉือจี๋รู้สึกเจ็บปวดและสับสน เขาพบว่าการเป็นช่างภาพนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากจะเป็นจริงๆ เขาสูญเสียเป้าหมายของเขาไปแล้วตอนนี้เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป

สิ่งที่หยางฉือจี๋ต้องการจริงๆนั้น คืออิสรภาพที่จะได้เลือกด้วยตัวเอง เขาก็ได้แล้ว พ่อของเขาเคารพการตัดสินใจของเขา แต่เขาเองเนี่ยละที่ไม่รู้จะเอายังไงต่อ

นายเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองนะ!

คำพูดของหลี่ไต้ลอยมากระแทกหัวเขา

หยางฉือจี๋มองไปที่มุมห้องอย่างไม่รู้ตัว เขาทิ้งชุดฝฝึกเอาไว้ตรงนั้น เขาเดินเข้าไปและหยิบชิดวิ่งมา แล้วมองมันอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้นเอง ความทรงจำตอนที่เขาได้แชมป์มัธยมครั้งแรกเมื่ออายุ14ก็ย้อนกลับมาหาเขาอีกครั้ง เขายังจำได้ว่าเขาพยายามจนถึงที่สุดแล้ววิ่งให้เร็วที่สุดทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น นี้ก็ผ่านมา5ปีแล้ว แต่เขายังรู้สึกถึงมันเหมือนกับว่ามันพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวานอยู่เลย

เขาหันหลังกลับแล้วมองไปที่ชั้นของตัวเอง ที่ๆถ้วยรางวัลสีทองกำลังตั้งอยู่ มันเป็นถ้วยรางวัลแรกของเขา ซึ่งตอนนี้ฝุ่นก็จับแล้ว

หยางฉือจี๋ทำได้แค่เดินไปที่ถ้วยแล้วหยิบมันขึ้นมา เขารู้สึกเหมือนไม่ใช่แค่การจับถ้วย แต่เขาปล่อยมันไปไม่ได้

5ปี นี้ฉันฝึกมา5ปี หยางฉือจี๋ก้มหัวลง น้ำตาเริ่มหลั่งออกจากตาไม่หยุด หยางฉือจี๋เริ่มรู้ตัวว่าเขาพึ่งสูญเสียอะไรไป

หลังจากผ่านไป5ปีของการฝึก หยางฉือจี๋กลายเป็นนักกีฬาเต็มตัว เลือดแห่งความเร็วมันยังสูบฉีดอยู่ในตัวเขา คำว่านักกีฬามันแทบฝังแน่นอยู่ในทุกอณูของเขา ทิ้งมันไม่ได้

ฉัน เป็น นักกีฬา

ในที่สุดหยางฉือจี๋ก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร

…

ในสนามฝึก

หลี่ไต้กำลังคุยกับหนิวกั๋วหงว่า “การที่จะทำแบบนี้ได้ นายต้องวางเท้าให้เร็วที่สุด ตอนที่ทำแบบนี้ นายลองลดขาหน้าลงจะได้ช่วยให้สะโพกรับได้ง่ายขึ้น….”

หลี่ไต้กำลังสาธิตท่าตามที่เขาพูด แต่เขาสังเกตได้ว่าหนิวกั๋วหงนั้นไม่ได้มองเขา กลับกัน เขามองไปที่ทางเข้าสนามฝึก หลี่ไต้หันกลับไปมองก็เห็นคนหน้าคุ้นๆ

หยางฉือจี๋เหรอ? ไม่ใช่ว่าออกไปแล้วเหรอ ทำไมกลับมาละ แล้วทำไมถึงใส่ชุดฝึกมา หลี่ไต้พบว่าสถานการณ์แบบนี้มันออกจะดูแปลกๆไปหน่อย แต่วินาทีต่อมาเขาก็เริ่มรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

หยางฉือจี๋เดินมาหาหลี่ไต้ แล้วพูดด้วยสีหน้าตั้งใจ

“โค้ชครับ ผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมจะเป็นนักกีฬา นักกีฬาที่แท้จริง!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 176"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์