Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 178
การแข่งขันกีฬาเยาวชนชาตินั้นเป็นการแข่งขันกีฬาที่ดุเดือด ระดับของการแข่งขันนั้นเรียกได้ว่าไม่น้อยหน้าไปกว่าการแข่งอื่นๆเลย แต่กีฬาที่มีให้แข่งมีไม่มากนัก มันมีความคล้ายครึงกันอยู่ระหว่างกีฬามหาลัยโลกกับกีฬามหาลัยชาติ
การแข่งกีฬามหาลัยชาตินั้น ถึงแม้ว่าการแข่งจะมีการปรับทุกปี แต่จำนวนกีฬาทั้งหมดที่จัดแข่งก็มีประมาณ10รายการโดยประมาณ
ถ้าพูดถึงกีฬาแล้ว ในการแข่งโอลิมปิค มีการแข่งอย่างเป็นทางการทั้งหมด30รายการและแบ่งเป็นการแข่งปลีกย่อยอีกมากกว่า300รายการรวมกัน การแข่งกีฬาเอเชี่ยนเกมนั้นมีการแข่งเยอะกว่าโอลิมปิค แล้วถ้าเทียบกันแล้วกีฬามหาลัยชาตินั้น มีการแข่งน้อยกว่า1ใน3ของกีฬาเอเชี่ยนเกมซะอีก
มันจะไม่มีการแข่งกีฬาที่ใช้อุปกรณ์แพงๆอย่างเช่นกีฬายิงปืนหรือยิงธนู ไม่มีการแข่งที่ยุ่งยากอย่างยิมนาสติกหรือกระโดดน้ำ สำหรับนักกีฬาปริญญาตรีทั่วไปแล้ว มันคงไม่มีโอกาสที่จะได้จับปืนหรือลูกธนู หรือจะไปมีเวลาฝึกยิมนาสติกหรือกระโดดน้ำได้
การแข่งกีฬามหาลัยนั้นจึงมีกีฬาที่เป็นที่นิยมอย่าง กรีฑา ว่ายน้ำ บาสเก็ตบอล ปิงปอง และอื่นๆ การแข่งนี้มีมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งจำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีกีฬาอื่นๆที่ไม่มีในโอลิมปิคด้วย อย่างเช่นศิลปะป้องกันตัว แอโรบิคหรือว่าวิ่งแรลลี้ แถมยังมีแม้กระทั้งการแข่งเล่นไพ่
มีการแข่งในครั้งนี้อยู่ทั้งหมด11รายการ แล้วพวกศิลปะป้องกันตัว แอโรบิคหรือว่าวิ่งแรลลี้นี้ก็ปาเข้าไปเกือบครึ่งแล้ว กีฬาที่เป็นกีฬาจริงๆก็จะเหลืออยู่เพียงแค่6-7รายการเท่านั้น
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีรายการแข่งมาก แต่ผู้เข้าแข่งขันก็ยังเยอะมากอยู่ดี มีนักเรียนนักศึกษาเข้ามาสมัครมากกว่า6000คน ถ้าเทียบกับกีฬาโอลิมปีที่มีผู้สมัครประมาณ10000กว่าคนแล้ว นี้ถือว่าเป็นจำนวนคนที่เยอะมากถ้านับว่าเป็นแค่กีฬามหาลัย
รายการแข่งน่อยแล้วมีคนเยอะหมายความว่าในทุกๆกีฬาก็จะมีคู่แข่งเยอะเช่นกัน นั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมกีฬามหาลัยถึงไม่มีการจำกัดจำนวนผู้เข้าแข่ง
ในกีฬาโอลิมปิค จำนวนนักกีฬาต่อกลุ่มนั้นจะมีได้แค่3คน แต่ถึงอย่างนั้นกีฬามหาลัยที่จะถึงนี้อนุญาตให้มีนักกีฬามากกว่านั้นได้ เอาการแข่งวิ่งเร็วเป็นตัวอย่าง ทีมวิ่งมหาลัยชิงฮั่วสามารถส่งนักกีฬาไปได้ถึง3คนเข้าร่วมการแข่งในครั้งนี้
…
ก่อนหน้านั้น หลี่ไต้ได้ไปเข้าร่วมการแข่งกรีฑากับซูหลี่มาแล้ว ทำให้หลี่ไต้มีประสบการณ์ในการนำทีมบ้างแล้ว
แถมหลี่ไต้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องอาหารกับที่พักแล้วด้วยเพราะว่ามีสปอนเซอร์คอยจัดการให้ทุกอย่าง สิ่งที่เขาต้องทำก็แค่ทำให้การแข่งนี้เป็นไปได้ด้วยดี
“สนามแข่งในหวางซูมันสุดยอดมาก ฉันเดาได้เลยว่ามันเป็นสนามที่ติดท๊อป10ของประเทศแน่ๆ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้มั่นใจนักว่าจะจัดกีฬาระดับชาติได้!”
หลี่ไต้มองไปรอบๆแล้วเห็นคนจำนวนมากนั่งอยู่ตรงที่นั่ง บางคนก็ถือป้ายเชียร์ที่เขียนว่า “สู้ๆ”ตามด้วยชื่อมหาลัย มีแม้กระทั้งเชียร์หลีดเดอร์อยู่บนแสตน
นี้คือกีฬามหาวิทยาลัยซินะ ฉันเคยไม่เข้าร่วมการแข่งระดับชาติมาบ้างแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นคนดูแบบนี้มาก่อนเลย คนหนุ่มสาวนี้มันไฟแรงจริงๆ!”
ทันใดนั้นใครบางคนที่หน้าตาคุ้นๆก็เขามาในระยะสายตาของหลี่ไต้
นั้นมันโค้ชเฉินหยูจิน จากมหาลัยกีฬาเขตฮั่นเบนี้ เขามาร่วมการแข่งด้วย หลี่ไต้เดินตรงไป เฉินหยูจินคนนี้เป็นคนเดียวกับที่พาหลี่ไต้ออกมาจากเมืองโหยวฮาว แล้วไปที่มหาวิทยาลัยกีฬาฮั่นเบ ที่ๆหลี่ไต้ได้พบกับหยูเฟ่ยเฟ่ยแชมป์โลกว่ายน้ำหญิงกับซูฮงหยี นี้มันก็ผ่านมา2-3ปีแล้วตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่หลี่ไต้ได้เจอเฉินหยูจินคนนี้
หลี่ไต้ถอนหายใจ เขาเคยมองเฉินหยูจินว่าเป็นตำนาน ตั้งแต่เฉินไปเข้าค่ายฝึกในฐานะโค้ช หลี่ไต้เคยคิดไว้ว่านี้อาจจะเป็นสิ่งที่เขาคงเอื้อมไม่ถึง แต่ตอนนี้เข้าอยู่ในทีมชาติแล้วเหมือนกัน แถมยังเป็นคนโปรดของซูหลี่ด้วย
“โค้ชเฉินครับ!”หลี่ไต้ตะโกนมาแต่ไกล
“อ้าว หลี่ไต้!”หยูจินเฉินประหลาดใจ “อยู่นี้เหมือนกันเหรอ! ไงได้เขาทำงานในทีมเขตแล้วเหรอ?”
“ตอนนี้ผมทำงานให้กับทีมมหาลัยชิงฮั่วชั่วคราวอยู่นะครับ”หลี่ไต้อธิบายสั้นๆ
“มหาวิทยาลัยชิงฮั่วเหรอ!”เฉินหยูจินตกใจ เขายังสับสนอยู่ว่าทำไมหลี่ไต้ถึงได้ไปอยู่ในทีมชิงฮั่วได้ เพราะว่ามันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลยระหว่างทีมเขตกับมหาลัยชิงฮั่ว แต่เขาก็เชื่อที่หลี่ไต้พูด
“แผนกกีฬาของมหาลัยชิงฮั่วนั้นมันดีกว่าของมหาลัยฮั่นเบของเราเยอะ ฉันแน่ใจเลยว่านายจะต้องได้กวาดเหรียญทองไปแน่นอน ว่าแต่ หลี่ไต้ ลงแข่งรายการไหนละ?”เฉินหยูจินถาม
“ทีมวิ่งครับ”หลี่ไต้ตอบ
“ทีมวิ่งเหรอ นั้นมันทีมตัวท๊อปของมหาลัยชิงฮั่วเลยนี้ ฉันได้ยินมาว่าที่นั้นมีนักกีฬาทีมกรีฑาที่เก่งจัดจนทีมชาติมาอ้อนวอนขอให้ไปเข้าตั้งหลายรอบ แต่ทำยังไงก็ทำให้คนๆนั้นตอบคำว่า”ตกลง”ไม่ได้ เขามาแข่งด้วยรึเปล่า?”เฉินหยูจินถาม
หลี่ไต้พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม เขารู้ว่าโค้ชเฉินพูดถึงหนิวกั๋วหง
“คงน่าตื่นเต้นน่าดูที่จะได้เห็น เสือฟัดสิงห์แบบนี้!”เฉินหยูจินหัวเราะ
“เสือฟัดสิงห์เหรอครับ?”หลี่ไต้มองอย่างงๆ
“ไม่รู้หรอ?”เฉินหยูจินเริ่มพูดต่อ “นายมีคู่แข่งที่แข็งมากเลยละรอบนี้ มีนักกีฬาที่ยอดเยี่ยมจากตงเจียงที่มีคุณสมบัติจะเข้าทีมชาติได้มาด้วย เขาอาจจะเก่งกว่าของนายก็ได้นะ!”
หลี่ไต้ขมวดคิ้ว เขาไม่เชื่อสิ่งทที่เฉินหยูจินพูดออกมา
ระดับของนักกีฬาในกีฬามหาลัยนั้นมันหลากหลาย แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือ ไม่มีผู้สมัครคนไหนเก่งเกินไป ด้วยความที่มีกฎการรับสมัครแบบนี้
กฎของการสมัครเพียงข้อเดียวก็คือ นักกีฬที่เข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติมาก่อนนั้นจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าแข่งในกีฬามหาลัย
ตามกฎนี้มันใช้กับทุกกีฬาโดยระบุการแข่งระดับชาติที่ใครเคยเข้าร่วมการแข่งพวกนี้ไปแล้วจะไม่สามารถเข้าแข่งในกีฬามหาลัยได้อย่างชัดเจน
นี้เป็นกฎที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคัดเอานักกีฬาที่เก่งเกินไปออกไปได้ เพราะว่าคงไม่มีนักกีฬาตัวท๊อปๆคนไหนอยากจะอยู่ในมหาลัยแล้วทอดทิ้งโอกาสงามๆทั้งหลายเพื่อมาแข่งกีฬามหาลัยต๊อกต้อยหรอก
นักกีฬาตัวท๊อปหลายๆคนเข้ามหาลัยไปเพื่อเรียนให้จบปริญญาตรี แต่เมื่อโอกาสที่จะได้แข่งมาถึง นักกีฬาพวกนี้ก็คงไม่รีรอที่จะเร่งวออกมาแข่งแน่ๆ พวกเขาอาจจะถึงขั้นโดดเรียนมาเลยเพื่อที่จะได้ชนะใสๆ
ถ้าเข้าร่วมการแข่งระดับชาติแล้ว จะเข้าร่วมการแข่งกีฬามหาลัยชาติไม่ได้ เพราแบบนี้ นักกีฬาในกีฬามหาลัยโดยปรกติแล้วก็เลยไม่ใช่นักกีฬาตัวท๊อป พวกเขาไม่สามารถไปแข่งในการแข่งระดับประเทศอื่นๆได้ ซึ่งก็หมายความว่ากีฬามหาลัยเป็นอย่างเดียวที่พวกเขาจะเข้าได้
หนิวกั๋วหงนั้นเป็นข้อยกเว้น เขามีคุณสมบัติแถมถูกทีมชาติเชิญตัวไปแล้วก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้อยากไป กลับกัน เขาเลือกที่จะอยู่กับมหาลัยแล้วฝึกต่อในมหาลัยแทน นั้นก็เพราะว่าหนิวกั๋วหงนั้นห่วงการเรียนในมหาวิทยาลัยชิงฮั่วมากกว่า มันเป็นความผูกมัดทางความรู้สึกกับมหาลัยดัง ถ้าเกิดเขาอยู่แค่มหาลัยธรรมดาๆ เขาคงเข้าทีมชาติไปแล้วละ
ดังนั้น พอหลี่ไต้ได้ยินว่ามีนักกีฬาที่เก่งพอๆกับหนิวกั๋วหงมาเข้าร่วมการแข่งด้วย เขาเลยแปลกใจ
ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะมีคนที่เก่งกว่าหนิวกั๋วหง แล้วคนๆนั้นก็อยู่ในทีมตงเจียง มันต้องเป็นมหาลัยชั้นนำอื่นๆซิไม่งั้นมหาลัยคงรั้งตัวนักกีฬาให้อยู่ไม่ได้หรอก ถึงแม้จะไม่ได้ดังเท่ามหาลัยชิงฮั่วแต่อย่างน้อยก็น่าจะไม่ได้แย่เกินไปนะ มหาวิทยาลัยหนานตู๋เป้นมหาลัยเดียวในเขตตงเจียง แล้วมันก็เป็นมหาลัยอันดับต้นๆด้วย
หลี่ไต้กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว เขาอยากจะรู้ว่านักกีฬาคนนั้นเป็นใครกันแน่